Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ราคามีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 44,400 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก แรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นที่กลับเข้ามา ทำให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้น และจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อเมื่อราคายืนปิดเหนือ 44,400 เหรียญ ราคาเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าที่ 39,573 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,893 - 46,039 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 42,596 – 41,573 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 44,400 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,039 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 42,596 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 42,596 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,573 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 44,893 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ลุ้นยืนเหนือ 1,591 จุด
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ธนาคารและพลังงาน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,605.58 จุด ลดลง 11.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,591 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงทั้ง 3 ดัชนีหลัก นักลงทุนนำหุ้นออกเทขาย จากความวิตกว่าเฟดจะปรับลดวงเงินที่เข้าซื้อพันธบัตร และตัวเลขเงินเฟ้อจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,601 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1,591 จุด และมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,639 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 46.5 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,616 – 1,626 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,595 – 1,585 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงินดอลลาร์สรอ.ที่แข็งค่ากดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,724 เหรียญ กรณีราคาทองคำไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,717 เหรียญ ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,681 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลง ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสลับกับการปรับตัวลง เนื่องจากราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,734 – 1,742 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,717 – 1,707 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,717 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,734 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,717 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,734 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,717 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับที่ 78.35 เหรียญ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทำราคาสูงที่ 80.92 เหรียญ แท่งเทียนเกิดสัญญาณปลายตลาดขาขึ้นรูป Harami ขาขึ้นในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมาก ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 79.56 – 80.60 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 77.59 - 76.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 79.56 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 76.83 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 76.83 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) ภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าที่ 39,573 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ การปรับตัวลดลงแรงของตลาดหุ้นนิวยอร์กจะทำให้เกิดการไถ่ถอนเงินลงทุน ทำให้ราคาบิทคอยน์เสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ราคาบิทคอยน์จึงมีโอกาสปรับตัวลง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 42,154 - 43,162 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 40,596 – 39,573 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,596 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 42,154 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 39,573 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,596 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 39,573 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แกว่งตัวออกด้านข้าง
แรงซื้อเก็งกำไรและการข้าวของต่างชาติเพื่อทำ Cover Short หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,616.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.28 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap”
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 29 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากแรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไร ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นเทคโนโลยี
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,604 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,639 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,626 – 1,635 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,606 – 1,595 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงินดอลลาร์สรอ.ที่แข็งค่ากดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ แท่งเทียนมีลักษณะเป็น Falling Three Methods ซึ่งเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,728 เหรียญ และ 1,681 เหรียญ ตามลำดับ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลง ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,728 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,742 – 1,750 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,724 – 1,717 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,724 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,742 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,724 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,740 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,724 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 80.92 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้น สะท้อนถึงแนวต้านและสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมาก ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 79.56 – 80.60 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 77.59 - 76.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 79.56 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 76.83 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 76.83 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) ภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าที่ 39,573 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ การปรับตัวลดลงแรงของตลาดหุ้นนิวยอร์กจะทำให้เกิดการไถ่ถอนเงินลงทุน ทำให้ราคาบิทคอยน์เสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ราคาบิทคอยน์จึงมีทิศทางปรับตัวลง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 42,154 - 43,162 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 40,596 – 39,573 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,596 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 42,154 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 39,573 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,596 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 39,573 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisEURUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน EURUSD ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ค่าเงินมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1.16639 สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ค่าเงินระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อปรับฐาน ค่าเงินจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากค่าเงินไม่สามารถยืนปิดปิดเหนือ 1.16639 ค่าเงินเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน EURUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.17033 – 1.17204 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.16639 – 1.16279
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16639 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.17033
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.16639 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16833 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.16639
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD ทรุดตัวลงแรง ค่าเงินเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของลำตัว ค่าเงินหลุดแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1.36021 ทำให้ค่าเงินมีทิศทางปรับตัวลงต่อ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ค่าเงินระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล เป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากค่าเงินเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.35720 - 1.36103 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.34879 – 1.34576
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36021 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.35338
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อค่าเงินปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1.36021 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.35338 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.36103
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯผวาเงินเฟ้อ
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,616.50 จุด ลดลง 3.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.86 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมานำซื้อสุทธิ ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลมีทิศทางไปในทางลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 28 กันยายน ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทรุดตัวลง 2 เปอร์เซ็นต์ จากการตื่นขายของนักลงทุน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถูกคุกคามจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,631 – 1,619 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ตามรูปแบบของการเกิด “Common Gap” โดยมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,6023 จุด และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,598 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,626 – 1,637 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,606 – 1,595 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าที่ 39,573 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ แท่งเทียนเกิดเป็น Doji สะท้อนถึงแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,436 - 45,159 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 42,699 – 41,689 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44,436 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 42,699 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 45,159 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 43,538 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 45,159 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisEURUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน EURUSD แกว่งตัวลงแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1.16639 และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ค่าเงินระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อแกว่งตัวออกด้านข้าง ค่าเงินจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากค่าเงินไม่สามารถยืนปิดปิดเหนือ 1.16639 ราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน EURUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.17088 – 1.17264 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.16743 – 1.16639
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16743 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.17088
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.16639 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16955 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.16639
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1.36021 และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ค่าเงินระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง ค่าเงินจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากค่าเงินไม่สามารถยืนปิดปิดเหนือ 1.36021 ราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.37109 - 1.37292 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.36663 – 1.36411
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.37109 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.36663
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อค่าเงินปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1.37292 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.37109 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.37292
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด
แรงเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,620.02 จุด ลดลง 11.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.34 แสนล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลชี้ว่าดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 27 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มที่รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปรับตัวลดลงจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ดัชนีฟิวเจอร์สเกิดช่องว่างขาลงและขาขึ้น และปิดช่องว่างโดยสมบูรณ์ (Complete Filling the Gap) ช่องที่เกิดขึ้นเป็นช่องว่างแบบ “Common Gap” ซึ่งจะเกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ดัชนีมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,610 – 1,597 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI รอบนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 46 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) เนื่องจากเกิด Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,631 – 1,639 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,611 – 1,601 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกหลังร่วงหนักเมื่อวันศุกร์
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกอีกครั้งหลังร่วงหนักช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้น โดยปัจจัยมาจากความวิตกเกี่ยวกับการที่จีนทำการกวาดล้างธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน ทำให้เกิดแรงกระตุ้นนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากเหตุดังกล่าว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดบวกเพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.11% โดยปิดที่ระดับ 1,751.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำระยะนี้นั้นถือว่ายังผันผวนในแดนลบ หากทองคำยังไม่สามารถปรับฐานสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้นั้น แนวโน้มยังคงเห็นทิศทางขาลงแม้ในระยะสั้นอาจเห็นการปรับฐานขึ้นเป็นช่วงๆ แถวๆ แนวต้าน 1,760, 1775, 1,786 และ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากพิจารณาดูในกรอบเวลาใหญ่นั้นเราจะเห็นได้ว่าการปรับขึ้นของทางคำนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวไกลเพื่อให้เป็นการปรับขึ้นที่สมบูรณ์เราประเมินแนวต้านระยะกลางไว้ที่ 1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากผ่านแนวต้านนี้ได้นั้นละเราถึงจะมองว่าทองคำเริ่มมีนัำหนักกลับมาทางฝั่งขาขึ้นอีกครั้ง สำหรับการปรับขึ้นเป็นช่วงระยะสั้นนั้น ยังไม่ใช่เป็นการปรับขึ้นแต่เป็นช่วงการปรับฐานราคาเสียมากกว่า โดยหากวันนี้ทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือ 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเห็นการปรับตัวต่ำได้อีกครั้ง ทั้งนี้วันนี้หากตลาดหุ้นเปิดรับความเสี่ยงได้ ดอลลาร์อาจถูกเทขายออกมาจากการเข้าซื้อก่อนหน้า ทำให้มีโอกาสที่ดอลลาร์จะปรับตัวต่ำได้เช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นแรงหนุนตลาดทองคำได้อีกวันหนึ่งในวันนี้ ฉะนั้นแนวต้านที่ควรให้ความสนใจคือ 1,762 และ 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากผ่านแนวดังกล่าวก็มีโอกาสที่ทองคำจะปรบตัวสูงขึ้นในระยะสั้นอีกวันหนึ่ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1,745-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถตรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,762-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว พิจารณาปิดทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณ 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขยับสูงกว่า 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1768 / 1776 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1752 / 1746 / 1738
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ซื้อเพิ่มที่ 0.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,750.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 993.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 10
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -8.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,728 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลง หรือแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,728 – 1,787 เหรียญ และมีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,681 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,758 – 1,768 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,740 – 1,732 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,758 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,740 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,758 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,732 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,740 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,732 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 78.35 เหรียญ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ราคาทองคำเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากราคาสร้างจุดต่ำยกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 79.56 - 80.60 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 77.59 – 76.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 79.56 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 77.59 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 79.56 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 78.20 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 79.56 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนล่าง (Lower Shadow) สะท้อนถึงการเกิดแนวรับ แรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไรจะหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,436 - 45,159 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 42,699 – 41,689 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44,436 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 42,699 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 45,159 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 43,538 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 45,159 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD ปรับตัวลดลง และเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1.36021 และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ค่าเงินระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อแกว่งตัวออกด้านข้าง ค่าเงินจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากค่าเงินไม่สามารถยืนปิดปิดเหนือ 1.36021 ราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.36930 - 1.37194 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.36285 – 1.35910
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36285 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.36930
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.35910 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36285 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.35910
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisEURUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน EURUSD แกว่งตัวลงแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1.16639 และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ค่าเงินระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อแกว่งตัวออกด้านข้าง ค่าเงินจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากค่าเงินไม่สามารถยืนปิดปิดเหนือ 1.16639 ราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน EURUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.17476 – 1.17655 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.17007 – 1.16843
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.17007 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.17476
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.16843 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.17007 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.16843
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ไล่ซื้อแบงก์เพื่อทำ Cover Short
ธนาคารไทยพาณิชย์ส่งสัญญาณปรับโครงสร้างธุรกิจ กระตุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร แรงซื้อส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่ต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นแบงก์เพื่อทำ Cover Short เนื่องจากขายล่วงหน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,631.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.4 แสนล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท รูปแบบ Common Gap ชี้ว่าดัชนีตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวัศุกร์ที่ 24 กันยายน ดัชนีดาวโจน์และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลง ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทสล่าและเฟซบุ๊คที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นไนกี้ปรับตัวลดลง ระยะสั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กมีความเสี่ยง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (1,619 – 1,631 จุด) การเกิดช่องว่างทั้งขาลง - ขาขึ้น และปิดช่องว่างโดยสมบูรณ์ (Complete Filling the Gap) ช่องที่เกิดขึ้นเป็นช่องว่างแบบ “Common Gap” ซึ่งจะเกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวก แรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นก่อนที่จะพักตัวเพื่อปรับฐาน หรือแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบ Common Gap
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI รอบนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 46 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร ดัชนีตลาดดีดขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) เนื่องจากเกิด Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,639 – 1,647 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,614 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity