Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวโน้มบวกเริ่มมา
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้น PTT, CPALL และ PTTEP หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,631.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.95 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1,372 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสดบีที่ 16 กันยายน ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับลดลง ขณะที่แนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มวัสดุปรับตัวลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ หลังดัชนีปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม (1,605 – 1,591 จุด) สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,640 – 1,648 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานร่วงหนักกว่า 38.1 ดอลลาร์หลังรายงานเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง
ทองคำปรับร่วงอีก 1 วัน หลังทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทางคำปรับร่วงลงหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐออกมาเช่น
1.ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) เทียบรายเดือนของเดือนส.ค. ออกมา 1.8% สูงกว่าที่คาดาการณ์ระดับ -0.1%
2.ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย. สู่ระดับ 30.7 จากคาดการณ์ 18.8
3.ดัชนียอดขายปลีกเทียบรายเดือนของเดือนส.ค. สู่ระดับ 0.7% จากคาดการณ์ -0.8%
4.จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเทียบรายสัปดาห์สู่ระดับ 332,000 คน จากคาดการณ์ 330,000 คน
ตัวเลขที่ออกมาแข็งแกร่งทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาปิดบวกที่ระดับ 92.866 หรือ +0.393 (+0.42%) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 1.339 หรือ +0.035 (+2.68%) การปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งของ 2 ปัจจัยจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทองคำปรับตัวร่วงลงต่ำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 38.1 ดอลลาร์ หรือ 2.12% สู่ระดับ 1,756.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจัยกระทบต่อทองคำที่นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามต่อคือ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. นี้ เพื่อติดตามหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
สำหรับกลยุทธ์การเทรดวันนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวต่ำจากการเทขายทำกำไรในรอบสั้นๆ ได้อีกรอบโดยมีเป้าหมายแนวรับประเมินที่ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนอาจมองหาโอกาสในการเข้าซื้อทองคำได้ที่บริเวณดังกล่าวเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวต่ำลงมาบริเวณแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำในบริเวณ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ โดยให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1769 / 1783 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1731 / 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : เข้าซื้อทองคำ 1.46 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,753.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 999.92 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 6
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -1.80 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน แรงขายทำกำไรระยะสั้นกดราคาทองคำปรับตัวลง ราคาทองแกว่งตัวออกด้านข้างเหนือแนวรับที่ 1,780 – 1,774 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยม Descending Triangle โดยมีเส้นแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้าน
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,803 – 1,813 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,784 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,784 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,780 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,794 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันเคลื่อนตัวตามแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากราคาสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) ราคาน้ำมันดิบมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 77.05 เหรียญ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 78.35 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 76.65 – 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 74.87 - 73.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.05 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 74.87 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 77.05 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.65 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 77.05 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 47,419 เหรียญ หลังราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 42,900 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ระยะสั้นราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่เกิดจากกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 49,792 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 49,100 - 50,520 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 47,123 - 46,368 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 49,100 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 47,419 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 50,520 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 49,100 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 50,520 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะพักตัว
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ เหนือแนวรับของช่องว่างที่ 1,621 – 1,611 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้น PTT, INTUCH และ ADVANC หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.29 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 667 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 15 กันยายน ปิดตลาดในแดนบวก จากตัวเลขการผลิตที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง กระตุ้นนักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังดัชนีปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม (1,605 – 1,591 จุด) สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,636 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,619 – 1,611 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้หลุด 1,800 ดอลลาร์หลังนักทุนแห่ขายทำกำไร
ทองคำร่วงหลุดต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังนักลงทุนเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการปรับขึ้นของทองคำก่อนหน้านี้ โดยสัญญาทองคำตาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.67% สู่ระดับ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำได้ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้หลังได้รับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ นักลงทุนมองว่าแนโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทำการปรับลดวงเงิน QE นั้นอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ดอลล่าร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ก่อนหน้าได้ขยับขึ้นไปถึง 1.316% แต่ก็ปรับร่วงลงมาอีกครั้ง จึงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมานั่นเอง
แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาทำให้นักลงทุนได้มีการเทขายทำกำไรจากการที่ทองคำปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ทองคำร่วงหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเช้านี้ทองคำยังไม่ปรับตัวหลุดแนว Fibo 61.8% ก็ยังพอมีลุ้นการกลับขึ้นมาทดสอบ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ใหม่อีกครั้งได้หรือไม่ สำหรับวันนี้ตัวเลขสำคัญ ๆ ได้แก่ GDP ของนิวซีแลนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย GDP ออกมา 2.8% จากคาดการณ์ 1.5% ทำให้ NZD ปรับตัวขึ้น ส่วนถัดไปคือเวลา 08:30 ตามเวลาประเทศไทยก็จะมีข่าวของออสเตรเลียการเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน คาดการณ์ไว้ที่ -70.0K สำหรับข่าวเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐที่สำคัญคืนนี้ได้แก่ ยอดขายปลีกพื้นฐาน (Core retail sale) คาดการณ์ -0.1%, จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์) คาดการณ์ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 310,000 คน, ดัชนีภาคการผลิตธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย คาดการณ์ 19.0, และดัชนียอดขายปลีก คาดการณ์ -1.0% โดยจะรายงานเวลา 19:30 น.ตามเวลาประเทศไทย
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำกรอบเวลารายชั่วโมงเช้านี้กลับมาอยู่ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ Fibo 61.8% (1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับ Fibo 38.2% (1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์) อาจมีการปล่อยขายทำกำไรจากการปรับขึ้นของทองคำก่อนหน้าอีกรอบ ประเมินแนวรับที่ 1,787 และ 1784 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือบริเวณ Fibo 61.8% (1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์) อาจเสี่ยงเปิด”ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากหลุดขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำที่แนวต้านบริเวณ 1,802-1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวดังกล่าวขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1798 / 1802 / 1809
-------------------------------------------
Support : 1792 / 1787 / 1781
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ปล่อยขายทำกำไร -1.75 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,793.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.46 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 5
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.26 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำดีดตัวขึ้นปิดในแดบวก หลังราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,780 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยม Descending Triangle ราคาทองคำจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 1,823 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,780 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,813 – 1,823 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,793 – 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,804 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,823 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,770 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,804 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 74.60 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 74.82 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.61 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 75.23 – 76.23 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 73.53 - 72.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 74.82 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.23 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 73.61 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.61 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 72.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 74.82 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก ราคาแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 42,900 – 47,419 เหรียญ ราคาบิทคอยน์จะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 47,419 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 42,900 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 47,419 - 48,782 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,893 - 44,875 - ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 48,782 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 45,893 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 48,782 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 47,419 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48,782 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐานเพื่อรอสัญญาณบวก
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้น DELTA ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และนักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 14 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ แนวโน้มตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้เฟดปรับลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,640 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,615 – 1,604 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 15 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์ปรับบวกขึ้นเหนือ $1,800 อีกครั้งหลัง CPI ต่ำกว่าคาดการณ์
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดปรับบวกอีกครั้ง หลังรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI เดือนส.ค. จะออกมาที่ระดับ 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน แต่ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ส่วนดัชนี CPI รายปี ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% ในส่วนของดัชนี CPI พื้นฐานไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI) เทียบรายปีปรับขึ้น 4.0% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2% รายงานดังกล่าวส่งผลต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เป็นแรงหนุนให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง (เหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA200 ในกรอบเวลารายชั่วโมง)
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์ (+0.71%) ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,807.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความผันผวนของตลาดการเงินและทองคำเมื่อคืนทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดที่ระดับ 92.660 กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยก่อนปิดตลาด +0.047 (+0.05%) ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 1.284 หรือ -0.044(-3.31%) การอ่อนค่าของทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ ก็ต้องมาติดตามกันต่อว่าราคาทองคำจะรักษาระดับเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ ทั้งนี้นักลงทุนยังต้องเฝ้าติดตามการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 21-22 กันยายน ที่จะถึงนี้ เพื่อเฝ้าหาสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา นักลงทุนยังคาดว่าเฟดอาจจะต้องชะลอการตัดสินดังกล่าวออกไปก่อน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำรายชั่วโมงวันนี้ยังคงเห็นการทรงตัวเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่เมื่อวานได้ Breakout ขึ้นมาได้อีกครั้ง ทั้งนี้หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับราคาดังกล่าวได้เราก็ยังมีโอกาสเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,808-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถรักษาระดับการทรงตัวเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ประเมินแนวรับจะอยู่ที่ 1,798-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับตัวลดลงมาทรงตัวที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,808, 1,815 และ 1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position: รอขายทองคำที่แนวต้านบริเวณ 1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวดังกล่าวขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1808 / 1819 / 1825
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1798 / 1791
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,793.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,000.21 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -1.51 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ราคาทองคำแกว่งตัวเหนือแนวรับที่ 1,780 เหรียญ และ 1,774 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 1,802 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,783 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,803 – 1,810 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,780 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,816 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,783 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,774 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 74.60 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 74.60 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 71.35 เหรียญ การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจึงควรใช้กรอบนี้เป็นจุดซื้อ - จุดขาย
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 75.23 – 76.23 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 73.53 - 72.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 74.60 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 75.23 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 73.53 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.53 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 72.88 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 74.60 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 42,900 – 47,419 เหรียญ ทำให้ราคาบิทคอยน์มีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง บิทคอยน์จะมีทิศทางปรับตัวขึ้นราคาต้องไม่ปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 42,900 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 46,039 - 47,419 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 44,125 - 43,400 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 44,125 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,039 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 44,125 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 46,039 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 45,065 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 46,039 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวปิดช่องว่าง 1,621 – 1,611 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบและปิดที่ 1,633.16 จุด ลดลง 1.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวก่อนปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 13 กันยายน ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน WTI ถีบตัวขึ้นยืนเหนือ 70 ดอลลาร์สรอ./บาร์เรล
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดสแกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางปรับตัวลง เข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,642 – 1,650 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,615 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 14 กันยายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กปรับบวกเล็กน้อย 2.3 ดอลลาร์ เหตุกังวลไวรัสเดลต้า
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดปรับบวกอีกครั้ง เมื่อนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์เดลต้าที่ยัง แต่ราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในเวลานี้เกิดจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ (+0.13%) ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,794.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐในค่ำคืนวันนี้ (รายงาน CPI คือหนึ่งในเครื่องมือที่ทางธนาคารกลางสหรัฐนำไปใช้เป็นเครื่องมือวัดอัตราเงินเฟ้อ) สำหรับการประชุมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. นี้ นักลงทุนก็ยังเฝ้าจับหาสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐต่อไป
กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม 2.04 ตัน ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อราคาทองคำหลังกองทุน SPDR ทะยอยปล่อยขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
สำหรับทองคำรายชั่วโมงวันนี้หากราคายังไม่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นสูงได้ระยะสั้นในกรอบเดิม เนื่องจากวันนี้มีการประกาศตัวเลข CPI จึงคาดว่าทองคำคงเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,798-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับสัญญาณเทรดวันนี้ที่วางไว้นั้นเป็นสัญญาณเทรดที่คาดการณ์หลังตัวเลขประกาศออกมา จึงอยากให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้สัญญาณดังกล่าว เนื่องจากวันนี้อาจมีความผันผวนพอสมควร จึงควรวางระยะตัดขาดทุนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายต่อการเข้าเทรดตามสัญญาณดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าวลงไป ให้เสี่ยเปิด “ซื้อ” ทำกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำที่แนวต้านบริเวณ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ โดยให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถลงต่ำกว่า 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านลงไปได้นั้นให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,786 และ 1784 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1796 / 1803 / 1811
-------------------------------------------
Support : 1787 / 1782 / 1776
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : เข้าถือครองเพิ่มเติม 2.04 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,793.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,000.21 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -1.51 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
****สัญญาณการเทรดเป็นเพียงเครื่องมือแบ่งปันแนวคิดต่อการลงทุน ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น ผู้นำไปใช้ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง ผู้ส่งสัญญาณมิได้เชิญชวนหรือชักนำแต่อย่างใด จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นต่อความเสียหายของผู้ลงทุนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ราคาทองคำแกว่งตัวเหนือแนวรับที่ 1,780 เหรียญ และ 1,774 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 1,802 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,783 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,794 – 1,803 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,780 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,780 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,794 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,780 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,803 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวน และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 74.60 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 71.35 เหรียญ การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจึงควรใช้กรอบนี้เป็นจุดซื้อ - จุดขาย
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.27 – 75.10 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.88 - 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.27 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.88 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 74.60 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 73.53 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 74.60 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาระยะสั้นแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 43,935 – 47,419 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง บิทคอยน์จะมีทิศทางปรับตัวขึ้นราคาต้องไม่ปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 43,935 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 47,419 - 48,049 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,355 - 44,436 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 48,049 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 45,550 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 45,550 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44,436 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 47,419 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะพักตัวเพื่อปรับฐาน
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,635.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 716 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 10 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากแรงเทขายที่มีออกมา นักลงทุนวิตกกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจกดดันให้เฟดปรับลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด แท่งเทียนมีเงาส่วนล่างขนาดยาว สะท้อนถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามา สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลง ดัชนีมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,646 – 1,653 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,615 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564ตลาดทองคำปิดตลาดเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมากลับมาร่วง -7.9 ดอลลาร์ เหตุความผันผวนของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังแข็งแกร่งอยู่
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมายังปรับตัวต่ำต่อเนื่อง โดยราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 ได้
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับลดลง -7.9 ดอลลาร์ (-0.44%) ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,792.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เหตุทองคำร่วงปัจจัยหลักๆ ก็มาจากการปรับตัวแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้น +0.119(+0.13%) ปิดระดับที่ 92.640 ซึ่งแข็งค่ากว่า 6 สกุลเงินหลักในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และยังสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี นั้นก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันโดยปรับเพิ่ม +0.042(+3.23%) ปิดที่ระดับ 1.344 จึงเป็นเหตุกดดันราคาทองคำให้ร่วงลง
ทั้งนี้นักลงทุนยังเทขายทองคำหลังมีรายงานว่าผู้นำสหรัฐและจีนหารือกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. และเป็นครั้งที่ 2 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนับตั้งแต่เขาเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนม.ค. โดยทำเนียบขาวได้เปิดเผยว่าผู้นำทั้งสองหารือเกี่ยวกับความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งจะนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ และในส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. ชะลอลงหลังจากพุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ค.
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้อาจเคลื่อนไหวในกรอบ ตารางข่าวสำคัญๆ วันนี้ไม่มีอะไร หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตวขึ้นเหนือ 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราก็อาจเห็นการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาเรื่อยๆ แต่ยังมีแนวรับสำคัญที่ทองคำยังติดแนวอยู่ที่ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าหากผ่านแนวรับนี้ได้ก็มีลุ้นว่าจะมีการทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับเดิม 1,782.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้นั้นประเมินแนวรับถัดไปที่ระดับ Fibo 127.2% (1,777.19) และ 161.8%(1,770.76)
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาลงมาที่บริเวณดังกล่าวและสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคายังไม่สามารถผ่าน 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำหากยังไม่สามารถขึ้นเหนือระดับ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรที่ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,789 ดอลลาร์ต่อออน์)
Signal
สำหรับสัญญาณการเทรดวันนี้ในส่วนของ Sell Stop ยังเป็นสัญญาเดิมของสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากราคายังเคลื่อนไหวในเป้าหมาย ในวันนี้เรามีสัญญาณเทรดใหม่ที่ความเสี่ยงสูงเปิดรอ BUY ที่ 1,782 หากราคาไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ในรอบก็มีแนวโน้มปรับขึ้นเพื่อปรับฐานราคาได้อีกรอบ
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1796 / 1801 / 1808
-------------------------------------------
Support : 1782 / 1777 / 1770
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,794.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.17 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.55 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564ทองคำนิวยอร์กกลับมาปิดบวกอีกรอบหลังร่วงต่ำสุด รับปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปิดบวกอีกครั้ง ปัจจัยหนุนทองคำยังคงเป็นการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ทำให้ราคากลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับราคา 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่เกิดจากการปรับฐานราคาชั่วคราว
ข้อมูลแรงงาของสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทองคำไม่ขยับตัวขึ้นได้มาก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 310,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 18 เดือน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
สำหรับทองคำวันนี้เรามาดูในกรอบราย 4 ชั่วโมง หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นออกมากันอีกรอบ ประเมินแนวรับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาทองคำกลับมาบริเวณ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เ้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อราคามาที่บริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำหากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1807 / 1812
-------------------------------------------
Support : 1789 / 1786 / 1782
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ปรับลดการถือครอง -0.35 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,794.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.17 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.55 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต