Ethereum พยายามดีดตัวจากแนวรับขาลงขณะนี้ ราคาของ Ethereum กำลังพยายามฟื้นตัวจากแนวรับที่เป็นขอบล่างของแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ยังเกิดรูปแบบแท่งเทียน Hammer ขึ้นในขณะนี้ หากราคาของสินทรัพย์นี้ปรับตัวขึ้น อาจเกิดการฟื้นตัวจากแนวต้านที่ระดับ 2820 หรืออาจทดสอบขอบบนของแนวโน้มขาลงและลดลงอีก ดังนั้นการติดตามรูปแบบแท่งเทียนใกล้ ๆ บริเวณเหล่านี้จะมีความสำคัญในการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคต
ETHPROS_TPG8CJ.USD ไอเดียในการเทรด
All Time High คืออะไร? และแนวทางการเทรดอย่างไร?All Time High (ATH) หรือจุดสูงสุดตลอดกาล หมายถึงราคาของสินทรัพย์หนึ่งๆ ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของสินทรัพย์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี หรือสินทรัพย์อื่นๆ การที่สินทรัพย์หนึ่งทำ All Time
แนวทางการเทรด All Time High
การเทรด All Time High นั้นมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสทำกำไรได้สูงเช่นกัน ดังนั้นควรศึกษาและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
แนวทางการเทรดที่เป็นไปได้:
ซื้อตาม: เมื่อสินทรัพย์ทำ All Time High แล้ว นักลงทุนบางส่วนอาจตัดสินใจเข้าซื้อตามทันที โดยหวังว่าราคาจะขึ้นไปต่อ แต่ควรระวังความเสี่ยงที่จะติดดอย หรือซื้อไปแล้วราคาปรับตัวลดลง
รอทดสอบแนวต้าน: รอให้ราคาปรับตัวลงมาเล็กน้อย แล้วค่อยเข้าซื้อ โดยมองหาจุดที่ราคาได้รับการสนับสนุน และมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปใหม่
ใช้เครื่องมือทางเทคนิค: ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น การวิเคราะห์กราฟ หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย
ตั้ง Stop-Loss: กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss) เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้
กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์เพียงตัวเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ หรือลงทุนในกองทุนรวม
ข้อควรระวัง:
ความเสี่ยงสูง: การเทรด All Time High มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะราคาอาจปรับตัวลดลงได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวสาร: ควรติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์นั้นๆ อย่างใกล้ชิด เพราะข่าวสารอาจส่งผลกระทบต่อราคาได้
อารมณ์: อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุน ควรใช้เหตุผลในการตัดสินใจ
สรุป
All Time High เป็นสัญญาณที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน แต่การเทรด All Time High นั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์นั้นๆ อย่างละเอียด รวมถึงวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
ETHUSD📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
การเทรดแบบ Manual vs EA: ความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับใคการเทรดในตลาดการเงินมีหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการเลือกใช้เครื่องมือในการเทรด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ การเทรดแบบ Manual (เทรดเอง) และการใช้ Expert Advisor (EA)
การใช้ Expert Advisor (EA)
ความหมาย: EA คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
ข้อดี:
ประหยัดเวลา: EA สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ลดความผิดพลาดจากอารมณ์: EA ทำงานตามโปรแกรมที่ตั้งไว้
สามารถทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังได้: ช่วยให้นักเทรดประเมินผลการทำงานของกลยุทธ์ก่อนนำไปใช้งานจริง
ข้อเสีย:
ขาดความยืดหยุ่น: การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต้องอาศัยการแก้ไขโปรแกรม
อาจเกิดความผิดพลาดจากโปรแกรม: หากโปรแกรมมีข้อผิดพลาด อาจส่งผลต่อการเทรด
ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม: หากต้องการสร้าง EA เอง
การเทรดแบบ Manual (เทรดเอง)
ความหมาย: การเทรดแบบ Manual คือการที่นักเทรดตัดสินใจซื้อขายเองทั้งหมด โดยอาศัยการวิเคราะห์กราฟ การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค หรือปัจจัยพื้นฐานต่างๆ
ข้อดี:
ความยืดหยุ่น: นักเทรดสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ตลาด
ความเข้าใจตลาดลึกซึ้ง: การเทรดเองจะทำให้นักเทรดเข้าใจกลไกของตลาดได้ดีขึ้น
ควบคุมความเสี่ยงได้ดี: นักเทรดสามารถตั้ง Stop-loss และ Take-profit ได้เอง
ข้อเสีย:
ต้องใช้เวลาและความพยายาม: ต้องติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาในการวิเคราะห์
มีความผิดพลาดได้: การตัดสินใจของมนุษย์อาจได้รับอิทธิพลจากอารมณ์
จำกัดเวลา: ไม่สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เหมาะกับใคร?
การเทรดแบบ Manual: เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบวิเคราะห์ตลาด ชื่นชอบความท้าทาย และต้องการควบคุมการเทรดทุกขั้นตอน
การใช้ EA: เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการประหยัดเวลา มีวินัยในการเทรด และต้องการลดความเสี่ยงจากอารมณ์
สรุป
การเลือกใช้การเทรดแบบใดขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความถนัดของแต่ละบุคคล นักเทรดบางคนอาจเลือกใช้ทั้งสองรูปแบบควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด อย่างไรก็ตาม การเทรดทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
ETHUSD 20/08/2024ETHUSD คู่นี้เป็น pattern แบบ Triangle โดยรูปแบบราคาจาก Time frame 1 ชั่วโมง
รูปแบบที่เกิดขึ้นในคู่เงิน ETHUSD ได้ทะลุแนวต้านขึ้นมาแล้ว โดยคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 2726 ในอีก 2 วันข้างหน้า
มีจุดทำกำไรที่บริเวณใกล้ๆแนวต้านระดับ 2726.0000 และจุดตัดขาดทุนควรต่ำกว่าแนวรับที่บริเวณระดับ 2565.4000
Breakout ในการเทรด Forex: โอกาสหรือกับดัก?Breakout เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ยอดนิยมที่ใช้เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคา โดยอาศัยการวิเคราะห์กราฟ
แนวคิดหลัก ของ Breakout
คือ การที่ราคาสินทรัพย์ทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา
ตัวอย่าง: สมมติว่าราคา EUR/USD อยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านที่ 1.1000 – 1.1200 มานานหลายสัปดาห์
กรณี Breakout ขาขึ้น: หากราคาปิดเหนือ 1.1200 อย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางขาขึ้น
กรณี Breakout ขาลง: หากราคาปิดต่ำกว่า 1.1000 อย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางขาลง
อย่างไรก็ตาม Breakout ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดที่สมบูรณ์แบบเสมอไป:
Breakout หลอก: บางครั้งราคาอาจทะลุแนวรับหรือแนวต้าน แต่แล้วก็กลับมาในกรอบอีกครั้ง เรียกว่า “Breakout หลอก”
การตีความ: การตีความ Breakout ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ข่าวสาร และสภาวะตลาดโดยรวม
กลยุทธ์ Breakout ทั่วไป:
การรอการยืนยัน: รอให้ราคาปิดเหนือหรือต่ำกว่าแนวรับแนวต้านอย่างชัดเจน 2-3 ครั้ง
การตั้งจุดตัดขาดทุน: กำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าแนวรับ (สำหรับ Breakout ขาขึ้น) หรือสูงกว่าแนวต้าน (สำหรับ Breakout ขาลง)
การตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายการทำกำไรตามแนวต้านหรือแนวรับถัดไป
ข้อดีของ Breakout:
โอกาสในการทำกำไร: Breakout อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว
การระบุจุดเข้า: Breakout ช่วยให้ระบุจุดเข้าซื้อหรือขายที่ชัดเจน
ข้อเสียของ Breakout:
ความเสี่ยง: Breakout อาจเป็น Breakout หลอก
การสูญเสีย: อาจสูญเสียเงินหากตั้งจุดตัดขาดทุนไม่เหมาะสม
สรุป:
Breakout เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้อย่างชาญฉลาด ควรศึกษา Breakout ควบคู่กับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ ฝึกฝนการเทรดบนบัญชีทดลอง และมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
"ผู้ออก Ethereum ETF ยื่นฉบับสุดท้าย เตรียมเปิดตัววันอังคาร"ตัวออกกฎหมาย Ethereum ETF ยื่นฉบับสุดท้าย คาดหวังการเปิดตัวในวันอังคาร 📅
ผู้ออก Ethereum ETF เริ่มยื่นแบบแสดงรายการ S-1 สุดท้าย
ผู้บัญชีของ SEC, Hester Peirce เชื่อว่าอาจพิจารณาใหม่เรื่องการเสนอสตากิงใน Ethereum ETF
วาฬ Ethereum อาจช่วยให้ ETH บรรลุราคาสูงสุดตลอดกาลที่คาดการณ์ไว้ที่ $5,627 🐳
Ethereum (ETH) ร่วงลง 1% ในวันพุธ เนื่องจากผู้ออกเริ่มยื่นแบบแสดงรายการ S-1 สุดท้ายสำหรับ ETH ETF ในรูปแบบสปอตต่อคณะกรรมการความมั่นคงและการแลกเปลี่ยน (SEC) โดยคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 23 กรกฎาคม ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชีของ SEC นาง Hester Peirce กล่าวว่าอาจพิจารณาใหม่เรื่องการใช้สตากิงภายใน ETF ของ ETH 📈
ตัวออก Ethereum ETF ยื่นแบบแสดงรายการ S-1 สุดท้ายต่อ SEC วันนี้ หลังจากที่นักวิเคราะห์ของ Bloomberg อย่าง Eric Balchunas รายงานก่อนหน้านี้ว่าผู้กำกับดูแลได้ขอให้ยื่นเอกสารก่อนสิ้นวันพุธ ฉบับสุดท้ายของผู้ออกเปิดเผยค่าธรรมเนียมสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนดังนี้:
21Shares Core Ethereum ETF (CETH) เปิดเผยค่าธรรมเนียม 0.21%
Grayscale Ethereum Trust รักษาค่าธรรมเนียมที่สูงที่ 2.5%
Grayscale Ethereum Mini Trust กำหนดค่าธรรมเนียมที่ 0.25%
Bitwise Ethereum ETF เปิดเผยค่าธรรมเนียม 0.20%
Invesco Galaxy Ethereum ETF เปิดเผยค่าธรรมเนียม 0.25%
Franklin Ethereum Trust เปิดเผยค่าธรรมเนียม 0.19%
iShares Ethereum Trust กำหนดค่าธรรมเนียมที่ 0.25%
Fidelity Ethereum Fund เปิดเผยค่าธรรมเนียม 0.25% 💰
SEC ได้อนุมัติการยื่นไฟล์ 19b-4 ของสปอต ETH ETF จากแปดตัวออกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม แต่ต้องให้ไฟเขียวต่อแบบแสดงรายการ S-1 ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวได้ 🚦
SEC อาจให้การอนุมัติสุดท้ายแก่แบบแสดงรายการ S-1 ของตัวออกและอนุญาตให้ซื้อขายในวันอังคารที่จะถึงนี้ ตามที่ Balchunas โพสต์ใน X เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 📊
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชีของ SEC นาง Hester Peirce กล่าวว่าการอนุญาตให้มีสตากิงภายใน Ethereum ETF อาจเปิดให้พิจารณาใหม่ในอนาคต "ฉันคิดว่าบางสิ่งเช่นการสตากิง หรือคุณสมบัติใด ๆ ของผลิตภัณฑ์ (...) สิ่งเหล่านั้นเสมอเปิดให้พิจารณาใหม่ตามที่ฉันเป็นห่วง" Peirce กล่าว ตัวออกก่อนหน้านี้ได้ถอดการสตากิงออกจากการสมัครของพวกเขาหลังจากมีการคาดการณ์ว่า SEC ไม่สบายใจกับแนวคิดนี้ 🧐
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ETH: วาฬ Ethereum อาจนำการชุมนุมนำ
Ethereum มีการซื้อขายรอบ $3,410 ในวันพุธ ลดลงเกือบ 1% ในวันนั้น ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ETH ได้รับการชำระเงิน $32.28 ล้าน โดยมีการชำระเงินยาวและสั้นมูลค่า $17.22 ล้านและ $14.96 ล้านตามลำดับ ⬇️
ดอกเบี้ยเปิดตัวตัวเลือก ETH (OI) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากเพิ่มขึ้น 13% เมื่อวานนี้ ดอกเบี้ยเปิดเป็นจำนวนสัญญาที่ไม่ได้ชำระในตลาดอนุพันธ์ การเพิ่มขึ้นของตัวเลือก OI ที่ยังคงมีราคาเพิ่มขึ้นของ ETH บ่งชี้ถึงศักยภาพในการเพิ่มขึ้นต่อไปในตลาด 📈
นอกจากนี้ IntoTheBlock สังเกตเห็นแรงกดดันจากการซื้อจากกระเป๋าสตางค์ที่ถืออย่างน้อย 0.1% ของอุปทาน ETH หลังจากราคาของมันพุ่งขึ้นจากระดับต่ำที่เห็นในสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่บ่งชี้ว่าวาฬกำลังเพิ่มการถือครองของพวกเขาด้วยความหวังในการชุมนุมหากการเปิดตัว ETF ETH เกิดขึ้นในวันอังคาร 👀
ด้วยการยื่นแบบแสดงรายการ S-1 สุดท้ายของผู้ออก ETF ETH การคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของนักซื้อขายที่มีชื่อเสียงอย่าง Peter Brandt เกี่ยวกับ ETH ที่อาจบรรลุราคาสูงสุดใหม่ที่ $5,627 กำลังได้รับความแข็งแกร่งมากขึ้น 🚀
Brandt ทำนายว่าหาก ETH สามารถทำการเคลื่อนไหวไปข้างบนของสี่เหลี่ยมที่มีระยะเวลาสี่เดือน — ที่มีขอบบนและล่างที่ $4,093 และ $2,800 — มันสามารถตั้งราคาสูงสุดใหม่ที่ $5,627 ✨
ในทางตรงกันข้าม ETH อาจพบการสนับสนุนรอบ ๆ $3,235 ที่นักลงทุนซื้อมากกว่า 4.54 ล้าน ETH 🛑
#Ethereum #ETF #CryptoMarket #ETHtrading #Staking #InvestmentTrends #FinancialMarkets
Ethereum ช่องเทรนด์ไลน์ทองคำช่องเส้นแนวโน้มสีทองของ Ethereum ต่ำกว่าเป้าหมายหลัก เส้นแนวโน้มสีทอง เส้นสีเทาบนและล่างเป็นช่อง จุดของดาวศุกร์คือจุดต่ำสุดและราคาต่ำสุดของเป้าหมายนี้ โดยหลักๆ แล้วหากมันอยู่ต่ำกว่าเส้นแนวโน้มทองคำ มันจะเป็นเส้นช่องสีเทาด้านล่าง และจุดต่ำสุดหลักจะอยู่รอบๆ เส้นแนวโน้มทองคำ
การขาย Bitcoin กดดัน Ethereumราคาของ Ethereum ลดลงตาม Bitcoin แม้สินทรัพย์เสี่ยงจะเพิ่มขึ้นจากการยืนยันของประธานเฟด พาวเวลล์ ว่าสหรัฐกำลังลดเงินเฟ้อ นักเทรด ETH หวังว่าจะมีการกระตุ้นจากบันทึกการประชุม FOMC หรือข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ และการเปิดตัว ETF ของ ETH ที่คาดว่าจะเริ่มสัปดาห์หน้า ขณะนี้ ETH ถูกกดดันจากการขาย BTC ของ Mt. Gox
การขาย ETH ทำให้ตลาดลงมาที่ระดับ 3,252 ซึ่งยังเป็นแนวรับ หากต่ำกว่านี้ แนวรับต่อไปอยู่ที่ระดับ 2,633
Fibonacci fans : เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังบทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ "แฟนฟิโบนัชชี" เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง พัฒนาจากลำดับฟิโบนัชชี เรียนรู้วิธีการตีเส้น วิเคราะห์ราคา และค้นพบแนวโน้มการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์
แฟนฟิโบนัชชี : Fibonacci fans
แฟนฟิโบนัชชี (Fibonacci fan) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สัดส่วนฟิโบนัชชี (Fibonacci ratios) เพื่อระบุจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นของราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตเคอเรนซี่
สัดส่วนฟิโบนัชชี คือ ลำดับตัวเลขที่แต่ละตัวเลขเป็นผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 ลำดับนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากการปรากฏตัวในธรรมชาติ เช่น กลีบดอกไม้ กิ่งก้านของต้นไม้ และเปลือกหอย
วิธีการตีเส้นแฟนฟิโบนัชชี
ระบุจุดสูงสุด (swing high) และจุดต่ำสุด (swing low) ล่าสุดสองจุดบนกราฟราคา: จุดเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเส้นแฟนฟิโบนัชชี
วาดเส้นแนวตั้งจากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด: เส้นเหล่านี้จะแบ่งกราฟออกเป็นสัดส่วนตามอัตราส่วนฟิโบนัชชีที่สำคัญ
วาดเส้นแนวนอนผ่านกราฟที่ระดับอัตราส่วนฟิโบนัชชีที่สำคัญ: อัตราส่วนฟิโบนัชชีที่ใช้ทั่วไป ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6%
การตีความแฟนฟิโบนัชชี
จุดกลับตัว: ราคาอาจมีแนวโน้มที่จะกลับตัวในบริเวณของเส้นแฟนฟิโบนัชชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเส้น 38.2%, 50% และ 61.8%
แนวรับและแนวต้าน: เส้นแฟนฟิโบนัชชีสามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้าน โดยราคาอาจมีแนวโน้มที่จะเด้งกลับจากเส้นเหล่านี้
การขยายแนวโน้ม: เส้นแฟนฟิโบนัชชีสามารถใช้เพื่อขยายแนวโน้มของราคา โดยคาดการณ์ว่าราคาจะไปต่อในทิศทางเดิมจนถึงระดับอัตราส่วนฟิโบนัชชีที่สำคัญ
ตัวอย่างการใช้งานแฟนฟิโบนัชชี
หาจุดเข้าซื้อ/ขาย: นักลงทุนอาจใช้แฟนฟิโบนัชชีเพื่อหาจุดเข้าซื้อเมื่อราคาเด้งกลับจากแนวรับ หรือหาจุดเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวต้าน
ตั้งจุด Stop-loss และ Take-profit: นักลงทุนอาจใช้แฟนฟิโบนัชชีเพื่อตั้งจุด Stop-loss เหนือแนวรับ หรือใต้แนวต้าน และตั้งจุด Take-profit ที่ระดับอัตราส่วนฟิโบนัชชีที่สำคัญ