Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐาน
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังแบงก์ชาติส่งสัญญาณปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,523.93 จุด ลดลง 11.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.26 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 548 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (11/2) ปิดตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อย ประธานเฟดชี้เร็วเกินไปที่จะสรุปว่าโคโรนาไวรัสสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจอเมริกา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick หลังดัชนีปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ที่ 1,546 – 1,569 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม แท่งเทียนเกิดเป็น Stalled pattern สะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,541 จุด ตามหลักการของ Granville ดัชนีตลาดจะปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น MMA2 ก่อนที่จะปรับตัวลงเพื่อปรับฐาน โดยมีจุดต่ำเก่าที่ 1,495 จุดเป็นแนวรับ
ระยะกลางดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางการจบคลื่น III ที่ 1,848 จุด จากนั้นดัชนีตลาดแกว่งตัวลงไปตามช่องแนวโน้มขาลงระยะยาวเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ A-B-C-D-E โดยดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของแนวโน้มขาลงที่ 1,456 จุด ซึ่งจะเป็นเป้าหมายของคลื่น IV, E
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,530 – 1,536 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,517 – 1,511 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,517 จุด พอร์ตการลงทุนจะเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
วันนี้ผม Sell USDCAD ครับคู่ที่ขึ้นต้นด้วย USDxxx จะทะยานขึ้นด้วยความแข็งค่าจากการที่ปธน.สหรัฐทวีตยังไงก็แล้วแต่(ในทางกลับกัน คู่ที่ลงท้ายด้วยxxxUSD ต้องวิ่งลง)
แต่ถ้ามองตามหลักเทคนิคอลแล้ว นี่เป็นจังหวะให้เราเซล มากกว่าซื้อตอนมันหลุดกรอบครับ
Candlestick ก็สอดคล้อง ตามทฤษฎีที่ทุกคนเรียนกันมา
ถ้าลงจริง จะถือว่าเราได้กินยาวๆตั้งแต่ต้นทางครับ
อย่าลืมตั้งจุดสต้อปนะครับ ไม่ต้องดองไว้ นี่ไม่ใช่หุ้น ตั้งจุดขาดทุนไว้แถวๆราคาสูงสุดวันศุกร์นั่นแหละ
ข่าวญี่ปุ่นกับไวรัสโคโรนา USDJPY เลยบินทะยานขึ้น ทั้งๆที่อยู่แนวรับใหญ่ เพราะข่าวแบบนี้มีผลมากๆครับ
ทองราคาต่างประเทศ ขึ้น 3 เหรียญ แต่บ้านเราขึ้น 50 บาท เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการลงทุน ไวรัสโคโรนา คนเอาเงินมาไว้ที่ทรัพย์สินที่ดูทรงปลอดภัย แต่ดอลล่า ก็ขึ้นด้วย ซึ่งมันดูไม่สอดคล้องแหม่งๆครับ
และการที่ปธน.ออกมาทวีตนั้น ก้ไม่ได้ทำให้ USDCAD มันทะยานขึ้นแต่อย่างใด(USDCAD เกี่ยวข้องกับน้ำมัน)
ราคากลับทำ Sideway ในทามเฟรมเล็กแทน
สรุปแล้วให้หาจังหวะเซล มากกว่าบายนะครับ
ที่แน่ๆ ผมเซลไปแล้วววว 5555 มีใครค้างออเดอร์เซลตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วมั่ง TT
พูดคุยกันได้ครับ ขอให้โชคดี
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,536 เหรียญ ราคาทองเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงตลาดขาขึ้นที่อ่อนแรง การเกิดสัญญาณ Bearish Divergence จะทำให้ราคาระยะสั้นปรับตัวลงจากแรงขายที่มีออกมา กึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,564 เหรียญ ระยะกลางราคายังมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,564 – 1,573 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,546 – 1,540 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,564 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,546 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,564 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,540 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,560 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,540 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังราคาทองคำดีดตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 เหรียญ ราคาทองปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,593 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,564 เหรียญ ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,564 – 1,573 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,546 – 1,536 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,564 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,546 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,564 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,536 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,560 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,536 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
หวั่นการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick สะท้อนถึงข่าวร้ายที่มีเข้ามา ราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 54.70 เหรียญ ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณ DMI แสดงถึงภาวะ Bear Market
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 56.14 – 57.38 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 53.90 – 53.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 56.14 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 53.90 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นเข้าหาแนวต้านที่ 56.14 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 54.70 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 56.14 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐาน
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ทำให้ดัชนีตลาดแกว่งแคบๆและปิดลงที่ 1,523.99 จุด ลดลง 0.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.37 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเพื่อปรับฐาน ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาปิดในแดนบวก หลังปรับตัวลดลงในช่วงแรก แรงซื้อที่มีเข้าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หนุนดัชนีกลับมาสดใสในช่วงท้ายตลาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวเหนือแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,510 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer และ Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด
เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาลง ยืนยันว่าดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นบวก (สัญญาณ Modified Stochastic จะเกิดสัญญาณซื้อที่ดี เมื่อมีรูปเป็น W-shape) ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,531 – 1,536 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,519 – 1,513 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มน้ำหนักการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อรูป W-shape หรือสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence
GBPUSD ลงมาทดสอบแนวรับ และเกิดสัญญาณซื้อGBPUSD หลังจากไปทำจุดสูงสุด ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2019 ที่ 1.35149 หลังจากนั้นก็ย่อลงมาทดสอบแนวรับอยู่หลายครั้ง จนถึงวันนี้ ลงมาทดสอบแนวรับและเกิดการเด้งกลับของราคา ซึ่งเกิด Pin bar แบบต่อเนื่อง และได้เกิดการไล่ราคาจนยืนทะลุเหนือแท่ง Pin bar ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อการเข้าซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดตัดขาดทุน ที่ 1.29650
EURUSD เกิด Pin bar บริเวณแนวรับสำคัญEURUSD หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019 ที่ 1.12393 หลังจากนั้นก็ลงติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จนมาถึงบริเวณแนวรับสำคัญที่โซน 1.09800 - 1.10000 ซึ่งวันที่ 28-29 มกราคม 2020 เกิดแรงซื้อขึ้นมาจนเกิดการก่อตัวของราคาเป็นแท่งเทียนรูป Pin bar
ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่ทำให้ EUR/USD อ่อนตัวลงมาตลอดทั้งเดือนเกิดจาก แนวโน้มที่แข็งขึ้นของดอลลาห์สหรัฐฯ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนได้ทำให้นักลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงแทน
โอกาสในการเก็งกำไร ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวต่ำกว่า 1.10000 และตัดขาดทุนที่ 1.09750
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวรับ
แรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มนำตลาด ส่งผลให้ดัชนีผันผวนระหว่างการซื้อขาย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,524.59 จุด เพิ่มขึ้น 11.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แม้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสยังเป็นปัจจัยกดดันต่อบรรยากาศการลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,510 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer และ Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ที่ 1,546 – 1,569 จุด จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวรับร่วม
กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ระยะกลางดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic และ RSI ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,531 – 1,536 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,519 – 1,513 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มน้ำหนักการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อรูป W-shape หรือสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวรับทางจิตวิทยา 1,500 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนจากแรงซื้อและแรงขายที่มีเข้ามา แรงขายในช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,513.26 จุด ลดลง 10.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,500 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น บวกกับแรงหนุนของหุ้น Apple, Intel และ Microsoft
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,510 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ที่ 1,546 – 1,569 จุด จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น สัญญาณช่องว่างขาลงเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง ดังนั้น ดัชนีระยะสั้นจะปรับตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) เพื่อลงต่อ
ดัชนีตลาดทรุดตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,507 จุด กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic และ RSI ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,528 – 1,533 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,500 – 1,486 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และถือเงินสด 90 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตื่นโคโรนาไวรัสกระจายวงกว้าง
นักลงทุนตื่นโคโรนาไวรัสระบาดในวงกว้าง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและเศรษฐกิจ นักลงทุนต่างนำหุ้นออกเทขาย ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,524.15 จุด ทรุดตัวลง 45.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,500 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงตามแรงเทขายที่มีออกมา นักลงทุนหวั่นการระบาดของโคโรนาไวรัสบานปลาย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงแบบมีช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ซึ่งเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง (Continuation pattern) และภาวะขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล เพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ
ดัชนีตลาดทรุดตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,519 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic เริ่มเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,536 – 1,546 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,510 – 1,500 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และถือเงินสด 90 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick สะท้อนถึงข่าวร้ายที่มีเข้ามากระทบ (การระบาดของโคโรนาไวรัส จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน) ราคาปรับตัวลดลงทำราคาต่ำที่ 58.62 เหรียญ ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับตัวลงหรือปรับฐาน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 59.87 – 60.45 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 58.40 – 57.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 58.40 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 59.87 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 58.40 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 59.87 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 58.40 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 59.87 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick สะท้อนถึงข่าวร้ายที่มีเข้ามากระทบ (การระบาดของโคโรนาไวรัส จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน) ราคาปรับตัวลดลงทำราคาต่ำที่ 60.45 เหรียญ ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับตัวลงหรือปรับฐาน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 61.49 – 62.36 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 59.87 – 59.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 59.87 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 61.49 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 59.87 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 61.49 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 59.87 เหรียญ
สุขสันต์วันตรุษจีน 2563BTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ปรับตัวลงทดสอบแนวรับกึ่งกลางลำตัวของ Bullish Candlestick ที่ 8,459 เหรียญ ราคาปรับตัวลงมาทำราคาต่ำที่ 8,280 เหรียญ ราคาแกว่งตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่อ่อนแรง ราคาสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) ทำให้ราคายังมีทิศทางเป็นขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 8,564 - 8,792 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,105 – 7,878 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,105 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,564 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,105 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 8,792 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,564 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 8,792 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC แกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราคาแกว่งตัวเหนือแนวรับกึ่งกลางลำตัวของ Bullish Candlestick ที่ 8,459 เหรียญ ราคาสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) ทำให้ราคามีทิศทางแกว่งตัวขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงภาวะ Bull Market และราคามีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 9,272 เหรียญ (คำนวณระหว่าง 13,880 เหรียญ กับ 6,425 เหรียญ)
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 8,895 - 9,015 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,459 – 8,363 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,459 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,895 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,459 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 9,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,895 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 9,272 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเปิดสูงปิดต่ำ หลังราคาหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 64.41 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 63.85 เหรียญ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 61.13 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 63.63 – 64.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 61.98 – 61.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 61.13 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 64.04 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 61.13 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 63.85 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 61.13 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวาการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องเป็นวันที่สอง การระบาดของโคโรนาไวรัสในจีน ทำให้เกิดแรงขายออกมาในหุ้นโรงแรมและการท่องเที่ยว ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,574.94 จุด ลดลง 14.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,564 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 631 ล้านบาท การระบาดของโคโรนาไวรัสเริ่มลุกลามเข้าสหรัฐ เกิดแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick โดยดัชนีตลาดปรับตัวลดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) ในทางเทคนิคัลดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ สัญญาณทางเทคนิคัลที่เริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,564 จุด เส้น MMA2 กลับมาทำหน้าที่เป็นแนวต้าน
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,564 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,580 – 1,585 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,568 – 1,564 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ กรณีทีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,563 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC แกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับกึ่งกลางลำตัวของ Bullish Candlestick ที่ 8,459 เหรียญ ราคาแกว่งตัวขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้นและมีการสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงถึงภาวะ Bull Market ระยะสั้นราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 9,272 เหรียญ (คำนวณระหว่าง 13,880 เหรียญ กับ 6,425 เหรียญ)
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 8,895 - 9,015 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,459 – 8,363 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,459 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,895 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,459 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 9,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,696 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 9,272 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกึ่งกลางลำตัวของ Bullish Candlestick ที่ 8,459 เหรียญ ราคาสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) ทำให้ราคามีทิศทางแกว่งตัวขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงถึงทิศทางขาขึ้น ระยะสั้นราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 9,272 เหรียญ (คำนวณระหว่าง 13,880 เหรียญ กับ 6,425 เหรียญ)
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 8,895 - 9,015 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,459 – 8,363 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,459 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,895 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,459 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 9,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,696 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 9,272 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC แกว่งตัวแคบๆและพักตัวลงเข้าหาแนวรับของกึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bullish Candlestick ที่ 8,459 เหรียญ ราคาสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) และมีทิศทางเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงภาวะ Bull Market โดยราคามีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 9,272 เหรียญ (คำนวณระหว่าง 13,880 เหรียญ กับ 6,425 เหรียญ) ราคาบิทคอยน์มีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 10,152 เหรียญ และ 11,032 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 8,903 - 9,142 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,459 – 8,363 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,459 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 9,272 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,459 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 9,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 9,272 เหรียญ
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC แกว่งตัวแคบๆหลังราคาดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านที่ 8,463 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 8,459 เหรียญ ราคาเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงภาวะ Bull Market ทำให้ราคาระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 9,272 เหรียญ (คำนวณระหว่าง 13,880 เหรียญ กับ 6,425 เหรียญ) ราคาบิทคอยน์มีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 10,152 เหรียญ และ 11,032 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 9,142 - 9,373 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 8,498 – 8,363 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 8,459 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 9,272 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8,498 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 9,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 8,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 9,272 เหรียญ