XAUUSD รูดลงเร็วไป หลังทำลายแนวรับจิตวิทยา ฝั่งขายเข้ามาคุมเกมส์📈ปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อคืนนี้ทองคำมีแรงขายเข้ามากดดันทันที จนสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า หลังสหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์ยกแผง ภาพดังกล่าวบ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐมีความเสี่ยงจะปรับขึ้น จึงไปหนุนเฟดตรึงดอกเบี้ยระดับสูง และกดทอง Low $1,990 ปิดลบ $26.93!!
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. ylgbullion .co .th
แนวต้าน
2390.00 **Weekly
2280.00 **Weekly
2170.00 ***Weekly
2135.00 ** Daily
2090.00 ***Daily
2045.00 ***Daily
2021.00 Intraday
2012.00 Intraday
2003.00 Intraday
แนวรับ
1985.00 Intraday
1975.00 Intraday
1970.00 Intraday
1965.00 ***Daily
1930.00 ***Daily
1900.00 ***Daily
1880.00 ***Weekly
1810.00 **Weekly
***M30 RSI ลงไปที่ระดับต่ำกว่า(Over Sold) 30 ตราบใดยังมี 2003 เป็นแนวต้าน ราคาอาจร่วงถึง 1985.00 - 1975.00 (Intraday)
***Day หากแนวต้านที่ 2045.00 ยังไม่เลยขึ้นไป ความเสี่ยงที่จะทะลุต่ำกว่า 1970.00 ยังคงสูงอยู่ อาจร่วงถึง 1960.00 - 1930.00(Daily)
***Week มีการสร้างฐานแนวรับที่ 1930.00 และช่วยให้เกิดเสถียรภาพชั่วคราวเกิดสภาวะกระทิงช่วงระยะกลางสู่แนวต้าน 2170 / 2280 (Weekly)
🧩แนวคิดประจำวัน 📊
หรือราคาก็ไม่สร้างระดับสูงใหม่จากวันก่อนหน้า หรือหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2012-2022-2028
ตัวอย่างแนวคิด(14 กพ)
สำหรับวันนี้หากการปรับตัวขึ้นยังคงจำกัด และราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2012-2022-2028 ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงเกิดแรงขายกดให้ราคาปรับตัวลงต่อ
Sell 2012-2014-2016
Sl 2030
(เป้าซิ่ง 3-5 เหรียญ)
TP1 2002
TP2 1992
TP3 1982
TP4 1972
แผน Buy ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงเกิดแรงขายกดให้ราคาปรับตัวลงต่อ รอพิจารณาโซน Buy แรก 1,980-1,970 แต่หากยืนไม่ได้ จะมีโอกาสลงไปทดสอบ 1960-1955(Round number) ทั้งนี้มุมมองเชิงบวกจะกลับมาหากราคาผ่านแนวต้านโซน 2,027 และยืนอยู่ได้
ตัวอย่างแนวคิด(14 กพ)
BUY zone 1980 -1978 -1976
SL 1955
TP1 2000
TP2 2020
TP3 2040
TP4 2060
TP5 2080
ตัวอย่างแนวคิด(14 กพ)
Buy 1961-2058-1955
Sl 1948
TP1 1980
TP2 2000
TP3 2020
TP4 2040
TP5 2060
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
สนับสนุนพวกเราด้วยการกดปุ่ม Boost(ส่งเสริม)🚀 / และแสดงความคิดเห็นต่อไอเดียของเรา💬 ขอบพระคุณครับ🙏
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการซื้อขาย หรือการลงทุน❤️
Xauusdupdates
ทองคำโลกเพิ่มขึ้นเป็น 2,015 USDราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี (15 กุมภาพันธ์) หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงส่งผลให้เงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ในขณะที่ตลาดหันมาให้ความสนใจต่อความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กำลังมองหาสัญญาณว่าเมื่อใดควรลดดอกเบี้ยลง ราคา.
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 2,004.05 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 2,014.9 USD/oz
ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วเกินคาดในเดือนมกราคม 2024 รายงานแยกต่างหากจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นลดลง 8,000 ใบ เหลือ 212,000 ใบที่แก้ไขแล้ว
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขยายตัวลดลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงตามข้อมูลยอดค้าปลีก ทำให้ทองคำดึงดูดผู้ซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น
Chris Gaffney ประธานฝ่ายตลาดโลกของ EverBank กล่าวว่าปัจจัยขับเคลื่อนหลักของทองคำในระยะสั้นคือการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีความเสี่ยงที่ทองคำจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในระยะสั้นจนกว่า Fed จะบอกจริง ๆ ว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาลดอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์แสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภค CPI ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้ทองคำลดลง 1.4% ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์
ผู้กำหนดนโยบายของ Fed อาจจะรอจนถึงเดือนมิถุนายนก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนคาดการณ์ตามข้อมูลเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ
Michael Barr รองประธานเฟดฝ่ายกำกับดูแลกล่าวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่าเส้นทางกลับสู่อัตราเงินเฟ้อ 2% “อาจเป็นเส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อ” ในขณะเดียวกัน นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเตือนว่าอย่าชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานเกินไป
ขณะนี้ตลาดกำลังมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ที่คาดว่าจะประกาศในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ คาดว่าเจ้าหน้าที่เฟดอีกอย่างน้อยสามคนจะพูดในปลายสัปดาห์นี้
ถ้าข่าวออกมาตามคาดการณ์ทองคำมีสิทธิ์บินขึ้นไปทำราคา 2038 อีกรอบมุมมองทองคำวันนี้ 13/2/24
ข่าวสำคัญวันนี้ 20:30น.
ตัวเลขออกมาค่อนข้างต่ำกว่าครั้งที่แล้วถ้าข่าวออกมาตามคาดการณ์ทองคำมีสิทธิ์บินขึ้นไปทำราคา 2038 อีกรอบ แต่ในระหว่างวันทองคำอาจมีการทำราคาลงไปเทสโล ที่ 2012-2009 เพื่อทำราคาที่จะวิ่งขึ้นไปและให้ลองดูติดตามข่าว 14:00 น. ของ GBP ถ้าข่าวกล่องแดงออกมาตามคาดการณ์ GBP แข็ง อาจกดในตัวของดอลล่าร์บ้างวันนี้น้ำหนักของทองคำให้ไปที่ขา บาย แต่ต้องลุ้นให้ไม่หลุด 2004 ยังจะสามารถที่เข้าถือได้เป้าคาดหวังอยู่ที่ 2030 up อย่างไรก็ตามรอข่าวคอนเฟิร์มอีกทีช่วงเวลาสองทุ่มครึ่งและดูวอลุ่มเจ้าตลาดด้วยและติดตามความแข็งค่าอ่อนค่าของตัวดอลล่าร์สหรัฐและตัวธนบัตร 10 ปี
เทรดอย่างระมัดระวังบริหารพอร์ตให้ดีให้ดีค่ะ
XAUUSD วนลูป 2000-2050 (Round number ) รอปัจจัยพาเลือกข้างเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบไซด์เวย์ 2040-2020 สะสมกำลังต่อรอข้อมูลสหรัฐฯเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ จะมีหลายรายการที่นักลงทุนยังรอ เช่น CPI, ดัชนีการผลิตของ Empire State, การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนการว่างงาน, PPI ควรติดตามตัวเลขเหล่านี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเข้าลงทุน
TF H4 ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงราคา $2,000-$2050 (Round number ) และรอราคาเลือกข้างฝั่งใด โอกาสโครงสร้างราคาจะถูกทำลายหากผ่านจุด BREAK point ฝั่งใดฝั่งหนึ่งในทางเทคนิค
แนวคิด intraday(12 กพ)
แผน Sell รอราคาขยับขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 2,038 ดอลลาร์, 2,051 ดอลลาร์
แผน Buy รอราคาขยับลงเข้าใกล้ 2,005 ดอลลาร์, 1985 ดอลลาร์
**ควรพิจารณาสัญญาณบ่งชี้ในทางเทคนิคอล เช่น สัญญญาณกลับตัวในไทมเฟรมนั้นๆ
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราและช่องฟรีด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 ขอบคุณครับ
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการซื้อขาย
XAUUSD ปัจจัยทับซ้อนมีอีกมาก ยังทำใจลำบากหากต้องเลือกข้าง📈ปัจจัยพื้นฐาน
วานนี้ทองคำทิ้งลงแรงจาก Hight $2037 ย่อแตะ $2,020 ทำ new low จากวันก่อนหน้า รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์และบอนยีลด์สหรัฐที่ยังแกว่งฟื้นตัวขึ้น จากปัจจัยผู้ขอรับสวัสวัดิการว่างงานรายสัปดาห์ ลดลง ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนคาดการณ์เฟดตรึง ดอกเบี้ยนานอีก อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นดีดกลับขึ้นมาแรงเช่นกัน ทองคำมีแรงช้อนซื้อกลับขึ้น 2035 ขานรับเงินปอนด์แข็งค่า หลังหนึ่งในจนท. BOE ที่โหวตขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเผยว่าการโหวตนั้นสมดุลอย่างดี แสดงภาวะแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่มากมาย ทั้งเรื่องจิตวิทยาตลาดช่วงตรุษจีน กำลังซื้อสะสม ความเสี่ยงภาค Nonbank ของสหรัฐ ที่กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ กำลังติดตามความเสี่ยงที่เกิดจากผู้ให้กู้จำนองที่ไม่ใช่ธนาคาร และเตือนว่าความล้มเหลวประการหนึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ตลาดตึงเครียด เพราะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งกู้ยืมฉุกเฉินของเฟดได้ นี่เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่รอปะทุแทรกขึ้นมาเมื่อใดก็ได้ แต่หากยังไม่ปะทุ เมื่อผ่านไปสักระยะตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักอัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ยเฟดที่มีความเสี่ยงว่าจะคงระดับเดิมนานขึ้น ดังนั่นปัจจัยยังคงทับซ้อนกันอยู่มาก ราคาปิดตลาดทองคำเหลือปิดลบเล็กน้อย $0.80!!
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. ylgbullion .co .th / บ.ShinningGold Bulion . Com
🧩แนวคิดประจำวัน 📊
หลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่ง มีแรงขายสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคาพยายามทดสอบแนวต้านโซน 2,048-2065 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หากไม่สามารถยืนได้ จะทำให้ระยะสั้นราคามีแนวโน้มราคาอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณ 2,017-2,005 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวคิดวันนี้หากราคาปรับตัวขึ้นขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 2,048-2065 เข้าเสี่ยงเปิดสถานะขาย เพื่อรอทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2017-2005//ลดสถานะ Sell หรือตัดขาดทุนหากราคาทะลุแนวต้าน 2075-2090 ///
แนวต้าน
2170.00***Daily
2135.00 **Daily
2090.00***Daily
2065.00***Daily
2050.00 intraday
2044.00 intraday
2038.00 intraday
แนวรับ
2027.00 intraday
2022.00 intraday
2017.00 intraday
2005.00***Daily
1970.00***Daily
1930.00***Daily
🔽แนวคิดแผน Sell 1 (9กพ)
แผน 1
Sell 2047-2050-2053
sl 2065
TP1 2037
TP2 2027
TP3 2017
TP4 2007
แผน 2
Sell 2064-2068
Sl 2085
TP1 2045
TP2 2025
TP3 2005
TP4 1985
แผน 2
Sell 2075-2080
Sl 2105
TP1 2055
TP2 2035
TP3 2015
TP4 1995
🔼แนวคิดแผน Buy (9 กพ)
แผน 1
Buy 2017-2015
Sl 1995
TP1 2030
TP2 2050
TP3 2070
TP4 2090
แผน 2
Buy 2005-2000
sl 1980
TP1 2020
TP2 2040
TP3 2060
TP4 2080
แผน 3
Buy 1986-1982
Sl 1969
TP1 2005
TP2 2025
TP3 2045
TP4 2065
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราและช่องฟรีด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 ขอบคุณครับ
XAUUSD Sideway มีแรงซื้อดีแต่โดยขายออกเป็นช่วงๆ📈ปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อวานนี้ ทองบวก $11.30!! ในระยะสั้นสลับมาฟื้นตัวขึ้นได้บ้างขานรับ ดอลล์-บอนยีลยีด์ สลับมาพักตัว!! หลังดีด 2 วันติด โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการพักตัวทางเทคนิคประกอบกับ ดัชนีภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐรัในรอบ 6 เดือน จาก RealClearMarkets ลดลงสู่ 44.0 ซึ่งต่ำกว่า 50 ถือเป็นมุมมองเชิงลบ จึงหนุนทอง High $2,038 เมื่อคืน / แต่อย่างไรก็ตาม ภาพหลักทองคำ ยังมีแรงกดดัน จากที่เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยไว้สูงนานกว่าคาดการณ์
ผู้ว่าการ Fed คลีฟแลนด์ ลอเลตตา เมสเชอร์ คาดว่า Fed มีแนวโน้ม จะลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งหากเงินเฟ้อไม่ลดลง Fed ก็สามารถคงนโยบายปัจจุบันไว้ก่อนได้ และคาดว่าความมั่นใจในการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หากเศรษฐกิจดำเนินไปตามที่คาดไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้ต้องรอจับตาว่าถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดจะแสดงท่าที Hawkish และกดดันตลาดมากน้อยเพียงใด ตลาดจึงชะลอการลงทุนเพื่อรอจับตาปัจจัยดังกล่าว อีกทั้งยังมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งอาจทำ ให้ Bond Yield 10 ปีสหรัฐที่มีนัยสำคัญต่อตลาดค่อนข้างมากนั้นผันผวนได้
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. ylgbullion .co .th
อนึ่งสถานการณ์สุ่มเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์แถบตะวันออกกลาง / ฮามาสตอบสนองเชิงบวกอย่างเป็นทางการ ต่อกรอบข้อเสนอการหยุดยิงครั้งล่าสุด ในสงครามฉนวนกาซา แต่สหรัฐ และกาตาร์ กล่าวว่าข้อตกลงใด ๆก็ตามต้องใช้เวลา / UN เผยจะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อ หลีกเลี่ยงการโจมตีของอิสราเอลต่อราฟาห์ เมืองทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งอาจนำไป สู่การสูญเสียชีวิตจำนวนมาก / นักลงทุนยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. Shinninggoldbullion . com
🧩แนวคิดประจำวัน 📊เทคนิคอล
ในช่วงเช้าการซื้อขายของเอเชีย ยังมีความผันผวนภายในช่วงแคบๆราคาแกว่งตัวระหว่าง 2,033-2,036 ดอลลาร์ความเห็นโดยส่วนตัวแม้ราคาจะพยายามรีบาวด์ แต่โดยประเด็นที่ Fed จะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2024 จึงยังทำให้แรงซื้อยังไม่มากพอ น่าจะเป็นการ รีบาวด์ขึ้นมาหาจุดกลับตัวแล้วลงต่อ ฐานเดิม 2005-2000 ซึ่งถ้ายังรักษาระดับฐานแนวรับดังกล่าวไว้ได้ก็ยังมองว่า เทรนหลักทองคำรอสะสมกำลังสะสมแรงซื้อหาปัจจัยหนุนกันต่อไป หากราคาหลุดแนวรับ 2000 ลงไปอาจทำให้มุมมองของเทรนหลักเปลี่ยนไป
ช่วงนี้แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway แต่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่งประกอบกับมีแรงขายกดราคาลง แนะนำเน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 2046-2054 // เปิดสถานะขายเมื่อราคาเข้าใกล้กรอบด้านบน 2,046-2054 / 2065-2090 (ตัดขาดทุนหรือชะลอการเปิดสถานะ Sell หากราคาผ่าน 2,090 ) //รอปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2,020-2,005 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถยืนได้(ทยอยเข้าซื้อหากมีพบความเหมาะสม)
📈กราฟรายวันและรายสัปดาห์อยู่ในช่วง Bullish
RSI อยู่เหนือบริเวณเป็นกลางที่ 50%
แนวต้าน
2170.00 Daily**
2135.00 Daily***
2090.00 Daily***
2065.00 Daily**
2054.00 intraday
2046.00 intraday
2041.00 intraday
แนวรับ
2028.00 intraday
2022.00 intraday
2014.00 intraday
2005.00 Daily***
1970.00 Daily***
1930.00 Daily***
***จำนวนเครื่องหมายดอกจันแสดงถึงความแข็งแกร่งของระดับแนวรับและระดับแนวต้าน
🔽แนวคิดแผน Sell 1 (7กพ)
Scalping
Sell 2042 -2045-2048
Sl 2056
TP1 2035
TP2 2025
TP3 2015
TP4 2005
แผน 1
Sell 2051-2055-2059
SL 2075
TP1 2030
TP2 2010
TP3 1990
แผน 2
Sell 2065-2075
Sl 2095
TP1 2045
TP2 2025
TP3 2005
TP4 1985
🔼แนวคิดแผน Buy (7 กพ)
แผน 1 (5 ก.พ)
Buy 2014-2010-2006
Sl 1995
TP1 2024
TP2 2034
TP3 2044
TP4 2054
แผน 2
Buy 2002-2000
sl 1985
TP1 2020
TP2 2040
TP3 2060
แผน 3 6 กพ
Buy 1986-1982
Sl 1969
TP1 2005
TP2 2025
TP3 2045
TP4 2065
TP5 2085
ฝั่ง Buy ต้องระวังการตั้งฐานบริเวณ 2005-2000 แนวรับจิตวิทยานะครับ 🙏เทรดด้วยความระมัดระวัง หากหลุดแนวรับ 2000 อาจเกิด Panic sell เปิดโอกาสให้ราคาทองคำปรับลงทดสอบ 1990 ได้ โฟกัสเฉพาะจุดกลับตัวชัดๆ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
.........................
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 🙏ขอขอบพระคุณมากครับ
XAUUSD พยายามขึ้นแล้วแต่โดนสกัดร่วงทุกที คณะ Fed ยังยื้อแผนลดดอก📈ปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อวานนนี้ ทองปิดลบเล็กน้อย $1.00!! ดอลล์ย่อแต่บอนยีลยีด์ฟื้น !! ดอกเบี้ยเฟดสกัดทอง!!
ในช่วงแรกทองคำ แกว่งตัวในกรอบแคบ ก่อนจะฟื้นขึ้นในช่วงสั้นรับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า หลังพาณิชย์เผยยอดขาดดุลการค้าสหรัฐเดือนธ.ค. เพิ่มสูงขึ้น แต่หลังจากนั้นทองยังมีแรงขายเข้ามาอีกครั้ง รับปัจจัยกดดันเดิมจากถ้อยแถลงจนท.เฟด ซึ่งสอดคล้องกัน “เฟดต้องมีหมีลักฐานในเงินเฟ้อเพิ่มเติม / ผู้ว่าการเฟดริชมอนด์ ทั้ง 4 คน ไม่เห็นกรณีเร่งด่วนในการลดดอกเบี้ย โดยมองว่าการปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนพ.ค. สะท้อนถึงข้อความที่ปธ.พาวเวลล์ ได้ย้ำว่า เฟดยังไม่พร้อมที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยจนกว่าจะแน่ใจว่า เงินเฟ้อมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด โดยการลดดอกเบี้ยในมี.ค.ไม่น่าจะเป็นไปได้
ทั้งนี้ อีกปัจจัยที่สำคัญต่อทิศทางดอกเบี้ยเฟด ได้แก่ตลาดแรงงานสหรัฐซึ่งคืนนี้จะมีการประกาศ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ดังนั้นจึงควรจับตาอย่างใกล้ชิด
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. ylgbullion .co .th
🧩แนวคิดประจำวัน 📊
ราคาเริ่มมีความผัวผวนลดลง แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายเข้ามากดดันราคาให้อ่อนตัวลง มีอาการเช่นเดิม จะทิ้งตัวลงทุกครั้งเมื่อสัมผัสแนวต้านสำคัญ แสดงถึงภาวะแรงขายที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แนวคิดวันนี้หากราคาปรับตัวขึ้นขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 2,050-2065 เข้าเสี่ยงเปิดสถานะขาย เพื่อรอทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2020-2005//ลดสถานะ Sell หรือตัดขาดทุนหากราคาทะลุแนวต้าน 2075-2090 ///
intraday
แนวต้าน
2170.00***Daily
2135.00***Daily
2065.00***Daily
2054.00
2046.00
2042.00
แนวรับ
2030.00(Pivot)
2022.00
2014.00
2005.00***Daily
1970.00***Daily
1930.00***Daily
🔽แนวคิดแผน Sell 1 (7กพ)
Scalp⚡ (8กพ)
Sell 2045-2047
sl 2055
TP1 2025
TP2 2005
TP3 1985
แผน 1
Sell 2053-2056
SL 2075
TP1 2035
TP2 2015
TP3 1995
แผน 2
Sell 2070-2075
Sl 2095
TP1 2055
TP2 2035
TP3 2015
🔼แนวคิดแผน Buy (7 กพ)
แผน 1 (5 ก.พ)
Buy 2015-2010
Sl 1995
TP1 2030
TP2 2050
TP3 2070
แผน 2
Buy 2002-2000
sl 1980
TP1 2020
TP2 2040
TP3 2060
แผน 3
Buy 1986-1982
Sl 1969
TP1 2005
TP2 2025
TP3 2045
ฝั่ง Buy ต้องระวังการตั้งฐานบริเวณ 2005-2000 แนวรับจิตวิทยานะครับ 🙏เทรดด้วยความระมัดระวัง หากหลุดแนวรับ 2000 อาจเกิด Panic sell เปิดโอกาสให้ราคาทองคำปรับลงทดสอบ 1990 ได้ โฟกัสเฉพาะจุดกลับตัวชัดๆ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราและช่องฟรีด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 ขอบคุณครับ
ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อยยังคงกังวลเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยในวันพุธแต่เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แม้ว่าการเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นของสหรัฐฯ จะทำให้แนวโน้มของโลหะสีเหลืองผสมปนเปกันก็ตาม แน่นอน
ราคาทองคำแท่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเดิมพันอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานโดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นที่หยาบคายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ สถานะ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากสัญญาณเหล่านี้ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันพุธ แต่ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนถึงปี 2024
แนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะเป็นลางไม่ดีสำหรับทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะเพิ่มต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในทองคำแท่ง ธุรกรรมนี้ได้จำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำที่สำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,035.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2,050.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:25 ET (05:25 GMT)
ทองคำเคลื่อนตัวไปด้านข้างท่ามกลางสัญญาณที่ขาดหายไป แต่ยังคงอยู่เหนือแนวรับสำคัญ
ขณะนี้ตลาดกำลังรอสัญญาณเพิ่มเติมจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อเป็นแนวทางในความผันผวนของราคาทองคำ ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมที่จะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเป็นแนวทางได้
ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ทองคำร่วงมากขึ้นในระยะสั้น แต่โลหะสีเหลืองยังคงมีการซื้อขายที่ดีกว่าระดับแนวรับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าอาจมีการทดสอบได้ในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม แนวโน้มของทองคำจึงยังคงมีความไม่แน่นอน ความต้องการแหล่งปลอดภัยสำหรับโลหะสีเหลืองอาจถูกลดทอนลงเนื่องจากการหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ทองคำคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยในที่สุด แต่มีสัญญาณเพิ่มมากขึ้นว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในภายหลัง แทนที่จะเป็นก่อนหน้านั้นในปี 2024
ราคาทองคำทรงตัวเมื่อเงินดอลลาร์สูญเสียโมเมนตัม ระดับแนวรับ 2,000ราคาทองคำทรงตัวในวันอังคาร หลังจากร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นชั่วคราว โดยตลาดต่างๆ มองว่าโลหะสีเหลืองมีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวรับที่สำคัญ
แนวโน้มของทองคำในระยะสั้นยังคงถูกกดดันจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดเริ่มมีราคาในความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงเดือนมิถุนายน
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นที่เข้มงวดจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของมุมมองนี้ ทั้งสองปัจจัยส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองช่วงที่ผ่านมา
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่สูงขึ้น ซึ่งกดดันทองคำต่อไป
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,026.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2,042.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:23 ET (05:23 GMT)
ระดับแนวรับที่ 2,000 USD มุ่งเน้นไปที่ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าราคาทองคำสปอตสามารถทดสอบระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
Fed Rate Tracker ของ CME แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์กำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาส 83% ที่ Fed จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่ในเดือนมีนาคม และคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กันในเดือนพฤษภาคม
ทองคำทดสอบราคาที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงสั้นๆ ในช่วงต้นเดือนมกราคม แต่การฟื้นตัวดูเหมือนจะหยุดชะงักลง การเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์อาจส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในระยะยาวที่สูงขึ้น
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะทำหน้าที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับราคา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนก็จะพูดเช่นกันในสัปดาห์นี้
อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นในระยะยาวจะช่วยลดความน่าดึงดูดใจของทองคำโดยการเพิ่มต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในโลหะสีเหลือง
ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เนื่องจากการคาดการณ์กเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในวันจันทร์ เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดได้ปรับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ การปรับเทียบการเดิมพันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใหม่เกิดขึ้นภายหลังรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และความคิดเห็นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ที่แนะนำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมไม่น่าจะเป็นไปได้
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงิน สูงสุดที่ 104.18 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม การเพิ่มขึ้นของค่าเงินดอลลาร์เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ เอาชนะการคาดการณ์ของตลาดและเสริมความคิดเห็นล่าสุดโดย พาวเวลล์ว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดอดทนในการปรับอัตราดอกเบี้ยได้
การประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้งนั้นเห็นได้ชัดในการประเมินมูลค่าตลาด โดยปัจจุบันเครื่องมือ CME FedWatch แสดงโอกาสเพียง 20% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงอย่างมากจากโอกาสเกือบ 50% ราคาชุดประกอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมก็ลดลงเช่นกัน
ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของ CBS นายพาวเวลล์กล่าวว่าเฟดมีสิทธิ์ที่จะ "ระมัดระวัง" ในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ
ฟิวเจอร์สกองทุนเฟดสะท้อนถึงความรู้สึกนี้ โดยคาดว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายพื้นฐานประมาณ 137 จุดในปีนี้ ลดลงจาก 150 จุดพื้นฐานที่คาดการณ์ไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว
เงินเยนอ่อนค่าลงเป็น 0.15% อยู่ที่ 148.58/USD แตะระดับต่ำสุดที่ 148.82 ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% สู่ระดับ 0.6490 ดอลลาร์ และดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 0.6050 ดอลลาร์ เงินปอนด์อังกฤษก็แตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ 1.2600 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบแทนสองปีเพิ่มขึ้นเกือบ 7 จุดเป็น 4.4386% และอัตราผลตอบแทนมาตรฐาน 10 ปีเพิ่มขึ้น 5 จุดพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4.0829%
คาดว่าทองคำจะลดลงเหลือ 2,000 วันนี้เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาตำแหน่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการเผยแพร่ข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ เพื่อช่วยกำหนดทิศทางในอนาคตของอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะจัดขึ้นในวันเดียวกัน
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม โดยมีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้ออาจผ่อนคลายลง ราคาที่บริษัทเรียกเก็บสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีครึ่ง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเปรียบเทียบสกุลเงินสหรัฐฯ กับสกุลเงินหลักอื่นๆ อีก 6 สกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% มาอยู่ที่ 103.33 ตามมาด้วยการลดลงเล็กน้อย 0.2% ในวันอังคาร โดยเทรดเดอร์ปรับสถานะของตนเพื่อรอการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขเบื้องต้นสำหรับ GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ทนต่อผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญ
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสที่สี่ของสหรัฐฯ เติบโตในอัตรา 2% ต่อปี ข้อมูลสำคัญอื่นๆ รวมถึงมาตรการเงินเฟ้อที่ต้องการของเฟด ข้อมูลรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) จะถูกเปิดเผยในวันศุกร์
เฟดได้รับการคาดหวังอย่างกว้างขวางว่าจะคงจุดยืนในปัจจุบันในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น แต่ความคิดเห็นของประธานเจอโรม พาวเวลล์ จะถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูคำแนะนำในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น ความคาดหวังของตลาดเปลี่ยนไป โดยมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมในขณะนี้ที่ 41% ลดลงจาก 88% ในเดือนก่อนหน้า ตามเครื่องมือ CME FedWatch นอกจากนี้ เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ 130 จุดในปีนี้ ลดลงจาก 160 จุด ณ สิ้นปี 2566
ในเอเชีย เงินหยวนจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.06% เป็น 7.1648 USD เทียบกับ USD สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประกาศของธนาคารประชาชนจีนเรื่องการลดทุนสำรองของธนาคารลงอย่างมากโดยมีเป้าหมายเพื่ออัดฉีดเงินประมาณ 140 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร ซึ่งส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับเศรษฐกิจและตลาดหุ้น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 278 พันล้านดอลลาร์เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น
เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.16% มาอยู่ที่ 147.75 ต่อดอลลาร์ พลิกกลับเพิ่มขึ้นบ้างจากวันพุธ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยนเกิดขึ้นในขณะที่เทรดเดอร์ตอบสนองต่อความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะ โดยบอกว่าความสามารถของธนาคารในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อนั้นกำลังเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้ม ความสามารถในการย้ายออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ
ก่อนการประชุม ECB ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.07% สู่ระดับ 1.0875 ดอลลาร์ คาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ แม้จะสิ้นสุดรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน แต่ ECB ย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาการกลับรายการนโยบาย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่และการเจรจาค่าจ้างที่กำลังดำเนินอยู่
ประเด็นสำคัญประจำสัปดาห์นี้: การประชุมของเฟดและการจ้างงานนอกภาคเธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคม ซึ่งตลาดมองหาเบาะแสว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะเริ่มเมื่อใด เริ่มลดต้นทุนการกู้ยืมหลังจากหนึ่งในรอบที่ตึงเครียดที่สุดครั้งหนึ่ง ในทศวรรษ
ความคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีในเดือนมีนาคม 2567 ทำให้เกิดการขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้นและพันธบัตรในช่วงปลายปี 2566 สำหรับตอนนี้ นักลงทุนยังคงเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่แข็งแกร่งกว่า- ข้อมูลเศรษฐกิจที่คาดหวังและการต่อต้านจากผู้กำหนดนโยบายต่อการผ่อนคลายในช่วงต้นได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดว่าเฟดจะเดินหน้าการปรับอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2567
สัญญาณที่แสดงว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เห็นด้วยที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงในปัจจุบันต่อไปอีกสักหน่อยอาจสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่ออัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ราคา
นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ (2 กุมภาพันธ์) ผลการสำรวจของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะสร้างงานใหม่ได้ 162,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม เทียบกับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า
รายงานผลประกอบการ การตัดสินใจของ Fed ในสัปดาห์นี้ราคาหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ วนเวียนอยู่รอบทั้งสองด้านของเส้นทรงตัวในวันจันทร์ เนื่องจากเทรดเดอร์เตรียมพร้อมรับรายงานรายได้ของบริษัทสำคัญๆ และการตัดสินใจของธนาคารกลางเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
เมื่อเวลา 05:07 ET (10:07 GMT) สัญญา Dow Jones ร่วงลง 55 จุดหรือ 0.1% S&P 500 ลดลง 3 จุดหรือ 0.1% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้นอีก 19 จุดหรือ 0% แรก
การเริ่มต้นปีใหม่ที่มั่นคงสำหรับดัชนีหุ้นหลักของ Wall Street มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการทดสอบที่เข้มงวดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นักลงทุนจะวิเคราะห์ข้อมูลจากธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดบางแห่งของอเมริกาและรับความคิดเห็นที่มีอิทธิพลจาก Federal Reserve ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยชี้แจงแนวโน้มเศรษฐกิจในวงกว้างได้ ใหญ่กว่า (ดูด้านล่าง)
S&P 500 ร่วงลง 0.1% เมื่อวันศุกร์ ทำให้ดัชนีมาตรฐานอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงโดยไม่ชะลอการเติบโต - สถานการณ์ที่มักเรียกกันว่า "การลงจอดอย่างนุ่มนวล" ดัชนี Nasdaq Composite ก็ร่วงลง 0.4% ในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์การซื้อขายก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.2%
2. รายได้มหาศาลรออยู่ข้างหน้า
สัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและอาจทำให้ตลาดสั่นคลอนจากบริษัทหลายแห่ง รวมถึงหุ้นที่เรียกว่า "Magnificent 7" จำนวนมากที่กระตุ้นให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น นี้
ในวันอังคาร Microsoft จะรายงานหลังระฆัง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่มูลค่าตลาดของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google (NASDAQ:GOOGL) ซึ่งเหมือนกับ Microsoft ที่ได้รับประโยชน์จากกระแสกระแสโฆษณาปัญญาประดิษฐ์ก็จะเปิดเผยตัวเลขล่าสุดหลังตลาดปิดประตู
ในวันพุธจะมีผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ Qualcomm (NASDAQ:QCOM) โดยนักลงทุนกำลังรอจุดยืนของกลุ่มบริษัทในซานดิเอโกเกี่ยวกับการผลิตชิปในปีหน้า ตัวเลขรายไตรมาสยังมาจาก Boeing (NYSE:BA) ผู้ผลิตเครื่องบินที่กำลังดิ้นรนซึ่งถูกตรวจสอบอย่างละเอียดหลังจากเหตุระเบิดอันตรายบนเครื่องบิน 737 Max 9 รุ่นใดรุ่นหนึ่งเมื่อต้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับ Novo Nordisk (NYSE:NVO) ผู้ผลิตยาสัญชาติเดนมาร์กที่ผลิตยาลดน้ำหนัก Wegovy ยอดนิยม
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จำนวนมากจะก้าวเข้าสู่จุดสนใจในวันพฤหัสบดี รวมถึงผู้ผลิต iPhone Apple, Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ และ Meta Platforms ที่เป็นเจ้าของ Facebook (NASDAQ:META)
3. จุดสนใจอยู่ที่การตัดสินใจของเฟด
ตลาดจะจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐเนื่องจากธนาคารกลางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกจัดการประชุมนโยบายสองวันล่าสุด
เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษหลังการประชุมในวันพุธ โดยเน้นไปที่ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มต้นทุนการกู้ยืมในระยะสั้น
ในเดือนธันวาคม เฟดส่งสัญญาณว่าสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้หกครั้งในปีนี้ ทำให้เกิดความหวังที่จะลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายบางรายได้ลดความคาดหวังเหล่านี้ลง โดยชี้ให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลว่าภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็วอาจกระตุ้นให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงได้
การคาดการณ์ล่วงหน้าที่แข็งแกร่งเกินคาดของการเติบโตของสหรัฐในไตรมาสที่สี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังตอกย้ำความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนมกราคมในวันศุกร์จะแสดงความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงานสหรัฐฯ แม้ว่า Fed จะไม่สามารถรวมข้อมูลเฉพาะนี้ตามการคาดการณ์ล่าสุดได้
วิธีที่เฟดมองว่าราคาเพิ่มขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาในปี 2024 จะส่งผลต่อการเดิมพันในช่วงเวลาของการปรับลดครั้งแรก ตามเครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของ Fed ของ Investing.com มีโอกาสเกือบ 50% ที่ธนาคารจะดำเนินการดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม
USD ทรงตัว นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจและสัญญาณของ Fedเงินดอลลาร์เริ่มต้นสัปดาห์ที่มั่นคงในขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนการประชุมนโยบายธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางก็จำกัดจิตวิทยาความเสี่ยง
ดัชนี USD ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินสหรัฐเทียบกับคู่แข่ง 6 ราย เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 103.50 ในวันจันทร์ และยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 103.82 ที่แตะระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนมกราคม เนื่องจากเทรดเดอร์ลดความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เนิ่นๆ และเชิงลึก
ในเดือนธันวาคม เฟดสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยท่าทีแบบผ่อนคลายและคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ 75 จุดในปี 2567 ส่งผลให้ผู้ค้าปรับราคาในลักษณะผ่อนคลายเชิงรุก โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นเดือนมีนาคม
แต่ตั้งแต่นั้นมา ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและปฏิกิริยาจากธนาคารกลางทำให้เทรดเดอร์ปรับความคาดหวัง เครื่องมือ CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาส 48% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เทียบกับโอกาส 86% ณ สิ้นเดือนธันวาคม
“ตลาดตระหนักดีว่าวงจรที่เข้มงวดสิ้นสุดลงแล้ว” Marc Chandler หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Bannockburn Forex กล่าว อย่างไรก็ตาม พวกเขามีการเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง โดยกำหนดราคาแบบผ่อนคลายเชิงรุกโดยธนาคารกลาง G10 ส่วนใหญ่”
แชนด์เลอร์กล่าวว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะแก้ไขแนวโน้มที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วต่อไป
ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าราคาในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนธันวาคม ทำให้อัตราเงินเฟ้อต่อปีเติบโตต่ำกว่า 3% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และตอกย้ำความคาดหวังว่าการลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
ความสนใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การประชุมนโยบายสองวันของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งจะเริ่มในวันอังคาร โดยธนาคารกลางคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม โดยปล่อยให้ความสนใจมุ่งเน้นไปที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ และความคิดเห็นของเขา
นอกจากเฟดแล้ว นักลงทุนยังจะได้ดูชุดข้อมูลเศรษฐกิจ รวมถึงข้อมูลการว่างงานของสหรัฐฯ และรายงานบัญชีเงินเดือนที่จะช่วยวัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.08% อยู่ที่ 1.0842 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มว่าจะร่วงลง 2% ในเดือนนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% และยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กำลังเดิมพันว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนเมษายน โดยมีจุดพื้นฐานเกือบ 140 จุดของการปรับราคาในปีนี้
เงินสเตอร์ลิงซื้อล่าสุดที่ 1.2704 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.01% ในวันก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษในสุดสัปดาห์นี้
ทองคำโลกแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร (30 มกราคม) โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง ในขณะที่ความสนใจหันไปที่การประชุมนโยบายของสหรัฐฯ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กำลังมองหาข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ แผนงานเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ในช่วงสิ้นสุดเซสชั่นการซื้อขายของวันอังคาร สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,035.86 USD/ออนซ์ หลังจากที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมในช่วงเริ่มต้นเซสชั่น สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 2,054.40 USD/oz
Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures ให้ความเห็นว่า “ความผันผวนส่วนใหญ่ในตลาดทองคำมีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง แต่เราเห็นว่าตลาดมีการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นจากการคาดการณ์การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในวันที่ 31 มกราคม .
ดัชนี USD อ่อนตัวลง 0.2% ทำให้ทองคำน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะสีเหลือง
การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคม หลังจากการเปลี่ยนแปลง "นกพิราบ" ในการประชุมเดือนธันวาคม 2566 ตลาดคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุมสองวัน
Fed ต้องการให้ตลาดมีเสถียรภาพ ดังนั้นเราจึงอาจไม่เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากนัก และนายพาวเวลล์จะยังคงเป็นกลางและพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นายพาวิโลนีกล่าว
ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าราคาสหรัฐปรับตัวขึ้นปานกลางในเดือนธันวาคม 2566 ทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีต่ำกว่า 3% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันและอาจส่งผลให้เฟดเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ในขณะนี้
ผลสำรวจของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 29 มกราคม แสดงให้เห็นว่าความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ลดลงอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024
ทองคำโลกเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี (1 กุมภาพันธ์) หลังข้อมูลเผยข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตลาดเปลี่ยนโฟกัส เน้นข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ในช่วงสิ้นสุดเซสชันการซื้อขายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 2,054.89 USD/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2024 ในช่วงเริ่มต้นเซสชัน
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 2,071.1 USD/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 224,000 รายที่ปรับตามฤดูกาลแล้วในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มกราคม รายงานแยกต่างหากแสดงให้เห็นว่าผลิตภาพแรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่สี่ของปี 2023
Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่าทองคำยังคงอยู่ในรูปร่างที่ “ต่ำที่สุด” หลังจากการตอบรับของ Fed แต่มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การว่างงาน
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมและปฏิเสธแนวคิดที่ว่าธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ล้มเลิกการอ้างอิงที่มีมายาวนานถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ตามเครื่องมือ CME Fed Watch ปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์ความเป็นไปได้ 96% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนพฤษภาคม 2024
ตลาดยังเผชิญกับปัญหาที่ Community Bancorp ผู้ให้กู้ระดับภูมิภาคในนิวยอร์ก ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
ขณะนี้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อทำความเข้าใจเส้นทางอัตราดอกเบี้ยให้ดียิ่งขึ้น
คาดว่าทองคำจะลดลงจนถึงปี 2020 วันนี้ราคาทองคำวันนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยซื้อขายทองคำ Spot ที่ 2,030.87 USD/ออนซ์ การเพิ่มขึ้นของมูลค่าโลหะมีค่าเกิดขึ้นพร้อมกับดัชนีดอลลาร์ที่ลดลงเล็กน้อย 0.1% ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากการลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์อ้างถึงคำแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ เจ้าหน้าที่เหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนมีนาคมได้ผ่อนคลายลง โดยมีโอกาสอยู่ที่ 55%
เมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2021 การมองโลกในแง่ดีของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนี้มีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้จ่าย การใช้จ่ายและการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำและภาคการเงินอื่นๆ
นักลงทุนมักจะหันมาใช้ทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ทำให้การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของโลหะมีค่า . ในขณะที่ตลาดยังคงยอมรับจุดยืนที่ระมัดระวังของเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ราคาทองคำล่วงหน้า ก็ฟื้นตัวเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนในสินทรัพย์ในฐานะสวรรค์ ซ่อนไว้อย่างปลอดภัย
เมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและการตัดสินใจนโยบายของ Fed ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดจะติดตามผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
คาดว่าทองคำจะยังคงลดลงในวันนี้สัปดาห์นี้ ตลาดจะติดตามความผันผวนของ USD อย่างใกล้ชิด คาดว่า USD จะมีความผันผวนมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางรายใหญ่ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะคงท่าทีที่เป็น Dovish แต่ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาก็คาดว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจหลังจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนธันวาคม ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าความผันผวนของ USD และทองคำจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สัปดาห์ที่แล้วที่ World Economic Forum ในเมืองดาวอส (สวิตเซอร์แลนด์) สมาชิก ECB คัดค้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด นโยบาย "เหยี่ยว" ของ ECB สามารถสร้างแรงกดดันต่อ USD และสนับสนุนราคาทองคำในอนาคตอันใกล้นี้
นักลงทุนต่างตั้งตารอข้อมูลเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยในวันศุกร์อย่างใจจดใจจ่อ นักวิเคราะห์กล่าวว่าหากรายงานแสดงให้เห็นว่าดัชนีการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (มาตรการเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ) ไม่ลดลงตามที่คาดไว้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ทองคำโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รอสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร (23 มกราคม) เนื่องจากนักลงทุนรอชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้เพื่อค้นหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานของธนาคารกลางสหรัฐในการลดอัตราดอกเบี้ย US (Fed)
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 23 มกราคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,025.09 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,025.8 USD/oz
“ตลาดทองคำอยู่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ และดูเหมือนว่าจะเป็นตลาดที่เป็นกลาง” Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าว ทุกครั้งที่ราคาเริ่มสูงขึ้น ราคาก็กลับลดลง”
จุดสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงาน PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯ ในวันที่ 24 มกราคม ประมาณการ GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 25 มกราคม และข้อมูลการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลของ PCE ในวันที่ 26 มกราคม /01
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่เฟดกล่าวว่าธนาคารกลางต้องการข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย และกำหนดเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มในไตรมาสที่สามของปี 2567
ตามเครื่องมือ CME FedWatch ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุมนโยบายในวันที่ 30-31 มกราคม และเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกออกไป
Michael Hewson หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดของ CMC (HM:CMG) Markets กล่าวว่า “การฟื้นตัวของทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ดูเหมือนจะอ่อนตัวลง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะลดลงอีกหากธนาคารกลาง รัฐบาลกลางยังคงผลักดันความคาดหวังของตลาดในการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ”
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประชุมในวันที่ 25 มกราคม และคาดว่าจะคงนโยบายการเงินไว้ได้
ในด้านกายภาพ อินเดียได้เพิ่มภาษีนำเข้าทองคำและเงินที่ใช้ทำเครื่องประดับ
อาจมีการเหวี่ยงทำราคา ขึ้นมาทดสอบต้านสำคัญ ที่2038.07 มุมมองส่วตัวทองคำวันนี้ 26/1/24
ศุกร์หรรษษวันนี้ อาจมีการเหวี่ยงทำราคา
ขึ้นมาทดสอบต้านสำคัญ ที่2038.07
จุดทดสอบสำคัญ ถ้าผ่านอาจไปได้ถึง 2048
ถ้าไม่ผ่าน รับเติม2002 (ถ้าข่าว20.30 และ 22.00
ออกมาตามคาดการณ์หรือดีกว่าคาดการณ์ก็
เด้งSell ทุบแบบไม่ต้องสงสัย
อย่างไหร่ก้ตามระหว่างวัน
ระวังการดันราคาขึ้นเพื่อเทขายของ
กองทุน และทั้งนี่ทั้งนั่นให้
รอดู confirm จากข่าวและดูvolume
จากตลาต ส่วนถ้ามีสัญญานการเทรด
จะส่งให้อีกครั้ง เฉพาะกลุ่มvip)
#เทรดดีมีกำไรMMบริหารพอร์ตดีๆนะคะ
คาดการณ์ทองคำสัปดาห์นี้ - สัปดาห์หน้าทองคำในสัปดาห์นี้และยาวจนถึงสัปดาห์หน้า
ส่วนตัวคาดการณ์ว่าทองคำราคายังสามารถลงไปได้อีก โดยโซนราคาที่น่าจับตามอง 2024-2028 เป็นโซนที่น่าพิจารณาเข้า SELL และถ้าราคาเบรค2036ได้=ขึ้นต่อ
ผลสรุป ทองคำ
ยังสามารถลงต่อได้ ฝั่งSELL ยังได้เปรียบ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ไม่ได้ชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด ❗️
ปล. การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาก่อนลงทุนนะครับ📈
ดาวโจนส์กลับสูงขึ้น; ข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม คำพูดของ Fed กำลังจหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐซื้อขายกันสูงขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี แต่การเพิ่มขึ้นจะถูกจำกัด เนื่องจากความกังวลว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย .
เมื่อเวลา 06:25 ET (11:25 GMT) สัญญา Dow Jones ขึ้น 55 จุดหรือ 0.2% S&P 500 ซื้อขาย 15 จุดหรือ 0.3% สูงกว่า และ Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 100 จุด เท่ากับ 0.6 %
ดัชนีสำคัญๆ ของสหรัฐฯ ปิดตัวลงเมื่อวันพุธ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายปลีกในเดือนธันวาคมที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าสุขภาพของผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงฟื้นตัวได้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อล่าสุดและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 100 จุดหรือ 0.3% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq Composite ร่วงลง 0.6% ทั้งคู่
เจ้าหน้าที่ของเฟดพยายามที่จะควบคุมความคาดหวังสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีท่าทีผ่อนคลายในเดือนธันวาคมทำให้ตลาดมีความหวังมากขึ้น
มีข้อมูลทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จะสรุปในวันพฤหัสบดี ในรูปแบบของการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เช่นเดียวกับใบอนุญาตที่อยู่อาศัยและอาคารใหม่ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดความต้องการที่สำคัญในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาดูการเปิดเผยดัชนีจากธนาคารกลางสหรัฐแห่งฟิลาเดลเฟีย ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของภาคการผลิตของสหรัฐฯ
Raphael Bostic ประธานเฟดแอตแลนตาก็คาดว่าจะพูดเช่นกัน และนักลงทุนจะได้เห็นว่าเขาหารือถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเขาหรือไม่
มีแนวโน้มที่จะลดพนักงานที่ Google (NASDAQ:GOOGL) มากขึ้น ในภาคองค์กร Google ที่เป็นเจ้าของโดย Alphabet (NASDAQ:GOOG) มีแนวโน้มที่จะลดจำนวนพนักงานต่อไป The Verge รายงานว่า CEO Sundar Pichai ระบุว่าการลดตำแหน่งงานจะไม่ใหญ่เท่าปีที่แล้ว แต่มีความจำเป็นเพื่อช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงานและเพิ่มความเร็วในบางพื้นที่
หุ้นของ Discover Financial Services (NYSE:DFS) ลดลงมากกว่า 10% ก่อนเปิดตลาด หลังจากที่บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินรายงานผลประกอบการรายไตรมาสดีกว่าที่คาด แต่เปิดเผยการสอบสวนโดย Insurance Group Federal Deposits
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดีเนื่องจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ หยุดชะงักท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสูง
เมื่อเวลา 06:25 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าซื้อขายสูงขึ้น 0.6% อยู่ที่ 72.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่สัญญาเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 78.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สภาพอากาศในฤดูหนาวในรัฐนอร์ทดาโคตาของสหรัฐอเมริกาส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันลดลง 650,000 ถึง 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตปกติ ซึ่งสนับสนุนตลาดโดยรวม
นอกจากนี้ ปากีสถานยังเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธตอบโต้อิหร่าน หลังจากที่อิหร่านก่อเหตุโจมตีในปากีสถานเมื่อวันอังคาร ขณะที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขู่ว่าจะขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบ
ทองคำกำลังรอข่าวว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงในปี 2553ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพุธ ก่อนที่นักลงทุนจะตั้งคำถามถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงต้น
จุดสนใจส่วนใหญ่อยู่ที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในเดือนธันวาคม
ราคาทองคำร่วงลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเทรดเดอร์เริ่มกังวลว่า Fed อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ไม่ว่าจะเป็นในเดือนมีนาคม 2024 มุมมองนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังสร้างแรงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม โลหะสีเหลืองสามารถรักษาระดับไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หลังจากที่ทะลุระดับนี้ไปได้สบาย ๆ ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ราคาทองคำก็เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในปี 2023
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,029.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือนกุมภาพันธ์ทรงตัวที่ 2,034.65 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 00:28 ET (05:28 GMT)
ข้อมูล CPI ที่ครบกำหนดในวันพฤหัสบดีคาดว่าจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนธันวาคม อัตราเงินเฟ้อคงที่พร้อมกับสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดแรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้ห้องเฟดสามารถคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น
นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดกำลังลดการปรับลดเดิมพันว่า Fed สามารถเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนมีนาคม 2567 เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของ Fed CME เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25 จุดซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคมโดยมีผลการดำเนินงาน 63.6% ลดลงจาก 69.6% % โอกาสที่เห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่าในที่สุดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 แต่ก็ให้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนถึงขณะนี้ธนาคารกลางยังคงรักษาแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเงินเฟ้อเป็นส่วนใหญ่ในการลดอัตราดอกเบี้ย
วัตถุประสงค์ที่สูงขึ้น ทำให้เกิดต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในทองคำซึ่งไม่ได้ผลกำไร การค้าขายนี้ได้กดดันโลหะสีเหลืองในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยการเพิ่มขึ้นของทองคำอย่างต่อเนื่องชี้ไปที่ความคาดหวังของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในปี 2024
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงขยับขึ้นในวันพุธหลังจากลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในปีนี้
ฟิวเจอร์สที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 3.7717 ดอลลาร์ต่อปอนด์ แต่การซื้อขายลดลงมากกว่า 2% ในปี 2567