XAUUSD ทะยานขึ้น รอฝ่ากำแพงที่ระดับ 2,714 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำโลกพุ่งทะลุระดับ 2,700 USD ขึ้นมาแล้ว XAUUSD วันนี้ทะยานขึ้นจาก “กรอบขาลง” และเคลื่อนไหวที่ระดับ 2,701.655 ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจาก EMA 34 (2,657.615) และ EMA 89 (2,654.979)
อย่างไรก็ตาม ข้างหน้ายังมี “กำแพง” ที่ระดับ 2,714 หากฝ่าขึ้นไปได้ เส้นทางสู่เป้าหมายใหม่ที่ระดับ 2,731 จะเปิดออก แต่หากไม่สามารถฝ่าด่านนี้ได้ ราคาทองคำอาจ “พักตัว” ที่ระดับแนวรับ 2,660 ก่อนเริ่มการขยับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยแนวรับดังกล่าวยังเป็นจุดที่ EMA 34 และ EMA 89 ตัดกัน ช่วยเสริมแรงหนุนการปรับตัวขึ้น
ภายใต้แรงกดดันจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และท่าทีระมัดระวังของ Fed ทองคำยังคงเป็น “ที่พึ่ง” สำหรับนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะนี้ การติดตามความเคลื่อนไหวของราคาบริเวณระดับสำคัญเป็นสิ่งที่นักเทรดไม่ควรพลาด
M-forex
EURUSD: ทะลุแนวต้านหรือกลับตัว?คู่เงิน EURUSD กำลังฟื้นตัวทีละเล็กทีละน้อย โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.0588 หลังจากเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่ควรดีใจเร็วเกินไป เพราะ "กำแพงแนวต้าน" EMA 34 และ EMA 89 กำลังตั้งอยู่ในช่วง 1.0600 – 1.0620 ซึ่งอาจทำให้ราคาชะลอตัวลงได้
ภาพรวมทางเทคนิคชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่น่าสนใจ เมื่อเส้นแนวโน้มกำลังส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้น หากราคาทะลุแนวต้านบริเวณ 1.0620 ได้ เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1.0650 จะเป็นที่จับตามอง แต่หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ การปรับตัวลงมาที่ระดับแนวรับ 1.0550 อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดเด่นในสัปดาห์นี้คือข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ที่จะมีบทบาทสำคัญ! ข้อมูลเงินเฟ้อจะยังคงหนุนค่าเงินดอลลาร์ต่อไปหรือไม่? หรือยุโรปจะกลับมาสร้างความเปลี่ยนแปลง? เตรียมตัวให้พร้อม เพราะตลาดอาจสร้างเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดถึง!
XAUUSD: ท้าทาย EMA 89, โอกาสหรือความเสี่ยง?XAUUSD กำลังฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง โดยซื้อขายที่ระดับ 2,644 USD หลังจากทะลุกรอบขาลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางขึ้นของราคาทองคำกำลังเผชิญกับ "กำแพงเหล็ก" คือเส้น EMA 89 ที่ระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่อาจลดแรงขาขึ้นในปัจจุบัน
กรณีเชิงบวก: หากราคาทะลุผ่านโซน 2,644-2,650 USD แรงซื้อที่แข็งแกร่งอาจผลักดัน XAUUSD ไปถึงระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นจุดที่นักเทรดหลายคนกำลังรอคอย
กรณีเชิงลบ: หากไม่สามารถทะลุได้ ราคาทองคำอาจย้อนกลับลงไปที่ระดับแนวรับสำคัญ 2,580 USD ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดว่าทิศทางขาขึ้นยังคงมั่นคงหรือไม่
ปัจจุบัน "กระแสลม" จากตลาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ เนื่องจากข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐสูญเสียข้อได้เปรียบบางส่วน อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ที่กำลังจะมาถึง ทุกสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้ นักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนที่ไม่คาดคิด
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดการซื้อตามมาเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบครึ่งสัปดาห์ที่ระดับ 2,641-$2,642 ในช่วงตลาดเอเชีย ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงผลักดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม ซึ่งรวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่ชะลอตัวลง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนโลหะในไตรมาสนี้
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ความคิดเห็นในชั่วข้ามคืนจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ได้ช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการเริ่มต้นของสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากน้ำเสียงโดยทั่วไปในตลาดหุ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และขอเตือนก่อนที่จะกลับตัวในราคาทองคำที่ขยับขึ้นอีก
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แนวโน้มขาขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในกรอบเวลาและแนวต้านที่สำคัญจนถึง 2660-2662 แผนการซื้อขายวันนี้ส่วนใหญ่ยังคงรอสัญญาณซื้อเมื่อมีการทดสอบซ้ำ ให้ความสนใจกับช่วงราคาทดสอบซ้ำที่ระบุไว้ในแผนภูมิเพื่อให้มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีสำหรับตัวคุณเอง สิ่งเหล่านี้คือโซน Fibonacci และยังเป็นโซนจิตวิทยาที่ตลาดให้ความเคารพด้วย 2622-2613-2597 เป็นพื้นที่ที่ต้องใส่ใจ
"GBP/JPY พุ่งแรง! ทะลุ 196.00 ก่อนเผยตัวเลข CPI สหราชอาณาจักร"**GBP/JPY พุ่งทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 แตะจุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ก่อนการเปิดเผยตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักร**
📈 *GBP/JPY ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการขาย JPY ที่กลับมาอีกครั้ง*
🌍 *ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของ BoJ กดดันค่าเงินเยน (JPY)*
💡 *การวิเคราะห์ทางเทคนิคแนะนำให้ระมัดระวังสำหรับนักลงทุนฝั่งซื้อ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร*
คู่เงิน **GBP/JPY** ยังคงแรง rebound จากระดับ 193.60-193.55 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และยังคงเพิ่มแรงดึงดูดเชิงบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันพุธ การฟื้นตัวนี้ส่งผลให้ราคาสปอตทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 ในช่วงตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายใหม่ในฝั่งเงินเยน (JPY) 😲📊
💬 *คำแถลงจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ* อีกทั้ง *ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ)* กดดันค่าเงินเยนที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 😅✨ ในขณะเดียวกัน *ความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ* และชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ส่งผลให้เงินปอนด์ (GBP) ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม 💷💪
🔍 *อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงตลาด FX เพื่อหนุนค่าเงินเยน รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจทำให้นักลงทุนฝั่งขาย JPY ยับยั้งการลงเดิมพันที่รุนแรง* นักลงทุนยังอาจเลือกที่จะรอข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคล่าสุดของสหราชอาณาจักรก่อนตัดสินใจวางเดิมพันเชิงทิศทางอย่างจริงจัง 🎯📉
**มุมมองทางเทคนิค**
จากมุมมองทางเทคนิค คู่เงิน **GBP/JPY** แสดงความแข็งแกร่งที่ระดับต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA) ในวันอังคารที่ผ่านมา และแรงซื้อที่เกิดขึ้นตามมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนฝั่งซื้อ ✨📈 นอกจากนี้ เครื่องมือ Oscillators ในกราฟรายวันเริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำ แต่ยังไม่ยืนยันแนวโน้มเชิงบวก 📊
- หากราคาสามารถทะลุระดับ **197.00** ได้สำเร็จ อาจเผชิญแรงต้านสำคัญที่โซน **197.70-197.80**
- การซื้อที่ตามมาทะลุระดับ **198.00** อาจเป็นการเปิดทางสำหรับกำไรระยะสั้นเพิ่มเติม 🚀💹
ในทางกลับกัน ระดับ **196.00** ดูเหมือนจะเป็นแนวรับสำคัญทันที ซึ่งหากหลุดไป ราคาคู่อาจลดลงไปที่แนวรับ **195.40-195.35** และต่ำกว่าระดับ **195.00** ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเส้น SMA 200 วัน การหลุดระดับนี้อาจดึงราคากลับไปยังจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้าใกล้โซน **193.60-193.55** โดยมีแนวรับระหว่างทางใกล้ระดับ **194.00** 🎯📉
#GBPJPY #คู่เงิน #เงินเยน #เงินปอนด์ #CPI #วิเคราะห์กราฟ #ตลาดการเงิน #เทรดเดอร์
**"EUR/USD ใกล้โซนวิกฤต ลุ้นทะลุแนวต้านหรือดิ่งลงต่อ"**### **การวิเคราะห์ EUR/USD อย่างละเอียดและรอบด้าน**
---
### **1. การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement และแนวโน้มระยะยาว**
- **โซนสำคัญ (Key Levels)**:
- แนวรับ: **1.01475 (Fibonacci 0.786)** และ **1.04515 (Fibonacci 0.618)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มดีดกลับจากแรงซื้อ (Demand Zone) หากราคาลงมาทดสอบ.
- แนวต้าน: **1.06803 (Fibonacci 0.382)** และ **1.08465 (Fibonacci 0.236)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มเผชิญแรงขาย (Supply Zone) หากราคาฟื้นตัวขึ้น.
- **การตีความ**:
- หากราคาทะลุแนวต้านที่ 1.06803 อาจพุ่งต่อเนื่องไปยังโซน 1.08465.
- หากราคาหลุดแนวรับ 1.05982 อาจปรับตัวลงไปยังระดับ 1.04515 หรือ 1.02478.
---
### **2. การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยเส้น EMA**
- **EMA 20/50/100/200**:
- EMA 200 อยู่ด้านบนของกราฟ บ่งบอกว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาลงที่ชัดเจน.
- ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า EMA 20 และ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่หมด.
- **กลยุทธ์**:
- หากราคายืนเหนือ EMA 20 ได้อีกครั้ง อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในระยะสั้น.
- หากราคายังอยู่ต่ำกว่า EMA 50 ให้พิจารณาตามแนวโน้มขาลงต่อไป.
---
### **3. การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาด (RSI และ MACD)**
- **RSI (Relative Strength Index)**:
- RSI อยู่ที่ **35.85** ใกล้โซน Oversold แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง.
- หาก RSI ลงไปต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณ Oversold ที่ชัดเจน และอาจเกิดการดีดกลับของราคา.
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**:
- เส้น MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal Line และอยู่ในแดนลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังเด่นชัด.
- หากเกิด Bullish Divergence (MACD เริ่มกลับขึ้นขณะที่ราคายังลง) จะเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือ.
---
### **4. การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)**
#### **Descending Triangle**:
- **ลักษณะของกราฟ**:
- ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (Descending Triangle) โดยมีแนวรับที่ 1.05982 และแนวต้านลาดลง.
- รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณของการ Breakout ขาลง หากราคาหลุดแนวรับ.
- **โอกาส**:
- หากราคาหลุดแนวรับที่ 1.05982 อาจปรับตัวลงต่อไปยังเป้าหมายที่ 1.04515 หรือ 1.02478.
- หากราคาทะลุแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม อาจฟื้นตัวขึ้นสู่ 1.08465.
#### **Descending Channel**:
- ราคากำลังเคลื่อนที่ใน **Descending Channel**:
- ขอบล่างของ Channel ใกล้ 1.04515 อาจเป็นจุดดีดกลับ (Rebound Zone).
- ขอบบนของ Channel ใกล้ 1.08700 เป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา.
---
### **5. การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
- **Bearish Engulfing**:
- รูปแบบแท่งเทียนขาลงที่กลืนแท่งก่อนหน้า (Bearish Engulfing) บ่งบอกถึงแรงขายเด่นชัดในแนวต้าน.
- **Doji Candlestick**:
- การเกิด Doji ในโซนสำคัญ เช่น Fibonacci 0.618 อาจสะท้อนการลังเลของตลาดและการพักฐาน.
---
### **6. Harmonic Patterns**
- **Gartley Pattern**:
- หากราคาย่อตัวลงไปที่โซน 1.04515 (Fibonacci 78.6%) และเด้งกลับ จะยืนยันการสร้าง Bullish Gartley Pattern.
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.04515 และแตะ 1.02478 (Fibonacci 88.6%) โอกาสเด้งกลับมีสูง.
---
### **7. การวิเคราะห์โซนอุปสงค์-อุปทาน (Supply and Demand Zones)**
- **Demand Zones**:
- โซน 1.04515 และ 1.02478 เป็นจุดที่ราคามีโอกาสเด้งกลับจากแรงซื้อ.
- **Supply Zones**:
- โซน 1.08773 เป็นพื้นที่ที่แรงขายมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หากราคาฟื้นตัวขึ้นมา.
---
### **สรุปแผนการเทรด**
1. **กลยุทธ์ขาลง (Bearish Strategy)**:
- หากราคาหลุดแนว 1.05982:
- Short ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.04515.
- ติดตาม RSI และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง.
2. **กลยุทธ์ขาขึ้น (Bullish Strategy)**:
- หากราคายืนเหนือ 1.06803:
- Buy ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.08465.
- ใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคอนเฟิร์ม.
3. **เฝ้าดูพฤติกรรมราคา**:
- หากราคาลงมาทดสอบโซน Demand (1.04515 หรือ 1.02478) พร้อมเกิด Bullish Candlestick เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ให้มองหาจังหวะเข้าซื้อ.
4. **การบริหารความเสี่ยง**:
- ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า Demand Zone สำหรับการตั้งสถานะซื้อ และเหนือ Supply Zone สำหรับการตั้งสถานะขาย.
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวัง.
---
**หมายเหตุ**: ควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับแผนการเทรดให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน. 📊📈📉
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 19 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดกระแสน้ำบางส่วน หลังจากที่ร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว และยุติการแพ้ติดต่อกัน 6 วันในวันจันทร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงยังกระตุ้นให้มีการเทกำไรในสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ภายหลังการเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ สู่ระดับใหม่สำหรับปีที่กลายเป็นปัจจัยลบอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนโลหะสีเหลืองที่ไม่ทำกำไร
ภาวะกระทิงของ USD ยังคงเป็นแนวรับในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันอังคาร และสนับสนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวเพิ่มเติมจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ความคาดหวังก็คือนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม สิ่งนี้น่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงและเป็นประโยชน์ต่อนักเก็งกำไร USD ซึ่งอาจจำกัด XAU/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระดับแนวต้านทางเทคนิคที่ 2,624 ที่ทองคำเผชิญอยู่จะมีความสำคัญมากในช่วงการซื้อขายของยุโรปในปัจจุบัน แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่มีการฟื้นตัวของราคามากนัก ปัจจุบันพื้นที่ปี 2595 ถือเป็นเป้าหมายคลื่นขาลงทั้งหมด โซน 2648-2650 ถือเป็นแนวต้านหลักวันนี้ ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณควรจัดลำดับความสำคัญของสัญญาณซื้อ 2615 ที่จุดทะลุเก่าเพื่อให้มีกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 13 พฤศจิกายนการวิเคราะห์พื้นฐาน
ราคาทองคำเทียบเคียงการฟื้นตัวเล็กน้อยของวัน แม้ว่าจะยังคงอยู่เหนือ 2,600 ดอลลาร์ในช่วงตลาดยุโรปเมื่อวันพุธ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าที่สัญญาไว้โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการของนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ส่งผลให้มีการไหลเข้าสู่โลหะมีค่า นอกจากนี้ การเปลี่ยนตำแหน่งกิจกรรมการซื้อขายก่อนข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนสินค้าโภคภัณฑ์
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงทรงตัวที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางความหวังว่านโยบายขยายเวลาของทรัมป์อาจกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) แนวโน้มยังคงสนับสนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในทางกลับกัน จะเป็นข้อจำกัดการเคลื่อนไหวขาขึ้นของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกต่อไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
เมื่อวานทองคำร่วงลงมาที่เครื่องหมาย 618 ของส่วนขยาย Fibo และเช้านี้ทะลุดาวโจนส์จากปี 2598 และบินไปที่ 2613 ขณะนี้เรากำลังรอการทะลุเพื่อหาจุดซื้อ หรืออย่างน้อยก็มีการแก้ไขจุด Regression ที่ 2603 เป็น ตรวจพบสัญญาณซื้อ แต่ที่ 2608 นี่ค่อนข้างจะครึ่งๆกลางๆ เลือกแนวโน้มขาขึ้นสำหรับวันนี้แต่เป็นเพียงการปรับฐาน ดังนั้น ก่อนข่าวคืนนี้ ผมจะเลือกซื้อโดยมี TP สั้นไปที่บริเวณ 2625 (กรณีทะลุ 2615)
ขายเหตุการณ์สำคัญ 2625 - 2627, 2644 - 2646, 2658 - 2660 จะได้รับการอัปเดตในเวลาที่มีสัญญาณเรียลไทม์ ผู้ดูแลระบบจะแจ้งให้คุณทราบ
สัญญาณซื้อที่ดีที่สุดด้านล่างคือรอพักเบรกปี 2593 ราคากลับมาที่จุด 2586, 2576 - 2574 ทะลุแนวรับหลอกๆ ผ่านปี 2565 เพื่อรับการเข้าปี 2562 สวยงาม พื้นที่อื่นๆ ควรถลกหนัง แต่อย่าคาดหวังนานเกินไป อย่างน้อยก็ต้องเริ่มจากพื้นที่ปี 2574 เป็นต้นไป ถึงจะคิดจะเก็บ
ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง!ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง! 📉💰
* ทองคำลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 📅
การปรับตัวลงของทองคำยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ โดยราคากำลังแตะระดับที่น่าสนใจอยู่ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมที่ $2,604 กำลังถูกจับตามองในกราฟรายวัน โดยราคาลงต่ำกว่า $2,600 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ช่วงหลังเลือกตั้งนี้ดูเหมือนจะเอื้ออำนวยให้สินทรัพย์อื่นมากกว่าทองคำเสียอีก 🗳️📊
ในภาพรวมแล้ว ผมยังคงเชื่อมั่นในทองคำ 🌟 และยอมรับการปรับฐานล่าสุดนี้อย่างเต็มใจ การขึ้นของราคาทองคำในปีนี้อาจเรียกได้ว่ามีแต่ขึ้นฝ่ายเดียว ดังนั้นการปรับตัวลงในช่วงนี้อาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดในระยะยาวครับ 📈💪
ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยหากราคาต่ำกว่า $2,600 อย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณให้ทองคำทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (เส้นสีแดง) ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ $2,538 📉 การที่ทองคำไม่เคยลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายวันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วนั้นสะท้อนถึงแรงขาขึ้นที่เราได้เห็นมาตลอดปีนี้ 🔥💹
นั่นจะเป็นแนวรับแรกที่นักลงทุนอาจเริ่มเข้ามาซื้อในจังหวะที่ราคาลดลง แต่หากแนวนี้ไม่สามารถยืนได้ ราคาทองคำอาจมุ่งไปยังเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (เส้นสีน้ำเงิน) ที่อยู่ใกล้ $2,400 ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญที่นักลงทุนอาจพิจารณาเข้ามาซื้อเพิ่มครับ 💙🛑 #ราคาทองคำ #ตลาดทอง #การลงทุนทองคำ #วิเคราะห์ทองคำ #ทองคำ #เศรษฐกิจ
เงินปอนด์แข็งค่า รับการเลือกตั้งสหรัฐฯ และ BoE ลดดอกเบี้ยเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการตัดสินใจของ Fed-BoE 💷💪
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขณะที่ใกล้เข้ามาถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 🗳️ นักลงทุนคาดหวังว่า Fed และ BoE จะลดดอกเบี้ยลง 25 จุดในวันพฤหัสบดีนี้ 📉
* ผู้เข้าร่วมตลาดยังประเมินผลกระทบของการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของประเทศ 🏦
เงินปอนด์ (GBP) ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับคู่ค้าหลัก โดยนักลงทุนจับตามองการประชุมของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาอยู่ที่ 4.75% 📉 นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองของปีนี้ โดยคาดว่ากรรมการ MPC เจ็ดคนจะลงมติสนับสนุนให้ผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่อีกสองคนคาดว่าจะสนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 📊
#เลือกตั้งสหรัฐ #การเงิน #การลงทุน #BoE #GBPUSD
สมาชิกภายนอกของ BoE, Catherine Mann คาดว่าจะเป็นหนึ่งในสองคนที่โหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม 📈 ในการอภิปรายที่จัดขึ้นในระหว่างการประชุม IMF เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม Mann ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสายเหยี่ยวที่ชัดเจน ชื่นชมการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง แต่เน้นถึงความจำเป็นในการชะลอตัวมากขึ้น 📉 เธอกล่าวว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ด้านบริการ (เงินเฟ้อ) ยังต้องลดลงอีกมาก" เมื่อถามถึงจุดยืนเรื่องอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน Mann ระบุว่าการลดดอกเบี้ยยังเร็วเกินไปในขณะนี้ 📊
นอกจากการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย นักลงทุนยังคาดหวังความเห็นจาก BoE เกี่ยวกับผลกระทบจากคำแถลงฤดูใบไม้ร่วงของสหราชอาณาจักร ซึ่งเปิดเผยโดยรัฐมนตรีการคลัง Rachel Reeves เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 📈 หลังการประกาศงบประมาณ สำนักงานความรับผิดชอบทางธุรกิจ (OBR) ระบุว่ามาตรการทางการคลังที่ประกาศออกมามีลักษณะสนับสนุนการเติบโตและอาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อ 📊
#เงินปอนด์ #การเงินอังกฤษ #ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #OBR
สรุปเหตุการณ์ประจำวันที่ส่งผลต่อตลาด: เงินปอนด์จะได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์หลายอย่าง 💹
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยใกล้ระดับ 1.2980 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในช่วงการซื้อขายที่ลอนดอนเมื่อวันอังคาร ก่อนเริ่มการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเช้าของทวีปอเมริกาเหนือ 📊 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล ลดลงเล็กน้อยใกล้ระดับ 103.80 📉
* ดอลลาร์สหรัฐได้ประสบกับการลดการถือครองสัญญายาวอย่างมาก หลังจากผลสำรวจของ Des Moines Register/Mediacom ระบุว่ารองประธานาธิบดี Kamala Harris นำหน้าอดีตประธานาธิบดี Donald Trump สามคะแนนในรัฐไอโอวา รัฐที่ Trump เคยชนะอย่างชัดเจนในปี 2016 และ 2020 📉
* Trump สัญญาจะเก็บภาษีอัตรารวม 10% กับเศรษฐกิจทั้งหมด ยกเว้นจีนซึ่งคาดว่าจะเผชิญภาษีที่สูงกว่า รวมถึงสัญญาลดภาษีนิติบุคคลที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง 📈
#การเลือกตั้งสหรัฐ #ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายการค้า #USD
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการตัดสินใจนโยบายการเงินของ Federal Reserve (Fed) ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี 🏦 ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Fed คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาที่ 4.50%-4.75% นับเป็นการลดครั้งที่สองต่อเนื่อง โดยขนาดของการลดครั้งนี้จะน้อยกว่าเดือนกันยายนที่ลดลง 50 จุด 📉
#Fed #อัตราดอกเบี้ย #การลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เงินปอนด์พยายามขยับสูงกว่าระดับ 1.3000 💹
เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมาใกล้ระดับ 1.2980 โดยคู่ GBP/USD เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของวันจันทร์ก่อนการเปิดให้ลงคะแนนเสียงในสหรัฐฯ 📈 แนวโน้มระยะสั้นของคู่ GBP/USD ยังคงเป็นขาลงเนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 แต่ได้รับแรงสนับสนุนใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ระดับ 1.2850 📉
ตัวชี้วัด RSI 14 วันยังคงอยู่เหนือระดับ 40.00 แสดงถึงความสนใจในการซื้อเมื่อราคาต่ำลง 📊 โดยแนวรับสำคัญที่ 1.2800 จะเป็นจุดที่สำคัญสำหรับนักเก็งกำไรฝั่งขาขึ้น ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 🔼
#การวิเคราะห์ทางเทคนิค #เงินปอนด์ #GBPUSD #ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐเตรียมร่วง หากหลุดแนวรับสำคัญ 151.05! USD/JPY: มีแนวโน้มจะลดลงหากหลุดต่ำกว่า 151.05 – UOB Group 📉💸
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75 📊 อย่างไรก็ตามในระยะยาว แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ที่เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยต้องหลุดต่ำกว่า 151.05 และรักษาระดับไว้ต่ำกว่าจุดนี้ก่อนจึงจะเกิดการปรับฐานลงที่มั่นคงได้ 📉 นักวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนของ UOB Group, Quek Ser Leang และ Lee Sue Ann กล่าว 🧐
USD/JPY คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75 💹
**มุมมอง 24 ชั่วโมง:** “เมื่อวานนี้ ขณะที่ USD อยู่ที่ 152.10 เราคาดว่าจะมี ‘แนวโน้มขาลง’ 🐻 แต่เราชี้ให้เห็นว่า ‘เนื่องจากโมเมนตัมไม่แข็งแรง การลดลงจึงไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 151.50 ได้ชัดเจน’ นอกจากนี้ เรายังระบุว่า ‘แนวรับหลักที่ 151.05 ไม่น่าจะถูกท้าทาย’ ท้ายที่สุด USD ร่วงลงมาถึง 151.54 และกลับมาอยู่ที่ 152.13 การฟื้นตัวในโมเมนตัมที่ช้าลงแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว วันนี้เราคาดว่า USD จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75” 📈🔄
**มุมมอง 1-3 สัปดาห์:** “เราได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (01 พ.ย. อยู่ที่ 152.05) ว่า ‘การเพิ่มขึ้นของ USD ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วได้สิ้นสุดลงแล้ว’ 🛑 เราเสริมว่า ‘โมเมนตัมขาลงเริ่มก่อตัว แต่ USD ต้องหลุดต่ำกว่า 151.05 และรักษาระดับไว้ต่ำกว่าจุดนี้ก่อนถึงจะเกิดการปรับตัวลงที่มั่นคงได้’ 🕰 เมื่อวานนี้ (วันจันทร์) USD ร่วงถึงระดับต่ำสุดที่ 151.54 แต่โมเมนตัมยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นยังต้องรอดูว่า USD จะหลุดต่ำกว่า 151.05 ได้ชัดเจนหรือไม่ โดยภาพรวมแล้ว หากไม่หลุดที่แนวต้านแข็งแกร่งที่ 153.35 (แนวต้านไม่เปลี่ยนแปลง) โอกาสที่จะหลุดต่ำกว่า 151.05 จะยังคงมีอยู่” 🔥
#USDJPY #อัตราแลกเปลี่ยน #ดอลลาร์สหรัฐ #การลงทุน #การวิเคราะห์
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 4 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำซื้อขายในแดนบวกในวันจันทร์ ความเสี่ยงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนโลหะสีเหลือง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยแบบดั้งเดิมในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม ความต้องการดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นใหม่และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอาจจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นทำให้สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน เช่น ทองคำแท่ง มีความน่าดึงดูดน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบ
นักลงทุนจะจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นในวันอังคารอย่างใกล้ชิด ความสนใจจะหันไปที่การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันพฤหัสบดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามปกติ 25 จุด (bps) ในวันพฤหัสบดี แทนที่จะทำการผ่อนคลายครึ่งจุดมากเกินไปอีกครั้ง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำอยู่ในกรอบแคบในช่วงต้นสัปดาห์ อัตรากำไรขั้นต้นของ 2748 และ 2728 ยังคงรับประกันในช่วงเอเชีย-ยุโรปในปัจจุบัน เรายังต้องขึ้นอยู่กับระดับความผันผวนของตลาดเพื่อเลือกช่วงราคาที่จะซื้อขาย พื้นที่สนับสนุนที่น่าสนใจคือ 2718,2709 สังเกตเส้นขอบด้านบนประมาณ 2760 และ 2780 เมื่อราคาหลุดออกจากโซนแนวรับ 2728 กลยุทธ์หลักคือการดูการขายเมื่อผู้ขายชนะตลาด ขอให้คุณมีวันซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 31 ต.คการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดการซื้อในช่วงที่ลดลง และสำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะหยุดการปรับฐานจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ท่ามกลางการเดิมพันในแผนงานที่ลดลง อัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ช้าลง โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง . เมื่อรวมกับความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลทางการคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ยังคงผลักดันอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐให้สูงขึ้น และจำกัดกำไรของโลหะสีเหลืองที่ไม่ให้ผลตอบแทนเนื่องจากสภาวะการซื้อมากเกินไปเล็กน้อยในกราฟรายวัน
ผู้ค้ายังดูไม่เต็มใจที่จะวางเดิมพันขาขึ้นครั้งใหม่เกี่ยวกับราคาทองคำ และเลือกที่จะรอการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) ที่จับตามองอย่างใกล้ชิดในวันศุกร์ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการโลหะมีค่านี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
หลังจากการตอบรับที่รุนแรงประมาณปี 2771 พื้นที่พอร์ตเซสชั่นได้ถูกสร้างขึ้นและเป็นระดับแนวรับทันทีในปัจจุบันเพื่อให้ราคาทองคำตอบสนอง 2756-2758 สังเกตได้ในโซนตามด้วยจุดพักที่โดดเด่น ในทิศทางแนวต้าน คำสั่งขายไม่ค่อยดีนัก แนวหน้ามีระดับ ATH 2789 อย่ามั่นใจจนเกินไป ระดับ 2 รอบท่าเรือในปี 2799-2801 สำหรับจุดแนวต้านถัดไป ให้จับตาดูระดับจิตวิทยาของ 2810 ขอให้ทุกท่านซื้อขายด้วยการวิเคราะห์ของผมให้ดี
BTC ทะลุ $70K! ลุ้นตลาดคริปโตพุ่งแรงรับเลือกตั้งสหรัฐ **BTC ทะลุ $70,000! นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน** 🚀🇺🇸
* 💰 BTC พุ่งทะลุ $70,000 ขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
* 📈 **แมทธิว ซิเกล** จาก VanEck ชี้ว่าแนวโน้ม Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นก่อนถึงการเลือกตั้ง
* 🪙 กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัลมีเงินไหลเข้า **901 ล้านดอลลาร์** โดย Bitcoin ETFs เป็นผู้นำตลาด
---
**BTC พุ่งแรงรับต้นสัปดาห์ ขึ้นเหนือ $70,000 ตามแรงหนุนการเลือกตั้งสหรัฐ** 🌐📊
Bitcoin เปิดสัปดาห์ด้วยการทะยานขึ้นเกิน $70,000 โดยราคาบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามา ตามรายงานของ **แมทธิว ซิเกล** หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck 📋
นักลงทุนสถาบันแสดงความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิในสัปดาห์ที่แล้ว **901 ล้านดอลลาร์** 🏦
---
**BTC ใกล้จุดสูงสุดใหม่ ขณะทรัมป์เพิ่มคะแนนนำก่อนเลือกตั้ง** 🔥🏛️
Bitcoin ทะยานแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันจันทร์ โดยพุ่งทะลุ $70,000 ไปช่วงสั้น ๆ และใกล้แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ **$73,700** 📉
ราคา BTC ปรับขึ้น **2.7% ใน 24 ชั่วโมง** ที่ผ่านมา และขณะที่เขียนนี้ซื้อขายอยู่ราว ๆ **$69,900**
ซิเกลกล่าวในบทสัมภาษณ์กับ CNBC ว่า **"โครงสร้างตลาดของ Bitcoin ก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้คล้ายกับช่วงปลายปี 2020"** ซึ่ง BTC พุ่งขึ้น **120% ในสองเดือน** หลังจากนั้น 📈
ซิเกลคาดว่า BTC จะยังมีโอกาสปรับขึ้นหลังการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับปี 2020 และยังทำนายว่า **Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์สำรองระดับโลกในปี 2050 ด้วยมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์** 💎🌍
---
**ทรัมป์สนับสนุนคริปโต ชี้นำความหวังใหม่ให้กับตลาด** 🗳️💼
ซิเกลระบุว่า **โดนัลด์ ทรัมป์** ดูจะเป็นผู้สมัครที่เป็นมิตรกับคริปโตมากกว่าระหว่างผู้ท้าชิงทั้งสอง โดยทรัมป์แสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตและ Bitcoin ต่อเนื่อง ขณะที่ **กมลา แฮร์ริส** ยังไม่เคยกล่าวถึงคริปโตโดยตรง
จากข้อมูลของ **Polymarket** ทรัมป์มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงถึง **65%** เมื่อเทียบกับแฮร์ริสที่มีเพียง **34%** ซึ่งบ่งชี้ว่านักพนันคาดหวังชัยชนะของพรรครีพับลิกันในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ 🎯
การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาด Bitcoin เพราะนักลงทุนมองว่าหากทรัมป์ชนะ การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอุตสาหกรรมคริปโตอาจเกิดขึ้น 🚀
---
**กระแสเงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF พุ่งแรงในเดือนตุลาคม** 📊💰
เงินไหลเข้าสุทธิสู่กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ETF รวมกันกว่า **901 ล้านดอลลาร์** ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอดรวมเงินลงทุนใน ETF ทั้งหมดในเดือนตุลาคมสูงเกิน **3 พันล้านดอลลาร์**
Bitcoin ETF เป็นผู้นำด้วยเงินไหลเข้ากว่า **920 ล้านดอลลาร์** ซึ่ง **906 ล้านดอลลาร์** มาจากนักลงทุนในสหรัฐ 🇺🇸
อย่างไรก็ตาม กองทุน Ethereum ETF กลับมีเงินไหลออกอีกครั้ง รวมมูลค่า **35 ล้านดอลลาร์** แม้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเริ่มกลับมา 🪙
---
#Bitcoin #BTC #เลือกตั้งสหรัฐ #คริปโต #CryptoETFs #การลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ
EUR/USD ยืนเหนือ 1.0800 ลุ้นกลับเข้าสู่ช่องขาลงต่อเนื่อง**การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: ยังคงอยู่เหนือ 1.0800 ที่เส้นขอบบนของช่องแนวโน้มขาลง** 💹📉
* ✨ EUR/USD อาจกลับเข้าสู่รูปแบบช่องแนวโน้มขาลง เนื่องจากแรงกดดันขาลงยังคงมีอยู่
* 📊 เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 9 วัน อยู่ต่ำกว่า EMA 14 วัน บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่ยังคงมีผล
* 🛡️ ราคาคู่นี้พบแนวรับที่ระดับจิตวิทยา 1.0800 ซึ่งตรงกับเส้นขอบบนของช่องแนวโน้มขาลง
---
**แนวโน้ม EUR/USD อ่อนตัวระหว่างการซื้อขายช่วงเอเชีย** 🌏🕰️
EUR/USD ย่อตัวลงจากการปรับตัวขึ้นล่าสุด โดยซื้อขายอยู่ราว ๆ 1.0810 ในช่วงการซื้อขายของเอเชียวันอังคาร จากการดูกราฟรายวันพบว่าคู่นี้กำลังทดสอบเส้นขอบบนเพื่อกลับเข้าสู่ช่องแนวโน้มขาลง ซึ่งอาจเสริมความเป็นขาลงให้กับราคาได้ 📉
ตัวบ่งชี้แรงโมเมนตัม RSI 14 วัน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของแรงซื้อและแรงขาย อยู่สูงกว่าระดับ 30 เล็กน้อย หาก RSI ลดลงต่ำกว่า 30 จะแสดงถึงภาวะขายเกิน ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคาในอนาคตอันใกล้ 📈
---
**แนวโน้มขาลงยังคงเด่นชัด พร้อมแรงกดดันต่อราคาในระยะสั้น** 📉🔻
เส้น EMA 9 วัน ยังคงอยู่ต่ำกว่า EMA 14 วัน ซึ่งยืนยันถึงแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นยังคงอ่อนตัว ซึ่งบ่งบอกว่าราคาน่าจะยังคงเผชิญแรงกดดันให้ปรับตัวลงต่อไป 🎯
ระดับแนวรับใกล้เคียงอยู่ที่ 1.0800 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาที่สอดคล้องกับเส้นขอบบนของช่องแนวโน้มขาลง หากราคาลดลงกลับเข้าสู่ช่องนี้ อาจเพิ่มโอกาสในการปรับตัวลงสู่ระดับ 1.0600 📉
หากราคาหลุดจากระดับ 1.0600 จะเพิ่มแรงกดดันการขาย ทำให้ EUR/USD มีโอกาสลดลงต่อไปสู่เส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ประมาณ 1.0680
---
**ระดับต้านที่ควรจับตาในช่วงขาขึ้น** 🛑📊
ในด้านแนวต้าน คู่นี้อาจเจออุปสรรคใกล้เคียงกับเส้น EMA 9 วันที่ระดับ 1.0826 และตามด้วย EMA 14 วันที่ระดับ 1.0855 หากราคาทะลุแนวต้านนี้ได้ คู่นี้อาจพุ่งไปใกล้ระดับจิตวิทยาที่ 1.0900 🚀
---
#EURUSD #การเงิน #Forex #การลงทุน #เศรษฐกิจ
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 25 ตุลาคมการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำรักษาระดับอุปทานให้ใกล้กับจุดต่ำสุดของช่วงรายวันในช่วงครึ่งแรกของเซสชั่นยุโรป และอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยหลายประการรวมกัน สำหรับตอนนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดูเหมือนจะหยุดการปรับฐานขาลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงน้อยลง เมื่อประกอบกับระดับความเสี่ยงเชิงบวกโดยทั่วไป เชื่อว่าจะทำให้โลหะมีค่าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัวลง
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การที่ผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ลดลงอีก กำลังขัดขวางนักเก็งกำไร USD จากการเดิมพันเชิงรุก นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงทางการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางอาจช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้าง ขณะนี้ผู้ค้าตั้งตารอข้อมูลมหภาคของสหรัฐฯ - คำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในมิชิแกนที่แก้ไขแล้วสำหรับโอกาสในระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ทองคำทะลุโครงสร้างขาขึ้นของเซสชั่นเอเชียและร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงยุโรปโดยทะลุโซนแนวรับที่สำคัญที่ 2720 ทองคำมุ่งหน้าไปที่ 2710 และ 2700 โปรดให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของราคาในโซนนี้เพื่อใช้กลยุทธ์การซื้อระยะยาว . ภาคเรียน. สัญญาณขายถูกสร้างขึ้นพร้อมกับระดับกำไรตามที่วิเคราะห์ ขอให้คุณมีวันซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 18 ต.คการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำขยับเหนือ 2,700 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันศุกร์ ท่ามกลางความคาดหวังของธนาคารกลางรายใหญ่ต่างๆ ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยและผ่อนคลายสภาพแวดล้อมของนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในตะวันออกกลาง ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเพิ่มความต้องการแหล่งปลอดภัยของโลหะมีค่า
ปัจจัยสนับสนุนได้ช่วยชดเชยการพุ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ล่าสุดให้อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการยอมรับที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ในสกุล USD อ่อนลง ซึ่งรวมถึงราคาทองคำ ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
สวัสดีตอนเช้าค้า. ทองคำยังคงอยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาล ขณะนี้ค่อนข้างยากที่จะตัดสินว่าโซนขายใด เราสามารถถลกหนังได้เฉพาะในท่าเรือจิตวิทยาประมาณปี 2720-2730 เท่านั้น พื้นที่ซื้อที่สำคัญถือว่าชัดเจนยิ่งขึ้น
2675-2673. ก่อนหน้านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉยต่อพื้นที่จุดสูงสุดชั่วคราวตลอดกาลของ 2685 เป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน ขอให้คุณมีวันซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
เงินเฟ้อ UK ร่วงต่ำกว่าเป้า 2%# เงินเฟ้อ UK ร่วงต่ำกว่าเป้า 2%! เปิดช่อง BOE ลดดอกเบี้ย 🚪📉
เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร (UK) เดือนกันยายน ชะลอตัวลงสู่ **1.7%** ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า **3 ปี**! ✨ แนวโน้มนี้กระตุ้นการคาดการณ์ว่า BOE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า 🏦💼
---
### เงินเฟ้อชะลอตัวสุดในรอบ 3 ปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) รายงานว่า **ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)** เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งลดลงจาก 2.2% ในเดือนสิงหาคม 📊 ตัวเลขนี้เป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เมษายน 2564 🌧️
นักเศรษฐศาสตร์จาก **Wall Street Journal (WSJ)** คาดการณ์ไว้ที่ **1.9%** และแม้แต่ BOE เองก็เคยประมาณไว้ในเดือนสิงหาคมที่ **2.1%** จึงถือว่าผลที่ออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด 🧐
---
### ภาคบริการก็ชะลอตัว 📉
แม้แต่ภาคบริการที่มักจะมีการปรับตัวช้าก็เริ่มส่งสัญญาณลดความร้อนแรงลง ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจว่า **BOE อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ย** ในการประชุมครั้งหน้า โดย **เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา BOE เพิ่งลดดอกเบี้ย** เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 ก่อนจะหยุดการปรับในเดือนกันยายน 🛑
ธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ เช่น **เฟด (Fed)** และ **ธนาคารกลางยุโรป (ECB)** ก็มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเช่นกัน ซึ่งกดดันให้ BOE อาจต้องดำเนินนโยบายในทิศทางเดียวกัน 💸
---
### เงินปอนด์อ่อนค่าหนัก 🏴💷
ท่ามกลางความคาดหวังการลดดอกเบี้ย ค่าเงินปอนด์ (GBP) อ่อนค่าลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในตลาด **GBP/USD** ที่ร่วงลง **-0.59%** ต่อวัน 📉 มีแนวโน้มอ่อนตัวเพิ่มเติมในอนาคตหากปัจจัยภายนอกยังคงกดดัน 🌀
---
📌 **ติดตามต่อไป:**
ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมของ BOE ในเดือนหน้า การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร 🌍🏦
---
#เงินเฟ้อ #ธนาคารกลาง #ดอกเบี้ย #BOE #เงินปอนด์ #GBP






















