ค้นหาในไอเดียสำหรับ "FOREX"
AUD/USD ร่วงแตะ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ **📉🔥 AUD/USD ร่วงสู่ระดับ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ ท่ามกลางโทนเสียงผ่อนคลายจาก RBA 🐨💰**
**AUD/USD ลดลงสู่ระดับ 0.6215 ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาและโทนเสียงที่ผ่อนคลายจาก RBA**
คู่เงิน AUD/USD ซื้อขายในกรอบแคบใกล้กับแนวรับสำคัญของปีที่ระดับ 0.6200 ระหว่างการซื้อขายในวันศุกร์ช่วงตลาดอเมริกาเหนือ โดยลดลง 0.14% สู่ระดับ 0.6215 📊💸 การเคลื่อนไหวของราคาที่ซบเซานี้สะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงเงียบเหงาก่อนเทศกาลปีใหม่ 🎉🎊 คู่เงินยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานการประชุมที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และการเคลื่อนไหวแบบผสมของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 🇺🇸🤑
**📚🔍 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน**
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงอ่อนตัวและไม่สามารถฟื้นตัวได้ เนื่องจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของ RBA ชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้กำหนดนโยบายว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังลดลงตามที่คาดการณ์ 📉💡 รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเข้มงวดของนโยบายการเงินในปัจจุบันอาจถูกผ่อนคลายลงในไม่ช้า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📅📉 ตลาดคาดการณ์ความเป็นไปได้ประมาณ 65% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะปรับลดอย่างเต็มที่ภายในเดือนเมษายน 🗓️📉
ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย Michele Bullock เน้นย้ำถึงแนวทางที่อิงตามข้อมูล โดยปฏิเสธที่จะยืนยันสถานการณ์สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📊❓ Bullock ระบุว่าคณะกรรมการไม่ได้หารืออย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และยังคงเปิดรับตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ 📈📉
**🌎💵 ด้านสหรัฐฯ** ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ดิ้นรนที่จะรักษาระดับ 108.00 📉📊 มุมมองโดยรวมของค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนโดยจุดยืนที่ระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 🚨📊 ประธาน Fed Jerome Powell เพิ่งเน้นย้ำว่าการปรับลดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการลดเงินเฟ้อ 🛑📈 นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังชี้ให้เห็นถึงนโยบายการอพยพเข้าเมือง ภาษีศุลกากร และภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ 📈💵
**📈🔧 ภาพรวมทางเทคนิค**
คู่เงิน AUD/USD ขยายการขาดทุนต่อไป เนื่องจากตัวชี้วัดทางเทคนิคยังคงอยู่ในโซนขายมากเกินไป 🛑📊 ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 27 โดยมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่อง 📉💡 แถบ MACD histogram แสดงแถบสีแดงที่แบนราบ สะท้อนถึงการขาดสัญญาณทิศทางที่ชัดเจน 🔻📊
แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 0.6200 โดยหากราคาทะลุต่ำกว่าระดับนี้ อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงเพิ่มเติมสู่ระดับ 0.6170 📉🔽 ในขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 0.6250 ตามด้วยแนวต้านที่สำคัญกว่าในระดับ 0.6280 📈🛡️ แม้ปัจจัยทางเทคนิคจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันในการขายที่จำกัด การฟื้นตัวของราคายังคงขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดและความต้องการเสี่ยงที่ดีขึ้น 📈🛍️
#AUDUSD #เทรดเดอร์ #ตลาดออสเตรเลีย #ค่าเงินดอลลาร์ #การเงิน #RBA #เทคนิคการเทรด #ข่าวเศรษฐกิจ
สัญญาณ MaChao Flip Sell SETUP#9 ใน BTCUSD อ่านอย่างไรMaChao Flip อ่านโดยใช้หลักการของ TD Sequential
เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาขึ้นโดยได้แนวคิดจาก Thomas DeMark เพื่อช่วยระบุจุดที่ตลาดมีโอกาสกลับตัว (reversal points) หรืออยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มอ่อนแรง (exhaustion).
### หลักการพื้นฐานของ TD Sequential:
TD Sequential ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก:
1. **TD Setup**
2. **TD Countdown**
---
### 1. **TD Setup**:
เป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้ม
- **เงื่อนไข**:
- ต้องมีแท่งราคา 9 แท่ง (candlesticks) ติดต่อกัน โดยราคาปิดของแต่ละแท่งจะสูงหรือต่ำกว่าแท่งที่ 4 ก่อนหน้า (ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาด)
- ตัวอย่างเช่น:
- สำหรับ **ขาขึ้น (Bullish Setup)**: ราคาปิดของแท่งที่ 2 ถึง 9 ต้องสูงกว่าราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- สำหรับ **ขาลง (Bearish Setup)**: ราคาปิดของแท่งที่ 2 ถึง 9 ต้องต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่ 4 ก่อนหน้า
- เมื่อครบ 9 แท่ง เราอาจมองว่าตลาดเริ่มอยู่ในช่วงที่อ่อนแรง (exhaustion) และมีโอกาสกลับตัว
---
### 2. **TD Countdown**:
เป็นขั้นตอนที่ใช้ยืนยันจุดกลับตัว
- **เงื่อนไข**:
- ต้องนับแท่งราคา 13 แท่งเพิ่มเติม (ไม่นับต่อเนื่องจาก TD Setup)
- แท่งที่ 13 ต้องมีราคาปิดต่ำกว่าหรือสูงกว่าราคาของแท่งก่อนหน้าที่กำหนด (เช่น จุด low สำหรับขาลง หรือ high สำหรับขาขึ้น)
- TD Countdown มีความยืดหยุ่นกว่า TD Setup และใช้เวลานานกว่า
- หากครบ 13 แท่ง ตลาดจะมีโอกาสสูงที่จะกลับตัว หรือเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเดิม
---
### ข้อสรุปที่ง่ายขึ้น:
- **TD Setup**: ช่วยบอกว่าแนวโน้มกำลังเข้าสู่จุดอ่อนแรง
- **TD Countdown**: ช่วยยืนยันว่าตลาดพร้อมสำหรับการกลับตัวแล้ว
### การใช้งาน:
TD Sequential ใช้ได้ทั้งในตลาดหุ้น, Forex, Cryptocurrency และอื่น ๆ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการระบุจุดที่ตลาดมีโอกาสเปลี่ยนแปลง เพื่อตัดสินใจซื้อหรือขายในจังหวะที่เหมาะสม.
ข้อสำคัญคือ TD Sequential ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น แนวรับ/แนวต้าน (Support/Resistance) หรือเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Averages) เพื่อความแม่นยำที่มากขึ้น.
"ทองคำปี 2025: ราคาจะพุ่งหรือร่วง? จับตานโยบายทรัมป์และ Fed!"การคาดการณ์ราคาทองคำประจำปี: ปี 2025 จะเป็นปีที่สร้างสถิติใหม่อีกครั้งหรือไม่?
* ทองคำเปล่งประกายในปี 2024 ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยม โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
* การพัฒนาในระดับภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำในปี 2025
* แนวโน้มทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้นเมื่อเข้าสู่ปีใหม่
ทองคำได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสู่สภาพแวดล้อมนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024 โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,790 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจโลก และสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาไม่ได้ อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อราคาทองคำในปี 2025
**ทองคำในปี 2024: ภูมิรัฐศาสตร์และการซื้อของธนาคารกลางขับเคลื่อนการขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่**
ทองคำเริ่มต้นปีในลักษณะที่ค่อนข้างเงียบ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ นักลงทุนเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่ ขณะจับตาดูสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และประเมินผลกระทบจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจมหภาคต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำเริ่มมีแรงขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในเดือนมีนาคม และแตะจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 2,200 ดอลลาร์ในกระบวนการนี้ ความกดดันในการขายดอลลาร์สหรัฐ (USD) การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และความต้องการทองคำจากจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของทองคำในไตรมาสแรก
ทองคำขยายแนวโน้มขาขึ้นในเดือนเมษายน และทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับฐานในช่วงครึ่งหลังของเดือน อย่างไรก็ตาม XAU/USD ปิดเดือนด้วยกำไรเกิน 2% การเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดของอัตราเงินเฟ้อจากดัชนี PCE ในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงการชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในเดือนเมษายน ซึ่งจำกัดศักยภาพการขึ้นของทองคำ
หลังจากช่วงการรวมตัวในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ทองคำกลับมาแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม และเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นสี่เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 15% และแตะจุดสูงสุดใหม่ใกล้ 2,800 ดอลลาร์ในวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนตุลาคม
**ประเมินผลการดำเนินงานของทองคำในครึ่งปีแรกของปี 2024**
“ทองคำทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้น 12% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานดีกว่าสินทรัพย์หลักส่วนใหญ่ ทองคำได้รับประโยชน์จากการซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของการลงทุนในเอเชีย ความต้องการผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงาน Gold Mid-Year Outlook 2024
**ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำในปี 2025**
1. **สถานการณ์ที่เป็นขาลง**:
- การลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการแก้ไขปัญหาวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทองคำได้รับประโยชน์อย่างมากจากความขัดแย้งเหล่านี้ในปี 2024
- การเปลี่ยนแปลงของนโยบาย Fed ที่เป็นไปในเชิง Hawkish อาจกดดันราคาทองคำในปีหน้า
- เศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในปี 2025
2. **สถานการณ์ที่เป็นขาขึ้น**:
- การดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลก อาจช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นในปี 2025
- เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- การเพิ่มขึ้นของความกลัวทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
**ความต้องการจากธนาคารกลาง**
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนทองคำในปี 2024 คือการซื้อของธนาคารกลาง
“ธนาคารกลางจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของภาพรวม การซื้อของธนาคารกลางมีแรงขับเคลื่อนจากนโยบายและยากที่จะคาดการณ์ แต่จากการสำรวจและการวิเคราะห์ของเรา ชี้ให้เห็นว่ากระแสปัจจุบันจะยังคงอยู่” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงานแนวโน้มทองคำปี 2025
**การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ**
รูปภาพทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้น ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ใกล้ 50 นอกจากนี้ XAU/USD ยังลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ระยะ 20 สัปดาห์ หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ของปีเหนือระดับดังกล่าว
โซนสนับสนุนแรกของทองคำอาจอยู่ที่ 2,530-2,500 ดอลลาร์ ซึ่งระดับ Fibonacci 23.6% และระดับจิตวิทยาตรงกัน หาก XAU/USD ลดลงต่ำกว่าพื้นที่นี้และเริ่มใช้เป็นแนวต้าน เป้าหมายขาลงถัดไปอาจอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ตามลำดับ
ในทางกลับกัน หากทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ Fibonacci expansion ระยะยาวที่เสริมด้วยระดับจิตวิทยาที่ 3,000-3,020 ดอลลาร์
**"EUR/USD เสี่ยงแตะเท่าเทียมในปี 2025 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่ง"***การคาดการณ์ราคาประจำปี EUR/USD: ความเท่าเทียมทางค่าเงินดูเป็นไปได้ในปี 2025 เมื่อช่องว่างระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรปกว้างขึ้น**
🌟 **หัวข้อสำคัญที่ควรจับตา**
- ธนาคารกลางยังคงให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจควรนำพาไปข้างหน้า
- การดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประเทศอื่น
- คู่เงิน EUR/USD มีแนวโน้มทดสอบความเท่าเทียมทางค่าเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2025
#EURUSD #เศรษฐกิจ #การเงิน
🎯 **สรุปภาพรวมปี 2024 ของคู่เงิน EUR/USD**
EUR/USD เริ่มต้นปีที่ระดับประมาณ 1.1040 และปิดใกล้จุดต่ำสุดประจำปีที่ 1.0332 โดยในเดือนกันยายน คู่เงินนี้พุ่งขึ้นสู่ 1.1213 สร้างความมั่นใจว่าเงินยูโร (EUR) จะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก 🪙 อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความหวังที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับการลดนโยบายการเงินแบบเข้มงวดจากธนาคารกลาง 🌍
#เงินยูโร #ตลาดการเงิน #การเงิน
📉 **ECB เปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน แต่ไม่ใช่เพราะเงินเฟ้อ**
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นหนึ่งในธนาคารกลางแรก ๆ ที่เปลี่ยนนโยบาย โดยในเดือนมิถุนายน ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2024 และดำเนินการลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม 📉 อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากความกลัวเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ
#ECB #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจยุโรป
📊 **แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง**
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสองปีในวันที่ 20 ธันวาคม โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และความคาดหวังด้านนโยบายทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปในปี 2025 💵 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุด เนื่องจากนโยบายลดภาษีและการกำหนดภาษีนำเข้าของทรัมป์
#ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายเศรษฐกิจ #วอลล์สตรีท
🔮 **การคาดการณ์ EUR/USD ในปี 2025**
ในปี 2025 ความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มกว้างขึ้น โดยธนาคารกลางยุโรปอาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเนื่องจากการเติบโตที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ลดลง 📉 ในทางตรงกันข้าม เฟดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า พร้อมกับปรับประมาณการการเติบโต GDP ของปี 2024 ขึ้นเป็น 2.5%
#การคาดการณ์เศรษฐกิจ #EURUSD #ปี2025
📌 **บทสรุป**
ภาพรวมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเอื้อต่อดอลลาร์สหรัฐมากกว่าเงินยูโร แม้ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จากนโยบายของทรัมป์ แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแสดงความแข็งแกร่งสูงสุดในกลุ่ม G7 นับตั้งแต่การฟื้นตัวหลังโควิด-19
#เศรษฐกิจโลก #คู่เงิน #การลงทุน
XAUUSD ทดสอบ SUPPLY ZONE ที่ 2666 จะเกิดอะไรขึ้นจากภาพ โอกาสที่จะผ่าน SUPPLY ZONE 2666 ขึ้นไปหากรอบ 2680-2686 ยังมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
แน่นอน! Demand Zone และ Supply Zone เป็นแนวคิดสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สำหรับการเทรด โดยเฉพาะในตลาดที่มีการซื้อขาย เช่น Forex, หุ้น หรือ Cryptocurrency ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนมักให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์
---
### **1. Demand Zone (โซนความต้องการ)**
**Demand Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีความต้องการซื้อ (Buy Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาลดลงไปต่ำ และมีการเด้งกลับขึ้นมา (Reversal) หรือบริเวณที่ราคาสามารถพักตัว (Consolidation) ก่อนที่จะเริ่มวิ่งขึ้นต่อได้
#### **ลักษณะของ Demand Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวรับ (Support Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาถูก" หรืออยู่ในระดับที่น่าซื้อ
- เกิดแรงซื้อที่เข้ามามากพอจะดันราคาขึ้น
- บริเวณนี้อาจมีลักษณะของแท่งเทียนที่เกิดขึ้น เช่น "Pin Bar," "Hammer," หรือ "Bullish Engulfing"
#### **วิธีการหา Demand Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาเด้งขึ้นแรงหลังจากลดลง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัว
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **2. Supply Zone (โซนความอุปทาน)**
**Supply Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีแรงขาย (Sell Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาขึ้นไปสูงและมีการกลับตัวลงมา หรือบริเวณที่ราคาพักตัวก่อนจะลงต่อ
#### **ลักษณะของ Supply Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวต้าน (Resistance Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาแพง" หรืออยู่ในระดับที่น่าขาย
- เกิดแรงขายที่มากพอจะกดดันราคาลง
- แท่งเทียนที่เกิดในบริเวณนี้อาจเป็น "Shooting Star," "Bearish Engulfing," หรือ "Doji"
#### **วิธีการหา Supply Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาลดลงแรงหลังจากขึ้นไปแตะระดับสูง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัวลง
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **การใช้งาน Demand และ Supply Zone**
1. **การตั้งค่าเข้าเทรด (Entry Point)**
- เข้า **Buy** เมื่อราคาลงมาสัมผัส Demand Zone และมีสัญญาณกลับตัว
- เข้า **Sell** เมื่อราคาขึ้นไปแตะ Supply Zone และมีสัญญาณกลับตัว
2. **การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)**
- ตั้ง Stop Loss ใต้ Demand Zone เมื่อเปิดสถานะ Buy
- ตั้ง Stop Loss เหนือ Supply Zone เมื่อเปิดสถานะ Sell
3. **การตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit)**
- ใช้โซนตรงข้ามเป็นเป้าหมาย เช่น ถ้าเข้า Buy ที่ Demand Zone ก็อาจตั้งเป้าขายที่ Supply Zone
4. **การยืนยันโซน (Zone Confirmation)**
- ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ Fibonacci ร่วมด้วยเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของโซน
---
### **ข้อควรระวัง**
- **ไม่ใช่ทุก Demand หรือ Supply Zone จะทำงานได้เสมอ**: อาจมีบางครั้งที่ราคาทะลุโซนไป (Breakout) โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
- **ตรวจสอบประวัติราคา**: โซนที่ได้รับการทดสอบหลายครั้งมักมีความแข็งแกร่งน้อยลง เนื่องจากออเดอร์ในบริเวณนั้นเริ่มหมดไป
- **หลีกเลี่ยงข่าวสำคัญ**: ข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญสามารถทำให้ Demand และ Supply Zone ล้มเหลวได้
---
การเข้าใจ Demand และ Supply Zone ช่วยให้นักลงทุนสามารถหาจุดเข้าและออกที่มีความน่าจะเป็นสูง และลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากฝึกฝนและใช้งานอย่างเหมาะสม จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในกลยุทธ์การเทรดของคุณ!
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
มุมมองทองคำ 10/12/67🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