ค้นหาในไอเดียสำหรับ "btc usd"
BTC/USD อัพเดตจากที่ forcast ไว้วันที่ 11 กรกฏาคมอัพเดตจากที่ forcast ไว้วันที่ 11 กรกฏาคม
ปรากฏว่าเป็น Normal Flat จริงๆ คือ ความยาว wave-b จะยาว 81% -100 % ของ wave-a
ในสถานการณ์จริงก็จบที่แถวๆ 81% ของคลื่น a คลื่น C มันจะยาวเท่าๆกับคลื่น a
สายมโนก็เดากันต่อไป 5555+
BTC/USD กระแสการไหลของราคา (2) จากภาพเมื่อคืน
เมื่อราคาเข้าสู่ กระแส ใหม่ ได้ ... ราคาก็จะทำ New High ใน ช่อง ( box) ถัดมา ส่วนแท่งราคาล่าสุด หากยืนที่ช่อง บนดังภาพ 9,500 บิท ก็คงจะไม่ไกลเกินไป
คงต้องรอ ว่าจะยืนที่ช่องนี้ได้หรือไม่สำหรับวันนี้
BTC/USD กระแสการไหลของราคาเทรนไลน์หลัก เป็นเส้นสีฟ้า ที่เกิดจาก จุดต่ำสุด ถึง จุดสูงสุด ในแต่ละคลื่น ผมเรียกว่า เทรนไลน์123 เพราะเมื่อนำเส้นนั้น ไปยังจุดที่ 3 สามารถทำนาย การเปลี่ยนเทรน ณ จุดตัด ของ ราคาและเส้น ได้อย่างแม่นยำ
เมื่อ นำ เทรนไลน์123 มา สร้าง channel ให้ เข้ากับสัดส่วนเรขาคณิต
กำหนดให้มี องศา ความชัน และ ความห่าง เท่ากันทุกเส้น
จะพบกับ นัยยะ ที่สำคัญ ของ กระแส หรือ เทรน ดังภาพ
เปรียบ เหมือน ราคา ไหล ตามกระแสน้ำ
เมื่อ หลุดจากกระแสหนึ่ง ก็ไปยังกระแสหนึ่ง อย่างเห็นได้ชัด
ณ วันนี้ ราคาได้เข้าสู่ กระแสเทรน ใหม่ แล้ว
BTC/USD
Sine Wave ตั้งอยู่บนสมมุติฐาน ว่า สินค้านั้นมีวัฏจักรราคา ที่ชัดเจนใน (ช่วงเวลาหนึ่งๆ..อันนี้เป็นข้อสังเกตุส่วนตัว)
วัฏจักร จะเห็นได้ชัด ใน สินค้าโภคภัณฑ์ ทางกายภาพ เช่น ข้าวหอมมะลิ น้ำมัน ซึ่ง ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน( ที่มีจำกัด )ของตลาดโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก
หากนำมาใช้กับ Bitcoin ต้อง ตั้งอยู่ในสมมุติฐานว่า เหรียญบิทคอยน์ ในตลาด มีจำกัด เช่นกัน และ ต้องใช้แลกเปลี่ยนสินค้า ผูกกับสกุลเงินต่างๆ ได้เสรีเป็นที่ยอมรับ ดังเช่น กรณีของ ทองคำ ได้เคยถูกผูกไว้กับ สกุลเงิน ในยุค 1900-1970
BTC/USD Reversal ราคามาแตะทีเทรนไลน์แล้วครับ
แม้ว่าจะเป็นเทรนขอลงอยู่ แต่ยังพอจะสามารถ Buy สั้นๆไปได้จนถึงขอบเทรนไลน์อีกฝาก
ถ้าราคาไปถึงตรงนั้น จะออกทั้งหมด หรือออกครึ่งนึงก่อนก็ได้ครับ เพื่อดูว่าราคามันจะไปต่อได้มั้ย (จะเลื่อ SL ขึ้นมาล็อกกำไรไว้ก่อนหรือมาบังทุนไว้ก็ได้)
วาง SL ด้วยนะครับ
BTC/USD Contracting Limiting Triangle Rule เจอได้บ่อยๆ
1.ขนาดคลื่น a สามารถใช้เวลาน้อยกว่า b ได้ คลื่น b ต้องยาวไม่น้อยกว่า 61.8 ของ a คลื่น c ต้องราคาวิ่งกลับไปที่โซนราคาของ a
2..ขนาดของคลื่น b ต้องเป็น 38.2%-261.8% ของ a (5-23) ขนาดของ คลื่น b ต้อง retrace มากกว่า 50% ของ a (5-24) คลื่น b ต้องยาวกว่า a แต่ว่าไม่เกิน 261.8 ของ a
3.ขนาดของ คลื่น c ต้อง retrace มากกว่า 50% ของ b(5-24) คลื่น c ต้องสั่นกว่า b แต่ว่า retrace มากกว่า 38.2 ของ b
4.ขนาดของ คลื่น d ต้อง retrace มากกว่า 50% ของ c(5-24) คลื่น d ต้องมีขนาดเล็กกว่าและ ต้องสั่นกว่า แต่ใช้เวลามากกว่าคลื่น c
5. คลื่น e จะใช้เวลาประมาณ 20-40% ก่อนจุด Apex (11-20) ต้องเล็กกว่า d แล้วคลื่น e ต้องเป็นคลื่นที่ราคาสั่นที่สุด ในสามเหลี่ยมทั้งหมด ขา e ห้ามใช้เวลาในการฟอรม์ตัวนานที่สุด (11-11)
6.. เมื่อตีเส้นแล้ว จะต้องมีจุดสัมผัส 4 จุดเท่านั้นข้างล่าง 2 ข้างบน 2 มากกว่านั้นไม่ถือว่าเป็นสามเหลี่ยม
สามเหลี่ยมใน Elliott wave มีประมาณ 5 แบบ
1.Limiting Triangle พบมากในคลื่น 2 หรือว่า 4 เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมธรรมดา
2. Non-limiting Triangle เป็นสามเหลี่ยมที่จะไปเรื่อยๆ โดยมี 3 เหลี่ยมอีกชุดนึงซ้อนอยู่ในสามเหลี่ยมชุดสุดท้าย
3. Expanding Triangle อันนี้เจอยากมาก ส่วนมากจะเจออยู่ในคลื่น 2 เป็นสามเหลี่ยมที่ ปลายออกจากกันนานๆเจอที
4. Neutral Triangle และ 5. Diametric Triangle เป็น 3 เหลี่ยมที่ถูกค้นพบภายหลังในหนังสือไม่มี แต่หาในเน็ดได้ รูปแบบนี้เกิดบ่อยๆ
# [BTC] ทั่วไป -19-05-19👑🎯 #KingShot#ทั่วไป 👑🎯 #KingShot
19/05/19
#BTC #ิระแนรืีหก
___________________
ณ เวลานี้ BTC เทรดกันอยู่ที่ราว 8000$กว่า
แต่ KingShot ขายไปถือ USDแล้ว
ตั้งแต่ช่วงก่อน 6000$
แบบนี้ก็หมายความว่าขายหมูนะสิ?
___________________
ก็ต้องเรียนตามตรงด้วยความสัตย์จริงว่าใช่ครับ
ผมขายหมูBTCรอบนี้ไป
อันที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมขายหมูครับ
และก็คาดว่าน่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
รอบbull run ตอนปลายปี2017
ผมเองก็ขายหมูเช่นกัน
ผมปล่อย BTCออก
หันมาถือ USD ตั้งแต่ราคา 16.000$
แต่หลังจากนั้น BTC
ขึ้นไปทำ ATH ราว 20.000$
___________________
ผมเคยขายหมู BTC มาแล้วครับ
แต่ผมไม่เคยติดดอย BTC ครับ
เทรดที่แย่ที่สุดในBTCที่ผมเคย
คือ ออกมาโดยเท่าทุน
___________________
"ขาดทุนเป็นเรื่องใหญ่ กำไรเป็นเรื่องรอง"
___________________
สำหรับท่านที่ขายBTC ออกมาแล้ว ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี? ผมอยากให้ท่านคลิ๊กตามลิงค์ เข้าไปอ่านที่ผมแนบในโพสต์นี้ของผมดูนะครับ
เพราะจริงๆแล้วการขึ้นมา 8พัน หรือจะไป1หมื่น
สำหรับผมแล้วไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตะหนกอย่างไร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ผมได้วางแผนไว้ล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว
___________________
31 มีนา 19
หากถ้าBTCยืนเหนือ6000ได้เฉยๆ
เทรนจะไม่เปลี่ยน
ถ้าจะเปลี่ยนเทรนจะต้องทะลุ Kingline
ขึ้นไปเหนือ 8000$
และถึงจะทะลุไป8พันหรือ1หมื่นก็จะลงมารับ
ที่Kinglineอีกครั้ง
ตั้งระดับกระทิงหมีที่
โอกาสขึ้น 30% ลง70% -
___________________
11 เมษา 19
แม้จะมีการย่อลงมาบ้าง
แต่ยังมั่นใจว่าBTCจะขึ้นไป 6000
มีข้อสงสัยว่าทำไมกระทิงครึ่งตัวถึงเกิดก่อนเวลา
แสดงถึงแรงซื้อที่เยอะเกินปกติที่ควรเป็น
ทำให้ต้องปรับระดับกระทิงหมีใหม่
โอกาสขึ้น 35% ลง65%
___________________
17 เมษา 19
ยังคงยืนยันจะขายที่ Kingline ราว 6000$
___________________
27 เมษา 19
ออก Action! ให้ขาย BTC ถือ USD
ขายก่อนชน Kingline เพราะข่าวUSDT
ของทาง Bitfinex ทำให้ผมเกิดความไม่มั่นใจ
ซึ่งนักลงทุนรายใหญ่ๆเองก็ลังเลเช่นกัน
จังหวะนั้นทางเทคนิคคอลบอกว่ากราฟจะไป 6000$
แต่ทางด้านพื้นฐานข่าวUSDT กลับบอกให้ขาย
และยังมีข่าวการ Hack ของ binance ตามมาอีก
___________________
2 พฤษภา 19
สำหรับท่านที่ยังอยากถือBTCต่อ
ท่านอาจจะโชคดีถ้ามีข่าวดี ETF ผ่าน
หรือ BAKKT ได้รับอนุมัติ
แต่ในมุมมองของผม "โชค"
เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง
___________________
ทำไมBTCถึงขึ้นทะลุ 6000$ ไปอย่างง่ายดาย?
นั้นสิครับ....ทั้งข่าวUSDT ทั้งแนวต้านที่แข็งแรง ทั้งbinance ถูกhacked
ผมอยากตั้งคำถามคืนมากกว่าครับ
เมื่อวันจันทร์ BAKKT ประกาศว่าจะเปิดให้บริการลูกค้าในเดือนjulyนี้
ท่านคิดว่าข้อใดฟังดูมีเหตุมากกว่ากัน ?
1. BTCไต่มา 8000$ ก็เลยทำให้BAKKTประกาศจะเปิดให้บริการขึ้นมา
2. BAKKT วางแผนจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่BTCราคา4-5-6พัน แล้ว แค่ไม่ยอมประกาศสู่สาธารณะ
แต่มีนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มรู้จากวงใน ไล่ซื้อมาเรื่อย
___________________
สุดท้ายนี้... ผมอาจจะขายหมู
แต่การขายหมูของผมไม่คิดว่านั้นคือการตกรถ
ตราบใดที่รถนั้นจะขับกลับมารับผมที่เดิม
จะ1สัปดาห์ 1เดือนหรือ3เดือน ผมก็รอได้ครับ 😁
===================
มีอะไรบ้างที่ผมยอมและไม่ยอม
ขายหมู = ได้! ✅
ติดดอย = ไม่ได้!❌
ตกรถ = ไม่ได้!❌
ทนรอ = ได้! ✅
คนเล่น Altcoins จงระวัง! เพราะพี่ใหญ่ BTC จะทวงบัลลังค์คืน!วันนี้ BTC ทำแท่ง ยาวและใหญ่ ดีดวันเดียวเป็น 1000$ จาก 7750 ไปตอนนี้อยู่แถวๆ 8900$
ดูจากทรงแล้ว gut feeling บอกผมว่า "เจ้าจะดัน BTC แค่ตัวเดียว" นะจ๊ะ
เพราะถ้าเราไปส่องดู Altcoins ตัวหลักๆ ทั้งหลาย จะเห็นว่า
วันนี้ Altcoins คู่ BTC ร่วงระนาว เช่น
ETH/BTC ร่วง -3.3%
XRP/BTC ร่วง -6.72%
LTC/BTC ร่วง -6.21%
EOS/BTC ร่วง -4.3%
พอเราไปดู Dominance ก็จะเห็นว่า...
Altcoin Dominance ทรงหัวทิ่มทุกตัว
==================
แล้วข้อมูลนี้บอกอะไรเรา?
