ทองกราฟขึ้นไม่สุด…แต่จุด Short อาจสุดใจ xau/usd 4H"กราฟขึ้นไม่สุด…แต่จุด Short อาจสุดใจ 💔📉"
🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
✅ แนวโน้มล่าสุด:
TF 4H → ยังคงเป็นโครงสร้าง Bearish ชัดเจน: HH → LH → BOS → CHoCH ย้ำฝั่ง Sell
TF 1H → แกว่งในขอบบน Premium Zone ใกล้ PDH โดย RSI มี Bearish Divergence
❗ สถานการณ์ปัจจุบัน:
ราคากลับมาทดสอบ EQ ของ OB H1
RSI TF 15m และ 5m เกิด Bearish Divergence และ เบรก Low ย่อยใน 5m = BOS แล้ว
📍Bias: Bearish (ตาม HTF ยังไม่มีการเบรกโครงสร้างหลักกลับขึ้น)
⏳ Liquidity:
มี Sell-side Liquidity ค้างอยู่ด้านล่างแถว ~3210 และ 3180 (Weak Low)
ข้างบน PDH และ EQH เก็บหมดแล้ว = เคลียร์ Buy-side ไปแล้ว
🧭 พฤติกรรมราคา:
ราคาทดสอบกลับขึ้น Premium แล้ว Reject + RSI Bear Divergence ใน TF 5m, 15m
มี BOS LTF = บอกว่าฝั่ง Buy จบ Cycle รอบสั้น
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟩 Buy POI:
3180–3160 OB เก่า + Discount Zone TF 1H (Weak Low)
🟥 Sell POI:
บริเวณ 3235–3245 (OB บน + Equilibrium + RSI เบรก Divergence)
โซนที่ราคาปฏิเสธซ้ำซ้อนหลายรอบใน HTF
🧭 3. วางแผนเทรด
📉 แผน A: Short จาก Premium Zone
✅ Bias: Bearish
✅ Entry1: 3,231.5 (เข้าเมื่อเบรก BOS LTF แล้ว Pullback)
✅ Entry2: 3,234.5 (ทดสอบ EQ OB H1)
❌ SL: 3,246.5 (เหนือ Strong High)
🎯 TP1: 3,204.5 (Low ก่อนหน้า)
🎯 TP2: 3,182.0 (Weak Low + Liquidity)
🔥 R:R: ประมาณ 1:2.5 – 1:4 ขึ้นกับจุดเข้า
💡 Trigger:
รอให้ 5m / 15m ปิดแท่ง bearish + confirm BOS
RSI ต้องตัดลงหรือมี divergence ยืนยัน
📈 แผน B: Long
✅ Bias: ถือว่าเป็นแผนสำรองเท่านั้น
✅ Entry: 3,182–3,172 (discount zone)
❌ SL: 3,155
🎯 TP1: 3,204
🎯 TP2: 3,230
🔥 R:R: ประมาณ 1:2
💡 Trigger: ต้องมี SFP + RSI Divergence + BOS ย่อยใน 5m
📉 แผน C: Hold / รอชัดเจน
เนื่องจากราคาทำ LH แล้วกลับลง แผน C แนะนำ งด Long ตรงนี้ เพราะไม่คุ้ม Risk
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
✅ Short จาก 3,231–3,235: 75%
→ RSI Divergence + BOS + OB HTF
✅ Long จาก 3,182–3,172: 50%
→ ต้องรอ Confirm ว่าราคาไม่ทะลุ Weak Low
✅ Hold / รอเข้าใหม่: 25%
→ ไม่ค่อยคุ้ม เพราะเข้าเสี่ยงตอนกลางกรอบแล้ว
📌 5. บทสรุป
🔹 โครงสร้างหลัก: Bearish (TF 4H ยังเป็น LH และยังไม่มีเบรกขึ้น)
🔹 โครงสร้างรอง: LTF เริ่มมี BOS ลง → ชี้ไปฝั่ง Short
🔹 เน้นความแม่นยำสูงสุด: Short จาก Premium Zone + Confirm LTF BOS
🔧 แนะนำเสริม:
สังเกต RSI 5m ถ้ามี Hidden Bear / Reject ที่ 50 = เป็นจุดเข้าดี
ใช้ EMA 34 / 89 / 200 เป็นแนวต้านเสริม Entry
🧩 สรุปสุดท้าย – แผนแนะนำ:
Short จากโซน 3231–3235 โดยตั้ง SL ไว้เหนือ 3246 / TP ที่ 3204 และ 3180 แบบ Split TP
#บันทึกเทรดน้า #roongee #playbooksmc
Xauusdupdates
ทองคำใน H4 เกิดรูปแบบ Triangle ราคารอเลือกข้างรุนแรง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) อ่อนค่าลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้ตนติดต่อกัน 2 วัน โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ความรู้สึกไม่ยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ความต้องการโลหะที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ในขณะที่ซื้อขายที่ระดับ 3,325 ดอลลาร์ก่อนตลาดปิดทำการ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนการประชุมระดับสูงระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯ และจีนในสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ว่าความหวังในการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้ายังคงสูง แต่ความไม่แน่นอนยังคงครอบงำความรู้สึกดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยังได้จุดชนวนความกังวลด้านการค้าอีกครั้ง โดยระบุบนโซเชียลมีเดียว่า “ภาษีนำเข้าจากจีน 80% ดูเหมาะสมแล้ว! ขึ้นอยู่กับสก็อตต์ บี”
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำชะลอตัวลง เริ่มสะสมมากขึ้น การเจรจาการค้าจะเกิดขึ้นมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงกดดันในการขายในอนาคตอันใกล้
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025 ระบุได้ดังนี้:
แนวต้าน: 3,402 ดอลลาร์ 3,435 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,282 ดอลลาร์ 3,202 ดอลลาร์
แนวโน้มทางเทคนิค:
📈ราคาทองคำดีดตัวกลับเหนือ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากหลุดต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อบ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาซื้อ โดยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่าโลหะที่ไม่คืนตัวนี้อาจทดสอบระดับแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 3,350 ดอลลาร์ และกำลังจะไปถึง 3,400 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน ทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อไปอีกหากปิดตลาดรายวันต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเผยให้เห็นจุดต่ำสุดของรอบวันที่ 1 พฤษภาคมที่ 3,202 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???H1 Gold 9/5/2025
📊 แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???
ราคาทองคำฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนเล็กน้อยใน หลังจากที่ร่วงลงในรอบการซื้อขายเอเชียสู่ระดับ 3,275-3,274 เหรียญสหรัฐฯ และสามารถไต่ระดับเหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายวัน และกลับมายืนเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่บริเวณชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนว่าจะถูกจำกัดโดยความรู้สึกด้านความเสี่ยงที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยความหวังใหม่ที่มีต่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-อังกฤษ และการเริ่มต้นการเจรจาภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วงสุดสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน ความหวังว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมกับประเทศอื่นๆ ช่วยบรรเทาความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการแข็งค่าในวันพุธ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน ซึ่งอาจช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวที่มีความหมายของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนได้ ในขณะนี้ เทรดเดอร์ต่างรอคอยที่จะฟังคำปราศรัยของสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
⌛อย่างไรก็ตามทองคำดูเหมือนว่าจะพร้อมที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
🔽ราคาทองคำจำเป็นต้องอ่อนตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 3,262-3,258 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนแนวโน้มขาลงต่อไป
จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายลงของแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ในช่วงข้ามคืนและกลายเป็นแนวรับ และร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันศุกร์นั้นส่งผลดีต่อแนวโน้มขาลงของทองคำ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้มขาลงนี้ ซึ่งในทางกลับกันก็ควรระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลง และบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจพบแนวรับบางส่วนใกล้โซนแนวนอน 3,262-3,258 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การขายตามหลังบางส่วนน่าจะช่วยเปิดทางให้ราคาทองคำร่วงลงสู่แนวรับกลางที่ 3,223-3,222 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน ราคาสูงสุดในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,324 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคทันที การเคลื่อนตัวขึ้นต่อไปอาจดึงดูดผู้ขายบางรายและจำกัดราคาทองคำให้อยู่ใกล้แนวต้านคงที่ 3,360-3,365 ดอลลาร์ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่าแนวต้านดังกล่าว จะทำให้กลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับขึ้นต่อไปใกล้ระดับ 3,434-3,435 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตัมขาขึ้นสะสมกำลัง ราวรอบๆ 3400📊ราคาทองคำ กลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า โดยดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา และฟื้นตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในเร็วๆ นี้ โดยระบุว่าเขาไม่รู้สึก "เร่งรีบ" ที่จะสรุปข้อตกลง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งทางการทหารที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอินเดียและปากีสถาน ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
💬ความเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงฟื้นตัวได้ดีที่บริเวณ 3400 คำกล่าวของ FED ค่อนข้างปานกลาง ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า ตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ในเชิงบวก
⚙️การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
📊ปัจจัยทางเทคนิคอล
ราคาทองคำอาจมุ่งทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง เมื่อผ่านแนวต้าน 3,438-3,440 ดอลลาร์ไปได้
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การเกิดการซื้อใหม่บริเวณแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ที่เปลี่ยนเป็นแนวรับและการเคลื่อนตัวขึ้นที่ตามมา ส่งผลดีต่อขาขึ้นของทองคำ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงอยู่ในเขตบวกอย่างสบายๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวต้านที่น้อยที่สุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การซื้อตามหลังบางส่วนที่เกินระดับ 3,433-3,436 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์ จะช่วยยืนยันแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้ง และช่วยให้สินค้าโภคภัณฑ์สามารถทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง และพยายามอีกครั้งเพื่อพิชิตระดับทางจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์
🔽ในทางกลับกัน บริเวณ 3,365-3,360 ดอลลาร์อาจทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทันที ก่อนที่จะถึงบริเวณ 3,328-3,327 ดอลลาร์ และรอบ 3,300 ดอลลาร์ การทะลุลงต่ำกว่าบริเวณหลังนี้จะทำให้แนวโน้ม เชิงบวกในระยะใกล้หายไป และกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิค แนวโน้มขาลงอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งไปที่แนวรับระยะกลางที่ 3,265-3,260 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 3,223-3,222 ดอลลาร์ และจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 33025/7/2525
📊ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 3302
ราคาเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มเชิงบวก โดยพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,272 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียของวันนี้ โดยความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดังกล่าว ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ประกอบกับความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นใหม่ในตะวันออกกลาง ยังคงทำให้ความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับวาระด้านภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้ทองคำยังคงน่าดึงดูดใจในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงเวลาที่ไม่มั่นคง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำคงยังคงสะสมกำลังต่อไป แล้วมีแอมพลิฟายเออร์ต่ำในช่วงต้นสัปดาห์ ยังรอข้อมูลอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ก่อน
🕯ปัจจัยทางเทคนิค
หลังทองคำทะลุ 3,263/59 จนไปถึงเป้าหมาย และเจอแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3,220/3,210 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มผู้ซื้อ ที่ระดับราคา 3220/3210 นั้นก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน เนื่องจากได้บรรลุเป้าหมาย 3 จุดของเราที่ 3233/36 และ 3245/50 และ 3265 เรียบร้อยไปแล้ว
ปัจจุบันเราอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะสั้นเนื่องจากราคาปรับตัวลงสู่สภาวะซื้อมากเกินไป หลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงต้นเดือนเมษายน สัญญาณเตือนก่อนแล้วว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
ปัจจุบันแนวต้านแข็งแกร่งที่ 3,270/75 ที่ทดสอบไปเมื่อเช้านี้
แต่การขายในระดับดังกล่าวควรกำหนดจุดตัดขาดทุนระยะสั้นที่ 3,285 / 3310 /3325 (Sl) ตามระดับ
เป้าหมายขาลงยังคงวางไว้ที่ : 3260, 3250, 3240.
แนวรับที่แข็งแกร่งที่ 3215/3202 ในวันนี้ ส่วนผู้ซื้อต้องหยุดซื้อที่ต่ำกว่า 3193
💬อย่างไรก็ตาม การหลุดต่ำกว่า 3,193 ถือเป็นสัญญาณขาย (และมีแนวโน้มว่าเราจะเห็นการทะลุลงต่ำกว่านี้ในช่วงสัปดาห์นี้) โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นที่ระดับ 3,170/65
การหลุดต่ำกว่า 3,160 จะเป็นสัญญาณขายครั้งต่อไป และอาจร่วงลงไปถึง 3,125/20 เพื่อทำกำไรจากการขายชอร์ต
ระหว่างแนวรับที่ 3,215/3,205 และแนวต้านที่ 3,270/75 นั้นไม่มีพื้นที่ซื้อขายที่ชัดเจน ดังนั้นเราจึงต้องอดทน
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน🔜วิเคราะห์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 05/05/2025 - 05/09/2025
💬ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน
แรงกดดันต่อทองคำมีความเข้มข้นขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราสังเกตเห็นว่าการปรับฐานในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์
ต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงขาขึ้น ในขณะที่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงขาลงซึ่งกำลังทดสอบระดับ 3,200 ดอลลาร์ การย่อตัวครั้งนี้ทำให้ราคากลับมาอยู่ที่บริเวณการรวมตัวในช่วงกลางเดือนเมษายน หากตลาดยังคงเคลื่อนไหวลงมาในระดับเดียวกัน จุดตัดขาดทุนถัดไปจะเป็นบริเวณ 2,900 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ราคาจะซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดการพังทลายของแนวโน้มขาขึ้น การเร่งขาย(Panic sell)อาจทำให้ราคาปรับตัวลงมาที่บริเวณ 2,600-2,700 ดอลลาร์ได้อย่างรวดเร็ว
🌐สถานการณ์ล่าสุด
ทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงมากกว่า 0.35% ในวันศุกร์ และมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงมากกว่า 2.5% เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่คลี่คลายลงและข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ลงทุนมีความอยากเสี่ยงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนี้ จากการตรวจสอบล่าสุด ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,226 ดอลลาร์ โดยร่วงลงจากระดับสูงสุดระหว่างวัน 3,269 ดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังยืนยันว่าสหรัฐฯ แสดงความเต็มใจที่จะกลับมาหารือเรื่องภาษีศุลกากรอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ย้ำว่าปักกิ่งยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
💵สัปดาห์นี้ผู้ค้าทองคำกำลังจับตาการเผยแพร่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางของสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
💡มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงในระยะสั้น โดยยังขาดแรงผลักดันที่จะปรับขึ้นในระยะใกล้ ราคาเคลื่อนไหวภายในกรอบประมาณ 3200 - 3350
⚙️ ในทางเทคนิค:
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น แต่มีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
⌛ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่า 3,250 ดอลลาร์ หลังจากผู้ซื้อขายพยายามจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 3,270 ดอลลาร์แต่ไม่สำเร็จ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) แสดงให้เห็นว่าผู้ขายกำลังเร่งตัวขึ้น ดังนั้น ราคาทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
จากผลลัพธ์ดังกล่าว แนวรับถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 3 เมษายน ซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ 3,167 ดอลลาร์ เมื่อทะลุแนวรับนี้แล้ว จุดหยุดถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,080 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อยกราคาทองคำขึ้นเหนือ 3,300 ดอลลาร์ ก็จะเปิดทางให้ราคาทองคำท้าทาย 3,350 ดอลลาร์ และตามด้วย 3,400 ดอลลาร์
🕯ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3285, $3316, $3355
แนวรับ: $3202, $3155, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
เส้นแนวโน้มขาลง H4 กำลังแสดง🕯วิเคราะห์ราคาทองคำกัน ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
การปรับฐานจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะรุนแรงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลง
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ (XAU/USD) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,500 ดอลลาร์ในการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวันอังคาร ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ โดยลบกำไรจากวันพฤหัสบดีและหลุดต่ำกว่าเกณฑ์ 3,300 ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะลดลงก็ตาม ความตึงเครียดในข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงมากกว่า 1.6%ความคืบหน้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญที่เผยแพร่โดยสหรัฐฯ อาจผลักดันมูลค่าของทองคำในระยะใกล้
อารมณ์ของตลาดยังคงเปราะบาง โดยแกว่งตัวไปมาระหว่างโหมดเสี่ยงและโหมดเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความคิดเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ บลูมเบิร์กรายงานว่าจีนกำลังพิจารณายกเว้นภาษีสินค้าบางรายการของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความหวัง อย่างไรก็ตาม อารมณ์กลับแย่ลงหลังจากที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกภาษีกับจีนหากไม่ประนีประนอมอย่างมีนัยสำคัญ
🙂สัปดาห์นี้นักลงทุนทองคำให้ความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลของสหรัฐฯ
สำนักงานวิเคราะห์ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (BEA) จะเผยแพร่ประมาณการครั้งแรกเกี่ยวกับ การเติบโตของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรก โดยตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราต่อปี 0.4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ช้ากว่ามากเมื่อเทียบกับการขยายตัว 2.4% ที่บันทึกไว้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
ตัวเลข GDP ที่เป็นลบอาจกระตุ้นให้เกิดการเทขาย USD ทันทีและส่งผลให้ XAU/USD ปรับตัวสูงขึ้น ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME ตลาดแทบไม่เห็นโอกาสที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ขณะที่มีโอกาสเกือบ 40% ที่ Fed จะคงนโยบายเดิมในเดือนมิถุนายน ข้อมูลการเติบโตที่น่าผิดหวังอาจส่งผลต่อการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนมิถุนายน ในทางกลับกัน USD อาจได้รับประโยชน์จากตัวเลขที่ 1% ขึ้นไป และบังคับให้ค่าเงินคู่นี้ปรับตัวลดลง
ในวันศุกร์ นักลงทุนจะจับตาดูรายงานการจ้างงานเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของ ตลาดแรงงาน ประธานเฟดมินนิอาโปลิส นีล คาชคารี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าเขากังวลว่าธุรกิจต่างๆ อาจเริ่มเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากความขัดแย้งทางการค้า ในทำนองเดียวกัน คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวกับบลูมเบิร์กว่าเขาจะไม่แปลกใจหากเห็นการเลิกจ้างเพิ่มขึ้นและอัตราการว่างงานสูงขึ้น "วิธีที่ง่ายที่สุดในการชดเชยต้นทุนภาษีศุลกากรคือการลดจำนวนพนักงาน" วอลเลอร์กล่าว
ดังนั้น การที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ออกมาต่ำกว่าหรือต่ำกว่า 100,000 อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และช่วยให้XAU/USDปรับตัวสูงขึ้นก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในทางกลับกัน อัตราการว่างงานที่ลดลง ประกอบกับตัวเลข NFP ที่แข็งแกร่งที่สูงกว่า 200,000 อาจทำให้ตลาดเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และส่งผลให้คู่เงินนี้ปรับตัวลดลง
ผู้เข้าร่วมตลาดจะประเมินพัฒนาการใหม่ๆ เกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วยเช่นกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอยกลับและตัดสินใจที่จะหยุดหรือลดภาษี ทองคำอาจต้องดิ้นรนเพื่อหาอุปสงค์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
👀มุมมอง:
ข่าวการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในสุดสัปดาห์นี้จะยังคงสร้างแรงกดดันการขายให้กับราคาทองคำในสัปดาห์หน้า โดยเคลื่อนตัวตามแนวเส้นแนวโน้มขาลง H4
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025 จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3358, $3500, $3600
แนวรับ: $3211, $3150, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอโชคดีทุกคน
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงกระตุ้นให้ราคาทองคำพุ่งสูง✍️ วิเคราะห์ราคาทองคำประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 21/04/2025 - 25/04/2025
ทองคำ (XAU/USD) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น แต่กลับมีโมเมนตัมขาขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จนแตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 3,350 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และยังปิดสัปดาห์ด้วยฐานที่แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2.79% โดยโลหะมีค่าพุ่งขึ้นเกือบ 90 ดอลลาร์ ท่ามกลางความอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ (USD) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของการค้าโลกที่ยังคงมีอยู่ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ XAU/USD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,326 ดอลลาร์
แม้จะแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 3,358 ดอลลาร์ แต่การพุ่งขึ้นก็ค่อนข้างชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ซื้อขายล็อกกำไรก่อนวันหยุดอีสเตอร์ที่ยาวนานขึ้น โดยตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ปิดทำการ ในขณะเดียวกัน ผลตอบแทนที่แท้จริงก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดแรงต้านเล็กน้อย
ในด้านนโยบาย แมรี่ เดลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าบางส่วนจะแสดงสัญญาณชะลอตัว เธอย้ำว่านโยบายการเงินยังคงเข้มงวดเพียงพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกันก็แนะนำว่าอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางอาจเพิ่มขึ้น
🔥 ความเห็นเพิ่มเติม:
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างมาก การปรับฐานในระยะสั้นทำให้ราคาทองคำสะสมมากขึ้นและยังคงแตะจุด ATH ใหม่ ภาษีศุลกากรตึงเครียด ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง: มุ่งเป้าไปยัง 3383, 3403
📊 ปัจจัยทางเทคนิค ::
ราคาทองปิดสัปดาห์โดยอยู่เหนือระดับสูงสุดของช่องทางการถดถอยแบบขาขึ้นซึ่งมีอายุ 4 เดือนอย่างมาก และตัวบ่งชี้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันยังคงอยู่เหนือระดับ 70 แม้ว่าจะมีการย่อตัวลงในวันพฤหัสบดี ซึ่งเน้นย้ำถึงสภาวะซื้อมากเกินไป
📈ในทางกลับกัน 3,358 ดอลลาร์ (ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์) จะเป็นแนวต้านสำคัญก่อน 3,400 ดอลลาร์ (ระดับรอบ) และ 3,500 ดอลลาร์ (ระดับรอบ)
📉ในกรณีที่ XAU/USD เริ่มปรับตัวลดลงจากอารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น แนวรับแรกอาจอยู่ที่ 3,300 ดอลลาร์ (ระดับรอบ ขีดจำกัดบนของช่องทางขาขึ้น) ก่อน 3,250 ดอลลาร์ (ระดับคงที่ แนวต้านเดิม) และ 3,200 ดอลลาร์ (ระดับรอบ จุดกึ่งกลางของช่องทางขาขึ้น)
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: $3360, $3383, $3403
แนวรับ: $3236, $3155, $3050
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำ วางแผนเทรดโดยอิงจาก SMC + RSI Divergence XAUUSDมาดูการวางแผนเทรดโดยอิงจาก SMC + RSI Divergence 🔍
🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
✅ แนวโน้มล่าสุด: เทรนด์ขาลงชัดเจน (LL → LH → BOS)
❗ สถานการณ์ปัจจุบัน:
มี Bullish Divergence บริเวณ RSI และราคาทำ LL ใหม่
เกิด CHoCH + BOS รอบล่าสุด → มีแรงดีดกลับขึ้นจากโซน Discount
ราคากำลังเข้าใกล้ Equilibrium zone (โซนกลางของ premium-discount)
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟩 Buy POI (โซนซื้อ):
Discount Zone : บริเวณ 2950–2975
Demand Zone ที่เกิด BOS + FVG ล่าสุด
🟥 Sell POI (โซนขาย):
OB Zone บริเวณ 3040–3060 (Premium Zone ใกล้ Weak High)
CHoCH Zone ที่ถูกเบรกกลับรอบล่าสุด
🧭 3. วางแผนเทรด
📈 แผน A: Long จาก Demand + Bullish Divergence
✅ Bias: Long
✅ Entry: 2970–2980
❌ SL: ใต้ Weak Low ที่ 2945
🎯 TP1: 3035
🎯 TP2: 3055
🔥 R:R ประมาณ 1:3 – 1:4
💡 Trigger: Confirmation CHoCH บน TF เล็ก + RSI Break 50
📉 แผน B: Short เมื่อราคามาถึง OB Premium
✅ Bias: Short
✅ Entry: 3040–3060
❌ SL: 3070
🎯 TP1: 3000
🎯 TP2: 2970
🔥 R:R ประมาณ 1:2 – 1:3
💡 Trigger: Bearish RSI Divergence + CHoCH ลงบน M5
📉 แผน C: Hold, ยังไม่เข้าเทรด
หากราคาอยู่กลาง Equilibrium (2995–3020) โดยไม่มี Confirmation
R:R ไม่คุ้มค่า
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
กลยุทธ์ ความเป็นไปได้ ความเห็นเสริม
✅ Long จาก Demand Zone 70% มี Divergence + BOS หนุน
✅ Short จาก OB Premium 60% ต้องรอ Bearish Confirm
📌 5. บทสรุป:
🔹 โครงสร้างหลัก: เปลี่ยนจาก Downtrend → พักตัว
🔹 โครงสร้างรอง: เริ่มมีแรงซื้อกลับจาก Weak Low
🔹 เน้นความแม่นยำสูงสุด: รอ Confirmation จาก RSI หรือ CHoCH
🔹 หากจะเข้า: ให้รอแท่งยืนยันใน POI พร้อม R:R ชัดเจน
🔧 แนะนำเสริม:
เทรดบน M15-M5 แล้วอิง OB จาก H1 จะช่วยให้ Entry แม่นยำมากขึ้น
ใช้ RSI ประกอบในจังหวะ Divergence เพื่อความมั่นใจ
🧩 สรุปสุดท้าย – แผนแนะนำ:
✅ เข้าซื้อบริเวณ Demand Zone แล้ว Partial TP ก่อนเจอ OB Premium
หรือ
✅ เตรียมเข้า Short ที่ OB Premium ถ้าเกิด Bearish Setup
ช่วยกดติดตามด้วยนะ ผมจะมาวิเคราห์กราฟ ด้วยระบบSMC
#smcลึกแต่เข้าใจง่าย #เทรดแบบไม่โดนแดก #oakmastertrader #บันทึกเทรดน้า
ราคาทองคำก็เริ่มเย็นลง กลับสู่ระดับ 3,000💬พยากรณ์ทองคำรายสัปดาห์ 07/04/2025 - 11/04/2025
: การปรับฐานรุนแรงขึ้นหลังจากการประกาศภาษีของทรัมป์สร้างสถิติใหม่ ราคาทองคำก็เริ่มเย็นลง กลับสู่ระดับ 3,000
ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจากปฏิกิริยาเบื้องต้นต่อการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ (US) เมื่อวันพุธ และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,168 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์ นักลงทุนจะยังคงจับตาดูข่าวที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าและให้ความสนใจข้อมูลเงินเฟ้อจากสหรัฐอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของจีนประกาศว่าจีนจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด 34% ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เพื่อเป็นการตอบโต้ และทองคำก็ฟื้นตัวขึ้นเหนือ 3,100 ดอลลาร์หลังจากข่าวนี้ ต่อมาในช่วงค่ำ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้นจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่สดใส และบีบให้ทองคำตกอยู่ภายใต้แรงกดดันขาลงอีกครั้ง สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ รายงานว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 135,000 ตำแหน่งอย่างมาก ในช่วงเวลาดังกล่าว อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.2% ในขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 62.5% จาก 62.4%
อนึ่งความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกและส่งผลกระทบต่อแนวโน้ม อุปสงค์ของโลหะมีค่า ทำให้ราคาทองคำหันทิศทางกลับ นักลงทุนอาจมองเห็นโอกาสในการขายทำกำไรก่อนที่จะได้รับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสงครามการค้า
ก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐเจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์นั้นสูงกว่าที่คาดไว้ และอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและการเติบโตชะลอตัวลง "ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าแนวทางที่เหมาะสมสำหรับนโยบายการเงินจะเป็นอย่างไร" พาวเวลล์กล่าว และเสริมว่าภาระหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐคือการทำให้แน่ใจว่าการขึ้นราคาเพียงครั้งเดียวจะไม่กลายเป็นปัญหาเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ ราคาทองคำได้ปรับฐานลงหลังจากความเห็นดังกล่าว
นักลงทุนทองคำรอคอยข่าวภาษีศุลกากรและข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ผู้เข้าร่วมตลาดจะยังคงจับตามองการพัฒนาใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อไป หากรัฐบาลทรัมป์ถอยกลับมาและเริ่มเจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อยกเลิกภาษี นักลงทุนอาจหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งตัวเองให้รองรับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ และช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวอย่างเด็ดขาด ในทางกลับกัน ทองคำน่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากกระแสเงินทุนสำรองที่ปลอดภัย หากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสูง โดยคู่ค้าของสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรตอบโต้ของตนเอง ในขณะนี้ สามารถสันนิษฐานได้อย่างปลอดภัยว่าความผันผวนของทองคำจะยังคงสูงในระยะใกล้
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำจากความกลัวว่าจะไม่ได้เกิดประโยชน์ เริ่มแสดงสัญญาณว่าจะหยุดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ราคาทองคำจะยังคงลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 3,000 ซึ่งจะทำให้ตลาดกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญ รายสัปดาห์ 07/04/2025 - 11/04/2025
ดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 3,055 ดอลลาร์ 3,080 ดอลลาร์ 3,105 ดอลลาร์ 3,135 ดอลลาร์
แนวรับ: 2,998 ดอลลาร์ 2,953 ดอลลาร์ 2,937 ดอลลาร์ 2,900 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำกำลังทดสอบระดับ 3100 ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า✍️วิเคราะห์ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
ทองคำพุ่งทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3,100 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 3,086 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการปรับขึ้นของมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลือกใช้ หลังจากนั้น ความรู้สึกของตลาดก็บ่งชี้ว่ามั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายที่ 3,084 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.81%
บรรยากาศตลาดมีแนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากผู้ค้าเตรียมรับมือกับวันที่ 2 เมษายน ซึ่งตรงกับวันปลดปล่อยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โดยเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ทุกคันในอัตรา 25% ต่อรถยนต์ที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเริ่มเตรียมการตอบโต้ต่อมาตรการดังกล่าว
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงและมีแนวโน้มที่จะปิดสัปดาห์ด้วยการลดลง 0.11% ตามดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาโลหะมีค่า อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยได้ซื้อทองคำแท่งและเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY)
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯเปิดเผยว่าดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE) ในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนใหญ่สอดคล้องกับที่คาดการณ์ ขณะที่การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมีนาคมกลับแย่ลงไปอีก
นอกจากนี้ นางแมรี่ เดลีย์ แห่งธนาคารกลาง ซานฟรานซิ สโก กล่าวว่าเธอคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2568 และเมื่อไม่นานนี้ เธอเสริมว่าเธอจะมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อ 100% เนื่องจากความคืบหน้ายังคงเท่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ตลาดเงินได้กำหนดราคาการผ่อนคลายนโยบายของเฟดที่ 73.5 จุดพื้นฐานในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 จุดพื้นฐานจากวันก่อนหน้า ตามความน่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยใน Prime Market Terminal
สัปดาห์นี้จับตา รายการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะประกอบด้วยการประกาศภาษีของทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM ประจำเดือนมีนาคม, การเปิดรับสมัครงานแบบ JOLTS และการจ้างงานนอกภาคเกษตร
👀 มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำขยับขึ้น ต้นเม.ย. มีโอกาสจะระเบิดขึ้นต่อเนื่องเป็น NEW Ath
📊 ปัจจัยทางเทคนิค: :
แนวโน้มทางเทคนิคของราคาทองคำ: หลังจากพุ่งทะลุ 3,050 ดอลลาร์ จับตาแนวต้านถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์
📈ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,086 ดอลลาร์ และเตรียมที่จะทดสอบระดับ 3,100 ดอลลาร์ แนวโน้มดังกล่าวบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยหากราคาทองคำสามารถทะลุแนวรับ 3,150 ดอลลาร์และ 3,200 ดอลลาร์ได้ ราคาทองคำก็จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
📉เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นมีความรุนแรงมาก ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) จึงกลายเป็นซื้อมากเกินไป โดยทะลุ 70 อย่างไรก็ตาม การอ่านค่าที่รุนแรงที่สุดจะอยู่ที่ 80 ในทางกลับกัน หากร่วงลงต่ำกว่าระดับสูงสุดของเดือนมีนาคมที่ 3,057 ดอลลาร์ อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงไปที่ 3,000 ดอลลาร์
✍️ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
จากแนวต้านและแนวรับของราคา
ทองคำตามกรอบ H4 จะระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3115, $3171, $3200
แนวรับ: $3002, $2957, $2880
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
XAU/USD (ทองคำ/ดอลลาร์) ใน TF 4H วางแผนเทรดตามหลักSMC รายสัปดาห์กราฟ XAU/USD (ทองคำ/ดอลลาร์) ใน TF 4H ครับ! 📊
ตอนนี้ผมจะช่วย ตีโซน POI (Point of Interest) และ วางแผนเทรด ตามหลัก Smart Money Concepts (SMC) อย่างละเอียดให้ครับ ✅
🎯 1. วิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure - 4H)
✅ แนวโน้มปัจจุบัน: Bullish Structure (ขาขึ้น)
เกิด BOS (Break of Structure) ขาขึ้นหลายครั้ง
ราคาทำ Higher High (HH) และ Higher Low (HL) ต่อเนื่อง
ตอนนี้ราคากำลังเทสต์ Premium Zone (~3,080–3,100) ซึ่งเป็นโซนที่มีโอกาสเกิดการขาย
📊 2. โซนสำคัญ (POI) ที่ต้องจับตา
📍 A. POI สำหรับ Short (โซน Sell Zone)
Premium Supply Zone (~3,080–3,100)
เป็นโซนขายที่อยู่ในระดับ Premium Zone
ราคากำลังทดสอบโซนนี้ใกล้กับ Weak High
หากเกิด CHoCH หรือ BOS ขาลง ใน TF เล็ก (15M/1H) → เข้า Short
✅ จุดเข้า Short:
รอราคาทดสอบโซน 3,080–3,100
หากมีการเกิด CHoCH/BOS ใน LTF → เข้า Short
🔥 แผนการเทรด (Trade Plan)
📉 A. แผน Short (Sell Setup)
✅ Entry:
รอให้ราคาขึ้นไปแตะ Premium Zone (~3,080–3,100)
หากมี CHoCH หรือ BOS ขาลง ใน LTF (15M/1H) → เข้า Short
❌ SL:
วาง SL เหนือโซนที่ 3,110
🎯 TP:
TP1 = 3,000 (Equilibrium Zone) → R:R ~1:2
TP2 = 2,960 (Discount Zone) → R:R ~1:4
จุดเข้า SL TP1 TP2 R:R
3,090 3,110 3,000 2,960 1:2 / 1:4
📚 สรุปโซน POI สำหรับเทรด
🔥 โซน Short:
📍 3,080–3,100 → Premium Supply Zone (โซนขายหลัก)
📊 ความเป็นไปได้ (Probability Analysis)
📉 โอกาส Short จาก Premium Zone
✅ ราคาทำ HH และกำลังอยู่ในโซน Premium
✅ มี Weak High ที่ยังไม่ได้ถูกทะลุ
🔥 ความเป็นไปได้: 70-75%
กลยุทธ์เสริม:
ใช้ LTF Confirmation (15M/1H) เพื่อยืนยันการเข้า
เพิ่ม Trailing Stop หรือ Partial TP เพื่อล็อกกำไร
เฝ้าดู Liquidity Sweep หรือ Fakeout ก่อนเข้าเทรด
🚀 สรุปแผนแนะนำ:
✅ แผนหลัก:
Short จาก 3,080–3,100 → เป้าหมาย TP1 = 3,000 / TP2 = 2,960
✅ แผนเสริม:
เฝ้ารอดู CHoCH หรือ BOS ใน TF ย่อยเพื่อยืนยันก่อนเข้า
วาง SL ให้เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง
#smcลึกแต่เข้าใจง่าย #เทรดแบบไม่โดนแดก #oakmastertrader
ความตึงเครียดการค้าโลก ยังกระตุ้นราคาทองคำต่อเนื่อง วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
🔥 สถานการณ์:
คูเกลอร์เน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้เธอกล่าวว่านโยบายการเงินน่าจะทรงตัวไปอีกสักระยะ และมองว่าค่าจ้างเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันอีกครั้งว่าธนาคารกลางไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% จะเป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป และเตือนว่าอย่าตอบสนองมากเกินไปต่อความผันผวนของข้อมูลในระยะสั้น โดยระบุว่าเฟดมีจุดยืนที่ดีในเรื่องนโยบายการเงิน
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับภาษีศุลกากร พาวเวลล์ตั้งข้อสังเกตว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นยังคงไม่แน่นอน
🔥ความเห็น:
การสะสมกำลังเหนือระดับ 2900 เป็นสัญญาณที่ดี อนึ่งความตึงเครียดทางการค้าจะครอบคลุมทั่วโลก พร้อมส่งเสริมราคาทองคำมุ่งหน้าสู่ระดับ 3000+
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำลดลง ผู้ขายคาดการณ์ไว้ที่ 2,900 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวราบ โดยไม่สามารถทะลุระดับ 2,930 ดอลลาร์ได้ หลังจากที่ พุ่งขึ้น อย่างโดดเด่นกว่า 1.72% ในเดือนนี้ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจาก RSI ยังคงเป็นขาขึ้น
ดังนั้นแนวต้านถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ 2,950 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956 ดอลลาร์ หากทะลุแนวต้านหลังได้ ราคาจะทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคาตกลงต่ำกว่า 2,900 ดอลลาร์ ราคาจะทะลุจุดต่ำสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ 2,832 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุด 2,800 ดอลลาร์
🔥 ในทางเทคนิค: ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบระบุพื้นที่สำคัญสำคัญดังนี้:
แนวต้าน 2930, 2956 , 3000
แนวรับ 2900, 2832, 2800
XAUUSD (GOLD) H4 (ทองคำโลก)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
สัญญาณการซื้อขายข้อมูล NFP ประจำสัปดาห์นี้สวัสดีทุกคน. สัปดาห์นี้เรามีข้อมูล NFP มาวิเคราะห์อัตราต่อรองทองคำในสัปดาห์นี้กัน ระดับการสนับสนุนทองคำในปัจจุบันอยู่ที่ 2840-2830-2817
1: ในเส้น K รายวัน ตัวบ่งชี้สุ่มอยู่ในสถานะ Golden Cross ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นหลัก เส้นคู่ MACD ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นหลัก ดังนั้นเส้น K รายวันยังคงถูกครอบงำโดยขาขึ้น และแนวโน้มขาขึ้นเป็นที่โดดเด่น ในแง่ของรูปแบบ วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการทะลุขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังและเริ่มปรับตัวทีละน้อยในวันศุกร์ หากมีรูปแบบบวก 3 รูปแบบติดต่อกัน รูปแบบบวก 6 รูปแบบติดต่อกัน หรือรูปแบบบวก 9 รูปแบบติดต่อกัน ให้ระวังการลดลงและการแก้ไขในรูปแบบ
2: ในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ตัวบ่งชี้สุ่มจะอยู่ในสถานะของการยึดเกาะและเฉื่อยชั่วคราว และตัวบ่งชี้ MACD อยู่ในแนวเส้นคู่ขึ้น ทั้งสองนี้ค่อนข้างขัดแย้งกัน แสดงให้เห็นว่าจะมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระหว่างวัน ตำแหน่งแนวรับการแปลงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใน 4 ชั่วโมงปัจจุบันอยู่ที่ตำแหน่งแนวรับสามตำแหน่งคือ 2840-2830-2817
เมื่อวานเราก็เริ่มขายทองคำในระดับสูงและตอนนี้ดูเหมือนว่าแนวคิดการซื้อขายนี้จะประสบความสำเร็จ
XAUUSD (GOLD)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
ทองคำอาจท้าทาย ATH ได้เมื่อผ่านแนวต้าน 2772-2773 ได้เด็ดขาดราคาทองคำอาจมุ่งท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลได้เมื่อสามารถผ่านแนวต้าน 2,772-2,773 ดอลลาร์ได้อย่างเด็ดขาด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวในเชิงบวกของวันก่อนหน้า และแกว่งตัวขึ้นเหนือระดับ 2,760 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียในวันนี้ สัญญาณของเสถียรภาพในตลาดหุ้นเป็นปัจจัยต้านโลหะมีค่าที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงอีกครั้งและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ ส่งผลให้ การฟื้นตัวของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ลดลงจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน สิ่งนี้ควบคู่ไปกับความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ช่วยหนุนโลหะมีค่าที่ไม่มีผลตอบแทนนี้
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่เต็มใจที่จะเดิมพันอย่างก้าวร้าวเกี่ยวกับราคาทองคำ และเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลาง ซึ่งเป็นผลจากการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เป็นเวลา 2 วัน เฟดมีกำหนดจะประกาศผลการตัดสินใจในช่วงเซสชั่นอเมริกาเหนือ และคาดว่าจะยังคงยืนหยัดต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีก็ตาม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนโยบายของเฟดจะมีบทบาทสำคัญในการส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาดอลลาร์สหรัฐในระยะใกล้ และกำหนดขั้นตอนต่อไปของการเคลื่อนไหวในทิศทางของโลหะมีค่า
ในขณะเดียวกัน ความสนใจของตลาดยังคงยึดติดกับการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และช่วยผลักดันทองคำใหม่
🕯มุมมองทางเทคนิค
📈จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,720-2,725 ดอลลาร์ล่าสุดและออสซิลเลเตอร์เชิงบวกบนกราฟรายวันบ่งชี้ว่าแนวต้านต่ำสุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเหนือระดับ 2,772-2,773 ดอลลาร์จะยืนยันแนวโน้มเชิงบวกและผลักดันให้ XAU/USD ทะลุระดับ 2,786 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ที่แตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยมุ่งสู่จุดสูงสุดตลอดกาล ใกล้กับโซน 2,790 ดอลลาร์ การซื้อตามหลังบางส่วนซึ่งนำไปสู่ความแข็งแกร่งเหนือระดับ 2,800 ดอลลาร์ จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนซึ่งเห็นได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
📉ในทางกลับกัน การอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับทันทีที่ 2,755-2,753 ดอลลาร์อาจยังคงดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและยังคงอยู่ในขอบเขตจำกัดใกล้จุดต่ำสุดของรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 2,730 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อวันจันทร์ การขายตามลงมาต่ำกว่าแนวต้านที่ 2,725-2,720 ดอลลาร์ที่กลายเป็นแนวรับอาจเปิดทางให้เกิดการขาดทุนที่รุนแรงขึ้นและลากราคาทองคำไปที่บริเวณ 2,707-2,705 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,684 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง✍️ วิเคราะห์ราคาทองคำโดยพื้นที่ราคา H4 ระหว่างวันที่ 20/01/2025 - 24/01/2025
ทองคำยืนหยัดมั่นคงเหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง(Sideway)
🔥ไฮไลท์สถานการณ์สำคัญ:
⭐️ราคาทองคำร่วงลงในช่วงปลายเซสชันของตลาดอเมริกาเหนือ แต่ยังปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 0.40% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดรอพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ว่าจะซื้อขายที่ 2,701 ดอลลาร์ ลดลง 0.44% แต่ผู้ลงทุนยังคงซื้อทองคำต่อไปเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
⭐️ราคายังคงถูกขับเคลื่อนโดยภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองในสหรัฐฯ (US) แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในระดับโควตาจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผู้ซื้อทองคำแท่งก็ไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นเพื่อทำกำไรเพิ่มก่อนสุดสัปดาห์ได้
⭐️ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการเริ่มก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสองหลัก แม้ว่าใบอนุญาตการก่อสร้างจะหดตัวในเดือนธันวาคมก็ตาม ทองคำแทบไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งนำโดยยอดขายปลีกที่นำเสนอในวันพฤหัสบดี บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีความมั่นคง
⭐️ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ 6 สกุลที่เป็นคู่กัน พุ่งขึ้น 0.35% สู่ระดับ 109.34
⭐️ข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยในช่วงเซสชั่นเอเชียแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีอัตราการเติบโต 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2567 ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
⭐️เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ แสดงท่าทีผ่อนปรนนโยบาย และแสดงความเห็นว่าธนาคารกลางของสหรัฐสามารถลดต้นทุนการกู้ยืมได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น หากกระบวนการลดภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้น
⭐️ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2568 และจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
👀สัปดาห์นี้ มี รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การเปิดเผยข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และข้อมูล PMI
🕯แนวโน้มทางเทคนิค
📈ราคาทองคำลดลงเนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นมากพอก่อนสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่าผู้ซื้อต้องรักษาราคาไว้เหนือ 2,700 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถมีความหวังในการผลักดันให้ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในวันที่ 12 ธันวาคมที่ 2,726 ดอลลาร์ เมื่อทะลุผ่านแล้ว จุดหยุดถัดไปคือ 2,750 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำอาจทดสอบจุดต่ำสุดในวันที่ 13 มกราคมที่ 2,656 ดอลลาร์ จากนั้นจึงมาบรรจบกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 และ 100 วันที่ 2,639 - 2,642 ดอลลาร์
🔥 ระบุ:
ทองคำแตะแนวต้านกรอบใหญ่ที่ 2726 อ่อนตัวลงและปรับฐานลงระยะสั้น ตลาดรอรับนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์
🔥 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 2726, 2750, 2790
แนวรับ: 2656, 2642-2639
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
สัญญาณการซื้อขายทองคำที่ถูกต้องสวัสดีทุกคน. มีข้อมูล NFP ที่สำคัญมากในสัปดาห์นี้ ข้อมูลนี้จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของทองคำ มาวิเคราะห์แนวโน้มทองคำประจำสัปดาห์นี้กัน คุณยังสามารถโพสต์มุมมองของคุณเกี่ยวกับแนวโน้มของทองคำในสัปดาห์นี้ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ตำแหน่งสำคัญของทองคำปัจจุบันอยู่ที่ 2610-2584 หากสีเหลืองวันจันทร์ยังคงอยู่เหนือแนวรับ 2610 ก่อนข้อมูล NFP ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทองคำจะรักษาระดับการรวมตัวไว้ที่ 2610-2665 ก่อนที่จะมีการปรับฐานเงินเดือนนอกภาคเกษตรกรรม รอคำแนะนำจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปิดบังว่าข่าวด่วนอาจทำให้ทองคำทะลุกรอบ 2610-2665 ล่วงหน้าได้
ในทางกลับกัน หากทองคำตกลงต่ำกว่า 2610 ทองคำจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลง
หากมันทรงตัวเหนือ 2610 หลังจากที่ตกลงไปต่ำกว่า 2610 แล้ว พื้นที่สำหรับทองคำจะค่อนข้างแคบ และช่วงอาจถูกจำกัดไว้ที่ 2610-2625 ตรงกันข้ามหากภาพเป็น 2665 ช่วงเวลาก็จะรันในช่วง 2665-2720
เงินหลักของเราคือซื้อที่ 2615 หลังจากจบ TP และเลือกขายที่ 2660 เมื่อวานก็ตกลงไปที่ 2642 เช่นกัน ทิศทางการซื้อขายของเราถูกต้อง การเผยแพร่เนื้อหาที่นี่อาจมีความล่าช้า หากคุณคิดว่าบทความของฉันมีประโยชน์สำหรับคุณ โปรดชอบด้วย ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ
ทองคำพุ่งขึ้นไม่สะเทือนจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ วิเคราะห์ราคาทองคำ 13/01/2025 - 17/01/2025
ไฮไลท์✨
ราคาทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบวันในวันศุกร์ โดยเป็นวันที่สี่ติดต่อกันที่ปรับตัวขึ้น แม้ว่ารายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งทำให้ความกังวลของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับตลาดแรงงานคลายลงบ้าง แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นที่ผู้กำหนดนโยบายให้ความสนใจ เพิ่มขึ้น 0.69% สู่ระดับ 2,689 ดอลลาร์(ราคาปิด) ก่อนหน้านี้ ทองคำร่วงลงชั่วครู่หลังจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกิน 200,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลง ตัวเลขเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงสร้างงานต่อไปในขณะที่กระบวนการลดภาวะเงินฝืดดูเหมือนจะหยุดชะงัก ตามรายงานการประชุมล่าสุดของเฟด
วิเคราะห์ราคาทองคำ 13/01/2025 - 17/01/2025
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
🔽แนวต้าน: 2723 , 2758, 2750
🔼แนวรับ: 2640 , 2612 , 2586
ความเห็นเพิ่มเติม หากกวาดสายตามาจากพื้นที่ D1 แนวรับใกล้สุดที่ยังคงรองรับขาขึ้นแข็งแกร่งยังคงมองทีี 2680-2675 โดยเป้าหมายสำคัญยังวางไว้ที่ 2720 หากผ่านได้ จะมีเป้าถัดไปที่ 2758 ก่อนถึงจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2790 ต่อไป
อนึ่งหากสูญเสียแนวรับแรก 2675 อาจไปพบแนวรับถัดไปบริเวณ 2645 - 2635 และ 2600 ในที่สุด
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงในช่วงต้นสัปดาห์เช้านี้ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์จากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนจะยังถูกจำกัด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลงมาทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับดังกล่าวในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเฟดจะระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ท่ามกลางสัญญาณว่าความคืบหน้าในการปรับลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าใกล้เป้าหมาย 2% นั้นหยุดชะงักลง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวยังคงสนับสนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงขึ้น และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มชะลอการลงทุน และอาจเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการตัดสินใจนโยบายที่สำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธนี้ โดยความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือการที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้ผู้ซื้อขายดอลลาร์สหรัฐยังคงต้องตั้งรับ นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจยังคงให้การสนับสนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง อนึ่งนักลงทุนต่างจับจ้องไปที่การเปิดเผยดัชนี PMI ของทั่วโลกเพื่อมองหาโอกาสในระยะสั้น
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
การปรับราคาทองคำทางเทคนิคทำให้ต้องระมัดระวัง ราคามีโอกาสผันผวนสูง
📉จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำที่ต่ำในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ อยู่ในโซนที่มีการซื้อขายหนาแน่น หากการปรับลดต่อไปอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งเป้าไปที่ 2,625 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดประจำเดือนที่บริเวณ 2,614 ดอลลาร์ ตามลำดับ และแนวรับสำคัญที่ 2,605-2,600 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงมาต่ำกว่า 2,605 ดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และเปิดทางให้เกิดการขาย หรือขาดทุนเพิ่มเติม(Panic sell)
📈ในทางกลับกัน ระดับ 2667 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่จะถึงระดับ 2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากสูงกว่านั้น ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับตัวกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจขยายไปสู่จุดสูงสุดรายเดือนที่บริเวณ 2,726 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
การเพิ่มขึ้นของทองคำทำให้มีโอกาสที่จะร่วงลงหรือไม่?ทำความเข้าใจกับทองคำในประโยคเดียว: ทองทะลุกรอบเล็กน้อยในระยะสั้น และคาดว่าจะสูงขึ้นในวันนี้ และราคาโดยรวมยังอยู่ในช่วงช็อก
ราคาแนวต้านสั้น 1: 2688.00
ราคาแนวต้านสั้น 2: 2702.00
ราคาดุลยภาพสั้นและยาว: 2660.00
ราคาแนวรับกระทิง 1: 2653.00
ราคาแนวรับกระทิง 2: 2635.00
การวิเคราะห์บทความจะต้องพิจารณาจากแนวโน้มของตลาดแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คุณสามารถดูด้านล่างของบทความและไปที่พื้นที่เพื่อรับคำตอบที่คุณต้องการ
ให้เราตรวจสอบแนวโน้มของทองคำด้วยกัน ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนผม