GBPCHF BreakOut รอ Retestหลังจากที่ราคาในกรอบ Daily Sideway ในกรอบมานานพอสมควร ราคาก็ได้ปรับตัวขึ้นมากรอบบนซึ่งเป็นแนวต้านของราคาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ แต่ในครั้งล่าสุด ราคาได้ BreakOut ขึ้นไปได้ด้วยสัญญาณ Bullish ซึ่งจากเดิมเป็นแนวต้าน ตอนนี้แนวเดิมกลายเป็นแนวรับ ราคามีโอกาสย่อลงมาทดสอบแนวที่ทะลุขึ้นไป ซึ่งมองว่าเป็นการ Retest แล้วจะขึ้นต่อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 1.25500 - 1.26000
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
GOLD เตรียมตัวขึ้นรถระยะสั้นจากวันศุกร์ที่ให้เรา buy ไป วันนี้ยังคงแผนเดิม ย่อ buy
โดยจุดเข้า-จุดออก ตามชาร์ตครับ
โดยให้จับตาดู fibo (127.2-141.1) หรือ 1853-1855 ตามบทวิเคราะห์วันศุกร์
มันมักจะมีค้อนซ่อนอยู่ ..
** บริเวณ neckline อาจจะมีการย่อบ้าง **
ปล.1 ขา buy เล่นน้อยๆนะ เพราะมันอยู่ภายใต้ pattern head
ปล.2 เครื่องบินลำเล็ก ถ้ามันกันเยอะๆระวังเครื่องตก !!
วิเคราะห์แนวโน้มคู่ EUR/CHF H4 By Price Action Systemวิเคราะห์แนวโน้มคู่ EUR/CHF H4 By Price Action System
ราคา Side Way อยู่ในกรอบราคาแนวเฉียง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่่ โซนแนวต้าน
รอสัญญาณ Sell จากการ Reversal Candlestick
Entry Sell ที่บริเวณ : 1.07771
Stop Loss ที่ : 1.07964
TP 1 : 1.07587
TP 2 : 1.07408
TP 3 : 1.07228
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ราคาน้ำมันดิบใดตลาดมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียตกลงลดการผลิตน้ำมันจนถึงเดือนมีนาคม 2564 นักวิเคราะห์ชี้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันสี่ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 56.12 เหรียญ และเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงภาวะตลาดกระทิง (Bull Market) แต่ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาน้ำมันดิบเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 57.39 – 58.71 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 55.70 -54.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 57.39 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 55.70 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 57.39 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 56.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 57.39 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวขึ้นปิดเหนือราคาเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection ที่ 35,661 เหรียญ ภาวะซื้อมากเกินทำให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ราคาปิดเหนือราคาเป้าหมายที่ 35,661 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายทำกำไร ทำให้ราคาระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
สัญญาณทางเทคนิคัลแสดงถึงราคาเป้าหมายของบิทคอยน์อยู่ที่ 41,330 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 38,025 – 39,677 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 34,800 – 33,348 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 34,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 38,025 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 33,348 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 34,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 33,348 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
แนวโน้ม EURUSD เข้าใกล้แนวต้านที่สำคัญ , แนวโน้มระยะยาวหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่เดือน มีนาคม 2020 จนถึงตอนนี้ราคาปิดบวกมาเรื่อยๆ จนมาถึง High เดิม ของ TF Month และราคาเริ่มมีสัญญาณเตือนของฝั่ง Bearish เข้ามาแล้ว ราคามาถึงโซนแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งยังมองว่าไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ โซนนี้ยังคงมีความแข็งแรงที่จะทำให้ราคาปลับตัวลงมาได้ แนวโน้มในระยะ 1-3 เดือนต่อจากนี้ ราคามีโอกาสปรับตัวลง โดยมีโซนแนวรับที่สำคัญคือ 1.16000 - 1.19000
ส่วนกลยุทธ์การเทรด ช่วงนี้รอสัญญาณกลับตัวเพื่อเข้า Sell แล้วถือยาวไปปิดกำไรโซนแนวรับ
ทองคำมีสัญญาณ Bearish Divergenceทองคำปรับตัวขึ้นมาใกล้โซนจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ 1950-60 ซึ่งโซนนี้มองว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญ ที่จะทำให้ราคาปรับตัวลงได้ และมีสัญญาณ Bearish Divergence เกิดขึ้นด้วย เป็นสัญญาณของฝั่งหมีกำลังเข้ามา เมื่อเทียบจากสติถิราคาเดิมที่เคยเกิดขึ้นแล้ว โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงมีค่อนข้างสูง โดยแนวต้านให้ไปที่ 1950-65 แนวรับที่ราคามีโอกาสลงไปทดสอบ 1930 , 1920 , 1900 การย่อลงไปรอบนี้เป็นการย่อในแนวโน้มขาขึ้น ราคามีโอกาสย่อแล้วขึ้นมาได้อีก เพราะราคายังคงอยู่ในกรอบ UpTrend ส่วนแนวรับล่างสุด คือ 1900 หากหลุดระดับนี้ลงไปได้ จะถือว่าหลุดออกจากกรอบ UpTrend
สรุป ในรอบนี้มองว่าจะลงไปก่อน ย่อตัวเพื่อสะสมแรงเพื่อขึ้นมาอีก
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นเสี่ยง
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 38.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท สถาบันภายในประเทศและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เป็นกลุ่มที่ซื้อสุทธิ สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้นในระยะสั้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (5/1) ตลาดปิดในแดนบวก นักลงทุนหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวด้วยวัคซีนโควิด-19 ความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐฯอาจเป็นปัจจัยบั่นทอนการลงทุนในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,513 จุด โดยดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้นในระยะสั้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,513 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,513 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,527 – 1,548 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,487 – 1,468 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,428 – 1,400 จุด (รอบนี้ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด) ดังนั้น พอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นผันผวน
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดบวก ระหว่างการซื้อขาย ดัชนีตลาดดิ่งลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด ดัชนีท้ายตลาดกลับขึ้นมาปิดที่ 1,468.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.87 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,420 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (4/1) ตลาดปรับตัวลดลง นักลงทุนกังวลถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ กดดันบรรยากาศการลงทุน เม็ดเงินลงทุนเริ่มไหลกลับเข้าตลาดทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดตลาดลงไปทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,468.24 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,386 – 1,424 จุด ดัชนีตลาดระยะสั้นแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่างขาลงที่ 1,429 – 1,482 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวลงหรือปรับฐาน โดยดัชนีตลาดมีแนวรับ 38% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,388 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ
แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวหรือปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,479 – 1,491 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,453 – 1,440 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,428 – 1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวเข้าหาเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection ที่ 35,661 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงภาวะตลาดกระทิง
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นด้วยความร้อนแรง สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงถึงภาวะตลาดกระทิง แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนบน (Upper shadow) สะท้อนถึงแรงขายทำกำไรระยะสั้นที่มีออกมา ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง โดยระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 34,800 – 35,661 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 32,216 – 30,956 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 34,800 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 34,180 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 34,800 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 30,956 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 32,216 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 30,956 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 27,256 เหรียญ และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงภาวะตลาดกระทิง
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวน ระหว่างการซื้อราคาดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ตามด้วย Hanging Man สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์มีโอกาสพักตัวลง โดยระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 27,473 – 28,377 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 26,466 – 25,831 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 28,377 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 27,473 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 28,377 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 25,831 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 26,466 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 25,831 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 27,256 เหรียญ และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงภาวะตลาดกระทิง
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวน ระหว่างการซื้อราคาดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star เป็นแท่งที่สอง สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์มีโอกาสพักตัวลง โดยระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 27,473 – 28,377 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 26,466 – 25,770 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 27,256 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 26,688 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 27,256 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 25,770 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 26,466 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 25,770 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคา BTC ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 27,256 เหรียญ และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงภาวะตลาดกระทิง
จากกราฟรายวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวผันผวน ระหว่างการซื้อราคาดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 28,377 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long-Legged Doji หรือ Stalled pattern ร่วมกับการเกิดสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะพักตัวลง โดยระยะยาวราคาบิทคอยน์ยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 27,256 – 28,377 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 25,810 – 24,777 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 25,810 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 27,256 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 25,590 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 26,470 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 25,590 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Gold 4H ยังคงถูกสนับสนุนด้วย EMA20 รอทดสอบแนวต้าน + โซนสำคัญ#การวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลายกรอบเวลา
กรอบเวลารายเดือน: ในเดือนธันวาคม ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังกลับไปทดสอบโซนราคา 1800 ซึ่งเป็นซัพพลายโซนสำคัญที่สามารถเบรคขึ้นมาได้ในช่วงกลางปี 2563 ภาพใหญ่เป็นเทรนด์ขึ้น เป้าหมายตามแนวโน้มและลักษณะการเคลื่อนที่ อยู่ที่ราคา 2450$
กรอบเวลารายสัปดาห์: หลังเคลื่อนที่ขึ้นไปทดสอบโซนราคา 1900 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดแท่งด้วย Indecision Bar แนวโน้มสัปดาห์หน้าจนถึงต้นปีหน้าน่าจะมีแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง
กรอบเวลารายวัน: ราคาเคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยม และอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (EMA20) ซึ่งราคามีการกลับมาทดสอบและทำการสนับสนุนราคาแล้ว 3 ครั้ง
กรอบเวลา 4H: มีเส้นแนวรับ (เส้นประสีแดง) สนับสนุนการเคลื่อนที่ขึ้น มีแนวโน้มกลับขึ้นทดสอบเส้นแนวต้าน และซัพพลายโซน (1893-1906) อีกครั้ง
🔖พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว ระยะกลางภาพรวมเป็นเทรนลง แนะนำให้สังเกตพฤติกรรมราคาที่บริเวณซัพพลายโซนเพื่อ Short สำหรับเทรดเดอร์แนว Conservative รอการเบรคเส้นแนวรับสีแดงและรีเทสเพื่อ Short เป้าหมายการทำกำไรดีมานด์โซน 4H(1857-1844) และ (1830-1819)
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปิดช่องว่างเพื่อปรับฐาน
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด สวนทางกับข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,451.52 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 35.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.03 แสนล้านบาท สถาบันภายในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเทศกาลวันหยุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประวันพฤหัสบดี (24/12) ตลาดเปิดทำการซื้อขายครึ่งวันตลาดปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่นักลงทุนบางส่วนยังกังวลถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ในอังกฤษ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ที่ 1,429 – 1,482 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นเหมือนรูปธงที่ชายธงชี้ขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณลงต่อเนื่อง ระยะสั้นดัชนีตลาดมีแนวรับอยู่ที่ 38% Fibonacci Retracement ที่ 1,383 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,371 – 1,40 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง คลื่น 1 ที่ 1,503 จุด และจะมีทิศทางพักตัวลงเป็นคลื่นปรับคลื่น 2 ที่มีแนวรับอยู่ที่ 1,383 จุด, 1,346 จุด และ 1,308 จุดตามลำดับ
แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,503 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,383 จุด, 100% FR = 1,346 จุด และ 161.8% FR = 1,308 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,383 จุด กรณีที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นด้วยสัญญาณ RSI ควรรอให้ปรับลดลงมาที่ระดับ 60 – 40 เปอร์เซ็นต์ (รอบนี้ RSI ทำจุดต่ำไว้ที่ 47 เปอร์เซ็นต์)
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,468 – 1,487 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,429 – 1,409 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,388 จุด (คำแนะนำเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,390 -1,410 จุด)
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity