ค้นหาในไอเดียสำหรับ "SUPPORTANDRESISTANCE"
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ทองคำปรับบวกก่อนรายงานเงินเฟ้อถูกเปิดเผยช่วงคืนวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ราคา 1,812.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1800 ได้อีกครั้ง โดยการปรับขึ้นมาครั้งนี้ก็มีปัจจัยเดิมๆ ที่เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และส่วนหนึ่งก็มาจากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง ขณะที่นักลงทุนก็ยังคงเฝ้าติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ที่จะรายงานในช่วงค่ำของวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจากการติดตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ในเดือนกรกฎาคม ทั่วไปรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวลดลง 8.7% จากเดือนมิถุนายนที่ 9.1% ส่วนดัชดีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน CPI ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานของเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 6.1% จากเดือนมิถุนายนที่ระดับ 5.9% ทั้งนี้หากตัวเลข CPI ซึ่งสะท้อนถึงตัวเลขเงินเฟ้อของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากออกมาลดน้อยลงตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่สังเกตุจากราคาพลังงาน (น้ำมัน) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้การตัดสินใจของเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงินอาจมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้าสัปดาห์ก่อนหน้าตัวเลขแรงงานออกมาดีเกินคาดทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรง ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อนั้นจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของดัชนีดอลลาร์ และการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีได้เช่นกัน
ประเมินทางเทคนิคทองคำระยะสั้นวันนี้ทองคำกลับมาช่วงปรับฐานราคาอีกครั้งหลังปรับตัวเข้าโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป) ทางเทคนิคประเมินว่าหากราคาทองคำยังมีแรงซื้อหนุนสนับสนุนไว้ แนวรับทองคำช่วง 1787-1778 จะเป็นช่วงที่ควรรอเข้าซื้อทองคำอีกครั้ง หากราคาทองคำไม่หลุดต่ำไปจากแนวรับดังกล่าว ซึ่งทองคำยังคงรักษาระดับได้ดีส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงในเดือนกรกฏาคมนี้ ทำให้มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้เหนือ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรวางแผนโอกาสการเข้าซื้อทองคำสะสมช่วงแนวรับสำคัญๆ สำหรับแนวต้านวันนี้จะอยู่ที่ช่วง 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาขายออกบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำหากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจราณาขายออกบริเวณแนวต้าน 1800-1810 หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ก็ให้พิจารณาชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1817-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1808 / 1814
-------------------------------------------
Support : 1787 / 1778 / 1772
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ทองดับฝันไม่ถึงฝั่ง 1800 หลังรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวร่วง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 15.7 ดอลลาร์หรือ -0.87% ปิดที่ราคา 1,791.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การปรับร่วงของทองคำอีกครั้งหลังได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่ดีเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) ตัวเลขออกมาที่ 528,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำอีกครั้ง โดยดอลลาร์กลับมาเคลื่อนไหวปรับขึ้นที่ระดับ 106.57 เพิ่มขึ้น 0.82% หรือ +0.78% การปรับขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าเมื่อตัวเลขแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้น จะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิคทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามการขึ้นลงของดอลลาร์เป็นหลัก โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระทบก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ ต่างทั่วโลก ภาพรวมตลาดทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
กรอบเวลารายสัปดาห์ (Week) : หลังเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลงที่ระดับ 1680.74 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Exponential Moving Average 200 ) และโดนปฏิเสธราคาที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทองคำ rebound กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ปรับขึ้นมานั้นทองคำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลส์อายุ 10 ปีของสหรัฐ โดยมองว่าตลาดทองคำในภาพรวมกว้างๆ นั้นยังคงเป็นตลาดหมี (Bearish market) อยู่ หากทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราถึงจะมองว่าภาพของฝั่งกระทิง (Bullish market) กำลังกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็อย่าเพิ่งเบาใจสำหรับนักลงทุนฝั่งตลาดกระทิง ทางเทคนิคเรายังมองเห็นทองคำยังต้องเผชิญกับแนวต้านหลักๆ ตั้งแต่ 1772 และ 1830 ขึ้นไปให้ได้ก่อน ถึงจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กรอบรายวัน (Day) : สำหรับในกรอบรายวันนั้น หลังทองคำปรับร่วงเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้เหนือแนวรับบริเวณ 1756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อยังคงเข้าช่วยพยุงราคาไว้ ทางเทคนิคในกรอบรายวันเราให้ช่วงบริเวณรับราคาในระหว่าง 1756-1727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาผยุงราคาทองคำหลังราคาทองคำปรับราคาถูกลง โดยเมื่อทองคำมีราคาที่ถูกลงก็มักจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนระยะสั้น เข้าทำการเก็งกำไรและเทขายสลับออกมา นักลงทุนจึงควรเฝ้ามองหาโอกาสจากการช่วงชิงการซื้อขายของทองคำในภาวะดังกล่าวตามแนวรับแนวต้านสำคัญๆ ประเมินว่าทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับ 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณดังกล่าวจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันพาดผ่านอยู่ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว เพราะหากทองคำสามารถขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนบางส่วนจะมองหาโอกาสการทำกำไรในบริเวณดังกล่าว
กรอบรายชั่วโมง (H1) : สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ให้ความสำคัญในกรอบรายชั่วโมงนั้น หลังทองคำปรับตัวเข้าในบริเวณ Demand zone ช่วง 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทองคำก็ยังคงรักษาระดับได้เหนือบริเวณดังกล่าว โดยทางเทคนิคหากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำอีกครั้งจนทำให้ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้าติดตามจังหวะเข้าซื้ออาจพิจารณารอจังหวะซื้อทองคำที่บริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1795-1804 ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่าทองคำขณะนี้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำนักลงทุนให้วางแผนการเทรดในระยะกลางถึงยาว ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก เทรดตามแนวโน้มราคาปัจจุบันจะดีที่สุด
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงรอขายทำกำไรระยะสั้นจากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่ผ่านแนวรับ 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปประเมินที่บริเวณ 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1762-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน สำหรับแนวต้านถัดไปประเมินที่บริเวณ 1795-1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1779 / 1795 / 1804
-------------------------------------------
Support : 1770 / 1763 / 1754
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 30.5 ดอลลาร์ การซ้อมรบของจีนรอบบริเวณเกาะไต้หวันที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวานเป็นเหตุให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำกันอีกครั้ง โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 30.5 ดอลลาร์หรือ +1.72% ปิดที่ราคา 1,806.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การกลับมาของทองคำเมื่อวานนี้เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยทางการจีนได้มีการเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันหลังนางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานรัฐสภาของสหรัฐได้มาเยือนเกาะไต้หวัน ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มมีมากขึ้น
ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้ในกรอบรายวันเรายังเห็นการเคลื่อนไหวทองคำถึงโอกาสที่จะเข้าทดสอบระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ทั้งนี้ต้องมีแรงซื้อสนับสนุนต่อเนื่องถึงจะเคลื่อนไหวเข้าเหนือหรือทดสอบบริเวณดังกล่าวได้
ทั้งนี้หากราคาทองคำยังมีแรงปรับฐานเหนือบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้งเพื่อผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือระดับสูงสุดของเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ "รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) นักวิเคราะห์คาดการว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานที่ 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากเดิม 381,000 ตำแหน่ง จากเดือนมิถุนายน และตัวเลขรายงานอัตราการว่างงานของเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการว่างงานคงที่ที่ระดับ 3.6% ของเดือนมิถุนายน ในเวลา 19:30 น. (ตามเวลาของประเทศไทย) ในช่วงวันนี้คาดว่าทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามรายงานดังกล่าวในค่ำคืนนี้ จึงให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึันไปได้ เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1779-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1779 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1790 / 1756 / 1727
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1795 / 1804 / 1810
-------------------------------------------
Support : 1785 / 1779 / 1774
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.32 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,000.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,765.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -5.22 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 ทองคำยังพุ่งปรับเพิ่มสูงกว่า 4.03% ขยับใกล้ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาอีกครั้งวานนี้ปิดบวกไป 5.9 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ซบเซาเหตุข้อมูลเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง ทองคำกลับมาบวกติดต่อกันต่อเนื่องเป็นวันที่ี 4 โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ราคา 1,787.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นก็มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไม่ดีสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเช้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้
วานนี้สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือน ก.ค. ซึ่งจัดว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ระหว่างนี้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนทองคำบางส่วนเพื่อเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์นี้คือ “รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP)”
สำหรับวันนี้ประเมินทางเทคนิคแล้วหลังทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นต่อเนื่องกว่า 4 วัน จนเข้าใกล้ระดับต้านสุดท้ายของ Level 1700 คือ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เราประเมินว่าถ้าราคาทองคำวันนี้ไม่ผ่าน 1780 -1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการพักปรับฐานกันอีกรอบ โดยอาจย่อตัวลึกกว่าที่ผ่านมา โดยประเมินใกล้ๆ ระดับ 1764 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้แรงซื้อในกรอบรายวันอาจลดลงไปแต่ก็ยังแรงหนุนเพื่อปรับตัวอยู่พอสมควร เราจึงคาดว่าการปรับย่อน่าจะไม่ลงลึกไปกว่า 1750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรใช้ประโยชน์การวิเคราะห์นี้ไปวางแผนเพื่อปรับเป้าหมายการเข้าทำกำไรต่อไป สำหรับเป้าหมายของกรอบรายวัน (Day) เราประเมินที่ระดับ 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการถดถอยเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นจะยิ่งหนุนทองคำได้มากขึ้นเวลานี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อว่าหากสัญญาการถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จะปรับลดท่าทีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลลบต่อสกุลเงินโดยตรง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1780-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1802-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1768 / 1754 / 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565ทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเฟดออกมาประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุด จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะปรับที่ 100 จุด คณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐได้เพิ่ม Benchmark rate จาก 1.5% ถึง 1.75% เป็น 2.25% ถึง 2.5%
นักลงทุนยังให้ความกังวลในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ เฟดอาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเร็วขึ้นจนมากจนเกินไป สมาชิกของเฟดก็ออกมายอมรับสัญญาณของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวว่า “ตัวชี้วัดการใช้จ่ายและการผลิดล่าสุดได้อ่อนตัวลง” แต่ก็ยังมีการจ้างงานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ยังคงบ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดีอยู่ แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อยังสูงขึ้นหลายคนจึงยังคงเชื่อว่าภาวะการถอถอยจะได้เกินขึ้นได้ในไม่นาน เพราะต้นทุนการใช้สินค้าและบริการ ตลอดจนต้นทุนในการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้น จะเป็นปัจจัยหลักที่จะกดดันให้เศรษฐกิจต้องชะลอตัวลงได้
สำหรับสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง Non farm payroll (NFP) “การจ้างงานนอกภาคการเกษตร” ที่จะรายงานทุกศุกร์แรกของเดือน ซึ่งจะเป็นรายงานของเดือนกรกฏาคม 2565 รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะแสดงให้นักลงทุนได้รู้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาของเฟดครั้งล่าสุดนั้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดการจ้างงานของสหรัฐฯ อย่างไรได้บ้าง
สำหรับนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการจ้างงาน 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม 2565 ลดลงจากระดับ 372,000 ตำแหน่งของเดือนมิถุนายน สำหรับอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวในระดับที่ต่ำสุดที่ 3.6% ถือว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
หากตัวเลขดังกล่าวออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เฟดเองอาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายกระชับนโยบายการเงินที่เข้มงวดลง ซึ่งเฟดอาจเลือกปรับอัตราดอกเบี้ยในคราวต่อไปไม่ถึง 75 จุด อาจอยู่ที่ 50 จุด เพราะจากข้อมูลในวันพฤหัสบดีที่ผานมานั้น พบแล้วว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวลงในไตรมาสที่สองแล้ว จึงอาจเป็นเงื่อนไขให้เฟดต้องปรับเปลี่ยนท่าทีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ภาวะดัวกล่าวก็จะส่งผลดีต่อการลงทุนตลาดทองคำได้อีกครั้ง เมื่อดอลลาร์อาจต้องปรับตัวอ่อนลงโดยขณะเขียนบทวิเคราะห์นี้ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงที่ระดับ 105.64 จากระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 107.42 โดยเราประเมินว่าดอลลาร์อาจย่อตัวลงที่ระดับ 105-104
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
โดยการลงทุนทองคำก่อนที่จะมีรายงาน NFP ศุกร์นี้อาจแกว่งตัวในกรอบ จึงควรระมัดระวังการลงทุนในขณะนี้ ควรเล่นตามทิศทางการเคลื่อนไหวราคาในระยะสั้นเท่านั้น ไม่ควรสะสมการลงทุนระยะยาวไว้มากจนเกินไป หากทองคำยังไม่หลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับเข้ามาหนุนทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถทรงตัวหรือหลุดจากแนวรับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น แนวรับระหว่างวันจะอยู่ที่บริเวณ 1740-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคำกลับคืนหากราคาทองย่อตัวลงมาที่บริเวณ 1746-1740 ดอลลาร์ต่อออนซ์และสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายกำไรที่ระดับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1740 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1768 / 1781 / 1790
-------------------------------------------
Support : 1754 / 1746 / 1740
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPtrend
Time Frame H4 = N
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ =
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับบวกเล็กน้อย รับการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
ทองคำช่วงนี้เรียกว่าผูกติดกับหมัดของสกุลเงินดอลลาร์จริงๆ พอฝั่งโน้นเบาแรงก็จะขยับขึ้นได้ แต่ก็ยังถูกจำกัดจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทำให้การปรับฟื้นไม่ได้ดีเท่าที่ควรนัก
การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วก็พอเป็นปัจจัยให้เงินไหลเข้ามาระบบของทองคำได้บ้าง โดยดาวโจนส์ร่วงลง 2.9% ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.0% และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.8%
สำหรับในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำการประเมินแนวทางการลงทุน และทิศทางแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยต์ กล่าวไว้ว่าการเทขายหุ้นสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะส่วนหนึ่งนั้นการเทขายออกของหุ้นเกิดจากความกังวลในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐฯ และเขาได้ยืนยันว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่เกิดภาวะถดถอยในปีนี้และปีหน้า นอกจากจะมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นกับระบบของเศรษฐกิจสหรัฐ
มีข้อมูลจาก Refinitiv Lipper ได้ออกมาชี้แจงว่า นักลงทุนทั่วโลกขณะนี้ได้มีการปรับลดขนาดการลงทุนในกลุ่มของกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวเรื่องของเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว จนอาจเป็นเหตุให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถอถอยได้ นั่นจึงอาจเป็นเหตุให้ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้าหนุนให้วิ่งกลับไปเหนือ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.05% ปิดที่ระดับ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคในกรอบรายวันกำลังวิ่งตามแบบของ Harmonic Pattern (Gartley) แต่ก็ยังมีแนวต้านสำคัญที่อาจะเป็นอุปสรรค์ต่อการปรับฟื้นของทองคำได้ที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันนั้นยังไม่มีการปรับขึ้นมาในระหว่างนี้ แต่เส้นค่าเฉลี่ย 200 ในระยะยาวได้มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้าทองคำจะย่อตัวลงแรงก็ตาม แต่ภาวะแนวโน้มระยะยาวทองคำก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นสูงได้
สำหรับแนวทางระยะสั้นกรอบรายชั่วโมงนั้น ทองคำกำลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก พิจารณาปิดกำไรหากราคาทองคำไม่หลุด 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเป้าหมายดังกล่าวให้ชะลอปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1865-1870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1859 / 1865 / 1870
-------------------------------------------
Support : 1849 / 1839 / 1833
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 7.25 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,063.43 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,846.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 13
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -31.12 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 20 มกราคา 2565 ทองคำพุ่งผลบวกจากการอ่อนแอเศรษฐกจิของสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 30.80 ดอลลาร์หรือ +1.70% ปิดที่ระดับ 1,843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำได้รับการหนุนจากรายงานตัวเลขที่อ่ออนแอของสหรัฐฯ อเมริกา และการปรับฐานย่อตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดอลลาร์ที่ต่างปรับตัวย่อฐานลง ทำให้เป็นเหตุหนุนราคาทองคำในระยะสั้นให้ปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยราคาทองคำของตลาด COMEX สามารถทำจุดสูงสุดของวันที่ผ่านมาได้ที่ระดับ 1843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปรับร่วงลงมาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางด้านกองทุน SPDR ก็ได้เข้าซื้อทองคำเป็นมูลค่ากว่า 5.23 ตัน เป็นสัญญาการเข้าซื้อที่สามารถหนุนราคาทองคำได้อีกรอบหนึ่ง แต่ทั้งนี้นักลงทุนก็ต้องเฝ้าระวังการซื้อที่กระโดนขึ้นมาใกล้ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากบริเวณนี้ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน และการเทขายทองคำหากราคาปรับฐานไม่ต่ำกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่ทองคำจะปรับขึ้่นทดสอบระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป ทั้งนี้ต้องอาศัยรายงานเศรษฐกิจคืนนี้มาเป็นตัวช่วยหนุนด้วย หากรายงานออกมาตรงกันข้ามกับการหนุนตลาดทองคำก็จะทำให้ทองย่อตัวกันอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้เข้าช่วงพักฐานราคาระหว่าง 1842-1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากฝั่งของบอนด์และดอลลาร์ยังปรับฐานต่ำต่อเนื่องก็คงจะได้ลุ้นกันต่อที่ระดับ 1850 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ผลเป็นลบมากกว่าเชิงบวก เพราะรายงานก่อนหน้าสะท้อนถึงความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดจนรายงานผลประประกอบการใน 3 ตลาดหุ้นที่ผ่านมาก็ไม่ได้สวยงามสักเท่าไหร่ เลยคาดการณ์ตัวเลขวันนี้่อาจส่งผลหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้อีก โดยช่วงระหว่างวันทองคำอาจผันผวนช่วงราคา 1842-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงยังควรระมัดระวังแนวดังกล่าวและติดตามอย่างใกล้ชิด
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเข้าช่วงการซื้อมากเกินไปแต่เส้นโน้มตัวกลับเข้าระดับ 70 อีกครั้ง เส้น SMA20 วันก็จบกับเส้น RSI ที่ระดับเดียวกัน ยังสะท้อนแรงซื้ออยู่ขณะนี้
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1830-1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนว 1843 ขึ้นไปได้นั้นก็ให้เสี่ยง “ขาย” ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1837-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีกให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1842 / 1858 / 1876
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1811 / 1805
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 5.23 ตัน
คงถือสุทธิ = 981.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,840.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.78ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 3 สิงหาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดกลับมาบวกอีกครั้ง 5 ดอลลาร์ เหตุดอลลาร์และบอนด์ฯร่วง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ปิดเพิ่มขึ้น 5 เหรียญ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,822.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการปรับตัวลงจากการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์อีกครั้ง
สัญญาทองคำเมื่อคืนนี้ปิดบวกโดยได้รับปัจจัยการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวร่วงลงหลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ PMI ภาคการผลิตของสถาบันไอเอ็สเอ็มที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงเดือนก่อนส่งผลต่อการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์อีกครั้ง ทำให้ดอลลาร์สหรัฐวานนี้ปรับตัวร่วงลง 0.14% แตะที่ระดับ 92.0441 ในช่วงเช้ามืดวันนี้ นักลงทุนเองตอนนี้ต่างเฝ้ารอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค. ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ รวมทั้งการติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยยังคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย หลังยังปฏิเสธการปรับขึ้นอัตรรดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงล่าสุดจากเฟดที่ผ่านมา
ประเมินทางเทคนิควันนี้
สำหรับทองคำเช้าวันนี้ยังปรับตัวลดลง หลังจากที่คืนนี้สามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับ 1,819.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับร่วงลงมาอีกครั้ง ซึ่งมีแนวรับประเมินที่ 1,807 – 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับทรงตัวเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้นั้น ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนได้อีกครั้ง แต่หากราคาปรับหลุดต่ำลงมาจากแนวรับดังกล่าว ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตทวิทยาที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ตามคาดการณ์ประเมินว่าทองคำอาจวิ่งในกรอบแคบเนื่องจากปลายสัปดาห์นี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐมาประกาศ ทำให้นักลงทุนอาจมีความระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้ความผันผวนของทองคำเวลานี้อาจทำให้การตัดสินใจลงทุนของเทรดเดอร์ต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : ทิศทางทองคำยังไม่ปรับตัวขึ้นสูงแรงซื้อที่สมบูรณ์มากนักในช่วงเช้าวันนี้ แนะนำนักลงทุนควรรอจังหวะที่มีปริมาณการซื้อขายเข้ามามากกว่าช่วงเช้าวันนี้ก่อน แต่ก็ให้รอเข้าซื้อทองคำได้ที่บริเวณแนวรับ 1,807-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : UP trend
-----------------------------------------
4H : UP trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,806 / 1,799 / 1,795
---------------------------------------------------
Resistance : 1,819 / 1,826 / 1,832
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนสิงหาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดลง -1.75
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,813.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,029.71 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 1 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -1.75 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
การอัปเดตล่าสุดของ GBPUSDเช่นเดียวกับ EURUSD GBPUSD ได้รับประโยชน์จากการลดลงของ USD แม้ว่าเหตุการณ์ BOE จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของปอนด์อย่างมีนัยสำคัญ แต่ความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในขนาดใหญ่ได้รับอนุญาต GBP/USD เพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีและต่อเนื่อง จนถึงวันนี้จนถึงวันนี้การซื้อขายรอบ ๆ พื้นที่ 1.237
ใน 4H ระดับความต้านทานหลักสองระดับ 1,226 และ 1,231 นั้นถูกทำลายได้ง่าย สัญญาณจาก EMA 34 ยังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของปัจจุบัน การทดสอบพื้นที่ฝ่าวงล้อมสามารถช่วยให้เงินคู่นี้แข็งแกร่งขึ้น
INETบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
1. บริการ Cloud Service
2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access )
3. บริการ INET Data Center
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 3.34💥
💥Book value = 5.34 💥
💥D/E = 4.37 💥
💥P/E = 8.91 💥
💥P/BV = 0.94 💥
💥EPS = 0.14 💥
💥Free Float = 50.94% 💥(14/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.27% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.61% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 08/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 1,118,600 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
23 พ.ค. 2024
เงินปันผล 0.12 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
SISบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
..................
ขายส่งคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก เช่น Asus, Acer, Brother, Dell, Fortinet, Hewlett Packard Enterprise, HP Inc, Lenovo, Samsung, Xiaomi เป็นต้น
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 14.1💥
💥Book value = 11.04 💥
💥D/E = 1.73 💥
💥P/E = 14.9💥
💥P/BV = 2.47 💥
💥EPS = 0.34 💥
💥Free Float = 37.32% 💥(06/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 4.28% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 48.93% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 08/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 22,300 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
15 พ.ค. 2024
เงินปันผล 1.05 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
BTCUSD My analysis 11/11/2024ราคาปัจจุบัน 81,000$
เป้าด้านบน 83,000$ ตามแนวต้านที่ให้
แผน
- รอ Sell ด้านบน ตามแนวต้าน
- รอ Buy ด้านล่างตามแนวรับ
ถ้ากลัวตกรถก็ไปย่อย TF 15/30 เข้า ตาม จุด Demand Supply + Sto
แต่ถ้าเล่นรอแบบสบายรอซื้อตามจุดที่มีนัยยะ
**โซนที่ให้ไว้อย่าลืมดู STO ของแต่ละ TF หน้างานด้วยนะครับ**
***บทวิเคราะห์แผนนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเพื่อการศึกษากราฟ ขอบคุณครับ***
แผนการเทรด 08/11/2024 My Analysisราคาปัจจุบัน 2,695$
ถ้ายังเบรค 2750 ไม่ได้ จะเป็นการเด้งสู้ขึ้อไปเพื่อย่อลงมา แต่จะหลุดไม่อันนี้ไม่รู้
Supply zone + Fibo cluster อยู่ที่ 2720-27 อาจจะรอจังหวะแท่งเทียนกลับตัวของ tf 15/30 เพื่อลดความเสี่ยง หรือใครอยากเสี่ยงเข้า tf5 หรือคีย์ไว้ที่แนวต้านแล้ววางคัทเผื่อสเปซไว้ได้ครับ คิดว่าถ้าขึ้นไปแบบที่วางแผนไว้ Tf 4h น่าจะ ถึง OB แล้วมี divergence + rsi1h ob ของ TF ไหนลองไปแกะกันดูนะครับ ;)
แผนคร่าวๆตามนี้
-ขอให้เป็นวันที่ดีของทุกคนนะครับ เงินอยู่ในมือทุกคน เทรดห้าม Overtrade จังหวะไหนไม่มีสัญญานให้เข้า ไม่ชัว ไม่จำเป็นต้องเข้าครับ เราแค่ "รอ" เทรดได้ทั้งชีวิตครับ ไม่เห็นจะต้องรีบเลยครับ จังหวะไหนไม่ทัน แค่รอเท่านั้นเอง
-ได้ไม้มาอย่าลืมกันเท่าทุน หรือขยับกำไรนะครับ เพื่อปิด % การแพ้
***บทวิเคราะห์แผนนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเพื่อการศึกษากราฟ ขอบคุณครับ***
MOSHIบริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
..................
ธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าที่ตอบสนองต่อลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม (สินค้าไลฟ์สไตล์) ภายใต้ชื่อทางการค้า "Moshi Moshi"
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 43.50💥
💥Book value = 6.08 💥
💥D/E = 0.83 💥
💥P/E = 36.04 💥
💥P/BV = 7.90 💥
💥EPS = 0.25 💥
💥Free Float = 25.00% 💥(07/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 0.62% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 1.97% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 08/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 42,700 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
******
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
DITTOบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
..................
ประกอบธุรกิจให้บริการทางด้านระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร (Data & Document Management) การบริหารระบบงาน (Business Process Outsourcing) Data Security เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ (Green & Climate Technology) คาร์บอนเครดิต และรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี (Technology Devices & Engineering)
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 27.75💥
💥Book value = 4.80 💥
💥D/E = 0.27 💥
💥P/E = 33.6 💥
💥P/BV = 4.06 💥
💥EPS = 0.18 💥
💥Free Float = 46.58% 💥(14/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.75% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 3.59% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 08/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 2,499,900 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
15 พ.ค. 2024
เงินปันผล 0.25 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
FSMARTบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
..................
ให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ (ตู้เติมเงิน) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "บุญเติม"
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 12.5💥
💥Book value = 1.63 💥
💥D/E = 1.22 💥
💥P/E = 14.6 💥
💥P/BV = 4.07 💥
💥EPS = 0.13 💥
💥Free Float = 39.37% 💥(07/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.52% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 3.22% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 08/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 266,200 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
09 ก.ย. 2024
เงินปันผล 0.23 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2024 - 30 มิ.ย. 2024
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
KGEN (มีพี่ ib มาสอบถาม)บริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน)
..................
ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ทั้งคนและสิ่งของ รวมถึงให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 1.82💥
💥Book value = 0.50 💥
💥Free Float = 59.44% 💥
💥P/E = 0.00 💥
💥P/BV = 3.24 💥
💥D/E = 1.65 💥
💥EPS = -0.03 💥
....................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อย่าลืมตั้ง SL ด้วยนะครับถ้าเกิดผิดทาง 💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
TVOบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)
..................
ผลิตและจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง ตราองุ่น และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ได้แก่ กากถั่วเหลือง, ดีฮัล ซอยมีล, ฟูลแฟตซอย, ดีฮัล ฟูลแฟตซอย รวมทั้ง เลซิติน ซอยฮัล น้ำมันข้าวโพด น้ำมันทานตะวัน น้ำมันคาโนลา และน้ำมันมะกอก
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 20.1💥
💥Book value = 11.64 💥
💥D/E = 0.36 💥
💥P/E = 15.8 💥
💥P/BV = 2.17 💥
💥EPS = 0.62 💥
💥Free Float = 67.36% 💥(14/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 4.75% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 4.09% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 01/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 64,800 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
06 ก.ย. 2024
เงินปันผล 0.8 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2024 - 30 มิ.ย. 2024
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
BTCTHB📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)