สัญญาณ MaChao Flip Sell SETUP#9 ใน BTCUSD อ่านอย่างไรMaChao Flip อ่านโดยใช้หลักการของ TD Sequential
เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาขึ้นโดยได้แนวคิดจาก Thomas DeMark เพื่อช่วยระบุจุดที่ตลาดมีโอกาสกลับตัว (reversal points) หรืออยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มอ่อนแรง (exhaustion).
### หลักการพื้นฐานของ TD Sequential:
TD Sequential ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก:
1. **TD Setup**
2. **TD Countdown**
---
### 1. **TD Setup**:
เป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้ม
- **เงื่อนไข**:
- ต้องมีแท่งราคา 9 แท่ง (candlesticks) ติดต่อกัน โดยราคาปิดของแต่ละแท่งจะสูงหรือต่ำกว่าแท่งที่ 4 ก่อนหน้า (ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาด)
- ตัวอย่างเช่น:
- สำหรับ **ขาขึ้น (Bullish Setup)**: ราคาปิดของแท่งที่ 2 ถึง 9 ต้องสูงกว่าราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- สำหรับ **ขาลง (Bearish Setup)**: ราคาปิดของแท่งที่ 2 ถึง 9 ต้องต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- เมื่อครบ 9 แท่ง เราอาจมองว่าตลาดเริ่มอยู่ในช่วงที่อ่อนแรง (exhaustion) และมีโอกาสกลับตัว
---
### 2. **TD Countdown**:
เป็นขั้นตอนที่ใช้ยืนยันจุดกลับตัว
- **เงื่อนไข**:
- ต้องนับแท่งราคา 13 แท่งเพิ่มเติม (ไม่นับต่อเนื่องจาก TD Setup)
- แท่งที่ 13 ต้องมีราคาปิดต่ำกว่าหรือสูงกว่าราคาของแท่งก่อนหน้าที่กำหนด (เช่น จุด low สำหรับขาลง หรือ high สำหรับขาขึ้น)
- TD Countdown มีความยืดหยุ่นกว่า TD Setup และใช้เวลานานกว่า
- หากครบ 13 แท่ง ตลาดจะมีโอกาสสูงที่จะกลับตัว หรือเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเดิม
---
### ข้อสรุปที่ง่ายขึ้น:
- **TD Setup**: ช่วยบอกว่าแนวโน้มกำลังเข้าสู่จุดอ่อนแรง
- **TD Countdown**: ช่วยยืนยันว่าตลาดพร้อมสำหรับการกลับตัวแล้ว
### การใช้งาน:
TD Sequential ใช้ได้ทั้งในตลาดหุ้น, Forex, Cryptocurrency และอื่น ๆ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการระบุจุดที่ตลาดมีโอกาสเปลี่ยนแปลง เพื่อตัดสินใจซื้อหรือขายในจังหวะที่เหมาะสม.
ข้อสำคัญคือ TD Sequential ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น แนวรับ/แนวต้าน (Support/Resistance) หรือเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Averages) เพื่อความแม่นยำที่มากขึ้น.
การวิเคราะห์แนวโน้ม
BTCUSD Daily Analysis 27/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาบิตคอยน์ (BTC) มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 100,463 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 5.49% จากราคาปิดก่อนหน้า
ในด้านข่าวสารที่เกี่ยวข้อง มีรายงานว่า Bitcoin ETF ของ BlackRock กำลังเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา
cr.investing -siamblockchain
Trading note: ✅
Buy : 94268.33
✅ Tp: 96345.46 98954.05
❗ SL: 92720.89
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงขายเข้ามา หลังจากที่ราคามีแรงซื้อเข้ามา
ลุ้นในการยกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 98954.05 ในรูปแบบ QM
fibo : เป้าหมาย 78
เป้ามหาย เป้ามหายราคา 98954.05
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
แนวโน้ม S&P500 Future สำหรับ วันที่ 27/12/2567MES Micro E-mini S&P 500
ราคาในภาพweekและday ยังคงเป็นขาขึ้น Lowของdayจะอยู่ที่5800 ถ้าเบรกHighได้จะมีเป้า 6250
ภาพ H4 เป็นขาลงมองว่าราคาน่าจะมีการย่อตัวให้สักครั้ง ไม่น่าที่จะเบรก6176 ขึ้นไปเลย
ภาพ H1 เป็นขาขึ้น ราคาเริ่มมีRSI Divergent จะมีต้านโซน 6127-6137
ท้ายสัปดาห์นี้แนะนำหน้าSell
6127-6137 , SL 6176 ,TP6060 6020
"ทองคำปี 2025: ราคาจะพุ่งหรือร่วง? จับตานโยบายทรัมป์และ Fed!"การคาดการณ์ราคาทองคำประจำปี: ปี 2025 จะเป็นปีที่สร้างสถิติใหม่อีกครั้งหรือไม่?
