วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ 1.7 ดอลลาร์เหตุจากการแข็งค่าของดอลลาร์และกังวลเฟดลด QE/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,755.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และการแข็งค่าของดอลลาร์นั้นก็กดดันให้กับทองคำปรับตัวต่ำลงมา ซึ่งกระแสดังกล่าวมาจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินงบประมาณในโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือนก.ย.ก็ตาม ซึ่งนักลงทุนก็ต้องเฝ้าติดตามเรื่องของรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำเดือนก.ย. ในวันพุธนี้ตามเวลาของสหรัฐ หรือเช้ามืดวันพฤหัสฯ ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งในรายงานดังกล่าวนั้น อาจเป็นสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดวงเงิน QE หรือ การปรับดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
----------------------------------------------------
ภาพรวมทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวต่ำ โดยหากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจเห็นการปรับขึ้นของทองคำได้ในระยะสั้น สำหรับกรอบระยะสั้นจะอยู่ระหว่าง 1,752-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวดังกล่าวอาจพอมีจังหวะให้หาจังหวะทำกำไรระยะสั้นได้ แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการเทขายทองคำสลับออกมา ประเมินแนวรับที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Indicator technical trading
------------------------------------
Indicator : True RSI
สำหรับอินดี้ที่ใช้เป็น True RSI พิจารณาในกรอบรายสัปดาห์จะเห็นได้ว่าเส้น SMA20 ได้ปรับฐานเข้าโซน SELL ระหว่าง 50-30 จึงควรให้น้ำหนักการวางแผนไปทางฝั่ง Sell เป็นหลัก เนื่องจากกรอบราคาใน TF WEEK เรายังเห็นการเคลื่อนไหวลงต่ำในกรอบสามเหลี่ยม ประเมินเป้าหมายการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไว้ที่ 1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับ TF DAILY นั้น True RSI เส้น SMA20 ยังอยู่ใน Zone Sell ระหว่าง 50-30 ยังคงแนะนำให้มองหาจังหวะการขายเป็นหลัก แม้เส้น RSI จะยกตัวขึ้นเหนือ SMA20 แต่ก็ต้องรอให้เส้นข้าม 50 ขึ้นไปก่อนและควรเป็นเส้นสีเขียวจึงจะมีโอกาสทำกำไรในทิศทางฝั่ง BUY ในระยะสั้นได้บ้าง แต่ไม่แนะนำในจังหวะสั้นๆ เพราะมันอาจทำให้เกิดการผิดพลาดจากการเทรดช่วงปรับฐานราคาระยะสั้นได้
สำหรับ TF H4 นั้น True RSI เส้น SMA20 เคลื่อนตัวลงต่ำทดสอบแนวบริเวณ 50 และเส้น RSI ปรับตัวขึ้นทดสอบเส้น SMA20 หากเส้น RSI ยังไม่สามารถข้ามเส้น SMA20 และระดับเส้น 50 ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้มองหาโอกาส Sell เป็นหลัก ไม่ควรเปิด BUY ที่เส้น RSI ยังอยู่ต่ำกว่า 50
============
Signal
============
SELL STOP : 1,759
---------------------
รอจังหวะที่ราคาปรับตัวต่ำกว่า 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้มองหาโอกาสในการเปิด “ขาย” แต่ไม่ควรเข้าเทรดที่จังหวะแรก ควรให้ราคาย้อนกลับมาที่บริเวณแนว 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบ หรือมีลักษณะของแท่ง Bullish ก่อน เมื่อราคากลับไปในทิศทางเดิมหรือเกิด Bearish อีกครั้งแต่ไม่สูงกว่า 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับขึ้ันสูงกว่า 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
BUY STOP : 1,769
----------------------
รอจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่ควรเข้าซื้อในจังหวะแรก ให้รอแท่ง bearish ก่อน หากเกิดแท่ง bearish แล้วไม่หลุดต่ำกว่าแนวเข้า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วมีการปรับขึ้นตามทิศทางเดิมอีกครั้งให้เสี่ยงเปิด “ซื้่อ” เหนือบริเวณ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
……………………………………………………………………………………………………………
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1767 / 1781 / 1795
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1735/ 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Nature
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,756.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 985.05 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -4.98 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "WWW.TRADINGVIEW.COM"
BANPU - Break แนวต้าน 10 ปี รอทดสอบก่อนไปต่อ
ตอนนี้ราคาได้ทะลุแนวต้านตั้งแต่ยอด all time high ปี 2011 มาแล้ว
แต่ติดแนวต้าน 50% fibonacci ที่ 16.5-16.6
อาจจะมี hard retest ลงไปหา trend line อีกรอบ
หากลงแรง มีแนวรับบริเวณ 14.5-14.8
ราคาถ่านหินเป็นตัวสนับสนุนราคาหุ้น
ตอนนี้ราคาถ่านหินอยู่ที่ 130 USD
ใน Q1 2021 ราคาขายถ่านหินของบ้านปูปรับขึ้นมาเกือบ 70 usd เทียบกับ 40-50 usd ในปี 2020 ทำให้มี EBITDA เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาบ้านปูได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นน้อย เพราะได้ทำการกำหนดราคาไว้ คิดเป็นกว่า 70% ของปริมาณการขายทั้งหมด
แต่ในปี 2021 บ้านปูได้เปลี่ยนแผน มากำหนดราคาล่วงหน้าไว้แค่ 20-30% คาดว่างบของ Q2 2021 เป็นต้นไป จะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เพราะจะขายราคาอิง spot price มากขึ้น
ราคาถ่านหินเองน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก demand ของจีนที่เพิ่มขึ้น และจีนยังมีปัญหาด้าน supply shortage จากปัญหากับออสเตรเลีย
ราคา Natural Gas
ใน Q2 ราคา NatGas อยู่บริเวณ 2.8-3 usd จากผลการดำเนินงาน Q1 2021 ก็เห็นแล้วว่ามีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มเข้ามามาก และแนวโน้มของ NatGas ในปีนี้เป็นขาขึ้น
โดยในระยะเวลาไม่นาน อาจจะไปได้ถึง 4 usd
คาดว่ารายได้ของบ้านปูจะดีขึ้นต่อเนื่องในปี2021 นี้
เมื่อบ้านปูทะลุ 50% fib ที่ 16.5-16.6 ขึ้นไปได้ แนวต้านที่อาจจะทำให้ย่อลงมา คือบริเวณ 18.6 ที่เป็น high ปี 1996 และยังเป็นจุดที่เส้น VWAP 3 เส้นมาบรรจบกันพอดี
อย่างไรก้ตาม คิดว่าทุกการย่อ เป็นโอกาสในการซื้อสะสมครับ
ทางเทคนิค
ตอนนี้ คิดว่าตรง Covid-19 low น่าจะเป็นเวฟ 2 ที่ลงไป 0.618% ของเวฟ 1
และตอนนี้ อาจจะกำลังขึ้นเวฟ 3 หรือ ไม่ก็ COV19 low เป็นขา A และตอนนี้กำลังขึ้น B ของเวฟ 2 ก้ได้
คงต้องตามดูไปก่อน
หากเป็นเวฟ 3 จริงๆ แนวรับและแนวต้านคงจะต้องยึดตามนี้
โดยมีเป้าแรกของปีนี้ที่ 23 บาท 28 บาท และ 35 บาท
คงต้องดูทางเทคนิคประกอบกับพื้นฐานควบคู่กันไปด้วยครับ
พยากรณ์ทองคำ (03/03/2021) - เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งตซื้อหรือขาย? ไม่ชัดเจนแค่ลงมือทำเมื่อถึงเวลา ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ จะมีราคาที่ปลอดภัยสำหรับเราในการใช้เงินของเรา ในบทความนี้ฉันจะเขียน 3 ส่วน: (1) สรุปของเดือนกุมภาพันธ์ (2) เตรียมคำสั่งซื้อระยะยาวและ (3) คำสั่งซื้อระยะสั้น
สรุปคำสั่งซื้อขายทองคำเดือนก. พ
คำสั่งซื้อ 1: ขายที่ 1845-1840, TP 177x.
คำสั่งซื้อ 2: ซื้อจาก 176x, TP 181x. ฉันไม่ได้ป้อนคำสั่งซื้อนี้
คำสั่งที่ 3: ขายตั้งแต่ 182x หรือขายทันทีเมื่อราคาทรุดลงที่ 1760 สำหรับฉันนี่ไม่ถือเป็นการสั่งซื้อเพราะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่บางท่านเข้ามาแล้วผมจึงนับเป็นลำดับที่สาม
โซนราคาดีที่น่าจับตามองในตอนนี้
ขาย: 176x.
ซื้อ: ต่ำกว่า 1,700 ถึง 167x.
แบ่งเวลาซื้อ ตัวอย่างเช่นเมื่อราคาลงไปที่ 1700 ให้ซื้อเพียงเล็กน้อย เมื่อมันตกลงมาที่ 168x ให้ซื้ออีกครั้งและสุดท้ายซื้อที่ 1678 ถ้าราคาตีกลับเราโดนแจ๊คพอต ถ้ามันยุบเรากด SL - ปิดตำแหน่ง
ฉันและคุณอาจต้องใช้เวลาในการเข้าสู่ตำแหน่งข้างต้น แต่เงินทำตั้งแต่ช่วงที่เราเริ่มรอจนกว่าจะเข้าสู่ตำแหน่ง หลังจากนั้นรอคำตอบจากตลาด
ฉันสามารถรอหนึ่งเดือนเพื่อสั่งซื้อหนึ่งคำสั่งซื้อ ไม่เป็นไร! ความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และเมื่อเข้ามาแล้วระดับ TP จะต้องใหญ่พอ
USDindex
หากดอลลาร์ตรงไปที่ 92.00 ตามที่ฉันคาดการณ์ไว้อาจเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะลดลงต่ำกว่า 1700
วันซื้อขายตำแหน่ง
ตามคำเรียกร้องของบางคนที่ชอบเล่นเซิร์ฟผมให้ 2 ตำแหน่ง หากถูกต้องป้อนการซื้อขาย ถ้าไม่เช่นนั้นให้หยุด
คำสั่งซื้อที่ 1: ซื้อ - ต่ำกว่า 1720 - โอกาสที่จะชนะ 30% ที่นี่มีโซนรองรับ เมื่อราคาผันผวนหาจุดเข้าที่ปลอดภัยเพื่อเข้า TP ขึ้นอยู่กับคุณ - SL ที่ 1705
คำสั่งซื้อ 2: ขาย - มีโอกาสชนะมากกว่า 176 เท่า - 70% ขาลง + โซนแนวต้าน = ขาย SL อยู่ไกลนิดหน่อย (200 - 300 pips)
SET - น่าจะใกล้เวลากลับตัวขึ้นต่อ
ตอนนี้คิดว่า SET อาจจะย่อตัวในลักษณะ expanded flat เป็นเวฟ 2 ย่อยของเวฟ 3 เพื่อขึ้นต่อ
ตอนนี้ คิดว่าถ้าไม่หลุดเส้นสีแดงลงมา น่าจะไม่เสียทรงขาขึ้น
ปัจจัยสนับสนุนมุมมอง + ต่อ SET
USD vs THB ที่ดูแล้วเพิ่งจบ 3 เหลี่ยมและ USD น่าจะลงต่อ
โดยที่ผ่านมา USD ที่ rally จะส่งผลลบต่อหุ้น Emerging market ทั้งหมดรวมถึงไทยด้วย
USD VS EEM
USD VS SET
จะเห็นว่าวิ่งตรงข้ามกันเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะตอน COVID-19 low ที่ dollar ได้ top out และSET ได้ปรับตัวขึ้นตั้งแต่นั้นมา
หากดูจาก USD/THB ที่เป็นทรงสามเหลี่ยม เชื่อว่า USD พร้อมจะปรับตัวลงต่อ เป็นผลดีกับ SET และตลาด risk asset อื่นๆ
หาก USDTHB ส่งสัญญาณว่า USD จะอ่อนค่าอีกจริง และ SET จะขึ้นต่อ
โดยมีแนวต้านเป็น trend line ที่กดทับมาจาก all time high เดิม แถว 1620
หากผ่านได้ เชื่อว่าจะขึ้นไปทดสอบ all time high เดิมครับ
GOLD - 2 Scenario and narratives
ทองคำ ตอนนี้อยู่ใน sideway ขาลงระยะสั้น(?)
ปัจจัยด้านพื้นฐานมี 2 scenario และ 2 narratives
1. Bullish ต่อทอง- หากวัคซีนไม่ได้ผลหรือมีข้อจำกัดใดๆ COVID ยังอยู่ มีโอกาส lockdown ทำให้ต้องมี stimulus package ออกมา เงินอาจจะเฟ้อ หุ้นจะร่วง และทองจะขึ้น
กรณีนี้ ลักษณะของกราฟคาดว่าจะเป็นแบบนี้
คือจะเหลือขาขึ้นไปแถว 22xx อีก1 ครั้ง โดนก่อนจะไป ควรย่อลงอีกครั้งนึง มาแถว 1780 +-20
โดยไม่ควรละเมิดเส้นสีน้ำเงินที่ และห้ามละเมิดเส้นสีเหลือง
2. Bearish ต่อทอง - หากมี Vaccine = โอกาสที่จะจัดการ COVID ได้ และ no lockdown อาจจะทำให้ไม่จำเป็นต้องมี stimulus package จากรัฐบาล
กรณีนี้ หุ้นจะขึ้น และทอง อาจจะลง
ภาพอาจจะออกมาเป็นแบบนี้ และตอนนี้เราอาจจะกำลังต้องย่อลงไปลึก อาจแถว 1300 หรือต่ำกว่าสำหรับกรณีนี้
โดยที่ กราฟทั้งหมดอาจเป็น expanded flat
ใน timeframe ย่อยลงมา
ราคาลงมาลักษณะ 3 wave มาตลอด ซึ่งยังตัดสินไม่ได้ว่าจะเกิด กรณีที่ 1 หรือ 2 โดยที่ zone สีเหลือ 1780-1700 จะเป็นโซนที่ต้องคอยจับตา
แผนการเทรด หากราคาลงมาแถว 1780-50 แล้วหยุด ควรจะ "ซื้อ" เพื่อลุ้นกับ scene bullish ว่ายังเหลือขาขึ้นไปถึง 22xx
แล้วหากกราฟทำท่าไม่ดี ค่อยออก
หรือถ้าลงมารวดเดียวทะลุ 1700 เลย จะนึกถึง bearish scene มากขึ้น
สำหรับตอนนี้ หากราคาไม่ทะลุ ยอด 1900 ในวงกลม
เชื่อว่าจะลงมา
แต่หากทะลุขึ้นไป เดี๋ยวดูอีกครั้งครับ
Bitcoin, Gold, Dow Jones, Nasdaq, SET ระบบแดงหมด = "ถือเงินสด" เนื่องจากระบบ Trend Following ที่ผมใช้ track กลยุทธ ต่างๆ ในห้อง VIP ตอนนี้ "แดง" หมด
ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ใดๆ .. ซึ่งดูแล้วก็น่ากลัวจริงๆ ครับ
ลองมาดูว่า เป็นไงกันบ้าง
Bitcoin
-----------
* แดงหมดทั้งสามระบบ
* รวมถึง Altcoins อื่นๆ ก็แดงหมดด้วยเช่นกัน
Gold
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
SET
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
Dow Jones
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
Nasdaq
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
S&P500
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
สำหรับคนที่ถือหุ้นถือ Bitcoin ถือทองเยอะเกินไป ก็อาจจะต้องลดความเสี่ยงโดยการออกมาถือเงินสดบ้าง
เพราะเราไม่รู้อนาคตเลยว่า มันจะลงไปลึกถึงแค่ไหนนั่นเองครับ
BTCUSD : Hash Ribbons มีสัญญาณ "ขาย" ที่ราคา 8723จากบทความที่มีคนเคยมองว่า Hash Ribbons ตัดกันลง ก็จะเป็นสัญญาณขาย ที่น่าสนใจ
ผมก็เลยลองมานั่งไล่ดู ว่า ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา
การตัดกันของ hash ribbons จะมีผลต่อราคามากน้อยแค่ไหน ตามนี้ ( Backtest ด้วยตา )
Sell Signal : 30 Jul 16
ราคาร่วงจาก 622 ลงไปต่ำสุด 461 ( -26% )
Buy Signal : 22 Aug 16
ราคาเข้าซื้อที่ 585
Sell Signal : 30 Oct 18
ราคาขายที่ 6271
ได้กำไรจากรอบก่อน 585 -> 6271 = 971%
หลังจากมีสัญญาณขาย ราคาร่วงไปจุดต่ำสุดที่ 3100
ร่วงลงไป -50%
Buy Signal : 11 Jan 19
ราคาซื้อ 3612
Sell Signal : 21 Nov 19
ราคาขาย 7601
ได้กำไรจากรอบก่อน 3612->7601 = 110%
หลังจากนั้นร่วงลงไปที่ 6399 ( -15.8% )
Buy Signal : 22 Dec 19
ราคาซื้อ 7482
Sell Signal : 20 Mar 20
ราคาขาย 6202
ขาดทุนจากรอบก่อน 7482 -> 6202 = -17%
เป็นครั้งแรกที่ขาดทุนจากการ cross down ของ hash ribbon
และราคาร่วงก่อนที่จะ ribbon cross
Buy Signal : 25 Apr 20
ราคาซื้อ 7561 เป็นครั้งแรกที่ราคาซื้อ สูงกว่าราคาขายคราวก่อน
( ซึ่งรอบนี้ก็อย่างที่เห็นว่า เป็นสัญญาณขายที่ขาดทุนครั้งแรก )
Sell Signal : 25 May 20
ราคาขาย 8723
ได้กำไร 7561->8723 = 15%
สรุป
-----
เนื่องจากผล Backtest ที่มีข้อมูลค่อนข้างน้อย ทำให้ การมาบอกว่า hash ribbon strategy จะสามารถบ่งบอกเทรนได้อย่างชัดเจน อาจจะเป็นเรื่องที่สรุปอย่างชัดเจนไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละ เนื่องจาก ทรงกราฟเอง ก็เป็นการหลุดเทรนไลน์ใหญ่ เข้ามาเสริมด้วย
การที่จะหนีออกมาดูลาดเลาข้างสนาม ก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ
สำหรับมือใหม่ ที่เข้าไปที่ยอด แล้วกำลังถัวเฉลี่ยขาดทุนอยู่ ก็ดูซ้ายดูขวา ดีๆ นะครับ
เพราะถ้าเกิดรอบนี้เราเจอ deep correction แรงๆ
ผมรับประกันเลยว่า mindset และสติคุณจะเสียหมดเลยครับ
และคุณจะลน จนทำให้การตัดสินใจผิดพลาดไปหมด ...
ระวังนะครับ
ตลาด มันไม่ง่าย มันมีช่วงที่แจกตังล่อเม่า และช่วงริบกำไรคืน เสมอ ครับ
มันไม่มีขึ้นตลอดไปหรอกครับ มันก็มีลง แรงๆ ด้วยเช่นกัน
คิดถึงความเสี่ยง ก่อนกำไร เสมอนะครับ
BTCUSD : MACD Weekly กำลังจะตัดเส้น 0 ขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 8 ปีจากกราฟเลยครับ
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งแรก
11 มิ.ย. 2012
ตอนนั้นราคา 6.18$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครัั้งที่สอง ( False Signal ขึ้นหลอกแล้วลงต่อ )
2 มิ.ย. 2014
ตอนนั้นราคา 658$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่สาม
2 พ.ย. 2015
ตอนนั้นราคา 374$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่สี่
6 พ.ค. 2019
ตอนนั้นราคา 7000$
MACD Weekly กำลังจะตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่ห้า
10 ก.พ. 2020
น่าจะอยู่แถวๆ ราคา 9800-10,000?
จะเห็นได้ว่า ในสัปดาห์หน้านี้ เราน่าจะมีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น
ระดับความแม่นยำสูงมาก และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เพราะการที่ MACD จะตัดเส้นศูนย์ขึ้นมาได้นั้น
ตลอดช่วงอายุของ BTC มันขึ้นมาได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้นเอง
ในเวลา 8 ปี .. และเจอสัญญาณหลอกไป 1 ครั้ง
ดังนั้น Win Rate ก็จะอยู่ที่ 75% ครับ
จริงๆ สัปดาห์นี้เราจะเห็นเส้นของ MACD เส้นนึง วิ่งขึ้นมาเหนือเส้นศูนย์แล้วด้วยซ้ำ ( เส้นสีฟ้า )
แต่ถ้าจะเป็นการ confirm จริง ก็คือ ทั้งสองเส้น ต้องวิ่งขึ้นมาเหนือเส้น 0 ครับ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ารอ confirm ระดับ weekly แล้วค่อยเข้า มันก็จะค่อนข้างช้าพอสมควร
เพราะรอบก่อน ถ้าไปรอสัญญาณ weekly กว่าจะได้เข้าก็ปาเข้าไป 7000 โน่นแล้วครับ
จริงๆ สัญญาณ Daily หลายๆ Trend Following มันก็บอกให้เข้าซื้อมาตั้งนานแล้วนะ บางตัวตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. 2019 แล้วด้วยซ้ำ
ก็ลองพิจารณากันดูครับ เหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
และถ้าเกิดแล้ว ก็ไม่ควรมองผ่าน และ Bias ลงจนไม่กล้าเข้านะครับ
เอาจริงๆ เหตุการณ์ MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
มันเคยเกิดกับกราฟทอง ช่วงราคา 1280 ช่วง ธ.ค. 2018 แล้วด้วยซ้ำครับ
แต่ตอนนั้นผมมัวแต่ลังเลๆ เลยไม่ได้เข้าซื้อ
มานึกอีกทีก็เสียดายเหมือนกันครับ 555 แต่ว่า ตอนนั้นก็ไปเข้า BTC แทนน่ะ
BAY - อยู่บนแนวรับสำคัญ มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
จากภาพ คิดว่าเราวางบนแนวรับที่สำคัญ ถ้าลองนับเวฟ
ตอน 97 ชนเป้าของเวฟ 3 ย่อยไปแล้ว และมีขนาดเป็น 1.618 เท่าของ เวฟ 1-2 ใหญ่
ถ้านับเวฟถูก ราคา 27.5 คือต่ำสุดของรอบนี้แล้ว และตอนนี้ควรจะเริ่มกลับไปทดสอบ 118 all time high เดิม
กราฟสัปดาห์
ก่อนหน้านี้ลงมาทดสอบ 27.5 มีสัญญาณซื้อ และได้พุ่งขึ้นไป 5 wave ก่อนจะลงมา a-b-c เจอแนวรับที่ 29 บาท และดูท่าจะยืนได้
กราฟวัน ยังอยู่ใต้แนวต้านอยู่
แต่สัญญาณกลับตัวเริ่มมีมา
คิดว่าถ้า 29 ยืนได้ น่าจะพุ่งขึ้นไปไกล
จุดเข้าแบบ conservative คือ ถ้าเบรกทะลุ 31 บาทและยืนได้
หลุด 27.5 บาทจะต้องcut loss เป้า all time high
Risk 7.5% reward 400+%
Beauty บทวิเคราะห์วิเคราะห์ Beauty
Week
- ภาพรวมก่อนที่จะลงอย่างหนักหน่วง ได้เกิดสัญญาณ Bearish แล้ว
- การลงตามที่นับได้ แล้ววัดแต่ละ target ของ wave 2 ไป 3 ตรงตามหลักทุกประการ
- เกิดสัญญาณ Bullish div แล้ว แต่ยังลงไม่ถึง 2.84 ซึ่งเป็นราคาเป้าหมายว่าจะลงไปทำฐานแถวๆนั้น
- ลงลึกโซน Fibo .886 ลึกพอสมควรแล้ว
Day
- ไม่มีอะไรที่เด่นชัด เห็นแค่ Bull div
4 hr
- เป้าทำการลงก็ประมาณๆ 2.88-2.92
- เกิด Bull div
- STO rsi ที่ต่ำตม
สรุป
- รอให้ลงต่ออีกสักหน่อย
- เกิดสัญญาณกลับตัว แล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย
- แต่หากเข้าแถวๆ 2.88 ก็วาง stop ไว้ที่ low เดิม ที่ ประมาณ 1.58 บาท
EP08:Adaptive Systems.Trading Simple. VS IDEA Fibo Simple/SimpleFibo Simple/Simple ต้องกำหนดจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดให้ถูกต้องกันก่อน
Swing High และ Swing Low เป็นจุดสำคัญในกราฟราคาที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ใช้วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและหาสัญญาณการเทรด ซึ่งทั้งสองจุดสามารถอธิบายได้ดังนี้:
Swing High
เป็น จุดสูงสุด ใน ช่วงหนึ่งของกราฟราคา ที่เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือช่วงการแกว่งตัวขึ้นของราคา
บริเวณ Swing High จะมีราคาอยู่สูงกว่าราคาของแท่งเทียนก่อนหน้าและหลังจากนั้นอย่างน้อยสองแท่ง (ใน Timeframe เดียวกัน)
มักใช้เป็นแนวต้าน (Resistance) หรือจุดที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการกลับตัวของราคา (Reversal Point)
Swing Low
เป็น จุดต่ำสุด ใน ช่วงหนึ่งของกราฟราคา ที่เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาลง (Downtrend) หรือช่วงการแกว่งตัวลงของราคา
บริเวณ Swing Low จะมีราคาอยู่ต่ำกว่าราคาของแท่งเทียนก่อนหน้าและหลังจากนั้นอย่างน้อยสองแท่ง
มักใช้เป็นแนวรับ (Support) หรือจุดที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา (Reversal Point)
กำหนด
ผลลัพธ์ 1
ผลลัพธ์ 2
ผลลัพธ์ 3
