BTCUSD Daily Analysis 26/10/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ Bitcoin (BTC) ราคาอยู่ที่ประมาณ $64,327 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 5.5% ในขณะที่ตลาดคริปโตยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเข้ามาลงทุนสะสมเหรียญ BTC จำนวนมาก การลดลงของเงินฝากในแพลตฟอร์มเทรด ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการถือครองเหรียญระยะยาว และการลดลงของรางวัลจากการขุดเนื่องจากการ Halving ที่ผ่านมา ซึ่งลดอุปทานใหม่ในตลาดตามปกติของ BTC
การอนุมัติ Bitcoin ETF และการสะสม Bitcoin ในกองทุน iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น ETF นำเสนอช่องทางการลงทุนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถดึงดูดนักลงทุนสถาบัน ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการสร้างฐานราคาที่สูงขึ้นในอนาคต
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 66528.00
✅ Tp: 67530.72 68703.00
❗ SL: 2737.56
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการเทขาย ลงมาทดสอบโซน QM ลุ้นในการยกฐานขึ้นต่อ ตามโซน QM
fibo : เป้าหมาย ย่อ 68
เป้ามหาย 68000 เป็น ไหล์ QM ในการขาย
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การวิเคราะห์แนวโน้ม
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตัวนี้เห็นลงข่าวของเซียนพระเขาซื้อเอาไว้ก็เลยมาลองส่องดูมันเป็นธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้ารถหรูเรือหรูก็เลยไม่รู้วิธีการทำมาหากินเขาแต่ก็เลยมาลองส่งหุ้นดูว่าเป็นยังไง
เราไม่มีความรู้สึกเหมือนพวกเขาพวกเขารวยเขาเลยคิดได้ว่าควรต้องมองอะไรเราต้องมองเหมือนคนที่เขารวยดูเราจะได้รู้ว่าวิธีคิดเขาคิดยังไงตอนนี้ไม่ซึมซับไม่อินกับคนที่เขารวยเลยเพราะเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆก็เลยงงว่าทำไมเขาถึงซื้อธุรกิจแบบนี้ก็เลยมาลองส่องดูเฉยๆแต่ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลย
ลองมาส่องงบการเงินของเขาก็ดูไม่ค่อยเป็นหรอกครับดูเป็นอยู่แค่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินไหมมากกว่าส่วนผู้ถือหุ้นไหมแค่นั้นดูอย่างอื่นไม่เป็นแล้วเอามาบวกลบคูณหารกันแบบง่ายๆเลยตอนนี้ที่เห็นมีทรัพย์สินหมุนเวียน 5,900 กว่าล้านไม่หมุนเวียน 8,800 กว่าล้านรวมทั้งสิ้น 14,800 กว่าล้าน
ส่วนหนี้สินมีหนี้สินหมุนเวียน 6,900 กว่าล้านหนี้สินไม่หมุนเวียน 4,100 กว่าล้านหนี้สินส่วนผู้ถือหุ้น 3,700 กว่าล้านรวมหนี้สินทั้งสิ้น 14,800 กว่าล้านมันชนกันกับทรัพย์สินพอดีเลยแบบนี้ถ้าเกิดบริษัทเป็นอะไรไปก็มีเงินคืนให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมดแต่ก็ไม่เหลือให้กับผู้ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็เลยไม่รู้ว่าคิดแบบไหนมองไม่ออกมองตามรูปแบบกราฟไปแล้วกันครับมันมีการปรับตัวก็เก็บทำกำไรไปถ้าคนมีตังค์ก็ซื้อทำกำไรไปแต่สำหรับส่วนตัวฝึกวิเคราะห์อย่างเดียวเพราะว่ายังไม่ลึกซึ้งกับหุ้นของไทยสักเท่าไหร่เพราะยังไม่ค่อยมั่นใจในเสถียรภาพของหุ้นไทยสักเท่าไหร่เนื่องจากที่ทุกคนก็รู้กันมีการโกงกันได้ในตลาดหลักทรัพย์จริงๆก็เห็นกันมาแล้วก็เลยต้องขอศึกษาอีกสักระยะนึงก่อน
แต่ดูเทคนิคกราฟแล้วก็ดูรูปแบบเหมือนจะกลับตัวมีการพักตัวในกรอบ side way แต่ก็เหมือนจะเป็นการพักตัวที่จะปรับตัวก็เลยคิดว่าน่ามาวิเคราะห์ดูซะหน่อยครับผม
แนวโน้มกราฟเป็น sideway แต่มีการ break out ขึ้นไปสั้นๆ 1 สัปดาห์แล้วเบรคกลับลงมาคืนเป็นกลางเบรคหลอกลักษณะนี้ราคาที่ดีที่สุดไม่ใช่ช่วงเวลานี้ควรต้องรอให้ย่อกลับลงมาคืนก่อนซื้อเก็บไว้แล้วก็ถือยาวๆ TP ตามจุดที่กำหนดไว้ประมาณนี้
Volume Profile ใน TradingView: เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่สำคัญVolume Profile เป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเทรด โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม TradingView ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นการกระจายของปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในราคาต่าง ๆ และวิเคราะห์จุดแข็งหรือจุดอ่อนของตลาดได้อย่างชัดเจน
Volume Profile คืออะไร?
