ราคาทองคำถูกเทขายอย่างหนักท่ามกลางความสนใจซื้อดอลลาร์สหรัฐ
📊ราคาทองคำกระตุ้นการขายเพื่อทำกำไรอย่างหนักประเดิมวันต้นสัปดาห์/ประเดิมเดือนใหม่ และร่วงลงมาที่ระดับ 2,621 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายของตลาดเอเชีย ท่ามกลางอุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นตามความคาดหวังว่าแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออีกครั้ง และจำกัดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในทางกลับกัน ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่แตะเมื่อวันศุกร์ และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กระแสเงินไหลออกจากทองคำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ มาตรการภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ไว้ ได้กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่ปะทุขึ้นใหม่ และอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ เมื่อรวมกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยังสามารถยืนเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
Gold price seems vulnerable; one-week-old ascending channel breakdown in play
📉จากมุมมองทางเทคนิค การร่วงลงของราคาในวันเดียวต่ำกว่าขอบล่างของช่องทางขาลงที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ก่อนอาจถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่มีแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน/4 ชั่วโมงเริ่มสร้างแรงกระตุ้นเชิงลบอีกครั้ง และบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มลดลงต่ำสุด ดังนั้น การร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 2,605 ดอลลาร์จึงดูมีความเป็นไปได้สูง การขายตามราคาที่ต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์อาจเปิดโอกาส ให้เห็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 100 วัน (SMA) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ 2,575 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน จุดทะลุแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 2,642-2,643 ดอลลาร์ อาจทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่แนวต้านคงที่ที่ 2,652 ดอลลาร์และจุดสูงสุดของสวิงที่บริเวณ 2,665 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การซื้อตามราคาบางส่วนจะช่วยให้ราคาทองคำสามารถกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์ได้อีกครั้งและขยายการเคลื่อนไหวในเชิงบวกให้เข้าใกล้โซนอุปทาน 2,721-2,722 ดอลลาร์มากขึ้น จุดหลังนี้ควรทำหน้าที่เป็นจุดสำคัญ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะบ่งชี้ว่าการปรับลดลงล่าสุดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อเดือนตุลาคมได้ผ่านพ้นไปแล้วและปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
การวิเคราะห์แนวโน้ม
เก่งก่อนกราฟ XAUUSD 02/12/2024เเผนสัปดาห์นี้ครับ
1.มองขึ้น
2. ราคาอาจจะมีการลงมาปรับฐานที่ DM ก่อนขึ้นไปอีกรอบ ช่วงนี้ราคาทองผันผวนจากข่าวสงครามที่อาจจะสงบหรือพักรบ รวมทั้งการรฟื้นตัวของเศษฐกิจ นอกจากนี้ด้วยความพิเศษของเดือนธ.ค. คนอาจจะเทขายทองทำให้ราคาตก ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะต่อการสะสมทองคำ รวมทั้งข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี มีเเนวโน้มว่าราคาจะปิดบวกมากกว่าเดือนก่อนหน้า
33. วางโซนตาม S&R + DM & SP +Fibo + Volume Profile + MACD
4. อย่าลืม SL จุด เเละกันหน้าทุนเสมอครับ
#นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อพัฒนาการเทรดไม่ใช่การเเนะนำในการทุนตาม ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจครับ (moon big smile)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ หุ้น MONO ขึ้นมานับ TD SELL SETUP 9 ใน DAY จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ หุ้น MONO ขึ้นมานับ TD SELL SETUP 9 ใน Time Frame DAY
เมื่อหุ้น **MONO** ขึ้นมานับถึง **TD Sell Setup 9** ใน Time Frame Day (รายวัน) ตามทฤษฎีของ Tom DeMark (TD Sequential) หมายถึงสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าหุ้นอาจมีโอกาสหยุดขึ้นหรืออาจเริ่มปรับตัวลงในระยะสั้น ทั้งนี้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น สภาพตลาดโดยรวม และการเคลื่อนไหวของหุ้นใน Time Frame อื่น ๆ
### การตีความ TD Sell Setup 9:
1. **ความหมายของ TD Sell Setup:**
- TD Sell Setup จะเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 แท่งเทียน (แท่งรายวันในกรณีนี้) โดยแต่ละแท่งต้องมีราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนเมื่อ 4 วันก่อนหน้า
- เมื่อครบ 9 แท่งเทียน จะถือว่าเป็น "สัญญาณขาย" หรือเป็นจุดที่ราคามีโอกาสชะลอตัวหรือเริ่มปรับตัวลง
2. **ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:**
- ราคาหุ้นอาจพักตัวหรือปรับฐาน
- มีโอกาสที่นักลงทุนบางส่วนจะขายทำกำไร หากเกิดแรงขายมาก ราคาหุ้นอาจปรับลดลงในระยะสั้น
- ถ้าหุ้นยังมีโมเมนตัมเชิงบวกแรง ๆ ราคาก็อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยสัญญาณ TD Sell Setup อาจล้มเหลว
### การยืนยัน (Confirmation):
- สัญญาณ TD Sell Setup 9 เป็นเพียงคำเตือนเบื้องต้น นักลงทุนมักรอ "TD Countdown" เพื่อยืนยันแนวโน้มการกลับตัว
- ดูปัจจัยเสริม เช่น เส้นแนวรับ-แนวต้าน, Volume การซื้อขาย, และสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น RSI, MACD
### สิ่งที่ควรทำ:
1. **ระมัดระวังการเข้าซื้อเพิ่ม:** หากราคาขึ้นมาต่อเนื่องจนถึง TD Sell Setup 9 แล้ว อาจไม่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อเพิ่มในระยะสั้น
2. **พิจารณาขายทำกำไร:** โดยเฉพาะหากราคามีแรงขายหรือไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้
3. **รอจังหวะปรับฐาน:** หากราคาหุ้นพักตัว อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาที่แนวรับที่แข็งแกร่ง
### สรุป:
TD Sell Setup 9 ในหุ้น MONO แสดงถึงความเสี่ยงที่ราคาหุ้นอาจหยุดขึ้นหรือเริ่มปรับตัวลงในระยะสั้น แต่ยังไม่ใช่สัญญาณการกลับตัวอย่างสมบูรณ์ นักลงทุนควรใช้ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันและวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบ.
ทรัมป์คุกคามอิฐกว่าแผนสกุลเงินประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เลือกตั้งออกคำเตือนที่คมชัดไปยังประเทศบริกส์ในช่วงสุดสัปดาห์กระตุ้นให้พวกเขา"หาอีกดูด"และคุกคามภาษี 100%เกี่ยวกับความพยายามใดๆในการสร้างสกุลเงินทางเลือกที่ท้าทายสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก
ประธานาธิบดีบราซิลลูอิซในอิซซิโอลูลาซิลวาเป็นผู้สนับสนุนที่โดดเด่นสำหรับการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์เสนอสกุลเงินที่ใช้ร่วมกันในอเมริกาใต้ในปี 2023 เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เตือนว่าสำนวนของทรัมป์อาจย้อนกลับ นทางเลือกซึ่งยังคงเป็นสัญลักษณ์มากขึ้นกว่าที่เป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจของแท้ไปยังสหรั
XAUUSD กราฟทองคำมีโอกาสเด้งไม่ผ่าน 2685🌐 ราคาทองคําค่อนข้างผันผวน ซึ่งคาดว่าภาพรวมของราคาทองคําน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานทํากําไรจนถึงสิ้นปี โดยราคาทองคําน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานระหว่าง 2,600-2,800เหรียญ ซึ่งไม่คาดว่าจะทําจุดสูงสุดใหม่ได้ ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์คาดว่าน่าจะทํากําไรตามกรอบแบบ Sideways แนวกว้าง ประมาณ 100 เหรียญ
📊วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําเข้าสู่การเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับฐาน ในระยะสั้นดูเริ่มจะฟอร์มตัวเป็นลักษณะ Bear Flag โซนรับแถว บริเวณ 2,605 เหรียญ ซึ่งหากราคาทองคําไม่หลุดน่าจะเป็นสัญญาณให้
เข้าซื้อได้ในระยะสั้น โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวต้านที่ระดับ 2,685 เหรียญ
โซนต้าน = 2665 / 2675 / 2685 / 2695
โซนรับ = 2645/ 2635 / 2625 / 2615
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
BREADTH SET50 DASHBOARDภาพรวม ตลาด SET50 ยังไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็เริ่มมี DATA ระยะสั้นบางตัว เริ่มส่งสัญญาณ Divergence ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
หุ้นหลายๆตัว เริ่ม กลับมายืนเหนือ ma22 กันมากขึ้น ในขณะที่ SET50 INDEX ยังไม่ขึ้น
อาทิตย์นี้น่าสนใจ ถ้า ตลาดมีการรีบาวขึ้นมาได้ โอกาส data ระยะยาว กลับตัวได้ อาจจะส่งสัญญาณดี เทรน เดือน ธันวาคม อาจจะกลับขึ้นได้อีกรอบ
Gold Market Outlook [2 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
แรงซื้อทองคำกลับมาคึกคัก หลังดอลลาร์อ่อนค่า-ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 🔍
ราคาทองคำปรับตัวในแดนบวก 💫 ท่ามกลางการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยนักลงทุนยังคงมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สำหรับภาพรวมตลาดทองคำในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 📊 ราคาปรับตัวลดลงถึง 3% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 สาเหตุหลักมาจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในช่วงต้นเดือน
ด้านดัชนีดอลลาร์ 💵 แม้จะปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้จ่ายภาครัฐขนาดใหญ่ การปรับขึ้นภาษี และมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ ⚡️ ยังคงมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าภาวะเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายภาษีใหม่ อาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย
สำหรับมุมมองทางเทคนิค 📝 แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากแนวรับ-แนวต้านอยู่ในกรอบแคบ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,682
🔼 แนวต้าน 2: $2,665
🔼 แนวต้าน 1: $2,656
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,646
🔽 แนวรับ 2: $2,641
🔽 แนวรับ 3: $2,636
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
S50Z24 กับ Harmonic Bearish Butterfly### **Harmonic Bearish Butterfly**
Harmonic Bearish Butterfly เป็นหนึ่งในรูปแบบของ **Harmonic Pattern** ซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อตรวจจับจุดกลับตัวของราคา (Reversal Points) ในตลาดการเงิน โดยเป็นรูปแบบที่บ่งชี้ว่าราคากำลังจะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่ระบุในโครงสร้างของรูปแบบ
#### **องค์ประกอบของ Harmonic Bearish Butterfly**
รูปแบบนี้ประกอบด้วย 4 ขา (legs) คือ **X-A, A-B, B-C, C-D** และต้องเป็นไปตามอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้:
1. **X-A**: เป็นขาขึ้นที่เริ่มต้นรูปแบบ
2. **A-B**: ราคาย่อตัวลงจากจุด A ไปยังจุด B โดยต้องอยู่ระหว่าง 78.6% ถึง 88.6% ของขา X-A
3. **B-C**: ราคากลับตัวขึ้นจากจุด B ไปยังจุด C โดยต้องอยู่ระหว่าง 38.2% ถึง 88.6% ของขา A-B
4. **C-D**: ราคาขึ้นต่อจากจุด C ไปยังจุด D โดย:
- จุด D ควรอยู่ที่ 127.2% หรือ 161.8% ของขา X-A
- และยังสัมพันธ์กับ Fibonacci Extension ของขา B-C (อยู่ที่ 161.8% หรือมากกว่า)
#### **คุณสมบัติสำคัญ**
- จุด D คือจุดที่ผู้เทรดมองว่าเป็นโอกาสในการเปิดสถานะขาย (Short) เนื่องจากเป็นบริเวณที่ราคามีแนวโน้มกลับตัว
- รูปแบบ Bearish Butterfly มักปรากฏในแนวโน้มขาขึ้นก่อนที่ราคาจะกลับตัวลง
#### **วิธีการวาด Harmonic Bearish Butterfly**
1. วาดเส้น X-A เป็นขาขึ้นแรก
2. วาดเส้น A-B ซึ่งเป็นการย่อตัวลง
3. ต่อด้วย B-C ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น
4. และเส้นสุดท้าย C-D จะลากขึ้นไปเกินจุด X เล็กน้อย (ตาม Fibonacci Extension)
#### **กลยุทธ์การเทรด**
1. **จุดเข้า (Entry)**: เปิดสถานะขายที่จุด D
2. **จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)**: ตั้งไว้เหนือจุด D เล็กน้อย
3. **เป้าหมายทำกำไร (Take Profit)**:
- เป้าหมายแรก: ระดับ Fibonacci Retracement 38.2% ของขา C-D
- เป้าหมายที่สอง: ระดับ Fibonacci Retracement 61.8% ของขา C-D
#### **ตัวอย่างการใช้งาน**
หากกราฟราคามีรูปแบบ Bearish Butterfly และถึงจุด D ตามโครงสร้าง Fibonacci ที่กำหนดไว้ ผู้เทรดสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะเริ่มกลับตัวและปรับตัวลดลง
#### **ข้อควรระวัง**
- รูปแบบนี้ต้องใช้ Fibonacci Ratio ในการวิเคราะห์อย่างเคร่งครัด
- ควรยืนยันรูปแบบด้วยสัญญาณอื่น ๆ เช่น MACD, RSI หรือ Volume
**ตัวอย่างภาพประกอบ**: ถ้าต้องการ ผมสามารถช่วยวาดโครงสร้างหรืออธิบายเพิ่มเติมได้!
BTCUSD Daily Analysis 1/12/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
พอร์ตคริปโตของบริษัท Grayscale ที่พุ่งขึ้นเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึง Altcoin Season ที่กำลังมาถึง ซึ่งอาจส่งผลให้ XRP พุ่งขึ้นถึง 2.57 ดอลลาร์
มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของพอร์ตของยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการสินทรัพย์อย่างบริษัท Grayscale ส่วนใหญ่มาจากมูลค่าของโทเค็น Stellar เป็นหลัก ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 469% และมูลค่าของโทเค็น XRP ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 262% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์หลาย ๆ คนคาดการณ์ว่า Altcoin Season จะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งอาจส่งผลให้ Ethereum พุ่งสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ภายในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดี Donald Trump จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
BUY : 96213
TP : 98160
SL : 95420
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H1
ราคาเริ่มพักตัวในกรอบไซด์เวย์แคบๆ แต่เทรนหลักยังเป็นขาขึ้นระยะยาว โดยราคาอาจไต่ขึ้นลงในกรอบพักตัวนี้ไปสักระยะ และเบรคเอ๊าท์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้หลักการตีกรอบเส้นเทรนไลน์ในขาขึ้น และกรอบการพักตัวไซด์เวย์แคบ โดยการยืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้นเป็นขาขึ้นระยะยาว โดยเป็นไปได้ที่ราคาจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้ง ในกรอบ H1-H4- Day ยังคงเน้นเก็บกำไรตาม trend followng
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Divergence analysis สัญญาณไดเวอร์เจ้นท์บอกอะไรได้บ้าง??Divergence analysis สัญญาณไดเวอร์เจ้นท์บอกอะไรได้บ้าง??
👽👽 กลับมาพบเจออกันอีกแล้ว กับเทคนิคการทำกำไร ทริคดีๆทริคเด็ดๆ ที่แอดเอามาฝากกันเช่นเคย วันนี้เอาใจสายเทคนิคอลอีกแล้ว ใครที่ชื่นชอบกราฟเปล่า และอินดิเคเตอร์น้อยๆ ต้องมาลองครับ กับสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์ ที่จัดว่าแม่นเว่อร์เหมือนจับวาง มันใช้กันอย่างไร ตามมาอ่านกันได้เลยครับ
Divergence คืออะไร
Divergence คือสัญญาณการขัดแย้งระหว่างราคาและอินดิเคเตอร์ (Indicators) คือราคาเคลื่อนที่ไปยังทิศทางหนึ่ง ส่วนอินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ไปอีกทิศทางหนึ่ง เรียกว่าวิ่งกันไปคนละทาง
รูปแบบแพทเทรินของ สัญญาณ Divergence
สัญญาณ Divergence หาได้จากอินดิเคเตอร์ตัวไหนบ้าง ?
เรามักจะใช้อินดิเคเตอร์เพื่อหาสัญญาณ Divergence ประเภท Oscillator ลักษณะอินดิเคเตอร์ที่วิ่งอยู่ในกรอบ เช่น RSI, MACD และ Stochastic Oscillator เป็นต้น
Divergence แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1. Bullish Divergence ขาขึ้น
2. Bearish Divergence ขาลง
หลักการหาจุดเข้าจากสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์
1. กราฟเปล่า + MACD
อินดิเคเตอร์ตัวนี้จัดเป็นตัวยอดนิยมอันดับหนึ่งในการใช้หาสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์แต่มักให้สัญญาณที่ค่อนข้างช้า แต่ชัวร์ โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 1H และ 4H
- เมื่อราคาแท่งเทียนเกิดสัญญาณในทิศทางตรงกันข้ามกันแล้ว ให้เราใช้สัญญาณ MACD เป็นสัญญาณหลักในการเข้าออเดอร์
**** ตัวอย่างจากรูป MACD มีคลื่นที่ต่ำลง ในขณะที่แท่งเทียนทำยอดสูงขึ้น ให้เรามองหาจุดเข้า SELL เพื่อทำกำไร
2. กราฟเปล่า + Stochastic Oscillator
อินดิเคเตอร์ตัวนี้มักให้สัญญาณที่ค่อนข้างไว ทำให้เราสามารถพบ Divergence ได้ค่อนข้างบ่อย และอาจเจอสัญญาณหลอกได้อีก โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 30M และ 4H และส่วนใหญ่ให้น้ำหนักจากกราฟแท่งเทียนเป็นสัญญาณในการเข้าออเดอร์
3. กราฟเปล่า + RSI
RSI ย่อมาจากคำว่า Relative Strength Index โดย RSI เป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในการหาสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์ เนื่องจาก ค่อนข้างเกิดขึ้นยากมากๆ และใช้เวลานาน แต่ก็เกิดขึ้นได้และแม่นด้วย โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 1H และ 4H การหาจุดเข้าออเดอร์มักให้น้ำหนักไปทางตัว RSI เป็นหลัก
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคดีๆในการทำกำไรเพิ่มกันแล้วใช่มั้ยครับ อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูนะฮะ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นเทคนิคการทำกำไรเบอร์ต้นๆของเราเลยก็ว่าได้ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่น ฝึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