USDJPY H4 | รอดูการดีดตัวกลับ?ราคากำลังปรับตัวลดลงใกล้ระดับ Pivot ที่ 150.61 ซึ่งเป็นแนวรับจากการย่อตัว หากราคาสามารถดีดตัวกลับจากระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 152.26 ซึ่งเป็นแนวต้านจากการย่อตัว โดยสอดคล้องกับ Fibonacci Retracement ระดับ 50% และ Fibonacci Extension ระดับ 161.8% ซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง
แนวโน้มทางเลือก:
หากราคาทะลุต่ำกว่าระดับ Pivot อาจปรับตัวลงต่อไปที่แนวรับแรกที่ 149.52 ซึ่งเป็นแนวรับแบบ Overlap
การวิเคราะห์แนวโน้ม
XAUUSDวันนี้มาวิเคราะห์แนวโน้มกันต่อนะครับ ตอนนี้มองว่ากำลังขึ้นคลื่น 3 ใน TF H1 และมองว่ายังขึ้นไม่จบด้วย จะมีสองอย่างคือออกขวาแล้วขึ้นต่อกับไหลขึ้นต่อไปเลื่อยๆ อย่างน้อยๆก็ต้องแตะ Fibo 261.80% ก่อนนะครับเพราะฉนั้นใครที่ได้ออเดอร์จากแผนวันศุกร์และวันจันทร์ก็ยังถือต่อได้เพราะราคาอยู่ต่ำกว่าจุดโครงสร้างที่จะย่อมาถึงในกรณีที่คลื่น 3 ไม่ใช่คลื่นขยาย(ไม่ยาวที่สุด)ก็มองว่าย่อมาแค่โซน Demand & Support ที่ทำไว้ให้และขึ้นไปคลื่น 5 ต่อ ส่วนใครที่ปิดไม้ไปแล้วให้มองหาจุด SL ของคนทั้วไปเสมอรอเค้ากวาดก่อนค่อยพิจารณากดออเดอร์
**Fibo 161.8% เป็นของ TF Day และ Fibo ย่อยที่เหลือเป็นของ H1 ใช้ประกอบการพิจารณาเก็บกำไรนะครับ**
**โมเมนตั้มฝั่ง Buy ได้เปรียบ Demand แข็งแรง Supply อ่อนแอรอเทรดแค่ออเดอร์ Buy นะครับไม่ Sell ขอให้เป็นวันที่ดีครับ**
ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ มีแนวโน้มจะปรับขึ้ราคาทองคำดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนที่ซื้อในช่วงขาลงระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ และกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ซึ่งแตะระดับในวันก่อนหน้า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งเมื่อรวมกับการที่ธนาคารกลางของจีนกลับมาซื้ออีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ถือเป็นปัจจัยหนุนสำหรับทองคำ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ถือเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลดีต่อทองคำแท่ง
ในขณะเดียวกัน รายงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ(NFP) ประจำวันศุกร์ยืนยันการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับการคาดการณ์ว่านโยบายของทรัมป์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จึงช่วยหนุนราคาทองคำ ซึ่งถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีท่าทีผ่อนปรนมากขึ้น อาจสกัดช่วงบวก ก่อนตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ต่อไป
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับขึ้นไปทดสอบระดับ 2,700 เหรียญฯ และทดสอบโซนต้านทาน 2,720-2,722 เหรียญฯ
📈จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุแนวรับในช่วงข้ามคืนและการปิดตลาดรายวันเหนือระดับ 2,650 ดอลลาร์อาจถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันเพิ่งเริ่มได้รับแรงหนุนเชิงบวกและสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำ ดังนั้นเป้าหมายถัดไปพวกเขาจ้องมองไปที่ ระดับ 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง เพื่อมุ่งสู่โซนอุปทาน 2,720-2,722 ดอลลาร์ จึงดูมีความเป็นไปได้สูงขึ้น
📉ในทางกลับกัน อีกด้านหนึ่ง จุดทะลุแนวรับที่ 2,650 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล 200 ช่วงเวลา (EMA) บนกราฟ 4 ชั่วโมง ควรทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในทันที หากการทะลุลงอย่างเด็ดขาด อาจเผยให้เห็นแนวรับที่เกี่ยวข้องถัดไปที่บริเวณ 2,625-2,620 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาทองคำจะลดลงเหลือ 2,600 ดอลลาร์ในที่สุด การทะลุลงครั้งต่อไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ซึ่งขณะนี้บริเวณ 2,590-2,585 ดอลลาร์ อาจจะทำให้เกิดการขายที่เพิ่มมากขึ้น และลาก ไปสู่จุดต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายน ที่บริเวณ 2,537-2,536 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
วิธีเทรด DW ตามแนวทาง "ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future"วิธีเทรด DW ตามแนวทาง "ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future"
ต้องบอกว่า DW นี่ใช้ความรู้เทคนิคอลเป็นหลัก และควรมีความเข้าใจหลักการของสินค้าประเภทออปชั่นเบื้องต้นจะทำให้เทรดได้ดีขึ้นครับ
อย่างแรกคำศัพท์ที่ต้องทราบ ขออธิบายแบบบ้านๆ
1. Effective Gearing หรือ อัตราทด ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งดีครับ ตามหลักฟิสิกส์ออกแรงน้อยได้งานมาก นึกถึงฟันเฟืองน่ะครับ หมุนรอบตัวเล็ก ตัวใหญ่ขยับ
2. Sensitivity ความไว หรือ ความเร็วในการขึ้น/ลง ของ DW โดยอ้างอิงตัวแม่นั่นเอง ยิ่งมากยิ่งดี 0.7-1.00+ โดยประมาณ
แต่หากต่ำกว่านั้น ก็สามารถเทรดได้ โดยดูความสมดุลภาพรวมจากค่าอื่นๆประกอบ
3. Time Decay เนื่องจาก DW มันเป็นสินค้าที่ใช้หลักการ
ของออปชั่น มันเลยมี Time Value เข้ามาเกี่ยว
ขออธิบายด้วยภาษาชาวบ้าน เหมือนคุณขายข้าวมันไก่ ซื้อไก่มาต้มขาย ก็ต้องขายให้ได้ภายในระยะเวลาช่วงนึง ไม่เช่นนั้นมันก็จะบูดเน่าเสียไป ความอร่อยหรือมูลค่าก็ลดลงไปตามเวลา จนสุดท้ายหมดอายุ คือกินไม่ได้ ต้องทิ้ง ไม่เหลือคุณค่าอันใดอีกแล้ว
4. Last Trading Day วันซื้อขายสุดท้ายครับ ยิ่งเข้าใกล้เส้นตายหากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยิ่งร้อนใจ ดังนั้นเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนหมดอายุครับ
อย่างออปชั่นนี่เวลาผมเทรด ผมมองยาว 3 เดือน คือ ภาพใหญ่จนจบซีรี่ส์นั้นๆ
5. สภาพคล่อง + ผู้ออก DW ที่เชื่อถือได้ อันนี้ก็ต้องลองคบค้าสมาคมกับเค้าดูครับ สมัครไปนั่งฟังของแต่ล่ะโบรกว่าเค้ามีอะไรนำเสนอ เวลามีปัญหา แก้ไขให้เราไหม
มาถึงส่วนที่เป็นเทคนิคอล
คนส่วนมากมักจะถูกสอนให้ไล่ซื้อ Break Out
ไล่ Call ตาม Break High และ ไล่ Put ตาม Break Low
นักเก็งกำไร 95% ในตลาด ใช้วิธีการวิ่งไล่ครับ หรือคำศัพท์เท่ห์ๆ คือ การ Follow Buy
โดยสภาพตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน การเคลื่อนที่เป็น Sideway เกินกว่า 80% ครับ ดังนั้น "การวิ่งไล่" ที่นิยมทำกัน จึงใช้การดู Bid-Offer ดู Ticker เป็นหลักด้วยลักษณะแบบนี้ทำให้ต้องกินคำเล็กครับ เพราะมันเห็นภาพระยะสั้น พูดง่ายๆ คือ ไล่ Call ตอนมันวิ่งขึ้น ไล่ Put ตอนมันวิ่งลง ผิดทางต้องรีบหนี
แต่นั่นล่ะ Cut Loss มันก็เหมือน "ลดความอ้วน" ทุกคนรู้แต่ไม่ทำ มิหนำซ้ำยังใช้วิธีการอมไว้ & ซื้อถัว เพิ่มสถานะผิดทางเข้าไปอีก ทั้งๆที่ DW คือสินค้าที่มีการบูดเน่าหมดอายุเหลือศูนย์ได้
สรุปว่า ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future จะไม่ใช้วิธีนี้ครับ
เราจะใช้หลักการ "Sell The Strength & Buy The Weakness" ซื้อเมื่อมันพักตัว ทยอยแจกจ่ายตอนคนไล่ตาม
ช่วงพักตัวขาขึ้นไม่ว่า HSI, SET 50 หรือ หุ้นรายตัว ที่นิยมเทรด DW กันจะเป็นสีแดงแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ใช้วิธีวิ่งไล่ เมื่อเห็นสีแดงก็ใส่ Put เข้าไว้ เห็นสีเขียว ก็อัด Call เต็มที่
เราจะทำกลับกันอย่างมีหลักการดังนี้
1. อ่านแนวโน้มหลักก่อน "แดงในเขียวใหญ่ สุดท้ายคือเขียว"
นั่นคือ Call เมื่อตลาดพักตัวในแนวโน้มขึ้น จะเห็นว่าเรา ซื้อ/Call กันในกรอบสะสมพลัง และปล่อยของเมื่อมันระเบิดขึ้นเปลี่ยนกรอบ
2. ในทางตรงกันข้าม "เขียวในแดงใหญ่ สุดท้ายคือแดง" เราจะ Put ในจังหวะ Rebound ของแนวโน้มขาลงครับ ตอนนั้นมันจะเขียว คนส่วนใหญ่ไล่ Call แต่เราทราบว่ามันเขียวไม่นาน เดี๋ยวก็ลงไปตามแนวโน้มเดิม เราจึงทำสวนทางในจังหวะนั้น
3. หากทำสำเร็จ จะได้ผลกำไรอย่างต่ำ 10% แต่โดยทั่วไปแล้วจะมากกว่านั้นครับ
ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างต้องมองหาโอกาสในจังหวะที่ตลาดคลุมเครือครับ
อะไรที่ใครๆก็เห็นแล้ว โอกาสดีๆ ก็หายไปแล้วเสมอ
หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนนะครับ
Gold Market Outlook [10 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองพุ่งแรงหลังจีนกลับมาซื้อ-เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
ทองคำพุ่งทะยานในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) 🚀 แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังได้แรงหนุนสำคัญจากการกลับมาซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน ภายหลังจากเว้นวรรคไป 6 เดือน ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า 💫
นักวิเคราะห์ชั้นนำระบุว่า "ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการที่ธนาคารกลางจีนรายงานการกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง ตลาดเริ่มมีความหวังว่าธนาคารกลางทั่วโลกอาจทยอยเข้าซื้อตาม และเราอาจได้เห็นการซื้อทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์" 📊
การกลับมาของจีนครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในปี 2566 จีนครองตำแหน่งผู้ซื้อทองคำภาครัฐรายใหญ่ที่สุดของโลก 🏆 แม้ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะหยุดพักการซื้อที่ดำเนินมา 18 เดือนในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ปัจจัยสนับสนุนการพุ่งขึ้นของราคาทองคำปีนี้มาจากการซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง ประกอบกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍 โดยเฟดได้เริ่มวงจรลดดอกเบี้ยด้วยการปรับลง 0.50% ในเดือนก.ย. ตามด้วย 0.25% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนประเมินโอกาสสูงถึง 86% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุม 17-18 ธ.ค.นี้ ⚡️ ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลางยังคงร้อนระอุ หลังกลุ่มกบฏซีเรียยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ ส่งผลให้ประธานาธิบดีอัสซาดต้องลี้ภัยไปรัสเซีย
ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยนั้น มักปรับตัวขึ้นในช่วงดอกเบี้ยต่ำ และเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในยามที่การเมืองตึงเครียดและเศรษฐกิจผันผวน 📈
ด้านภาพทางเทคนิค ราคาทองคำวันนี้มีแนวต้านสำคัญที่ $2,670 และ $2,675 ซึ่งอาจเป็นจุดพักฐานระหว่างวัน การทำจุดสูงสุดใหม่บ่งชี้ว่ากลยุทธ์การเทรดควรเน้นดัก Buy ตามแนวรับ หากใครพลาดช่วงเช้าอาจต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้หากราคาผ่านแนวต้านสำคัญได้ แนวโน้มขาขึ้นจะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง 💹
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:00)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish
🔼 แนวต้าน 3: $2,680
🔼 แนวต้าน 2: $2,675
🔼 แนวต้าน 1: $2,670
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,660
🔽 แนวรับ 2: $2,655
🔽 แนวรับ 3: $2,650
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
BTC "เราไม่ได้รวยขึ้นเราแค่รอดBTC ยังมองมุมเดิม จจบคลื่นย่อย1 ของคลื่นW3 โดยsub waveของคลื่นย่อย1 จุดนี้จะมีการย่อตัวของคลื่นW3 เพื่อทำsub waveของคลื่นย่อย2 ส่วนตัวมองเห็นการทำStrong B ; Running flat ที่ราคาทะลุไปหัวsub waveของคลื่นย่อย1 วัดfib ได้ที่138.2%พอดี ทั้งนี้ยังมองว่าใช้เวลาน้อยไป ในการจบคลื่นย่อย2 พิจารณาไม่ควรลงต่ำกว่าA ที่ราคา90800 หากหลุดแนวรับที่ราคานี้ถือว่าการพิจารณาคลื่นย่อยผิด แต่แนวโน้มภาพใหญยังไปได้อีกไกล เพราะจากการวิเคราห์ความยาวของช่วงคลื่น "คลื่นW3จะไม่มีทางสั้นที่สุดเสมอ."
XAUUSD ทดสอบ SUPPLY ZONE ที่ 2666 จะเกิดอะไรขึ้นจากภาพ โอกาสที่จะผ่าน SUPPLY ZONE 2666 ขึ้นไปหากรอบ 2680-2686 ยังมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
แน่นอน! Demand Zone และ Supply Zone เป็นแนวคิดสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สำหรับการเทรด โดยเฉพาะในตลาดที่มีการซื้อขาย เช่น Forex, หุ้น หรือ Cryptocurrency ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนมักให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์
---
### **1. Demand Zone (โซนความต้องการ)**
**Demand Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีความต้องการซื้อ (Buy Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาลดลงไปต่ำ และมีการเด้งกลับขึ้นมา (Reversal) หรือบริเวณที่ราคาสามารถพักตัว (Consolidation) ก่อนที่จะเริ่มวิ่งขึ้นต่อได้
#### **ลักษณะของ Demand Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวรับ (Support Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาถูก" หรืออยู่ในระดับที่น่าซื้อ
- เกิดแรงซื้อที่เข้ามามากพอจะดันราคาขึ้น
- บริเวณนี้อาจมีลักษณะของแท่งเทียนที่เกิดขึ้น เช่น "Pin Bar," "Hammer," หรือ "Bullish Engulfing"
#### **วิธีการหา Demand Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาเด้งขึ้นแรงหลังจากลดลง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัว
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **2. Supply Zone (โซนความอุปทาน)**
**Supply Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีแรงขาย (Sell Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาขึ้นไปสูงและมีการกลับตัวลงมา หรือบริเวณที่ราคาพักตัวก่อนจะลงต่อ
#### **ลักษณะของ Supply Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวต้าน (Resistance Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาแพง" หรืออยู่ในระดับที่น่าขาย
- เกิดแรงขายที่มากพอจะกดดันราคาลง
- แท่งเทียนที่เกิดในบริเวณนี้อาจเป็น "Shooting Star," "Bearish Engulfing," หรือ "Doji"
#### **วิธีการหา Supply Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาลดลงแรงหลังจากขึ้นไปแตะระดับสูง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัวลง
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **การใช้งาน Demand และ Supply Zone**
1. **การตั้งค่าเข้าเทรด (Entry Point)**
- เข้า **Buy** เมื่อราคาลงมาสัมผัส Demand Zone และมีสัญญาณกลับตัว
- เข้า **Sell** เมื่อราคาขึ้นไปแตะ Supply Zone และมีสัญญาณกลับตัว
2. **การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)**
- ตั้ง Stop Loss ใต้ Demand Zone เมื่อเปิดสถานะ Buy
- ตั้ง Stop Loss เหนือ Supply Zone เมื่อเปิดสถานะ Sell
3. **การตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit)**
- ใช้โซนตรงข้ามเป็นเป้าหมาย เช่น ถ้าเข้า Buy ที่ Demand Zone ก็อาจตั้งเป้าขายที่ Supply Zone
4. **การยืนยันโซน (Zone Confirmation)**
- ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ Fibonacci ร่วมด้วยเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของโซน
---
### **ข้อควรระวัง**
- **ไม่ใช่ทุก Demand หรือ Supply Zone จะทำงานได้เสมอ**: อาจมีบางครั้งที่ราคาทะลุโซนไป (Breakout) โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
- **ตรวจสอบประวัติราคา**: โซนที่ได้รับการทดสอบหลายครั้งมักมีความแข็งแกร่งน้อยลง เนื่องจากออเดอร์ในบริเวณนั้นเริ่มหมดไป
- **หลีกเลี่ยงข่าวสำคัญ**: ข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญสามารถทำให้ Demand และ Supply Zone ล้มเหลวได้
---
การเข้าใจ Demand และ Supply Zone ช่วยให้นักลงทุนสามารถหาจุดเข้าและออกที่มีความน่าจะเป็นสูง และลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากฝึกฝนและใช้งานอย่างเหมาะสม จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในกลยุทธ์การเทรดของคุณ!
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
มุมมองทองคำ 10/12/67🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
BTC ดิ่งแรง! จับตาระดับสำคัญ $91,500-$104,790 สัปดาห์นี้🚀 การคาดการณ์ราคา Bitcoin: ระดับสำคัญและกลยุทธ์สำหรับสัปดาห์นี้ 📊
ตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้เต็มไปด้วยแรงขาย:
BTC: ลดลง 2.5%
ETH: ลดลง 3.5%
BNB: ลดลงกว่า 4%
DOGE: ลดลง 7.5%
SHIBA: ลดลงเกือบ 7%
อย่าเพิ่งตื่นตระหนก นี่อาจเป็นจังหวะที่ตลาดกำลังตั้งค่าใหม่!
🏗️ ระดับราคาสำคัญของ Bitcoin Futures:
1. โซนรีบาวด์:
ซื้อ: $97,750 ถึง $98,850
จุดสำคัญ: $97,375
หากหลุดโซนนี้ ราคาอาจลดต่ำลงอีก
2. Value Area Low (VAL):
ช่วง: $95,400 ถึง $96,000
โซนที่ผู้ซื้อและผู้ขายมักหาข้อตกลง
3. แนวรับ VWAP:
ระดับ: ประมาณ $94,000
หากราคารีบาวด์จากจุดนี้ อาจเป็นสัญญาณซื้อ
4. โซนมั่นใจของตลาดหมี:
ระดับ: $91,500
หากราคาหลุดระดับนี้ พร้อมปิดรายวันสองวันติด อาจเกิดแรงขายหนัก
🎯 กลยุทธ์การเทรด Bitcoin:
ฝั่ง Long:
มองหาการรีบาวด์ที่ $97,750 โดยตั้งจุดหยุดขาดทุนใกล้ $97,375
หากหลุด GETTEX:97K รอเข้าที่ $95,400 หรือแนว VWAP $94,000
เป้ากำไร: $104,500 ถึง $104,790
ฝั่ง Short:
หากราคาหลุด $91,500 พร้อมปิดรายวันต่อเนื่อง อาจมีแรงขายไปสู่ $91,000
🔍 สรุป:
Bitcoin ยังแกว่งตัวในกรอบ $91,500 ถึง $104,790 คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบนี้ระยะสั้น แต่ระยะยาวยังคงมุมมองบวก
#Bitcoin #คริปโต #วิเคราะห์ราคา #BTC
EURUSD Daily Analysis 9/12/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
กองกำลังป้องกันอิสราเอล(IDF)แถลงยืนยันว่ากองทัพอากาศอิสราเอลได้โจมตีนักรบกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของเลบานอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.)
IDF ระบุว่า นักรบคนดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อกองกำลังทหารที่ประจำการทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงและความเข้าใจระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน
IDF กล่าวเสริมว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการของกองทัพซึ่งมุ่งเป้าไปที่ "กิจกรรมก่อการร้ายหลายรายการในภาคใต้ของเลบานอนที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออิสราเอล"
แถลงการณ์ระบุว่า IDF ยังคงปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง และประจำการอยู่ในเลบานอนใต้ พร้อมดำเนินการต่อต้านภัยคุกคามใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่ออิสราเอลและพลเมือง
SELL : 1. 05530
TP : 1. 05080
SL : 1. 05853
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังวิ่งในกรอบแคบๆของสวิงเทรนไซด์เวย์ ซึ่งมีเทรนหลักเป็นขาลงระยะยาว ทำให้ขาลงยังได้เปรียบอยู่ จึงทำการเข้า SELL โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียนในกรอบ H1-H4 โดยราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้นเก่าได้ ส่งผลให้ราคาเริ่มปรับตัวลดลงทีละเล็กทีละน้อยจากกรอบไซด์เวย์ ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาลง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
USDCHF เกิดแพทเทิร์น Head and Shoulder ขาลงที่ชัดเจนมากภาพรวมกราฟ USDCHF ในกรอบ H4
เกิดแพทเทิร์นที่ชัดเจนมากของ Head and Shoulder ขาลง
ราคาได้ทำไหล่ซ้าย หัว และไหล่ขวาอย่างสมบูรณ์ มีอัตราส่วนที่ชัดเจนและมีการทะลุเส้นคอ (Neck Line) ลงมาเป็นการคอนเฟิร์มขาลงเรียบร้อยแล้ว
โดยที่ ณ เวลาปัจจุบัน (9 ธ.ค. 2024) ได้เกิดการดึงกลับของราคา (Pull Back) เพื่อกลับมาทดสอบเส้นคอ (Neck Line) อีกครั้ง จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาจังหวะในการเข้าชอร์ทเซล
คำแนะนำในการเทรด
เทรดเดอร์สามารถย่อลงไปดูกราฟใน Timeframes ที่เล็กลงเช่น H1,M30 เพื่อหาโอกาสเทรดเพิ่มเติมด้วย Price actionได้
หรือ สามารถตั้งออเดอร์ไว้ในจุดที่น่าสนใจไว้ล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะมีหลายจุดที่น่าสนใจ โดยจะขอแนะนำ 3 โซนที่น่าสนใจต่อไปนี้:
โซนที่ 1 (Neck Line) 0.88263
โซนที่ 2 0.88042
โซนที่ 3 0.87948
จุดน่าวาง Stop Loss: ตั้งไว้ที่ 0.88497 เนื่องจากเป็นจุดที่โครงสร้างขาลงจะถูกทำลาย หากราคาทะลุจุดนี้ โอกาสที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงจะต่ำมาก
จุดที่ควรเป็นเป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1 = 0.86974 (แนวรับ) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการถือออเดอร์เกิน 1 สัปดาห์
TP2 = 0.86185 เป็นแนวรับสุดท้ายโดยคาดหวังว่าเป็นจุดสิ้นสุดของแพทเทิร์นขาลงนี้ ก่อนจะมีการกลับตัวของเทรนด์ครั้งใหม่ อาจต้องถือออเดอร์ราว2สัปดาห์
BTCUSD Daily Analysis 9/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2024 เวลา 12:28 น. ราคาบิตคอยน์ (BTC) อยู่ที่ประมาณ 99,483 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 124 ดอลลาร์สหรัฐ (0.12%) จากวันก่อนหน้า ช่วงราคาสูงสุดในวันนี้อยู่ที่ 101,389 ดอลลาร์สหรัฐ และต่ำสุดที่ 98,749 ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้รับแรงหนุนจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกพอล แอตกินส์ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 98392.86
✅ Tp: 96854.69 94807.69
❗ SL: 99904.30
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคายังวิ่งในกรอบแคบอยู่ ล่าสุดราคาได้มีการเบรคกรอบ
ลุ้นให้ราคาลงตามแรง โดยตั้ง Stop ใว้
fibo : เป้าหมาย ประมาณช่วง 2.618
เป้ามหาย ลุ้นขึ้นไปทำ BOS 103482.45
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”