Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 27,256 เหรียญ และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงภาวะตลาดกระทิง
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวน ระหว่างการซื้อราคาดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long-Legged Doji หรือ Stalled pattern ร่วมกับการเกิดสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะพักตัวลง โดยระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 27,256 – 28,377 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 25,810 – 24,777 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 25,810 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 27,256 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 25,590 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 26,470 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 25,590 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
Gold 4H ยังคงถูกสนับสนุนด้วย EMA20 รอทดสอบแนวต้าน + โซนสำคัญ#การวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลายกรอบเวลา
กรอบเวลารายเดือน: ในเดือนธันวาคม ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังกลับไปทดสอบโซนราคา 1800 ซึ่งเป็นซัพพลายโซนสำคัญที่สามารถเบรคขึ้นมาได้ในช่วงกลางปี 2563 ภาพใหญ่เป็นเทรนด์ขึ้น เป้าหมายตามแนวโน้มและลักษณะการเคลื่อนที่ อยู่ที่ราคา 2450$
กรอบเวลารายสัปดาห์: หลังเคลื่อนที่ขึ้นไปทดสอบโซนราคา 1900 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดแท่งด้วย Indecision Bar แนวโน้มสัปดาห์หน้าจนถึงต้นปีหน้าน่าจะมีแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง
กรอบเวลารายวัน: ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยม และอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (EMA20) ซึ่งราคามีการกลับมาทดสอบและทำการสนับสนุนราคาแล้ว 3 ครั้ง
กรอบเวลา 4H: มีเส้นแนวรับ (เส้นประสีแดง) สนับสนุนการเคลื่อนที่ขึ้น มีแนวโน้มกลับขึ้นทดสอบเส้นแนวต้าน และซัพพลายโซน (1893-1906) อีกครั้ง
🔖พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว ระยะกลางภาพรวมเป็นเทรนลง แนะนำให้สังเกตพฤติกรรมราคาที่บริเวณซัพพลายโซนเพื่อ Short สำหรับเทรดเดอร์แนว Conservative รอการเบรคเส้นแนวรับสีแดงและรีเทสเพื่อ Short เป้าหมายการทำกำไรดีมานด์โซน 4H(1857-1844) และ (1830-1819)
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปิดช่องว่างเพื่อปรับฐาน
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด สวนทางกับข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,451.52 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 35.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.03 แสนล้านบาท สถาบันภายในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเทศกาลวันหยุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประวันพฤหัสบดี (24/12) ตลาดเปิดทำการซื้อขายครึ่งวันตลาดปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่นักลงทุนบางส่วนยังกังวลถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ในอังกฤษ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ที่ 1,429 – 1,482 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นเหมือนรูปธงที่ชายธงชี้ขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณลงต่อเนื่อง ระยะสั้นดัชนีตลาดมีแนวรับอยู่ที่ 38% Fibonacci Retracement ที่ 1,383 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,371 – 1,40 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง คลื่น 1 ที่ 1,503 จุด และจะมีทิศทางพักตัวลงเป็นคลื่นปรับคลื่น 2 ที่มีแนวรับอยู่ที่ 1,383 จุด, 1,346 จุด และ 1,308 จุดตามลำดับ
แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,503 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,383 จุด, 100% FR = 1,346 จุด และ 161.8% FR = 1,308 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,383 จุด กรณีที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นด้วยสัญญาณ RSI ควรรอให้ปรับลดลงมาที่ระดับ 60 – 40 เปอร์เซ็นต์ (รอบนี้ RSI ทำจุดต่ำไว้ที่ 47 เปอร์เซ็นต์)
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,468 – 1,487 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,429 – 1,409 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,388 จุด (คำแนะนำเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 -1,410 จุด)
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ดีดตัวขึ้นจุดสูงที่ 23,777 เหรียญ แรงขายที่มีออกมาทำให้แท่งเทียนที่เป็น Bullish Candlestick มีเงาส่วนบน และมีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI กลับมาแสดงถึงการปรับตัวขึ้น แต่การเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นราคาบิทคอยน์มีโอกาสอ่อนตัวลง กรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 21,600 เหรียญ ราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 23,777 – 24,000 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 22,500 – 21,940 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 23,777 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 22,500 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 23,777 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 23,060 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 23,777 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 21,320 เหรียญ หลังราคาปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านของสามเหลี่ยม Ascending Triangle ที่ 19,918 เหรียญ สัญญาณ DMI กลับมาเป็นบวก แต่สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ราคาบิทคอยน์มีแนวรับอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของลำตัว Long Bullish Candlestick อยู่ที่ 20,710 เหรียญ และ 20,073 เหรียญ ราคาบิทคอยน์เคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 21,673 – 22,000 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 20,710 – 20,073 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 21,673 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 20,710 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 21,673 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 21,322 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 21,673 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์แนวโน้มคู่ GBP/USD H4 By Price Action Systemวิเคราะห์แนวโน้มคู่ GBP/USD H4 By Price Action System
ราคา Side Way อยู่ในกรอบราคาแนวเฉียง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่่ โซนแนวต้าน
รอสัญญาณ Sell จากการ Reversal Candlestick
Sell ที่บริเวณ : 1.33898
SL ที่ : 1.34547
TP 1 : 1.33277
TP 2 : 1.32662
TP 3 : 1.32048
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้านที่ 1,487 จุด
ต่างชาติเดินหน้าซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,478.92 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.23 แสนล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะส่งผลให้ดัชนีตลาดเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,487 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (8/12) ปิดตลาดในแดนบวก ดัชนีแนสแดคและเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงตลอดกาล ตลาดได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีดีดตัวทะลุแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,454 จุด ขึ้นมาทำจุดสูงที่ 1,484 จุด และปิดที่ 1,478 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีแนวรับอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของความยาวของลำตัว ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นอยู่ที่ 1,366 จุด ดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านอยู่ที่ 1,487 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1,487 จุด และ 1,673 จุด ตามลำดับ
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,487 จุด, 100% FP = 1,673 จุด และ 161.8% FP = 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 – 1,400 จุด กรณีที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นด้วยสัญญาณ RSI ควรรอให้ปรับลดลงมาที่ระดับ 60 – 40 เปอร์เซ็นต์ (ค่าวันนี้อยู่ที่ 77 เปอร์เซ็นต์)
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,487 – 1,504 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,468 – 1,458 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 -1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวเข้าหาแนวรับ 1,346 จุด
แรงขายทำกำไรที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,408.31 จุด ลดลง 29.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.2 แสนล้านบาท ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ แรงขายที่มีออกมาส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,346 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (30/11) ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่ดีสำหรับตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำเป็นการปรับลดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick (กึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน) ตามหลังแท่งเทียน Dark Cloud Cover และ Hanging Man แรงขายทำกำไรระยะสั้น จะส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (1187 จุด/1444 จุด) ที่ 1,346 จุด ซึ่งมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม ก่อนที่ดัชนีตลาดประปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,487 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,487 จุด, 100% FP = 1,673 จุด และ 161.8% FP = 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ แรงขายทำกำไรระยะสั้น จะส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,346 จุด กรณีที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นด้วยสัญญาณ RSI ควรรอให้ปรับลดลงมาที่ระดับ 60 – 40 เปอร์เซ็นต์ (ค่าวันนี้อยู่ที่ 67 เปอร์เซ็นต์)
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,419 – 1,430 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,397 – 1,386 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 -1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน ราคามีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลง สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ราคาทองคำต้องไม่ปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,728 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาปิดของคลื่น 1 ตามหลักการของคลื่นเอลเลียต คลื่น 4 ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,800 – 1,810 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,774 – 1,765 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,774 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,774 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,810 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,810 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ดิ่งลงทำราคาต่ำที่ 16,218 เหรียญ หลังราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 19,490 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้น ตามหลังแท่งเทียนรูป Doji และ Hanging Man ในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน แรงขายที่มีออกมาและสัญญาณทางเทคนิคัล ชี้ว่าราคาบิทคอยน์มีโอกาสดิ่งลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 14,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 17,600 – 18,000 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 16,340 – 15,608 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 16,340 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 17,600 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 16,340 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 17,075 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 16,340 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 45.97 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ราคาน้ำมันเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงถึงทิศทางขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 48.84 – 49.33 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 46.71 - 45.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 48.84 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 46.71 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 48.84 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 47.72 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48.84 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เป้าหมายแรก 1,454 จุด
แรงซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงก์ สื่อสารและโรงไฟฟ้า หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,420.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.09 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 1 แสนล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,454 จุด แต่ภาวะซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสพักตัว ระยะกลาง – ระยะยาวดัชนีตลาดยังมีทิศทางเป็นบวก
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (23/11) ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นขานรับความก้าวหน้าของวัคซีนป้องกันโควิด-19 และข่าวว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะเลือกน่งเจเน็ต เยลเลนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) ที่ 1,389 – 1,422 จุด ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick แท่งที่สอง มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,408 จุด การเปิดขึ้นแบบมีช่องว่างจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,454 จุด ดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low) ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงดัชนีตลาดมีทิศทางเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,487 จุด, 100% FP = 1,673 จุด และ 161.8% FP = 1,975 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,389 - 1,422 จุด ก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,437 – 1,454 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,408 – 1,397 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 -1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แบงก์หนุนตลาด
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,389.34 จุด เพิ่มขึ้น 19.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.05 หมื่นล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมา ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,340 จุด
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯที่ทวีความรุนแรง สร้างความวิตกว่าสหรัฐฯอาจกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ กระตุ้นให้เกิดแรงขายออกมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (20/11) ปรับตัวลดลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,379 จุด ดัชนีทะลุแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,375 จุด ภาวะซื้อมากเกินภาวะซื้อมากเกินและการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,340 จุด และมีเส้น MMA2 เป็นแนวรับร่วม ดัชนีตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,426 จุด, 100% FP = 1,612 จุด และ 161.8% FP = 1,911 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,340 - 1,321 จุด ก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,400 – 1,413 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,378 – 1,368 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,340 -1,321 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์แนวโน้มคู่ GBP/USD H4 By Price Action Systemวิเคราะห์แนวโน้มคู่ GBP/USD H4 By Price Action System
ราคา Side Way อยู่ในกรอบราคาแนวเฉียง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่่ โซนแนวต้าน
รอสัญญาณ Sell จากการ Reversal Candlestick
Sell ที่บริเวณ : 1.32887
SL ที่ : 1.33866
TP 1 : 1.31882
TP 2 : 1.30906
TP 3 : 1.29931
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 16,894 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 16,330 เหรียญ ราคาบิทคอยน์เคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ทำให้ราคาระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์มีโอกาสปรับตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 16,944 – 17,272 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 16,330 – 16,092 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 16,944 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 16,693 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 17,272 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 16,944 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 17,272 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ ราคาทองคำแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางขึ้น (Sideways up) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างเข้าหาแนวต้าน 1/3 และ 2/3 ของความยาวของแท่งเทียน Long Bullish Candlestick
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,903 – 1,916 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,876 – 1,864 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,916 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,864 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,916 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,888 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,916 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ราคาทองคำปิดเหนือแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,848 เหรียญ แท่งเทียนเกิด Long Bearish Candlestick มีแนวต้านอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของความยาวของแท่งเทียน สัญญาณทางเทคนิคัลขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทางภายในกรอบ 1,862 – 1,931 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,903 – 1,916 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,876 – 1,864 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,903 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,864 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,916 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,888 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,916 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราคาทองคำปิดเหนือแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,848 เหรียญ แท่งเทียนเกิด Long Bearish Candlestick มีแนวต้านอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของความยาวของแท่งเทียน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวลงต่อหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,848 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,890 – 1,903 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,862 – 1,848 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,903 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,848 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,903 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,876 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,903 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ราคาทองคำปิดเหนือแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,848 เหรียญ แท่งเทียนเกิด Long Bearish Candlestick มีแนวต้านอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของความยาวของแท่งเทียน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวลงต่อหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,848 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,884 – 1,894 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,850 – 1,829 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,864 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,894 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,848 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,848 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,829 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,864 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ราคาปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 43.57 เหรียญ แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick เป็นสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก แต่สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน กรณีที่ราคาสามารถยืนปิดเหนือ 43.63 เหรียญ จะเป็นสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 45.97 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44.68 - 45.97 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 42.28 – 41.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 43.61 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 42.28 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 43.61 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 43.61 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44.68 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 42.75 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity