วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดร่วง 18.7$ เหตุดอลลาร์แข็งท่ามกลางรายงานเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านปรับตัวลดลง 18.7$ หรือ 1.04% ปิดที่ระดับ 1,783.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังเจอภาวะผันผวนจากทิศทางแรงกดดันและแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมทองคำยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจนในระยะกลางและยาวมากนัก สำหรับทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นก็เจอแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สวนทางกันไปกันมา เรียกว่าไร้ทิศทางกันเลยทีเดียว เช่นการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลลดลง 1.0% ในเดือนก.ย., ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบรายเดือนและเทียบรายปีพุ่งขึ้น 4.4%, ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 71.7 ในเดือนต.ค. จาก 72.8 ในเดือนก.ย.
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 นั่นยังไม่จบรอบใหม่นั้นยอดติดเชื้อถึงเสียชีวิตสูงกว่ารอบที่สอง ในส่วนของสหรัฐได้ออกมายืนยันว่าการป้องกันโควิดได้ดีนั้นต้องได้รับวัคซีนเท่านั้น ในส่วนผู้ที่ติดเชื้อมาก่อนแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนก็ได้
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยประเมินว่าหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีแรงขายสลับทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ ในการปรับขึ้นแต่ละครั้งของราคาทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากทุกครั้งที่มีการปรับขึ้นก็มักมีการทำกำไรจากการปรับขึ้นมาก่อนหน้า สัปดาห์นี้ยังมีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจหลายรายการที่จะทยอยออกมา โดยเฉพาะ NFP ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามรายงานดังกล่าวเพื่อที่จะติดตามการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า เฟด เกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
===========
Indicator
===========
True RSI (14) ฟื้นจากจุด Oversold แต่ยังถูกจำกัดด้วยเส้นค่าเฉลี่ย SMA20 วันในบริเวณระดับ 40
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ยังมีแนวปรับตัวลงต่ำ โดยราคายังเคลื่อนไหวใต้เส้นดังกล่าว
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1810 / 1817
-------------------------------------------
Support : 1793 / 1788/ 1782
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWNTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = DOWNTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีรายงานล่าสุด
ราคาซื้อขายล่าสุด : - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 982.14 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : -
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : - ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
วิเคราะห์ทองพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2564ทองคำซื้อขายล่วงหน้าปิดบวก 5.4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้เหตุดอลอ่อนและบอนด์ปรับต่ำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์หรือ 0.3% ปิดราคาที่ระดับ 1,798.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักลดลง 0.14% แตะที่ระดับ 93.8082 เมื่อคืนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ก็ปรับร่วงลงสู่ระดับ 1.6% เมื่อคืนนี้เช่นกัน การปรับร่วงลงของทั้งสองนั้นทำให้เป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ แต่การปรับครั้งนี้ก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด ยังมีการเทขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ จากการที่ทองคำปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้าจนทะลุระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งก่อนที่จะร่วงมาแกว่งตัวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังได้รับยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของจีนที่เพิ่มขึ้น และรวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงานตัวเลขออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เช่นยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่ลดลงไปเป็น 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.3% ในเดือนสิงหาคม
วันนี้นักลงทุนยังเฝ้าติดตามสถานการณ์การประชุมของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของธนาคารกลางของออสเตรเลีย, ธนาคารกลางสหรัฐ, ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางนอร์เวย์
นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ BoE อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว
รายงานเศรษฐกิจสำคัญวันนีัมีดังนี้
14:55 การเปลี่ยนแปลงอัตราการว่างงานเยอรมนี (ต.ค.) คาดการณ์ -20K
18:45 แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
18:45 การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ต.ค.)
19:30 ดัชนี GDP (QoQ)(Q3) คาดการณ์ 2.7%
19:30 จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก คาดการณ์ 290,000 คน
21:00 ยอดขายบ้านรอปิดการขาย (MoM) (ก.ย.) คาดการณ์ 0.5%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองฟื้นตัวจากระดับ 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายของการปรับขึ้นก่อนหน้า แต่การปรับขึ้นยังอยู่ในระดับจำกัดทำให้การเคลื่อนตัวของราคามีลักษณะออกด้านข้าง (Sideway) แกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1799-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดวันนี้ราคายังจะแกว่งตัวในกรอบจนกว่าจะถึงผลการประชุมของ ECB ที่จะมีในวันนี้อาจมีผลกระทบให้ทองคำเคลื่อนไหวได้บ้าง ให้เฝ้าติดตามในช่วงเย็นของวันนี้ หากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ทองคำก็ยังมีการขายทำกำไรออกมาเป็นระยะสั้นต่อเนื่อง แต่หากทองคำยังไม่หลุดแนวรับ 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังปรับเหนือระดับ 50 เป็นแรงสะท้อนถึงแรงซื้อที่เข้ามาในขณะนี้ ส่วนเส้น SMA20 วัดแรงซื้อขายระยะสั้นก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเหนือ 50 ทำให้มองได้ว่าทองคำระยะนี้อาจมีการปรับตัวขึ้นไปได้ในระยะสั้น
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะกลางและยาว ยังอยู่ในแนวระนาบบอกถึงการเคลื่อนไหวราคาในลักษณะออกด้านข้าง จึงยังไม่ควรลงทุนในระยะยาว แต่อาจเน้นการทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ
============
Signal
============
----------------
| BUY : 1,799 |
----------------
ซื้อทองคำที่บริเวณ 1799 หากราคาสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นมาได้ เน้นทำกำไรระยะสั้น ตัดขาดทุน 1793 ดอลลาร์ต่อออนซ์
-----------------------------
| BUY LIMIT : 1793-1788 |
-----------------------------
หากราคาย่อตัวมาในบริเวณนี้ให้รอจังหวะการกลับตัวขึ้นอีกรอบแล้วเสี่ยงเปิดซื้อได้จากแนวดังกล่าว
----------------
| SELL : 1782 |
----------------
เสี่ยงเปิด “ขาย” ใต้บริเวณดังกล่าวเมื่อราคาทะลุแนวรับลงมาได้ ทำกำไรระยะสั้นตามแผนภาพ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1788 ขึ้นไป)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1810 / 1817
-------------------------------------------
Support : 1793 / 1788/ 1782
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ซื้อเพิ่ม 3.20 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,796.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 983.01 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -7.02 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564ทองคำปรับร่วงเหตุบอนด์พุ่ง ปิดลบ 2.6 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับร่วงลง 2.6 ดอลลาร์หรือ -0.15% ปิดราคาที่ระดับ 1,765.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำยังปรับร่วงจากเหตุการพุ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับพุ่งสู่ระดับ 1.593% โดยเหตุการพุ่งนั้นยังคงผลจากเรื่องของเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นและความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับลด QE ในเดือนหน้าและปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าที่กำหนดไว้ทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจลงไปได้ อีกอย่างหนึ่งการพุ่งขึ้นของบิทคอยท์ที่พุ่งกว่า 62,000$ ก็ยังเป็นอีกเหตุผลที่ทองคำปรับตัวลงต่ำ
คืนนี้ติดตามรายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ เวลา 19:30 ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.680 M
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเช้านี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อที่ค่อนข้างจำกัดจึงยังทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนขาลงในกรอบเวลาใหญ่ (ใต้เส้น SMA200) หากราคายังไม่สามารถผ่าน 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็อาจมีแรงขายสลับทำกำไรระยะสั้นออกมา ประเมินแนวรับบริเวณ 1,765-1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเหนือระดับ 50 โดยยังมีเป้าหมายเหนือระดับ 60 และเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวในแดนลบแต่มีแนวโน้มเส้นปรับขึ้น กราฟราคาบอกแรงซื้อเข้าหนุนตลาด
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวยกตัวขึ้นเล็กน้อย ราคาปรับตัวขึ้นเหนือกว่าเส้น
============
Signal
============
-----------------------
| SELL LIMIT : 1,778 |
-----------------------
หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงรอเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณากำไรที่ 1,765 และ 1,756 ดอลลาร์ต่ออออนซ์ (ตามลำดับ) (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
-----------------------
| BUY LIMIT : 1,765-1762 |
-----------------------
รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1,765-1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรที่บริเวณ 1,773 และ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตามลำดับ) (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1778 / 1787 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1764 / 1756/ 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Nature
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,767.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 980.10 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -9.93 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2564ทองคำเมื่อสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงกราว 20 ดอลลาร์ หลังตัวเลขค้าปลีกแข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับร่วงลง 22.80 ดอลลาร์หรือ 1.27% ปิดราคาที่ระดับ 1,775.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำตลาดนิวยอร์กผันผวนพอสมควรในวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังปรับตัวขึ้นสูง จนที่สุดก็ไม่สามารถรักษาช่วงบวกของวันได้ ทองคำปรับร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดวงเงิน QE และปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดไว้ แม้การร่วงลงของทองคำนั้น ก็ยังมีแนวโน้มทำจุดพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมามากที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการ่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี
ทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ออกมาเปิดเผยยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. มากกว่ามี่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.2% หลังจากที่ดีดตัวขึ้นก่อนหน้าในเดือนส.ค.ที่ 0.9%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเช้านี้ยังแกว่งตัวในกรอบ 1773-1765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำย่อตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าว อาจมองหาโอกาสเข้าซื้อเพื่อเน้นการทำกำไรระยะสั้นที่ระดับ 1,773-1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดวันนี้ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวด้านข้างในกรอบจำกัด เพื่อรอสัญญาชี้นำราคาต่อไป
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังอยู่ในโซน SELL หากเส้นขึ้นเหนือระดับ 40 ให้มองหาจังหวะย่อของกราฟเพื่อวางแผนการเข้าซื้อ โดยเป้าหมายที่เส้นระดับ 50
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวต่ำกว่าราคาทองคำ หากราคายังรับได้ที่แนวฐานเส้นดังกล่าวก็ยังมีโอกาศปรับตัวขึ้นได้แนะนำให้หาเทคนิคการเทรดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยมาใช้ในการตัดสินการเทรด
============
Signal
============
-----------------------
| SELL STOP : 1,764 |
-----------------------
รอจังหวะราคาตัดต่ำกว่า 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อราคาดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งให้เราคอยจังหวะที่ราคากลับไปทิศทางเดิม ก็ให้หาจังหวะในการเข้าเสี่ยง “ขาย” เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1,756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับสูงกว่า 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
-----------------------
| BUY LIMIT : 1,766-1764 |
-----------------------
หากราคาทองคำย่อตัวลงมาที่บริเวณ 1,766-1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,773 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1778 / 1787 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1764 / 1756/ 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Nature
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ปรับลด 2.62 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,767.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 980.10 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -9.93 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,800 เหรียญ ราคาทองสารถทะลุแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,770 เหรียญ เป็นการยืนสัญญาณกลับตัวรูป Inverted Head and Shoulders ที่เป้าประสงค์ (Measuring Target) อยู่ที่ 1,818 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,808 เหรียญ ราคาทองคำจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคาทองคำสามารถยืนปิดเหนือ 1,808 เหรียญ ราคาทองคำระยะสั้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,770 เหรียญ
ราคาทองคำมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (iv) แบบ A-B-C โดยคลื่น (iv),C จบที่ 1,721 เหรียญ ราคาทองคำจะยืนยันการจบคลื่น (ii) เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,808 เหรียญ (ราคาทองคำเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น เนื่องจากราคาสามารถปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง) คลื่นส่ง คลื่น (iii) มีเป้าหมาย 100.0% และ 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,873 เหรียญ และ 1,967 เหรียญ ตามลำดับ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,808 – 1,818 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,781 – 1,770 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,781 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,808 เหรียญ และ 1,818 เหรียญ ตามลำดับ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,818 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,818 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในช่องแนวโน้มขาขึ้น และมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 85.19 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ตามด้วย Hanging Man ในเขตซื้อมากเกิน ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ราคาน้ำมันดิบมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นปรับตัวลดลง ราคาจะเปลี่ยนทิศปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 82.07 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 85.19 – 86.55 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 83.86 - 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 85.19 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 83.86 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 85.19 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 80.07 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 82.62 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 80.07 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆและปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 57,855 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 60,458 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกินร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น ราคามีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 53,909 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 58,336 – 59,603 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 56,561 – 55,800 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 58,336 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 56,561 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 58,336 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 54,657 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 54,657 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เปิดประเทศ
การส่งสัญญาณเปิดประเทศเพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวเดินหน้า หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.29 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิกว่า 5 พันล้านบาท ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,658 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 13 ตุลาคม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่เอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปิดบวก ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจสร้างแรงกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,639 จุด เป็นสัญญาณยืนยันการกลับตัวรูป Double Bottom ที่มีเป้าประสงค์ (Measuring Target) ที่ 1,678 จุด ดัชนีตลาดมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,618 – 1,606 จุด และมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นสลับกับการพักตัว เนื่องจากดัชนีตลาดระยะสั้นเริ่มเข้าเขตซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดระยะสั้นจึงเสี่ยงจะเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น
(ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI เคยปรับลดลงแตะ 46.3 เปอร์เซ็นต์))
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดจะจบการพักตัวเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ที่ 1,591 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,658 จุด และดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,828 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) โดยมีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,973 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านที่ 1,639 จุด ทำให้สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,658 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,652 – 1,658 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,635 – 1,627 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,770 เหรียญ เป็นการยืนสัญญาณกลับตัวรูป Inverted Head and Shoulders ที่เป้าประสงค์ (Measuring Target) อยู่ที่ 1,818 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,808 เหรียญ และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วม ราคาทองคำจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคาทองคำสามารถยืนปิดเหนือ 1,808 เหรียญ ราคาทองคำระยะสั้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,770 เหรียญ
ราคาทองคำมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (iv) แบบ A-B-C โดยคลื่น (iv),C จบที่ 1,721 เหรียญ ราคาทองคำจะยืนยันการจบคลื่น (ii) เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,808 เหรียญ (ราคาทองคำเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น เนื่องจากราคาสามารถปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง) คลื่นส่ง คลื่น (iii) มีเป้าหมาย 100.0% และ 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,873 เหรียญ และ 1,967 เหรียญ ตามลำดับ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,808 – 1,818 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,781 – 1,770 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,781 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,808 เหรียญ และ 1,818 เหรียญ ตามลำดับ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,818 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,818 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในช่องแนวโน้มขาขึ้น และมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 85.19 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ตามด้วย Hanging Man ในเขตซื้อมากเกิน ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ราคาน้ำมันดิบมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นปรับตัวลดลง ราคาจะเปลี่ยนทิศปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 82.07 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 84.78 – 85.19 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 82.75 - 81.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 85.19 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 83.24 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 85.19 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 80.07 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 80.07 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้างเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 57,855 เหรียญ และมีกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 60,458 เหรียญ และมีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 53,909 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้นในเขตซื้อมากเกินร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 58,336 – 59,603 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 55,800 – 54,657 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 58,336 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 58,338 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 54,657 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 54,657 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 13 ตุลาคม 2564IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ หนุนทองคำปิดบวก 3.6 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับเพิ่มขึ้น 3.6 ดอลลาร์หรือ 0.21% ปิดราคาที่ระดับ 1,759.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดบวกได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย การปรับลดของตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 5.9% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6% ซึ่งปัญหาของห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีผลต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนาที่มีรายได้ต่ำ และนอกจากนี้่ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำ โดยตัวเลขตำแหน่งงานว่างใหม่ (JOLTS) ออกมาเปิดเผยการรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลดลงแตะ 10.4 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่เคยทำสถิติเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ที่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่ง
สำหรับตัวเลขตำแหน่งงานว่างใหม่นั้น ธนาคารกลางสหรัฐใช้เป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต แต่ถึงแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจออกมาแย่กว่านั้น นักลงทุนก็ยังคงเชื่อมั่นว่าเฟดก็คงจะเดินตามแผนการเดิมในการปรับลดงบประมาณการทำ QE ในเดือนหน้า และการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น 1 ปี ทำให้ทองคำมีการเคลื่อนไหวรับแรงบวกได้จำกัด และไม่สามารถรักษาทิศทางการปรับขึ้นของราคาได้
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเช้าวันนี้เรายังเห็นการทรงตัวเหนือบริเวณ 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังสามารถอยู่เหนือบริเวณดังกล่าวนั้นเราก็อาจเห็นการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ทองคำยังคงมีแรงซื้อในตลาดเข้ามาจากความผันผวนในระบบเศรษฐกิจขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันที่พุ่งขึ้น และความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในช่วงภาวะถดถอย จึงยังมีแรงซื้อเข้ามา แต่ก็ยังมีแรงขายสลับทำกำไรระยะสั้นออกมาต่อเนื่องเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นก็มักมีการเทขายทำกำไรออกมา จึงควรระมัดระวังการปรับตัวขึ้นของทองคำไม่ควรเน้นการลงทุนระยะกลางหรือยาว แต่ให้เน้นโอกาสการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 50 แต่เป็นการปรับตัวในระดับจำกัด (Sideway) จึงไม่ควรเข้าทำการซื้อขายในบริเวณดังกล่าวก่อน ควรรอให้เส้นของ RSI ปรับระดับสีเป็นแดงหรือเขียว แต่ระดับของ RSI ยังคงยังตัวสูงขึ้น จึงมีโอกาสที่เราจะมองหาการทำกำไรระยะสั้นในฝั่ง BUY ได้ สำหรับเส้น SMA20 ยังปรับฐานเส้นในโซน BUY แต่มีลักษณะแนวราบค่อนข้างลดตัวต่ำเล็กน้อย จึงควรรอให้เส้น SMA20 ปรับเส้นขึ้นด้านบนก่อนหากจะมองกรอบการเข้าทำกำไรฝั่ง BUY
เส้น SMA200 ยังอยู่ต่ำกว่าระดับราคา และยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้น
MACD ยังอยู่เหนือ Zero line
============
Signal
============
สัญญาณเทรดวันนี้ค่อนข้างเสี่ยงสูงเพราะราคาอยู่ในกรอบเคลื่อนไหวออกข้าง Sideway จึงควรระมัดระวังในการเข้าตามสัญญาณดังกล่าว
-----------------------
| SELL STOP : 1,757 |
-----------------------
รอจังหวะราคาเคลื่อนตัวต่ำกว่า 1757 อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการทำกำไรระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ระดับ 1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับเหนือกว่า 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
-----------------------
| BUY LIMIT : 1,759 |
-----------------------
รอจังหวะราคาย่อตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว เป้าหมายทำกำไรระยะสั้นที่ระดับ 1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1753 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1767 / 1781 / 1795
-------------------------------------------
Support : 1752 / 1745/ 1735
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Nature
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,756.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 985.05 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -4.98 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ 1.7 ดอลลาร์เหตุจากการแข็งค่าของดอลลาร์และกังวลเฟดลด QE/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,755.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และการแข็งค่าของดอลลาร์นั้นก็กดดันให้กับทองคำปรับตัวต่ำลงมา ซึ่งกระแสดังกล่าวมาจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินงบประมาณในโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือนก.ย.ก็ตาม ซึ่งนักลงทุนก็ต้องเฝ้าติดตามเรื่องของรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำเดือนก.ย. ในวันพุธนี้ตามเวลาของสหรัฐ หรือเช้ามืดวันพฤหัสฯ ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งในรายงานดังกล่าวนั้น อาจเป็นสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดวงเงิน QE หรือ การปรับดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
----------------------------------------------------
ภาพรวมทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวต่ำ โดยหากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจเห็นการปรับขึ้นของทองคำได้ในระยะสั้น สำหรับกรอบระยะสั้นจะอยู่ระหว่าง 1,752-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวดังกล่าวอาจพอมีจังหวะให้หาจังหวะทำกำไรระยะสั้นได้ แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการเทขายทองคำสลับออกมา ประเมินแนวรับที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Indicator technical trading
------------------------------------
Indicator : True RSI
สำหรับอินดี้ที่ใช้เป็น True RSI พิจารณาในกรอบรายสัปดาห์จะเห็นได้ว่าเส้น SMA20 ได้ปรับฐานเข้าโซน SELL ระหว่าง 50-30 จึงควรให้น้ำหนักการวางแผนไปทางฝั่ง Sell เป็นหลัก เนื่องจากกรอบราคาใน TF WEEK เรายังเห็นการเคลื่อนไหวลงต่ำในกรอบสามเหลี่ยม ประเมินเป้าหมายการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไว้ที่ 1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับ TF DAILY นั้น True RSI เส้น SMA20 ยังอยู่ใน Zone Sell ระหว่าง 50-30 ยังคงแนะนำให้มองหาจังหวะการขายเป็นหลัก แม้เส้น RSI จะยกตัวขึ้นเหนือ SMA20 แต่ก็ต้องรอให้เส้นข้าม 50 ขึ้นไปก่อนและควรเป็นเส้นสีเขียวจึงจะมีโอกาสทำกำไรในทิศทางฝั่ง BUY ในระยะสั้นได้บ้าง แต่ไม่แนะนำในจังหวะสั้นๆ เพราะมันอาจทำให้เกิดการผิดพลาดจากการเทรดช่วงปรับฐานราคาระยะสั้นได้
สำหรับ TF H4 นั้น True RSI เส้น SMA20 เคลื่อนตัวลงต่ำทดสอบแนวบริเวณ 50 และเส้น RSI ปรับตัวขึ้นทดสอบเส้น SMA20 หากเส้น RSI ยังไม่สามารถข้ามเส้น SMA20 และระดับเส้น 50 ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้มองหาโอกาส Sell เป็นหลัก ไม่ควรเปิด BUY ที่เส้น RSI ยังอยู่ต่ำกว่า 50
============
Signal
============
SELL STOP : 1,759
---------------------
รอจังหวะที่ราคาปรับตัวต่ำกว่า 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้มองหาโอกาสในการเปิด “ขาย” แต่ไม่ควรเข้าเทรดที่จังหวะแรก ควรให้ราคาย้อนกลับมาที่บริเวณแนว 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบ หรือมีลักษณะของแท่ง Bullish ก่อน เมื่อราคากลับไปในทิศทางเดิมหรือเกิด Bearish อีกครั้งแต่ไม่สูงกว่า 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับขึ้ันสูงกว่า 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
BUY STOP : 1,769
----------------------
รอจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่ควรเข้าซื้อในจังหวะแรก ให้รอแท่ง bearish ก่อน หากเกิดแท่ง bearish แล้วไม่หลุดต่ำกว่าแนวเข้า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วมีการปรับขึ้นตามทิศทางเดิมอีกครั้งให้เสี่ยงเปิด “ซื้่อ” เหนือบริเวณ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
……………………………………………………………………………………………………………
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1767 / 1781 / 1795
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1735/ 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Nature
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,756.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 985.05 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -4.98 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง ราคาทองคำระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,746 – 1,781 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลขาดทิศทางที่ชัดเจน การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น จึงควรใช้กรอบนี้เป็นจุดซื้อ - จุดขาย ราคาทองคำเคลื่อนตัวออกด้านในแนวโน้มขาลง
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,762 – 1,769 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,746 – 1,737 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,765 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,781 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,746 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,746 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,733 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,765 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้นและปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 85.19 จุด แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนบนที่สะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 80.75 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 85.19 – 86.55 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 83.24 - 82.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 85.19 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 83.24 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 85.19 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 80.92 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 80.92 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้นและทำราคาสูงที่ 57,855 เหรียญ แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 52,956 เหรียญ เป็นการพักตัวเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากราคาบิทคอยน์เคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 58,336 – 59,603 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 55,800 – 54,657 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 54,657 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 54,657 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 57,855 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 57,855 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปรับพุ่งหลัง NFP ก่อนปรับร่วงมาปิดลบ 1.8 ดอลลาร์/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,754.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำนิวยอร์กนิวยอร์กปรับพุ่งหลัง NFP รายงานตัวเลขต่ำกว่าวคาดการณ์เพียงชั่วโมงเดียวก่อนปรับร่วงจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่พุ่งสู่ระดับ 1.603% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแต่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-farm Payroll : NFP) เดือนก.ย.ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยตัวเลขดังกล่าวรายงานที่ 194,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 500,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าเดือนส.ค. 172,000 ตำแหน่ง แม้ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์มากจนทำให้กราฟทองคำขยับขึ้นในช่วงต้นข่าวนั้น ก็ไม่ได้อาจทำให้ตลาดมีความเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะยกเลิกหรือชะลอการตัดสินใจในการปรับลดวงเงินโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE และการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมแต่อย่างใด เนื่องจากตัวเลขอัตราการว่างงานที่ออกมาก็ยังมีภาพรวมที่ดีขึ้นจาก โดยตัวเลขอัตราว่างงานปรับลดน้อยลงที่ระดับ 4.8% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 5.1% และต่ำกว่าเดือนส.ค. ที่ระดับ 5.2% ภาพรวมของแรงงานในตลาดสหรัฐยังผลในเชิงบวก จึงยังพอเป็นปัจจัยและเหตุผลให้เฟดยังคงดำเนินการเดินหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไป ทองคำจึงปรับตัวร่วงลงหลังการพุ่งขึ้นไประดับ 1782.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
----------------------------------------------------
ภาพรวมทองคำเช้าวันนี้นั้นทองคำปรับตัวขึ้นจากการฟื้นตัวหลังดิ่งหนักกว่า 26.9 ดอลลาร์ และผลจากการให้สัญญาณเทรดไปทำให้ Order buy ที่ 1770 ดอลลาร์ได้ถูกเปิดทำงานและปิดทำกำไรไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ระดับเป้าหมายที่ 1782 ยังไม่สามารถปิดกำไรได้ ภาพรวมทองคำเช้านี้หากยังยืนเหนือระดับ 1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็ยังเป็นโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นในระยะสั้นได้ ประเมินแนวต้านที่ระดับ 1767 และ 1781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนืดระดับแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็อาจเห็นการขายทองคำสลับออกมาเพื่อทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน ทองคำยังมีภาพการแกว่งตัวด้านข้าง Sideway จึงยังไม่ควรลงทุนในระยะกลางหรือยาวในช่วงจังหวะนี้ แต่ให้ทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในบริเวณแนวรับและแนวต้านสำคัญๆ ไปก่อน วันนี้ไม่มีตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ
…………………………………………………………………………………………………………….
