FORTHบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทมี 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
1) ธุรกิจอีเอ็มเอสเป็นส่วนงานที่ทำการจัดหา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งงานสั่งผลิตและอุปกรณ์ทั่วไป
2) ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่นส์ เป็นส่วนงานที่รับงานโครงการจัดหา จัดจ้างและวางระบบต่างๆ จากภาครัฐและภาคเอกชน
3) ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส เป็นส่วนงานที่ให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ จำหน่ายสินค้าและบริการผ่านตู้อัตโนมัติ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 13.1💥
💥Book value = 2.21 💥
💥D/E = 2.46 💥
💥P/E = 39.82 💥
💥P/BV = 6.43 💥
💥EPS = 0.11 💥
💥Free Float = 35.08% 💥(14/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.53% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 3.72% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 11/09/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 28,337 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
11 ก.ย. 2024
เงินปันผล 0.15 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2024 - 30 มิ.ย. 2024
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
การวิเคราะห์แนวโน้ม
BE8บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน)
..................
ที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ให้บริการแบบครบวงจรในด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) การวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ของบริษัทชั้นนำ เช่น Salesforce, Google, MuleSoft, และ Tableau
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 37.75💥
💥Book value = 10.54 💥
💥D/E = ----- 💥
💥P/E = 29.12 💥
💥P/BV = 1.83 💥
💥EPS = 0.13💥
💥Free Float = 37.24% 💥
💥NVDR ถือหุ้น = 3.26% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.31% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 11/09/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 7,000 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
23 พ.ค. 2024
เงินปันผล 0.23 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
DPAINTบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน)
..................
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 10.5💥
💥Book value = 2.43 💥
💥P/E = 31.88 💥
💥P/BV = 0.78 💥
💥D/E = 1.09 💥
💥EPS = -0.18 💥
💥Free Float = 47.37% 💥
💥NVDR ถือหุ้น = 0.57% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.01% 💥
...........................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
24 พ.ค. 2023
เงินปันผล 0.16 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2022 - 31 ธ.ค. 2022
....................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
AKPบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน)
..................
ได้รับสิทธิเข้าบริหารและประกอบการศูนย์บริหาร จัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ("ศูนย์ฯ") จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นเวลา 20 ปีนับแต่วันลงนามในสัญญา คือ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2571 และมีสิทธิขอให้ต่ออายุสัญญาได้อีก 10 ปี โดยเป็นการ spin off มาจาก BWG
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 3.28💥
💥Book value = 1.55 💥
💥P/E = 12.7 💥
💥P/BV = 0.72 💥
💥D/E = 0.15 💥
💥EPS = 0.03 💥
💥Free Float = 48.51% 💥
💥NVDR ถือหุ้น = 0.71% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 2.74% 💥
....................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
IIG (มีคน IB มาสอบถาม)บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
..................
ธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกตามประเภทของการดำเนินธุรกิจได้ ดังนี้
1. ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จากทาง Salesforce
2. ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบซอฟต์แวร์จากทาง Oracle
3. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ (Brand Strategy) การสร้างและบริหารประสบการณ์ (Experience Management) และการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)
4. ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร ในส่วนงานสารสนเทศ
5. ธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 23.7💥
💥Book value = 4.99 💥
💥P/E = ----- 💥
💥P/BV = 1.48 💥
💥D/E = 1.48 💥
💥EPS = -0.24 💥
💥Free Float = 48.71% 💥
💥NVDR ถือหุ้น = 1.06% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.46% 💥
....................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
แนวโน้มทองคำสำหรับ วันที่13/9/67ทองคำ
ราคามีการเบรกกรอบไซเวย์ 2532-2470 ขึ้นมาทำ all time high
ตอนนี้ราคาอยู่แถวแนวต้าน2557 ถ้าราคาวิ่งขึ้นต่อมองขึ้นไปหา2574 แต่ถ้าย่อราคาน่าจะลงมาหา2536
หน้าBUY
พรุ่งนี้เช้าถ้าราคาสามารถหลุด2544ได้ ราคาน่าจะย่อลงมาหา 2536 แล้วรีบาวขึ้นมา2550เป็นอย่างน้อย
buy2536 sl2530 tp 2550 2575
หน้าSELL
ถ้าราคาขึ้นต่อเลยไม่ย่อจะมีต้านแข็งของ1ชม.อยู่2574 แนะนำว่าถ้าจะSell เก็บกำไรสั้นๆ10-15จุด และวางslเสมอ เนื่องจากราคาทำall time high การเข้าไปสวนเทรนด์จังหวะแรกอันตรายและไม่มีร่องรอยราคาในอดีตฉะนั้นราคาสามารถขึ้นได้เรื่อยๆ
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 13/09/2567การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาวของยุโรป การตัดกำลังการผลิตของ OPEC+ และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ย ประกอบกับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันจากนอก OPEC+ ราคาน้ำมันในช่วงนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2024) มีแนวโน้มที่จะคงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับปัจจุบันที่ประมาณ $67-70 ต่อบาร์เรล
สำหรับ WTI
ราคาได้ลงไปเเนวรับที่ 65.5 เเล้วมีเเรงซื้อมาที่ 69 กลับให้หาจังหวะซื้อหากราคาลง
เเนวรับที่ 67
ตัดขาดทุนที่ 65
เป้าทำกำไรที่เเนวต้าน 71-73
แนวโน้มทองคำสำหรับ วันที่13/9/67ทองคำ
ราคามีการเบรกกรอบไซเวย์ 2532-2470 ขึ้นมาทำ all time high
ตอนนี้ราคาอยู่แถวแนวต้าน2557 ถ้าราคาวิ่งขึ้นต่อมองขึ้นไปหา2574 แต่ถ้าย่อราคาน่าจะลงมาหา2536
หน้าBUY
พรุ่งนี้เช้าถ้าราคาสามารถหลุด2544ได้ ราคาน่าจะย่อลงมาหา 2536 แล้วรีบาวขึ้นมา2550เป็นอย่างน้อย
buy2536 sl2530 tp 2550 2575
หน้าSELL
ถ้าราคาขึ้นต่อเลยไม่ย่อจะมีต้านแข็งของ1ชม.อยู่2574 แนะนำว่าถ้าจะSell เก็บกำไรสั้นๆ10-15จุด และวางslเสมอ เนื่องจากราคาทำall time high การเข้าไปสวนเทรนด์จังหวะแรกอันตรายและไม่มีร่องรอยราคาในอดีตฉะนั้นราคาสามารถขึ้นได้เรื่อยๆ
CPI! คืนนี้อาจดันราคาทองคำมีโอกาสแตะ ATHทองคำพลิกกลับมาแตะระดับสูงสุดik ทดสอบแนวรับระยะสั้นก่อนดัชนี CPI ของสหรัฐฯ
ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ประจำสัปดาห์ และได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยหลายประการ อารมณ์ตลาดมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนก่อนที่จะเผยแพร่รายงานดัชนี CPI ที่สำคัญของสหรัฐฯคืนนี้ โดยข้อมูลสำคัญจะส่งผลต่อการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมนโยบายวันที่ 17-18 กันยายน
📊 แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำต้องทะลุกรอบการซื้อขายระยะสั้นก่อนจึงจะควบคุมราคาได้อีกครั้ง
📈จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนไหวขึ้นครั้งต่อไปอาจยังคงเผชิญกับแรงต้านที่บริเวณโซนอุปทาน 2,525-2,526 ดอลลาร์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นขอบเขตบนสุดของช่วงการซื้อขายที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ และควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ การซื้อตามบางส่วนซึ่งนำไปสู่ความแข็งแกร่งในภายหลังที่อยู่เหนือบริเวณ 2,532 ดอลลาร์หรือจุดสูงสุดตลอดกาล จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายขาขึ้น เนื่องจากออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันอยู่ในเขตบวกและยังห่างไกลจากการอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป ราคาทองคำจึงอาจกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
📉อีกด้านหนึ่ง ระดับแนวรับจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะปกป้องแนวรับขาลงทันทีก่อนถึงบริเวณ 2,485 ดอลลาร์และโซนแนวนอน 2,470 ดอลลาร์ โซนหลังแสดงถึงแนวรับช่วงซื้อขาย ซึ่งหากทะลุแนวรับอย่างเด็ดขาด อาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคและปูทางไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้น ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาลดลงสู่แนวรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วัน ซึ่งปัจจุบันตรึงไว้ใกล้บริเวณ 2,450-2,449 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 2,400 ดอลลาร์ในที่สุด หรือ SMA 100 วัน
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 11 กันยายน 2567
Buy zone 2501-2495
Sl 2487
TP1 2510
TP2 2520
TP3 2530
TP4 2540
TP5 2550
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 6 กันยายน 2567
Sell zone 2528-2530-2532
Sl 2540
TP1 2520
TP2 2510
TP3 2500
TP4 2490
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 6 กันยายน 2567
Sell zone 2550 -2555
Sl 2560
TP1 2540
TP2 2530
TP3 2520
TP4 2510
TP5 2500
.......................................................
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
--------------------------------------
EURUSD Daily Analysis 12/9/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
จีนออกรายงานดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมท่าเรือโลกประจำปี 2567 สร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับนวัตกรรม การบูรณาการ และการพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมท่าเรือและการขนส่งสินค้าทั่วโลก
ดัชนีสินค้าเทกองซินหัว-ท่าเรือซานตง (Xinhua-Shandong Port Bulk Commodity Index) มุ่งเน้นไปที่การค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้าเทกอง และได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างระบบที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงดัชนีราคา ดัชนีสินค้าคงคลัง และดัชนีโลจิสติกส์ขาเข้าและขาออก ดัชนีนี้ช่วยสนับสนุนวงจรคู่ขนาน (Dual Circulation) สำหรับสินค้าเทกองทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ
BUY : 1. 10160
TP : 1. 10482
SL : 1. 09941
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆบริเวณแนวรับเก่าไม่วิ่งไปไหนไกล และยังไม่หลุดลงต่ำกว่าแนวรับเก่า ส่งผลให้ขาขึ้นยังมีลุ้นในการขึ้นต่อ จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณจากกรอบเส้น BBล่าง ในการเข้าออเดอร์ โดยราคาพยายามไต่ขึ้นยืนเหนือเส้น EMA200 หากราคายืนขึ้นเหนืเส้น EMA200 ได้ จะส่งผลขาขึ้นกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง โดยตั้งเป้าหมายกำไร 300-500 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาลง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 12/9/2024 by TraderTanTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (11 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% แต่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
BUY : 2515
TP : 2529
SL : 2499
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคายังไต่ขึ้นเรื่อยๆตามกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยหากราคาสามารถยืนเหนือกรอบไซด์เวย์กว้างได้ ขาขึ้นจะกลับมามีลุ้นในระยะยาว จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณจากการยืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้น จากกรอบTF H4 โดยลุ้นการขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมอีกครั้ง และการทะลุกรอบไซด์เวย์กว้าง ตั้งเป้าหมายกำไร 500 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น และใช้แนรับแนวต้านเก่าเป็นตัวกำหนดจุดเข้าและจุดทำกำไรที่เส้นแนวต้านต่อไป และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
"EUR/USD ป้องกันระดับ 1.1000 รอการตัดสินใจนโยบายจาก ECB"EUR/USD ใกล้จุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน ป้องกันระดับ 1.1000 ก่อนการประชุม ECB
* EUR/USD ยังคงอยู่เหนือระดับ 1.1000 เนื่องจากผู้ค้ายังคงรอการตัดสินใจนโยบายของ ECB อย่างใจจดใจจ่อ
* การคาดการณ์ลดลงสำหรับการผ่อนคลายของเฟดที่เข้มข้นขึ้น ช่วยหนุน USD และจำกัดการขึ้นของ EUR/USD
* ผู้ค้าดูเหมือนจะลังเลก่อนเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางและการเปิดเผยดัชนี PPI ของสหรัฐฯ
คู่เงิน EUR/USD ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงการซื้อขายเอเชียเมื่อวันพฤหัสบดี และแกว่งตัวในช่วงแคบ ๆ เหนือระดับจิตวิทยา 1.1000 หรือจุดต่ำสุดในรอบสี่สัปดาห์ที่แตะเมื่อวันก่อน ผู้ค้ายังคงลังเลและรอคอยการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นที่คาดหวังอย่างสูง ก่อนที่จะทำการเคลื่อนไหวในทิศทางต่อไป 📉💶
ECB คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดฐาน (bps) ท่ามกลางสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้อในยูโรโซน การคาดการณ์นี้ได้รับการยืนยันโดยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมันลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสามปีในเดือนสิงหาคม และแตะเป้าหมาย 2% ของ ECB ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลลบต่อค่าเงินยูโร และเป็นอุปสรรคต่อคู่เงิน EUR/USD ท่ามกลางความแข็งแกร่งเล็กน้อยของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) 💹💼
รายงานดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธบ่งชี้ว่าราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานยังคงแสดงว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเหนียวแน่น และลดความคาดหวังสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มากขึ้นในการประชุมครั้งหน้า สิ่งนี้ได้รับการเสริมแรงจากการปรับขึ้นเล็กน้อยของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน เข้าใกล้จุดสูงสุดรายเดือน 💵📊
กล่าวได้ว่าตลาดได้รวมการคาดการณ์สำหรับการเริ่มต้นรอบการผ่อนคลายนโยบายของเฟดอย่างเร่งด่วน และการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในการประชุมนโยบาย FOMC วันที่ 17-18 กันยายนแล้ว นอกจากนี้ บรรยากาศตลาดที่เป็นบวกยังจำกัดการขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนคู่เงิน EUR/USD ขณะที่เราใกล้เหตุการณ์ความเสี่ยงของธนาคารกลาง และเป็นการเตือนให้ผู้ค้าที่มีแนวโน้มขาลงต้องระวัง 🏦📉
นักลงทุนอาจต้องการรอการปรับปรุงประมาณการเศรษฐกิจของ ECB ซึ่งจะมาพร้อมกับคำกล่าวของ Christine Lagarde ประธาน ECB ที่จะส่งผลต่อค่าเงินยูโร นอกเหนือจากนี้ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ อาจให้แรงกระตุ้นใหม่แก่คู่เงิน EUR/USD และสร้างโอกาสการซื้อขายที่มีนัยสำคัญในช่วงการซื้อขายอเมริกาเหนือ 💶📈
#EURUSD #นโยบายECB #ค่าเงินยูโร #ดัชนีราคาผู้ผลิต #เฟด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวหลังการขายหนักราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือน
ตัวชี้วัดแรงผลักดันเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย
น้ำมันดิบ WTI ได้ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือนที่ 65.70 หลังจากการขายอย่างหนักจากแนวต้านที่ 78.75 ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา สินค้าชนิดนี้สูญเสียมูลค่ากว่า 16% ทำให้แนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาลงอย่างแรง 💹🔻
ตามที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคระบุว่า MACD กำลังสูญเสียแรงผลักดันด้านลบ และเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ stochastic oscillator กำลังเคลื่อนตัวขึ้นหลังจากที่เกิดการไขว้กันระหว่างเส้น %K และ %D ในพื้นที่ที่ขายมากเกินไป สิ่งนี้บ่งชี้ว่าความสนใจในการขายที่รุนแรงอาจใกล้สิ้นสุด 💼📊
หากตลาดยังคงการฟื้นตัวขึ้นต่อไป ราคาน่าจะเจอแนวต้านที่ระดับจิตวิทยา 70.00 ก่อนจะถึงระดับ 71.30 และ 72.70 การพุ่งขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 20 วัน (SMA) อาจเจออุปสรรคทันทีที่เส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้นที่ 76.60 ซึ่งซ้อนทับกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) 💰📈
ในสถานการณ์ลบ หากมีการพลิกกลับต่ำกว่าจุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน อาจกระตุ้นการขายจนถึงแนวรับถัดไปที่ระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน 2023 ที่ 63.60 📉🛢
โดยสรุป ราคาน้ำมันได้อยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างสำคัญตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม และการฟื้นตัวเหนือระดับต้านที่ 84.70 เท่านั้นที่อาจเปลี่ยนแนวโน้มกลับเป็นขาขึ้นได้ 🚀💥
#น้ำมันWTI #ราคาน้ำมัน #ตลาดน้ำมัน #เทรนด์ตลาด #แรงซื้อขาย
"เฟดเตรียมลดดอกเบี้ย! AUD/USD พุ่งต่อเนื่องสองวันติด"การพยากรณ์ราคาคู่เงิน AUD/USD: อุปสรรคการบรรจบกันที่ 0.6700 ถือกุญแจสำคัญสำหรับกลุ่มกระทิง ก่อนหน้ารายงาน PPI ของสหรัฐฯ
* คู่เงิน AUD/USD ขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เนื่องจากบรรยากาศตลาดที่ดี
* การลดความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มากขึ้น ช่วยหนุนค่าเงิน USD และอาจจำกัดการขึ้นของ AUD/USD
* ผู้ค้าเฝ้ารอรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ สำหรับแรงกระตุ้นระยะสั้น
คู่เงิน AUD/USD ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวที่ดีในช่วงข้ามคืน จากพื้นที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 200 วัน (SMA) ประมาณระดับ 0.6620 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบสี่สัปดาห์ และได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดีนี้ การเคลื่อนไหวนี้ยกให้ราคาขยับขึ้นสู่จุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ ในช่วงการซื้อขายเช้าของยุโรปและได้รับแรงผลักดันจากบรรยากาศตลาดที่ดี ซึ่งมักส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ที่มีความเสี่ยง บรรยากาศความเสี่ยงทั่วโลกได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่สำคัญ ยืนยันการคาดการณ์ตลาดว่ารอบการผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กำลังจะเริ่มต้นเร็ว ๆ นี้ 💹📈
ตามจริงแล้ว สำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนี CPI ที่ประกาศออกมาเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนสิงหาคม และอัตรารายปีชะลอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จาก 2.9% เป็น 2.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 นอกจากนี้ การอ่านค่าที่อ่อนแอของดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของญี่ปุ่น ได้ทำให้สัญญาณความเข้มแข็งจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ลดลง และเพิ่มความต้องการของนักลงทุนสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI สหรัฐฯ ที่ไม่รวมราคาที่ผันผวนของอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนที่รายงาน และยังคงอยู่ที่ 3.2% ในช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมและการประมาณการจากนักวิเคราะห์ 💼📊
สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงยืดหยุ่น และได้ทำให้ความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน (bps) ของเฟดในการประชุมครั้งหน้า ลดลง ตามเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME ตลาดกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่ 87% สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมนโยบาย FOMC วันที่ 17-18 กันยายน เทียบกับ 71% ก่อนการรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐฯ นี้ นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เล็กน้อย และผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) กลับมาใกล้จุดสูงสุดรายเดือน ซึ่งอาจจะขัดขวางการขยับขึ้นของคู่เงิน AUD/USD อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน 📉🌏
ในบริบทพื้นฐานที่กล่าวถึงข้างต้น ทำให้ควรรอการซื้อที่ต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง ก่อนที่จะยืนยันว่าการปรับตัวลงล่าสุดจากจุดสูงสุดในหลายเดือน ประมาณระดับ 0.6825 ที่แตะในเดือนสิงหาคม ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตลาดจะมุ่งเน้นไปที่การเผยแพร่รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขายในอเมริกาเหนือ นอกเหนือจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะขับเคลื่อนความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อโอกาสในการซื้อขายระยะสั้นรอบคู่เงิน AUD/USD 💵📉
#AUDUSD #ดัชนีราคาผู้ผลิต #เฟด #นโยบายการเงิน #ค่าเงินดอลลาร์
มุมมองทองคำ 12-09-67 UPDATEมุมมองทองคำ 12-09-67 UPDATE
ปัจจัยพื้นฐานตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชี้ว่า ศก. แย่อย่างชัดเจนสักเท่าไรนะครับ แค่มีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีเท่าไรให้เห็นแล้ว ตอนนี้ราคาทองน่าจะยังไม่ทำไฮใหม่ อาจจะดักเซลบริเวณไฮเดิมได้อยู่นะครับ แต่จะเป็นการเล่นสั้นไว้ก่อนนะครับ
ปล. เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่มอีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น ลุ้นแหก All time high กันต่อไป💵ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 2,500 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามราคายังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นมีน้อยลง ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดรายเดือน ซึ่งถือเป็นการสกัดช่วงบวกของทองคำด้วย
