SET หลุด 1400 ดาวโจนส์ -1000 กว่าจุด ตลาดหุ้นไทย ยังไงดี?SET หลุด 1400 ดาวโจนส์ -1000 กว่าจุด ตลาดหุ้นไทย ยังไงดี?
ในกราฟที่แสดง มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) รวมถึงแนวโน้มราคา, โครงสร้างตลาด, และการใช้งาน Fibonacci Retracement และ Time Ratio ที่ช่วยคาดการณ์จุดกลับตัวในอนาคต ต่อไปนี้คือการวิเคราะห์กราฟโดยละเอียด:
---
### 1. **โครงสร้างตลาด (Market Structure)**:
- กราฟนี้แสดงโครงสร้างราคาที่มีการเคลื่อนไหวแบบ **Higher High (H), Lower Low (L)** และ **Retest จุดเดิม (R)** โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้:
- ช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้น: กราฟสร้าง **Higher High (H)** โดยเป็นจุดสูงสุดใหม่
- ช่วงที่ตลาดปรับตัวลง: มีการทะลุแนวรับ (Break of Structure หรือ BOS) และเข้าสู่ช่วงแนวโน้มขาลง
- ช่วง **Retest**: ราคากลับมาทดสอบระดับแนวต้านที่เดิม (บริเวณสีแดง)
---
### 2. **Fibonacci Retracement**:
กราฟนี้แสดงระดับ Fibonacci Retracement ซึ่งช่วยระบุโซนแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ โดยระดับที่เด่นชัดคือ:
- **61.8% (1,411.21):** เป็นโซนที่ราคามักจะเด้งหรือกลับตัว (Good Probability)
- **78.6% (1,385.22):** เป็นโซนแนวรับที่แข็งแกร่ง (Very Good Probability)
- **88.6% (1,369.75):** เป็นโซนสุดท้ายที่มักจะใช้เป็นจุดตัดสินใจ ถ้าราคาทะลุโซนนี้ ตลาดอาจเข้าสู่แนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
---
### 3. **Break of Structure (BOS)**:
- จุด BOS (Break of Structure) เป็นบริเวณที่ราคา **ทะลุแนวรับสำคัญ** และบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง
- การเกิด BOS ในกราฟนี้ยืนยันว่าแนวโน้มขาลงกำลังแข็งแรง
---
### 4. **Time Ratio และวันที่สำคัญ (Fibonacci Time Zone)**:
- วันที่ **20/12/2024** ถูกระบุไว้ในกราฟ ซึ่งอาจเป็นการคาดการณ์จุดกลับตัวสำคัญ โดยสัมพันธ์กับ Fibonacci Time Ratio (0.618, 1.0, 1.618)
- วันที่นี้ถูกใช้เพื่อคาดการณ์ว่าตลาดอาจเริ่มมีการกลับตัวในแนวโน้ม หรือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
---
### 5. **โซนสภาพคล่อง (Liquidity Zone)**:
- บริเวณสีแดง: เป็นโซนแนวต้านที่ราคาทดสอบซ้ำ (Retest) และเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนอาจมองหาการขาย (Sell Area)
- บริเวณสีเขียว: เป็นโซนแนวรับ (Demand Zone) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเด้งกลับเมื่อมาถึง
---
### 6. **จุดสำคัญในกราฟ (Key Levels)**:
- **แนวต้าน (Resistance):**
- บริเวณที่ราคามีการ Retest และไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ เป็นแนวต้านสำคัญที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงของแรงขาย
- **แนวรับ (Support):**
- ระดับ Fibonacci (61.8%, 78.6%, 88.6%) เป็นแนวรับสำคัญที่ราคามักจะมีปฏิกิริยาเมื่อมาถึง
- **ระดับราคาเป้าหมาย (Target Levels):**
- ถ้าราคาทะลุระดับ 1,369.75 (88.6%) ตลาดอาจปรับตัวลงต่อ โดยเป้าหมายถัดไปอาจอยู่ในช่วง 1,344
---
### 7. **การวิเคราะห์การกลับตัว (Reversal Analysis):**
- หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ **61.8% (1,411.21)** ได้ อาจมีโอกาสที่แนวโน้มจะกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะสั้น
- ถ้าราคาลงไปที่ **78.6% (1,385.22)** หรือ **88.6% (1,369.75)** แต่มีแรงซื้อกลับมา อาจเกิดการเด้งกลับในแนวโน้มขาลง
---
### 8. **กลยุทธ์การเทรด (Trading Strategy)**:
- **สำหรับฝั่งขาย (Short):**
- มองหาการเปิดสถานะขายเมื่อราคาขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน (บริเวณสีแดง) หรือระดับ 61.8%
- **สำหรับฝั่งซื้อ (Long):**
- มองหาการเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาลงมาที่ระดับ 78.6% หรือ 88.6% และแสดงสัญญาณการกลับตัว
- **เป้าหมาย (Targets):**
- สำหรับฝั่งซื้อ: เน้นเป้าหมายระยะสั้นในกรอบ Fibonacci Retracement
- สำหรับฝั่งขาย: เป้าหมายที่ระดับ 1,344 หรือต่ำกว่า หากแนวรับถูกทะลุ
---
### สรุป:
กราฟนี้มีการใช้งาน Fibonacci Retracement, Time Ratio และการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดอย่างชัดเจนเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต จุดสำคัญที่ต้องจับตามองคือ:
1. การเคลื่อนไหวของราคาในระดับ Fibonacci 61.8%, 78.6%, และ 88.6%
2. การ Retest ในโซนแนวต้าน
3. วันที่ 20/12/2024 ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ
การวางกลยุทธ์ควรพิจารณาแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ และรอคอยการยืนยันจากพฤติกรรมราคาก่อนตัดสินใจเทรด
โอกาสลงจบและเข้าซื้อเกิดที่โซนราคาใด และ เมื่อไหร่
จากการวิเคราะห์ข้อมูลในกราฟ โอกาสเข้าสู่ **โซนซื้อ (Buy Zone)** ขึ้นอยู่กับจุดที่ราคาเคลื่อนที่ถึงแนวรับสำคัญ หรือแสดงสัญญาณกลับตัวในระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ รวมถึงโซนแนวรับเชิงโครงสร้างในตลาด (**Demand Zone**) ต่อไปนี้คือรายละเอียด:
---
### **1. ราคาเป้าหมายสำหรับโซนซื้อ**
#### ระดับ Fibonacci Retracement:
1. **78.6% (1,385.22):**
- เป็นโซนแรกที่มีโอกาสเห็นแรงซื้อกลับตัว เพราะระดับนี้มักเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในตลาดขาลง
- หากราคาลงมาทดสอบที่บริเวณนี้พร้อมด้วยสัญญาณกลับตัว เช่น แท่งเทียนกลับทิศ (Bullish Candlestick) หรือวอลุ่มเพิ่มขึ้น อาจเปิดสถานะซื้อได้
- **กลยุทธ์:** รอคอนเฟิร์มด้วย Price Action หรือ Bullish Divergence จากเครื่องมือ Indicator เช่น RSI
2. **88.6% (1,369.75):**
- หากระดับ 78.6% ไม่สามารถรองรับแรงขายได้ ราคาจะเคลื่อนที่ลงมายังโซนนี้ ซึ่งเป็นโซนสุดท้ายที่มีแนวโน้มจะเกิดการกลับตัว
- **กลยุทธ์:** พิจารณาเปิดสถานะซื้อในโซนนี้พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ใต้โซนเล็กน้อย เช่น 1,360
#### โซนแนวรับเชิงโครงสร้าง (Demand Zone):
- บริเวณ **1,380 - 1,370** (พื้นที่สีเขียว):
- โซนนี้เป็นแนวรับเชิงโครงสร้างที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นจุดที่เคยเกิดแรงซื้อในอดีต
- สัญญาณการกลับตัวในบริเวณนี้จะเพิ่มความมั่นใจให้การเปิดสถานะซื้อ
---
### **2. เวลาเป้าหมาย**
#### Fibonacci Time Ratio:
- วันที่ระบุในกราฟคือ **20/12/2024**:
- วันที่นี้สัมพันธ์กับ Fibonacci Time Ratio ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสเกิดจุดกลับตัวสำคัญ
- หากราคายังอยู่ในแนวโน้มขาลง ณ เวลานี้ หรือเคลื่อนที่ลงมายังระดับ Fibonacci Retracement ที่ระบุไว้ (78.6% หรือ 88.6%) อาจเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการเข้าสู่สถานะซื้อ
#### แนวโน้มโดยรวม:
- หากราคาปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงก่อนวันที่ 20/12/2024 และเริ่มแสดงสัญญาณกลับตัวในช่วงใกล้วันดังกล่าว อาจถือเป็นจุดเข้าซื้อที่เหมาะสมที่สุด
---
### **3. สัญญาณยืนยันสำหรับเปิดสถานะซื้อ**
- **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):**
- แท่งเทียนกลับตัว เช่น **Bullish Engulfing**, **Hammer**, หรือ **Morning Star** ในระดับแนวรับ
- **วอลุ่ม (Volume):**
- ดูวอลุ่มเพิ่มขึ้นในช่วงแนวรับ หากมีแรงซื้อที่ชัดเจน
- **Divergence กับ Indicators:**
- ใช้ RSI หรือ MACD เพื่อดู **Bullish Divergence** (ราคาไปต่ำกว่า แต่ Indicator ไม่ต่ำกว่า)
---
### **สรุปโอกาสเข้าสู่โซนซื้อ**
- **ระดับราคาเป้าหมาย:**
- โซนแรก: 1,385 (78.6% Fibonacci Retracement)
- โซนสุดท้าย: 1,370 (88.6% Fibonacci Retracement)
- **เวลาเป้าหมาย:**
- ประมาณวันที่ **20/12/2024** หรือก่อนหน้านี้ หากราคาเคลื่อนที่เข้าสู่โซนซื้อในแนวรับที่สำคัญ
- **สัญญาณยืนยัน:**
- ใช้ Price Action, Volume, หรือ Indicators เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเปิดสถานะซื้อ
---
การตัดสินใจเข้าซื้อควรพิจารณาร่วมกับการตั้ง **จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)** และ **จุดทำกำไร (Take Profit)** เพื่อบริหารความเสี่ยงในการเทรดอย่างเหมาะสม.
Head and Shoulders
USDCHF เกิดแพทเทิร์น Head and Shoulder ขาลงที่ชัดเจนมากภาพรวมกราฟ USDCHF ในกรอบ H4
เกิดแพทเทิร์นที่ชัดเจนมากของ Head and Shoulder ขาลง
ราคาได้ทำไหล่ซ้าย หัว และไหล่ขวาอย่างสมบูรณ์ มีอัตราส่วนที่ชัดเจนและมีการทะลุเส้นคอ (Neck Line) ลงมาเป็นการคอนเฟิร์มขาลงเรียบร้อยแล้ว
โดยที่ ณ เวลาปัจจุบัน (9 ธ.ค. 2024) ได้เกิดการดึงกลับของราคา (Pull Back) เพื่อกลับมาทดสอบเส้นคอ (Neck Line) อีกครั้ง จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาจังหวะในการเข้าชอร์ทเซล
คำแนะนำในการเทรด
เทรดเดอร์สามารถย่อลงไปดูกราฟใน Timeframes ที่เล็กลงเช่น H1,M30 เพื่อหาโอกาสเทรดเพิ่มเติมด้วย Price actionได้
หรือ สามารถตั้งออเดอร์ไว้ในจุดที่น่าสนใจไว้ล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะมีหลายจุดที่น่าสนใจ โดยจะขอแนะนำ 3 โซนที่น่าสนใจต่อไปนี้:
โซนที่ 1 (Neck Line) 0.88263
โซนที่ 2 0.88042
โซนที่ 3 0.87948
จุดน่าวาง Stop Loss: ตั้งไว้ที่ 0.88497 เนื่องจากเป็นจุดที่โครงสร้างขาลงจะถูกทำลาย หากราคาทะลุจุดนี้ โอกาสที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงจะต่ำมาก
จุดที่ควรเป็นเป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1 = 0.86974 (แนวรับ) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการถือออเดอร์เกิน 1 สัปดาห์
TP2 = 0.86185 เป็นแนวรับสุดท้ายโดยคาดหวังว่าเป็นจุดสิ้นสุดของแพทเทิร์นขาลงนี้ ก่อนจะมีการกลับตัวของเทรนด์ครั้งใหม่ อาจต้องถือออเดอร์ราว2สัปดาห์
SET กับการอ่านกราฟในรูปแบบ Head & Shoulders SET กับการอ่านกราฟในรูปแบบ Head & Shoulders
เป็นเทคนิคที่ใช้ในวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal). รูปแบบนี้มักปรากฏในช่วงที่แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนจากขาขึ้น (Uptrend) ไปเป็นขาลง (Downtrend) หรือกลับกันในกรณี Inverse Head & Shoulders.
โครงสร้างของ Head & Shoulders
รูปแบบนี้มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน:
ไหล่ซ้าย (Left Shoulder): เป็นจุดสูงสุดที่เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น และตามด้วยการย่อตัวลง (Pullback) แต่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ (Higher Low).
ศีรษะ (Head): จุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าไหล่ซ้าย ตามด้วยการย่อตัวลงอีกครั้ง.
ไหล่ขวา (Right Shoulder): จุดสูงสุดที่ต่ำกว่าศีรษะ และมักจะใกล้เคียงกับระดับของไหล่ซ้าย.
เส้นคอ (Neckline): เป็นเส้นที่ลากผ่านจุดต่ำสุดของการย่อตัวระหว่างไหล่ซ้ายและไหล่ขวา. เส้นนี้ถือเป็นแนวรับสำคัญ.
ขั้นตอนการอ่านและวิเคราะห์:
1. ระบุโครงสร้างของรูปแบบ
มองหา Left Shoulder, Head, และ Right Shoulder ที่มีลำดับชัดเจน.
เส้นคอ (Neckline) สามารถอยู่ในแนวนอน, เอียงขึ้น, หรือเอียงลงเล็กน้อย.
2. ยืนยันการกลับตัว
เมื่อราคาหลุดเส้นคอ จะยืนยันว่าแนวโน้มกลับตัว (จากขาขึ้นเป็นขาลง).
วอลุ่มการซื้อขายมักลดลงในช่วงที่สร้าง Right Shoulder และเพิ่มขึ้นเมื่อหลุดเส้นคอ.
3. กำหนดเป้าหมายราคา (Price Target)
วัดความสูงจากจุดสูงสุดของศีรษะลงมาถึงเส้นคอ.
ใช้ระยะนี้เป็นเป้าหมายราคา (Price Target) หลังจากราคาหลุดเส้นคอ.
Inverse Head & Shoulders
ในกรณีที่เป็น Inverse Head & Shoulders, รูปแบบและการวิเคราะห์จะกลับด้าน:
มักพบในแนวโน้มขาลงที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้น.
จุดต่ำสุด (Head) จะอยู่ลึกที่สุด และไหล่สองข้างจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า.
การทะลุเส้นคอขึ้นด้านบนจะเป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal).
ข้อควรระวัง:
รอการยืนยัน: อย่าตัดสินใจซื้อขายจนกว่าราคาจะทะลุเส้นคอ.
วอลุ่ม: ตรวจสอบวอลุ่มการซื้อขายเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของรูปแบบ.
บริบทตลาด: ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น เช่น แนวรับ-แนวต้าน, RSI, MACD ฯลฯ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ.
ตัวอย่าง:
หากพบ Head & Shoulders ในแนวโน้มขาขึ้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงหลังทะลุเส้นคอ.
หากพบ Inverse Head & Shoulders ในแนวโน้มขาลง ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นหลังทะลุเส้นคอ.
หวังว่านี่จะช่วยให้คุณเข้าใจการวิเคราะห์รูปแบบนี้ได้ชัดเจนขึ้น!
Trade record: Buy Goldเหตุผลที่เข้าเทรด
* เป็นเทรนขาขึ้นในทามเฟรม H4,H1,m30
**แท่งเทียน Time Frame M15 มี reject
** ราคาเกิดการ Change of Character ใน Time Frame M15
**ราคาอยู่ในจุด Lower Band Time Frame M15
* มีการกวาด Liquidity ก่อนถึงโซน POI
* มีวอลุ่มซื้อใน Time Frame M5
** ตั้ง เบรคอีเว้นท์ 600 points
*ข้อมูลที่นำเสนอ เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเทรดเท่านั้น
*By ช่างพงษ์
“ไหล่-หัว-ไหล่”: อัตราความสำเร็จที่แท้จริง“ไหล่-หัว-ไหล่”: อัตราความสำเร็จที่แท้จริง
ไหล่ - หัว - ไหล่ถอยหลัง: ตรวจสอบปริมาตรที่จุดขาดเส้นขีด!!
นี่คือสิ่งที่เราสามารถพูดได้เกี่ยวกับอัตราความสำเร็จของรูปแบบไหล่-หัว-ไหล่แบบกลับหัวในการซื้อขาย:
-รูปแบบหัว-ไหล่แบบกลับหัวถือเป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการคาดการณ์การกลับตัวของตลาดกระทิง
-ตามแหล่งข้อมูลบางแห่ง อัตราความสำเร็จของรูปแบบนี้สูงมาก โดยประมาณ 98% ของกรณีส่งผลให้เกิดภาวะกระทิง
- แม่นยำยิ่งขึ้น ในกรณี 63% ราคาจะถึงเป้าหมายราคาที่คำนวณจากรูปแบบเมื่อคอหัก
-การดึงกลับ (กลับไปที่แนวคอหลังจากการฝ่าวงล้อม) จะเกิดขึ้นใน 45% ของกรณี
-อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าตัวเลขที่มองโลกในแง่ดีเหล่านี้ต้องมีคุณสมบัติ แหล่งข้อมูลอื่นๆ ระบุถึงอัตราความสำเร็จเล็กน้อย ประมาณ 60%
-ความน่าเชื่อถือของตัวเลขขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเคารพต่อสัดส่วน การหักของคอเสื้อ ปริมาตร ฯลฯ จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างเข้มงวด
- ขอแนะนำให้ใช้ตัวเลขนี้เพิ่มเติมจากตัวบ่งชี้และการวิเคราะห์อื่นๆ แทนที่จะพึ่งตัวเลขนั้นแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
โดยสรุป แม้ว่าการกลับหัว-ไหล่จะถือเป็นตัวเลขที่น่าเชื่อถือมาก แต่อัตราความสำเร็จที่แท้จริงของมันน่าจะใกล้เคียงกับ 60-70% มากกว่าที่ 98% อ้างกันในบางครั้ง ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและนอกเหนือจากการวิเคราะห์อื่นๆ
-
ไหล่-หัว-ไหล่:
นี่คือสิ่งที่เราสามารถพูดได้เกี่ยวกับอัตราความสำเร็จของรูปแบบไหล่-หัว-ไหล่ในการซื้อขาย:
-รูปแบบ Head-and-Shoulder ถือเป็นรูปแบบกราฟที่น่าเชื่อถือที่สุดรูปแบบหนึ่ง แต่อัตราความสำเร็จที่แน่นอนของรูปแบบนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิเคราะห์ทางเทคนิค นี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องจำ:
- แหล่งข้อมูลบางแห่งอ้างว่ามีอัตราความสำเร็จที่สูงมาก สูงถึง 93% หรือ 96% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้อาจเกินจริงและไม่สะท้อนถึงความเป็นจริงของการซื้อขาย
-ในความเป็นจริง อัตราความสำเร็จน่าจะน้อยกว่านี้ การศึกษาที่อ้างถึงระบุว่าราคาบรรลุเป้าหมายประมาณ 60% สำหรับเคสแบบสวมหัวและไหล่แบบคลาสสิก
-สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่า ไหล่-หัว-ไหล่ไม่ใช่รูปร่างที่เข้าใจผิดได้ การมีอยู่ของมันเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะรับประกันการพลิกกลับของแนวโน้ม
-ความน่าเชื่อถือของตัวเลขขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความเคารพต่อสัดส่วน การหักของคอเสื้อ ปริมาตร ฯลฯ จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างเข้มงวด
-เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หลายคนแนะนำให้ใช้ตัวเลขนี้นอกเหนือจากตัวบ่งชี้และการวิเคราะห์อื่นๆ แทนที่จะพึ่งพาตัวเลขนี้แบบสุ่มสี่สุ่มห้า
โดยสรุป แม้ว่ารูปแบบแบบไหล่-หัว-ไหล่ถือเป็นรูปแบบที่เชื่อถือได้ แต่อัตราความสำเร็จที่แท้จริงของรูปแบบนี้น่าจะใกล้เคียงกับ 60% มากกว่าแบบ 90%+ ที่บางครั้งอ้างไว้ ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและนอกเหนือจากการวิเคราะห์อื่นๆ
-
หมายเหตุ: เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว รูปแบบ head-and-shoulder แบบคลาสสิก (ตลาดหมี) จะมีอัตราความสำเร็จที่ต่ำกว่าเล็กน้อย โดยประมาณ 60% ของกรณีที่บรรลุวัตถุประสงค์ด้านราคา
หุ้นไทย vs. ทองคำ สถานการณ์นี้ เลือกอะไรดีเริ่มจากการดูกราฟ relative strength ของทองคำ vs. หุ้นไทย (SET index)
ลักษณะที่เห็น ณ วันนี้ทองคำไม่ได้ทำนิวไฮ against หุ้นไทย
นอกจากนี้ยังดูท่าทางจะเป็น head and shoulder อีกด้วย
เมื่อดูราคาทองคำเอง ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2020 แม้จะมีสงคราม แต่ราคาทองคำก้ไม่ได้ทำนิวไฮจริง ๆ สักที
เนื่องจากทองคำเป็น non-yielding asset + เมื่อดูระดับราคาตรงนี้ ที่อยู่ใกล้ 2020 high มาก การซื้อทองคำราคานี้ อาจจะให้ risk:reward ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับหุ้น ที่มี upside สูงกว่า
ดูความเห็น SET index อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ก่อนหน้า
ดูจากราคาทองคำโดยตรง
ตรงนี้ "เหมือนจะ" ขึ้นมา 5 wave จากด้านล่าง แต่ตอนนี้ทำ lower high
ถ้าราคาไม่ขึ้นไปเหนือกว่า 2004.
อาจจะ ย่อตัว ลงมาบริเวณ 1929 ที่เป็นแนวรับ fibonacci 2.618 และเป็นแนวรับเส้น VWAP จากไฮก่อนหน้านี้
NZDUSD BUY | ราคาลงมาทดสอบแนวรับ อาจจะเกิด RIGHT SHOULDER NZDUSD มีโอกาส BUY รอราคาลงมาทำ SHOLUDER ที่สมบูรณ์ก่อน
1.ราคาใน TF DAY ได้ลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ และมีการเด้งกลับขึ้นไป
2.เมื่อวิเคราะห์ที่ TF 1 ชั่วโมง ตอนนี้มีโอกาสที่ราคานั้นจะเป็น HEAD & SHOULDER PATTERN
3.NECK LINE นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว
4.ภาพรวมของแนวโน้มใน TF H1 เป้นขาขึ้นอแยู่ สอดคล้องกับการวิเคราะห์ และมี TREND LINE ยืนยันจุดต่ำสุดด้วย
5.เหลือเพียงรอให้ราคาลงมาทดสอบ LEFT SHOULDER ถ้าเกิด Price ation เช่น Hammer หรือ Engulf เกิดขึ้นก็สามารถเข้าเทรด
เทรดด้วยความระมัดระวังนะครับ รอจังหวะ อย่ารีบร้อน
AUDJPY รอราคากลับมาทดสอบเพื่อทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง 📈AUDJPY มีความเป็นไปได้ที่จะเกิก Head and shoulder pattern
*กดติดตามเพื่อไม่พลาดการวิเคราะห์กราฟ*🔔
---------------------------
▪️ Technical analysis - ตอนนี้รอราคาทำ Higher low เพื่อยืนยันว่าเกิด Head and Shoulder Pattern ซึ่งมีความเป็นไปได้ เมื่อดูจากด้านบน เป็นแนวรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และจุดต่ำสุดเท่ากัน เป็นแนว NECK LINE สวยงาม
สิ่งมี่ควรทำตอนนี้คือรอ Candle stick ยืนยัน Right Shoulder
มุมมองส่วนตัว xauusdหายไปนานเพราะงานเยอะจัด
สำหรับมุมมองส่วนตัววันนนี้ sell อย่างเดียวครับ sl เส้นส้ม tp เส้นเขียว ง่ายๆเลยครับ
กลับมารอบนี้อาจจะอธิบายไม่ยาวนะครับ ถ้าต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามาติดต่อหลังไมค์ผ่านข้อความ หรือว่าจะคอมเม้นก็ได้นะครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ
ปล.เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้น ย้ำๆ ครับ
CHFJPY 4Hrs Sell Trade💲 บทวิเคราะห์ Forex
🗨 คู่เงิน CHFJPY
🗒 Swing Trade
🗒 สถานะ Sell
✅ TF : H4
-
-
✅ TF : H 4 จุดเข้าซื้อ
➡️Sell 148.374
➡️ SL 149.118
➡️ TP 146.368
ผลตอบเเทนคุ้มเสี่ยง
➡️ RR 1:2.5
เสี่ยงเเต่ล่ะเทรด
➡️ 1%
เทคนิคที่ใช้เทรด คาดหวัง RR ตั้งเเต่
➡️ RR 1:2 - RR 1:10
เทคนิคคอลระบบเทรด
➡️ Harmonic
*ขอมูลที่นำเสนอข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น
อียูขึ้นไม่ไหว ทิศทางเปลี่ยนเป็นกลับตัวลงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการผันผวน จนสุดท้ายทิศทางเริ่มกลายเป็นทิศทางขาลงแล้วครับ
หากจะลงจริง จุดคอนเฟิร์มจะอยู่ที่ 1.12000 ซึ่งหากเมื่อราคาถึงบริเวณนี้ แล้วเกิด price action บางอย่าง อาจจะดูจะ stochastic หรือแท่งเทียนกลับตัว พร้อมดู Vollume ให้สอดคล้อง
เพราะมีโอกาสที่จะเกิด Head and Shoulder สูงมาก
หากทิศทางผลักลงมา ให้เตรียมตัว Sell ที่บริเวณดังกล่าว แล้วตั้ง Stop ไว้ตรง 1.12100 ครับ
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมทำความเข้าใจในความเสี่ยงด้วยนะครับ แล้วก็อย่าลืมตั้ง จุด stop หากกราฟไม่เป็นไปตามคาดหมายด้วยนะครับ ไม่ต้องดอยให้เสียสุขภาพจิตครับ
ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะครับ