เทรนด์หลักบนกรอบเวลา H4 ยังเป็น bullish1. แนวโน้มภาพรวม
ราคาทองคำ (XAU/USD) อยู่ในช่วง ขาขึ้นชัดเจน จากโซน 3,340 ขึ้นมาถึง 3,474 ในปัจจุบัน
เทรนด์หลักบนกรอบเวลา H4 ยังเป็น bullish โดยมีจุดต่ำใหม่สูงกว่าจุดต่ำเดิม (higher low)
เส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น (สีแดง) ยังรักษาไว้ได้ และมีแนวรับชัดเจนแถว 3,350 – 3,360
2. ระดับ Fibonacci และแนวรับ/แนวต้าน
การวัด Fibonacci retracement จากจุดต่ำ 3,250 → จุดสูงล่าสุด
ระดับสำคัญ:
0.786 (3,454): ราคาพึ่ง breakout ขึ้นมาเหนือจุดนี้ ถือเป็นแนวรับใหม่
0.618 (3,410): แนวรับระยะกลาง สอดคล้องกับโซน sideway ก่อนหน้า
0.5 (3,380) และ 0.382 (3,349): แนวรับลึกลงไป หากมีการย่อตัวแรง
แนวต้านถัดไปที่แข็งแรง: 3,510 – 3,520 (เป้าหมายจากโมเดลบนกราฟ)
3. อินดิเคเตอร์ RSI
RSI(14) ตอนนี้อยู่ที่ 78 ซึ่งถือว่าเข้าเขต Overbought (ซื้อมากเกินไป)
บ่งบอกว่าอาจมีโอกาสเกิดการย่อ/พักฐานระยะสั้น
4. แผนการเทรด
🔹 กรณีขาขึ้น (แผนหลัก)
หากราคายืนเหนือ 3,454 ได้ → เป้าหมายต่อไปคือ 3,510 – 3,520
แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไรแถวโซนนี้
🔹 กรณีย่อ/พักฐาน
ถ้าราคาหลุด 3,454 → มีโอกาสย่อลงไปทดสอบ 3,410 → 3,380 (โซน Fibo 0.5)
ตรงนี้จะเป็นจุดน่าสนใจสำหรับ Buy the dip หากมีแรงซื้อกลับมา
✅ สรุป:
XAU/USD ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น เป้าหมายถัดไปคือ 3,510 – 3,520 แต่ RSI อยู่ในเขต Overbought จึงอาจมีการย่อระยะสั้นลงมาที่ 3,454 หรือ 3,410 ก่อนจะขึ้นต่อ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
BTC/USD Daily Analysis 30/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 108,744.17
✅ TP1 (Take Profit 1): 108,137.14
🛑 SL (Stop Loss): 109,691.89
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และมีการหลุดแนวรับสำคัญลงมา
เน้นสวนเทรน โดยเก็บกำไร ระยะสั่นๆ
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨ Fibonacci: ไม่ปรากฏข้อมูล Fibonacci ในคำสั่งนี้
📊 RSI: 31.74% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคากำลังเข้าใกล้ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 109,691.89 (SL), 108,744.17 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 108,137.14 (TP1), 108,037.14 (TP2)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Spread ในการเทรด Forex: ทำไมทองคำถึงแพงกว่าสินค้าอื่นSpread คือ “ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และราคา Ask” ของคู่สกุลเงินหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่นักเทรดต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ แม้จะไม่ใช่ค่าธรรมเนียมโดยตรง แต่ถือเป็นต้นทุนที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรและขาดทุนของนักลงทุน
🔎 Spread คืออะไร?
Bid = ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมซื้อจากนักเทรด
Ask = ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมขายให้นักเทรด
Spread = Ask – Bid
ยกตัวอย่าง:
EUR/USD = Bid 1.1000 | Ask 1.1002 → Spread = 2 pips
XAU/USD (ทองคำ) = Bid 2000.00 | Ask 2000.50 → Spread = 50 pips
💡 ทำไม Spread ของทองคำถึงแพงกว่าคู่เงินอื่น?
1.ความผันผวนสูง (High Volatility)
2.ราคาทองคำสามารถแกว่งหลายสิบดอลลาร์ใน 1 วัน
3.โบรกเกอร์ต้องกันความเสี่ยง จึงตั้ง Spread กว้างกว่าปกติ
4.สภาพคล่อง (Liquidity) ไม่เท่ากับคู่เงินหลัก
5.คู่เงินหลักเช่น EUR/USD, USD/JPY มีการซื้อขายหนาแน่นมาก ทำให้ Spread แคบ
ทองคำแม้จะนิยม แต่สภาพคล่องน้อยกว่าในบางช่วงเวลา
ต้นทุนโบรกเกอร์สูงกว่า
โบรกเกอร์ต้องอ้างอิงราคาทองคำจากตลาดลอนดอนและตลาดสหรัฐ ซึ่งมีความผันผวนตามข่าวเศรษฐกิจและการเมือง
จึงต้องบวกค่าความเสี่ยง (Risk Premium) เข้าไปใน Spread
เวลาการซื้อขายและข่าวเศรษฐกิจ
ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ดัชนี CPI, NFP ทำให้ทองคำเหวี่ยงแรงมาก
โบรกเกอร์มักขยาย Spread ช่วงก่อน–หลังประกาศข่าว
📉 ผลกระทบต่อเทรดเดอร์
ต้นทุนเปิดออเดอร์สูง → ต้องให้ราคาวิ่งมากกว่าค่า Spread ก่อนถึงจะเริ่มมีกำไร
ไม่เหมาะกับการ Scalping ถี่ ๆ เพราะต้นทุนกินส่วนใหญ่ของกำไร
เหมาะกับ Swing / Position Trading ที่ถือระยะยาวมากกว่า
📌 สรุป
Spread คือค่าต้นทุนแฝงของการเทรด Forex
คู่เงินหลัก → Spread แคบ (เหมาะกับ Scalping/Day trade)
ทองคำ (XAU/USD) → Spread กว้าง เพราะผันผวนและสภาพคล่องน้อยกว่า
นักเทรดควรเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะกับค่า Spread ของแต่ละสินค้า
𝐊𝐒_𝐀𝐥𝐢𝐛𝐚𝐛𝐚_𝐄𝐚𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐑𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭 𝟏𝐐'𝐅𝐘𝟐𝟔💡ปรับมุมมองหุ้นจีนจาก Slightly Overweight ลงมาเป็น Neutral และแนะนำขายทำกำไร (Take profit)
Alibaba ร่วมสงครามส่งด่วน แต่คราวด์โตแรง อัด CAPEX โต 220%
ราคาหุ้น BABA ปรับตัวขึ้นราว 10% (21.10 น.) ที่ตลาดนิวยอร์ก
• Alibaba รายงานผลประกอบการ 1Q’FY26 ที่ผสมผสานโดยรายได้รวมอยู่ที่ 247.65 พันล้านหยวน (คาด 253.17) เพิ่มขึ้น 2% YoY โดยในไตรมาสนี้บริษัทได้ทำการ Re-segment โดยนำ Local Services ซึ่งรวมถึงธุรกิจ Food delivery อย่าง Eleme ที่มีการแข่งขันเดือดกับ Meituan และ JD เข้ามาไว้ในกลุ่ม China E-Commerce ที่ภาพรวมเติบโต 10% YoY, Quick Commerce โต 12% โดย MAU เดือนสิงหาคมแตะ 300 ล้านคน (+200% ตั้งแต่เมษายน) ดัน GMV, DAU และปริมาณออเดอร์รวมทำสถิติสูงสุดใหม่ จากผลของกลยุทธ์ดึงดูดผู้ใช้ใหม่และความสำเร็จของ 6.18 Shopping Festival แต่จากการลงทุนหนักใน Quick Commerce และต้นทุน user acquisition ส่งผลให้กำไรของกลุ่ม E-Commerce ลดลง 21% YoY และกำไรต่อหุ้นลดลง 10% YoY ต่ำกว่าคาด ขณะที่ธุรกิจ International Commerce อย่าง AliExpress และ Lazada ยังเติบโตแต่รายได้ต่ำกว่าคาด แม้จะลดการขาดทุนจนเกือบ breakeven จากการปรับปรุง unit economics และลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
• Bright spot ในไตรมาสนี้คือธุรกิจ Cloud ที่มีรายได้ 33.40 พันล้านหยวน (คาด 31.84 พันล้านหยวน) เติบโตสูงถึง 26% YoY ซึ่งเป็นอัตราเร่งที่สูงกว่าไตรมาสก่อน สะท้อน demand จากลูกค้าธุรกิจและการขยายตัวของตลาด AI ที่แข็งแกร่งโดยรายได้จากผลิตภัณฑ์ AI ยังคงเติบโตสามหลักต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน นอกจากนี้ Alibaba Cloud ได้ต่อยอดสู่การเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ SAP รองรับการขยายตัวในตลาดองค์กร และมีการพัฒนา AI foundation model ใหม่ ๆ ทั้งแบบเปิด (open-source) และเชิงพาณิชย์ กำไรของ Cloud อยู่ที่ 2.95 พันล้านหยวน (คาด 2.57 พันล้านหยวน) ด้วย EBITA margin 8.8% ซึ่งบริษัทเน้นย้ำว่าเน้นการ scale, การขยายฐาน user, use case และ ecosystem เป็นเป้าหมายหลัก มากกว่าการเน้นผลตอบแทนระยะสั้น
• ผู้บริหารเน้นชัดถึง “window of opportunity” ที่บริษัทพร้อม burn เงินลงทุนหนักเพื่อ scale สองเสาหลัก Consumption (E-Commerce/Quick Commerce) และ AI+Cloud ควบคู่กัน โดยประกาศลงทุนรวม 380 พันล้านหยวนใน 3 ปี และลงทุนจริงในไตรมาสนี้ 38.6 พันล้านหยวน (+220% YoY) ส่งผลให้ Free cash flow ไตรมาสนี้ติดลบ 18.82 พันล้านหยวน (-208% YoY) แม้กำไรระยะสั้นจะถูกกดดันจากต้นทุน acquisition, marketing, และ infra แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าการเร่งขยายฐานลูกค้า, เทคโนโลยี, และ ecosystem ในตอนนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะ Cloud กับ Quick Commerce ที่จะเป็นแกนหลักผลักดันการเติบโตต่อไป
💡 𝐈𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
• เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ Alibaba ที่แม้จะเข้าร่วมสงครามราคาในธุรกิจ E-Commerce และ Food delivery กับ Meituan และ JD แต่ด้วยความที่ Alibaba ไม่ใช่ Pure play จากการที่มีธุรกิจ Cloud ที่ไตรมาสนี้ทั้งรายได้ และกำไรมากกว่าที่ตลาดคาดค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตาม Cloud margin ในไตรมาสถัดๆ ไป จากการที่ Alibaba อัดงบ CAPEX หนักจน Free cash flow ติดลบแรง อีกทั้งผู้บริหารยังเน้นว่าตอนนี้ยังต้องการ scale มากกว่าผลกำไร
• แม้ผลประกอบการของ Alibaba ที่กองทุน 𝐊𝐓-𝐂𝐇𝐈𝐍𝐀-𝐀 ถืออยู่ราว 7% ของพอร์ตจะออกมาค่อนข้างดี แต่ด้วยผลประกอบการโดยภาพรวมของหุ้นเทคฯ จีนในไตรมาสนี้ค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อเทียบกับระดับ Valuation ที่ขึ้นมาแถว +1SD แล้ว เทียบกับคุณภาพของกำไร เรามองว่าหุ้นจีนมี Upside ที่จำกัด เราจึงปรับมุมมองหุ้นจีนจาก Slightly Overweight ลงมาเป็น Neutral และแนะนำขายทำกำไร (Take profit)
HKEX:9988 NYSE:BABA
𝐊𝐒 𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐞𝐠𝐲
สรุป: ระยะสั้นควรเน้นเทรดตามโซนแนวต้าน–แนวรับ รอจังหวะชัดเจนก่อน1. แนวต้าน
ราคากำลังทดสอบบริเวณ 3,412 – 3,420 ซึ่งเป็นแนวต้านแข็งแรง (จุดสูงเดิม)
พื้นที่นี้ปฏิเสธราคาหลายครั้งแล้ว → เสี่ยงสูงถ้าซื้อทันทีโดยหวังการเบรก
2. แนวรับ & เส้นเทรนด์ไลน์
เส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น (สีแดง) กำลังพยุงการขึ้นจากบริเวณ 3,300
แนวรับใกล้ที่สุด: 3,361 – 3,365 ตรงกับเส้นเทรนด์ไลน์
ถ้าหลุดเทรนด์ไลน์ อาจปรับฐานลึกลงสู่ 3,320 – 3,330
3. อินดิเคเตอร์ RSI
RSI (14) อยู่ประมาณ 64 ใกล้เขต overbought
ก่อนหน้านี้ RSI มีสัญญาณ divergence เล็กน้อย → เตือนความเป็นไปได้ที่จะมีการพักตัว
4. แผนการเทรด
🔹 กรณีขาลง (สั้น ๆ ควรให้ความสำคัญ)
ถ้าราคายังถูกปฏิเสธที่ 3,412 – 3,420 → อาจย่อลงมาที่เส้นเทรนด์ไลน์ 3,360 – 3,365
เป็นโซนที่ควรจับตาสำหรับ Buy the dip
🔹 กรณีขาขึ้น (ถ้าเบรกจริง)
ถ้าราคาเบรก 3,420 ขึ้นไปได้ชัดเจนพร้อมปริมาณการซื้อขายสูง → แนวโน้มขาขึ้นอาจขยายไปถึง 3,438 – 3,450
👉 สรุป: ตอนนี้ทองคำเจอแนวต้านแข็งแรง ควรรอการย่อก่อนเพื่อเข้าซื้อใกล้เส้นเทรนด์ไลน์/แนวรับ และค่อยพิจารณาซื้อเบรกถ้าราคาผ่าน 3,420 ได้อย่างมั่นคง.
XAU/USD Daily Analysis 29/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 3,403.93
✅ TP1 (Take Profit 1): 3,423.29
🛑 SL (Stop Loss): 3,388.04
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: เข้าโซน 38
📊 RSI: 57.53% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,423.29 (TP)
แนวรับ: 3,388.04 (SL), 3,403.93 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมี RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC/USD Daily Analysis 29/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 112,256.66
✅ TP1 (Take Profit 1): 109,252.66
✅ TP2 (Take Profit 2): 109,252.66
🛑 SL (Stop Loss): 113,091.75
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และมีการหลุดแนวรับสำคัญลงมา
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดลงต่ำกว่า EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨
📊 RSI: 48.78% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 113,091.75 (SL), 112,256.66 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 109,252.66 (TP)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ต้านใหญ่ TF DAY 3435 (เป็นจุดคิดว่าทองจะดันขึ้นไปเทสราคานี้ก่อน“ทองคำวันนี้”
(29/08/2568) XAUUSD
#มุมมองส่วนตัว
📌 รับ/ต้าน H4
• Zone SELL 3422–3328 → โซนขาย TF DAY จุดทดสอบสำคัญ
• Zone BUY 3412–3408 →
🍀ต้านใหญ่ TF DAY 3435
(เป็นจุดคิดว่าทองจะดันขึ้นไปเทสราคานี้ก่อนกลับตัว)
• TF DAY ให้ระวังแท่งเทียน ปิดซ่อน Bullish engulfing จุดยอม ขา BUY 3379
📌 แนวรับ–แนวต้าน (TF H4/TF DAY)
• แนวรับสั้น: 3412–3408 → เด้งได้ แต่ถ้าหลุด ระวังย่อลึก
• แนวต้าน: 3422 → ถ้าไม่ผ่าน มีสิทธิ์ถูกกดลง
• ถ้ายืนเหนือ 3422 ได้ → มีลุ้นไปต่อโซน 3445
📌 สรุปเข้าใจง่าย
• เหนือ 3422 = ขาขึ้นต่อ เป้า 3445
• ไม่ผ่าน 3422 = ทดสอบ SELL
• รับหลัก 3412–3408 → ถ้ายืนได้ยังถือ BUY ได้, หลุด 3379 ต้องยอม
👉 วันนี้โฟกัสโซน 3412–3422 เป็นจุดชี้ทิศทาง.
และให้โฟกัสข่าวในตารางตอนช่วง 19:30 น. เป็นจุดชี้ชะตาทอง (ระวังข่าวแกง)
📌“TF DAY ให้ระวัง แท่งเทียน ปิดซ่อน Bullish engulfing จุดยอม ขา BUY 3379”
📌 รูปแบบแท่งเทียน
• TF DAY เกิดแท่ง Bullish engulfing ซ่อนอยู่ → สะท้อนแรงซื้อที่ยังคงมี แต่ยังไม่ชัดเจนเต็มที่
สรุปข่าวสำคัญที่กระทบ ทองคำ (XAUUSD) และดอลลาร์ (USD) วันนี้ ศุกร์ 29 ส.ค.:
• 19:30 น. USD – Core PCE Price Index m/m → ตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดจับตา ถ้าสูงกว่าคาด ดอลลาร์แข็ง กดทอง / ถ้าต่ำกว่าคาด ดอลลาร์อ่อน ทองหนุนขึ้น
• 21:00 น. USD – Revised UoM Consumer Sentiment → ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ถ้าอ่อนแอกว่าคาด ดอลลาร์อ่อน ทองมีแรงซื้อ
👉 สรุปสั้นๆ:
วันนี้ทองคำโฟกัสหลักที่ Core PCE (19:30 น.) และ Consumer Sentiment (21:00 น.) เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อดอลลาร์และทอง.
#อย่างไรก็ตามนะคะให้ติดตามดูข่าวแล้วก็วอลุ่มจากกราฟแล้วก็ดูจากการปิดของแท่งเทียนด้วยนะคะอาจ อาจมีการทำราคาถ้าไม่หลุดต้านสำคัญอาจจะทุบแรงก็ได้ติดตามข่าวให้ดีดีนะคะและระวังข่าวนอกตารางด้วย
ใจเย็นๆค่อยเทรดกันนะคะเทรดดีมีกำไรทุกท่านค่ะ
ราคาทองจะขึ้นจริงไหมหนอ 3500? 📊 วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) H1 – วันที่ 29/08/2025
ทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเชช้าวันนี้ ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3,425 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากแรงขายทำกำไร ข้อมูล GDP ที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเห็นเชิงผ่อนคลายของจอห์น วิลเลียมส์ จากเฟดนิวยอร์ก ช่วยจำกัดแนวโน้มขาลงของโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ตลาดที่มีความผันผวนสูง (Fomo) จะทำให้ตลาดมีมุมมองเชิงบวกมากเกินไป จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อสะสมก่อนถึงเวลาดังกล่าว
🔎 ภาพรวมทางเทคนิค (Technical Outlook)
ราคา ณ ปัจจุบัน: 3,409–3,410 ใกล้ระดับแนวต้านสำคัญ
แนวรับใกล้เคียง:
3400 (แนวรับจิตวิทยา)
3388 / 3376 (โซน Fib retracement)
3365 – 3350 (Support zone ใหญ่)
แนวต้านสำคัญ:
3432 (แนวต้านแรก)
3436 – 3444 (โซนขายระยะสั้น)
3451 – 3488 (เป้าหมายหากมีแรงซื้อทะลุ)
🔔 RSI บนกราฟ H1 อยู่แถวๆ 62 เริ่มเข้าเขต Overbought Zone ย่อย → บ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น
🛠️ แผนการลงทุน (Trading Plan)
🎯 Scenario ฝั่ง Buy:
รอจังหวะย่อใกล้ 3400 / 3388 หากยืนได้ → Buy เป้าหมาย 3432–3444
Cut Loss:
Buy → หากราคาหลุด 3350
🟢 Scenario ขาขึ้น (Bullish)
ถ้าราคา ยืนเหนือ 3432 / 3436 ได้
👉 เป้าหมาย: 3444 🔺 3451 🔺 3488
🎯 Scenario ฝั่ง Sell:
หากราคาไม่ผ่าน 3432–3444 และ RSI อ่อนแรง → เปิด Sell เป้าหมาย 3388–3376
Cut Loss:
Sell → หากราคาทะลุ 3451–3488
🔴 Scenario ขาลง (Bearish)
ถ้าราคา ไม่ผ่าน 3432 และหลุด 3400
👉 เป้าหมาย: 3388 🔻 3376 🔻 3365 🔻 3350
🌍 ปัจจัยพื้นฐานที่ต้องติดตาม (Fundamental Drivers)
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – โดยเฉพาะ Core PCE, ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และข้อมูลการจ้างงาน
ท่าทีเฟด (Fed Policy) – ถ้ามีสัญญาณลดดอกเบี้ย เร่งหนุนทองคำ
ค่าเงินดอลลาร์ (DXY) – การแข็ง/อ่อนค่าของดอลลาร์จะกำหนดแรงซื้อขายทอง
สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ – หากมีความตึงเครียด จะกระตุ้นแรงซื้อในทองคำ
✨ สรุปสั้น:
เหนือ 3432 = มีลุ้นไปต่อ 🔺
หลุด 3400 = เสี่ยงพักฐานลง 🔻
ค่า RSI ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 65 กำลังเข้าใกล้เขต Overbought1. แนวต้าน
บนกราฟ ราคากำลังทดสอบโซน 3,412 – 3,420 (แนวต้านแข็งแรง)
นี่คือโซนยอดเดิม ที่ราคาถูกปฏิเสธหลายครั้งก่อนหน้านี้
ข้างบนยังมีแนวต้านแข็งแรงกว่าอยู่ที่ 3,438 – 3,450
2. แนวรับ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 3,361 – 3,365 (คุณได้ขีดไว้แล้ว)
เส้นแนวโน้มขาขึ้น (เส้นสีแดง) ก็กำลังรองรับราคาจากโซน 3,320 → บรรจบที่ 3,340 – 3,350
3. RSI Indicator
ค่า RSI ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 65 กำลังเข้าใกล้เขต Overbought
ก่อนหน้านี้ RSI ก็มีสัญญาณ Divergence เล็กน้อย (ราคาทำยอดสูงขึ้น แต่ RSI ไม่ได้แข็งแรงมาก)
สิ่งนี้สนับสนุนความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ ปรับฐาน/ย่อราคา
4. แผนการเทรด
🔹 กรณีขาลง (เน้นระยะสั้น)
ถ้าราคายังถูกปฏิเสธที่โซน 3,412 – 3,420 → มีโอกาสปรับลงไปที่:
เป้าหมาย 1: 3,380 – 3,370
เป้าหมาย 2: 3,361 – 3,350 (ตรงกับแนวรับ + เส้นเทรนด์ไลน์ล่าง)
Stop-loss: เหนือโซน 3,425 – 3,430
🔹 กรณีขาขึ้น (ถ้า Breakout)
ถ้าราคา ปิดแท่ง H4 เหนือ 3,420 – 3,425 พร้อม Volume แข็งแรง → ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น
เป้าหมายระยะสั้น: 3,438 – 3,450
เป้าหมายระยะกลาง: 3,470 – 3,480
5. สรุปภาพรวม
กราฟตอนนี้อยู่ในโซน “ทางแยกสำคัญ”:
ถ้าถูกปฏิเสธ → เหมาะกับการ Short ระยะสั้น
ถ้า Breakout ชัดเจน → เทรนด์ขาขึ้นจะต่อเนื่องและแข็งแรงมาก
👉 ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ รอดูสัญญาณยืนยันของแท่งเทียนที่โซน 3,412 – 3,420 ก่อนเข้าทำการซื้อขาย
ข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์อย่างไรข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์อย่างไร
บการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตามกำไรเหล่านี้ได้จางหายไปด้วยบิทคอยน์กลับไปที่ที่มันเริ่มต้นเมื่อวันศุกร์;ประมาณ 1112,000
มุ่งเน้นของตลาดอยู่ในขณะนี้ขยับไปสหรัฐที่จะเกิดขึ้นนอกภาคเกษตรรายงานเงินเดือน(เอ็นเอฟพี),กำหนดไว้สำหรับการเปิดตัวในสัปดาห์ถัดไป,ซึ่งมากอาจมีอิทธิพลต่อความคาดหวังของอัตราดอกเบี้ย.
ข้อมูลงานที่แข็งแกร่งอาจลดโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยเดือนกันยายน
และด้วยภาพของออร์เวลเลียนของทรัมป์ตอนนี้ห้อยลงมาจากกรมอาคารแรงงานและการบริหารงานของเขาอาจกดดันสำนักสถิติแรงงานที่จะขยายตัวหมายเลขงานสถานการณ์นี้จะกลายเป็นความเป็นไปได้ที่แท้จริง หากเกิดเหตุการณ์นี้เราสามารถคาดหวังการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อทดสอบระดับการหดตัวของฟีโบนักชีที่ต่ำกว่าเช่น 141.4%ที่ประมาณ 1109,900 หรือต่อไปที่$108,700
BTC/USD Daily Analysis 28/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 112,857.97
✅ TP1 (Take Profit 1): 111,450.50
🛑 SL (Stop Loss): 113,917.38
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และมีการหลุดแนวรับสำคัญลงมา
และเริ่มที่จะสร้างกรอบราคา และ
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨ Fibonacci:
📊 RSI: 45.96% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 113,917.38 (SL), 112,857.97 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 111,450.50 (TP)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ทองคำยังสะสมกำลังต่อ ต่ำกว่า 3400📊 วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) H1 – วันที่ 28/08/2025
ราคา ณ ปัจจุบัน: เคลื่อนไหวบริเวณ 3390 – 3400 ใกล้เส้นแนวต้านสำคัญ
ทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวและเทรดเดอร์ทยอยทำกำไร ความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หลังจากการปลดผู้ว่าการลิซ่า คุก ของประธานาธิบดีทรัมป์ มีส่วนช่วยหนุนโลหะปลอดภัยนี้
ขณะนี้ ตลาดกำลังรอการประมาณการครั้งที่สองของ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.1% การพิมพ์ที่แข็งแกร่งขึ้นอาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และกดดันราคาทองคำ ขณะที่ความสนใจจะเปลี่ยนไปพิจารณาข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่ำกว่า 3,400 จุด ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าข้อมูล GDP จะหนุน DXY ซึ่งอาจส่งผลต่อแรงกดดันต่อราคาทองคำ
ระยะสั้นทองคำมีโอกาสย่อตัวลงมาก่อนเพื่อพักฐานที่ 3381–3350 ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา หากราคาทะลุ 3405 ได้สำเร็จ มีโอกาสไปต่อที่ 3430–3450 แต่ถ้ายังไม่ผ่าน ระวังแรงขายกดกลับลงมา
🔎 ภาพรวมทางเทคนิค (Technical Outlook)
โซนแนวรับหลัก:
3381 (Fib 38.2%)
3375 (Fib 50.0%)
3369 (Fib 61.8%)
3350 (Support Zone ใหญ่)
แนวต้านสำคัญ:
3405 (โซน Breakout)
3417 / 3431 (แนวต้านระยะกลาง)
3444 / 3451 (โซนเป้าหมายถัดไปหากทะลุขึ้น)
📈 กราฟกำลังอยู่ใน Channel ขาขึ้นระยะสั้น แต่เริ่มเห็นสัญญาณ Bearish Divergence จาก RSI (ค่า RSI อยู่แถวๆ 58 ยังไม่ Overbought แต่มีแรงกดดันลงมา)
🛠️ แผนการลงทุน (Trading Plan)
แผน Buy:
หากราคาปรับตัวลงมาทดสอบโซน 3375 – 3350 (Fib + Support Zone) แล้วเกิดสัญญาณกลับตัว สามารถพิจารณาเปิด Long เป้าหมาย 3405 – 3430
จุด Cut Loss:
สำหรับฝั่ง Buy ควรเฝ้าระวังหากราคาหลุด 3345 ลงไป
🟢 แนวคิด Bullish Scenario
ราคา ยืนเหนือ 3400 / 3405 ได้ → มีแรงซื้อหนุนต่อ
เป้าหมายถัดไป 👉 3417 → 3431 → 3444 / 3451
กลยุทธ์: รอ Buy เมื่อทะลุ 3405 หรือ ย่อแต่ยังยืนเหนือ 3380
Cut Loss หากหลุด 3370
แผน Sell:
หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 3405 ได้ และเกิดการกลับตัวลง คาดว่าราคาจะถอยลงทดสอบ 3375 / 3350 อีกครั้ง
จุด Cut Loss:
สำหรับฝั่ง Sell หากทะลุ 3417 ควรพิจารณาปิด
🔴 แนวคิด Bearish Scenario
ราคา ไม่ผ่าน 3405 และถูกกดลง → มีแรงขายกดทดสอบแนวรับ
แนวรับแรก 👉 3381 (Fib 38.2%)
หลุดต่อ → ลงหา 3375 – 3369
แนวรับใหญ่สุด 👉 3350 (Support Zone)
กลยุทธ์: รอ Sell เมื่อหลุด 3380 หรือเมื่อเห็นแรงขายชัดเจน
Cut Loss หากราคากลับไปยืนเหนือ 3417
🌍 ปัจจัยพื้นฐานที่ต้องติดตาม (Fundamental Factors)
ท่าทีของเฟด (Fed Policy) – สัญญาณดอกเบี้ย หากมีการส่งสัญญาณผ่อนคลาย จะหนุนราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – โดยเฉพาะ GDP, Core PCE, และการจ้างงาน ที่จะส่งผลต่อทิศทางดอลลาร์
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ – หากมีความตึงเครียดในต่างประเทศ จะเป็นแรงหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ค่าเงินดอลลาร์ (DXY) – การอ่อนค่าหรือแข็งค่าของดอลลาร์ยังคงเป็นตัวแปรหลัก
𝐊𝐒_CRWD_𝐄𝐚𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐑𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭 𝟐𝐐'𝐅𝐘𝟐𝟔CrowdStrike เติบโตแข็งแกร่ง แต่ตลาดกังวลหลังรายได้ Q3 ต่ำคาด ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 4% (9.30 น.) After hours
• CrowdStrike รายงานผลประกอบการ 2Q’FY26 ที่แข็งแกร่งกว่าคาด ทำสถิติสูงสุดใหม่ในหลายด้าน โดยรายได้รวมอยู่ที่ 1,169 ล้านดอลลาร์ (+21% YoY) และ Net new ARR หรือยอดขายสัญญาใหม่เพิ่มอีก 221 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รวมถึงกระแสเงินสด (Free cash flow) 284 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 24% ของรายได้ จุดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์คือ Cloud Security (การปกป้องระบบคลาวด์), Next-gen Identity (โซลูชันจัดการและป้องกันตัวตนผู้ใช้), และ SIEM (ระบบวิเคราะห์และเฝ้าระวังเหตุการณ์ความปลอดภัยแบบเรียลไทม์) ทั้งหมดนี้มีรายได้รวมกว่า 1,560 ล้านดอลลาร์ โตถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ Charlotte AI Agent ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยด้านความปลอดภัยแบบอัตโนมัติด้วย AI ก็เติบโตต่อเนื่องถึง 85% QoQ
• ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จ คือความต้องการด้าน AI Security ที่เพิ่มขึ้น และรูปแบบการขาย Falcon Flex ที่ให้ลูกค้าเลือกใช้งานโมดูล (Modules) ได้ยืดหยุ่น เช่น EDR, Cloud, Identity, SIEM, IT Hygiene ฯลฯ โดยลูกค้าสามารถขยายบริการได้ตามต้องการ ปัจจุบันลูกค้า 60% ที่มียอดใช้งานเกิน 100,000 ดอลลาร์ต่อปี ได้ใช้งานมากกว่า 8 โมดูลแล้ว ขณะที่โดยรวม มีลูกค้าใช้งานครบ 6, 7, 8 โมดูลคิดเป็นสัดส่วน 48%, 33% และ 23% ของฐานลูกค้าทั้งหมด (Modules หมายถึงชุดฟีเจอร์หลัก ๆ ที่ลูกค้าเลือกติดตั้งเสริมตามความต้องการ เช่น การตรวจจับภัยคุกคาม, การจัดการตัวตน, การเฝ้าระวัง, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์)
• อย่างไรก็ตาม Guidance รายได้ Q3 ที่ 1,208–1,218 ล้านดอลลาร์ (+20–21% YoY) และรายได้ทั้งปี FY26 ที่ 4,750–4,810 ล้านดอลลาร์ (+20–22% YoY) ยังออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความกังวล แม้ผู้บริหารยังคงมั่นใจในเป้าหมายการเติบโตของ Net new ARR ครึ่งปีหลัง (อย่างน้อย 40% YoY), Ending ARR โตเกิน 22% YoY และ Free cash flow margin จะขยายเป็น 27% ใน Q4 และมากกว่า 30% ในปีหน้า โดยโทนของผู้บริหารยังคงเน้นกลยุทธ์การผลักดันลูกค้าให้ใช้งานโมดูลต่อรายเพิ่มขึ้น และการพัฒนาโซลูชัน AI ให้เป็นศูนย์กลางของแพลตฟอร์ม เทียบกับไตรมาสก่อนที่ยังเน้นการฟื้นตัว รอบนี้บริษัทแสดงความมั่นใจมากขึ้น
NASDAQ:CRWD
𝐊𝐒 𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐞𝐠𝐲
𝐊𝐒_𝐓𝐫𝐢𝐩 .𝐜𝐨𝐦_𝐄𝐚𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐑𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭 𝟐𝐐𝟐𝟓Trip นทท. Inbound พุ่ง 100% Outbound ทะลุ 120% pre-covid ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นราว 9% (9.30 น.) After hours ที่ตลาด Nasdaq
• Trip รายงานผลประกอบการ 2Q25 ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้ 14.8 พันล้านหยวน (สูงกว่าคาด 14.65 พันล้านหยวน) +16% YoY สะท้อนความต้องการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจ Online Travel Agency ต่างประเทศที่เติบโตโดดเด่น การจองบนแพลตฟอร์มนอกจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% YoY, การจองนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Inbound) เพิ่มขึ้นกว่า 100% YoY ขณะที่การจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินขาออกจากจีนสูงกว่าระดับก่อนโควิด 120% และกลุ่ม APAC ยังคงเป็นหัวใจหลักของการเติบโต รายได้ธุรกิจโรงแรมโต 21% หนุนโดยความต้องการในประเทศและต่างประเทศที่แข็งแกร่ง, ตั๋วเดินทาง โต 11% ตาม capacity สายการบินที่ฟื้นตัว, ธุรกิจทัวร์โต 5% แม้จะเติบโตช้ากว่า segment อื่น แต่ได้แรงหนุนจากการขยายทัวร์ต่างประเทศ และธุรกิจลูกค้าองค์กรโต 9% ตามเทรนด์การเดินทางเชิงธุรกิจที่กลับมา
• ปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือการขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ทั้งกลุ่มสูงวัย (Old Friends Club) ที่ GMV โตเกิน 100% และกลุ่มวัยรุ่น/บันเทิงที่รายได้จากกิจกรรมคอนเสิร์ตและกีฬาโตเกิน 100% เช่นกัน โดย Trip มุ่งเน้นการยกระดับนวัตกรรมด้วย AI Trip Planner ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้แบบ personalized และเครื่องมือสนับสนุนโรงแรม (IntelliTrip) ที่ช่วยแปลภาษา 26 ภาษาและสร้าง content อัตโนมัติ ทำให้บริการของบริษัทครบวงจรและสร้างคุณค่าเพิ่มทั้งฝั่งลูกค้าและพาร์ทเนอร์
• อย่างไรก็ตาม บริษัทเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายบุคลากร/การตลาดที่เพิ่มขึ้น (ต้นทุนรายได้ +22% YoY, Sales & Marketing +17% YoY) และการแข่งขันในตลาด OTA ที่เข้มข้นขึ้น (เช่น JD และผู้เล่นใหม่ในเอเชีย) ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 5.01 พันล้านหยวน แม้จะมากกว่าคาดที่ 4.35 พันล้านหยวด แต่ Flat YoY สะท้อนแรงกดดันต่อกำไรจากต้นทุน-การแข่งขัน แม้ผู้บริหารจะเน้นคุณภาพมากกว่าการแข่งขันด้านราคา แต่ต้องจับตาผลกระทบต่อ margin และ ROI ของแคมเปญการตลาด สำหรับแนวโน้มข้างหน้า Trip มองบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก โดยเฉพาะการขยายฐานนักท่องเที่ยวขาเข้าจีนที่ยังมีโอกาสเติบโตมาก (contribution ต่อ GDP ของจีนยังต่ำกว่าประเทศพัฒนา) โดยจะเน้นลงทุนในนวัตกรรม AI และบริการครบวงจร พร้อมรักษาวินัยด้านต้นทุน เพื่อเสริมความสามารถในการเติบโตในระยะยาว
𝐊𝐒 𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐞𝐠𝐲
NASDAQ:TCOM
แนวต้านแข็งแกร่ง: 3,390 – 3,4001. รูปแบบสามเหลี่ยม (Triangle pattern)
ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมบีบตัว (ระหว่างเส้นแนวโน้มขาลงด้านบนและเส้นแนวโน้มขาขึ้นด้านล่าง)
ขณะนี้ ราคาพึ่งแตะโซนแนวต้าน 3,390 – 3,400 (ตรงกับขอบบนสามเหลี่ยม + บริเวณสะสมเดิมหลายครั้งก่อนหน้านี้)
นี่คือ “จุดชี้ขาด”: ถ้าไม่สามารถทะลุขึ้นได้ มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธและกลับลงไปทดสอบขอบล่างของสามเหลี่ยม
2. แนวต้าน – แนวรับหลัก
แนวต้านแข็งแกร่ง: 3,390 – 3,400 (ขอบบนสามเหลี่ยม + บริเวณสะสมเดิม)
แนวรับใกล้เคียง: 3,360 – 3,365 (เส้นเทรนด์ล่าง + จุดต่ำล่าสุด)
หากทะลุเส้นเทรนด์ล่างลงไป → เป้าหมายการปรับฐานจะอยู่ที่ 3,320 – 3,300
3. RSI (14)
ค่า RSI ประมาณ 63 กำลังเข้าใกล้เขตซื้อมากเกินไป แต่ยังไม่ถึงจุดสุดขีด
บ่งบอกว่าแรงซื้อแข็งแรง แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเจอแรงขายทำกำไรเมื่อชนแนวต้านแข็งแกร่ง
4. แผนการเทรดที่แนะนำ
สถานการณ์ขาลง (ให้ความสำคัญตอนนี้):
เปิด Short แถวโซน 3,390 – 3,400 หากราคายังไม่สามารถทะลุชัดเจนได้
เป้าหมายทำกำไร: 3,365 → 3,330
Stop loss: เหนือ 3,405 – 3,410
สถานการณ์ขาขึ้น (โอกาสน้อยกว่า แต่ต้องจับตา):
หากราคาทะลุ 3,405 ขึ้นไปพร้อมปริมาณซื้อสูง → กรอบสามเหลี่ยมจะถูกเบรกขึ้น
เป้าหมายขาขึ้น: 3,430 – 3,450
👉 สรุป: XAU/USD กำลังอยู่ที่โซนแนวต้านสำคัญ 3,390 – 3,400 มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธและปรับตัวลง เว้นแต่ว่าจะมีการ Breakout แข็งแกร่งทะลุ 3,405 ขึ้นไป
ถ้าราคาทะลุ 3,405 ได้อย่างชัดเจนพร้อมวอลุ่มสูง แนวโน้มขาขึ้นอาจไการวิเคราะห์กราฟ XAU/USD (กรอบเวลา H4)
1. แนวต้านและรูปแบบราคา
ราคาทองคำ (XAU/USD) กำลังเข้าใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 3,390 – 3,400 (ถูกทดสอบหลายครั้งแล้ว)
มีสัญญาณการเกิดรูปแบบ M/W pattern โดยราคาดีดขึ้นแต่ติดแนวต้านแข็งแรง → มีโอกาสสูงที่จะเกิดการปรับฐานลง
2. Fibonacci Retracement
ระดับ Fibo 0.786 ที่ 3,403 เป็นแนวต้านแข็งแรง
แนวรับใกล้ ๆ:
0.618 (3,375) → แนวรับระยะสั้น
0.5 (3,355) → แนวรับกลาง
0.382 (3,335) → แนวรับสำคัญ
หากราคาหลุด 3,309 (fibo 0.236) อาจลงไปทดสอบ 3,270
3. อินดิเคเตอร์ RSI
RSI กรอบ H4 อยู่ที่ประมาณ ~62 ใกล้เขต overbought แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุด
แสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อ แต่เสี่ยงที่จะมีการย่อตัวหากไม่สามารถทะลุแนวต้านได้
4. แผนการเทรด (มุมมองหลัก)
มุมมองขาลง (มีน้ำหนักมากกว่า):
เปิด Short บริเวณ 3,390 – 3,400 หากมีสัญญาณกลับตัว
เป้าหมาย: 3,355 → 3,335
Stop loss เหนือ 3,405 – 3,410
มุมมองขาขึ้น (ถ้าทะลุแนวต้านได้):
หากราคาทะลุ 3,405 พร้อมวอลุ่มชัดเจน → มีโอกาสไปต่อที่ 3,430 – 3,450
👉 สรุป: ตอนนี้ราคาทองคำอยู่ที่แนวต้านแข็งแรง 3,390 – 3,400 มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงมากกว่า แต่หากทะลุ 3,405 ได้ ก็จะกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น
TF DAY ให้ระวังแท่งเทียนปิดซ่อน Bullish engulfing จุดยอมขา BUY..“ทองคำวันนี้”
(28/08/2568) XAUUSD #มุมมองส่วนตัว
📌ต้าน/รับ TF H4
• Zone SELL 3394–3399 TF H4 ปิด Bearish engulfing ระวังด้วยนะคะ
• Zone BUY 3374–3378 กรอบรับ H4
• TF DAY ให้ระวังแท่งเทียน ปิดซ่อน Bullish engulfing จุดยอม ขา BUY 3365
• รับสำคัญ ถ้าไม่หลุด 3368 ขา BUY ถือได้ ถ้าหลุด ต้องยอม
📌 สรุป
• เหนือ 3399 = มีลุ้นขึ้นต่อ ระวังแท่งเทียนด้วย ถ้าหลุด ต้านถัดไป 2409
• ไม่ผ่าน 3394–3399 = เสี่ยงถูกกดลง
• Zone รับ 3374–3368 = จุดซื้อ แต่ถ้าหลุด 3365 → แนวโน้มกลับขาลง
👉 วันนี้จับตาโซน 3394–3399 เป็นตัวชี้ทางหลัก.
#Nicharastrading
📌“TF DAY ให้ระวัง แท่งเทียน ปิดซ่อน Bullish engulfing จุดยอม ขา BUY 3365”
📌 รูปแบบแท่งเทียน
• TF DAY เกิดแท่ง Bullish engulfing ซ่อนอยู่ → สะท้อนแรงซื้อที่ยังคงมี แต่ยังไม่ชัดเจนเต็มที่
• แท่งล่าสุดมีเงาบน (Upper Shadow) บริเวณโซน SELL → ระวังแรงกดจากฝั่งขาย
สรุปข่าวสำคัญที่กระทบ ทองคำ (XAUUSD) และดอลลาร์ (USD) วันนี้ พฤหัส 28 ส.ค.:
• 19:30 น. 🟥 Prelim GDP q/q → ถ้าตัวเลขออกมาดีกว่าคาด ดอลลาร์แข็ง กดทอง / ถ้าแย่กว่าคาด ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น
• 19:30 น. 🟥 Unemployment Claims → ถ้าออกมามากกว่าคาด = ตลาดแรงงานอ่อน ดอลลาร์อ่อน ทองหนุนขึ้น
• 19:30 น. 🟧 Prelim GDP Price Index q/q → ตัวชี้วัดเงินเฟ้อ มีผลต่อคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด
• 21:00 น. 🟧 Pending Home Sales m/m → บ่งชี้ภาคอสังหาฯ หากต่ำกว่าคาด กดดันดอลลาร์
👉 สรุป:
โฟกัสที่ GDP + Unemployment Claims (19:30 น.) เป็นตัวขับเคลื่อนหลักต่อทองและดอลลาร์.
#อย่างไรก็ตามนะคะให้ติดตามดูข่าวแล้วก็วอลุ่มจากกราฟแล้วก็ดูจากการปิดของแท่งเทียนด้วยนะคะอาจมีการรีบราวเพื่อทำราคาไปต่อก็ได้เพราะเหมือนขาบายยังได้เปรียบอยู่
ใจเย็นๆค่อยเทรดกันนะคะเทรดดีมีกำไรทุกท่านค่ะ
(เราจะมีสรุปข่าวสารให้ในกลุ่มวีไอพีนะคะสำหรับใครที่มาอยู่ในกลุ่มวีวีพีสามารถเข้ากลุ่มได้นะคะ)
𝐊𝐒_𝐍𝐯𝐢𝐝𝐢𝐚_𝐄𝐚𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐑𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭 𝟐𝐐'𝐅𝐘𝟐𝟔💡 𝐁𝐮𝐲 𝐨𝐧 𝐝𝐢𝐩 คงคำแนะนำซื้อ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇 สำหรับการลงทุนเป็น 𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐏𝐨𝐫𝐭𝐟𝐨𝐥𝐢𝐨 ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า
Nvidia รายได้ Data Center ต่ำคาด แต่อาจ Ramp ขึ้นใน Q3 ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 3% After hours
• Nvidia รายงานผลประกอบการ 2Q’FY26 ที่ยังเติบโตโดดเด่น แม้เผชิญแรงกดดันจากข้อจำกัดการส่งออกชิปไปจีน รายได้รวมอยู่ที่ $46.74 bn (สูงกว่าคาด $46.23 bn) และกำไรต่อหุ้น $1.05 (คาด $1.01) แต่รายได้จาก Data Center อยู่ที่ $41.1 bn (ต่ำกว่าคาด $41.29 bn) เพราะกลุ่ม Compute ได้รับผลกระทบจากตลาดจีน ($33.84 bn ต่ำกว่าคาด $34.19 bn) ขณะที่กลุ่ม Networking กลับทำได้ดีมาก $7.25 bn (มากกว่าคาด $5.07 bn) เติบโต 98% YoY จากความต้องการโซลูชัน rack-scale ที่ต้องใช้ Networking เชื่อมต่อระหว่าง Rack/datacenter ในกลุ่ม hyperscaler รายใหญ่ เช่น AWS, Google Cloud, Microsoft Azure และ CoreWeave
• แรงขับเคลื่อนหลักในไตรมาสนี้มาจากการเร่งลงทุน Reasoning/Agentic AI ของลูกค้ากลุ่ม Cloud และ Enterprise ที่ต้องการประมวลผล LLM ขนาดใหญ่ ส่งผลให้รายได้จาก Blackwell เติบโต 17% QoQ โดยเฉพาะ Blackwell Ultra (GB300) ซึ่งขณะนี้ ramp-up การผลิตเต็มกำลัง, ส่งมอบให้ CSP ระดับโลกแล้วสัปดาห์ละ 1,000 racks และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ โดยยอดจองเต็ม capacity และจะเร่งส่งมอบมากขึ้นอีกใน Q3 นำโดย CoreWeave ที่เป็น early adopter ทั้งนี้ OPEX และ Inventory เพิ่มขึ้นเพื่อตอบรับการ ramp-up Blackwell Ultra รองรับดีมานด์ที่ยังล้นตลาด ขณะเดียวกัน Gaming โต 49.7% YoY และ Automotive/Robotics โต 69% YoY จากกระแส AI PC และเทรนด์รถยนต์อัตโนมัติ
• สำหรับแนวโน้มข้างหน้า Nvidia ให้ Guidance Q3 เป็นบวก คาดรายได้ $54 bn (±2%) สูงกว่าคาด $53.46 bn และ Gross Margin ฟื้นตัวที่ 72.7% จาก 71.3% ไตรมาสก่อนหน้า โดยมีเป้าหมายแตะระดับกลาง 70% ในช่วงปลายปี นอกจากนี้ การเร่งลงทุน AI Infrastructure ของ hyperscaler รายใหญ่ดัน CAPEX อุตสาหกรรมแตะ $600 bn/ปี และคาดว่าจะเพิ่มเป็น $3-4 tn ใน 5 ปีข้างหน้า สำหรับรายได้ใน Q3 อาจมี Upside ขึ้นอีกหากข้อจำกัดการส่งออกไปจีนคลี่คลาย ซึ่งอาจเพิ่มรายได้ $2-5 bn พร้อมกันนี้ Nvidia ยังเดินหน้าเตรียมผลิต Rubin platform รุ่นใหม่ในปีหน้า เพื่อรองรับคลื่นความต้องการ AI ที่ยังขยายตัวต่อเนื่องทั่วโลก
💡 𝐈𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
• เรามองผลประกอบการของ Nvidia ออกมาค่อนข้างดี แม้รายได้ Data Center จะต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่หากดูรายละเอียดจะเห็นว่าถูกฉุดจากฝั่ง Compute (ชิปประมวลผล) ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดในจีน ขณะที่รายได้จาก Networking (อุปกรณ์เชื่อมต่อภายใน Rack/Data Center) กลับทำได้ดีกว่าคาดและเติบโตเกือบ 100% สะท้อนว่าดีมานด์ฝั่งการขายเป็น Rack ให้กับ Hyperscaler รายใหญ่ยังขยายตัวแรง แม้การขายชิปเดี่ยวไปจีนจะเจออุปสรรคก็ตาม
• นอกจากนี้ Nvidia ยังให้ Guidance รายได้ใน 3Q'FY26 ที่สูงกว่าตลาดคาด (ไม่นับรวม H20 ในจีน) และเติบโตจากไตรมาสก่อนอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้การ Ramp up ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสถัดไป ขณะเดียวกัน Gross margin ก็ฟื้นตัวชัดเจน และมีเป้าหมายกลับสู่ 75% ในช่วงปลายปี ซึ่งสะท้อนว่าการเปลี่ยนผ่านจาก Hopper สู่ Blackwell เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่การอัปเกรดจาก Blackwell ไป Blackwell Ultra จะ Seamless ยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้สถาปัตยกรรมเดียวกัน นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพกำไรและโอกาสการเติบโตต่อเนื่องในระยะถัดไป
• จากราคาหุ้นที่อาจปรับตัวลงในระยะสั้น แต่รันเวย์ระยะกลาง-ยาว ค่อนข้างชัดเจนว่าดี เราคงคำแนะนำซื้อ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇 สำหรับการลงทุนเป็น 𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐏𝐨𝐫𝐭𝐟𝐨𝐥𝐢𝐨 ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า
𝐊𝐒 𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐞𝐠𝐲
XAU/USD Daily Analysis 27/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 3,371.45
✅ TP1 (Take Profit 1): 3,391.13
✅ TP2 (Take Profit 2): 3,391.13
🛑 SL (Stop Loss): 3,367.81
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น ลุ้นขึ้นต่อ
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
✨ Fibonacci: เข้าประมาณ 50
📊 RSI: 59.98% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,391.13 (TP)
แนวรับ: 3,367.81 (SL), 3,371.45 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมี RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC/USD Daily Analysis 27/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 112,878.81
✅ TP1 (Take Profit 1): 111,363.67
🛑 SL (Stop Loss): 113,996.35
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และมีการหลุดแนวรับสำคัญลงมา
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨
📊 RSI: 43.79% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 113,996.35 (SL), 112,878.81 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 111,363.67 (TP)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
เป้าหมายการปรับตัวขึ้นถัดไปจะอยู่ที่ 3,430 – 3,4501. รูปแบบทางเทคนิค
กราฟกำลังแสดง สามเหลี่ยมสมมาตร (Symmetrical Triangle) โดยมีเส้นแนวต้านลาดลง (เส้นแดงด้านบน) และเส้นแนวรับลาดขึ้น (เส้นแดงด้านล่าง)
ราคาทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,380 – 3,400 หลายครั้งแต่ยังไม่สามารถเบรกขึ้นได้ → เกิดรูปแบบ Lower High
แนวรับหลักอยู่ที่บริเวณ 3,340 – 3,350
2. อินดิเคเตอร์ RSI
RSI 14 อยู่ที่ประมาณ 57–62 บ่งชี้ว่า กลางค่าค่อนข้างไปทางซื้อมากเกินไปเล็กน้อย
RSI เริ่มมีสัญญาณ Divergence เล็กน้อย: ราคาทำจุดสูงใกล้เดิม แต่ RSI ไม่ยกสูงขึ้น → แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนลง
3. สถานการณ์ราคา
สถานการณ์ที่ 1 (มีโอกาสสูง): ราคาจากแนวต้าน 3,380 – 3,400 มีโอกาสย่อลงมาทดสอบแนวรับเส้นล่างแถว 3,340 – 3,350
สถานการณ์ที่ 2 (โอกาสน้อยกว่า): หากราคาสามารถเบรกขึ้นเหนือ 3,400 ได้ชัดเจน เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 3,430 – 3,450
4. กลยุทธ์ที่น่าสนใจ
ขายสั้น (Short): บริเวณ 3,380 – 3,400 เป้าหมายที่ 3,350 → 3,330 ตั้ง Stop loss เหนือ 3,405 – 3,410
ซื้อเมื่อย่อตัว (Buy the dip): หากราคาดีดกลับจากแนวรับ 3,340 – 3,350 ตั้งเป้าที่ 3,380
ซื้อเมื่อเบรก (Breakout Buy): หากราคาทะลุ 3,400 ได้ชัดเจน ตั้งเป้าที่ 3,430 – 3,450
👉 สรุป: แนวโน้มปัจจุบันยังอยู่ในกรอบ Sideway ภายในสามเหลี่ยม เหมาะกับการเทรดตามแนวรับ/แนวต้าน จนกว่าจะมีการเบรกเอาท์ที่ชัดเจน
ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น 3405(เป้าหมาย)📊 วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) H1 – วันที่ 27 สิงหาคม 2025
ราคาทองคำร่วงลงในช่วงการซื้อขายหลักทรัพย์เอเชียวันพุธ โดยร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 3,395 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางแรงขายทำกำไรและการดีดตัวขึ้นเล็กน้อยของดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านลบยังคงมีจำกัด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เพิ่มความพยายามในการปลดผู้ว่าการเฟด ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะนี้ ตลาดกำลังจับตาสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ตัวเลขที่ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจลดความหวังของเฟดในการลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจยังคงหนุนราคาทองคำ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงทดสอบแนวต้านสำคัญ โอกาสพักฐานมีสูง หากไม่ผ่าน 3,405 – 3,427 อาจเห็นการย่อลงมา 3,365 – 3,350 ก่อน ขณะที่ภาพรวมระยะกลางยังเป็นขาขึ้นหากยืนเหนือ 3,350 ได้
ระยะสะสมกำลังราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นตามเส้นแนวโน้มคงที่ ช่วงราคา 3352 - 3405
🔎 แนวโน้มราคาทองคำ (Technical Analysis)
ราคาทองคำ (XAUUSD) เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,376 USD/oz
มีแนวโน้มการทดสอบโซน แนวต้านสำคัญบริเวณ 3,405 – 3,427
หากทะลุขึ้นไปได้ มีเป้าหมายถัดไปที่ 3,441 – 3,451
กรณีไม่ผ่านแนวต้าน มีโอกาสเกิดการย่อตัวกลับมาที่ 3,365 และโซน 3,350
อินดิเคเตอร์ RSI เริ่มเข้าโซน Overbought → มีสัญญาณอาจพักฐานหรือลงมาเทสแนวรับก่อน
🛡️ แนวรับ – แนวต้านสำคัญ
แนวต้าน (Resistance): 3,405 / 3,427 / 3,451
แนวรับ (Support): 3,365 / 3,350 / 3,320
📌 แผนการลงทุน
กลยุทธ์ฝั่ง Buy (เก็งกำไรระยะสั้น):
รอจังหวะย่อตัวแถว 3,365 – 3,350 และตั้ง Stop loss ใต้ 3,335
กลยุทธ์ฝั่ง Sell (สวนแนวต้าน):
หากราคาทดสอบโซน 3,405 – 3,427 แต่ไม่สามารถทะลุได้ → เปิด Short ทำกำไรสั้นๆ เป้าหมายกลับลงไปที่ 3,365






