อย่างง่ายๆครับ ส่วนการกำหนด fibo ไอเดียตามภาพ
วิเคราะห์อย่างง่ายๆคือจากที่ราคา Swing High ราคาได้ลงมาที่ Swing Low ตามรอบเทรนหรือราคาได้ทำ Swing High และ Swing Low ครบเงื่อนไขได้ตามรอบเทรนได้แล้ว แล้วราคาไม่ได้ลงหรือหลุด Swing Low จากนั้นราคาได้ยกขึ้นยืนเหนือรอบเทรนพร้อมไปพักตัวที่ เงื่อไนไขถัดไปให้ครบลูปขึ้นไปยังแนว Swing High เดิม และขึ้นไปยัง TP1 - TP2 - TP 3 ครบระบบครับ
ปัจจุบันทันด่วนราคาได้ทำ Swing High และ Swing Low ใหม่ได้เข้าเงื่อนไขเดิมสังเกตุภาพถัดไปครับ
วิเคราะห์กราฟ ทอง ประจำวันที่ 30/08/2023ในความเห็นส่วนตัว ราคาขึ้นมาสูงมาก ขึ้นพรวดพราด มาหยุดบริเวณแนวต้านสำคัญหลาย ๆ แนว
อยู่ใต้แนวต้าน เรารอ sell
อยู่เหนือแนวรับ เรารอ buy
ทะลุแนวได้ ต้านก็กลายเป็นรับ รับก็กลายเป็นต้าน
เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่แนะนำให้ทำตาม โปรดใช้วิจารณญาณ และวิเคราะห์ด้วยตัวของท่านเองนะครับ
ไม่ 5 ไป A
ก็ B ไป C
XAU/USD - น่าจะปรับตัวลงจากบริเวณใต้ 1824
ดูเหมือนตอนนี้มีโอกาสสูงที่ทองจะทำเวฟ B จบแล้ว
หากราคาไม่กลับไปเหนือ 1824 น่าจะปรับตัวลง
มี price action ที่ 1H ช่วยสนับสนุนไอเดีย
หากลงจริง
1) อาจจะปรับฐานแบบเป็น flat 5 wave
ในกรณีนี้ ต้องเห็นการปรับตัวลงแบบแรง และเร็ว
2) หรือ WXY 3 wave
ในกรณีนี้ ต้องเห็นการปรับตัวลงแบบเป็นสเต็ป ค่อยเป็นค่อยไป ลงทีละสั้นๆแล้วเด้งบ่อย ๆ
แนวรับตามแนวฟิโบ เมื่อถึงแต่ละแนวต้องมาดู wave count อีกทีว่าครบหรือไม่
SET index - อาจจะเจอก้นเหวแล้ว 18/7/2022
เมื่อพิจารณาว่าเส้นสีน้ำเงินเป็นแนวต้านของไฮเดิมปี 1995
ตอนนี้จะเห็นว่าราคากำลังอยู่บริเวณแนวต้านนี้อีกครั้ง
เมื่อพิจารณาจากราคาตั้งแต่ Covid-19 low มีความเป็นไปได้ว่า SET ได้ขึ้นมา 5 ขาแล้ว และตอนนี้อาจจะเป็น corrective move
ตอนนี้เหมือนว่าการปรับฐานเป็น double correction 2 ชุด โดยชุดสุดท้ายเป็น (Y) เป็น zigzag 5-3-5
เมื่อวัดความสัมพันธ์ของเวฟย่อยด้วย fibonacci พบว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าการปรับฐานเป็นรูปแบบ W-X-Y
จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคา ไม่ควรจะลงต่ำกว่า 1516 แล้ว
และหากราคาเจอเหวตรงนี้จริง เชื่อว่าจะไปเจอแนวต้านสำคัญอีกทีบริเวณกรอบสีเหลือง
XRP - มีแนวโน้มจะจบ combination ปรับฐานแล้ว
จากรูปทรงนี้ คิดว่า xrp ปรับฐานแบบ expanded flat ลงมาเป็นเวฟ w --> 3 wave
ขึ้นแบบ double zigzag ไปทำเวฟ x ---> 3 wave
และลงมา 5 wave เพิ่งจบเมื่อกี้ --> 5 wave
แสดงว่าทั้งหมดเป็น expanded flat 3-3-5
ตอนนี้คิดว่าปรับฐาน 5 wave สุดท้ายจบแล้ว
ทั้ง 5 wave ใหญ่และ 5 wave ใหญ่ ได้ทะลุ channel แล้ว
มีโอกาสที่การนับให้เป็น combination จะถูกต้อง
คิดว่าจะคอนเฟิร์มทั้งหมดถ้าผ่าน 0.94 ไปได้
หากไอเดียนี้ถูก ภาพใหญ่ระยะกลางจะเป็นแบบนี้
***************************************************************
ไอเดียมุมมองขาขึ้นนี้จะผิดเมื่อทะลุเส้นแดงที่ 0.64
พยากรณ์ทองคำ (13 มีนาคม 2564): อยู่ในแผนข้อควรจำ: เงินจะได้รับจากช่วงเวลาที่เราวิเคราะห์คาดการณ์และรอคอย ลองมองย้อนกลับไปและเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่จะมา
มุมมองโดยรวม: แผนภูมิรายสัปดาห์
1678 ถูกจัดทำขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้: การบรรจบกันของโซนอุปสงค์ - อุปทานก่อนหน้า + เส้นแนวโน้มรั้นของกราฟราคาทองคำมานานกว่า 2 ปี
คำสั่งซื้อนี้คุ้มค่ากับการเดิมพัน ไม่ว่าจะคุ้มทุนหรือชนะเล็กน้อย ... นี่อาจเป็นโซนล่างสุดของปี 2021
ฉันมีความมั่นใจมากเกินไปหรือไม่? อาจจะ ... แต่แต่ละคนก็มีมุมมองของตัวเอง ถูกหรือผิดจะตอบด้วยกำไร คุณทำเงินได้ - ตกลง - คุณพูดถูก คุณเสียเงิน - ผิด - หุบปาก - จะทำต่อ
3 สถานการณ์ราคาทองคำ: กราฟรายวัน
สถานการณ์ที่ 1: กลับไปที่โซน 173x - 174x แล้วตกลงมาอีกครั้ง (ความน่าจะเป็น: 30%)
มันคือการถอยลงมาสร้างก้นไม่ยุบและ "ถอยไปให้ไกล" ฉันคาดว่าราคาทองคำจะสร้างจุดต่ำสุดในโซน 1740-1700 จากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง - 1 BUY cycle จะปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ที่ 2: การปรับเล็กน้อยที่ 174x แล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 176x (ความน่าจะเป็น: 50%)
นี่คือคำสั่งซื้อ 1,000 pip ที่ฉันพูดถึงหลายครั้งก่อนหน้านี้ หากตลาดเป็นไปตามสถานการณ์นี้ขอแสดงความยินดีกับพวกเราทุกคน เราชนะอย่างสมบูรณ์!
สถานการณ์ที่ 3: ถอยกลับอย่างมากเป็น 168x (ความน่าจะเป็น: 20%)
ความเป็นไปได้นี้ต่ำ เพียงเพราะฉันกำลังวางคำสั่งซื้อและรอโอกาสที่จะซื้อเพิ่ม ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้ความน่าจะเป็นต่ำสำหรับสถานการณ์นี้
ดัชนี USD
DXY Forecast: ลดลงเหลือ 91,000
อัตนัย
เทรดเฉพาะเมื่อเรามีโซนที่ชนะและป้อนคำสั่งซื้อเมื่อความน่าจะเป็นในการชนะสูงพอ นี่คือสิ่งที่ฉันทำซ้ำหลายครั้งในแต่ละโพสต์ของฉัน
รอบนี้มาตรฐานมาก ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่า 1700 (โดยเฉพาะคำสั่งซื้อที่ 1678) ทำกำไร 2 เท่าที่โซน 171x และ 173x ถืออีก 1/3 ที่เหลือเพื่อสังเกตตลาดและรอซื้อเพิ่ม
เราจะดำเนินการต่อในสัปดาห์หน้า!
พยากรณ์ทองคำ (11/03/2021): สถานการณ์รั้น - ซื้ออีกครั้งหลายท่านได้เข้าสู่ขีด จำกัด BUY ที่ 1678 เหมือนกับสิ่งที่ฉันแบ่งปันในบัญชีกองทุน JQKA และตอนนี้เราทุกคนต่างตื่นเต้นกับเป้าหมายกำไร 700 - 1,000 pip
ตกลง! ยินดีด้วย. แต่ระวัง. เมื่อคุณตื่นเต้นมีโอกาสสูงที่คุณจะแพ้ ดังนั้นฉันขอย้ำ: ลดขนาด (ทำกำไร½) เพื่อรักษาเงินที่คุณได้รับ
มุมมองวันที่: 173x ปรากฏขึ้น
ถ้า 171x คือตำแหน่งของ TP1 ดังนั้น 173x ก็คือตำแหน่งของ TP2 มีเขตอุปสงค์ - อุปทานมาบรรจบกับขาลง (เส้นสีเหลือง) น่าจะมีปฏิกิริยา แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะลดลงเหลือ 167 เท่า
นี่คือสิ่งที่ฉันคาดหวังสำหรับคลื่นทองคำนี้ ตรงไปที่ 18xx ในอีก 1 เดือนข้างหน้า
คำถามตอนนี้คือคุณเชื่อใน infinity-TP หรือไม่? ราคาที่ตลาดอาจไม่พลิกกลับในปีนี้?
กราฟแท่งเทียนรายสัปดาห์: นี่คือสิ่งที่เรากำลังดู และสิ่งที่เรียกว่า infinity-TP จะได้รับคำตอบจากตลาดเอง
มุมมองแผนภูมิ 4h: การซื้อขาย
หากคุณซื้อขายทองคำออนไลน์นี่คือตำแหน่งที่ฉันทำนาย แน่นอนว่าผู้ที่ถือสถานะ BUY จะยังคงซื้อต่อไป อย่าขาย หากคุณต้องการข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อฉันเพื่อเข้าสู่กลุ่ม JQKA
USDindex
ฉันวาดสองโซนการคาดการณ์ว่าดอลลาร์จะกลับมา ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นเราจะพูดถึงในภายหลัง
อภิปรายผล
ข่าวกระทบราคา? ฉันไม่รู้เพราะฉันไม่ได้อยู่ในโรงเรียนนั้น เนื่องจากฉันเชื่อว่าราคาได้สะท้อนให้เห็นทั้งหมดแล้วสิ่งที่ฉันต้องทำคือ: ระบุโซนที่สำคัญจริงๆเพื่อทำการสั่งซื้ออย่างถูกต้อง
ดังนั้นหากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับข่าว NONFARM หรือ CPI และแพ็คเกจ 1900 พันล้าน ... ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร
เสร็จแล้ว แค่นั้นแหละ!
การคาดการณ์ทองคำ (5 มีนาคม 2564): 3 สถานการณ์สำหรับราคาทองคำก่อนฉันให้ 3 สถานการณ์เช่นนี้ หากถูกต้องให้แบ่งครั้งเพื่อซื้อ หากผิดพลาด SL จำไว้ว่านั่นคือเงินของคุณ - คิดให้ดีก่อนลงทุน
ทั้งตลาดเป็นเหมือนภาพด้านล่าง - จุดบรรจบของอุปทาน - อุปสงค์และแนวโน้มขาขึ้น 3 ปี
DXY - ดอลลาร์มุ่งหน้าสู่แนวต้านที่แข็งแกร่งที่ 92,000
เมื่อ DXY กลับมาที่ 92,000 จะมีการลดลงซึ่งสร้างเงื่อนไขให้ราคาทองคำเข้าใกล้โซนล่างและดีดตัวขึ้น
นี่คือการคาดการณ์ของฉัน ตอนนี้เป็นบทที่ต้องทำ
สถานการณ์ที่ 1 - 20%: ฤดูใบไม้ร่วงและไกลออกไป
หากราคายุบไปที่ 166x - 167x มันจะเด้งกลับมาอย่างแน่นอน
สถานการณ์ที่ 2 - 20%: สร้างด้านล่างด้วย Sideways
เข้าใจง่ายๆ: กราฟรายวันจะสร้างแท่งเทียนขนาดเล็ก 2-5 แท่งโดยเคลื่อนที่ไปด้านข้างในบริเวณนี้ => สร้างด้านล่าง
สถานการณ์ที่ 3 - 60%: ดีดตัวและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉันคาดว่าสถานการณ์นี้จะมี TP 1000 pip แน่นอนว่าหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไปในทิศทางนี้เราจะมีจุด TP ที่ชัดเจนขึ้น
สรุป
ดังนั้นยังไงก็ตามฉันก็ตัดสินใจเปิดสถานะซื้อในโซนนี้ด้วย ในส่วนของกลยุทธ์ BUY นั้นผมได้แบ่งปันไปหลายครั้งแล้ว
ตอนนี้เป็นเรื่องที่จะซื้อที่ราคา นั่นขึ้นอยู่กับความอดทนของคุณเป็นอย่างมาก คืนนี้เป็น Nonfarm ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วโซนราคาที่ดีจะปรากฏขึ้น โปรดรอ.
สุดท้ายฉันพูดซ้ำในสิ่งที่ฉันพูดเสมอ เทรดเฉพาะเมื่ออัตราการชนะสูงพอที่คุณจะเสี่ยงด้วยเงินของคุณ สำหรับฉันอัตราการชนะสูงได้ปรากฏขึ้นแล้ว สำหรับคุณ? ฉันไม่สน ฮ่าฮ่า!
พยากรณ์ทองคำ (28/02/2021): รอซื้อและถือสถานะ Long จำเกณฑ์ของฉัน: การค้าที่ปลอดภัย - สั่งซื้อในราคาที่มีโอกาสชนะสูงเช่นนี้เท่านั้นที่คุณยินดีแลกเปลี่ยนด้วยเงินอันมีค่าของคุณ หากตลาดไม่เข้าสู่ช่วงราคาเหล่านี้ให้ยืนอยู่ข้างนอกเพื่อประหยัดเงิน เก็บเอาไว้รอเวลาที่เหมาะสม
บัญชีของฉันไม่มีคำสั่งซื้อในขณะนี้ ฉันแชร์ตำแหน่ง SELL 2 ตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว: (1) 182x - 183x และ (2) ยุบลงอย่างสมบูรณ์ที่ 1760 แต่ในท้ายที่สุดฉันไม่ได้ทำการสั่งซื้อ
จริงๆแล้วฉันรอ SELL ที่ 183x และไม่ได้คาดหวังว่าราคาจะลดลงอย่างมากเหมือนตอนนี้ ฉันก็เลยข้ามไป
ตกลง! คำถามคือตอนนี้จะทำอย่างไรราคาทองคำจะเป็นอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้?
มุมมองโดยรวม: แผนภูมิวัน
สถานการณ์ที่ 1: ซื้อต่ำกว่า 1,700
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่มองไปในทิศทางนี้: ต่ำกว่า 1700 ถึง 1680 ซึ่งถูกมองว่าเป็นโซนแนวรับที่ยากของราคาทองคำ
ความคิดเห็นส่วนตัว (ซื้อ): หากจะมีการร่วงลงอย่างมากในช่วงต้นสัปดาห์หน้าถึงต่ำกว่า 1700 ฉันจะซื้อ!
ขายทำกำไรที่ 1,000 pips - หยุดการขาดทุนที่ 300 pip เหมือนที่เคยทำ ฉันคาดว่านี่จะเป็นจุดสุดท้ายและเป็นช่วงราคาที่ดีที่สุดสำหรับสถานะซื้อระยะยาว
กลยุทธ์: แบ่งเวลาซื้อ ถ้าถูกต้อง - ลดขนาด (ขายทำกำไร½) และถือต่อไป หากผิดพลาดให้กดหยุดการสูญเสียและแพ้
สถานการณ์ที่ 2: ตีกลับในต้นสัปดาห์หน้า
1900 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่งได้รับการให้สัตยาบัน เครื่องพิมพ์เงินจะยังคงทำงานต่อไป มีโอกาสดีที่จะมีการตีกลับอย่างรุนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ - นี่จะเป็นโซนสำหรับเราในการเข้าสู่ตำแหน่ง SELL ขนาดเล็ก - ในทางเทคนิคเรียกว่าระดับการทดสอบซ้ำ (เขตแนวรับเก่าจะกลายเป็นแนวต้านใหม่)
วางตำแหน่งขาย - ขายเล็ก - ขายสั้น
ความคิดเห็นของฉัน
เทรดที่โซนปลอดภัยเสมอ อาจมีขนาดเล็ก แต่ก็ปลอดภัย ความคิดของฉันกับทองคำเป็นเช่นนั้น คุณแค่ต้องเก็บเงินทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเงิน โดยปกติคุณจะทำเงินในตลาดนี้ นั่นคือทั้งหมด!
SET index - มุมมองทางบวก (+) ในระยะยาวและเหตุผลหากพิจารณาว่ามีการ breakout ทั้ง fail break และ break ที่สำเร็จแต่ยืนไม่ได้ (พิจารณาจากราคาปิดของแท่งเทียน)
เป็นไปได้ว่าจริงๆแล้ว ตรงนี้แหละ คือแนว all time high ที่แท้จริง ที่ไม่นับ failed breakout ที่ผ่านๆมา
ราคายังยืนเหนือเส้น EMA 233 และตอนนี้ได้พยายามทดสอบแนวต้านกรอบเหลือง หากยืนได้คงทำ new all time high ได้จริงๆ
และถ้าหาก clear all time high เดิมได้
เป้าถัดไป คือแนว 6000
ตอนนี้หุ้นใหญ่ๆคงพักตัวหรือปรับฐาน เป็นเวลาให้หุ้นเล็กค่อยขยับๆ rotation ไม่ว่าจะเป็น large-cap ขยับหมุนเข้า midcap หรือ small cap
หรือ sector rotation ไปกลุ่มอื่นๆที่ยังไม่ขึ้น
อีกข้อมูลที่สนับสนุนว่า SET index จะขยับขึ้นไปสูงขนาดนั้น (6000!?) ได้ ผมคิดว่า 2 ภาพข้างล่างมีคำตอบครับ
XLE vs SP500
กราฟ relative performance ของกลุ่มพลังงาน VS SP500 โดยรวม ที่มีสัญญาณกลับตัวในรอบ 13 ปี
ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "น้ำมัน" ที่จะมีราคาแพงขึ้น เพราะว่า
1. ด้าน supply
COVID-19 ทำให้ demand ในใช้พลังงาน เพื่อการเดินทางลดลง ทำให้น้ำมันมี supply ล้นตลาด จนทำให้ OPEC+ ต้องประชุมตกลงลดกำลังการผลิต
ตอนนี้ แทบจะไม่มีการ ผลิต หรือ เสาะหา เพิ่ม พลังงานที่ใช้ตอนนี้คือ supply ที่หลงเหลืออยู่
2. ด้าน demand
เมื่อทุกประเทศได้รับวัคซีนถึงจุดหนึ่ง ย่อมต้องมีการเปิดประเทศ ทำให้ประชาชน ออกเดินทาง ท่องเที่ยว การคมนาคม การบินกลับมาอีกครั้ง
demand นี้จะ เกิน supply ในระยะแรกๆที่กลับมา เพราะว่า การผลิตน้ำมันที่หยุดไป ไม่ใช่แค่กดปุ่ม restart แล้วทุกอย่างจะกลับมาเท่าเดิมทันที
จะต้องมีช่วง supply ที่ไม่ทัน demand ส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้น
3. นโยบาย Green energy โดยเฉพาะอย่างยิ่งของอเมริกา ย่อมมีนโยบายที่ "ไม่เอื้อ" ต่อบริษัทน้ำมัน ในอนาคต อาจมีการลดการเสาะหา ขุดเจาะ ผลิต เพราะนโยบายของรัฐไม่เอื้อ ทำให้ supply ลดลงเรื่อยๆ ทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้น เพราะ supply shortage
นอกจากน้ำมันแล้ว อนาคตของ green energy คงไม่พ้นเรื่องของ electric vehicles
ซึ่งเป้าหมายในเรื่องนั้น ก่อนอื่น คงต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีของ battery ที่ดีกว่า Lithium หรือ semi-solid state
แต่กว่าจะถึงจุดนั้น
น้ำมันจะยังคงมีบทบาทต่อไป
ตัวที่จะเชื่อมตรงกลางระหว่างการเปลี่ยนแปลงจาก fossil fuel อย่างน้ำมัน ไปสู่ electric vehicle คือ "natural gas"
(วิเคราะห์ทิศทางคร่าวๆไว้แล้วที่นี่ )
ซึ่งเริ่มทำการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
เชื่อว่ากลุ่มพลังงานจะมีบทบาทมากใน Post-pandemic era ครับ
XLF
กราฟกลุ่มการเงิน ของอเมริกา ที่หลังจาก 13-14 ปี ก้ได้ทำการ breakout ขึ้นสู่ new all time high
แน่นอนว่า แนวต้าน 13 ปีที่ถูกทลาย ย่อมขึ้นต่อมากกว่ากลับตัวลงมา
เพียงแค่ 2 sectors นี้ อาจจะเพียงพอที่จะส่ง SET ขึ้นสู่ new high
น้ำหนักของแต่ละ Sector ที่ประกอบกันเป็น SET index (อ้างอิงข้อมูลจาก MSCI Thailand ล่าสุด January 2021)
Energy 14.83%
Financials 13.89%
Consumer Staples 12.81%
Materials 11.35%
Industrials 9.14%
Communication Services 9.11%
Utilities 8.43%
Health Care 6.67%
Consumer Discretionary 5.84%
Real Estate 4.08%
Information Technology 3.84%
จะเห็นว่า กลุ่ม พลังงาน และ การเงิน มีน้ำหนักเกือบ 30% ของ SET index
ไม่เพียงเท่านั้น Post-pandemic era ย่อมต้องมีการเร่งพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้าน infrastructure หรือการก่อสร้างพัฒนาใดๆ
กลุ่มที่จะได้ผลดีจากการพัฒนาหรือฟื้นฟูประเทศด้านต่างๆ คือ Material และ Industrial (จีนเป็นตัวอย่างด้านการพัฒนาประเทศจนทำให้ basic material มีราคาแพงขึ้น ในช่วง post-world war 2 จนถึงขั้นเกิดเงินเฟ้อชนิด Demand (ต่อ basic material)-pull
หากรวม 2 กลุ่มนี้เข้าไปด้วย จะประกอบเป็นเกือบ 50% ของ SET index
ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวปริมาณมหาศาล ซึ่งส่วนนี้จะอิงกับการฉีดวัคซีนและการเปิดประเทศ กลุ่มการท่องเที่ยว การโรงแรม การสื่อสาร (กลุ่มที่ขายซิมการ์ดให้นักท่องเที่ยว) ย่อมต้องรอวัคซีน จึงจะฟื้นตัว ซึ่งคงอีกไม่นาน เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น
จะเห็นว่าทุกอย่างมีความเกี่ยวโยงกัน และทั้งหมดนี้ย่อมส่งให้ SET index ทำ new all time high ได้
เป้าระยะสั้น คงเป็นตามที่นักวิเคราะห์และคนดังหลายคนอกมาพูด คือบริเวณ 2200-2300 ครับ
ตอนนี้เป็นเวลาสะสมหุ้น เพื่ออนาคตใน Post-pandemic era ครับ
หวังว่าข้อมูลจะมีประโยชน์ครับ
BANPU - แนวต้าน 9 ปีถูก break แล้ว
ตอนนี้ทั้งราคา absolute ของบ้านปูที่ 8.75
และ relative performance เทียบกับ set ได้ breakout จากแนวต้าน trend line 9 ปีแล้ว
เชื่อว่าน่าจะกลับตัวขึ้นเป็นขาขึ้น
โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาปัจจัยพื้นฐานคือ
Natural gas (ต้นทุนบ้านปูที่ 1.6)
และถ่านหิน (ต้นทุนแถว 30-40)
ด้านราคาของบ้านปูเอง ตอนนี้ในกราฟสัปดาห์เป็นเวฟ 3 ย่อยของเวฟ 3 อีกที น่าจะจบสักที่ในกรอบสีเหลือง (เชื่อว่าแถว 12-13)
เวฟ3ย่อยจะจบ ถ้ากราฟสัปดาห์ปิดสีแดง
เป้าขั้นต่ำของบ้านปู และเป็นแนวต้านใหญ่อันแรกคือแถว 27 บาท
แต่ระหว่างทางคงต้องผ่านแนวต้าน 13 กับ 17 แล้วค่อยๆขึ้นไปครับ
Invalidate point
จุดที่จะทำให้ไอเดียทั้งหมดนี้ผิดคือ ถ้าบ้านปูทะลุ 6.2 ลงมาครับ
Gold ทองคำ คาดการณ์แนวโน้ม เครื่องบินตกสู่โซนราคา 1882$🔖 #GOLD #ทองคำ #XAUUSD กรอบเวลา 4H แนวโน้มปรับตัวลงสู่โซนราคา 1882$ แนวทางการเทรด
MTF Analysis วิเคราะห์การเคลื่อนที่ในหลายกรอบเวลาทางด้านเทคนิค :-
กรอบเวลารายเดือน: ภายหลังการเบรคซัพพลายโซนสำคัญบริเวณ 1800$ มาได้ในเดือนกรกฎาคม ปัจจุบันกำลังปรับตัวย่อลง ภาพใหญ่แนวโน้มตามลักษณะการเคลื่อนที่ของเส้นแนวโน้มอยู่ที่ราคา 2450$
กรอบเวลารายสัปดาห์: ราคากำลังขึ้นทดสอบซัพพลายโซนรายสัปดาห์ (1930 - 1950$) ซึ่งเป็นบริเวณ Symmetric Triangle ที่มีการเบรคลงมา
กรอบเวลารายวัน: เคลื่อนที่ภายใต้ Descending Channel ในลักษณะของ Correction Move โดยจุดเริ่มต้นของ Impulsive Move อยู่ที่ดีมานด์โซนรายวัน (1820 - 1790$)
กรอบเวลาราย 4 ชั่วโมง: เคลื่อนตัวในกรอบ Ascending Triangle ที่อยู่ภายใน Ascending Channel สีเหลืองอีกทีหนึ่ง โดยมีเทรนด์ก่อนหน้าเป็นเทรนด์ลง แนวต้านของแพทเทิร์นอยู่ที่บริเวณราคา 1912$ ฐานของแพทเทิร์นอยู่ที 1882$ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
กรอบเวลาราย 1 ชั่วโมง: กรอบการเคลื่อนที่
พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว ในระยะกลางราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่บริเวณโซนราคา 1882$ หรือดีมานด์โซน 4H (1860 - 1845$) แนวทางการเทรด เมื่อราคาปรับตัวเข้าสู่แนวต้านของแพทเทิร์น 1912$ หรือซัพพลายโซน 1H (1918 - 1925$) ให้พิจารณ Short โดยเป้าหมายการทำกำไรจุดที่ 1 1882$ จุดที่ 2 1860$
ไอเดียการเทรดนี้จะใช้ไม่ได้หากราคามีการเบรคเส้นแนวต้านของ Descending Channel หรือซัพพลายโซน 1925$ ขึ้นไปได้
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview