USDJPY – แรงกดดันขาลงยังคงอยู่ใต้เส้นแนวโน้มระยะยาวในกรอบวัน USDJPY ยังคงรักษาทิศทางขาลงอย่างชัดเจน โดยเส้นแนวต้านจากต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบันยังไม่ถูกทะลุ แต่ละครั้งที่ราคาทดสอบแนวนี้จะถูกปฏิเสธแรง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
คู่เงินกำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 140.30 ซึ่งเป็นโซนสำคัญที่มีการรวมตัวของจุดต่ำเก่าและอุปสงค์จากอดีต ปัจจุบันราคากำลังเคลื่อนไหวในรูปแบบการปรับฐานแบบไซด์เวย์ ระหว่าง 140.30–146.80 หากราคายังคงถูกปฏิเสธจากแนวต้าน 146.80 ความเสี่ยงที่แนวรับ 140.30 จะถูกเจาะทะลุก็มีสูง ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาลงลึกได้มากยิ่งขึ้น
ในบริบทที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แปรผัน และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันเงินดอลลาร์ แรงขายใน USDJPY จึงยังเป็นแนวโน้มหลักที่ชัดเจน
M-forex
EURUSD – แนวโน้มกลับตัวลงอาจกำลังก่อตัวสวัสดีครับทุกคน! เมื่อพิจารณากราฟ 4 ชั่วโมง EURUSD เพิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1.13553 — ซึ่งเคยเป็นจุดที่ราคาถูกปฏิเสธมาก่อน ในทันทีหลังจากการดีดตัวเล็กน้อย ตลาดก็เริ่มแสดงสัญญาณของแรงซื้อที่อ่อนแอ โดยเกิดรูปแบบการปฏิเสธจากเขตอุปทาน.
ปัจจุบัน ราคากำลังเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปยังโซนแนวรับร่วมที่ 1.12600–1.12700 ซึ่งเป็นจุดตัดของเส้น EMA34 และ EMA89 — พื้นที่นี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับการเฝ้าสังเกต
เพื่อน ๆ ควรอดทนและติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณแนวรับนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นครับ!
XAUUSD – เตือนบริเวณขอบบนของกรอบขาขึ้น: แนวโน้มขาลงกำลังซุ่มโจมตสวัสดีครับพี่น้อง! มองจากกราฟ 3 ชั่วโมง ทองคำ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน แต่พฤติกรรมราคาล่าสุดเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรงบริเวณแนวต้าน 3,363–3,397 ซึ่งตรงกับขอบบนของกรอบและโซนอุปทานเดิม
หลังจากเข้าใกล้บริเวณนี้ ราคาก็เริ่มชะลอตัว พร้อมกับมีรูปแบบ pullback ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น หากราคาย่อลงไปทดสอบแนวรับล่างของกรอบที่ 3,286 แล้วไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดการหลุดกรอบและเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แนวโน้มระยะสั้น:
หากเด้งจาก 3,286 → ราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้น และอาจกลับไปทดสอบบริเวณ 3,363–3,397 ได้อีกครั้ง
หากทะลุลงต่ำกว่า 3,286 → แรงขายอาจถูกกระตุ้น เปิดโอกาสให้ขายตามเทรนด์ขาลง
ทะลุสามเหลี่ยม: โอกาสหรือกับดัก?XAU/USD กำลังเคลื่อนไหวภายในรูปแบบสามเหลี่ยมบีบตัว โดยมีแนวโน้มการบีบกรอบราคาตั้งแต่วันที่ 13–20 พฤษภาคม แรงขายยังคงกดดันบริเวณเส้น EMA 34 และ 89 ในขณะที่ฝั่งซื้อยังคงยืนพื้นเหนือจุดต่ำสูงขึ้น (Higher Lows) โครงสร้างทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเบรกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดกำลังรอรายงานการประชุม FOMC ในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งอาจสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงได้
หากราคาทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,215 เป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่บริเวณ 3,165–3,150 ในทางกลับกัน หากสามารถทะลุแนวต้าน 3,245 ขึ้นไปด้วยแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ก็มีโอกาสเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น
กลยุทธ์ที่แนะนำคือรอขายเมื่อราคาทะลุกรอบล่างของสามเหลี่ยม โดยตั้งจุดตัดขาดทุนเหนือ 3,245 นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบและระมัดระวังในการเทรด!
ยูโรแข็งค่า ดอลลาร์อ่อน หลังมูดี้ส์ลดอันดับเครดิตการคาดการณ์ราคาคู่สกุลเงิน EUR/USD: การฟื้นตัวครั้งนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน?
ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ทะลุแนวต้าน 1.1200 เมื่อวันจันทร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากการที่บริษัทมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อสุดท้ายของกลุ่มยูโรโซน (EMU) แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคแบบรวม (HICP) เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนเมษายน
ยูโร (EUR) เริ่มกลับมามีทิศทางขาขึ้นอีกครั้งในวันจันทร์ สอดคล้องกับแนวโน้มโดยรวมของตลาดที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งส่งผลให้ EUR/USD เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1.1300 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์
การปรับขึ้นของคู่สกุลเงินนี้เกิดขึ้นจากการอ่อนค่าลงอย่างชัดเจนของดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งส่งให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ร่วงลงใกล้ระดับแนวรับจิตวิทยาที่ 100.00
ความหวังในการค้าระหว่างประเทศยังมีอยู่ แม้ขาดรายละเอียด
น่าสังเกตว่า EUR/USD สามารถทรงตัวได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากการดีดกลับอย่างรุนแรงของดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากที่จีนและสหรัฐอเมริกาตกลงกันเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากกว่า 100% เหลือเพียง 10% และระงับการขึ้นภาษีเพิ่มเติมเป็นเวลา 90 วัน
อย่างไรก็ตาม ภาษี 20% สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลยังคงมีผลบังคับใช้ ทำให้ภาระภาษีโดยรวมยังอยู่ที่ประมาณ 30%
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ–สหราชอาณาจักร และถ้อยแถลงในเชิงบวกจากประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม การขาดรายละเอียดการดำเนินการที่ชัดเจนก่อให้เกิดความสงสัยในตลาด ซึ่งจำกัดการฟื้นตัวของดอลลาร์และให้การสนับสนุนค่าเงินยูโรเพียงเล็กน้อย
ช่องว่างของนโยบายการเงินระหว่างเฟดกับอีซีบีกว้างขึ้น
ทิศทางนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน EUR/USD
แม้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้และแสดงท่าทีระมัดระวังต่อการลดดอกเบี้ย แต่ ECB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 25 จุดพื้นฐาน เหลือ 2.25% เมื่อเดือนที่แล้ว และอาจลดลงอีกครั้งเร็วสุดในเดือนมิถุนายน
ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่อ่อนตัวลงและความเสี่ยงทางการค้าที่ลดลง
มุมมองของนักลงทุนเก็งกำไรยังคงสนับสนุนยูโร
แม้จะมีการปรับฐานเล็กน้อยเมื่อเร็วๆ นี้ แต่การถือครองสถานะเก็งกำไรก็ยังเอียงไปในทางสนับสนุนเงินยูโร
ข้อมูลจาก CFTC สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่าสถานะซื้อสุทธิของ EUR เพิ่มขึ้นเกือบ 84.7K สัญญา ขณะที่ปริมาณสถานะเปิด (Open Interest) เพิ่มขึ้นเกิน 750K ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023
ในขณะเดียวกัน ผู้ค้าฝ่ายพาณิชย์ยังคงมีสถานะขายสุทธิ บ่งบอกถึงความระมัดระวังทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างต่อเนื่องจากภาคธุรกิจ
มุมมองทางเทคนิค: แนวต้านสำคัญยังไม่ถูกทำลาย
EUR/USD ยังคงถูกจำกัดไว้ใต้ระดับสูงสุดของปี 2025 ที่ 1.1572 (เมื่อวันที่ 21 เมษายน) โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1.1600 และระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม 2021 ที่ 1.1692
ในทางกลับกัน แนวรับอยู่ที่จุดต่ำสุดของเดือนที่ 1.1064 (เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม) รองลงมาคือระดับจิตวิทยาที่ 1.1000 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ 1.0799
สัญญาณโมเมนตัมแสดงภาพที่หลากหลาย ดัชนี Relative Strength Index (RSI) ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 51 บ่งชี้ถึงแรงซื้อในระดับพอประมาณ
ขณะที่ค่า Average Directional Index (ADX) ที่ 28 สะท้อนถึงแนวโน้มที่ยังคงมีอยู่แต่เริ่มอ่อนตัวลง
บิทคอยน์เตรียมตัวสำหรับคลื่นขาขึ้นรอบใหม่? กรอบราคายังแข็งแกร่ง!ในกรอบเวลา H1 BTCUSD กำลังเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงภายในกรอบขาขึ้นที่มีความชัดเจน หลังจากการปรับฐานเล็กน้อย ราคาได้แตะแนวรับล่างของกรอบบริเวณ 103,200–103,400 และมีสัญญาณฟื้นตัวเกิดขึ้น แท่งเทียนล่าสุดดีดตัวขึ้นจากเส้น EMA 89 และ 34 แสดงให้เห็นถึงบทบาทแนวรับเชิงเทคนิคที่แข็งแกร่ง การบรรจบกันของเส้น EMA 34 และ 89 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่กำลังก้าวเข้าสู่ระยะสะสม ก่อนอาจเริ่มรอบขาขึ้นใหม่
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังจับตาความคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะเดียวกัน กองทุน ETF Bitcoin ยังคงดึงดูดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลดลงของอุปทาน BTC หลังเหตุการณ์ halving ในเดือนเมษายน ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนราคาระยะกลาง
กลยุทธ์ที่เหมาะสมในขณะนี้คือ รอซื้อบริเวณแนวรับ 103,200–103,400 โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวต้านบนของกรอบราคาบริเวณ 106,000 พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนต่ำกว่าระดับ 102,800 เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากกรอบราคาถูกทะลุ หาก BTC สามารถทะลุระดับ 106,000 ได้สำเร็จ แนวโน้มขาขึ้นอาจได้รับการยืนยันอย่างแข็งแกร่งในรอบถัดไป
สัญญาณเทคนิคชี้แนวโน้มกลับตัว? USDJPY เผชิญจุดตัดสินใจสำคัญ!บนกราฟ H1 คู่เงิน USD/JPY กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน โดยมีแนวต้านบริเวณ 146.60 และแนวรับอยู่ที่ช่วง 145.30–145.50 หลังจากการฟื้นตัว ราคาได้ทดสอบแนวต้านด้านบนของกรอบ แต่ถูกปฏิเสธอย่างรุนแรง สะท้อนถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เส้น EMA 34 และ EMA 89 กำลังบรรจบกัน โดย EMA 34 มีสัญญาณตัดขึ้นเหนือ EMA 89 บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเข้าสู่ช่วงสะสม
ในบริบทที่ Dollar Index อ่อนค่าลงจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไม่น่าพอใจ และความคาดหวังว่า Fed อาจหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ BOJ ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอยู่ USDJPY จึงเผชิญกับความเสี่ยงที่จะมีการปรับฐานในระยะสั้น
กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมคือ รอซื้อบริเวณแนวรับ 145.30–145.50 โดยตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ระดับ 145.00 และคาดหวังการดีดกลับไปยังบริเวณ 146.60 หากราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ หากราคาหลุดต่ำกว่า 145.30 จะถือเป็นสัญญาณการกลับทิศของแนวโน้มที่ควรระวังเป็นพิเศษ
GBP/USD สัปดาห์นี้: คาดหวังการฟื้นตัว หรือจะปรับฐานต่อ?สวัสดีครับ/ค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาคาดการณ์แนวโน้มของคู่สกุลเงิน GBP/USD ในสัปดาห์หน้ากันนะครับ/ค่ะ!
หลังจากปรับตัวลงจากแนวต้านบริเวณ 1.3340 คู่เงิน GBP/USD ได้พบแรงซื้อกลับเข้ามาในบริเวณแนวรับ 1.3250–1.3260 ซึ่งเป็นจุดที่ราคามีปฏิกิริยาในเชิงบวก โดยปรากฏรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขนาดเล็ก ปัจจุบันราคากำลังสร้างรูปแบบ W ขนาดเล็ก ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น
ในทางเทคนิค แนวราคา 1.3300 ทำหน้าที่เป็นแนวต้านระยะสั้นแรก ซึ่งตรงกับเส้น EMA 89 และยอดสูงสุดก่อนหน้านี้ หากสามารถทะลุผ่านแนวนี้ได้ ราคามีโอกาสจะเคลื่อนไหวไปยังแนวต้านที่แข็งแกร่งกว่าในบริเวณ 1.3340 ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดเก่าและเคยมีแรงขายเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เส้น EMA 34 กำลังเริ่มลาดลง แต่อย่างไรก็ตาม แรงฟื้นตัวอาจกลับมาได้หากราคาปิดเหนือบริเวณแนวต้านร่วมนี้
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ค่าเงินปอนด์ยังคงได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหราชอาณาจักรและข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มลดลง ตลาดกำลังรอปัจจัยใหม่จากเจ้าหน้าที่ของ FED และ BOE เพื่อกำหนดแนวโน้มในระยะกลาง
เฟดคงดอกเบี้ยไว้ — EURUSD กำลังจะร่วงหนักหรือไม่?หลังจากการฟื้นตัวเล็กน้อย EURUSD กำลังสร้างจังหวะรีบาวด์ทางเทคนิคภายใต้แนวโน้มขาลงหลัก ขณะนี้ราคากำลังทดสอบแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1.1170 ซึ่งสอดคล้องกับเส้น EMA 34 และ 89 ซึ่งมักเป็นบริเวณที่แรงขายกลับเข้ามาอีกครั้ง โครงสร้างของตลาดยังคงโน้มเอียงไปทางขาลง โดยมีแนวรับบริเวณ 1.1130 – 1.1140 เป็นเป้าหมายถัดไป และมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะทะลุลงไปถึงระดับ 1.1100
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ค่าเงินยูโรยังคงเผชิญแรงกดดันจากความคาดหวังว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนยังคงชะลอตัว แม้ตัวเลข CPI ของสหรัฐจะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ FED ยังคงมีท่าทีระมัดระวัง ทำให้ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
คำวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น นักเทรดควรบริหารเงินทุนอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการเทรด!
XAUUSD: ทองคำกำลังจะกลับตัวจากแนวรับหรือไม่?หลังจากที่ XAUUSD ร่วงลงอย่างรุนแรง ราคาก็ได้ดีดตัวกลับจากแนวรับสำคัญบริเวณ 3,189 – 3,198 และขณะนี้กำลังทดสอบระดับ Fibonacci 0.618 ที่ 3,204 หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แนวโน้มการฟื้นตัวมีโอกาสดำเนินต่อไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับยอดเดิมที่ 3,253.91 สัญญาณ EMA 34/89 กำลังแสดงความขัดแย้งในระยะสั้น แต่หากราคาสามารถปิดเหนือ EMA ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยืนยันแรงส่งขาขึ้น
ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนราคาทองคำ: CPI ของสหรัฐต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
แนวทางการเทรด: รอจังหวะเข้าซื้อบริเวณ 3,197–3,200 ตั้ง Stop Loss ที่ต่ำกว่า 3,189 และ Take Profit ที่ 3,220–3,253 ควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณ EMA 200 อย่างใกล้ชิดในรอบถัดไป
กับดักรีบาวด์ทางเทคนิค หรือโอกาสทอง?XAUUSD บนกรอบเวลา H1 แสดงสัญญาณการรีบาวด์ทางเทคนิคหลังจากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงจากโซน 3,190–3,200 ขณะนี้ราคาลงมาถึงแนวรับบริเวณ 3,120–3,130 และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาเล็กน้อย คาดว่าจะมีการดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,180–3,190 ซึ่งสอดคล้องกับเส้น EMA 34 และ 89 ที่กำลังชี้ลง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่งจากความคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ แม้จะมีปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
กลยุทธ์ในตอนนี้คือ รอซื้อระยะสั้นใกล้โซน 3,120 หากมีสัญญาณยืนยัน หรือให้ความสำคัญกับการขายหากราคาดีดกลับขึ้นไปถึงโซน 3,190 แล้วไม่สามารถผ่านไปได้ – โดยมีเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นที่บริเวณ 3,080–3,100 ผู้เทรดควรติดตามพฤติกรรมราคาที่โซนสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
แนวโน้มขาลงยังไม่หยุด – ทองคำสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร?ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง XAUUSD ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงภายในช่องราคาที่ชัดเจน สะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงเป็นฝ่ายครองตลาด หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,287 (จุดตัดของ EMA 34 และ 89) แต่ไม่สามารถผ่านได้ ก็ได้มีแรงขายกลับลงมาจนราคาลดลงมาที่บริเวณ 3,233.71
พฤติกรรมราคาบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวในรูปแบบซิกแซกต่อเนื่องภายในช่องขาลง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่แนวรับบริเวณ 3,105 ซึ่งตรงกับขอบล่างของช่องราคา
ปัจจัยพื้นฐานในภาพรวมยังสนับสนุนแนวโน้มขาลง เมื่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟด (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน หากไม่มีปัจจัยใดที่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มได้อย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงยังคงเป็นภาพหลักจนกว่าจะมีการทะลุแนวต้านได้อย่างเด็ดขาด
ทองคำรีบาวด์ทางเทคนิค หรือเป็นกับดักขาขึ้นกันแน่?XAU/USD กำลังซื้อขายอยู่บริเวณระดับ 3,255 ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเทคนิคที่อ่อนแรง และกำลังเผชิญกับแนวต้านสำคัญในช่วง 3,256–3,280 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้น EMA 89 และ EMA 34 บนกรอบเวลา H1 โครงสร้างราคาชี้ว่าแนวโน้มขาลงยังคงครอบงำ โดยมีโอกาสสูงที่จะเกิดจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High) หากราคาทะลุแนวต้านนี้ไม่สำเร็จ ทองคำมีแนวโน้มที่จะกลับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 3,193–3,200
แรงกดดันจากภาวะมหภาคยังมีอยู่ โดยดัชนี CPI ของสหรัฐฯ มีกำหนดประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคม และหากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด ตลาดจะยิ่งคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ซึ่งจะเพิ่มแรงขายต่อทองคำ อีกทั้งการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่ส่งผลต่อราคาทอง
นักเทรดควรจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิดเมื่อมีการประกาศตัวเลข CPI เพื่อวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์.
