การหาเทรนด์ด้วย EMA ในการเทรด Forexการหาเทรนด์ (Trend) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรด Forex เพราะช่วยให้เราสามารถวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ใช้ในการหาเทรนด์คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (Exponential Moving Average หรือ EMA)
EMA คืออะไร?
EMA คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่าข้อมูลในอดีต ทำให้เส้น EMA ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้รวดเร็วกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบธรรมดา (Simple Moving Average หรือ SMA) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ตลาดที่มีความผันผวนสูง เช่น ตลาด Forex
การใช้ EMA ในการหาเทรนด์
การใช้ EMA เพื่อหาเทรนด์สามารถทำได้โดยการวิเคราะห์ตำแหน่งของราคาและการเปรียบเทียบ EMA หลายเส้นดังนี้:
การวิเคราะห์ตำแหน่งของราคา
หากราคาปัจจุบันอยู่เหนือเส้น EMA แสดงว่าแนวโน้มตลาดกำลังเป็นขาขึ้น (Uptrend)
หากราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA แสดงว่าแนวโน้มตลาดกำลังเป็นขาลง (Downtrend)
การใช้ EMA หลายเส้น
การใช้ EMA หลายเส้น เช่น EMA 30, EMA 50 และ EMA 100 ช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มระยะสั้นและระยะยาวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการหาเทรนด์:
หาก EMA 30 > EMA 50 > EMA 100 หมายถึงตลาดอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น
หาก EMA 30 < EMA 50 < EMA 100 หมายถึงตลาดอยู่ในเทรนด์ขาลง
ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดด้วย EMA
กลยุทธ์ Cross Over
เมื่อเส้น EMA ระยะสั้น (เช่น EMA 30) ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA ระยะยาว (เช่น EMA 50) เป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal)
เมื่อเส้น EMA ระยะสั้นตัดลงใต้เส้น EMA ระยะยาว เป็นสัญญาณขาย (Sell Signal)
การใช้ EMA ร่วมกับแนวรับแนวต้าน
หากราคาปรับตัวลงมาทดสอบเส้น EMA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับ และเด้งกลับขึ้นไป อาจเป็นจุดเข้าเทรด Buy
หากราคาปรับตัวขึ้นมาทดสอบเส้น EMA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และปรับตัวลง อาจเป็นจุดเข้าเทรด Sell
การวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์
หากระยะห่างระหว่างเส้น EMA หลายเส้นกว้างขึ้น แสดงว่าเทรนด์มีความแข็งแกร่ง
หากเส้น EMA เริ่มเข้ามาใกล้กัน อาจบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของเทรนด์หรือการเข้าสู่ช่วงไซด์เวย์ (Sideway)
ข้อควรระวังในการใช้ EMA
EMA ตอบสนองต่อราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก (False Signal) ได้ในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน
ควรใช้ EMA ร่วมกับเครื่องมืออื่น เช่น RSI, MACD หรือ Fibonacci เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
สรุป
การใช้ EMA ในการหาเทรนด์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ควรทำการทดสอบกลยุทธ์ (Backtest) และฝึกฝนการใช้งานในบัญชีทดลองก่อนนำไปใช้ในบัญชีจริง เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
การวิเคราะห์แนวโน้ม
XAUUSD 21-23 /12/24 กลับขึ้นจากเบรค 2626.5 รอบ 5 60จาก สญ.หยุดลง กำลังกลับขึ้น
อาจมีพักบ้าง แต่ค้างขึ้นได้อีก 1 ขา
กรณีขึ้น
a. เบรค 2629.3 กลับขึ้น w.5 tf5
b. เบรค 2632 tf15 60 ขึ้นต่อตาม fibo
240 ดีดขึ้น ob
กรณีลง
c. หลุด 2619 ไม่เบรค 2629.3 tf5 ลง w.4
d. หลุด 2589 ล้างหัวขึ้น 15
e. หลุด 2587 ล้างหัวขึ้น 60
......................................
D : sw os
- กรอบ 2536.8-2790
240: os LL ในกรอบ D
- rsi HL คาดมีแรงดีด ob
- 60 มีหัวขึ้นพา 240 ob
60 : ob HH หัวขึ้น พึ่งเบรค
- จากลงโซนดีด rsi ob ได้จึงกลับขึ้น
- ขาขึ้น กรอบ 2584-2726
15 : os HL หัวขึ้น ขึ้น 00+rsi ob
- หัวขึ้น os-L 2589.5
- ถ้าจะขึ้นเบรค 2632
- ถ้าจะลง ฟอร์มหัวลงก่อน
5 : มีหัวลง 2629.3 คาดทำ w.4
- ถ้าเบรค 2629.3 กลับขึ้น w.5
EURUSD Daily Analysis 20/12/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่ง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค.
BUY : 1. 03661
TP : 1. 03973
SL : 1. 03398
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังคงไม่เลือกทางที่ชัดเจน ยังวิ่งในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์แม้ว่าจะลดระดับต่ำลงเรื่อยๆ แต่ยังไม่ลงต่ำกว่าแนวรับเก่า จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียน และกรอบแนวรับเดิมในTF H1ในการเข้าออเดอร์ คาดหวังการสวิงในกรอบพักตัวระยะสั้นๆในรอบขาขึ้นระยะสั้น ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาลง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 20/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ในวันที่ 19 ธันวาคม 2024 ราคากลับร่วงลงกว่า 5% มาอยู่ที่ประมาณ $100,230 หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าเฟดไม่มีอำนาจในการถือครอง Bitcoin
Mt. Gox ได้โอน Bitcoin มูลค่า 172 ล้านดอลลาร์ไปยังวอลเล็ตใหม่ ขณะที่นักลงทุนยังคงถอน Bitcoin ออกจากเว็บเทรดรวมมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 100584.85
✅ Tp: 98855.11 95602.91
❗ SL: 102487.67
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเป็นเทรนที่ชัดเจน เน้นย่อและเข้าขาย
fibo : เน้นเข้าประมาณ 0.5
เป้ามหาย เป้าหมายคือ 950000
RSI: OverSold
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 20/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำ (XAUUSD) ในวันนี้มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยราคาทรงตัวที่ระดับประมาณ $2,654 ก่อนการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้
ในประเทศไทย ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาขายปลีกทองรูปพรรณ (96.5%) ในประเทศพุ่งขึ้นถึง 550 บาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่บาททองคำละ 39,000 บาท
นักวิเคราะห์จากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ประเมินว่าทองคำยังรักษาทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนะนำให้ตัดขายทำกำไรในรอบนี้ พร้อมรอการปรับฐานเพื่อเข้าซื้อใหม่ โดยมองว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาขึ้น
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2613.395
✅ Tp: 2588.76 2569.9
❗ SL: 2627.340
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีแรงขายเข้ามา นั้นทำให้ราคา เกิดรูปแบบ qm
ลุ้นย่อ ตามโครงสร้าง QM
fibo : เป้าหมาย ประมาณ 168
เป้ามหาย เป้าหมายคือ2550
RSI: ยกฐาน ไปทดสอบโซน 50
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Gold Idea - 18/12/2024 (GC - Future Price)Zone Buy 1 - เป็น Demand Zone และมี Imbalance ค้างอยู่จาก Footprint Chart และเป็น POC ของวันก่อน
Zone Buy 2 - เผื่อไว้กรณีที่เค้าเค้ายังกลับลงมา จุดนั้นมี Imbalance ของ Order ใน Footprint ค้างอยู่ ที่ยังไม่ถูก Filled
Zone Sell - ข้างบนอาจจะได้แค่สั้นๆ กราฟมีโอกาสกลับไปทะลุขึ้นไปด้านบนได้
Dec 20, 2024. SETSET : กับมามองตลาดภาพรวม ตลาดอดีตที่ผ่านมา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ และ ตอบสนองอย่างไรลองคิดนะ
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518(1975) กำเนิด ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย The Securities Exchange of Thailand
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534 (1991)เปลี่ยนเป็น The Stock Exchange of Thailand (SET)
ปี 2522 (1979) วิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน การขาดดุล ดัชนีเหลือ 106 จุด ปลายปี 2524(1981)
ปี 2526-2528 (1983-1985) วิกฤติทรัสต์ล้ม ปี 2528(1985) ดัชนีอยู่ที่ 134 จุด
ปี 2530 (1987) เหตุการณ์ Black Monday 11 ธ.ค. 2530(1987) ดัชนีอยู่ที่ 243จุด
ปี 2533 (1990) สงครามอ่าวเปอร์เซีย 30 พ.ย. 2533(1990) ดัชนีอยู่ที่ 544 จุด
ปี 2535 (1992) เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ดัชนีอยู่ที่ 667 จุด
ปี 2540 (1997) ประกาศ ลอยตัวค่าเงินบาท มิ.ย. 2540 (1997) ดัชนีต่ำสุดที่ระดับ 457 จุด
ปี 2544 (2001) เหตุการณ์ วินาศกรรมสหรัฐ 911 ดัชนีลงมาที่ 266 จุด
ปี 2549 (2006) มาตรการแบงค์ชาติ ปิดตลาดที่ 622 จุด ลดลง 108 จุด
ปี 2551 (2008) วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เลแมน บราเดอร์สยังล้ม 26 พ.ย. แตะที่ 380 จุด
เกิดหนักๆ ระยะห่างประมาณ 10 ปี
ปี 2557 (2014) คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช) รัฐประหาร
ปี 2558 (2015) วิกฤตตลาดหุ้นจีน
ปี 2559-2561(2016-2018)
ปี 2562(2019) สงครามการค้า จีน-สหรัฐ
ปี 2562-2563 (2019-2020) วิกฤต COVID 19, 13 มี.ค.2563 (2020) ดัชนีอยู่ที่ 968.29 จุด
สิ่งสำคือรักษาเงินทุนของคุณเอาไว้ก่อนเสมอ มองหาโอกาสที่เกิดขึ้นในวิกฤต หาความรู้เพิ่มเติมเสมอ อย่าเอามือไปรีบมีดที่กำลังหล่นร่วงลงพื้น หาเหตุผลในการ ลงทุน ร่วมทุน หรือ เก็งกำไรในบริษัทที่กำลังสนใจ margin of safety ของคุณคือตรงไหน ตัดขาดทุนเท่าไร ถัวเฉลี่ย อย่างไร ทุกอย่างถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้ กำเงินไว้ก่อนไม่ต้องรีบ
วิเคราะห์สภาพตลาดจากกรณีที่ S50H25 ลงมาถึงระดับ TD BUY SETUP#8การวิเคราะห์สภาพตลาดจากกรณีที่ **S50H25** ลงมาถึงระดับ **TD BUY SETUP #8** ใน Time Frame รายวัน (DAY) และอยู่ใกล้กับโซน **Pivot Point** (872.9 - 875.5) สามารถพิจารณาได้ดังนี้:
---
### **1. สถานะของตลาด**
1. **แนวโน้มปัจจุบัน**:
- การนับ TD Sequential Buy Setup ถึงแท่งที่ 8 แสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลงที่ยังไม่สิ้นสุด (Setup ยังไม่ครบ 9) แต่เริ่มเข้าใกล้จุดที่มีโอกาสกลับตัว
- ระดับ Pivot Point (872.9 - 875.5) เป็นแนวรับสำคัญเชิงจิตวิทยาและทางเทคนิคที่ตลาดอาจพักตัวหรือดีดกลับ
2. **ปริมาณการซื้อขาย (Volume)**:
- หาก Volume ลดลงในช่วงที่ราคาเข้าใกล้ Pivot Point อาจบ่งบอกถึงการชะลอตัวของแรงขาย
- หากมี Volume เพิ่มขึ้นพร้อมแท่งเทียนกลับตัว (Bullish Candlestick) บริเวณนี้ จะเป็นสัญญาณเสริมสำหรับโอกาสกลับตัว
3. **Momentum Indicator (RSI, Stochastic)**:
- ควรตรวจสอบว่า Indicator อยู่ในโซน Oversold (ต่ำกว่า 30 หรือใกล้ 20) ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักในการกลับตัวตาม TD Sequential
---
### **2. การวิเคราะห์แนวรับและแนวต้าน**
1. **โซนแนวรับ (Pivot Point)**:
- ระดับ 872.9 - 875.5 เป็นจุดที่ตลาดอาจพักตัวหรือสร้างฐาน
- หากราคาทะลุแนวรับนี้ลงไป แนวรับถัดไปคือ 863.8 (S2) ซึ่งอยู่ใกล้กับระดับ Fibonacci Retracement สำคัญ
2. **โซนแนวต้าน**:
- แนวต้านแรกคือบริเวณ R1 (894.2) ซึ่งใกล้กับ High เดิมของแท่งเทียนก่อนหน้า
- แนวต้านถัดไปคือ R2 (903.3) ซึ่งจะมีนัยสำคัญหากตลาดกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
---
### **3. แผนการเทรด**
#### **3.1 หากคาดการณ์ตลาดกลับตัว (Reversal)**
- **จุดเข้า (Entry)**:
- รอให้ TD Sequential นับถึงแท่งที่ 9 พร้อมแท่งเทียนกลับตัว (เช่น Hammer, Bullish Engulfing) หรือสัญญาณอื่นที่ยืนยันการดีดกลับ
- เข้าใกล้บริเวณ 873-875 หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ Pivot ได้
- **เป้าหมายทำกำไร (Take Profit)**: เมื่อราคาปิด>= Pivot 888.10
- เป้าหมายแรก: 894.2 (R1)
- เป้าหมายถัดไป: 903.3 (R2)
- **จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)**:
- ตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่า 870 เพื่อจำกัดความเสี่ยง
#### **3.2 หากตลาดทะลุแนวรับลง (Breakdown)**
- **จุดเข้า (Entry)**:
- รอให้ราคาปิดต่ำกว่า Pivot Point (875) พร้อม Volume หนาแน่นเพื่อยืนยันแรงขาย
- เข้า Short Position เมื่อราคาย่อตัวกลับขึ้นทดสอบแนว Pivot Point แล้วไม่สามารถผ่านได้
- **เป้าหมายทำกำไร (Take Profit)**:
- เป้าหมายแรก: 863.8 (S3)
- **จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)**:
- ตั้ง Stop Loss ไว้เหนือ 880 เพื่อป้องกันการกลับตัวที่ไม่คาดคิด
---
### **4. สรุปแนวทางการวิเคราะห์**
- สัญญาณ TD Sequential #8 บริเวณแนวรับ Pivot Point บ่งชี้ว่าตลาดกำลังเข้าใกล้จุดที่อาจเกิดการกลับตัวได้
- ควรติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณ Pivot Point (872.9 - 875.5) อย่างใกล้ชิด และรอการยืนยันจากรูปแบบแท่งเทียนหรือ Indicator เสริม
- วางแผนการเทรดทั้งในกรณี Reversal (กลับตัว) และ Breakdown (หลุดแนวรับ) เพื่อเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำ วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 24ข้อมูลจากสหรัฐฯ เสริมสร้างความคาดหวังของตลาดว่า เฟดจะใช้แนวทางที่ระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายในปีหน้า
ข้อมูลล่าสุดได้เสริมสร้างความคาดหวังของตลาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะใช้แนวทางที่ระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายในปีหน้า
ข้อมูลก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้เร็วกว่าเมื่อคาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ขณะที่จำนวนคำขอรับสวัสดิการว่างงานก็ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการคาดการณ์
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงของเงินเฟ้อ รวมถึงภาษีและการลดการใช้จ่าย ยืนยันว่าเฟดไม่มีเหตุผลมากนักที่จะต้องดำเนินการอย่างรุนแรง ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ดีสำหรับทองคำซึ่งเป็นโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน
นักลงทุนกำลังรอคอยการเปิดเผยข้อมูล PCE หลักในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดชื่นชอบ เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ในการซื้อขายวันนี้ นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่า ทองคำจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วไปยังระดับ 2.63x - 2.65x หรือจะถูกดันลงไปต่ำกว่าที่ระดับ 2.55x - 2.53x คำตอบจะได้รู้ในคืนนี้ โดยคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลก่อนหน้า
ในขณะนี้ แนะนำให้พิจารณาซื้อในช่วงเซสชั่นเอเชียและยุโรปก่อน โดยจะพิจารณาข้อมูล PCE หลังจากนั้น ดังนั้นคำแนะนำคือการซื้อ โดยมีเป้าหมายที่ 2.605 - 2.607, 2.610 - 2.612 และอาจจะถึง 2.615 - 2.617 หลังจากนั้นสามารถพิจารณาการขายเมื่อมีการปรับฐาน โดยตั้งเป้าหมายที่ 5-10 จุด
ในช่วงเซสชั่นยุโรป หากทองคำยังคงเทรดอยู่ที่ประมาณ 2.59x เมื่อเริ่มต้นเซสชั่นยุโรป กลยุทธ์การซื้อยังคงมีผลอยู่ อย่างไรก็ตาม หากทองคำลดลงและปิดแท่งเทียนที่ระดับ 2.58x ควรพิจารณาสถานการณ์ใหม่ ในกรณีนี้อาจพิจารณาการขายได้เร็วขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่ 5-10 จุด
แผนการเทรด:
โซนซื้อ: 2591 - 2589
SL: 2585
TP1: 2600
TP2: 2605
โซนขาย: 2621 - 2623
SL: 2627
TP1: 2610
TP2: 2600
ทองคำฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากที่จีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอาจน้อยลง
=> ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้อีก แต่ไม่แนะนำให้ซื้อในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้น ควรรอการปรับฐานเล็กน้อยและพิจารณาการซื้อจะดีกว่า
BTC พักฐานที... ลึกแค่ไหน?ใครที่อยู่กับเหรียญปีศาจ BTC มานานพอ ก็จะรู้เช่นเห็นชาติมันดีว่า ตอนบทพี่เขาจะไป เขาก็จะไปรัวๆๆๆ จนหลายๆ คนตกรถ แล้วต้องไปไล่ราคา แต่! บทพี่เขาจะพัก เขาก็พักซึมยาวๆ จนหลายๆ คนท้อเช่นกัน วันนี้ลองมาย้อนดูกันว่า เหรียญปีศาจนี่พักกันลึกแค่ไหนนะครับ
🟢 2024
- ช่วงกลางๆ ปี 2024 BTC วิ่งแรงไปทำ ATH ที่ 73,700 ช่วงเดือนมีนาคม ก่อนจะ sideway ออกข้างไม่ไปไหนอยู่เป็นเวลา 7 เดือนเต็ม โดยช่วงที่ลงหนักที่สุดก็คือ 5 สิงหาคม โดยวันนั้นลงไปต่ำสุดถึง 49k หรือ ประมาณ -34% ถ้าวัดจากยอด ATH 73k ครับ
🟢 2023
- ช่วงกลางๆ ปี 2023 BTC ก็ออกข้างและพักฐานยาวและนานพอๆ กันกับปีนี้ โดยช่วงนั้นไปพีคสุดที่ 31k ก่อนจะพักฐานลงมาที่ 25k หรือลงไปประมาณ -22% ครับ
- จริงๆ แล้วปี 2023 เป็นปีที่กราฟแกว่งโหดอยู่เหมือนกัน เพราะ BTC ลงไปลึกระดับ -20% ถึงสามครั้งด้วยกัน คือ ช่วงเดือน มีนาคม มิถุนายน และ กันยายนครับ เรียกง่ายๆ ว่าลงจนท้ออ่ะ 555
🟢 2022
- ปีนี้อย่าเรียกว่าพักฐานเลย เรียกว่าขาลงยับเลยดีกว่า เพราะลงทำ new low ไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ก็ขอมองแค่ว่า ราคาสูงสุดของปีนั้น ก็คือ 48k และราคาต่ำสุดคือ 15k ครับ หรือลงไปประมาณ -67% และถ้าเทียบกับยอดของปี 2021 ที่ 69k ก็จะลงไปราวๆ -77% นั่นเอง
🟢 2021
- ปีนี้ เป็นปีที่หลายๆ คนพอร์ตโตพลิกชีวิตช่วงต้นปี ก่อนจะไปหมดตัวไม่เหลืออะไรในปี 2022 ซึ่งขนาดขาขึ้นโหดๆ แบบนี้ก็ยังมีช่วงที่ BTC พักฐานหนักอยู่เช่นกันครับ
- ช่วงที่พักฐานหนักสุดคือช่วง เมษา - กรกฏา 21 โดยช่วงนั้นลงไปจากยอด 65k ลงมาเหลือแค่ 29k ครับ หรือลงกันไป -54% ในเวลา 4 เดือน ถือว่าเป็นช่วงนรกแตกของปีนั้นเลยก็ว่าได้ หลายๆ คนก็คืนกำไรกันไปหนักในช่วงนั้นครับ
- หลังจากนั้นก็มีพักฐานลึกๆ บ้างประปราย ในช่วงก่อนขาขึ้นปลายปี ก็ลงไป -25% ก่อนไปต่อ ส่วนตอนขาขึ้นต้นปีก็ลงไป -30% เช่นกัน
🟢 2020
- ปีนี้ช่วงที่ลงหนักสุดคือตอน covid dump โดยลงจาก 10k ลงไปเหลือแค่ 3.8k หรือ -64% ในเวลาไม่นาน ช่วงนั้นใครใช้ leverage น้อยสุดขนาด 2x ยังปลิวกันเรียบครับ
- หลังจากเด้งกลับก็มีพักฐานช่วงปลายปีอีกรอบ ประมาณ -20% ก่อนจะไปต่อกันอีก
🟢 2019
- เป็นปีที่ BTC ฟื้นจากหลุมมาแรงมาก โดยช่วงที่แย่ที่สุดคือช่วงกลางถึงปลายปี ที่ BTC ลงจากยอด 14k ไปเหลือแค่ 6.4k โดยลงไปถึง -53% กันเลยทีเดียว ก่อนหน้าต้นปีก็มีลงไป -20% เช่นกัน
🟢 2018
- ตลาดหมีอันโหดร้ายครั้งแรกของใครหลายๆ คน รวมถึงผมด้วย โดยปีนี้ BTC มันก็ขึ้นๆ ลงๆ แบบโหดเป็นภูเขาที่เตี้ยลงเรื่อยๆ ของมัน ในการขึ้นลงแต่ละรอบ ก็ลงกันไปราวๆ -30% ถึง -45% มาทิ้งหนักที่สุดก็ช่วงปลายปีที่หลุด 6k ลงไปเหลือแค่ 3k แค่นั้นก็ลงไป -50% แล้วครับ
- และถ้าวัดจากยอด Peak 20k เหลือ 3k ก็ลงมา -84% นั่นเอง
🔶 แล้วเราได้อะไรจากข้อมูลนี้?
1. การ Hold BTC ระยะยาว มัน "ไม่ง่าย" โดยเฉพาะถ้าเรา buy แถวๆ ยอด เพราะทุกๆ ครั้งที่คนกาว หลังจากนั้นมันจะลงค่อนข้างแรง ระดับ -20% ถึง -30% เสมอ
2. การ hold BTC ระยะยาวจริงๆ ก็ไม่ง่าย ถึงแม้ทุนของท่านจะต่ำก็เถอะ เพราะทุกครั้งที่ BTC เจอขาลงใหญ่ เช่นปี 2018 และปี 2022 มันจะ challange พอร์ตระยะยาวของคุณมากๆ ว่า mental ของคุณจะทนการคืนกำไรที่หนักหนาสาหัสระดับ -80% ได้ไหม
🔷 สรุปแล้ว ผมก็แอบเห็นด้วยกับคำแนะนำของฝรั่งช่วงล่าสุด ที่บอกให้ allocate portfolio มาเป็น BTC สักเล็กน้อย เช่น 2% เป็นต้น เพราะ เอาจริงๆ 2% ถ้ามองกันเป็นระดับ portfolio มันก็คือพอร์ตพนัน ที่ยอมเสียได้ทั้งหมดน่ะแหละ 555 และถ้าลงแค่ 2% มันจะแกว่ง -80% ทุกรอบก็แทบจะไม่มีผลกระทบอะไรกับพอร์ตโดยรวมอยู่แล้วครับ
🔷 แต่สำหรับคนที่อาจจะมีความรู้ มีแผนของตัวเอง ก็อาจจะลงทุนใน BTC ในสัดส่วนที่มากกว่าคำแนะนำข้างต้นก็ได้นะ แต่ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า... ไอ้ผีนี่ มันมีโอกาสลงไปสูงสุดที่ -80% จากยอดเสมอครับ ดังนั้น ก็ไปออกแบบสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกันเองนะครับ
มุมมอง XAUUSDสำหรับแผนการเทรดสาย Day trade วันที่ 20 ธ.ค. 2567
มีแผนการดังภาพครับ ส่วน TP SL ตามที่พอใจเลยครับ
สไตล์ผมอาจจะไม่ได้อธิบายเยอะแต่สามารถสอบถามได้หมด ยินดีตอบทุกคำถามครับ
เพียงแค่ทิ้งคอนเม้นไว้ หรือทักมาในแชทส่วนตัวครับ :)
ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีครับ :)
ปล.เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้นครับ
เฟดลดดอกเบี้ยหนุนดอลลาร์แข็ง เป้า DXY 110เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50%-4.75% แต่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปี 2025 เพียง 2 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง สะท้อนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยังสูง คาดการณ์ PCE ปี 2025 ปรับเพิ่มเป็น 2.5% พร้อมแรงหนุนจากตลาดแรงงานแข็งแกร่ง
แนวโน้มดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่งในระยะกลาง โดยนักลงทุนจับตาเป้าหมายดัชนี DXY ที่ 110 ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน
มุมมอง XAUUSD ปี 2025สวัสดีครับ กว่าจะกลับเข้าตลาดก็มาซะท้ายปีเลย
ดูกราฟตลอดครับ แต่พึ่งกลับมาเทรดร่วมด้วย
สำหรับมุมมองปี 2025 วิเคราะห์ราคาดังภาพครับ
มองว่าราคาทองคำที่กำลังลงมา เป็นเพียงการย่อเท่านั้น
สำหรับนักเทรดระยะ กลาง ยาว แนะนำสะสมซื้อ จะได้เปรียบกว่าครับ
สำหรับปี 2024 นี้ คงเป็นวันสุดท้าย ที่ตลาดพอจะมีปริมาณการซื้อขาย เพราะอาทิตย์หน้า
จะเริ่มปิดคริสมาสต์ และปีใหม่ครับ
ปล.เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้น
ปล.2 ท่านไหนมีข้อสงสัยหรืออยากพูดคุยเล่นกัน สามารถคอมเม้นหรือทักแชทใน TV ได้เลยนะครับ
ปล.3 ปีหน้าสัญญาว่าจะมาแชร์มุมมองบ่อยขึ้นครับ