นอกจากนี้ แรงกระตุ้นจากความเสี่ยงอาจบั่นทอนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม และส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไม่ได้ นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวราคาที่อยู่ในช่วงขาขึ้นล่าสุดยังชี้ให้เห็นถึงการตัดสินใจไม่ได้เกี่ยวกับแนวโน้มระยะใกล้ของสินค้าโภคภัณฑ์ และควรให้ผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มขาขึ้นระมัดระวังในระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้ควรรอให้เกิดการซื้อตามอย่างแข็งแกร่งก่อนจะวางตำแหน่งเพื่อรอการกลับมาของแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน
🕯 แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำต้องทะลุแนวต้าน 2,530-2,532 ดอลลาร์ก่อนจึงจะกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้ง
📈จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนไหวราคาในกรอบล่าสุดนี้ก่อให้เกิดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนกราฟระยะสั้น และอาจจัดอยู่ในประเภทช่วงการรวมตัวขาขึ้น โดยมีฉากหลังเป็นการปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์แบบผสมบนกราฟ รายวัน ทำให้ควรรอให้ราคาทะลุผ่านกรอบระยะสั้นก่อนจึงค่อยวางเดิมพันทิศทางใหม่ ในขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวขึ้นครั้งต่อไปอาจยังคงเผชิญกับแรงต้านที่บริเวณ 2,530-2,532 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อเดือนสิงหาคม การซื้อตามหลังจะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น และปูทางไปสู่การกลับมาของแนวโน้มขาขึ้นที่ได้รับการยอมรับอย่างดีก่อนหน้านี้
📉ในทางกลับกัน การอ่อนตัวต่ำกว่าระดับ 2,500 ดอลลาร์อาจพบแนวรับใกล้ระดับ 2,484 ดอลลาร์ก่อนถึงระดับแนวนอน 2,470 ดอลลาร์ ซึ่งแนวรับนี้สอดคล้องกับขอบล่างของช่วงการซื้อขายที่กล่าวถึงข้างต้น และน่าจะเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับราคาทองคำ การทะลุลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิคอย่างก้าวร้าวและลาก XAU /USD ไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วัน ซึ่งปัจจุบันตรึงอยู่ใกล้กับระดับ 2,453-2,452 ดอลลาร์ การลดลงที่แก้ไขอาจขยายไปสู่การทดสอบระดับต่ำกว่า 2,400 ดอลลาร์ หรือแนวรับ SMA 100 วัน
สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกต:
มีการทดสอบกรอบแนวต้าน โซน 2528-2531 (All time high) แต่ยังไม่ผ่าน = 7 ครั้ง
มีการทดสอบกรอบแนวรับ โซน 2472-2470 แต่ยังไม่หลุดกรอบ = 3 ครั้ง
กรอบเทคนิค H4: สนับสนุน Uptrend ได้ดีมาก
ด้วยการทดสอบความต้านทาน 7 ครั้ง: แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่มีมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ คิดว่าเหตุผลหลักคือกองทุนขนาดใหญ่ - การประสานงานของประเทศต่างๆ ต้องการปรับราคาให้ถึง ATH ในเวลาที่เหมาะสม (ตัวอย่างเช่น การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน)
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567
Buy zone 2503-2495
Sl 2484
TP1 2515
TP2 2530
TP3 2545
TP4 2560
TP5 2575
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567
Buy zone 2485-2480
Sl 2470
TP1 2505
TP2 2525
TP3 2545
TP4 2565
TP5 2585
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567
Sell zone 2528-2530-2532(ความเสี่ยงสูง)
Sl 2545
TP1 2520
TP2 2510
TP3 2500
TP4 2490
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567
Sell zone 2545 -2550
Sl 2565
TP1 2525
TP2 2505
TP3 2485
TP4 2465
TP5 2445
.......................................................
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
--------------------------------------
XAUUSD 12 กันยายน 2567 ราคาทองคำจะลงต่อหรือไม่?
เมื่อดูที่ H1 เราจะเห็นว่าโครงสร้าง Elliot เสร็จสมบูรณ์แล้ว รวมถึงคลื่นหลัก 5 คลื่นและคลื่นแก้ไข 3 คลื่น abc ผมใช้สีม่วงเป็นสัญลักษณ์บนกราฟ
- การติดตามโครงสร้างที่สมบูรณ์คือเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกับเทรนด์หลักที่มีโครงสร้าง 5 คลื่น
- ขณะนี้เราคาดการณ์ว่าคลื่น 1 ในเทรนด์ใหม่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และคลื่น 2 กำลังจะเสร็จสมบูรณ์
- พื้นที่เป้าหมายคลื่น 2 ที่ฉันวัดได้อยู่ที่ 2508 - 2505 เราจะใช้พื้นที่ราคานี้เป็นเป้าหมายซื้อหลังจากคลื่น 3
- จากนั้นเราก็สามารถวัดเป้าหมายขั้นต่ำของคลื่น 3 ได้ที่ช่วง 2538 - 2541 และช่วงราคานี้จะเป็นเป้าหมายการขายของเราเพื่อจับคลื่น 4 เพื่อปรับฐานขาลง
- ผมยังขอสงวนกรณีที่ราคาปัจจุบันคลื่น 2 ยังคงปรับตามโครงสร้าง ABC ยังไม่สิ้นสุด เราก็จะมีเป้าหมาย BUY บริเวณ 2494 - 2491
แผนการซื้อขาย
ซื้อโซน: 2508 - 2505
สแอล: 2498
ทีพี1:2516
ทีพี2:2525
ทีพี3:2532
ซื้อโซน: 2494 - 2491
สแอล: 2484
ทีพี1: 2500
TP2: 2508
ทีพี3:2520
โซนขาย: 2538 - 2541
สล: 2548
ทีพี1:2531
ทีพี2:2525
ทีพี3:2517
2024 09 12 GOLD GOLD GOLD### การวิเคราะห์แนวโน้ม:
1. **แนวรับสำคัญ**: ราคามีแนวรับอยู่บริเวณประมาณ **2,505** ซึ่งเป็นจุดที่เคยยืนและทำให้ราคาดีดตัวขึ้นมาได้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นบริเวณนี้เป็นจุดสำคัญที่ควรเฝ้าระวัง หากราคาหลุดแนวรับนี้ จะมีโอกาสปรับตัวลงต่อไปได้
2. **แนวต้านสำคัญ**: มีแนวต้านอยู่บริเวณ **2,517-2,520** ซึ่งเห็นได้จากกราฟว่าราคายังไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้อย่างชัดเจน และมีแรงขายในบริเวณนี้ ดังนั้นจุดนี้เป็นแนวต้านสำคัญที่ควรจับตามอง
3. **RSI Indicator**: จากค่า RSI ในกราฟ อยู่ในระดับกลาง (ประมาณ 50) ซึ่งบ่งบอกถึงการที่ตลาดยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะขึ้นหรือลง ดังนั้นเป็นสัญญาณว่าอาจจะมีการแกว่งตัวในกรอบราคาอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน
4. **Volume & Momentum**: ปริมาณการซื้อขายมีลักษณะการลดลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงสะสมพลังงาน ดังนั้นอาจจะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญหลังจากนี้
### แผนการเทรด:
1. **ถ้าคุณต้องการซื้อ Buy**:
- รอให้ราคาย่อตัวลงมาที่บริเวณแนวรับ **2,505** ถ้าไม่หลุดบริเวณนี้ สามารถเปิดคำสั่งซื้อได้ โดยตั้งจุดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ **2,517-2,520** ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะเด้งขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ต่ำกว่าแนวรับบริเวณ **2,503** เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาหลุดแนวรับ
2. **ถ้าคุณต้องการขาย Sell**:
- หากราคาขึ้นไปถึงแนวต้านบริเวณ **2,517-2,520** แล้วไม่สามารถทะลุได้ มีโอกาสที่จะเปิดคำสั่งขาย โดยตั้งจุดทำกำไรที่บริเวณ **2,505** ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
- ตั้งจุดตัดขาดทุนเหนือบริเวณ **2,522** เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาทะลุขึ้นไป
### สรุป:
ราคามีโอกาสแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับที่ **2,505** และแนวต้านที่ **2,517-2,520** ควรรอให้ราคามีการย่อตัวหรือทดสอบแนวต้านก่อนที่จะทำการเทรด