ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา📌ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา
เพราะในตัวของ Candlestick H1
คายังไม่ทำลายโครงสร้าง -Bullish engulfing
ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้นได้ทอง
ต้องลงปิดต่ำกว่า 2587 (จุดยอมขา BUY)
TP มุ่งหวัง 2615/2619/2627
( ระรังข่าวนอกตาราง )
📌 มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์ สรุปข่าวทองคำและแนวรับแนวต้านวันที่ 13/11/2024
1. ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ: วันนี้ต้องติดตามตัวเลข Core CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศเวลา 20:30 น. ตัวเลขนี้สำคัญเพราะเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ Fed ใช้ตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงิน หากตัวเลขสูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
2. แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:
• แนวรับสำคัญ: $2,589 - $2,604
• แนวต้านสำคัญ: $2,615 - $2,627
3. มุมมองกราฟเทคนิค (TF M30): กราฟแสดงการกลับตัวของราคา (Rebound) ในกรอบเวลาราย 30 นาที และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2,627 หากสามารถทะลุแนวต้านแรกได้ แต่หากไม่สามารถขึ้นได้ อาจกลับมาทดสอบแนวรับที่ $2,589
4. กลยุทธ์การเทรด: หากกราฟสามารถทะลุแนวต้าน $2,615 ได้ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมาย $2,627 แต่ถ้าหลุดแนวรับ $2,604 อาจพิจารณาทำคำสั่งขาย (Sell) โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ $2,589
🏦นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำในขณะนี้มีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับแนวต้านที่ $2,531 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม มีการสังเกตเห็นรูปแบบเทคนิคที่อาจเกิด “double-top” บนกราฟราคาทองคำ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาในกรณีที่มีการดีดตัวขึ้นไปสูงแล้วตกลงมา ดังนั้น นักลงทุนควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังการประกาศ CPI ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของ FED ในเรื่องนโยบายการเงินในอนาคต
สรุปคือ แนวโน้มระยะสั้นของทองคำดูจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ย แต่อาจเผชิญแรงต้านในช่วงราคาสูง ขณะที่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  .
📌ฉะนั้นแล้ววันนี้ให้ติดตามข่าวสองทุ่มครึ่งให้ดีตัวชี้วัดทิศทางทองคำ
Xauusdsignal
มุมมองจากนักวิเคราะห์มองว่าทองคำมีแนวโน้มผันผวนตามข้อมูลเศรษฐกิจ🚩สรุปข่าวทองคำวันนี้ (04/11/2024)
จากข้อมูลในรูปและการวิเคราะห์เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต มีประเด็นที่ต้องจับตาซึ่งอาจส่งผลต่อราคาทองคำในวันนี้ ได้แก่:
1.การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ: ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก เนื่องจากเมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ต้นทุนในการถือครองทองคำสำหรับผู้ลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นจะลดลง
2.ข้อมูลการจ้างงานและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ: ตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงและอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำมักกระตุ้นความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ
3.ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง: ความขัดแย้งและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและกลุ่มประเทศในภูมิภาค อาจเพิ่มความต้องการในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่นทองคำ เนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
4. แนวโน้มทางเทคนิค: จากกราฟที่ให้มา ราคาอาจมีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณระดับ 2,751.56 และ 2,767.50 หากผ่านระดับนี้ได้อาจวิ่งไปทดสอบ 2,789.99 อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ อาจเกิดการย่อตัวไปยังแนวรับบริเวณ 2,731.12 และ 2,715.22
การติดตามข่าวสารเพิ่มเติม รวมถึงมุมมองจากนักวิเคราะห์และการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้นเป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาการลงทุนในทองคำ
มุมมองจากนักวิเคราะห์มองว่าทองคำมีแนวโน้มผันผวนตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยหากดอลลาร์อ่อนค่าหรือข้อมูลเงินเฟ้ออ่อนลง อาจช่วยหนุนราคาทองคำ แนวรับสำคัญที่ควรจับตาคือ 2,730 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 2,767-2,777 ดอลลาร์
ทองคำจ่อ 2,800 ดอลลาร์ ก่อนการเปิดดัชนีราคา PCE ของสหรัฐฯในคืนนีราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล 2,790 ดอลลาร์และจ่อระดับ 2,800 ดอลลาร์ ก่อนการเปิดดัชนีราคา PCE ของสหรัฐฯในคืนนี้
ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
🔸การซื้อขายในตลาดเอเชียในช่วงเช้านี้
แกว่งตัวในกรอบแคบๆ หลังจากการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดการซื้อในช่วงขาลง และในตอนนี้ ดูเหมือนว่าการปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนจะหยุดชะงักลง ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าลง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เหตุการณ์นี้ เมื่อรวมกับความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ยังคงผลักดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สูงขึ้น และยังมีส่วนสกัดช่วงบวกของราคาทองคำ จากภาวะซื้อมากเกินไปเล็กน้อยในกราฟรายวัน
🔸นอกจากนี้นักลงทุนจะลังเลเกี่ยวกับราคาทองคำในระยะนี้และเลือกที่จะรอการประกาศ ดัชนีราคาการใช้ จ่ายเพื่อการบริโภคส่วน บุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในวันศุกร์นี้ จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งจะผลักดันความต้องการทองคำดังไปในทางเดียวกัน ในระหว่างนี้ การย่อตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ดูเหมือนจะทำได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำอาจหยุดพักเพื่อพักสักครู่ใกล้แนวต้านช่องขาขึ้นที่ประมาณ 2,800 ดอลลาร์
📈จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนตัวขึ้นล่าสุดตามช่องทางลาดขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือนสิงหาคมไปสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ได้รับการยืนยันแล้ว อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันกำลังส่งสัญญาณถึงสภาวะซื้อมากเกินไป ดังนั้น การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ที่ระดับ 2,800 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ก็จะถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับขาขึ้น และเตรียมการสำหรับการเคลื่อนไหวที่เพิ่มค่าขึ้นต่อไป
📈ในทางกลับกัน การลดลงอย่างมีนัยสำคัญใดๆ ในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะพบแนวรับที่ดีใกล้บริเวณ 2,753-2,747 ดอลลาร์ หรือจุดทะลุแนวต้านของช่วงการซื้อขาย การขายตามอาจทำให้ราคาทองคำเสี่ยงที่จะขยายการลดลงต่อไปที่แนวรับระยะกลาง 2,732-2,730 ดอลลาร์ เพื่อมุ่งหน้าสู่บริเวณ 2,715 ดอลลาร์ ตามมาด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุลงได้ ก็ควรจะเปิดทางให้ราคาลดลงสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปใกล้บริเวณ 2,675 ดอลลาร์ เพื่อมุ่งหน้าสู่บริเวณ 2,657-2,655 ดอลลาร์
แนวคิดแผน Buy (31 ตุลาคม)
Buy zone 2755-2750-2745
Sl 2720
TP1 2770
TP2 2785
TP3 2800
TP4 2850
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 1 ) วันที่ 31 ตุลาคม
Sell zone 2805-2810--2815
Sl 2830
TP1 2790
TP2 2770
TP3 2750
TP4 2725
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในเชิงลบ ยังคงจำกัดอยู่ในกรอบรายสัปดาห์⭐️ราคาทองคำร่วงลงในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ และพลิกกลับจากการเคลื่อนไหวเชิงบวกของวันก่อนหน้าบางส่วน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงสัปดาห์ก็ตาม โดยผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่าการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนจะสูสีกันในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางแล้ว อาจยังคงเป็นปัจจัยหนุนสำหรับราคาทองคำ ที่ถูกมิงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️ปัจจัยสนับสนุนส่วนใหญ่ถูกชดเชยด้วยการเกิดขึ้นของ การซื้อ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในระดับต่ำลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากความคาดหวังที่ชัดเจนขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายน้อยลง ในความเป็นจริง นักลงทุนได้ประเมินความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนอย่างเต็มที่แล้ว เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนค่าเงินดอลลาร์และส่งผลกระทบต่อราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
⭐ปัจจัยด้านรัฐศาสตร์ถูมิศาสตร์ อิสราเอลยังคงโจมตีทางทหารต่อกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเลบานอน และเพิ่มการปิดล้อมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
👀คืนนี้ จับตาดูรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นในระยะสั้นก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำดูเหมือนว่าจะสร้างรูปแบบหัวไหล่ลงบนกราฟ 1 ชั่วโมง
จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนไหวราคาล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อให้เกิดรูปแบบหัวไหล่ขาลงบนกราฟระยะสั้น
📉 แนวรับของรูปแบบดังกล่าวอยู่ใกล้กับระดับ 2,703 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ควรทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในทันที การขายตามลงมาบางส่วนซึ่งนำไปสู่การร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2,700 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา มีความเสี่ยงต่อการเปิดทางให้เกิดการขยายปริมาณการขายที่รุนแรงขึ้น และดึงให้ราคาทองคำเข้าใกล้แนวรับ 2,675 ดอลลาร์มากขึ้น การร่วงลงต่อไปอาจขยายไปสู่เป้าหมายรูปแบบขาลงใกล้ระดับ 2,660 ดอลลาร์
📈อีกด้านหนึ่ง ระดับ 2,740-2,745 ดอลลาร์ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทันที ในขณะเดียวกัน ความแข็งแกร่งที่ต่อเนื่องกันจะลบล้างรูปแบบหัวไหล่และอนุญาตให้ราคาทองคำมุ่งเป้าไปที่การท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,758-2,759 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อต้นสัปดาห์นี้การเคลื่อนตัวขึ้นในเวลาต่อมาอาจทำให้ราคาเคลื่อนตัวเข้าใกล้โซน 2,770 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่มีอายุเกือบสี่เดือน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ระดับ 2,800 (2810) ดอลลาร์ซึ่งเป็นตัวเลขกลมๆ(Round number)
แนวคิดแผน Buy (25 ตุลาคม)
Buy zone 2704-2702-2700
Sl 2690
TP1 2710
TP2 2720
TP3 2730
TP4 2740
TP5 2750
TP6 2800
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 1 ) วันที่ 25 ตุลาคม
แนวคิดแผน Sell วันที่ 8 ตุลาคม
Sell zone 2748-2750-2753
Sl ✨2763(High risk‼️)
TP1 2740
TP2 2730
TP3 2720
TP4 2710
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) ยังไม่พอ?ราคาทองคำยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH)ไม่สนใจผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น ดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาระดับกำไรที่แข็งแกร่งไว้ได้ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม แต่ก็ไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเชิงบวกที่แข็งแกร่งซึ่งเกี่ยวข้องกับราคาทองคำมากนัก
ราคาทองคำฟื้นตัวกลับมามีทิศทางบวกอีกครั้งหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเมื่อคืนนี้
ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
คืนนี้ติดตามดูการเผยแพร่ดัชนีการผลิตริชมอนด์ ร่วมถึงคำปราศรัยของนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย อาจช่วยผลักดันทิศทางราคาได้บ้าง
📊แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำอาจหยุดถูกชะลอช่วงบวกใกล้แนวต้านช่องแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ระดับ 2,750 ดอลลาร์
📈การเคลื่อนตัวขึ้นล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปในช่องทางขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ชัดเจน และสนับสนุนแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวไปท้าทายแนวต้านของช่องทางแนวโน้ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ 2,750(2747) ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันและ4 ชั่วโมงกำลังส่งสัญญาณว่าซื้อมากเกินไปเล็กน้อย และควรระมัดระวัง ดังนั้น จึงควรรอให้ราคาปรับตัวขึ้นในระยะใกล้หรือย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนที่ผู้ซื้อขายจะเริ่มวางตำแหน่งเพื่อขึ้นในครั้งต่อไป
📉ในขณะเดียวกัน การปรับฐานลงใดๆ ก็ตามในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะพบแนวรับที่บริเวณ 2,720 ดอลลาร์(ระหว่างวัน) ตามมาด้วยแนวรับด้านล่างของช่องที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งขณะนี้ตรึงไว้ใกล้บริเวณ 2,710 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านลงได้อย่างเด็ดขาด อาจทำให้เกิดการเทจายเพิ่มเตืมได้(Panic sell) การร่วงลงครั้งต่อไปเมื่อหลุดระดับแนวรับ 2700 อาจทำให้ราคาทองคำลดลงเข้าใกล้แนวรับ 2,685 ดอลลาร์ จุดหลังนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ราคาทองคำอาจเร่งการลดลงไปสู่จุดทะลุแนวต้านที่ 2,662-2,661 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแนวรับไปแล้ว
แนวคิดแผน Buy (22 ตุลาคม)
Buy zone 2695-2690
Sl 2680
TP1 2705
TP2 2715
TP3 2725
TP4 2735
TP4 2745
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell วันที่ 22 ตุลาคม
Sell zone 2763-2766
Sl 2775
TP1 2755
TP2 2745
TP3 2735
TP4 2720
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 2,733 - 2,769 หากไม่มีข่าว...📊มุมมองส่วนตัวและมุมมองนักวิเคราะห์ วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2024
แนวรับและแนวต้านสำคัญ
🔽1. แนวรับสำคัญ:
• อยู่ที่ระดับ 2,674.07 และ 2,653.02 ซึ่งเป็นจุดที่ทองคำอาจย่อตัวลงมาหากมีการปรับฐาน
• อีกระดับที่สำคัญคือ 2,660 เป็นแนวรับเพิ่มเติมจาก Fibonacci retracement ระดับ 0.27
🔼2. แนวต้านสำคัญ:
• อยู่ที่ระดับ 2,733.30 และ 2,769.91 (Fibonacci extension 1.618) หากราคาผ่านระดับนี้ได้ คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อเนื่อง
• ในระยะสั้น มีโอกาสเห็นการย่อและ rebound ระหว่าง 2,733 และ 2,769
🏦ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
1. ประกาศดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB): คาดว่าหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น แต่ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง ทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะขึ้น
2. รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ: การประกาศ Core Retail Sales และดัชนีผู้ผลิต (PMI) จะมีผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์ และทองคำ เนื่องจากทองคำมีการเคลื่อนไหวผันผวนตามค่าเงินดอลลาร์
🗣️มุมมองนักวิเคราะห์และกองทุน
• มุมมองนักวิเคราะห์เทคนิค: นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาขึ้นหากยังสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 2,700-2,710 ได้ สัญญาณ Bullish บนกราฟ H4 ยังสนับสนุนการขึ้นต่อเนื่อง
• มุมมองกองทุน: หลายกองทุนเพิ่มการถือครองทองคำในช่วงที่ดอกเบี้ยยังสูงและเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน โดยเฉพาะกองทุนที่มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงวิกฤต
สรุป:
📌ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 2,733 - 2,769 หากไม่มีข่าวเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบรุนแรง นักลงทุนควรระวังการย่อสั้น ๆ และติดตามแนวต้านที่ 2,769 อย่างใกล้ชิด
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครง...🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ 📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลาย
โครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/268
🏦#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) จากข้อมูลในกราฟและแนวโน้มปัจจุบัน:
🍀1. แนวรับสำคัญ: บริเวณที่น่าสนใจเป็นพิเศษในกราฟจะอยู่ที่ระดับ $2,633.79 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 0.618 โดยหากราคาทองคำไม่สามารถทะลุลงต่ำกว่าจุดนี้ได้ จะเป็นการยืนยันแนวรับที่สำคัญ นอกจากนี้บริเวณ $2,643.81 (Fibonacci 0.51) ก็เป็นแนวรับรองลงมา
🍀2. แนวต้านสำคัญ: แนวต้านที่น่าสังเกตคือบริเวณ $2,686.22 ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นไปต่อในทิศทางขาขึ้น
🍀3. อินดิเคเตอร์ Stochastic: ข้อมูลในกราฟแสดงว่า Stochastic ใกล้เคียงกับโซน overbought ที่ประมาณ 80.76 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายเกิดขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีแรงกดดันจากข่าวหรือปัจจัยพื้นฐาน อาจเห็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนการย่อตัว
📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/2685
✅#ข่าวที่ต้องติดตาม
4. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 มีข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ (XAUUSD) ได้แก่:
1. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ: ประกาศในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ข้อมูล PPI นี้จะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาด จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
2. ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ: คาดว่าจะประกาศเวลา 20:15 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตัวเลขนี้สามารถบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หากการผลิตลดลง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสนับสนุนให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น
💥ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางการเมือง เช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
💥ดังนั้น จากกราฟและข้อมูลทางเทคนิคปัจจุบัน ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหากผ่านแนวต้านสำคัญ แต่ในระยะสั้น อาจเห็นการย่อตัวหากมีแรงขายจากระดับ overbought ของ Stochastic
🏦สำหรับผู้ที่ถือทองคำควรติดตามข่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำในตลาดระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีนัยสำคัญ  .
#เทรดควรมีจุดยอมอย่างชัดเจน และบริหารส่วนกำไรพักพอ ไม่ต้องโลภค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดนัดปัจจุบันไม่เหมาะกับการเทรดระยะยาวควรเหมาะกับการเทรดทำกำไรระยะสั้น
ทองคำ SIDEWAY ชะลอเหนือแนวรับสำคัญ 2630ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน SIDEWAY ชะลอเหนือแนวรับสำคัญ 2630 ท่ามกลางการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า
📹ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
🟢สัญญาณการชะลอการถือครองทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำแท่งรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้กดดันราคาทองคำ การขาดรายละเอียดเชิงตัวเลขสำหรับการกระตุ้นทางการเงินของจีน รวมถึงสัญญาณความอ่อนแอของเศรษฐกิจในประเทศ #กดดันทองคำ
🟢ด้านความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อาจให้การสนับสนุนบางส่วนแก่ทองคำแท่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและช่วยจำกัดแนวโน้มขาลงเอาไว้ // อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างหนักต่อการโจมตีฐานทัพของกองทัพอิสราเอลด้วยโดรนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าอิสราเอลอาจเปิดฉากโจมตีสินทรัพย์ของอิหร่านและความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการสนับสนุนราคาทองคำ.#หนุนทอง
🛎ขณะนี้นักลงทุนต่างจับตาดูการเผยแพร่ดัชนีภาคการผลิต Empire State ซึ่งควบคู่ไปกับคำกล่าวของ Fedspeak น่าจะสร้างโอกาสในการซื้อขายระยะสั้นในกรอบสวิง ในช่วงของการซื้อขายในอเมริกาภาคค่ำ 19:30 น.
📊แนวโน้มทางเทคนิค: การปรับขึ้นราคาทองคำ อาจจะสนับสนุนให้เกิดการซื้อในช่วงราคาลดลงที่ระดับ 2,632-2,630 ดอลลาร์
📈จากมุมมองทางเทคนิค การแกว่งตัวของราคาในช่วงข้ามคืนที่บริเวณ 2,666-2,667 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะเป็นแนวต้านที่สำคัญในขณะนี้ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่านี้ อาจทำให้ราคาทองคำกลับไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ ซึ่งเคยแตะเมื่อเดือนกันยายน ตามมาด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถผ่านจุดนั้นไปได้ ก็จะเป็นการปูทางไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน
📉ในทางกลับกัน การอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับทันทีที่ 2,632-2,630 ดอลลาร์อาจดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนได้ และยังคงอยู่ในระดับจำกัดที่บริเวณใกล้ระดับ 2,600 ดอลลาร์ หากไม่สามารถป้องกันระดับดังกล่าวได้ จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อที่มีแนวโน้มขาลง และทำให้ราคาทองคำเสี่ยงที่จะเร่งการร่วงลงสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ การร่วงลงของราคาอาจขยายไปสู่ระดับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
แนวคิดแผน Buy (15 ตุลาคม)
Buy zone 2620-2615
Sl 2600(Highrisk)
(เป้าซิ่ง 3-5 เหรียญ)
TP1 2630
TP2 2640
TP3 2650
TP4 2660
TP5 2670
TP6 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell วันที่ 15 ตุลาคม
Sell zone 2678-2680-2682
Sl 2700
TP1 2660
TP2 2640
TP3 2620
TP4 2600
TP5 2580
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทรงตัวเหนือ 2600ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความหวังที่จะลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติม และอีกด้านดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นช่วยสกัดช่วงบวกของทองคำ
⭐️ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ
⭐️โอกาสที่เฟดจะผ่อนปรนนโยบายการเงินน้อยลงจะหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคอยสกัดแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ
⭐️ราคาทองคำดึงดูดการซื้อในการปรับตัวลงในวันแรกของสัปดาห์ และซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ที่บริเวณ 2,666 ดอลลาร์ เข้าสู่เซสชั่นยุโรป ล่าสุดดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นแนวโน้ม เงินเฟ้อที่เอื้ออำนวย และแนะนำว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ลงอีก นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️ในขณะเดียวกัน นักลงทุนได้ประเมินความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนอย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงสูง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่แตะระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจำกัดการเพิ่มขึ้นสำหรับราคาทองคำ
⭐️นอกจากนี้ ความหวังดีที่นำโดยคำมั่นสัญญาของจีนที่จะเพิ่มหนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจทำให้ควรระมัดระวังก่อนที่จะ BET ขาขึ้นของทองคำครั้งใหม่
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นและเกิดหนุนแนวโน้มขาขึ้นเพิ่มเติม
📉ทั้งนี่ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อไปอีกเล็กน้อยบริเวณ 2,632-2,630 ดอลลาร์ ซึ่งหากปรับตัวลดลงต่ำกว่านี้ ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาลดลงไปที่ระดับ 2,600 ดอลลาร์ การที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และจะนำไปสู่แนวโน้มขาลงอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นอาจปรับตัวลดลงสู่ระดับแนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ และขยายแนวโน้มลดลงไปที่ระดับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงระดับทางจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
📈ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์เชิงบวกในกราฟรายวันสนับสนุนผู้ซื้อขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความลังเลที่จะรอซื้อตามหลังเหนือแนวต้านแนวนอนที่ 2,660-2,662 ดอลลาร์ ก่อนที่จะวางตำแหน่งการเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ การเคลื่อนตัวขึ้นในเวลาต่อมามีแนวโน้มที่จะผลักดันให้ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ ซึ่งเคยแตะเมื่อเดือนกันยายน ตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน เป้าหมายระยะกลางคงอยู่ที่ 2802 ดอลลาร์
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยทรงตัวเหนือระดับ 2,600 จุด การเคลื่อนไหวในแนวข้าง โดยไม่มีข่าวสำคัญใดๆ มากนักในสัปดาห์นี้
แนวคิดแผน Buy (14 ตุลาคม)
Buy zone 2605-2600
Sl 2585
TP1 2620
TP2 2640
TP3 2660
TP4 2680
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Sell วันที่ 14 ตุลาคม
Sell zone 2678-2680-2682
Sl 2700
TP1 2660
TP2 2640
TP3 2620
TP4 2600
TP5 2580
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ขาบายแรงหนุนดี กราฟระยะสั้นพลิกกลับสู่แดนบวกระหว่างวันราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยปิดกั้นแนวโน้มขาขึ้นก่อนประกาศตัวเลข PPI ของสหรัฐฯ คืนนี้
➕ราคาทองคำฟื้นตัวเป็นวันที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของเฟด
➕ความหวังที่เลือนลางสำหรับการผ่อนคลายเชิงรุกมากขึ้นโดยเฟดเป็นปัจจัยหนุน USD และสกัดช่วบวกทองคำ
ประเด็นสำคัญที่ควรติดตามเพิ่มเติม
💎การเผยแพร่รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะผลักดันอุปสงค์ของดอลลาร์ และก่อให้เกิดโอกาสในระยะสั้นสำหรับทองคำก่อนจบสัปดาห์
💎กระทรวงการคลังของจีนจะจัดการแถลงข่าวในวันเสาร์และเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนทัศนคติด้านความเสี่ยง และช่วยจำกัดการขยายตัวที่สำคัญของทองคำ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค : ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปที่แนวต้าน 2,672-2,674
📈จากมุมมองทางเทคนิค การดีดตัวกลับในช่วงข้ามคืนจากบริเวณใกล้ระดับ 2,601 ดอลลาร์ และการเคลื่อนไหวที่ตามมาเหนือจุดตัดแนวรับคงที่ที่ แนวต้าน 2,624 ดอลลาร์ กระตุ้นการปรับตัวขึ้นต่อ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงอยู่ในเขตบวก ดังนั้น ความแข็งแกร่งที่ตามมาบางส่วนที่มุ่งสู่แนวรับแนวนอนที่ 2,655-2,658 ดอลลาร์ ระหว่างทางไปยังโซนอุปทานที่ 2,672-2,674 ดอลลาร์ จึงดูมีความเป็นไปได้สูง โมเมนตัมดังกล่าวอาจผลักดันให้ราคาทองคำสามารถ ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ ซึ่งเคยแตะเมื่อเดือนกันยายน โดยตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน
📉อีกด้านหนึ่ง ราคาทองคำที่ต่ำในช่วงเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 2,628-2,624 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะปกป้องแนวโน้มขาลงทันที ซึ่งหากต่ำกว่าระดับดังกล่าว ราคาทองคำอาจท้าทายแนวรับสำคัญที่ 2,600 ดอลลาร์ได้ การทะลุแนวรับสำคัญลงอย่างเห็นได้ชัดจะถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ที่มีแนวโน้มขาลง และจะนำไปสู่ภาวะขาลงที่รุนแรงขึ้น อาจขยายการปรับฐานลงไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปใกล้โซน 2,560 ดอลลาร์ ก่อนจะเคลื่อนตัวไปสู่บริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงสู่ระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์ในที่สุด
แนวคิดแผน Buy (11 ตุลาคม)
Buy zone 2605-2600
Sl 2585
(เป้าซิ่ง3-5 เหรียญ)
TP1 2610
TP2 2620
TP3 2630
TP4 2640
TP5 2650
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell วันที่ 11 ตุลาคม
Sell zone 2665-2670
Sl 2680
TP1 2650
TP2 2640
TP3 2630
TP4 2620
TP5 2610
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
ทองคำชะลอตัวที่กรอบแนวรับสำคัญ รอตัวเลข CPi คืนนี้ทองคำชะลอตัวที่กรอบแนวรับสำคัญเนื่องจากนักลงทุนกำลังเฝ้ารอการเปิดเผยรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐฯคืนนี้ เพื่อดูว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นทิศทางใหม่หรือไม่
เช้าวันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงตลาดเอเชีย หลังจากการร่วงลงติดต่อกัน 6 วัน ซึ่งทำให้ราคาทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม การที่ทองพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดูเหมือนยังไม่น่าเป็นไปได้(ความเห็นส่วนตัว) เนื่องจากความคาดหวังที่ลดลงสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งเน้นย้ำในรายงานการประชุม FOMC ในเดือนกันยายน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอาจยังคงจำกัดการเพิ่มขึ้นของทองคำ จำเป็นต้องมีกำลังการซื้อที่แข็งแกร่งเพื่อส่งสัญญาณการสิ้นสุดของการปรับลดลงอย่างรวดเร็วของทองคำจากจุดสูงสุดตลอดกาล แสดงให้เห็นว่าผู้ขายยังคุมเกมส์ โดยการปรับฐานลงจะยังคงมีโอกาสไปต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์
ทั้งนี้นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล นายโยอัฟ กัลลันต์ สัญญาว่าการโจมตีอิหร่านจะเป็นการ "สังหาร แม่นยำ และน่าประหลาดใจ"
📊แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำอาจเร่งปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อทะลุ 2,600 ดอลลาร์
จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายของสัปดาห์นี้ต่ำกว่าระดับ 2,624 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นขอบเขตล่างของช่วงการซื้อขายระยะสั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการขาลงของเทรดเดอร์ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังคงทรงตัวอยู่ในเขตบวก นอกจากนี้ ราคาทองคำจนถึงขณะนี้สามารถยืนเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้ ดังนั้นควรรอให้ราคาทะลุลงอย่างต่อเนื่องและยอมรับราคาต่ำกว่าระดับดังกล่าวเสียก่อนจึงค่อยวางตำแหน่งการลงทุนครั้งใหม่
📉การที่ราคาลดระดับต่ำกว่า 2600 อย่างเด็ดขาด อาจขยายการร่วงลงไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปใกล้โซน 2,560 ดอลลาร์ ระหว่างทางไปสู่ระดับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงสู่ระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์ในที่สุด
📈ในทางกลับกัน แนวต้านช่วงการซื้อขายที่บริเวณ 2,630-2,635 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคทันที การเคลื่อนตัวขึ้นต่อไปอาเปิดโอกาส ให้มีแนวโน้ม ไปทดสอบแนวต้านแถวๆ 2,657-2,658 ดอลลาร์ ความแข็งแกร่งที่ต่อเนื่องหลังจากนี้จะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะโซนอุปทาน 2,670-2,672 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุโซนนี้ไปได้ ผู้ซื้ออาจพยายามท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อเดือนกันยายน ตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาหลายเดือนอย่างมั่นคง
แนวคิดแผน Buy วันที่ 10 ตุลาคม
Buy zone 2585-2680
Sl 2665
TP1 2600
TP2 2615
TP3 2630
TP4 2645
TP5 2655
TP6 2675
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 1 ) วันที่ 10 ตุลาคม
Sell zone 2629-2632-2635
Sl 2650(Highrisk‼️)
TP1 2620
TP2 2610
TP3 2600
TP4 2590
TP5 2585
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 2 ) วันที่ 10 ตุลาคม
Sell zone 2647-2651
Sl 2660
TP1 2640
TP2 2630
TP3 2620
TP4 2610
TP5 2600
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องท่ามกลางดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าก่อนการประชุมราคาทองคำร่วงลงมาใกล้ 2,600 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,685 ดอลลาร์ โดยยังคงมีการเทขายทำกำไรอยู่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโดยรวมของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น
✨Highlight✨
⭐️ราคาทองคำ ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันถึงเมื่อวานนี้(วันพุทธ) โดยได้รับผลกระทบจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐาน (bps) ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายน #กดดันทอง
⭐️ทั้งนี้การอ่อนค่าของราคาทองคำถูกจำกัดด้วยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์(ตะวันออกกลาง) เนื่องจาก สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่อิหร่านหนุนหลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และผู้ที่เข้ามาแทนที่เขาในเวลาต่อมา ถูกสังหารโดยกองทัพอิสราเอล #หนุนทอง
⭐️อีกมุมนึงใน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ได้ส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่าอาจเปิดกว้างต่อการหยุดยิง และที่สำคัญ ยังได้ละเว้นการยุติสงครามกาซาเป็นเงื่อนไขในการยุติความขัดแย้งบนชายแดนเลบานอน-อิสราเอลอีกด้วย #กดดันทอง
👀นักลงทุนรอคอยรายงานการประชุม FOMC และข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายน (คืนนี้ตี 1) รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะให้คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ รวมถึงข้อมูลใหม่เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจ
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
⚠️สิ่งที่ต้องระวัง การปรับตัวลดลงต่อเนื่องเมื่อทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์อย่างเด็ดขาดแนวโน้มราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ 14 วัน (RSI) ตกลงมาในช่วง 40.00-60.00 ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมเริ่มอ่อนตัวลง ทั้งนี้แนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่
📉การพังทลายในช่วงข้ามคืนผ่านแนวรับ 2,624 ดอลลาร์ หรือขอบล่างของช่วงการซื้อขายระยะสั้น อาจถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาแนวโน้มขาลง อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้มขาลง ดังนั้น จึงควรรอให้มีการขายจนเกิดการยอมรับต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ ก่อนราคาทองคำอาจขยายการลดลงอย่างรวดเร็วไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปใกล้โซน 2585 , 2552 ดอลลาร์ เพื่อมุ่งหน้าสู่ระดับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ และระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน อดีตแนวรับช่วงการซื้อขายที่บริเวณ 2,624-2,631 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันที การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจถือเป็นโอกาสในการขายและยังคงถูกจำกัดไว้ใกล้แนวต้านแนวนอนที่ 2,647-2,651 ดอลลาร์ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่านี้ อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะโซนอุปทาน 2,672-2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุโซนนี้ไปได้ ผู้ซื้ออาจพยายามท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อเดือนกันยายน ตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาหลายเดือนอย่างมั่นคง
แนวคิดแผน Buy (9 ตุลาคม)
Buy zone 2590-2585
Sl 2670
TP1 2610
TP2 2630
TP3 2650
TP4 2670
TP5 2700
TP6 2750
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell วันที่ 9 ตุลาคม
Sell zone 2650-2655
Sl 2675
TP1 2640
TP2 2630
TP3 2620
TP4 2610
TP5 2600
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำทรงตัวเหนือแนวรับระยะสั้น แนวโน้มขาขึ้นยังคงสดใส ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้านี้ และปัจจุบันอยู่เหนือระดับแนวรับระยะสั้นเพียงเล็กน้อย นักลงทุนได้ลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำ
กรอบ H1 เคลื่อนตัวในแนวเส้นแนวโน้มขาลง(Siideway down) มีแนวโน้มที่จะลดลงไปที่บริเวณ 2,627-2,624 เพื่อสร้างสภาพคล่องและเพิ่มขึ้นต่อไป แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น
🌐ปัจจัยพื้นฐาน
⭐️รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายนที่สดใสซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์กระตุ้นให้ผู้ซื้อขายลดการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น #กดดันทอง
⭐️ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังคาดการณ์โอกาส 85% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของ FOMC ในเดือนพฤศจิกายน
⭐️อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์อ้างอิง เคลื่อนไหวทะลุเกณฑ์ 4% เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวห่างจากระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
⭐️นายนีล คาชการี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ขณะนี้ความเสี่ยงโดยรวมได้เปลี่ยนไปจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เป็นภาวะการว่างงานที่สูงขึ้นแทน
⭐️นอกจากนี้ นายอัลแบร์โต มูซาเล็ม ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจจะกำหนดแนวทางของนโยบายการเงิน
⭐️ฮิซบุลเลาะห์ยิงจรวดไปที่เมืองท่าไฮฟาของอิสราเอลและฐานทัพทหารใกล้กับใจกลางเมืองเทลอาวีฟ ขณะเดียวกันอิสราเอลยังทิ้งระเบิดอาคารสองสามหลังในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุตอีกด้วย
⭐️นักลงทุนยังคงมีความกังวลว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจกลายเป็นความขัดแย้งในวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลดีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และช่วยจำกัดการสูญเสียที่ลึกลงไปได้
⭐️คณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติ (NDRC) ซึ่งเป็นผู้วางแผนระดับรัฐของจีน กล่าวเมื่อวันอังคารนี้ว่า แรงกดดันด้านขาลงต่อเศรษฐกิจของจีนกำลังเพิ่มมากขึ้น
👀ขณะนี้ผู้ซื้อขายกำลังจับตาดูการเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC ในวันพุธ ซึ่งจะตามมาด้วยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ตามลำดับ
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำขาขึ้นมีชัยเหนือระดับ 2,627-2,624จุดสำคัญ
📉จากมุมมองทางเทคนิค ระดับ 2,627-2,624 ดอลลาร์ หรือขอบล่างของช่วงการซื้อขายระยะสั้น อาจยังคงปกป้องการลงระยะสั้นต่อไป การทะลุลงที่ชัดเจนอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคและดึงให้ราคาลงต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ ไปสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ การลดลงที่ปรับตัวอาจขยายไปสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์ และไปสู่ระดับทางจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
📈ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงทรงตัวในแดนบวกและสนับสนุนผู้ซื้อขายขาขึ้น อย่างไรก็ตาม บริเวณ 2,670-2,672 ดอลลาร์อาจยังคงเป็นอุปสรรคในทันที ตามมาด้วยโซน 2,685-2,686 ดอลลาร์หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อเดือนกันยายน และระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ จะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อ และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน
—————-
แนวคิดแผน Buy (8 ตุลาคม)
Buy zone 2627-2622
Sl 2600
(เป้าซิ่ง 3-5 เหรียญ)
TP1 2650
TP2 2670
TP3 2690
TP4 2710
TP5 2750
TP6 2800
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 1 ) วันที่ 8 ตุลาคม
Sell zone 2666-2668-2670
Sl 2685(Highrisk‼️)
TP1 2645
TP2 2625
TP3 2605
TP4 2585
TP5 2565
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 2 )วันที่ 8 ตุลาคม
Sell zone 2684-2689
Sl 2705(Highrisk‼️)
TP1 2665
TP2 2645
TP3 2625
TP4 2605
TP5 2585
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำขยายช่วงตั้งรับต่ำกว่าระดับ ATH เทรนหลักยังแกร่งวันนี้ไม่มีข้อมูลและข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญมากนัก ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวข้าง ในกรอบ : 2625 - 2673
🌐 ปัจจัยพื้นฐาน
⭐️การจ้างงานของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงการว่างงานที่ลดลง ทำให้ตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น
⭐️ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ผู้ค้ามองว่ามีโอกาสเกือบ 95% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 25 BSP ช่วงการประชุมนโยบายปลายเดือนพฤศจิกายน
⭐️อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานยังคงอยู่ใกล้เคียงระดับ 4.0% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ และทำให้ผฃนักลงทุนทองคำยังคงต้องอยู่ในภาวะตั้งรับ
⭐️การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ยังคงสนับสนุนอารมณ์ที่สดใสของตลาดหุ้น
⭐️อิสราเอลโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียในฉนวนกาซาอย่างหนัก และเปิดฉากโจมตีทางอากาศรอบใหม่ในเลบานอน เพื่อตอบโต้ ฮิซบุลเลาะห์โจมตีเมืองไฮฟาของอิสราเอลในเช้าวันนี้
⭐️การพัฒนาดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง และอาจส่งผลดีต่อสถานะปลอดภัยเช่นทองคำ จึงควรให้นักลุงทุนระหว่างเก็งกำไรขาลงต้องระมัดระวัง
⭐️ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าปริมาณสำรองทองคำของจีนไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และอยู่ที่ 72.8 ล้านออนซ์ทรอย ณ สิ้นเดือนกันยายน
📊แนวโน้มทางเทคนิค:
📈จากมุมมองทางเทคนิค ราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบอาจยังคงจัดอยู่ในประเภทช่วงการรวมตัวขาขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อไม่นานนี้จนถึงจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงทรงตัวอยู่ในแดนบวกอย่างสบายๆ แนวต้านใกล้สุดอยู่บริเวณแนว $2,670-$2,672 ตามด้วยโซน $2,685-2,686 หรือระดับสูงสุดตลอดกาล และระดับ $2,700 ซึ่งหากทะลุผ่านได้ ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นมานานหลายเดือน
📉ในทางกลับกัน ระดับล่างของช่วงการซื้อขายที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งอยู่บริเวณ 2,625 ดอลลาร์ อาจยังคงทำหน้าที่แนวรับที่ดี และทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผู้ค้าระยะสั้น การทะลุลงอย่างเห็นได้ชัดอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคและดึงกราฟลงไปต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ ไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ การลดลงที่ปรับฐานอาจขยายไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปที่บริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์ และมุ่งหน้าสู่ระดับทางจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
แนวคิดแผน Sell วันที่ 7 ตุลาคม
Sell zone 2670-2675
Sl 2686
TP1 2655
TP2 2640
TP3 2625
TP4 2610
TP5 2595
TP6 2580
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Buy 7 ตุลาคม
Buy zone 2630-2625
Sl 2610
(เป้าซิ่ง 3-5 เหรียญ)
TP1 2650
TP2 2670
TP3 2690
TP4 2710
TP5 2730
TP6 2750
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
None farm คืนนี้จะดันทองคำทะลุ 2700 สำเร็จหรือไม่ราคาทองคำเริ่มทะลุกรอบ H1 คาด NF ดันราคาทองคำขึ้นต่อคืนนี้หลัง ตัวเลข None farm🔼
⭐️ราคาทองคำยังคงรักษาราคาระดับสูงเพื่อรอแรงหนุนที่สำคัญในวันคืนนี้ และยังคงสวิงอยู่ในกรอบราคาที่สร้างไว้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ท่ามกลางสัญญาณปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกัน
⭐️ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของความขัดแย้งในวงกว้างยังคงเป็นแรงหนุนสำหรับทองคำที่ถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นมีน้อยลง ทำให้ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนที่แตะเมื่อวันพฤหัสบดี และสกัดช่วงบวกของทองคำ
⭐️คืนนี้นักลงทุนต้องการรอการประกาศรายละเอียดการจ้างงานรายเดือนของสหรัฐฯ ที่เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะวางตำแหน่งสำหรับขั้นตอนต่อไปของการเคลื่อนไหวในทิศทางของราคาทองคำ
⭐️ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปอาจส่งผลต่อความคาดหวังเกี่ยวกับจังหวะของรอบ การปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยของเฟดซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐ (USD) และให้แรงผลักดันที่สำคัญบางอย่างต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงอยู่ภายในระยะที่ใกล้จะถึงจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดูเหมือนว่าอคติจะเอนเอียงไปในทิศทางขาขึ้นมากกว่า
🕯โน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น ปัจจุบันแนวรับสำคัญที่ 2,625-2,624 ดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
📈จากมุมมองทางเทคนิค ราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบอาจยังคงจัดอยู่ในประเภทช่วงการรวมตัวขาขึ้น โดยมีฉากหลังเป็นช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเร็วๆ นี้จนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงทรงตัวอยู่ในเขตบวกอย่างสบายๆ บ่งชี้ว่าแนวต้านที่สั้นที่สุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน ในระหว่างนี้ บริเวณ 2,672-2,673 ดอลลาร์อาจเป็นแนวต้านระยะสั้นก่อนที่จะถึงโซน 2,685-2,686 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถพิชิตได้ ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นมานานหลายเดือน
📉ในทางกลับกัน ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่บริเวณ 2,625-2,624 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับจุดทะลุแนวต้านของช่องทางขาขึ้นในระยะสั้น อาจยังคงเป็นแนวรับและทำหน้าที่เป็นจุดพลิกกลับสำคัญ การทะลุลงที่ชัดเจนอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคอย่างก้าวร้าวและดึงราคาทองคำให้ต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ไปสู่แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ การลดลงเชิงแก้ไขอาจขยายไปสู่แนวรับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดลงสู่ระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์ในที่สุด
แนวคิดแผน Sell (วันที่ 4ตุลาคม)
Sell zone 2700-2703-2706
Sl 2720
TP1 2695
TP2 2680
TP3 2665
TP4 2650
TP5 2635
TP6 2620
TP7 2600
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Buy (4 ตุลาคม)
Buy zone 2628-2625-2520
Sl 2600
(เป้าซิ่ง 3-5 เหรียญ)
TP1 2650
TP2 2670
TP3 2690
TP4 2710
TP5 2730
TP6 2750
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
1 Like + 1 Comment คือกำลังใจที่ดีที่สุด❤️
ขอบคุณครับ
ราคาทองคำยังทรงตัวใกล้ ATH. รอ Powell แถลงให้ไปต่อคืนนี้แนวโน้มขาขึ้นยังคงเป็นแนวโน้มหลัก - วันนี้ยังคงมีข่าว GDP ของสหรัฐฯ รอให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเนื่องจาก FOMO ซึ่งเป็นสัปดาห์สีเขียวสำหรับทองคำ
⭐️ราคาทองคำยังคงถูกจำกัดอยู่ในกรอบการซื้อขายที่แคบ การคาดการณ์ในการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีก 50 bps ในเดือนพฤศจิกายน คงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและช่วยหนุนราคาทองคำ
⭐️ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นแรงส่งทองคำให้ปรับขึ้นต่อ
⭐️นักลงทุนชลอการลงทุนก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพล ต่อนโยบายการปรับดอกเบี้ยของ Fed นักลงทุนจะมองหาสัญญาณใหม่ๆ เกี่ยวกับอัตราการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะผลักดันอุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐและทองคำ
⭐️ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน แม้จะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดก็ตาม ก็ยังเป็นแรงหนุนสำหรับทองคำ
⭐️คืนนี้ติดตามตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ขั้นสุดท้าย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมถึงสุนทรพจน์ของสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพลหลายคน น่าจะช่วยผลักดันราคาทองคำให้มีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำยังคงทรงตัวท่ามกลาง RSI ที่ซื้อมากเกินไปเล็กน้อยในกราฟรายวัน
จากมุมมองทางเทคนิค ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันกำลังส่งสัญญาณว่าซื้อมากเกินไป และขัดขวางไม่ให้ฝ่ายซื้อเข้าเดิมพันใหม่ อย่างไรก็ตาม การทะลุผ่านช่องทางแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นในสัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นว่าแนวต้านที่น้อยที่สุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน
📈ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาที่อ่อนตัวและอยู่ในกรอบแคบอาจยังคงจัดอยู่ในประเภทช่วงการสะสมกำลังก่อนจะถึงช่วงขาขึ้นต่อไป
📉ในระหว่างนี้ การร่วงลงสู่จุดทะลุแนวต้านของช่องทางขาขึ้นที่บริเวณ 2,625 ดอลลาร์ อาจถือเป็นโอกาสในการซื้อ และยังคงจำกัดอยู่ที่บริเวณ 2,600 ดอลลาร์ การทะลุลงต่ำกว่าจุดหลังอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคและดึง ราคา ทองคำให้เข้าใกล้บริเวณ 2,575 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,560 ดอลลาร์ และแนวต้านที่กลายมาเป็นแนวรับที่ 2,535-2,530 ดอลลาร์
..............
แนวคิดแผน Sell1 (วันที่ 26 กันยายน)
Sell zone 2680-2685
Sl 2702
TP1 2665
TP2 2650
TP3 2635
TP4 2620
TP5 2605
TP6 2590
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..............
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 26 กันยายน)
Buy zone 2643-2638 (scalping)
Sl 2630
TP1 2648
TP2 2652
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..............
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 26 กันยายน)
Buy zone 2627-2623
Sl 2613
TP1 2635
TP2 2645
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ทองคำแรงยังดี และเริ่มมีความระมัดระวังก่อนดัชนี PCE คืนนี้มุมมองรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งยังมีเป้าหมาย ATH อยู่ที่ 2,705-2710
ปัจจัยพื้นฐาน
⭐️ทองยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ ท่ามกลางการคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยของ FED
การคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นน่าจะช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้
⭐️การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ USD เพียงเล็กน้อย อาจสัดช่วงบวกทองคำบ้างท่ามกลางอารมณ์ความเสี่ยงและเงื่อนไขทางเทคนิค ระบุการซื้อมากเกินไป
⭐️ปัจจุบันผู้ซื้อขายต่างรอคอยดัชนีราคา PCE ของสหรัฐฯ เพื่อมองหาทิศทางการลงทุนในระยะถัดไป
PCE จะส่งผลต่อแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และช่วยกระตุ้นราคาทองคำให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
⭐️ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งมักจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ซึ่งน่าจะช่วยจำกัดการอ่อนค่าของราคาทองคำได้อยู่แม้จะมีปัจจัยกดดันทองคำ
⭐️ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ผู้เข้าร่วมตลาดมองว่ามีโอกาสมากกว่า 50% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดพื้นฐานในการประชุมนโยบายเดือนพฤศจิกายน #หนุนทอง
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำอาจดึงดูดผู้ซื้อที่ซื้อในช่วงราคาลงใกล้แนวต้าน 2,625 ดอลลาร์
📈จากมุมมองทางเทคนิค ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันได้ส่งสัญญาณว่าซื้อมากเกินไป และและยับยั้งการเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนรายใหม่ อย่างไรก็ตาม การทะลุผ่านช่องทางแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นเมื่อไม่นานนี้ แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำมีแนวโน้มในทิศทางขาขึ้นที่มีแนวต้านที่อ่อนแอ ทั้งนี้ ฝ่ายซื้อ ก็จำเป็นต้องรอจนกว่าจะเกิดการสะสมกำลังในระยะใกล้หรือราคาย่อกลับเล็กน้อย ก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนต่อไป
💡ในขณะเดียวกัน การลดลงอย่างมีนัยสำคัญใดๆ ก็สามารถมองได้ว่าเป็นโอกาสในการซื้อใกล้จุดทะลุแนวต้านของช่องที่บริเวณ 2,625 ดอลลาร์
📉 ซึ่งในทางกลับกัน สิ่งนี้ควรช่วยจำกัดการลดลงสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใกล้ระดับ 2,600 ดอลลาร์ จุดหลังควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งหากทะลุลงอย่างเด็ดขาดก็จะเปิดทางไปสู่การลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
แนวคิดแผน Sell (วันที่ 27 กันยายน)
(Weekly resistance)
Sell 2705-2710-2715
Sl 2730
TP1 2690
TP2 2670
TP3 2650
TP4 2630
TP5 2610
TP6 2590
TP7 2570
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 27 กันยายน)
Buy 2642-2640-2638
Sl 2625
TP1 2650
TP2 2660
TP3 2670
TP4 2680
TP5 2690
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..............
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 27 กันยายน)
Buy zone 2630-2625
Sl 2613
TP1 2640
TP2 2650
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
รอ New high zone 2645-2650 แล้วมีโอกาสปรับลงก่อนเพื่อไปต่อ🛡ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาล และยืนเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้อย่างสบายๆ พุ่งทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียวันนี้(24 กย) แต่ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยขณะนี้กำลังให้ความสนใจกับคำกล่าวของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะถึงนี้ และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (PCE Price Index) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
💡ผู้ซื้อขายอาจเลือกที่จะเคลื่อนไหวอยู่ข้างสนามก่อนที่จะประกาศดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ท่ามกลางสภาวะซื้อมากเกินไปในกราฟรายวัน
นอกจากนี้ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่จากความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ในตะวันออกกลาง ร่วมกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว น่าจะช่วยหนุนราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
📈จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุและการยอมรับเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ล่าสุดอาจถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟ รายวัน ยังคงอยู่เหนือระดับ 70 และควรใช้ความระมัดระวัง
ความคิดเห็นส่วนตัว
หลังจากข่าว PMI เมื่อวานนี้ ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นในเชิงบวก สร้าง ATH ใหม่ วันนี้แนวโน้ม ATH ใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจะต้องลดลงเพื่อสร้างสภาพคล่อง - ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ ดังนั้น จึงควรรอให้ราคาปรับตัวขึ้นในระยะใกล้หรือย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจึงค่อยวางตำแหน่งเพื่อเคลื่อนไหวในขั้นต่อไป
📉ในขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงใดๆ ก็มีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่ใกล้ระดับ 2,600 ดอลลาร์ ซึ่งหากต่ำกว่านั้น ราคาทองคำอาจร่วงลงมาที่โซนแนวรับที่เป็นเส้นแนวนอน 2,560 ดอลลาร์ แนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปจะอยู่ใกล้จุดทะลุแนวต้าน 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถึงระดับจิตวิทยา 2,500 ดอลลาร์ การทะลุลงมาต่ำกว่าจุดทะลุหลังอาจเปลี่ยนแนวโน้มในระยะใกล้ไปเป็นการซื้อขายขาลง และเปิดทางไปสู่ขาลงอย่างมีนัยสำคัญ
แนวคิดแผน Sell1 (วันที่ 24 กันยายน)
Sell 2643-2648-2653
Sl 2670
TP1 2620
TP2 2600
TP3 2580
TP4 2560
TP5 2540
TP6 2530
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 24 กันยายน)
Buy zone 2605-2600
Sl 2584
TP1 2620
TP2 2640
TP3 2660
TP4 2680
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 24 กันยายน)
Buy zone 2591-2586
Sl 2570
TP1 2610
TP2 2630
TP3 2650
TP5 2670
TP6 2690
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
รอ New high zone 2640-2645 แล้วมีโอกาสปรับลงก่อนเพื่อไปต่อราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องด้วยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้กระแสเงินทุนเข้าที่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
⭐️ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงเซสชั่นเอเชียวันจันทร์
⭐️การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนา
คารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
⭐️ความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นขึ้นมาใหม่นี้อาจสกัดช่วงบวกนี้ได้เช่นกัน
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค :
ราคาทองคำยืนเหนือ 2,600 ดอลลาร์ท่ามกลาง RSI ที่ซื้อมากเกินไป
เช้านี้ยังปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งในกรอบเวลารายวัน อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ 14 วัน (RSI) ยืนอยู่เหนือเส้นกึ่งกลางใกล้ 70.50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซื้อมากเกินไปของ RSI ซึ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาศให้มีการขายทำกำไรระยะสั้น ก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับขึ้นต่อในระยะใกล้
📈ราคาทองคำเช้านี้ขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,631 ดอลลาร์ การทะลุผ่านระดับนี้แบบเด็ดขาดอาจปูทางไปสู่ระดับจิตวิทยา 2,700 ดอลลาร์ ลำดับถัดไป
📉ในทางกลับกัน เป้าหมายขาลงแรกปรากฏขึ้นที่ตัวเลขกลม 2,600 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านระดับนี้ อาจส่งผลให้ราคาเคลื่อนตัวลงกลับไปที่ระดับแนวต้านที่กลายเป็นแนวรับที่ 2,560 ดอลลาร์ ระดับการแข่งขันครั้งต่อไปอยู่ที่ 2,485 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 6 กันยายน
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องหลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ 2,631 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าสัญญาณทั้งหมดจะชี้ไปในทางขาขึ้น แต่การพุ่งขึ้นของราคาทองคำดูเหมือนจะมากเกินไป ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวลงก่อนที่จะพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ต่อไป
💡ระยะกลาง โอกาสที่จะสร้าง ATH ใหม่สำหรับทองคำยังสูงอยู่ - คาดว่าโซนราคาจะสูงขึ้นก่อนที่ตลาดจะปรับตัวอีกครั้ง เป้าหมาย ATH ใหม่: 2665-2670 และ 2700 ตามลำดับ
💡ระยะสั้นแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง รอระดับ ATH ใหม่: 2,638 จากนั้นค่อยลดสภาพคล่องลง ราคาอาจมีการปรับตัวลง
📉หากเกิดการย่อตัว แนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ 2,586 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดต่ำสุดในวันที่ 18 กันยายนที่ 2,546 ดอลลาร์ หากทะลุแนวรับหลังได้ โมเมนตัมเชิงบวกจะบั่นทอนลง จะทำให้เห็นจุดสูงสุดในวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งกลายเป็นแนวรับสำคัญแล้วที่ 2,531 ดอลลาร์ ก่อนจะมุ่งไปที่จุดต่ำสุดในวันที่ 6 กันยายนที่ 2,485 ดอลลาร์ ตามลำดับ
แนวคิดแผน Sell1 (วันที่ 23 กันยายน)
Sell 2638-3640-2642
Sl 2660
TP1 2620
TP2 2600
TP3 2580
TP4 2560
TP5 2540
TP6 2530
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Sell (วันที่ 23 กันยายน)
Sell 2645-2649-2653
Sl 2570
TP1 2630
TP2 2610
TP3 2590
TP4 2570
TP5 2550
TP6 2530
TP7 2510
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 23 กันยายน)
Buy zone 2605-2600
Sl 2584
TP1 2620
TP2 2640
TP3 2660
TP4 2680
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 23 กันยายน)
Buy zone 2588-2584
Sl 2570
TP1 2610
TP2 2630
TP3 2650
TP5 2670
TP6 2690
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
--------------------------------------
สัปดาห์นี้ทองคำมีโอกาสทำ All time high เหนือ 2530วิเคราะห์ราคาทองคำสัปดาห์หน้า 23/9 - 27/9/2024
➡️ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบปีเหนือ 2,600 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
➡️ราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 27% ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010
➡️ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เพิ่มความอ่อนแอโดยรวมของดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ราคาทองคำยังคงพุ่งสูงขึ้น
➡️ผู้ว่าการเฟด วอลเลอร์ สนับสนุนให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟด มิเชลล์ โบว์แมน ผู้ไม่เห็นด้วย กลับเห็นชอบให้ลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่านี้
🕯มุมมองทางเทคนิคของทองคำ สัปดาห์หน้า 23/9 - 27/9/2024 :
ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องหลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ 2,625 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าสัญญาณทั้งหมดจะชี้ไปในทางขาขึ้น แต่การพุ่งขึ้นของราคาทองคำดูเหมือนจะมากเกินไป ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวลงก่อนที่จะพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ต่อไป โอกาศที่จะสร้าง ATH ใหม่สำหรับทองคำยังสูงอยู่ - คาดว่าโซนราคาจะสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า ก่อนที่ตลาดจะปรับตัวอีกครั้ง เป้าหมาย ATH ใหม่: 2665-2670
💡โมเมนตัมเอื้อต่อผู้ซื้อ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) มุ่งขึ้นในแดนขาขึ้น ไม่ใช่ในแดนซื้อมากเกินไป(Overbought) ดังนั้น เส้นทางที่มีแรงต้านน้อยที่สุดจึงเอียงไปทางขาขึ้น
📉หากเกิดการย่อตัว แนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ 2,586 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดต่ำสุดในวันที่ 18 กันยายนที่ 2,546 ดอลลาร์ หากทะลุแนวรับหลังได้ โมเมนตัมเชิงบวกจะบั่นทอนลง จะทำให้เห็นจุดสูงสุดในวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งกลายเป็นแนวรับสำคัญแล้วที่ 2,531 ดอลลาร์ ก่อนจะมุ่งไปที่จุดต่ำสุดในวันที่ 6 กันยายนที่ 2,485 ดอลลาร์ ตามลำดับ
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ราคาทองคำสัปดาห์หน้า 23/9 - 27/9/2024 ระบุพื้นที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 2632, 2670 , 2700
แนวรับ: 2586 ,2546 , 2531
ราคาทองคำอาจเจอแนวต้านของช่องขาขึ้น บริเวณ 2,610-2,615 ดอลลาร์⭐️ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 2,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือระดับสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง
⭐️การเดิมพันว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ลดลงและบั่นทอนค่าเงินดอลลาร์
⭐️ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ/จีนและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลดีต่อทองคำอีกด้วย
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
จากมุมมองทางเทคนิค เหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นขอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ขยายจากเดือนมิถุนายน และน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยออสซิลเลเตอร์บนกราฟ รายวัน ยังคงอยู่ในเขตบวกอย่างสบายๆ และยังห่างไกลจากการอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป
📈 การยืนเหนือระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อ และเปิดทางให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะใกล้ต่อไป
📉อีกด้านหนึ่ง บริเวณ 2,551-2,550 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะยังคงเป็นแนวรับที่สำคัญ ถ้าทะลุจะมีแนวรับสำคัญถัดไป 2,532-2,530 ดอลลาร์ หากมีปัจจัยที่กดดันต่อเนื่องตามราคาอาจเผยให้เห็นระดับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์ ซึ่งหากต่ำกว่านี้ ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาร่วงลงสู่ระดับ 2,476 ดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันและขอบล่างของช่อง หากราคาทะลุลงต่ำกว่านี้เล็กน้อย จะบ่งชี้ว่าทองคำได้ทะลุถึงจุดสูงสุดในระยะใกล้ ซึ่งจะปูทางไปสู่ระดับ 2,412 ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปสู่ระดับ 2,400 ดอลลาร์ตามลำดับ
💬ความคิดเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม :
ราคาทองคำแตะระดับ ATH ในสัปดาห์นี้ที่ 2,600 ในบริบทของความกังวลมากมายเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น จิตวิทยาของการรอคอยอาจจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567
Buy zone 2555-2550
Sl 2530(Highrisk)
TP1 2560
TP2 2570
TP3 2580
TP4 2590
TP5 2600
⭐️SET UP 1 GOLD PRICE: ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567
Sell zone 2610-2615
Sl 2630
TP1 2590
TP2 2570
TP3 2550
TP4 2530
TP5 2510
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP 2 GOLD PRICE: ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567
Sell zone 2625-2630
Sl 2650
TP1 2605
TP2 2595
TP3 2575
TP4 2555
TP5 2535
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
.......................................................
คืนนี้ข่าวแรงประจำเดือนกันยายน 2024(FOMC)🌐 ปัจจัยพื้นฐาน
วานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่บริเวณ 2,589-2,590 ดอลลาร์ ซึ่งแตะเมื่อวันก่อน และปิดตลาดในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อ
การลดลงดังกล่าวเกิดจากการเทขายทำกำไรบางส่วน แม้ว่าจะไม่มีการเทขายตามก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนเกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลาง(Fed) จะประกาศผลการประชุมในช่วงท้ายของการประชุม 2 วันในคืนนี้ ซึ่งจะตามมาด้วย การประชุมของ ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดี และการอัปเดตนโยบายของธนาคารแห่งญี่ปุ่น (BoJ) ในวันศุกร์
💬ดูเหมือนว่านักลงทุนยังลังเลที่จะวางเดิมพันเชิงรุกก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงจาก มติดอกเบี้ยของ FOMC
ตลาดยังคงมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจด้านนโยบายที่สำคัญของ FOMC ซึ่งเมื่อรวมกับการคาดการณ์เศรษฐกิจที่อัปเดต รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า 'dot plot' น่าจะช่วยผลักดันทองคำ ให้มีแนวโน้มดีขึ้น
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนยังคงส่งเสริมให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำมีแนวโน้มไต่ระดับขึ้นไปอีก โดยอาจทดสอบแนวต้านของช่องขาขึ้นที่ 2,610 ดอลลาร์
📈จากมุมมองทางเทคนิค ฝ่ายซื้ออาจรอจนกว่าจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,589-2,590 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อวันจันทร์ การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ เพื่อทดสอบขอบบนของช่องทางขาขึ้นระยะสั้นที่ขยายจากระดับต่ำกว่า 2,400 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ปัจจุบัน แนวต้านดังกล่าวถูกตรึงไว้ใกล้ระดับ 2,609-2,610 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะยืนยันการทะลุแนวต้านครั้งใหม่ และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
📉ในทางกลับกัน การขายทำกำไร จนหลุดแนวรับระดับต่ำสุดเมื่อคืนนี้ที่บริเวณ 2,561-2,560 ดอลลาร์ อาจเปิดทางให้เกิดการขายเพิ่มเติม แนวรับถัดไปที่จุดทะลุแนวต้านแนวนอนที่แข็งแกร่งที่โซนราคา 2,530-2,525 ดอลลาร์ ซึ่งการลดลงต่อไป ยังมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่เพิ่มขึ้ย และยังคงอยู่ในระดับสำคัญที่บริเวณใกล้ระดับจิตวิทยา 2,500 ดอลลาร์ หลุดต่ำกว่านี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ราคาทองคำเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง หากทะลุลงได้อย่างเด็ดขาด อาจฉุดราคาทองคำให้ไปบรรจบกันที่ 2,475-2,470 ดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 50 วันและขอบล่างของช่องแนวโน้มดังกล่าว
💬ความคิดเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม :
ราคาทองคำลดลงเล็กน้อย - เคลื่อนไหวในแนวราบที่ระดับ 2560-2590 ก่อนการประชุม FOMC อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ทองคำมีมุมมองเชิงบวก รอให้ ATH ใหม่ เหนือ 2600 แล้วใกล้ถึง 2610 แล้วอาจลดลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้สภาพคล่องด้านล่าง
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 18 กันยายน 2567
Buy zone 2550-2545
Sl 2520(Highrisk)
TP1 2560
TP2 2570
TP3 2580
TP4 2590
TP5 2600
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 18 กันยายน 2567
Buy zone 2530-2525
Sl 2520
TP1 2540
TP2 2550
TP3 2560
TP4 2570
TP5 2580
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 18 กันยายน 2567
Sell zone 2603-2606-2610
Sl 2630
TP1 2595
TP2 2580
TP3 2570
TP4 2560
TP5 2550
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
.......................................................
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
นนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ระหว่าง 2572 - 2578🕹️มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์และกองทุนเกี่ยวกับข่าวของทองคำและข่าวของเฟดในคืนนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำ XAUUSD ประจำวันที่ 18 กันยายน 2024
1. แนวรับและแนวต้านสำคัญ:
- กราฟในช่วงเช้าวันนี้แสดงให้เห็นว่า XAUUSD (ราคาทองคำ) อยู่ที่ 2574.27 โดยที่
🔽แนวต้านสำคัญอยู่ที่ Fibonacci retracement level 0.618 บริเวณราคา **2578.61**
🔼และแนวรับสำคัญอยู่ที่ Fibonacci retracement level 0.382 บริเวณราคา **2572.20** ซึ่งระดับแนวรับนี้มีโอกาสถูกทดสอบอีกครั้ง หากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุแนวต้านขึ้นไปได้
2. Indicator สัญญาณ Stochastic: จากกราฟ H4 แสดงให้เห็นว่าค่า Stochastic (9,3,3) มีแนวโน้มใกล้เข้าสู่โซน Overbought (ขายมากเกินไป) อยู่ที่ค่า 36.07 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดในช่วงนี้
3. ข่าวและปัจจัยที่ส่งผลต่อทองคำวันนี้ 18 กันยายน 2024)
📊เวลา **19:30 น.** สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลข **Building Permits** ซึ่งคาดการณ์ที่ 1.41M หากตัวเลขนี้ออกมาดีกว่าคาดการณ์ อาจจะส่งผลกดดันต่อราคาทองคำในช่วงเวลาสั้น เนื่องจากเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ดี
🕹️ วันที่ 19 กันยายน เวลา 01:00 น. จะมีข่าวสำคัญจากการประกาศ **Federal Funds Rate** และการประชุม **FOMC** ซึ่งนักลงทุนควรจับตามอง โดยเฉพาะการประกาศดอกเบี้ยและการแถลงนโยบายการเงิน เนื่องจากจะมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาทองคำ ซึ่งมักมีความสัมพันธ์ผกผันกับกัน
4. 🧑🏽💻มุมมองนักวิเคราะห์และกองทุนนักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าหาก FOMC ยังคงท่าทีแบบ "Hawkish" หรือมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ลดลง อย่างไรก็ตามหาก FOMC ส่งสัญญาณความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ก็อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนอาจหันไปหาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
🛑สรุป:
วันนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ระหว่าง 2572 - 2578 โดยมีแนวต้านที่ 2578.61 และแนวรับที่ 2572.20 ข่าวจากการประกาศ Building Permits อาจส่งผลเล็กน้อย แต่เหตุการณ์ที่ต้องจับตาจริงๆ คือการประชุม FOMC ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 19 ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นถึงกลาง
ฉะนั้นนะคะติดตามข่าวในตัวของ Fomc อย่างใกล้ชิดและระหว่างวัน
✅สำหรับสมาชิกกลุ่มvipเราซูมเทรดข่าวสดกัน00:45น. และถ้ามีสัญญาณการเทรดจะส่งเข้าให้ในกลุ่มตามปกติ ในระหว่างนี้ควรเทรดและมีจุดเริ่มที่ชัดเจน
#Nicharastrading