* ทองคำเปล่งประกายในปี 2024 ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยม โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
* การพัฒนาในระดับภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำในปี 2025
* แนวโน้มทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้นเมื่อเข้าสู่ปีใหม่
ทองคำได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสู่สภาพแวดล้อมนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024 โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,790 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจโลก และสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาไม่ได้ อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อราคาทองคำในปี 2025
**ทองคำในปี 2024: ภูมิรัฐศาสตร์และการซื้อของธนาคารกลางขับเคลื่อนการขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่**
ทองคำเริ่มต้นปีในลักษณะที่ค่อนข้างเงียบ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ นักลงทุนเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่ ขณะจับตาดูสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และประเมินผลกระทบจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจมหภาคต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำเริ่มมีแรงขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในเดือนมีนาคม และแตะจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 2,200 ดอลลาร์ในกระบวนการนี้ ความกดดันในการขายดอลลาร์สหรัฐ (USD) การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และความต้องการทองคำจากจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของทองคำในไตรมาสแรก
ทองคำขยายแนวโน้มขาขึ้นในเดือนเมษายน และทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับฐานในช่วงครึ่งหลังของเดือน อย่างไรก็ตาม XAU/USD ปิดเดือนด้วยกำไรเกิน 2% การเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดของอัตราเงินเฟ้อจากดัชนี PCE ในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงการชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในเดือนเมษายน ซึ่งจำกัดศักยภาพการขึ้นของทองคำ
หลังจากช่วงการรวมตัวในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ทองคำกลับมาแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม และเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นสี่เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 15% และแตะจุดสูงสุดใหม่ใกล้ 2,800 ดอลลาร์ในวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนตุลาคม
**ประเมินผลการดำเนินงานของทองคำในครึ่งปีแรกของปี 2024**
“ทองคำทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้น 12% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานดีกว่าสินทรัพย์หลักส่วนใหญ่ ทองคำได้รับประโยชน์จากการซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของการลงทุนในเอเชีย ความต้องการผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงาน Gold Mid-Year Outlook 2024
**ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำในปี 2025**
1. **สถานการณ์ที่เป็นขาลง**:
- การลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการแก้ไขปัญหาวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทองคำได้รับประโยชน์อย่างมากจากความขัดแย้งเหล่านี้ในปี 2024
- การเปลี่ยนแปลงของนโยบาย Fed ที่เป็นไปในเชิง Hawkish อาจกดดันราคาทองคำในปีหน้า
- เศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในปี 2025
2. **สถานการณ์ที่เป็นขาขึ้น**:
- การดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลก อาจช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นในปี 2025
- เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- การเพิ่มขึ้นของความกลัวทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
**ความต้องการจากธนาคารกลาง**
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนทองคำในปี 2024 คือการซื้อของธนาคารกลาง
“ธนาคารกลางจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของภาพรวม การซื้อของธนาคารกลางมีแรงขับเคลื่อนจากนโยบายและยากที่จะคาดการณ์ แต่จากการสำรวจและการวิเคราะห์ของเรา ชี้ให้เห็นว่ากระแสปัจจุบันจะยังคงอยู่” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงานแนวโน้มทองคำปี 2025
**การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ**
รูปภาพทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้น ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ใกล้ 50 นอกจากนี้ XAU/USD ยังลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ระยะ 20 สัปดาห์ หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ของปีเหนือระดับดังกล่าว
โซนสนับสนุนแรกของทองคำอาจอยู่ที่ 2,530-2,500 ดอลลาร์ ซึ่งระดับ Fibonacci 23.6% และระดับจิตวิทยาตรงกัน หาก XAU/USD ลดลงต่ำกว่าพื้นที่นี้และเริ่มใช้เป็นแนวต้าน เป้าหมายขาลงถัดไปอาจอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ตามลำดับ
ในทางกลับกัน หากทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ Fibonacci expansion ระยะยาวที่เสริมด้วยระดับจิตวิทยาที่ 3,000-3,020 ดอลลาร์
**"EUR/USD เสี่ยงแตะเท่าเทียมในปี 2025 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่ง"***การคาดการณ์ราคาประจำปี EUR/USD: ความเท่าเทียมทางค่าเงินดูเป็นไปได้ในปี 2025 เมื่อช่องว่างระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรปกว้างขึ้น**
🌟 **หัวข้อสำคัญที่ควรจับตา**
- ธนาคารกลางยังคงให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจควรนำพาไปข้างหน้า
- การดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประเทศอื่น
- คู่เงิน EUR/USD มีแนวโน้มทดสอบความเท่าเทียมทางค่าเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2025
#EURUSD #เศรษฐกิจ #การเงิน
🎯 **สรุปภาพรวมปี 2024 ของคู่เงิน EUR/USD**
EUR/USD เริ่มต้นปีที่ระดับประมาณ 1.1040 และปิดใกล้จุดต่ำสุดประจำปีที่ 1.0332 โดยในเดือนกันยายน คู่เงินนี้พุ่งขึ้นสู่ 1.1213 สร้างความมั่นใจว่าเงินยูโร (EUR) จะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก 🪙 อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความหวังที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับการลดนโยบายการเงินแบบเข้มงวดจากธนาคารกลาง 🌍
#เงินยูโร #ตลาดการเงิน #การเงิน
📉 **ECB เปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน แต่ไม่ใช่เพราะเงินเฟ้อ**
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นหนึ่งในธนาคารกลางแรก ๆ ที่เปลี่ยนนโยบาย โดยในเดือนมิถุนายน ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2024 และดำเนินการลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม 📉 อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากความกลัวเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ
#ECB #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจยุโรป
📊 **แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง**
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสองปีในวันที่ 20 ธันวาคม โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และความคาดหวังด้านนโยบายทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปในปี 2025 💵 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุด เนื่องจากนโยบายลดภาษีและการกำหนดภาษีนำเข้าของทรัมป์
#ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายเศรษฐกิจ #วอลล์สตรีท
🔮 **การคาดการณ์ EUR/USD ในปี 2025**
ในปี 2025 ความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มกว้างขึ้น โดยธนาคารกลางยุโรปอาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเนื่องจากการเติบโตที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ลดลง 📉 ในทางตรงกันข้าม เฟดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า พร้อมกับปรับประมาณการการเติบโต GDP ของปี 2024 ขึ้นเป็น 2.5%
#การคาดการณ์เศรษฐกิจ #EURUSD #ปี2025
📌 **บทสรุป**
ภาพรวมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเอื้อต่อดอลลาร์สหรัฐมากกว่าเงินยูโร แม้ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จากนโยบายของทรัมป์ แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแสดงความแข็งแกร่งสูงสุดในกลุ่ม G7 นับตั้งแต่การฟื้นตัวหลังโควิด-19
#เศรษฐกิจโลก #คู่เงิน #การลงทุน
XAUUSD 26/12/24 เบรค 2634 ได้จะขึ้นเล่นด้านบน ถ้าไม่เบรค sw ต่อกรอบ 2608.2-2633.3
กำลัง test 2633.3
กรณีขึ้น
a. เบรค 2629.6
b. เบรค 2633.3
กรณีลง
c. หลุด 2623.5
d. หลุด 2610 2608
.......................................
D : ขาขึ้น os sw กรอบใหญ่
240 : ขาลง ob 2584-2726
- ob test ไกล ถ้าจะพา D น่าจะทำหัวขึ้นก่อน
120 : ob สกปฐ.2608.2-2633.3
- ob test 2633.3 ถ้าเบรคจะมีหัวขึ้นพา 240 ob ลากเลื้อย
- ถ้าเบรค 2633.3 ไม่ได้จะ sw ต่อ
60 30 15 : ob ขาขึ้นในกรอบ 120
- พา 120 ob test 2633.3
5 : ขาขึ้น สกปฐ.2623.5-2629.6
- ถ้าเบรค 26ยังขึ้นต่อ พา 15 30 60 ob test 2633.3
- ถ้าหลุด 2623.5 มีหัวลงพา 15 30 60 sw 2608.2-2633.3
EURUSD Daily Analysis 26/12/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันพุธ (25 ธ.ค.) ว่า รัสเซียพร้อมที่จะส่งออกก๊าซต่อไปยังยุโรปผ่านหลายเส้นทาง ขณะที่สัญญาขนส่งก๊าซผ่านยูเครนจะสิ้นสุดลงในปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การส่งก๊าซผ่านยูเครนที่กำลังจะสิ้นสุดลงสร้างความกังวลอย่างมากให้กับประเทศต่าง ๆ เช่น สโลวาเกีย ซึ่งพึ่งพาก๊าซจากบริษัทก๊าซพรอม พีเจเอสซี (Gazprom PJSC) อย่างมากในการตอบสนองความต้องการ แม้ว่าประเทศยุโรปส่วนใหญ่พยายามลดการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนระบุว่า ยูเครนจะไม่ขนส่งก๊าซที่มีต้นกำเนิดมาจากรัสเซีย เว้นแต่จะได้รับการรับรองว่ารัสเซียจะไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินในช่วงที่สงครามยังคงดำเนินอยู่
BUY : 1. 03959
TP : 1. 04469
SL : 1. 03553
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังคงไม่เลือกทางที่ชัดเจน ยังวิ่งในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์แคบๆแม้ว่าจะลดระดับต่ำลงเรื่อยๆ แต่ยังไม่ลงต่ำกว่าแนวรับเก่าและยกก้นขึ้นสูง จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียน และกรอบแนวรับเดิมในTF H1ในการเข้าออเดอร์ คาดหวังการสวิงในกรอบพักตัวระยะสั้นๆในรอบขาขึ้นระยะสั้น เป็นไปได้ที่ราคาจะวิ่งขึ้นไปทดสอบเส้นENA100-200 ตามลำดับ ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลาง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 26/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขาดทุนติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ซึ่งอาจเกิดจากแรงกดดันจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นอกจากนี้ มีรายงานว่า 31% ของบิตคอยน์ทั้งหมดในระบบถูกถือครองโดย ETF, รัฐบาล และบริษัท MicroStrategy ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
cr.investing -siamblockchain
Trading note: ✅
Buy : 2620.89
✅ Tp: 2636.38 2649.23
❗ SL: 2609.39
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคาได้มีแรงซื้อกลับขึ้นมา
ราคาก็ได้สะสมแรง ยกฐานขึ้นต่อ ลุ้นในการยกฐษนไปทดสอบโซน 101685.22
fibo : เป้าหมาย 168.0
เป้ามหาย เป้ามหายราคา 90000
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 26/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ณวันที่ 26 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ (BTC) มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 98,993 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.68% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
กองทุน Bitcoin ETF ของ BlackRock เผชิญวิกฤต: มีรายงานว่าในระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวมีเงินไหลออกมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
cr.investing -siamblockchain
Trading note: ✅
Buy : 99455
✅ Tp: 100775.86 101685.22
❗ SL: 98249.86
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคาได้มีแรงซื้อกลับขึ้นมา
ราคาก็ได้สะสมแรง ยกฐานขึ้นต่อ ลุ้นในการยกฐษนไปทดสอบโซน 101685.22
fibo : เป้าหมาย 168.0 ++
เป้ามหาย เป้ามหายราคา 100775.86
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
26 ธ.ค.67 วิธีนับ TD COMBO ใน SET 120MIN
**TD Combo** มีความแตกต่างจาก TD Sequential (Original) อย่างชัดเจนในส่วนของการเริ่มต้น
**Countdown Phase** ซึ่งใน TD Combo **Countdown Phase เริ่มต้นพร้อมกับ Setup Phase**
เป็นการนับที่เกิดขึ้นควบคู่กันตั้งแต่เริ่มต้น Setup Phase ไม่เหมือน TD Sequential Original ที่ Countdown จะเริ่มหลังจาก Setup Phase จบลง (ครบ 9 แท่ง)
### การนับ TD Combo ที่ถูกต้อง
TD Combo ยังคงแบ่งออกเป็น 2 เฟส คือ **Setup Phase** และ **Countdown Phase** แต่ลักษณะและเงื่อนไขแตกต่างจาก TD Sequential Original ในหลายแง่ ดังนี้:
---
### 1. **Setup Phase (9 Setup)**
**กฎการนับ Setup Phase:**
1. ราคาปิดของแต่ละแท่งเทียนต้อง:
- **ต่ำกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า (ในขาลง) หรือ
- **สูงกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า (ในขาขึ้น)
2. การนับจะต้องเกิดต่อเนื่องจนถึง 9 แท่ง หากมีแท่งเทียนที่ไม่ตรงตามเงื่อนไข การนับจะเริ่มต้นใหม่
3. เมื่อครบ 9 Setup จะสร้าง **TDST Line** ซึ่งเป็นแนวรับ (สำหรับขาขึ้น) หรือแนวต้าน (สำหรับขาลง)
**จุดสำคัญของ Setup Phase ใน TD Combo:**
- Setup Phase ระบุแนวโน้มต่อเนื่องในระยะสั้นและเริ่มต้นการตรวจสอบว่าตลาดอาจเข้าสู่จุดกลับตัวหรือไม่
- ใน TD Combo **Countdown Phase เริ่มต้นตั้งแต่แท่งที่ 1 ของ Setup Phase**
---
### 2. **Countdown Phase (13 Countdown)**
**กฎการนับ Countdown Phase (ใน TD Combo):**
1. Countdown เริ่มต้นพร้อมกับ Setup Phase (ตั้งแต่แท่งแรกของ Setup)
2. ราคาปิดของแท่งที่ถูกนับใน Countdown ต้อง:
- **ต่ำกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 2 ก่อนหน้า (ในขาลง) หรือ
- **สูงกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 2 ก่อนหน้า (ในขาขึ้น)
3. แท่งที่ถูกนับใน Countdown **สามารถเป็นแท่งเดียวกันกับที่อยู่ใน Setup Phase ได้** (แตกต่างจาก TD Sequential Original)
4. การนับ Countdown จะต้องครบ 13 แท่ง โดยไม่จำเป็นต้องต่อเนื่อง หากเงื่อนไขกลับมาตรง สามารถนับต่อได้
5. การทำลาย TDST Line จะทำให้การนับ Countdown Phase เป็นโมฆะ
**เป้าหมายของ Countdown Phase ใน TD Combo:**
- ระบุจุดที่ตลาดเข้าสู่จุดอิ่มตัว (Exhaustion) ทั้งในขาขึ้นและขาลง
- การนับ 13 Countdown ที่เกิดพร้อม Setup Phase ทำให้ TD Combo มีความเข้มงวดและแม่นยำมากขึ้น
---
### ตัวอย่างการนับ TD Combo
#### กรณีขาลง (Downtrend):
- **Setup Phase**:
- นับ 9 แท่งเทียนที่ราคาปิดแต่ละแท่ง **ต่ำกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- **Countdown Phase**:
- ในขณะที่ Setup กำลังดำเนินการ หากแท่งเทียนใดมีราคาปิด **ต่ำกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 2 ก่อนหน้า จะนับเป็น 1 Countdown
- นับจนกว่าจะครบ 13 Countdown โดยสามารถทับซ้อนกับ Setup ได้
#### กรณีขาขึ้น (Uptrend):
- **Setup Phase**:
- นับ 9 แท่งเทียนที่ราคาปิดแต่ละแท่ง **สูงกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- **Countdown Phase**:
- ในขณะที่ Setup กำลังดำเนินการ หากแท่งเทียนใดมีราคาปิด **สูงกว่า** ราคาปิดของแท่งที่ 2 ก่อนหน้า จะนับเป็น 1 Countdown
- นับจนกว่าจะครบ 13 Countdown โดยสามารถทับซ้อนกับ Setup ได้
---
### ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง TD Combo และ TD Sequential Original
**การเริ่มต้น Countdown** | เริ่มต้นหลัง Setup Phase (9 Setup) เสร็จ | เริ่มต้นพร้อมกับ Setup Phase
---
### สรุป
การนับ **TD Combo** มีลักษณะเฉพาะที่สำคัญคือ:
1. **Countdown Phase เริ่มต้นพร้อมกับ Setup Phase** ตั้งแต่แท่งแรก
2. แท่งที่ถูกนับใน Countdown Phase สามารถเป็นแท่งเดียวกับที่อยู่ใน Setup Phase ได้
3. Countdown Phase มุ่งเน้นการระบุจุดอิ่มตัว (Exhaustion) ด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างจาก TD Sequential Original
XAUUSD H4 แนวโน้มขาลงต่อเนื่องราคากำลังปรับตัวขึ้นสู่ระดับ Pivot ที่ 2636.92 ซึ่งเป็นแนวต้านแบบ Pullback หากราคาย้อนกลับจากระดับนี้ อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงสู่ แนวรับแรกที่ 2612.14 ซึ่งเป็นแนวรับแบบ Overlap
สถานการณ์ทางเลือก:
หากราคาสามารถทะลุระดับ Pivot ขึ้นไปได้ อาจทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ แนวต้านแรกที่ 2665.41 ซึ่งเป็นแนวต้านแบบ Overlap
January Effect จากสถิติ 14 ปี เกิดปรากฏการณ์นี้ในเซต 9 ปีJanuary Effect "จากสถิติย้อนหลัง 14 ปี พบว่าตลาดหุ้นไทยเกิดปรากฏการณ์นี้ใน 9 ปี"
หากใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคอลร่วมด้วย เมื่อดัชนีปิดในกรอบ 23.6-38.2 หรือ 1372.96-1434.69 โอกาสเกิด "January Effect" มีความเป็นไปได้ หากระบุเฉพาะเจาะจงละเอียดกว่านั้น KEY LEVEL คือ 1408.17 จะเป็นตำแหน่งยืนยัน Bull Run ต่อเนื่อง
หมายเหตุ 1408.17 คือ ดัชนีปิดสิ้นวันเมื่อ 10 เม.ย.2567 ดู กราฟประกอบด้านล่าง
ในช่วงปลายปี นักลงทุนมักให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ "Santa Claus Rally" และ "January Effect" ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย
Santa Claus Rally
"Santa Claus Rally" หมายถึงการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม ปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์นี้ ได้แก่ การปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อประโยชน์ทางภาษี การใช้โบนัสสิ้นปีในการลงทุน และสภาพคล่องที่ลดลงเนื่องจากนักลงทุนบางส่วนหยุดพักผ่อน
January Effect
"January Effect" เป็นทฤษฎีที่เชื่อว่าราคาหุ้นมักปรับตัวขึ้นในเดือนมกราคม สาเหตุอาจมาจากนักลงทุนขายหุ้นในเดือนธันวาคมเพื่อประโยชน์ทางภาษี แล้วกลับมาซื้อใหม่ในเดือนมกราคม จากสถิติย้อนหลัง 14 ปี พบว่าตลาดหุ้นไทยเกิดปรากฏการณ์นี้ใน 9 ปี
สถานการณ์ปัจจุบัน
ในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิด "Santa Claus Rally" และ "January Effect" แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดขึ้นเสมอไป นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก่อนตัดสินใจลงทุน
หากใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคอลร่วมด้วย เมื่อดัชนีปิดในกรอบ 23.6-38.2 หรือ 1372.96-1434.69 โอกาสเกิด "January Effect" มีความเป็นไปได้ หากระบุเฉพาะเจาะจงละเอียดกว่านั้น KEY LEVEL คือ 1408.17 จะเป็นตำแหน่งยืนยัน Bull Run ต่อเนื่อง
หมายเหตุ 1408.17 คือ ดัชนีปิดสิ้นวันเมื่อ 10 เม.ย.2567
ข้อควรระวัง
แม้ว่าปรากฏการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์หลักในการตัดสินใจลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผลประกอบการของบริษัท สถานการณ์เศรษฐกิจ และข่าวสารที่อาจส่งผลต่อตลาด
สรุปแล้ว แม้ว่าจะมีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีและต้นปีหน้า แต่การลงทุนควรพิจารณาปัจจัยหลายด้านและไม่ควรพึ่งพาปรากฏการณ์เหล่านี้เพียงอย่างเดียว ให้ใช้โซนราคาทางเทคนิคอลตามที่ระบุไว้ ในการตัดสินใจ
BCPบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
..................
ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมัน และธุรกิจการตลาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 25.50💥
💥Book value = 42.44 💥
💥D/E = 2.85💥
💥P/E = 58.33💥
💥P/BV = 0.81 💥
💥EPS = -1.52💥
💥Free Float = 55.85 💥(07/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 8.87% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 13.66% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 24/12/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 2,144,570 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 ก.ย. 2024
เงินปันผล 0.6 บ./หุ้น
******
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 26/12/2567ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2024 โดยเฉพาะการบริโภคพลังงานที่เริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาล นอกจากนี้ ตลาดยังจับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศโอเปกและพันธมิตร (โอเปกพลัส) เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันที่จะส่งผลโดยตรงต่ออุปทานในตลาด
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในบางภูมิภาค เช่น จีน เป็นปัจจัยที่อาจกดดันราคาน้ำมัน
ติดตามตัวเลขในสัปดาห์นี้
Crude Oil Inventories
แผนการเทรดในกรอบสวิง
จุดเข้าและออก
เปิดสถานะ Short ที่ระดับ 70.5
กำหนดที่ระดับ 70.9 เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวสวนทาง
จุดทำกำไร
TP1: ที่ระดับ 69.5
TP2: ที่ระดับ 68.6
แนวโน้มทองคำสำหรับ วันที่26/12/67ราคาทองคำ ความผันผวนของราคาในรายชั่วโมงเริ่มต่ำลง สังเกตจากกรอบBB50 เริ่มแคบลง ท้ายสัปดาห์นี้ ราคามีโอกาส สบัดอยู่ในช่วง 2610-2630ค่อนข้างสูง
มองว่า
ถ้าราคาวิ่งขึ้น ราคาน่าจะวิ่งขึ้นมาติด 2638 ราคาจะมี 127.2H1+423.6M15+เส้นกลางbb50H4พอดี ถ้าถึงแนวต้านแนะนำให้รอ5หรือ1นาทีเปลี่ยนเทรนด์ก่อนเข้าแล้ววางSL จะมีเป้า2620 ถ้าจะรันยังเหลือ 2575 ให้ลงไปได้
แต่ถ้าเช้ามาลงหลุด2608และลากตัวติดกรอบล่างBB50ในH1 มองว่าราคามีโอกาสหลุดลงไปหา 2586 2575