การวิเคราะห์แนวโน้ม
ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทรงตัวเหนือ 2600ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความหวังที่จะลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติม และอีกด้านดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นช่วยสกัดช่วงบวกของทองคำ
⭐️ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ
⭐️โอกาสที่เฟดจะผ่อนปรนนโยบายการเงินน้อยลงจะหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคอยสกัดแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ
⭐️ราคาทองคำดึงดูดการซื้อในการปรับตัวลงในวันแรกของสัปดาห์ และซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ที่บริเวณ 2,666 ดอลลาร์ เข้าสู่เซสชั่นยุโรป ล่าสุดดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นแนวโน้ม เงินเฟ้อที่เอื้ออำนวย และแนะนำว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ลงอีก นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️ในขณะเดียวกัน นักลงทุนได้ประเมินความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนอย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงสูง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่แตะระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจำกัดการเพิ่มขึ้นสำหรับราคาทองคำ
⭐️นอกจากนี้ ความหวังดีที่นำโดยคำมั่นสัญญาของจีนที่จะเพิ่มหนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจทำให้ควรระมัดระวังก่อนที่จะ BET ขาขึ้นของทองคำครั้งใหม่
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นและเกิดหนุนแนวโน้มขาขึ้นเพิ่มเติม
📉ทั้งนี่ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อไปอีกเล็กน้อยบริเวณ 2,632-2,630 ดอลลาร์ ซึ่งหากปรับตัวลดลงต่ำกว่านี้ ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาลดลงไปที่ระดับ 2,600 ดอลลาร์ การที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะถือเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และจะนำไปสู่แนวโน้มขาลงอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นอาจปรับตัวลดลงสู่ระดับแนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ และขยายแนวโน้มลดลงไปที่ระดับ 2,535-2,530 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงระดับทางจิตวิทยาที่ 2,500 ดอลลาร์
📈ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์เชิงบวกในกราฟรายวันสนับสนุนผู้ซื้อขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความลังเลที่จะรอซื้อตามหลังเหนือแนวต้านแนวนอนที่ 2,660-2,662 ดอลลาร์ ก่อนที่จะวางตำแหน่งการเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ การเคลื่อนตัวขึ้นในเวลาต่อมามีแนวโน้มที่จะผลักดันให้ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 2,685-2,686 ดอลลาร์ ซึ่งเคยแตะเมื่อเดือนกันยายน ตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน เป้าหมายระยะกลางคงอยู่ที่ 2802 ดอลลาร์
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยทรงตัวเหนือระดับ 2,600 จุด การเคลื่อนไหวในแนวข้าง โดยไม่มีข่าวสำคัญใดๆ มากนักในสัปดาห์นี้
แนวคิดแผน Buy (14 ตุลาคม)
Buy zone 2605-2600
Sl 2585
TP1 2620
TP2 2640
TP3 2660
TP4 2680
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Sell วันที่ 14 ตุลาคม
Sell zone 2678-2680-2682
Sl 2700
TP1 2660
TP2 2640
TP3 2620
TP4 2600
TP5 2580
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
HSI FUTURES ย่อลงมาทดสอบ Fibonacci 127.2% แล้วเกิด Sell Reject14 ตุลาคม 2567 ภาพแสดง HSI FUTURES ย่อลงมาทดสอบ Fibonacci 127.2% แล้วเกิด Sell Reject
หากวันนี้ตลาดหุ้นไทยเปิด ผมคงให้ความเห็นว่า ย่อมาเรา Call DW HSI ขึ้นไปดีกว่า PUT ครับ
ลองมาฟังเหตุผลดังนี้ ด้วย MaChao Flip & Fibonacci
"MaChao Flip Aggressive Count"
ในช่วงที่ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสภาพปกติ เราสามารถใช้วิธี **Aggressive Count** หรือการนับแบบเร่ง เพื่อให้ทันกับความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
วิธีการ Aggressive Count นี้แตกต่างจาก แบบดั้งเดิมตรงที่ว่า:
1. **สำหรับการนับเพื่อซื้อ (Buy Count)**:
- ในวิธีดั้งเดิมจะเปรียบเทียบราคาปิด (Closing Price) กับราคาต่ำสุดของแท่งราคา (Price Bar) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 2 แท่ง
- แต่ในวิธี Aggressive Count จะเปลี่ยนไปเปรียบเทียบแค่ราคาต่ำสุดระหว่างแท่ง โดยไม่ใช้ราคาปิดมาเกี่ยวข้อง
- หากราคาต่ำสุดของแท่งราคาในปัจจุบัน น้อยกว่าหรือเท่ากับราคาต่ำสุดของแท่งที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า และตรงตามเงื่อนไขอื่น
2. **สำหรับการนับเพื่อขาย (Sell Count)**:
- ในวิธีดั้งเดิมจะเปรียบเทียบราคาปิดกับราคาสูงสุดของแท่งราคาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 2 แท่ง
- แต่ในวิธี Aggressive Count จะเปลี่ยนไปเปรียบเทียบแค่ราคาสูงสุด โดยไม่ใช้ราคาปิดมาเกี่ยวข้อง
- หากราคาสูงสุดของแท่งราคาในปัจจุบัน สูงกว่าหรือเท่ากับราคาสูงสุดของแท่งที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า และตรงตามเงื่อนไขอื่น
การตั้งค่า:
วิธีการ Aggressive Count ให้ผู้ใช้ **เปลี่ยนการเปรียบเทียบราคาปิด** ออกจากกล่องการตั้งค่า และเปลี่ยนไปใช้การเปรียบเทียบ **ราคาต่ำ (Low) สำหรับการซื้อ** และ **ราคาสูง (High) สำหรับการขาย** แทน
โดยสรุป วิธีนี้จะเป็นการเปรียบเทียบราคาต่ำหรือสูงของแท่งราคาในปัจจุบันกับแท่งราคาที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยในการตรวจจับสัญญาณซื้อหรือขายที่มีความเสี่ยงต่ำได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ณ เวลา 12:50 ของ 14/10/2024 เราพบว่า แนว Fibonacci 127.2 เป็นแนวรับหลักที่ Hold ดัชนี้ไว้
ชุด Aggressive Count นับ 8 บอกเราว่าชุดการนับทางขึ้นด้านบน ยังมีโอกาสนับได้ต่อเนื่อง
สรุปง่ายๆว่า HSI ย่อมาก็ Call ไปครับ โดยกำหนดจุด STOP LOSS ที่ low ของวันที่ 9/10/2024 มีค่า 20,241 จุด
GDH_Systemวิเคราะห์ XAUUSD 14/10/67วิเคราะห์ XAUUSD 14/10/67
เมื่อวันสัปดาห์ที่ผ่านใา ราคาทองวิ่งในกรอบ 2600-2660 และสามารถขึ้นเบรกเอ้าท์ 2630 ไปได้ และยืนเหนือ 2640 ได้ ทำให้ราคามีแรงวื่งขึ้นทำ High ที่ 2661 เป็นไปตามเทคนิคคอล ทั้งนี้ยังได้แรงข่าววช่วยสนับสนุนทั้งข่าว CPI ละ PPI หากมองในระยะยาวทองยังสามารภทำ ATH ได้ หากราคายังไม่ได้ หลุดต่ำกว่า 2600 ไปมากกว่านี้
วันนี้หลังจากที่ราคา ขึ้นทำ HIgh 2661 วันนี้ ช่วตลาดเช้าหรือตลาดเอเชียราคาก็ถูกเทขายออกมากว่า 1300 จุด แต่หากมามองในกราฟในรูปของ TFday และ H4 เทรนด์ขาขึ้น ได้กลับมาดูดีอีกครั้งหนึ้ง และภาพรวมของราคายังสามรถยืนเหนือ 2640 ได้อยู่ หากราคายังสามารถยืรเหนือโซนนี้ได้จนถึงช่วงบ่าย เราสามารถพิจารณาใช้เป็นแนวรับย่อยได้ และปิดเมื่อราคา Rebound และปิดเมื่อราคา ขึ้นสู่แนวต้าน เพราะราคายังติดแนวต้าน 2660 อยู่ด้วย ควรพิจารณาในกรอบ 2600-2660 ไปก่อน เพื่อกาารควบคุมความเสี่ยงของพอร์ต และหากราคามีแรงซื้อกลับรุนแรงจนสามารถทะลุยืนเหนือ 2660 ได้ ราคาก็มีโอก่สกลับไปที่ High เดิมได้ 2685
แนวรับรายวัน
2640-2645/2638-2632/2627-2619/2614-2610/2601/2585
แนวต้านรายวัน
2660-2667/2672/2677/2685/2697/
XAUUSD Daily Analysis 14/10/2024 by TraderTan
Trading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกมากกว่า 1% ในวันศุกร์ (11 ต.ค.) หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐตอกย้ำแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ก็ช่วยหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นด้วย
คาดว่าราคาทองคำจะแตะ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์, ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดาเนียล พาวิโลนิส นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของอาร์เจโอ ฟิวเจอร์ระบุ
BUY : 2647
TP : 2684
SL : 2692
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคาเริ่มไต่ขึ้นอีกครั้ง หลังจากเปิดตลาดและเกิด gap ทำให้ราคาอาจดีดตัวขึ้นไปเพื่อปิด gap และอาจขึ้นต่อเนื่องต่อไป ตามกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์กว้าง จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณจากแท่งเทียนในการกลับตัวขึ้น และการพักฐานซ้ำที่เดิม เป็นไปได้ที่ราคาจะดีตัวขึ้นอีกคั้ง จากการทอสอบแนวรับเก่า ในกรอบTF H1-H4 โดย ตั้งเป้าหมายกำไร 500 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น ใช้แนวรับแนวต้านเก่าเป็นตัวกำหนดจุดเข้าและจุดทำกำไรที่เส้นแนวต้านต่อไป และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ราคาทองคำอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยสำคัญจากข่าวเ🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD)
ในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) ราคาทองคำอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง
โดยมีปัจจัยสำคัญจากข่าวเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบหลายด้าน:
#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) ราคาทองคำอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยสำคัญจากข่าวเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบหลายด้าน:
**แนวรับสำคัญ** อยู่ที่บริเวณ $2,600-$2,630 ซึ่งเป็นจุดที่มีการฟื้นตัวก่อนหน้านี้ หากราคายืนเหนือแนวรับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,670
**แนวต้านสำคัญ** อยู่ที่ $2,670 หากราคาผ่านจุดนี้ไปได้ อาจมีการปรับตัวขึ้นต่อไป ซึ่งจะเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มขาขึ้น
**ปัจจัยข่าวสำคัญ** ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำสัปดาห์นี้คือการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะบ่งบอกถึงภาวะเงินเฟ้อ หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อาจช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากจะลดแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ ในทางกลับกัน หาก PPI ออกมาสูงกว่าคาด ราคาทองคำอาจเผชิญแรงกดดันและปรับตัวลงได้
อีกทั้ง ความตึงเครียดทางการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังคงดำเนินอยู่ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนให้ความสนใจ
.......................
สำหรับข่าวที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ มีดังนี้:
1. **ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ** - ตัวเลขนี้จะประกาศในวันที่ 15 ตุลาคม 2024 ซึ่งมีผลต่อการประเมินภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า และกดดันราคาทองคำให้ลดลง ในทางกลับกัน ตัวเลขต่ำกว่าคาดจะสนับสนุนราคาทองคำ
2. **การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC minutes)** - บันทึกการประชุมของ FOMC ที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งหากมีการส่งสัญญาณว่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย อาจช่วยหนุนราคาทองคำ แต่หากยังคงมีแผนขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ทองคำอาจถูกกดดันอีกครั้ง
3. **ตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงาน** - ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐที่จะเผยแพร่เกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานและการว่างงาน จะช่วยบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และเป็นตัวชี้นำสำหรับราคาทองคำได้เช่นกัน
4. **สถานการณ์ทางการเมืองโลก** - โดยเฉพาะความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หรือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ๆ จะส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ติดตามข่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพราะจะมีผลต่อทิศทางของราคาทองคำในตลาดโลก
.............
PLUSบริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน)
..................
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ได้แก่ น้ำมะพร้าว น้ำนมมะพร้าว น้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลักและเมล็ดเชีย และน้ำผลไม้ผสมอื่นๆ รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 7.40💥
💥Book value = 1.97 💥
💥D/E = 0.27 💥
💥P/E = 24.3 💥
💥P/BV = 3.03 💥
💥EPS = 0.05💥
💥Free Float = 33.81% 💥(13/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 3.53% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 12.10% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 11/10/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 598,000 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 พ.ค. 2024
เงินปันผล 0.12 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
BJC (มีคน IB มาสอบถาม)บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)
..................
1. กลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่
2. กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์
3. กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค
4. กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 33.5💥
💥Book value = 29.68 💥
💥D/E = 1.69 💥
💥P/E = 24.9 💥
💥P/BV = 0.84 💥
💥EPS = 0.31 💥
💥Free Float = 25% 💥(02/05/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.65% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 8.54% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 11/10/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 439,700 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
12 ก.ย. 2024
เงินปันผล 0.15 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2024 - 30 มิ.ย. 2024
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
BTCUSD Daily Analysis 13/10/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
หุ้นธนาคารสหรัฐฯ ทะยานแตะระดับสูงสุดใหม่! หลังฟื้นตัวจากวิกฤตธนาคาร SVB เศรษฐกิจ
หุ้นธนาคารของสหรัฐฯ กำลังพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ล้มละลายในปี 2023
ธนาคาร JPMorgan ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มีกำไร 12,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 12,100 ล้านดอลลาร์
ที่สำคัญกว่านั้น ธนาคารได้จัดสรรเงิน 3,100 ล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยการสูญเสียเงินกู้ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว
ซึ่งหมายความว่าธนาคารกำลังเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ของการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้กู้บางรายดิ้นรนเพื่อชำระหนี้ให้ทัน
เศรษฐกิจเริ่มกลับมาเคลื่อนที่
ข้อมูลจากธนาคาร JPMorgan และ Wells Fargo ระบุว่า แม้ว่าเงินสำรองสำหรับการสูญเสียเงินกู้จะพุ่งสูงขึ้น แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3
SELL : 62981
TP : 61781
SL : 63551
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H1
ราคายังพักตัวในกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยรอบล่าสุดเป็นไปได้ที่ราคาจะสวิงลงตามกรอบเดิม จึงทำการเข้า SELL โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้กรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบ BB เป็นตัวกำหนดจุดเข้า โดยราคายืนต่ำกว่า แนวต้านเก่าเล็กน้อย ใใช้กรอบเส้นกึ่งกลางเส้น BB ในกรอบทามเฟรม H4 เป็นตัวตั้งเป้าทำกำไรในกรอบเดิมไปก่อน
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Gold Market Outlook【14 ตุลาคม 2567】🌟 Gold Market Outlook【14 ตุลาคม 2567】💰🔍
📰 ราคาทองพุ่งแรงกว่า 1% หลังข้อมูล PPI สหรัฐหนุนความหวังเฟดลดดอกเบี้ย 📈💹
ราคาทองคำปิดตลาดวันศุกร์ด้วยการปรับตัวขึ้นกว่า 1% 💥 หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณบวกต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า 📉 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดล่าสุด 💱 นอกจากนี้ ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง 🌍🛡️
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนไม่มีการเปลี่ยนแปลง 📊 สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ และเสริมความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ 🎯
จิม วิคคอฟ นักวิเคราะห์อาวุโสจากคิทโก เมทัลส์ กล่าวว่า "ข้อมูล PPI เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดโลหะมีค่า และบ่งชี้ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลง 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้" 🗣️💡
ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะสูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อรายปีกลับต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง 📅📉
ดาเนียล พาวิโลนิส นักยุทธศาสตร์อาวุโสจากอาร์เจโอ ฟิวเจอร์ คาดการณ์ว่า "ราคาทองคำมีโอกาสแตะ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง" 🔮💰
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนราคาทอง โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 102.890 💲📉
ในแง่เทคนิค ราคาทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการยุติแนวโน้มขาลงระยะสั้น และเปลี่ยนเป็นแนวโน้มแบบ Sideway ที่โน้มเอียงไปในทิศทางบวก 📈 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 2,660 และ 2,667 ดอลลาร์ 🎯 และมีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังและลดปริมาณการลงทุนเพื่อรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น ⚠️💼
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,672
🔼 แนวต้าน 2: $2,667
🔼 แนวต้าน 1: $2,661
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,649
🔽 แนวรับ 2: $2,642
🔽 แนวรับ 3: $2,634
✍️ เขียนโดย: Beam 📊💡
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นมองภาพรวมใหญ่ให้ออกก่อนแล้วจะมาออกแบบการวิเคราะห์หาจุดเข้าในTF เล็กๆได้ ถ้ามองกรอบใหญ่พลาดกรอบเล็กก็จะเพี้ยนด้วยเช่นกัน
สรุปการฝึกตั้งคำถามแล้วหาคำตอบกับตัวเองบ่อยๆจะทำให้เรารำลึกอยู่กับระบบของเราอย่างแน่วแน่มั่นคงและสำคัญของการวิเคราะห์ต้องสร้างตรรกะให้เป็น