EUR/JPY กับโอกาสทำกำไรที่น่าเสี่ยง
EUR/JPY กำลังทำการ Bottom (เส้นสีดำ) โดยจะเห็นได้ว่า 2001 ถึงปี 2012 ราคาได้ทำ Higher high และ Lower low (เส้นสีแดง)
และตั้งแต่ 2012 ถึงปัจจุบัน เรากำลังอยู่ใน range bound ลักษณะ contracting triangle ที่บีบแคบเข้ามาเรื่อยๆ
Target point ของ Contracting triangle นี้คือ 70,000 pip
ด้วยลักษณะของราคาตอนนี้ ผมไม่คิดว่าเราจะ break ลงแน่ๆ EU คงไม่ยอมให้ค่าเงินตัวเองตกต่ำลงขนาดนั้น
เพราะฉะนั้น ผมมองว่าเรากำลังจะ breakout ขึ้นไปทางด้านบน (Long biased)
ช่วง 2008 ถึง 2012 ผมคิดว่าเราจบ cycle ของขาลงแล้ว
สังเกตได้จากราคาได้ลงมาจนครบ 5 wave (เลขสีดำ) ร่วมกับมี Bullish divergence
หลังจากนั้นเราก็ได้ทำ cycle ขาขึ้นที่มี 5 waveและ ลง 3 เวฟ
ลักษณะแบบนี้เป็นลักษณะของ Bull market
มองที่ทางขวาสุด ตอนนี้ถ้านับตามกฏของ Elliot (เวฟ 4 จะไม่ overlap wave 1)จะเห็นได้ว่าเราเพิ่งจบเวฟ 4 จาก flash crash เมื่อต้นปี และราคาได้ปิดเหนือเวฟ 2 ทางซ้าย (เลข2สีเขียว)
ผมคิดว่าเรากำลังจะ breakout ขึ้นทะลุกรอบของ 3 เหลี่ยมนี้ครับ
มาดูที่ TF daily จะเห็นได้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ใน sideway 3 เหลี่ยม
ซึ่ง 3 เหลี่ยมนี้มีความกว้างประมาณ 3700 จุด
หากเรามองว่า 3 เหลี่ยมนี้จะ breakdown เราจะได้ target ประมาณ 119.5 ซึ่งจะทะลุ trend line ที่เป็นฐานของ 3 เหลี่ยมกราฟเดือน แปลว่าเรามองค่าเงิน europe จะตกต่ำลง?
ผมมองว่าเรากำลังจะ break up ขึ้นไปที่ 129.8 มากกว่าครับ
โดยผมคำนวณจาก pattern และใช้ Fibonacci extension ประกอบ จะเห็นว่าเป้าของ 3 เหลี่ยมนี้คือ 1.618 fib ที่ 129.8 ครับ
ย่อยลงมา Intraday TF 4H
จะเห็นได้ว่าเราเพิ่งจบ cycle 1-2-3-4-5-a-b-c ไปโดยจบ c เราย่อมาที่ 0.236 (Fib สีน้ำเงิน) ซึ่งเป็นตำแหน่งกลับตัวที่พบได้บ่อยที่สุดของเวฟ 2 และได้ทำ higher low
โดยมีเป้าต่อไปที่ 1.618 (Fib สีเทา) และหากผมคาดไม่ผิด เราจะจบเวฟ 5 โดยการ breakout (ดูตามภาพ)
หากเวฟ 3 เกิดการยืดออก เราอาจจะจบเวฟ 5 ได้ไกลกว่านี้ครับ
รอเวลาเป็นผู้เฉลย
สำหรับตอนนี้ การเปิด Long position ตรงนี้จะทำให้เราได้ R:R มหาศาลครับ
เราเสี่ยงแค่ 400 จุดแลกกับโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้น breakout ทั้ง 3 เหลี่ยมเล็ก และ 3 เหลี่ยมกราฟเดือน
ผมแนะนำให้ Be Aggressive ใน setup นี้ครับ อาจจะ overtrade สักเล็กน้อย เพราะ R:R มันคุ้มจริงๆครับ
ข้อมูลสนับสนุน
ข้ามมาดู Asset class หุ้นกันบ้าง
DAX ได้ทำการปิดเหนือแนวต้าน เมื่อ equity ได้ทำการ breakout เช่นนี้ แน่นอนว่านักลงทุนต้องนำเงินออกจาก Safe haven อย่าง japanese yen มาเปลี่ยนเป็นเงิน Euro เพื่อซื้อหุ้นครับ
ผมคิดว่า currency ต้องสนับสนุน stock ครับ เพราะฉะนั้น
ผมแนะนำให้ Aggressively long EUR/JPY ครับ
Intermarketanalysis
GOLD และ Intermarket analysis เมษายน 2019ใกล้จะสิ้นเดือนเมษายนแล้ว ผมอยากจะวิเคราะห์ภาพรวมของทองและตลาด asset classes ทั้ง 4 นะครับ
จากกราฟจะเห็นได้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจับตามองมากๆ
เมื่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ TVC:DXY ได้เข้าใกล้แนวต้านสำคัญหลังจากมีการ rally เมื่อสัปดาห์ก่อน
สำหรับดัชนี S&P500 AMEX:SPY ที่มีการ rebound ที่ดีมากๆตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ และตอนนี้ก็กำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ 3000 ครับ
สำหรับ commodity และพันธบัตร
จะเห็นได้ว่า commodity ได้มีการหลุดจากแนวต้านที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายปีได้แล้ว รวมถึงพันธบัตรด้วย
ทีนี้มาลองดูดัชนี S&P500 AMEX:SPY
จากภาพ ตอนนี้เรากำลังจะเห็น all time high ของ S&P500 ที่กำลังเข้าใกล้แนวต้านจากอดีต ที่สอดคล้องกับแนว fibonacci level 2.618 จากตลาด bear market ช่วงปี 2009 ที่ 3000 จุด
ตอนนี้ยังคงบอกไม่ได้ว่าเราจะทะลุแนวต้านไปหรือไม่
สิ่งที่น่าสนใจคือลองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันในอดีคช่วงปี 2000 ที่ในสถานการณ์ที่เกือบเหมือนกันนะครับ
ตอนปี 2000 ดัชนีก็ได้เข้าไปทำ all time high เช่นเดียวกัน โดยจุด all time high นี้สัมพันธ์กับแนวต้าน และแนว fibonacci 2.618 เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือดัชนี S&P500 เกิดการกลับตัวรุนแรง เข้าสู่ bear market 3 ปี
ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ คงต้องตามดูกันต่อไปครับ
ในขณะที่ดัชนีเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ นักลงทุนเริ่มทยอยหมุนเม็ดเงินไปที่พันธบัตรและ commodity เนื่องจากกลัวว่าดัชนีจะกลับตัวและเศรษฐกิจจะชะลอตัว ดังเห็นได้จากกราฟ commodity TVC:TRJEFFCRB และ CBOE:TNX ที่หลุดแนวต้านหลายปีออกมาแล้ว และกำลังจะไปทดสอบแนวรับ
เมื่อตลาดหุ้นทำท่าจะกลับตัว แน่นอนว่านักลงทุนย่อมหันไปมองทองคำ ที่ underperform มายาวนานหลังจากตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นมา 10 ปี
Relative performance of Gold and S&P500
มีสิ่งที่น่าจับตาครับ!
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ bear market ของราคาทองคำตั้งแต่ปี 2012 ที่ underperform เมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 ที่เราเห็นราคาทองคำกลับมา outperform ตลาดหุ้น ถ้าหากเรายืนเหนือเส้นนี้ได้ เราจะเห็นราคาทองคำกลับพุ่งสูงขึ้นไปหรือไม่?
ย้อนกลับไปดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2007
จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก
เมื่อราคาทองคำกลับมา outperform ตลาดหุ้น ก่อนที่จะไปทำ all time high ในประวัติศาสตร์
เมื่อตลาดหุ้นและดอลลาร์กำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญแบบนี้ ต้องคอยจับตามองตลาดทองนะครับ
ในด้าน absolute performance ของราคาทอง
หลังจากที่เราหลุดแนวรับ 1290 ลงมา หลายสถาบันมองว่ากราฟเป็นลักษณะ head and shoulder ที่หลุด neck line 1290 ลงมา ทำให้นักลงทุนเตรียมรอขายที่ราคา 1290 เมื่อราคากลับมาทดสอบแนวต้าน และไปรอซื้อที่ราคา 1230 ที่เป็นเป้าหมายของ head and shoulder ตามทฤษฎี (ดูจาก volume profile ทางขวามือ)
ข้อควรพิจารณาตรงนี้นะครับ ลักษณะ head and shoulder ที่เห็นนี้มีลักษณะไม่ค่อยตรงไปตรงมานัก และอีกอย่างก็คือด้านจิตวิทยาของคนในตลาด
เมื่อทุกคนมองตรงกันว่าเป็น head and shoulder pattern ทุกคนก็จะรอขายที่ 1290 และรอซื้อเพิ่มที่ 1230
แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือ อะไรก็ตามที่มองดูง่ายและชัดเจน มันมักจะ Fail! ต้องคอยระวังครับ
ทีนี้ อยากให้ลองมองความเป็นไปได้อื่นๆไว้บ้าง เช่นสถานการณ์ข้างล่าง
จากภาพ หากนี่ไม่ใช่ head and shoulder แต่เป็น falling wedge ซึ่งหากใช้วิธีนับ elliot wave จะนับได้ว่าเป็นเวฟที่ 4 ที่มีการ correction เป็นรูปแบบ 3 เหลี่ยม
เมื่อสังเกตจากราคา จะเห็นได้ว่ามีรูปแบบที่มีความเป็นได้ว่าจะเป็น a-b-c-d-e ที่มีโครงสร้างแบบ 3-3-3-3-3 โดยตอนนี้กำลังจะไปทำเวฟ d
ผมเชื่อว่าการลงทุนที่ดี ควรจะคิดแผน a b และ c ไว้เสมอ และควรจะมีความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์นะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ทอง outperform ดัชนี S&P500 แบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
สำหรับสถานการณ์อันใกล้นี้ คงต้องรอให้ Federal reserve ของอเมริกา ประชุมปรับแผนดอกเบี้ยกันอีกทีซึ่งจะส่งผลต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลต่อตลาดทั้ง 4 asset class โดยรวมนะครับ
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง จะมาอัพเดทอีกครั้งครับ