ทองคำหลุดแนวรับ – ฝันร้ายยังไม่จบใช่ไหม?XAU/USD บนกราฟ 4 ชั่วโมงได้ทะลุแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,227–3,230 หลังจากถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงที่แนวต้าน 3,304–3,328 (ระดับ Fibonacci 0.618–0.5 ประกอบกับ EMA) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ขณะนี้ราคามีโอกาสดีดกลับเล็กน้อยเพื่อลองทดสอบแนวต้านเดิมอีกครั้ง ก่อนจะมีโอกาสสร้างรูปแบบ “lower high” และปรับตัวลงต่อสู่เป้าหมายที่บริเวณ 3,103 ตาม Fibonacci Extension ระดับ 4.618
ในขณะที่ตลาดกำลังรอตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 14 พฤษภาคม – ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด – แรงขายยังคงมีน้ำหนัก
นักลงทุนควรระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำอาจมีความผันผวนสูงหลังจากข้อมูลถูกเปิดเผย
แนวรับสำคัญกำลังถูกทดสอบ – USD/JPY จะเด้งหรือดิ่ง?ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง USD/JPY กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น โดยมีรูปแบบ Double Bottom ที่ชัดเจนได้ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านแข็งแกร่งบริเวณ 146.50–146.70 ได้ ราคาก็ได้ปรับตัวลงและขณะนี้กำลังเข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญบริเวณ 144.60–144.80 ซึ่งเป็นจุดรวมของเส้น EMA34 และ EMA89
แท่งเทียนขาลงล่าสุดเริ่มชะลอตัว แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของฝั่งขาย หากราคาสามารถดีดตัวแรงจากแนวรับนี้และทะลุผ่านยอดเดิมได้ มีโอกาสสูงที่แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป โดยเป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่โซน 147.50–148.00 หลังจากทะลุแนวต้าน 146.70
ในด้านข่าวสาร นักลงทุนกำลังจับตาสัญญาณการแทรกแซงค่าเงินจากธนาคารกลางญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐที่จะประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ Fed และสร้างแรงกระเพื่อมต่อคู่เงิน USD/JPY อย่างมีนัยสำคัญ
แนวรับกำลังถูกคุกคาม – GBP/USD กำลังจะเกิดความผันผวนครั้งใหญ่?บนกรอบเวลา 1 ชั่วโมง GBP/USD แสดงสัญญาณอ่อนแรงหลังจากดีดกลับขึ้นมาแตะบริเวณแนวต้านสำคัญแถวระดับ 1.3319 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้น EMA และยอดสูงก่อนหน้า แท่งเทียนที่มีตัวเล็กและไส้เทียนด้านบนยาวบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนตัวลง และแรงขายที่กลับเข้ามาครอบงำ แนวโน้มทางเทคนิคยังคงเป็นขาลง โดยราคายังเคลื่อนไหวต่ำกว่าทั้งสามเส้น EMA หลัก โดยแนวรับสำคัญถัดไปอยู่ในโซน 1.3260–1.3248 (Fibonacci 0.5–0.618) หากราคาทะลุแนวรับนี้ลงมา มีแนวโน้มสูงที่จะลดลงต่อเนื่องไปยังระดับ 1.3206 ในด้านข่าวสาร ตลาดกำลังจับตาข้อมูล GDP ไตรมาส 1 ของสหราชอาณาจักรในวันนี้ และตัวเลข CPI ของสหรัฐที่จะประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งทั้งสองปัจจัยอาจสร้างความผันผวนให้กับคู่นี้ หาก GDP ของอังกฤษออกมาต่ำ และ CPI ของสหรัฐสูงกว่าที่คาดการณ์ GBP/USD อาจเผชิญแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
EUR/USD – แรงกดดันขาลงยังคงอยู่ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง EUR/USD ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่หลุดออกจากช่วงสะสมที่ยาวนานก่อนหน้านี้ ราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 34 และ 89 ทั้งสองเส้น ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นขาลงชัดเจน
การฟื้นตัวล่าสุดล้มเหลวเมื่อเข้าใกล้บริเวณ EMA 89 (ช่วง 1.1260–1.1280) โดยแท่งเทียนที่มีลำตัวเล็กและไส้เทียนด้านบนยาว แสดงถึงแรงซื้อที่ยังอ่อนแอ ยิ่งสนับสนุนโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงอีกครั้งเพื่อทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1.1200–1.1210 ซึ่งเคยเป็นจุดรับแรงซื้อที่แข็งแกร่งในอดีต
หากราคาทะลุแนวรับ 1.1200 อย่างชัดเจน อาจพิจารณาเปิดสถานะขายตามแนวโน้ม แต่หากบริเวณนี้ยังคงยืนอยู่ได้และปรากฏสัญญาณกลับตัวอย่างชัดเจน ก็อาจเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นได้
XAU/USD – แรงกดดันขาลงกลับมาอีกครั้งหลังการฟื้นตัวอ่อน รอตัดสินใจากการสังเกตกราฟ 1 ชั่วโมง XAU/USD แสดงสัญญาณอ่อนแรงหลังจากการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นไปยังบริเวณแนวต้านที่ระดับ 3,335–3,340 ซึ่งเป็นจุดที่มีการรวมตัวของเส้น EMA และแนวต้านแนวนอน หลายครั้งที่ราคาพยายามทดสอบบริเวณนี้แต่ถูกปฏิเสธโดยแท่งเทียนที่มีตัวเล็กและไส้บนยาว แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบ
โครงสร้างแนวโน้มในปัจจุบันยังคงเป็นขาลง โดยมีการฟอร์มตัวในรูปแบบช่องราคาลดลงก่อนหน้านี้ และราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น EMA สำคัญทั้ง 3 เส้น (34, 89, 200) ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงในระยะกลาง
หากราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่แข็งแกร่งดังกล่าวได้ มีแนวโน้มสูงที่จะปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับที่ระดับ 3,275–3,280 ซึ่งอาจมีแรงซื้อเข้ามารองรับ แต่หากแนวรับนี้ถูกทะลุผ่าน แนวโน้มขาลงอาจขยายตัวลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าประมาณ 3,260
ในด้านข่าวสาร ตลาดกำลังรอรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำ หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าที่คาด อาจทำให้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้น และกดดันราคาทองคำให้ลดลง ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็อาจช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้
ทองกำลังสะสมแรงเพื่อ... ร่วงใช่ไหม?จากการสังเกตกราฟ H1 ขณะนี้ XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน โดยราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA 34 และ EMA 89 โดยเฉพาะหลังจากเกิดการตัดลงบริเวณราคาใกล้ $3,335 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนตัว และฝั่งขายกำลังได้เปรียบ ราคาขณะนี้อยู่ในช่วงสะสมแรง และมีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ $3,335 ก่อนจะปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับสำคัญที่ $3,285 – $3,295 และลึกกว่านั้นที่ $3,215 – $3,230
ในด้านข่าวสาร ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง หากข้อมูล CPI ที่จะประกาศออกมาร้อนแรงกว่าคาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงสูง และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มผ่อนคลาย ก็ทำให้ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ท่ามกลางบริบทนี้ กลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอให้ราคาดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แล้วเปิดสถานะขาย โดยมีเป้าหมายที่แนวรับตามลำดับ ทั้งนี้หากราคาทะลุขึ้นไปเหนือ $3,360 อย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงในระยะสั้นอาจถูกยกเลิก
ขอให้ทุกคนโชคดีในการเทรด!
ราคาทองยืนบวกจากความเสี่ยงโลก-ดอลลาร์อ่อนตัวราคาทองคำยืนเหนือกำไรในวันท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัว
ราคาทองคำกลับมาเป็นบวกหลังจากร่วงลงระหว่างวันไปที่บริเวณ 3,275-3,274 ดอลลาร์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน การทวีความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาอีกครั้ง
ในเชิงเทคนิค การร่วงลงต่ำกว่าระดับแนวต้านซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ 3,260 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา และการปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ชี้ให้เห็นถึงภาวะหมีในคู่ XAU/USD อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัด (oscillators) บนกราฟรายวัน แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงส่ง แต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันถึงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน สิ่งนี้จึงทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งสำหรับการขาดทุนที่ลึกขึ้น และบ่งบอกว่าราคาทองคำอาจได้รับการสนับสนุนที่บริเวณแนวนอน 3,265-3,264 ดอลลาร์ แต่หากมีการขายต่อเนื่อง อาจเป็นการเปิดทางให้ราคาลดลงต่อไปยังแนวรับระหว่างกาลที่ 3,223-3,222 ดอลลาร์ ก่อนจะทดสอบระดับต่ำสุดรอบสัปดาห์ก่อนแถวบริเวณ 3,200 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน ระดับสูงสุดของเซสชั่นเอเชียแถวบริเวณ 3,324 ดอลลาร์ ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญทันที การเคลื่อนไหวขึ้นต่อไปอาจดึงดูดผู้ขายและจำกัดราคาทองคำให้อยู่ใกล้แนวต้านคงที่ที่ 3,360-3,365 ดอลลาร์ การยืนเหนือระดับนี้อย่างมั่นคงควรเปิดทางให้คู่ XAU/USD กลับไปทดสอบระดับ 3,400 ดอลลาร์ และไต่ขึ้นไปยังแนวต้านสำคัญถัดไปที่บริเวณ 3,434-3,435 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรอบสัปดาห์
ภาพรวมพื้นฐาน
การอ่อนตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) หลังจากแตะระดับสูงสุดรอบเกือบหนึ่งเดือนเมื่อต้นวันศุกร์ กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์นี้
จากการดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน คู่ XAU/USD ดูเหมือนจะยุติสถิติการขาดทุนติดต่อกันสองวัน แม้ว่าศักยภาพการขึ้นต่ออาจยังจำกัดอยู่ ความมองโลกในแง่ดีที่เกิดจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ และการเริ่มต้นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในช่วงสุดสัปดาห์ยังคงช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน นอกจากนี้ ท่าที "หยุดพักแบบสายเหยี่ยว" ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจำกัดการอ่อนค่าของ USD ในเชิงแก้ไข และจำกัดราคาทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทน
ราคาทองคำได้ประโยชน์จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ฟื้นตัว และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงเล็กน้อย
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ประกาศข้อตกลงการค้าทวิภาคีแบบจำกัดเมื่อวันพฤหัสบดี โดยคงอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหราชอาณาจักรเอาไว้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ฮาเวิร์ด ลัทนิค ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศข้อตกลงทางการค้าหลายสิบฉบับภายในเดือนหน้า แม้อัตราภาษี 10% ต่อประเทศส่วนใหญ่ยังคงอยู่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาลดภาษีต่อจีนลงเหลือ 50% จากเดิม 145% ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดและอาจจำกัดราคาคู่ XAU/USD รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมีสัน เกรียร์ มีกำหนดพบปะกับคู่เจรจาจีนในสวิตเซอร์แลนด์วันเสาร์นี้ เพื่อหารือเรื่องการค้าและเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางสหรัฐแสดงท่าทีเมื่อวันพุธว่าจะยังไม่เอนเอียงไปสู่การลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แม้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถอยลงหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ในช่วงเซสชั่นเอเชียวันศุกร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ
รัสเซียและยูเครนต่างรายงานว่าถูกโจมตีต่อกองกำลังของตนในวันแรกของการหยุดยิงฝ่ายเดียวสามวันที่ประกาศโดยประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน และความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารที่อาจขยายตัวตามแนวชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ยังคงเพิ่มความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัจจัยเหล่านี้เป็นอีกแรงหนุนที่ผลักดันให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสูงขึ้น
สมาชิกคณะกรรมการ FOMC ที่มีอิทธิพลหลายคนมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ นักลงทุนจะจับตาหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อความต้องการค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และส่งแรงผลักดันใหม่ให้กับสินค้าโภคภัณฑ์นี้ ซึ่งยังคงมีแนวโน้มที่จะปิดสัปดาห์ด้วยการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
แนวต้านใหม่แต่ไม่มั่นคง – XAUUSD กำลังจะร่วงลงหรือไม่?XAUUSD บนกรอบเวลา H4 กำลังแสดงสัญญาณการปรับตัวลดลงหลังจากแตะระดับแนวต้านสำคัญบริเวณ 3,434 ซึ่งมีการปฏิเสธราคาอย่างชัดเจนด้วยแท่งเทียนกลับตัวและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ร่วมกับโซน Fibonacci 0.5–0.618 ที่บริเวณ 3,328–3,303 และเส้น EMA 34, 89 ที่กำลังเกิดการตัดกันในระดับสำคัญ มีแนวโน้มสูงที่ราคาทองคำจะทะลุแนวรับนี้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 3,220
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน คาดการณ์ว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ลดลง และข้อมูล NFP ที่อ่อนแอซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น ดังนั้น กลยุทธ์ที่ควรให้ความสำคัญคือการขาย (short) หากราคาทะลุแนวรับ 3,303 และยืนยันรูปแบบการปรับฐานลง พร้อมกับติดตามพฤติกรรมราคาหากมีการดีดตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง.
เงินเยนร่วง หลังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนเพิ่มความเชื่อมั่นเงินเยนญี่ปุ่นแตะจุดต่ำสุดใหม่รายวันเทียบกับดอลลาร์สหรัฐท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ก่อนการประชุม FOMC
เงินเยนญี่ปุ่นสิ้นสุดสถิติชนะต่อเนื่องสามวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันพุธ
ความเชื่อมั่นในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนส่งผลกดดันอย่างหนักต่อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การเคลื่อนไหวราคาดอลลาร์สหรัฐที่ซบเซาอาจจำกัดการปรับขึ้นของคู่เงิน USD/JPY ก่อนการตัดสินใจนโยบายสำคัญของ FOMC
เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) แตะจุดต่ำสุดใหม่รายวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของการซื้อขายตลาดยุโรปในวันพุธ และดันคู่เงิน USD/JPY ขึ้นใกล้ระดับกลาง 143.00 ในชั่วโมงสุดท้าย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกได้รับแรงหนุนอย่างมากหลังจากมีการประกาศว่าจะมีการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น เงินเยน ถูกลดความน่าสนใจลง
อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจปรับเพิ่มมุมมองทางเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่น และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อที่ขยายวงในญี่ปุ่น น่าจะเป็นแรงสนับสนุนต่อค่าเงินเยน นอกจากนี้ การซื้อดอลลาร์สหรัฐที่ซบเซาอาจมีส่วนช่วยจำกัดการปรับขึ้นของคู่เงิน USD/JPY ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมสองวันของ FOMC อย่างใกล้ชิด
แรงขายเงินเยนยังคงครองความได้เปรียบในระหว่างวัน แม้จะมีการคาดการณ์ BoJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยและการซื้อ USD ที่จำกัด
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนท์ และผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมิสัน เกรียร์ จะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้ากับรองนายกรัฐมนตรีจีน เหล่ย ลี่เฟิง เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเบสเซนท์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลทรัมป์อาจประกาศข้อตกลงทางการค้ากับคู่ค้าการค้ารายใหญ่ที่สุดบางรายได้เร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน
ซึ่งในทางกลับกัน สิ่งนี้ถูกมองว่าลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม และกดดันเงินเยนญี่ปุ่นในช่วงการซื้อขายตลาดเอเชียวันพุธ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น หลังจากขาดทุนต่อเนื่องสามวัน เนื่องจากมีการจัดพอร์ตการลงทุนใหม่ก่อนการตัดสินใจครั้งสำคัญของ FOMC และดันคู่เงิน USD/JPY กลับขึ้นเหนือระดับ 143.00
ธนาคารกลางสหรัฐคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อสิ้นสุดการประชุมสองวัน ดังนั้น ตลาดจะให้ความสำคัญกับแถลงการณ์นโยบายที่มาพร้อมกัน นอกจากนี้ คำกล่าวของประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ ในการแถลงข่าวหลังการประชุมจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่นย้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจและราคาสินค้าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตน นอกจากนี้ ความคาดหวังว่าการปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่องจะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเงินเฟ้อในญี่ปุ่น ยังคงเปิดทางให้มีการปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกติเพิ่มเติมโดย BoJ และอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
ในขณะเดียวกัน โฆษกทำเนียบเครมลินได้เตือนว่าหากยูเครนไม่หยุดยิง จะมีการตอบโต้ที่เหมาะสมทันที นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลยังลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ขยายปฏิบัติการทางทหารในกาซาและค่อยๆ ยึดครองดินแดน ซึ่งยังคงสร้างความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และควรช่วยจำกัดการสูญเสียค่าเงินเยนในระดับลึก
คู่เงิน USD/JPY อาจเผชิญความยากลำบากในการทะลุแนวต้านสำคัญถัดไปใกล้โซน 143.55-143.60
จากมุมมองทางเทคนิค ความล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 ช่วงเวลา (SMA) บนกราฟ 4 ชั่วโมง และการปรับตัวลดลงต่อมา เอื้อประโยชน์ต่อผู้ขายฝั่งขาลง นอกจากนี้ เครื่องมือวัดโมเมนตัมบนกราฟรายวัน/รายชั่วโมงยังอยู่ในแดนลบ บ่งชี้ว่าทิศทางที่ง่ายที่สุดของคู่เงิน USD/JPY ยังคงเป็นขาลง ดังนั้น การปรับขึ้นเพิ่มเติมใดๆ ยังอาจถูกมองว่าเป็นโอกาสในการขายใกล้บริเวณ 143.55-143.60
ซึ่งจะเป็นการจำกัดราคาสปอตใกล้ระดับ 144.00 ตามมาด้วยโซนซัพพลาย 144.25-144.30 ซึ่งหากสามารถทะลุได้อย่างเด็ดขาด อาจกระตุ้นการดีดตัวจากการปิดสถานะชอร์ต และดันราคาสปอตขึ้นสู่ระดับจิตวิทยาที่ 145.00
ในทางกลับกัน พื้นที่ 142.35 หรือจุดต่ำสุดประจำสัปดาห์ ดูเหมือนจะเป็นแนวรับทันทีของคู่เงิน USD/JPY ก่อนถึงระดับ 142.00 การทะลุลงต่ำกว่าระดับหลังนี้อย่างชัดเจน อาจทำให้ราคาสปอตเสี่ยงที่จะเร่งตัวลงต่อไปยังแนวรับสำคัญถัดไปใกล้โซน 141.60-141.55 ระหว่างทางไปสู่ระดับจิตวิทยาที่ 141.00
XAUUSD ใกล้จุดตัดสิน – จะพุ่งต่อหรือดิ่งลึก?XAUUSD บนกราฟ H4 แสดงสัญญาณของการอ่อนแรงหลังจากเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 3,434 ดอลลาร์ นี่คือบริเวณที่มีการบรรจบกันทางเทคนิคอย่างชัดเจนกับจุดสูงเดิม และอาจเกิดแรงขายทำกำไรได้
ขณะนี้ ราคามีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงสู่แนวรับสำคัญที่ระดับ 3,327 และ 3,301 ซึ่งสอดคล้องกับระดับ Fibonacci 0.5 และ 0.618 รวมถึงค่าเฉลี่ย EMA หลัก หากแนวรับเหล่านี้ถูกทะลุลงมา เป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่ระดับ 3,225 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน หากตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในไม่ช้านี้อ่อนแอกว่าคาดการณ์ และ Fed แสดงท่าทีผ่อนคลาย ราคาทองคำอาจดีดตัวขึ้นจากแนวรับดังกล่าว นักลงทุนควรรอสัญญาณยืนยัน (เช่น แท่งเทียนกลับตัวจากแนวต้านหรือลงจากแนวรับ) ก่อนตัดสินใจเข้าออร์เดอร์