Volume Profile เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ตลาดผ่านการแสดงผลปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับราคา แทนที่จะเป็นการแสดง Volume ในแนวเวลาแบบกราฟทั่วไป มันแสดงในแนวระดับ (ตามแนวแกนราคา) ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าราคาที่เทรดอยู่ในช่วงไหนมีการซื้อขายมากหรือน้อย ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการหาจุดกลับตัว จุดแนวรับ-แนวต้าน และบ่งชี้ระดับที่ตลาดให้ความสนใจ
ประโยชน์ของ Volume Profile
ค้นหาจุดที่มีการซื้อขายสูงสุด (Point of Control – POC): จุด POC เป็นระดับราคาที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าราคานั้นมีความสำคัญต่อผู้เข้าร่วมตลาดเป็นพิเศษ การเทรดในระดับใกล้เคียงกับ POC อาจมีความเสี่ยงต่ำลง เนื่องจากตลาดมีความสมดุล
ระบุบริเวณที่มี Volume หนาแน่น (High Volume Nodes – HVN): พื้นที่ HVN คือบริเวณที่มีปริมาณการซื้อขายสูงมาก โดยมักจะบ่งชี้ว่าราคานั้นมีความสนใจจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้พื้นที่นี้มีโอกาสเป็นแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแรง
ระบุบริเวณที่มี Volume น้อย (Low Volume Nodes – LVN): พื้นที่ LVN เป็นบริเวณที่มีปริมาณการซื้อขายน้อยกว่า มักบ่งบอกถึงจุดที่ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก หรือมีการเทรดที่แคบลง การที่ราคาผ่านบริเวณนี้สามารถเกิดการวิ่งไปในทิศทางที่รวดเร็ว เนื่องจากไม่มีแรงซื้อมากดดัน
ช่วยในการวางแผนการเทรด: Volume Profile ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดเข้าและออกที่ดีขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจากแนวรับและแนวต้านในช่วงเวลาที่กำหนด การใช้ Volume Profile ยังสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดและวางแผนสำหรับการเทรดแบบระยะสั้นหรือระยะยาวได้ดีขึ้น
วิธีการใช้งาน Volume Profile บน TradingView
เปิดกราฟ: เริ่มต้นด้วยการเปิดกราฟสินทรัพย์ที่ต้องการวิเคราะห์ใน TradingView
เพิ่ม Volume Profile: ไปที่เมนู “Indicators” หรือ “เครื่องมือชี้วัด” แล้วพิมพ์ “Volume Profile” จากนั้นเลือกประเภท Volume Profile ที่คุณต้องการ เช่น Visible Range ซึ่งจะวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายในกราฟที่คุณมองเห็นอยู่ หรือ Session Volume ที่แสดงการกระจายของ Volume ตามเซสชันเวลา
ตั้งค่า Volume Profile: คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ตามต้องการ เช่น จำนวนบาร์ ความกว้างของโปรไฟล์ หรือสีของกราฟ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
ข้อสรุป
Volume Profile เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำความเข้าใจพฤติกรรมตลาดโดยใช้ปริมาณการซื้อขายเป็นตัวบ่งชี้ การใช้ Volume Profile ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดสำคัญในการตัดสินใจเข้าและออกจากตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการหาความสมดุลของตลาดและวางแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บนแพลตฟอร์ม TradingView Volume Profile เป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เทรดเดอร์ทุกคนควรพิจารณาใช้ในกลยุทธ์การเทรดของตนเอง
การบ้าน WK 28 - 1 / 11/ 24- เมื่อพิจารณาที่บาร์ WK ล่าสุด เป็นบาร์ปิดลงยาว บาร์แรกในรอบ เกือบ 3 เดือน ปิดที่ราคา 940
- ข้อพิจารณที่ 2 จากช่วงเวลา 15 วันที่ผ่านของการเทรด ดีสุดอยู่ที่ +1.2% ,แย่สุด -1.5% ,ค่าเฉลี่ยที่ 0.3%
- มาหาค่า prop อย่างง่าย (ถ้าไม่มีการ surprise ของตลาด) แย่แบบปกติน่าจะเห็น 920 - 911 ดีแบบปกติน่าจะ 951-955
จบ week แบบไม่ไปไหน บวก ลบ ไม่เกิน 3 จุด
- พิจารณากับแรงซื้อขาย ถ้ายังทรงในระดับนี้ เราน่าจะเห็น บาร์ที่เป็น hammer หรือ บาร์ก่อนสัปดาห์นี้ (บาร์ขึ้น ) ถ้าไม่มีเรื่อง surprise ตลาด
- แต่ส่วนตัวยัง คาดหวัง 890 อย่างน้อยจะได้ L แบบสบายใจระดับนึง
EURUSD Daily Analysis 25/10/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ และอิสราเอลพยายามผลักดันให้มีการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา
ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงพยายามผลัดดันให้เกิดการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้ามาและจะมีผลต่อนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐฯ
BUY : 1. 08233
TP : 1. 08639
SL : 1. 07922
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคาเริ่มมีการกลับตัวขึ้น และเริ่มเบรคเส้นเทรนไลน์ขึ้นด้วยการยืนเหนือเส้น EMA20 ทำให้ขาขึ้นยังมีลุ้นอยู่ในระยะสั้นๆ จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียนและการยืนเหนือเส้น EMA20 เ็นไปได้ที่ราคาอาจขึ้นไปทดสอบเส้นแนวต้านที่ 100 ในกรอบ H4 โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น อาจมีการกลับตัวขึ้นเล็กน้อย เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปรอบของการเทรดตลาด EU จบไปแล้วตอนนี้เป็นตลาดของอเมริกาแล้วรูปแบบกราฟก็กำลังจะไปทำรูปแบบให้เราเข้า order ได้ทั้งใบและเซลล์ต้องลองจับสังเกตดูณขณะนี้ก็สามารถเตรียมเข้าออเดอร์เซลล์ได้และก็รอให้มันลงมาก็เข้า order by ได้เช่นกันตามแผนที่ตั้งเอาไว้
น้ำมันดิบร่วง กังวลความต้องการใช้ลดลงราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว จากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้ที่ลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง และข้อมูลเศรษฐกิจภาคการผลิตที่อ่อนแอ ในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน พร้อมทั้งสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่สูงเกินคาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ
มุมมองทางเทคนิค ราคาน้ำมันหยุดลดลงที่ระดับ 67.45 แต่ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 72.61 ได้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะลดลงต่อ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 63.83
XAUUSD 25/10/25 ปรับฐานขึ้นไม่เบรค 2728 หลุด 2708 ถ้าเบรคขึ้นต่อกรอบเปลี่ยนทิศ 2708.7-2758.5
แนวลง 2713 2707 2698
แนวขึ้นต้องเบรค 2732.6 2737.6 2743.3
......................................
D: ขาขึ้น มี beardi. os-L = 2604.8
- ob HHHL / rsi os beardi.
120: sw 2708.7-2758.5
- ob will os
- ถ้าหลุด 2708.7 จะมีหัวลงพา D os จาก beardi.
- หากไม่หลุด 2708.7 sw ในกรอบ
- หรือเบรค 2758.5 ยังขึ้นต่อ
60: เหมือน 120 แต่ os แล้ว
30: พา 120 ob os คาดทำ w.4 หรือ w.5 จบ
- os รอบ rsi เดียวกับ sto
- กรอบ 2708.7-2743.3
15 5: พา 30 60 ob os LHLL
- ob-H 2732.7 ถ้าไม่เบรคยังลงต่อ
- แนวลง 2713 2698
- แนวขึ้นต้องเบรค 2732.6 2737.6 2743.3
ดอลลาร์อ่อนค่า หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐฯ ลดลงดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด นักเทรดจับตาข้อมูลการจ้างงาน NFP สัปดาห์หน้า เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นในการชนะเลือกตั้งของทรัมป์หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มขึ้น หากทรัมป์ไม่ชนะ ค่าเงินดอลลาร์อาจเผชิญแรงขายในเดือนพฤศจิกายน
มุมมองทางเทคนิค ดัชนี DXY ทะลุแนวต้าน 104.05 เป้าหมายถัดไปคือ 105.97 แต่มีโอกาสปรับฐานสั้นๆ โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ 102.46
XAUUSD Daily Analysis 25/10/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำ (XAUUSD) วันนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.47% อยู่ที่ระดับ 2,734.94 USD ณ เวลาประมาณ 01:14 UTC โดยมีการเคลื่อนไหวในช่วงสูงสุดที่ 2,743.33 USD และต่ำสุดที่ 2,717.93 USD
การปรับตัวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร/ดอลลาร์ (EUR/USD) ซึ่งมีผลเชิงบวกต่อทองคำเพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ราคาอ้างอิงด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2725.78
✅ Tp: 2700 2691.75
❗ SL: 2737.56
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริ่มที่จะแรงขายเข้ามา นั้นทำให้ราคา เกิดรูปแบบ QM
เข้าขายตามโครงสร้างราคา QM
fibo : เป้าหมายแรก คือ 127 เป้าต่อไป 168
เป้ามหาย 2700 เป็น ไหล์ QM ในการขาย
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 25/10/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ราคา Bitcoin (BTC) อยู่ที่ประมาณ $68,094.70 (ประมาณ 2,249,585 บาท) โดยเพิ่มขึ้น 2.01% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อดูในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งลดลงประมาณ 0.49% การซื้อขาย Bitcoin ยังคงมีปริมาณสูงถึง $141.17 ล้าน
ดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมงล่าสุด และมีมูลค่าตลาดรวมที่ $1.34 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ปัจจุบัน Bitcoin ครองตลาดคริปโตเคอร์เรนซีถึง 51.5%
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 67648.36
✅ Tp: 67943.48 68165.00
❗ SL: 67084.64
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาย่อมาแล้ว ลุ้นในการยกฐานขึ้นต่อ
เริ่มเก็บของลุ้นขึ้นต่อ
fibo : เป้าหมายแรก คือ 1.27
เป้ามหาย 69000 ในการเก็บ TP แรก
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 25 ตุลาคมการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำรักษาระดับอุปทานให้ใกล้กับจุดต่ำสุดของช่วงรายวันในช่วงครึ่งแรกของเซสชั่นยุโรป และอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยหลายประการรวมกัน สำหรับตอนนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดูเหมือนจะหยุดการปรับฐานขาลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงน้อยลง เมื่อประกอบกับระดับความเสี่ยงเชิงบวกโดยทั่วไป เชื่อว่าจะทำให้โลหะมีค่าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัวลง
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การที่ผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ลดลงอีก กำลังขัดขวางนักเก็งกำไร USD จากการเดิมพันเชิงรุก นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงทางการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางอาจช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้าง ขณะนี้ผู้ค้าตั้งตารอข้อมูลมหภาคของสหรัฐฯ - คำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในมิชิแกนที่แก้ไขแล้วสำหรับโอกาสในระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ทองคำทะลุโครงสร้างขาขึ้นของเซสชั่นเอเชียและร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงยุโรปโดยทะลุโซนแนวรับที่สำคัญที่ 2720 ทองคำมุ่งหน้าไปที่ 2710 และ 2700 โปรดให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของราคาในโซนนี้เพื่อใช้กลยุทธ์การซื้อระยะยาว . ภาคเรียน. สัญญาณขายถูกสร้างขึ้นพร้อมกับระดับกำไรตามที่วิเคราะห์ ขอให้คุณมีวันซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในเชิงลบ ยังคงจำกัดอยู่ในกรอบรายสัปดาห์⭐️ราคาทองคำร่วงลงในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ และพลิกกลับจากการเคลื่อนไหวเชิงบวกของวันก่อนหน้าบางส่วน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงสัปดาห์ก็ตาม โดยผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่าการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนจะสูสีกันในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางแล้ว อาจยังคงเป็นปัจจัยหนุนสำหรับราคาทองคำ ที่ถูกมิงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️ปัจจัยสนับสนุนส่วนใหญ่ถูกชดเชยด้วยการเกิดขึ้นของ การซื้อ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในระดับต่ำลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากความคาดหวังที่ชัดเจนขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายน้อยลง ในความเป็นจริง นักลงทุนได้ประเมินความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนอย่างเต็มที่แล้ว เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนค่าเงินดอลลาร์และส่งผลกระทบต่อราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
⭐ปัจจัยด้านรัฐศาสตร์ถูมิศาสตร์ อิสราเอลยังคงโจมตีทางทหารต่อกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเลบานอน และเพิ่มการปิดล้อมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
👀คืนนี้ จับตาดูรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นในระยะสั้นก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำดูเหมือนว่าจะสร้างรูปแบบหัวไหล่ลงบนกราฟ 1 ชั่วโมง
จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนไหวราคาล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อให้เกิดรูปแบบหัวไหล่ขาลงบนกราฟระยะสั้น
📉 แนวรับของรูปแบบดังกล่าวอยู่ใกล้กับระดับ 2,703 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ควรทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในทันที การขายตามลงมาบางส่วนซึ่งนำไปสู่การร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2,700 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา มีความเสี่ยงต่อการเปิดทางให้เกิดการขยายปริมาณการขายที่รุนแรงขึ้น และดึงให้ราคาทองคำเข้าใกล้แนวรับ 2,675 ดอลลาร์มากขึ้น การร่วงลงต่อไปอาจขยายไปสู่เป้าหมายรูปแบบขาลงใกล้ระดับ 2,660 ดอลลาร์
📈อีกด้านหนึ่ง ระดับ 2,740-2,745 ดอลลาร์ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทันที ในขณะเดียวกัน ความแข็งแกร่งที่ต่อเนื่องกันจะลบล้างรูปแบบหัวไหล่และอนุญาตให้ราคาทองคำมุ่งเป้าไปที่การท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,758-2,759 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อต้นสัปดาห์นี้การเคลื่อนตัวขึ้นในเวลาต่อมาอาจทำให้ราคาเคลื่อนตัวเข้าใกล้โซน 2,770 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่มีอายุเกือบสี่เดือน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ระดับ 2,800 (2810) ดอลลาร์ซึ่งเป็นตัวเลขกลมๆ(Round number)
แนวคิดแผน Buy (25 ตุลาคม)
Buy zone 2704-2702-2700
Sl 2690
TP1 2710
TP2 2720
TP3 2730
TP4 2740
TP5 2750
TP6 2800
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell (แผน 1 ) วันที่ 25 ตุลาคม
แนวคิดแผน Sell วันที่ 8 ตุลาคม
Sell zone 2748-2750-2753
Sl ✨2763(High risk‼️)
TP1 2740
TP2 2730
TP3 2720
TP4 2710
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
2024 10 25 GOLD GOLD GOLD TF_30Mวิเคราะห์:
1. แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):
กราฟยังแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาในช่วงกรอบแคบ โดยที่ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวอยู่ใกล้แนวรับสำคัญที่ประมาณ 2,725 USD
ราคามีการลงมาต่อเนื่องแต่ยังคงอยู่ในช่วงขาลงสั้น ๆ ในขณะที่กำลังทดสอบแนวรับ
2. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวรับ: อยู่ที่บริเวณ 2,720 USD ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่ราคาลงมาทดสอบหลายครั้งในช่วงนี้
แนวต้าน: อยู่ที่ประมาณ 2,740 USD หากราคาสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปได้ จะเป็นโอกาสในการทดสอบแนวต้านนี้
3. เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):
MACD (Histogram): ยังอยู่ในโซนลบ แสดงถึงแนวโน้มขาลงที่มีความแข็งแกร่ง
RSI (Relative Strength Index): อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางล่าง แสดงถึงโอกาสที่ราคายังมีพื้นที่ในการลงต่อ
แผนการเทรด:
1. ถ้าต้องการ Sell:
หากราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,740 USD และกลับตัวลง ให้เปิด Sell
ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับ 2,720 USD หรือถ้าราคาทะลุลงต่อ ให้พิจารณาปรับเป้าหมายเป็น 2,710 USD
ตั้ง Stop Loss ไว้ที่บริเวณ 2,745 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยง
2. ถ้าต้องการ Buy:
หากราคาดีดตัวจากแนวรับ 2,720 USD และมีสัญญาณการกลับตัวขึ้น ให้พิจารณาเปิดBuy
ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ 2,740 USD
ตั้ง Stop Loss ใกล้แนวรับ 2,715 USD เพื่อควบคุมความเสี่ยง
สรุป:
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง แต่มีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวรับสำคัญ หากราคาดีดตัวขึ้น ควรพิจารณาเปิดสถานะ Buy ขณะที่หากราคายังคงลงต่อ ควรใช้กลยุทธ์การ Sell
ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการ📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์
วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2024
🏦ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการเกิดแท่งเทียน Bearish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณการขายสำคัญ หากราคาทำลายโครงสร้างขาลงได้ จะมีโอกาสปรับตัวไปตามกรอบที่วิเคราะห์ไว้ จุดที่ควรเฝ้าระวังในช่วงนี้คือแนวรับสำคัญที่ระดับ 2737. หากราคาหลุดระดับนี้ไป อาจเห็นการปรับตัวลงไปสู่ระดับแนวรับถัดไปที่ 2718/2707/2695 ตามลำดับ สำหรับกลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอดูความชัดเจนของแนวโน้ม ถ้าเกิดการปรับตัวขึ้นสามารถวางจุดขายหรือ Stop Loss ที่ระดับแนวต้าน 2747
🍀ข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อทองคำ:
1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนี PMI, การประชุม FOMC, และรายงานการว่างงาน มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เนื่องจากมีผลกระทบต่อทิศทางดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย
2. เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความตึงเครียดหรือความไม่แน่นอนระดับโลกมักทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
3. แนวโน้มการปรับดอกเบี้ย: การคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคา
📌นักลงทุนควรจับตาดูข้อมูลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ
( ระวังข่าวนอกตารางและวันนี้ ศุกร์อาจจะหรรษาก็ได้ )
XAUUSDสำหรับแผนวันนี้จะเป็นการ continues ต่อจากเมื่อวานที่เรายังไม่เห็นอะไรเลย อย่างแรกเลยหากเรามองว่าเค้ากำลังพักตัวในตอนนี้แปลว่ามันจะต้องมีอย่างน้อยๆก็ขา C เกิดขึ้นนะครับ แต่ C ไม่จำเป็นต้องหลุด A ลงมาก็ได้หรืออาจพักตัวยาวคือทำ ABCDE อันนี้เราก็ไม่รุ้แน่ชัด
สรุป
สิ่งเดียวที่จะบอกเราได้ชัดเจนว่าพักตัวจบแล้วยังคือราคายืนหัว B ได้ เราแค่รอเค้าลงมาแตะโซนในแผนแล้วถือไปทำกำไรนะ เราแค่ต้องรอดูว่าเค้าพักจบแค่ขา C แล้วขึ้นหรือ E แล้วค่อยขึ้น แต่ใดๆคือผมก็ยังรอ Buy อยู่ดี เวลาลงมาแตะโซนผมเชื่อว่าทุกคนมีวิธีดูกราฟกลับตัวอยู่แล้วหวังว่าจะช่วยให้มองเห็นภาพการเทรดของเพื่อนๆได้ชัดขึ้นนะครับ
2024 10 25 GOLD GOLD GOLD TF_15Mวิเคราะห์:
1. แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):
กราฟที่แสดงอยู่เป็นขาลงชัดเจนในระยะสั้น โดยราคาลงมาอย่างต่อเนื่องและทดสอบแนวรับเดิม
มีการทำ Lower High และ Lower Low ซึ่งเป็นสัญญาณของการอ่อนตัว
2. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,720 USD ซึ่งเป็นระดับที่กราฟเคยทดสอบและดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้
แนวต้านแรกอยู่ที่บริเวณ 2,740 USD หากราคาดีดตัวขึ้นมาอาจมีการทดสอบแนวต้านนี้อีกครั้ง
3. เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):
MACD (Histogram): อยู่ในโซนลบและมีการอ่อนแรง แสดงถึงแนวโน้มที่ราคายังมีโอกาสลงต่อได้
RSI (Relative Strength Index): อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางล่าง แต่ยังไม่เข้าสู่โซน Oversold ซึ่งบ่งชี้ว่าราคามีพื้นที่ในการลงต่อไปได้อีก
แผนการเทรด:
1. ถ้าต้องการ Sell:
รอจังหวะที่ราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้าน 2,740 USD และกลับตัวลง ให้เปิด Sell
ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับ 2,720 USD หรือถ้าราคาทะลุผ่านลงไปได้ให้ติดตามแนวรับถัดไปที่ประมาณ 2,700 USD
ตั้ง Stop Loss ไว้เหนือแนวต้าน 2,745 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยง
2. ถ้าต้องการ Buy:
หากราคาทดสอบแนวรับที่ 2,720 USD และสามารถกลับตัวขึ้นได้ ให้เปิด Buy
ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวต้าน 2,740 USD หรือหากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 2,760 USD
ตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่ 2,715 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยง
สรุป:
ราคาทองคำในวันนี้ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ควรเฝ้าดูแนวรับที่ 2,720 USD หากราคาสามารถดีดตัวขึ้นจากจุดนี้ได้ ควรพิจารณาการเปิดสถานะ Buy ขณะที่หากราคายังลงต่อไป ควรเปิดสถานะ Sell ในการทดสอบแนวรับถัดไป
2024 10 25 GOLD GOLD GOLD TF_15Mวิเคราะห์:
1. แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):
กราฟที่แสดงอยู่เป็นขาลงชัดเจนในระยะสั้น โดยราคาลงมาอย่างต่อเนื่องและทดสอบแนวรับเดิม
มีการทำ Lower High และ Lower Low ซึ่งเป็นสัญญาณของการอ่อนตัว
2. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,720 USD ซึ่งเป็นระดับที่กราฟเคยทดสอบและดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้
แนวต้านแรกอยู่ที่บริเวณ 2,740 USD หากราคาดีดตัวขึ้นมาอาจมีการทดสอบแนวต้านนี้อีกครั้ง
3. เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):
MACD (Histogram): อยู่ในโซนลบและมีการอ่อนแรง แสดงถึงแนวโน้มที่ราคายังมีโอกาสลงต่อได้
RSI (Relative Strength Index): อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางล่าง แต่ยังไม่เข้าสู่โซน Oversold ซึ่งบ่งชี้ว่าราคามีพื้นที่ในการลงต่อไปได้อีก
แผนการเทรด:
1. ถ้าต้องการ Sell:
รอจังหวะที่ราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้าน 2,740 USD และกลับตัวลง ให้เปิด Sell
ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับ 2,720 USD หรือถ้าราคาทะลุผ่านลงไปได้ให้ติดตามแนวรับถัดไปที่ประมาณ 2,700 USD
ตั้ง Stop Loss ไว้เหนือแนวต้าน 2,745 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยง
2. ถ้าต้องการ Buy:
หากราคาทดสอบแนวรับที่ 2,720 USD และสามารถกลับตัวขึ้นได้ ให้เปิด Buy
ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวต้าน 2,740 USD หรือหากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 2,760 USD
ตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่ 2,715 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยง
สรุป:
ราคาทองคำในวันนี้ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ควรเฝ้าดูแนวรับที่ 2,720 USD หากราคาสามารถดีดตัวขึ้นจากจุดนี้ได้ ควรพิจารณาการเปิดสถานะ Buy ขณะที่หากราคายังลงต่อไป ควรเปิดสถานะ Sell ในการทดสอบแนวรับถัดไป