============
Signal
============
สัญญาณเทรดวันนี้มีชุดเดียว เนื่องจากผมมองว่าตลาดวันนี้ยังคงรับแรงขายได้อีก หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับตัวขึ้น
SELL LIMIT : 1,767
---------------------
หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรตามกรอบการทำกำไรแนบมาให้ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวสูงกว่า 1776 ดอลลาร์ต่อออนซ์
……………………………………………………………………………………………………………
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1767 / 1781 / 1795
-------------------------------------------
Support : 1752 / 1745/ 1735
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : (เสาร์) ขายออก -1.49 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,756.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 985.05 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -4.98 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลงที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ค่าเงินปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากค่าเงินเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.36385 - 1.36650 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.35799 – 1.35433
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1.36385 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36650 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.35799
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.35799 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.35433 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.36385
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisEURUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน EURUSD แกว่งตัวแคบๆหลังค่าเงินปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1.15291 แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer ในเขตขายมากเกินร่วมกับเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาลง สัญญาณ DMI แสดงถึงตลาดขาลง ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ค่าเงินปรับตัวขึ้นเข้าหาแนวต้านของจุดต่ำเก่าที่ 1.16639 เพื่อปรับฐาน เนื่องจากค่าเงินเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน EURUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.15928 – 1.16185 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.15500 – 1.15291
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.15928 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.15291
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อค่าเงินปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1.16185 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.15928 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.16185
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง แท่งเทียนมีลักษณะเป็น Long Legged Doji ที่สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง ราคาทองคำแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,721 – 1,787 เหรียญ สอดคล้องกับสัญญาณทางเทคนิคัลขาดทิศทางที่ชัดเจน การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น จึงควรใช้กรอบนี้เป็นจุดซื้อ - จุดขาย ราคาทองคำเคลื่อนตัวออกด้านในแนวโน้มขาลง
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,766 – 1,776 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,746 – 1,737 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,769 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,746 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,746 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,733 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,769 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 84.22 เหรียญ แท่งเทียนเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Bearish Engulfing ตามด้วย Shooting Star ในเขตซื้อมากเกิน และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 80.75 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 84.22 – 85.61 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 82.07 - 80.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 84.22 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 84.22 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 80.92 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 82.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 80.92 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้างในลักษณะของการจำหน่ายจ่ายแจก (Distribution) ระหว่างการซื้อขายบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นทำราคาสูงที่ 56,561 เหรียญ และทำราคาต่ำที่ 51,000 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Legged Doji สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง ภาวซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 56,168 – 57,389 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 53,952 – 52,956 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 56,168 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 57,389 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 53,952 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 53,952 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 52,956 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 56,168 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
มีลุ้น
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,639.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.29 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,658 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม ตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย หลังตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าที่คาด บวกกับความกังวลว่าเฟดจะปรับลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตร
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,639 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันสัญญาณกลับตัวรูป Double Bottom เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,639 จุด สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวขึ้น หลังดัชนีตลาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูป Descending Triangle เส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,615 – 1,604 จุด และมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีจุดสูงเก่าทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,658 จุด
(ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI เคยปรับลดลงแตะ 46.3 เปอร์เซ็นต์))
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,658 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด เป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,973 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อหากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,639 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,647 – 1,658 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,630 – 1,621 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity






