==================
ถ้าคนที่ตามเพจผมมานานนนน แล้ว จะจำได้ว่า
ช่วงปี 2019 ผมได้บอก และย้ำเตือนในเพจจนปากเปียกปากแฉะว่า
ถ้าจะเข้า Altcoins ตอน BTC กำลังขึ้น
ให้แวะมาดูกราฟ Altcoin/BTC ก่อน ว่าทรงมันเป็นแบบไหน
ถ้าทรงมันเป็นขาลง ก็อย่าไปเข้า
ผมจำได้ว่า ตอนนั้น ผมโดนพวกลูกเพจบางคน โห่ฮา
แซะกันอย่างเมามันว่า "ไอ้เทพคอยน์แม่ง เทรดไม่เป็นหรอก" และอื่นๆ อีกมากมาย
บางคนก็บอกว่า จะไปดูทำไม คู่ BTC ก็นี่ไง Alt/USD ก็ขึ้นอยู่เนี่ย บ้าหรือป่าว?
บางคนก็บอก มึงเพ้อละ เดี๋ยว BTC ขึ้นสุด แล้ว หลังจากนั้น Alt จะ party เหมือนปี 2018 ไง
... สุดท้าย พอ BTC ร่วง alt ก็ร่วงตามยับกว่า BTC ซะอีก..
ขึ้นก็ขึ้นช้ากว่าเขา ลงก็ลงหนักกว่า เวรกรำ ( ถ้านึกภาพไม่ออกให้ไปกดดู XRP )
--------------
หลังๆ ผมก็เลยท้อใจ แล้วก็เลยไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้อีก เพราะเบื่อคน
สุดท้าย เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตุไว้ มันก็เป็นจริงครับ
เพราะสุดท้ายแล้ว ช่วงที่ BTC ลากจาก 4200 ไป 14000 เมื่อปี 2019
ตอนนั้น BTC แย่งส่วนแบ่งตลาด จาก แค่ 59% ไปที่ 72%
และมันทำให้พวก Altcoin คู่ BTC ขาดทุนกำไรกันยับ ตัวอย่างเช่น ETH/BTC ตามรูป
จะเห็นได้ว่า ใครถือ ETH เอาไว้ ตอน BTC กำลังวิ่ง จะขาดทุนถึง -53%
--------------
ยกตัวอย่างเคสนี้ให้เข้าใจง่าย
---------------
ในวันที่ 13 มี.ค. 19 ตอนนั้น BTC ราคาประมาณ 3800
คุณแบ่งเงินเป็นสองส่วน ส่วนละ 1 BTC ณ ตอนนั้น ( รวมแล้วเป็น 2 BTC )
1 BTC = คุณถือ BTC ทิ้งไว้เฉยๆ
1 BTC ที่เหลือ คุณเอาไปซื้อ ETH ( ตอนนั้น ETH ราคา 132$ )
เวลาผ่านไป จนถึงช่วง peak ของ BTC ช่วงแถวๆ ก.ค. 19
ตอนนั้น BTC ราคา 14000$
แต่ในช่วงเวลาเดียวกันที่ BTC peak = ETH มีราคาอยู่ที่ 358$
เท่ากับว่า
เราได้กำไร BTC = +268%
เราได้กำไร ETH = +171%
..ต่างกันเกือบ 100%!!!
จะเห็นได้ว่า... เคสนี้ ถ้าเราถือแค่ 1 BTC ไว้เฉยๆ เราจะได้กำไรสุทธิ เป็น USD มากกว่า ไปถือ ETH ด้วยครึ่งหนึ่ง!
พูดง่ายๆ ก็คือ BTC ที่เราเอาไปซื้อ ETH นั้น "ได้หายไป นั่นเอง"
---------------------
สรุปว่า
--------------------
ทรงแบบนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกถึงความตุๆ
ยังไงก็อยากให้ลูกเพจ หรือคนที่ผ่านมาอ่าน ให้ระวังท่านี้ด้วย
ถ้ากลัวว่า จะหลบตอนไหนดี ก็เอาพวก ATR Trailing stop ไปใส่กราฟ Altcoin/BTC ก็ได้
.. ถ้ากราฟ Altcoin/BTC เป็นขาลง ก็สลับมาถือ BTC แทน จบ ง่ายๆ
หรือถ้าขี้เกียจคิดมาก ก็ขาย altcoins ที่ถือไว้ทุกตัว แล้วโยกมาถือ BTC แทน
ก็หวังว่า คนที่ตามผมมา ตั้งแต่ปี 2019 จะจำเคสนี้ออก
ส่วนพวกคนใหม่ๆ ที่เพิ่งตาม ที่ไม่เข้าใจ
ผมก็คงไม่พูดไรมาก 555 เพราะถือว่าบอกไปแล้วครับ
Kingshot [BTC] ถ้ายืนเหนือ6000$ได้ เทรนจะเปลี่ยน? ไม่ครับ! ใช่ครับ ผมเขียนถูกต้องแล้วครับ
การที่BTCจะยืนเหนือ6000$ได้นั้น ไม่ได้บ่งบอกการเปลี่ยนเทรนแต่อย่างใด
ผมกลับมองว่าเป็นการขึ้นไปเพื่อยืนยันขาลงมากกว่า really on the downtrend นั้นเอง (โอกาสลง70% ขึ้น30%)
ถ้า BTC จะเปลี่ยนเทรน BTCจะต้องขึ้นไปเหนือ8000$+ เสียอีก BTCจะต้องทะลุ Kinglineขึ้นไปด้วยความแข็งแกร่ง
แต่ถึงจะขึ้นไป8พัน9พันหรือ1หมื่น ก็จะกลับลงมาที่Kingline 6000$อยู่ดี เพื่อยืนยันขาขึ้นที่แท้จริง ค่อยเข้าใหม่ก็ยังไม่สาย
สรุปสิ่งที่ทำตอนนี้ของผมก็คือถือ BTC จนไปถึง 6000$ แล้วก็ขายมาถือUSDแทน แล้วก็รอ ถ้าราคาลงเราก็ได้จำนวนจากbtcที่มากขึ้น(เมื่อซื้อกลับ)
แต่ถ้าราคาขึ้นไป8000+$หลังจากเราขาย ก็ขอให้รอเสียหน่อย เดี๋ยวBTCก็ลงมารับ ตอนนั้นเราจะเอาUSDไปซื้อBTCคืนเพื่อขึ้นรถ
เอาความชัวร์เน้นควมคุมความเสี่ยงแบบไม่ติดดอยและก็ไม่ตกรถอีกด้วยครับ ☺
คุณไม่มีวันทำกำไรได้ ถ้าคุณไม่เหลือเงินทุนครับ
หากอยากเข้าใจเรื่องKINGLINE มากขึ้น ผมอยากเชิญชวนให้ลองอ่านโพสต์นี้ประกอบได้ด้วยนะครับ
เทรน BTC ณ ปัจจุบัน
เทรนประชิด : BULL 🔺 TO 6000$
เทรนหลัก : BEAR 🔻
BTC: I'm inevitable -- หรือ Altcoin จะโดน BTC ดีดนิ้วตายไปหมด!ช่วงนี้ เราจะเห็นภาพความหายนะของ Altcoin คู่ BTC ในท้องตลาด
ว่าราคาคู่ BTC ดิ่งเหวมาตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ BTC เริ่มบินทะลุ 4200..
พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านคือ .. ถ้าคุณถือ Altcoin ไว้ ไม่ยอมโดด
พอร์ตของคุณ เวลาคำนวณเป็น BTC แล้วจะลดลงอย่างมาก
ซึ่งในบางครั้ง เวลาคำนวณกลับไปเป็น USD ก็จะลดลงเหมือนกัน
=========================
ตอนนี้ผมสังเกตุเห็นสิ่งน่าสนใจอย่างนึง
นั่นก็คือ BTC dominance เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
โดยถ้าเราเทียบกันกับตอนที่ BTC ขึ้นไป 20k
ตอนนี้ BTC dominance ณ ปัจจุบัน ห่างกันกับตอน 20k ไม่มากเลย!
ส่วน Altcoins เนื่องจาก เป็น altcoin แบบ Others อยู่แล้ว ยังไม่รวมพวกเหรียญหลักๆ อย่าง XRP, LTC, ETH, EOS ฯลฯ
แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ณ ตอนนี้ Dominance ของ Altcoins ตัวเล็กๆ ในท้องตลาด กำลังอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ( จริงๆ ตัวหลักๆ ก็ย่ำแย่พอกัน )
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ไม่ต้องห่วงเลยว่า BTC จะกดดัน altcoins dominance ให้ร่วงลง ต่อไปเรื่อยๆ หากราคาค่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างที่เราเห็น
ผมมองว่า ถ้า BTC ทะลุ 6000 ขึ้นไปได้จริง เราน่าจะได้เห็น altcoins ลด dominance ลงได้อีกเยอะเลยครับ
===========================
แล้วมันบอกอะไรเรา?
ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ผมก็มองว่า
ตอนนี้ ตลาดเริ่มรู้แล้วว่า การไปช้อนแล้วถือ altcoin เพื่อหวังให้มันเด้งกลับ มันไม่เวิร์ค และมีความเสี่ยง
สู้ขายแล้วโยกมาถือ BTC ยังจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า ( อย่างน้อย ก็็ในช่วงนี้ ที่ BTC ยังเป็นเทรนขาขึ้นชัดเจน )
รวมถึง ถ้า BTC ทะลุ 6000 ตลาดก็จะกลับเข้าสู่ภาวะ กระทิง ของ BTC เท่านั้น ไปอีก
เพราะ หลายๆ คนก็รอ อย่างเป็นห่วง ว่า ถ้า BTC ทะลุ 6000 ไม่ได้ ก็เตรียมลงไปเจอ 2000
แต่ถ้าทะลุ ก็เรียบร้อย ... เป็นการ confirm trend ขาขึ้นอย่างแน่นอน
... พอคนมองได้ดังนี้ เขาก็ไม่รู้จะเก็บ altcoin บ้าๆ บอๆ ที่อยู่ในท้องตลาดไปทำไม เพราะถือไป ราคาก็ลง
พวกมือใหม่ - เม่า หลายๆ คน เห็นว่า ราคา BTC ขึ้น แต่ฉันมัวอม altcoins ไม่ได้กำไร ก็ยอมแพ้ และโยกเงินเข้ามาถือ BTC แทน
.. ก็จะยิ่งส่งผลให้ altcoins ร่วงหนักลงไปอีก
=========================
ตอนนี้ เราก็ไม่รู้หรอก ว่าอนาคต มันจะเฉลยไปในทางไหน
แต่.. สิ่งที่แท้ทรู มันก็แสดงออกมาในกราฟ ว่า.. ณ อีกหลายเดือนต่อไปจากนี้
BTC เป็นขาขึ้น ส่วน Altcoins เป็นขาลง
.....แล้วเราจะไปช้อน altcoin กันทำไม ให้พอร์ตเสียหาย .. หากมันยังไม่กลับตัว?
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 10/6/2022 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
หลังจากที่ราคา Bitcoin (BTC) ไม่ขยับมาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ ปัจจุบัน
ยังคงซื้อขายอยู่ในระดับ 30,000 ดอลลาร์ ขณะที่ Wall Street เปิดเผยให้เห็น
ความสัมพันธ์ของหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่า
BTC/USD มีแนวโน้มจะดิ่งลง ขณะที่ S&P 500 เปิดออกเช่นเดียวกันโดยขาดทุนเพียงเล็กน้อย
แต่เหล่าบรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ Pentoshi คาดการณ์ว่า BTC/USD
อาจพุ่งสูงถึง 35,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการแก้ไขครั้งใหญ่ครั้งถัดไป
โดยพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอีกครั้ง
แนวรับ 29367
แนวรับ 28643
แนวรับ 27720
แนวต้าน 30522
แนวต้าน 31507
แนวต้าน 32314
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลาง แต่เริ่มลดระดับลง
Trendline:
จากกราฟ ราคายังวิ่งเป็นสวิงเทรนไซด์เวย์ ขึ้นๆลงๆในกรอบแคบๆ ช่วงนี้เล่นในกรอบ
ไซด์เวย์ไปก่อน โดยเน้นทำกำไรระยะสั้น จนกว่าราคาจะเลือกทางที่ชัดเจน และรอ
สัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 29367 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 31507 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 31507 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 29367 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Kingshot [BTC] #ACTION ! #ขาย #ิระแนรืีหก 27-04-19#ACTION ! 👑🎯 #KingShot
#ขาย BTC ถือ USD
#BTC #ิระแนรืีหก #กลาง
___________________
ช่วงเวลาวันที่25 BTC ทิ้งแท่งสีแดงใหญ่ลงมา แสดงอาการด้านราคาที่ไม่ดีนัก
แต่ผมคาดไว้ว่าจะกลับตัวขึ้นไปใหม่ในวันที่26
และจะไม่ลงอีกจนกว่าจะชน 5800-6000+
และคาดว่า วันที่26ผมจะมาโพสต์บอกว่า
ภายในวันที่12/05(ราว2สัปดาห์นิดๆ)ต่อจากนี้
เราน่าจะได้เห็นว่าBTCจะแตะ 5800-6000+ ได้หรือไม่
___________________
ไม่เป็นอย่างที่คาดไว้
เนื่องด้วยหลังผมตื่นมาวันที่26 มีข่าวไม่ดี
Bitfinex ถูกตั้งข้อสงสัย เงิน850ล้านUSDT (tether)
ส่งผลทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ
BTC ไม่กลับขึ้นไปอย่างที่หวัง
___________________
จนถึงเวลานี้ วันที่27(อีกครึ่งวัน จะจบวัน)
ผมยังไม่เห็นแรงพลักดันใดๆจากฝั่งกระทิง
สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าข่าวข้างต้นจะกระทบอะไรมากนัก
แต่สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ พวกเขาไม่ชอบความไม่แน่นอนครับ
___________________
สืบเนื่องจากบทความข้างต้น ทำให้ผมมองว่า BTC ใกล้ถึงจุดน่าพิจารณาขาย แม้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผมมองBTCขึ้นมาตลอดและคาดหวังราคาขายไว้ที่5800-6000+
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผมการปล่อยข่าวลบของ Bitfinex นั้นช่างประจวบเหมาะทั้ง แท่งเทียน ระยะเวลา ภาพรวม และแรงผลักของกระทิง อาจเป็นได้สองกรณี
1.ผมและพวกเขามองกราฟแบบเดียวกัน
2.เพราะเขารู้ว่าผมมองแบบนี้ เขาจึงพยายามทำกราฟหลอก
___________________
ทั้งกระทิงครึ่งตัวที่โผล่มาก่อนเวลา
facebook.com/Kin9shot/photos/a.237805067173592/263096147977817/?type=3&theater
และข่าวด้านลบ ช่วงเวลาเดียวกับที่กระทิงเต็มตัวกำลังจะออก
___________________
ใครๆก็มองว่ามีหมีจะขายช่วง5800-6000 เยอะ อาจจะมีรายใหญ่ทุ่มเงินฝั่งlong ให้คนที่ short BTC ด้วย margin นั้นถูก force sell
หากเป็นเช่นนั้นเราคงได้เห็นไส้เทียนยาวๆ ขึ้นไปแตะเลข 6000$ ก็มีความเป็นไปได้
___________________
เทรน BTC ณ ปัจจุบัน
เทรนประชิด :BEAR 🔻
เทรนหลัก : BEAR 🔻
___________________
ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็พอใจที่จะขายตรงนี้ เพื่อป้องกันการติดดอย ที่จะทำให้สูญเสียทั้งเงินทองและสุภาพจิต
====================
ขาดทุนเป็นเรื่องใหญ่ ได้เงินเป็นเรื่องรอง
ความเสี่ยงยังต้องน้อย กำไรสม่ำเสมอสำคัญที่สุดดดดดด
👑🎯
วิเคราะห์ อารมณ์ตลาด จากสัญญาณเม่า เพื่อหาเป้า BTC 2020จากที่ผมอยู่กับ BTC มาทุกวันตลอด 2 ปีเต็ม
ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า ตลาดนี้ มันถูก drive ด้วยความโลภและความกลัวของมนุษย์จริงๆ
โดยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เม่า" นี่แหละ จะเป็นตัวบอกว่า
ตอนนี้ ตลาดอยู่ถึงภาวะไหนแล้ว ..
ให้ลองดูภาพ Market Cycle ของ wyckoff logic ประกอบไปด้วยนะครับ
ยาวหน่อย แต่อยากให้ทุกคนได้อ่าน จะได้เลิกเป็นเม่ากันซะที
2016 - Nov 2017 ( MARK UP )
ช่วงนี้เม่ายังไม่สนใจ BTC
เพราะเล่นกันอยู่แต่ในกลุ่มแคบๆ
แต่ก็มีคนร่ำรวยจาก ICO ไปเยอะมากๆ
ทำให้เงินเริ่มไหลเข้ามาในระบบเยอะ
ช่วงนี้ คนที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2016 ก็จะถือกันอย่างเฉยๆ ชิวๆ ไปเรื่อยๆ
เม่า : ยังไม่สนใจ
เจ้า : ยังลากราคาขึ้นไปเรื่อยๆ
คนเทรดเป็น : นั่งเฉยๆ ทนรวย เพราะยังไม่มีสัญญาณออก
Nov 2017 - Jan 2018 ( BUYING CLIMAX )
เพียงเดือนเดียว ราคา BTC ขึ้นจาก
5600 ไป 20000
ด้วยพลังเม่า ระดับ Mass
เพราะสื่อเอาไปลง ทำให้คนแห่กันเข้ามาซื้อ
แบบหูดับตับไหม้
ทุกคนพูดถึงแต่ Bitcoin แม้แต่คนขับรถแท๊กซี่
หลังจาก BTC peak... Altcoin ทุกตัวก็ดีดเป็นเจ้าเข้า
ทำให้เม่าแห่กันเข้าไปประจำดอยที่สูงที่สุด
กันทุกคน...
เม่า : แห่กันมาซื้อ แบบไม่สนราคา เพราะกลัวตกรถ
เจ้า : ทยอยขายยัดใส่มือเม่า
คนเทรดเป็น : ทยอยขาย หรือเตรียม take profit โดยการขยับ trailing stop
Feb 2018 - Nov 2018 ( MARK DOWN )
การ Sideway อันยาวนาน และน่าเบื่อ
แต่เม่าก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้จะต้องทำไง
ดูกราฟก็ไม่เป็น ซื้อก็ซื้อตามคนบอกว่า เดี๋ยวจะรวย
สรุปช่วงนี้ เม่าก็จะดอยเงียบๆ อย่างมีความหวัง
และเลิกตามคริปโตไปก่อน เพราะยังเชื่อว่าจะมูน
ส่วนเม่าบางคน ที่ยังมีตังเหลือ ก็ถัวสู้ไปเรื่อยๆ
เพราะยังคิดว่าเดี๋ยวก็ขึ้นต่อ
( Break สามเหลี่ยมขึ้น )
เม่า : ติดดอยและปิดจอปิดคอมเลิกรับรู้ เพราะกูรูว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้ บางคนก็พยายามถัวสู้
เจ้า : ยังทยอยขายกดราคาลงมาเรื่อยๆ
คนเทรดเป็น : ถ้าตั้ง trailing stop ก็น่าจะต้องออกหมดแล้ว และต้องนั่งเฉยๆ
Nov 2018 -May 2019 ( CAPITULATION - SELLING CLIMAX + ACCUMULATION )
กลายเป็นว่า แทนที่จะ Break ขึ้น
กลายเป็น Break ลงแทน
ตอนนี้ ทุกคนกลัวกันหมด
มองลงกันหมด
มองว่าจะลงไป 800 บ้าง
หรือไร้ค่าบ้าง
เม่าที่ดอยมาตั้งแต่ยอด
ก็ตกใจ ขายทิ้งหมด
และก่นด่าคริปโตว่าตลาดเหี้ย
มีแต่เจ้าคุม
แต่ไม่เคยถามตัวเองเลยว่า
ตอนมึงซื้อ มึงก็กดซื้อเองกับมือ
ไม่มีใครมาจับมือให้ซื้อซะหน่อย
เม่า : ตกใจ โยนผ้าขาว ยอมแพ้ที่ -80% ถึง -90%
เจ้า : ทยอยซื้อตามแนวรับ fibo
คนเทรดเป็น : รอสัญญาณกลับตัว ตามแนว fibo แล้วค่อยซื้อ
Apr 2019- June 2019 ( MARK UP )
ช่วงนี้เม่าเก่าๆ จะเลิกสนใจ
โดยเฉพาะเม่าปี 2018
ที่ออกจากตลาดไปหมดแล้ว
ส่วนกูรูเองก็ยังไม่เชื่อว่าการขึ้นครั้งนี้จะขึ้นไปได้จริง
หรือขึ้นไปได้ไกล
และดัก short ใส่ทุกครั้งที่ดีดขึ้นมา
แต่ก็โดนลากขึ้นไปเรื่อยๆ..
สื่อหลักก็ยังไม่ออก เม่าใหม่ๆ ก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่
เม่า : เม่าเก่าๆ บอก เฮะ เดี๋ยวมันก็ลง เม่าใหม่ๆ ยังไม่รู้เพราะสื่อยังไม่ออก
เจ้า : ลากราคาขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเอาศพหมี พวกสวนเทรน เป็นบันได
คนเทรดเป็น : นั่งเฉยๆ รอกราฟเสียทรงขาขึ้น
ปลาย June 2019 ( BUYING CLIMAX )
หลังจาก BTC แตะ 10k เท่านั้นแหละ
สื่อทั่วโลกก็ฉายไฟมาที่ BTC
นักวิแคะก็ออกมาบอกว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้
และอยู่ๆ ทุกคนก็อยากซื้อ BTC กันขึ้นมา
ไปขุดเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อกัน
เพราะคิดง่ายๆ ว่า ถ้ามันไปถึงแสน usd
เราก็รวยกันง่ายๆ เลย
เม่า : เม่าเก่าๆ เริ่มหันกลับมาซื้อบ้าง เพราะไม่ได้เรียนรู้ห่าอะไรจากการดอย เม่าใหม่ๆ เข้าซื้อตามสื่อตามกระแส
เจ้า : ขายใส่หน้าเม่า เพราะ ขายง่าย มีแต่คนอยากซื้อ
คนเทรดเป็น : ขายเพื่อ lock กำไร และรอสัญญาณให้ออก trailing stop
July 2019 - ปัจจุบัน ( MARK DOWN )
หลังจากไปแตะยอด 14k
และเจอแท่งวีคแบบ
Shooting star หางยาวเฟื้อย..
BTC ก็จบการขึ้นแต่เพียงแค่นั้น
แต่คนส่วนใหญ่ ก็ยังมีหวังกันอยู่
ยังมองว่า "เดี๋ยวก็ขึ้นน่า"
ใครมีตังเหลือ ก็ถัวสู้กันไป
เพราะปีหน้ามี halving และสื่อบอกว่า
จะไปเท่านั้นเท่านี้ โอ้ว เราจะรวยง่ายๆ กันแล้ว
เม่า : ติดดอยและปิดจอปิดคอมเลิกรับรู้ เพราะกูรูว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้ บางคนก็พยายามถัวสู้
เจ้า : ยังทยอยขายกดราคาลงมาเรื่อยๆ
คนเทรดเป็น : ถ้าตั้ง trailing stop ก็น่าจะต้องออกหมดแล้ว และต้องนั่งเฉยๆ
Bottom? 2020? ( รอ SELLING CLIMAX + ACCUMULATION รอบใหม่ )
จะเห็นได้ว่า ในวัฏจักรตลาดรอบนี้
เรายังขาด สิ่งที่เรียกว่า
"แท่งเม่ายอมแพ้"
นั่นคือ ทุกคนมองลงกันหมด
ไม่มีใครกล้าซื้อ แม้ราคาจะถูกแสนถูก
ปัญหาตอนนี้คือ แท่งที่ว่าเนี่ย
จะมาอยู่ที่ราคาเท่าไหร่..?
ไม่มีใครรู้ ได้แต่รอให้กราฟเฉลยอย่างเดียว...
เม่า : ยอมแพ้ และขาดทุนยับ -80% ++
เจ้า : ทยอยซื้อตามแนว fibo
คนเทรดเป็น : ทยอยซื้อตามแนว fibo
ผมเชื่อในวัฏจักรนี้ และผมมองว่า มันจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ดังนั้น ถ้าคุณอ่านจนถึงบรรทัดนี้ได้ ผมก็ยินดีด้วย
เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้อัพเกรดตัวเองขึ้นมาอีกขั้น
ก็ลองพิจารณากันดูนะครับ ว่าเราจะมีแผนอย่างไรบ้าง
ถ้าราคามันร่วงหนักจริง ..
อย่าลืมนะครับ ตลาดมันชอบทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่คิดเสมอ
ขอให้โชคดีครับ
BTC ราคาร่วงลงมาแนว 20000 - 21500BTC ราคา ดิ่งทะลุ 20,000 ดอลลาร์ นักลงทุนผวา Silvergate, เฟด และ SEC เหรียญ Bitcoin ได้ร่วงลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงดึกของวันพฤหัสบดี โดยปิดที่จุดต่ำสุดที่ 19,797 ดอลลาร์ในเวลาประมาณ 02.00 น. นี่เป็นการร่วงลงที่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมในขณะที่เขียนบทความนี้ BTC/USD กำลังพยายามพุ่งขึ้นเหนือระดับทางจิตวิทยาที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 20,100 ดอลลาร์ ลดลง 7.5% จากเมื่อวานนี้ และเกือบ 11% ในช่วงหนึ่งสัปดาห์
การล่มสลายของธนาคาร Silvergate เขย่าขวัญกำลังใจของนักเทรด Bitcoin อีกครั้ง อย่างที่เห็น Bitcoin ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายอย่างในสัปดาห์นี้ เริ่มต้นจากการยุตติกิจการของธนาคารคริปโต Silvergate ซึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการในเย็นวันพุธบริษัทได้ประกาศความตั้งใจจริงที่จะยุติการดำเนินงานและเลิกกิจการโดยสมัครใจกับบริษัทในเครือ อย่างธนาคาร Silvergate ซึ่งเป็นผู้ให้กู้ที่เป็นมิตรกับตลาดสกุลเงินดิจิตอล หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่บริษัทยื่นเรื่องตามกฎระเบียบ หุ้นของ Silvergate ร่วงลงมากกว่า 42% ในช่วงเซสชั่นเมื่อวาน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการขาดทุนเพิ่มเติมของ Bitcoin จากสัปดาห์ที่แล้วเมื่อ Silvergate ประกาศเลื่อนการส่งรายงานประจำปีไปยัง SEC ซึ่งทำให้เกิดการลดลงมากกว่า 57% ของการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีจุดสำคัญคือ Bitcoin ร่วงลงอย่างรวดเร็วถึง 6 % ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง นอกเหนือจากข้อกังวลเกี่ยวกับ Silvergate แล้ว Bitcoin และสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ ยังได้รับผลกระทบอย่างมากจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
คำแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ หัวหน้าเฟดต่อหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดเดิมพันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน สำหรับการประชุม FOMC ครั้งต่อไปในวันที่ 22 มีนาคม เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยเฟด ของ investing.com ในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังกำหนดราคาในโอกาสประมาณ 64% สำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 50 จุดพื้นฐานนี้ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ Bitcoin แข็งแกร่งขึ้นในช่วงต้นปี แต่เมื่อเห็นว่าจะมีการเข้มงวดทางการเงินต่อไปและยาวนานกว่าที่คาดไว้ส่งผลให้สกุลเงินดิจิตอลปรับลดลง สุดท้ายแล้วเราจะสังเกตเห็นแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก ก.ล.ต. และรัฐบาลต่อหลาย ๆ ส่วนของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิตอลนี้
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
25500 แนวต้าน
24500แนวต้าน
22500 แนวต้าน
21500 แนวต้าน
20500 แนวรับ
19500 แนวรับ
18500 แนวรับ
ความคิดเห็นเชิงเทคนิค
ดูจากกราฟ ราคาวิ่งในโซนไซด์เวย์ ซึ่งมีแนวกรอบเป็นโซนไซด์เวย์กว้าง ทำให้ราคา ยังวิ่งเป็นกลาง ไม่เลือกทางที่ชัดเจน สามารถเล่นในกรอบไปก่อนได้ หรืออาจจะรอ ให้ราคาหลุดออกนอกกรอบแล้วรอเลือกทางที่ชัดเจน และให้รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 20000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 21500 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 20000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 18500 หรือตามแนวรับต้าน
BTC กำลังพุ่งสู่เป้าหมายใหม่ 25000BTC กำลังพุ่งสู่เป้าหมายใหม่ 25000
Bitcoin พุ่งทะยานขึ้นไปแตะ $23,000 ได้อีกครั้งในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 กรกฎาคมหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญอีกครั้ง Fed มองว่า “เหมาะสม” ที่จะยังเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหลังจากเดือนกรกฎาคม ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่ากราฟ BTC/USD
แนวรับ 22500
แนวรับ 22000
แนวต้าน 23000
แนวต้าน 23800
แนวต้าน 24250
แนวต้าน 25400
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
Trendline:
จากกราฟ ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากประกาศข่าว Fed โดยมีแนวต้านสูงสุดเบรคเอาไว้
ซึ่งเป็นกรอบเส้นเทรนไลน์เทรนหลักด้วย หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านนี้ไปได้ ขาขึ้น
จะกลับมามีลุ้นเป็นขาขึ้นระยะยาวอีกครั้ง แต่หากไม่ใช่ ยังต้องรอลุ้นการหลุดออกจากกรอบ
เส้นเทรนไลน์ย่อยก่อนจึงจะเลือกทางที่ชัดเจน ให้รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบ
และอย่าลืมตั้ง SL แต่ละกรอบโซนด้วย
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 23000 เข้าซื้อ(BUY) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 24200 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 22800 เข้าขาย(SELL) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 20500 หรือตามแนวรับต้าน
วิเคราะห์TimeFrame1D. BTC/USD 13/1/2565BTC มีแววดีว่าจะเกิดการกลับตัว เนื่องจากปัจจุบัน BTC ลงมาถึงแนวรับสำคัญที่กรอบ 41948 / 39199
เมื่อมาถึงแนวรับนี้เป็นไปได้ยากมากที่จะทะลุลงไปได้ ถ้าเกิดว่าไม่มีข่าวร้ายจาก Fed หรือ ข่าวเกี่ยวกับการเมืองที่จะส่งผลลบต่อตลาดหลักทรัพ กราฟก็คงจะไม่มีทางที่จะลงไปต่อได้
เพราะฉะนั้นสายถือยาวนี่อาจจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมมากๆสำหรับการเข้าซื้อ (´▽`ʃ♡ƪ)
Elliott wave by Eaw BTC เคย forecast ล่วงหน้า 3ปี ถูกมาลองท้ายดูElliott wave by Eaw BTC เคย forecast ล่วงหน้า 3ปี ถูกมาลองท้ายล่วงหน้าหลายๆ ปีจะถูกไหม
7 กุมภาพันธ์ 2561
19 กรกฏาคม 2562
EOSUSD ถ้าไม่ยอมขึ้นไปตาม BTC แล้วจะย่อไปถึงไหน?ราคาปัจจุบัน : 3.86$
แนวรับ 1 : 3$ ( -25% )
แนวรับ 2 : 2$ ( -44% )
* EOS เป็นอีกตัวที่ลากขึ้นมาเยอะ แต่ว่า ถ้า alt ถูก หลุมดำ BTC ดูด คนก็คงไม่รู้จะมาถือ EOS กันทำไมอ่ะนะ
* อนึ่ง เป็นเพียงการคาดการณ์ ในเคสว่ามันย่อเท่านั้น มันอาจจะไม่ย่อก็ได้ ใครจะไปรู้อนาคตวะ
* แต่ถ้ามันย่อ ก็จะมีแนวรับที่น่าสนใจตามที่ list โดยเป็นแนวรับ fibo แข็งๆ ทั้งนั้น
* ส่วนตัว มองว่า ถ้า altcoin ยังเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับ BTC เรื่อยๆ ก็คงจะเห็นการคงที่ของราคา usd หรือถ้าแย่กว่านั้นก็คือ ย่อลงไปเรื่อยๆ ครับ
* อย่าเหมารวมว่าผมเกลียด altcoin นะจ๊ะ ผมแค่มองไปตามกราฟเท่านั้น ถ้ามันขึ้นผมก็ยินดีจะขึ้นรถไปกะเข้าด้วยนะ ... แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้แน่นอนครับ
XBTวิเคราะห์ XBT (BTC/USD นั่นเอง แต่ xbt เอาไว้สำหรับเล่น มาร์จิ้น)
week
- หลังจาก btc อยู่ในสภาพ sideway down มาเป็นเวลา 1 ปี นับจากราคาสูงสุดกว่า 20,000$ จนกระทั่งตอนนี้ sto ob และกำลังปรับตัวลงสู่โซน os อีกครั้ง หากการลงครั้งนี้ ไม่หลุด low เดิมบริเวณ 3180$ เป้าการขึ้นครั้งต่อไป อย่างน้อยๆก็บริเวณ 31,000$ แต่จากประวัติศาสตร์ หากเป็นขาขึ้นในแต่ละรอบ จะขึ้นไปเกินเป้าแรกเสมอๆ ซึ่งก็ราวๆ 100,000$ นู่นแหละ ก็ต้องรอดูการปรับฐานกันต่อไป
day
- ในตอนนี้อยู่สภาพ sideway down โดยยังไม่สามารถทำ high หลังจากเด้งขึ้นมาได้ ซึ่งกำลังเป็นภาพที่ดี หากไม่ลงไปหลุด 9400 และ 9050
- หากสร้างฐานราคาใหม่บริเวณนี้ได้ เป้าการขึ้นจะอยู่ที่ 13800 โดย ต้องทะลุ 12400 ให้ได้ก่อน
4h
- ต้องไม่ให้หลุด 9468 หากหลุด จะมีแนวรับถัดไปที่ 9050 บริเวณนั้น
- ซึ่งถ้าหากหลุด 9468 ไป โซน 9050 จะเป็นแนวรับที่แข็งพอสมควร เพราะเป็นเป้าการลงหลุดของ 4h และ เป็นแนวรับของการกลับตัวรอบก่อน
- และ หากลงไปบริเวณ 9050 rsi ตอนนี้ก็จะเกิดเป็น bull div ที่ชัดเจนสำหรับ tf 4h
-กรณีหลุดหมดทั้ง 9050 ก็จะเข้าสู่การลง ชัดเจน โดยมีเป้าการลงบริเวณ 8400 และ 7300
1h
- 1h ตอนนี้เป็นขาลงอยู่
- ต้องลงไปยืนเหนือ 9856.5 ให้ได้ภายในวันนี้ช่วงบ่ายๆ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 9986-9974 (เป็นเพียวแนวกรอบขาขึ้นระยะสั้น)
-หากยังหลุดอีก ให้ดู 9780-9700 น่าจะมีการเด้งเกิดขึ้นที่แนวนี้
สรุป
- ต้องรอ 1h ฟอร์มตัวให้ได้อย่างชัดเจน เพราะตอนนี้ 2h 4h ยังไม่เสียทรงการขึ้น
- หากทุกอย่าง os ทั้งหมดเช่นนี้ แล้วค่อยๆไล่การฟอร์มตัวได้ใน tf เล็ก การขึ้น จะทรงพลัง อย่างน้อยที่สุดก็กลับไปเทส 10900 และ 11200 ในเบื้องต้น
บ้าย.
ฝากกดไลค์ กดติดตาม เพจของผมได้ที่ fb : วันๆบายนายกุ๊ด
ขอบคุณครับ
SHIBA/USDการวิเคราะห์ประจำวัน 27/7/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ $23,000 อย่างรุนแรงหลัง Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด
ราคาของ Bitcoin พุ่งทะยานขึ้นไปแตะ $23,000 ได้อีกครั้งในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 กรกฎาคมหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญอีกครั้ง Fed มองว่า “เหมาะสม” ที่จะยังเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหลังจากเดือนกรกฎาคม ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่ากราฟ BTC/USD
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ:
0.00001291 แนวต้าน
0.00001240 แนวต้าน
0.00000989 แนวรับ
0.00000949 แนวรับ
SIGNAL:
SELL: ณ ราคาปัจจุบัน(รอกราฟวิ่งไปชนเทรนไลน์)
TP: แนะนำ! ไม่ควรเกิน 20%
SL: แนะนำ! ไม่ควรเกิน 30%
เหตุผลในการเข้าเทรดในครั้งนี้:
1. เทรดตามข่าว
2.กราฟวิ่งไปเจอเทรนไลน์มีโอกาสกลับตัวลง
3.อยู่ในช่วงไซด์เวย์กราฟมีโอกาสขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
!การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน!
หากบทความหรือบทวิเคราะห์นี้เป็นประโยชน์ต่อตัวท่าน
รบกวนช่วยกดติดตามและกดไลค์เพื่อนเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานครับผมมม
SHIBA/USDการวิเคราะห์ประจำวัน 12/6/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
Bitcoin กำลังจะปิดกราฟแท่งรายสัปดาห์ที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2020
ราคาของ Bitcoin จำเป็นต้องยืนเหนือ 29,500 ดอลลาร์ เพื่อไม่ให้ปิดแท่งรายสัปดาห์ในระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2020 โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากอัตราเงินเฟ้อ ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมาถึงจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลว ข้อมูลจาก TradingView พบว่า BTC/USD ร่วงถึงจุดต่ำสุดที่ 28,528
🙏Cr. siamblockchain By Tharadon
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
0.00001013 แนวต้าน
0.00000971 แนวต้าน
0.00000910 แนวรับ
0.00000861 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI กำลังขึ้นไปทดสอบโซน 50
ราคาได้มีการเทขายอย่างรุนแรงจนราคาหลุดแนว 0.00001000 และลงมาต่อเหนือนจนทดสอบแนว 0.0000910 และมีแนวโน้มที่จะลงไปทดสอบแนว 0.0000861 ซึ่งเป็นที่มีนัยยะสูง
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
++รอให้ราคาขึ้นไป retest แนว 0.00000971 มีสัญญาณในการลงต่อ บริเวณแนว ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 เก็บสั้น โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 0.000001042 sl สั้น กำไรประมาณ 0.00000972
++รอให้ราคาทดสอบแนว 0.00000861 มีสัญญาณในการกลับตัว ให้หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 เก็บสั้น โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 0.00000831 sl สั้น กำไรประมาณ 0.00000910
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
