Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ทรุดตัวลงแรง แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาบิทคอยน์จะยืนยันการปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 42,900 เหรียญ และราคาบิทคอยน์จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปจามแนวโน้มขาลง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,413 - 46,039 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 41,401 – 39,742 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,401 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 44,413 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 39,742 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,401 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 39,742 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
Por : Technical AnalysisEURUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน EURUSD ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1.16639 ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน EURUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.17505 – 1.17889 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.16995 – 1.16639
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16995 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.17505
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.16639 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.16995 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1.16639
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ค่าเงินมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1.36021 ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากราคาเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.37583 - 1.37896 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.36990 – 1.36686
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36990 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.37583
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1.36686 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36990 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.36686
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองทรุดตัวลงหลุดแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,774 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับลดลงเข้าแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,728 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,763 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,741 – 1,728 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,763 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,741 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,763 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,728 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,741 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,728 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ เหนือแนวรับของจุดสูงเก่าที่ 47,419 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาจะมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 49,792 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 48,465 เหรียญ และราคาบิทคอยน์จะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 47,035 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 48,853 - 49,893 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 46,702 – 45,550 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 48,465 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 49,893 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 47,035 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 47,035 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 45,550 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48,465 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 47,419 เหรียญ หลังราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 42,900 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ระยะสั้นราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่เกิดจากกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 49,792 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 49,100 - 50,520 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 47,123 - 46,368 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 49,100 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 47,419 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 50,520 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 49,100 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 50,520 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐานเพื่อรอสัญญาณบวก
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้น DELTA ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และนักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 14 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ แนวโน้มตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้เฟดปรับลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,640 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,615 – 1,604 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวน และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 74.60 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 71.35 เหรียญ การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจึงควรใช้กรอบนี้เป็นจุดซื้อ - จุดขาย
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.27 – 75.10 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.88 - 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.27 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.88 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 74.60 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 73.53 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 74.60 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวน และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 71.89 เหรียญ แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 73.42 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 72.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 72.88 – 73.90 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 70.88 - 69.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 70.88 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 72.88 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 70.88 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.89 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 70.88 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดสูงเก่าที่ 43,935 เหรียญ และกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน แรงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น จะหนุนให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 47,419 - 48,049 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,355 - 44,436 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 48,049 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 45,550 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 45,550 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44,436 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 47,419 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวรับระยะสั้น 1,621 – 1,611 จุด
แรงที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างต่อเนื่อง ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,629.12 จุด ลดลง 11.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิกว่า 2.3 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงต่ำสุดจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ ระหว่างการซื้อขายดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,646 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด จะเป็นจุดเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,637 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวลงแคบๆเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,774 เหรียญ โดยมีขนาดลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อปรับฐานสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,802 – 1,809 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,782 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,780 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,802 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,774 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,774 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
รอจังหวะเข้าซื้อ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก หลังต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 7.5 พันล้านบาท ดัชนีตลาดปิดที่ 1,640.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.98 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 8 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศของสหรัฐฯ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามา สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นเริ่มชะลอตัว ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 1,645 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,648 – 1,658 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,632 – 1,621 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
USDCAD กับสัญญาณ Bullish มองว่าจะปรับตัวขึ้นหลังจากที่ได้วิเคราะห์แนวโน้มของ USDCAD ราคาไม่ได้เป็นไปตามเทคนิค ราคากลับวิ่งขึ้นมาด้วยแรงซื้อที่แข็งแรง ทำให้ทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ มุมมองตอนนี้เปลี่ยนเป็นขาขึ้น ราคามีโอกาสขึ้นต่อเนื่องตามสัญญาณ Bullish โซนแนวต้านเดิม 1.25800-1.26000 ก็กลายเป็นแนวรับ ส่วนราคาเป้าหมานมองไปที่ 1.27700 และ 1.28500
#วางแผนก่อนเทรดและบริหารจัดการความเสี่ยงทุกครั้งนะครับ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำทรุดตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,780 เหรียญ หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,834 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีขนาดลำตัว 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,780 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาทองพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,803 – 1,813 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,787 – 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,803 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,774 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,774 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ทรุดตัวลง (-11.9%) หลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 52,956 เหรียญ ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 42,900 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีขนาดลำตัว 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 46,309 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI กดดันให้เกิดแรงขาย ระยะสั้นราคาบิทคอยน์อยู่ในช่วงพักตัวลงเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 48,867 – 50,793 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,539 - 44,694 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 48,867 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48,867 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 43,935 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 45,539 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 43,935 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
TFEX - S50U21 ลมเปลี่ยนทิศ (มีโอกาสจบรอบขึ้น ณ จุดนี้)TFEX ราคาลากขึ้นมาพร้อมกับความขัดแย้งกับ indicator (divergence) จนถึงจุดที่เกิดสัญญาณการครบคลื่นเวฟ ประกอบกับราคาถูกทิ้งลงด้วย Volume เกิดเป็นสัญญาณร่วมของการจบเทรนย่อย และอาจเป็นจุดเปลี่ยนของเทรนในระดับที่ใหญ่กว่าด้วย รอดูบทสรุปของแท่งเทียน (Candlestick TF Day) แล้วคอมเฟิร์มอีกครั้งด้วย แท่ง Day ของวันพรุ่งนี้.
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 50,520 เหรียญ ขึ้นมาปิดที่ 51,610 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI เริ่มมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาบิทคอยน์เผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 52,379 -53,585 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 50,520 - 49,500 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 52,379 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50,520 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 52,379 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 50,520 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 52,379 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.74 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ และราคาจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น กรณีที่ราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 71.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.65 – 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.86 - 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.65 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.86 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 75.23 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.65 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 75.23 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบเป้าหมายที่ 1,673 จุด
ต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิในหุ้นขนาดใหญ่ หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะสั้น โดยดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,673 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตลาดปิดในแดนบวกขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนถึงตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,652 จุด ดัชนีปรับตัวทะลุแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,642 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ การปรับตัวลดลงจะเกิดเมื่อสัญญาณ RSI เกิดเป็น Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,647 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,656 – 1,670 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,638 – 1,628 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,580 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,642 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง จากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นสถาบันการเงินและหุ้นกลุ่มพลังงาน ดัชนีตลาดปิดที่ 1,633.77 จุด เพิ่มขึ้น 22.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.16 แสนล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,067 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,642 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปรับตัวขึ้นจุดสูงใหม่ตลอดกาล ตลาดขานรับมาตรการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำของเฟด แต่เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับลดลงวงเข้าที่จะเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Breakaway gap ที่ 1,642 – 1,654 จุด) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,642 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง โดยมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับ
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,611 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,580 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,642 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,642 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,642 – 1,654 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,622 – 1,611 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,580 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity