BTC/USD Daily Analysis 13/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 119,352.06
✅ TP1 (Take Profit 1): 122,122.13
🛑 SL (Stop Loss): 118,248.96
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: หาจังหวะในการเข้า 0.5
📊 RSI: 48.96% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 122,122.13 (TP)
แนวรับ: 118,248.96 (SL), 119,352.06 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และราคาที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
XAU/USD Daily Analysis 13/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 3358.00
✅ TP1 (Take Profit 1): 3,380.05
✅ TP2 (Take Profit 2): 3,398.05
🛑 SL (Stop Loss): 3340.00
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญและแสดงสัญญาณการกลับตัวขึ้น
RSI มีการปรับตัวขึ้นจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น
ราคากำลังสร้างฐานและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป
✨ Fibonacci: หาจังหวะในการเข้า ประมาณ 50.00
📊 RSI: 56.12% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,380.05 (TP)
แนวรับ: 3,365.17 (SL), 3,371.30 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมี RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
สแกนสภาพคล่องที่ระดับ 3331 เสร็จสิ้นแล้ว กำลังเข้าสู่การฟื้นตัว📌 บทวิเคราะห์ราคาทองคำประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2568 (XAUUSD)
⏰ กรอบเวลา H1 (1 ชั่วโมง)
ทองคำซื้อขายในทิศทางบวกในช่วงเช้าวันนี้ ต่อเนื่องจากระดับ 3,331 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ครึ่ง ข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในภาวะตั้งรับ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน
อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามในยูเครน อาจจำกัดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและจำกัดแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ นอกจากนี้ การที่ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีแรงซื้อเพิ่มเติมก่อนที่จะยืนยันจุดต่ำสุดในระยะสั้น ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอความเห็นจากผู้กำหนดนโยบายหลักของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในช่วงบ่ายวันพุธ เพื่อรับทราบสัญญาณทิศทางใหม่ๆ
💡 ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวราบ 3330 - 3360 เสร็จสิ้นการกวาดล้างสภาพคล่องที่ 3331 ฟื้นตัว ในภาพรวม ตลาดยังมีโอกาสฟื้นตัวได้หากยืนเหนือ 3,331 USD ได้ต่อเนื่อง แต่หากหลุดแนวรับนี้ลงมา อาจเห็นการย่อตัวลึกไปถึงโซน 3,303 – 3,285 USD
⭐️ สรุป : วันนี้ทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ให้น้ำหนักกับการเล่นตามแนวรับ-แนวต้าน โดยรอ Buy ใกล้โซนรับ และ Sell เมื่อเข้าใกล้โซนต้านสำคัญ เพื่อเก็บกำไรระยะสั้นอย่างมีวินัย 📊✨
🔎 ภาพรวมแนวโน้มตลาด (Market Overview)
ราคาทองคำ (XAUUSD) เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบแคบ หลังจากพักฐานจากการดีดขึ้นรอบก่อน โดยราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้ และกำลังทดสอบแรงซื้อในโซน 3,331 USD ซึ่งเป็นแนวรับหลักของรอบนี้
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
แนวต้าน
📍 3,364 USD : แนวต้านแรกของรอบ หากผ่านได้จะเปิดทางไปสู่
📍 3,380 USD : แนวต้านระหว่างทาง
📍 3,390 – 3,404 USD : โซนแนวต้านหลัก ที่มีโอกาสเจอแรงขายทำกำไรสูง
แนวรับ
📍 3,331 USD : แนวรับหลักในกรอบ Sideway
📍 3,303 USD : แนวรับกลาง หากราคาหลุด อาจเห็นการเร่งขาย
📍 3,285 USD : แนวรับลึกสุดของสัปดาห์
RSI (Relative Strength Index)
เคลื่อนไหวบริเวณ ~50 และมีการเด้งขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับมา แต่ยังไม่แข็งแรงพอจะดันราคาผ่านแนวต้านหลักทันที
🎯 แนวคิดประจำวัน (Daily Mindset)
“ซื้อเมื่อราคาย่อตัวใกล้แนวรับ และขายทำกำไรเมื่อใกล้แนวต้าน”
ในภาวะที่ราคายังแกว่งตัวในกรอบแบบนี้ การไล่ซื้อบนจุดสูงมีความเสี่ยงสูง ควรใช้แนวรับ-แนวต้านเป็นจุดวางแผน พร้อมกำหนด Stop Loss ชัดเจน
✅ แผนการลงทุนระยะสั้น (Short-term Trading Plan)
📈 แผน Buy
รอราคาอ่อนตัวใกล้ 📍 3,331 USD หรือ 📍 3,303 USD
เป้าหมายทำกำไรที่ 📍 3,364 USD, 📍 3,380 USD และ 📍 3,390 USD
Stop Loss ต่ำกว่า 📍 3,285 USD
📉 แผน Sell
หากราคาขึ้นทดสอบ 📍 3,390 – 3,404 USD แล้วไม่ผ่าน ให้พิจารณาเปิด Sell
เป้าหมายทำกำไรที่ 📍 3,364 USD และ 📍 3,331 USD
Stop Loss เหนือ 📍 3,410 USD
⚠️ คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรติดตามข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อและดัชนีเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
ใช้การบริหารพอร์ตและ Position Size ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนระหว่างวัน
สรุป: วันนี้ MM น่าจะ “ไล่กินสภาพคล่องบนแล้วกดลงล่าง”
ภาพรวมกราฟวันนี้ (13/08/2568)
•ทองตอนนี้อยู่ในขาลงสั้น ๆ
•ด้านบนมีแนวต้านสำคัญแถว 3,355–3,360 ถ้าขึ้นไปชนตรงนี้มีโอกาสโดนขายลงมา
•ด้านล่างมีแนวรับแถว 3,333–3,327 ถ้าหลุดตรงนี้มีโอกาสไหลลงต่อไปถึง 3,310
•ระวังการทำราคาของเจ้่าอาจทำเป็นจังหวะ ดันราคาขึ้นล่อให้คนซื้อก่อน → แล้วค่อยกดลงแรง
• ถ้าราคาเด้งขึ้นไปปิดเหนือ 3,360–3,369 ได้ จะมีสิทธิขึ้นต่อไปแถว 3,377–3,389
⸻
ข่าวที่มีผลวันนี้
• เมื่อวานตัวเลข CPI สหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด → ดอลลาร์อ่อน บอนด์ยีลด์ลง → ช่วยพยุงราคาทอง
• วันนี้ต้องจับตา: คำพูดเจ้าหน้าที่เฟด, ข้อมูลกู้บ้าน, และตัวเลขสต๊อกน้ำมัน
• พรุ่งนี้จะมี PPI สหรัฐ เป็นตัวชี้ทางสำคัญรอบใหม่
⸻
ข่าวนอกตาราง
• ประเด็นภาษีนำเข้าทองคลี่คลาย (ยกเว้นทองแท่ง) ทำให้ความผันผวนลดลง แต่ยังมีความเสี่ยงถ้านโยบายเปลี่ยน
• ตอนเช้าวันนี้ราคาทองแกว่งแถว 3,351 ตลาดยังรอดูข้อมูลใหม่
⸻
มุมมองสั้น ๆ
วันนี้มีโอกาสเห็นราคาถูกดันขึ้นไปแถวโซนต้าน แล้วโดนกดลงไปโซนรับ ถ้าหลุดรับก็มีสิทธิลงต่อแรง ทิศทางชัด ๆ น่าจะรอพรุ่งนี้หลัง PPI
…
📌สำหรับขา sell ถ้าไม่หลุด 3361 ถือ ได้ ถ้าหลุดต้องยอม
สำหรับขา buy ถ้าหลุด 3337 ต้องยอม
แผนสั้นแบบ MM (ไอเดีย ไม่ใช่คำแนะนำ)
• Sell the pop: 3,355–3,360 (เฝ้าสัญญาณกลับตัวบน H1) → เป้า 3,34x / 3,33x → ต่อที่ 3,31x หากหลุดชัด
• Buy รับเด้งสั้น: เฉพาะที่ 3,33x ด้วยสต็อปสั้นใต้ 3,327 เป้ารีบาวด์ 3,345–3,355
• โมฆะไอเดียลง: ยืน H1 เหนือ 3,360/3,369 → เสี่ยง squeeze ไป 3,377–3,389
สรุป: วันนี้ MM น่าจะ “ไล่กินสภาพคล่องบนแล้วกดลงล่าง” ในกรอบ 3,36x → 3,33x; ทิศใหม่จริง ๆ รอ PPI/โทนเฟดพรุ่งนี้.
แนวโน้มและการคาดการณ์ทองคำ (XAU) ประจำสัปดาห์นี้1. แนวโน้มหลัก
ราคากำลังอยู่ในช่วง ขาขึ้นระยะสั้น โดยมีเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น (เส้นสีแดง) ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
เส้นเทรนด์ไลน์ขาลง (เส้นสีน้ำเงิน) ทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ
ปัจจุบันราคาดีดตัวขึ้นจากเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง และกำลังมุ่งหน้าไปยังโซนแนวต้าน
2. แนวต้านและแนวรับสำคัญ
แนวต้านหลัก: 3,361 – 3,364 (กรอบสีแดง) ซึ่งเป็นโซนที่ราคาถูกปฏิเสธหลายครั้งในอดีต
แนวรับใกล้เคียง: บริเวณเส้นเทรนด์ไลน์สีแดงประมาณ 3,345
แนวรับแข็งแกร่ง: บริเวณกรอบสีน้ำเงินด้านล่างประมาณ 3,310 – 3,315
3. สถานการณ์ขาขึ้น (ให้ความสำคัญ)
ราคายังคงยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง, ทะลุเส้นเทรนด์ไลน์สีน้ำเงิน และทะลุแนวต้าน 3,361–3,364 ได้
หลังการเบรกเอาท์ (Breakout) มีโอกาสสูงที่ราคาจะ กลับมาทดสอบแนวต้านเดิม ก่อนเด้งขึ้นต่อ
เป้าหมายราคา: 3,375 → 3,390
4. สถานการณ์ขาลง (ป้องกันความเสี่ยง)
หากราคาหลุดเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง (~3,345) จะบ่งบอกถึงแรงซื้อที่อ่อนตัวลง
ราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อสู่แนวรับ 3,310–3,315
5. สัญญาณสนับสนุน
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะกลางกำลังบรรจบกัน หากตัดขึ้นจะเป็นสัญญาณยืนยันแรงซื้อ
รูปแบบที่คาดการณ์ไว้ (ลูกศรสีน้ำเงิน) คือ Breakout → Retest → ขึ้นต่อ
มุมมอง XAUUSD วันที่ 13ราคาทองฟื้นตัวจากแรงขายรอบก่อน โดยมีแนวรับอยู่รอบ ๆ $3,333 – $3,340 และแนวต้านสำคัญยังอยู่ที่โซน $3,350 – $3,355
ทิศทางราคายังไม่ถึงจุดเปลี่ยนขาขึ้นชัด แต่มีลุ้นเด้งในระยะสั้นหากแรงซื้อจากข่าว CPI และความหวังลดดอกเบี้ยยังมีน้ำหนัก
หากราคายืนเหนือ $3,350 ได้อย่างมั่นคง อาจมี momentum ตามมาจากฝั่งซื้อ แต่ถ้าไม่ผ่านแนวนี้ มีโอกาสจะปรับลงทดสอบแนวรับต่อไป
BTC/USD Daily Analysis 12/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 119,007.18
✅ TP1 (Take Profit 1): 122,024.01
✅ TP2 (Take Profit 2): 121,994.58
🛑 SL (Stop Loss): 118,315.52
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: ประมาณ 50 ในการหาจังหวะในการเข้า
📊 RSI: 41.90% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 122,024.01 (TP1), 121,994.58 (TP2)
แนวรับ: 118,315.52 (SL), 119,007.18 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และราคาที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ยูโรอ่อน ดอลลาร์แข็ง ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ**EUR/USD ลดลงท่ามกลางความระมัดระวังต่อ CPI ขณะที่เงินเฟ้ออิตาลีต่ำกว่าเป้าหมาย ECB**
EUR/USD ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันจันทร์ ลดลง 0.26% เนื่องจากนักเทรดเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐก่อนการประกาศรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐในวันอังคาร ขณะเดียวกัน อิตาลีเปิดเผยว่าระดับราคาสินค้าและบริการแตะเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งสนับสนุนเหตุผลในการคงอัตราดอกเบี้ยแม้ในที่ประชุมครั้งถัดไป
---
### **ภาพรวมทางเทคนิคของ EUR/USD**
แนวต้านอยู่ที่ระดับสูงสุดรายสัปดาห์ 1.1788 (24 กรกฎาคม) เหนือขึ้นไปคือเพดานปี 2025 ที่ 1.1830 (1 กรกฎาคม) และระดับสูงสุดเดือนกันยายน 2021 ที่ 1.1909 (3 กันยายน) ก่อนจะถึงระดับจิตวิทยา 1.2000
ในทางกลับกัน แนวรับเริ่มที่ระดับต่ำสุดเดือนสิงหาคม 1.1391 (1 สิงหาคม) โดยมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (100-day SMA) หนุนอยู่ ก่อนจะถึงระดับต่ำสุดรายสัปดาห์ 1.1210 (29 พฤษภาคม)
สัญญาณโมเมนตัมผสมกัน: ดัชนี Relative Strength Index (RSI) ลดลงต่ำกว่าเส้น 50 บ่งชี้ความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวลดลงต่อ ขณะที่ดัชนี Average Directional Index (ADX) ใกล้ระดับ 17 สะท้อนแนวโน้มที่ยังไม่ชัดเจน
---
### **แนวโน้ม: ภาวะไซด์เวย์**
EUR/USD มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบเดิมต่อไป เว้นแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะสร้างความประหลาดใจด้วยท่าทีผ่อนคลายกว่าที่คาด หรือความตึงเครียดทางการค้าจะผ่อนคลายลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยบรรยากาศรอบค่าเงินดอลลาร์จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวที่สำคัญถัดไป
---
## **ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน**
**ยูโรอ่อนแรงต่อเนื่อง**
เงินยูโร (EUR) สูญเสียแรงขับเคลื่อนมากขึ้นในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์การซื้อขายอย่างติดลบ ทำให้ EUR/USD ร่วงต่ำกว่าแนวรับ 1.1600 แตะระดับต่ำสุดในรอบสามวัน และเคลื่อนไหวใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 55 วัน (55-day SMA) ชั่วคราว
**ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวแรง**
ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเตรียมรับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่จะประกาศในวันอังคาร
นอกจากนี้ เส้นตายการค้าระหว่างสหรัฐ–จีนก็มีกำหนดในวันอังคารเช่นกัน เพิ่มความระมัดระวังในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม
---
### **ความหวังข้อตกลงการค้าหายไปอย่างรวดเร็ว**
ความโล่งใจแรกเริ่มจากการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ–สหภาพยุโรป—ซึ่งลดภาษีส่งออกยุโรปส่วนใหญ่เหลือ 15% จากเดิมที่เคยถูกคุกคามว่าจะขึ้นเป็น 30%—ได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว สินค้าอากาศยาน เซมิคอนดักเตอร์ และสินค้าเกษตรหลุดพ้นจากภาษีใหม่ แต่เหล็กและอะลูมิเนียมยังถูกเก็บภาษีอยู่ที่ 50%
ในทางกลับกัน ยุโรปตกลงที่จะซื้อพลังงานจากสหรัฐมูลค่า 750 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มคำสั่งซื้อด้านกลาโหม และอัดฉีดเงินลงทุนในสหรัฐมากกว่า 600 พันล้านดอลลาร์
เบอร์ลินและปารีสออกมาแสดงความสงสัยอย่างรวดเร็ว: นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช เมิร์ซ เตือนว่าข้อตกลงนี้จะบีบภาคการผลิตที่อ่อนแออยู่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เรียกวันนี้ว่าเป็น “วันที่มืดมน” ของทวีปยุโรป
---
### **สองจุดปะทุภาษีการค้า**
การเมืองด้านการค้ายังคงเป็นปัจจัยหลักของตลาด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้บังคับใช้ภาษี “ตอบโต้” ต่อการนำเข้าจาก 69 ประเทศ โดยเพิ่มภาษีระหว่าง 10% ถึง 41% ภายในหนึ่งสัปดาห์ พร้อมขู่ใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ต่อรัสเซียหากความขัดแย้งในยูเครนยังดำเนินต่อ
ภายในวันที่ 12 สิงหาคม เขาต้องตัดสินใจว่าจะขยายการพักรบทางภาษีกับปักกิ่งหรือปล่อยให้ภาษีกลับมาสูงถึงสามหลัก เสี่ยงต่อการกลับมาของสงครามการค้าเต็มรูปแบบ
---
### **ธนาคารกลาง: รักษากระสุนไว้**
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คงนโยบายไว้ตามเดิมในการประชุมล่าสุด โดยประธานเจอโรม พาวเวลล์ แสดงท่าทีระมัดระวัง แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้ว่าการวอลเลอร์และโบว์แมน
ที่แฟรงก์เฟิร์ต คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่าการเติบโต “แข็งแกร่ง แม้เพียงเล็กน้อย” อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินได้เลื่อนความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026
---
### **นักเก็งกำไรลดการถือยูโร**
นักเก็งกำไรลดสถานะซื้อสุทธิ (net long) ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ใกล้ 116,000 สัญญา ขณะที่ผู้เล่นเชิงพาณิชย์ก็ลดสถานะขายสุทธิ (net short) ลงมาอยู่ราว 163,500 สัญญา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์เช่นกัน นอกจากนี้ ปริมาณสัญญาที่เปิดอยู่ (open interest) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ราว 828,300 สัญญา
"กำลังแสดงแนวโน้มการฟื้นตัวในรูปแบบสามเหลี่ยมบีบตัว"อัปเดตตลาดวันนี้
ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยแตะประมาณ 3,350.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ฟื้นตัวเล็กน้อยจากการร่วงแรงเมื่อวานนี้ — นักลงทุนจับตาข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ที่อาจมีผลต่อทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก FXStreet ชี้ว่าทองคำกำลังพยายามฟื้นตัวจากโซน 3,341 ดอลลาร์ โดยขึ้นอยู่กับข้อมูล CPI ที่จะประกาศเป็นหลัก
ตามข้อมูลจาก FXEmpire ราคาทองคำได้หลุดต่ำกว่า 3,350 ดอลลาร์ เข้าใกล้แนวรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ที่ระดับ 3,349.70 ดอลลาร์ หากหลุดต่ำกว่านี้ ราคามีโอกาสร่วงต่อไปยังโซน 3,310.48 ดอลลาร์
ภาพรวมตลาด
XAU อยู่ในโซนดึงเชือกระหว่างแรงซื้อและแรงขาย — นักลงทุนรอข้อมูล CPI เพื่อหาทิศทางที่ชัดเจนต่อไป
หากปัจจัยเงินเฟ้อเอื้อ ราคาทองคำอาจดีดกลับขึ้นเหนือ 3,400 ดอลลาร์ได้
ในทางกลับกัน หากข้อมูล CPI ออกมาสูงกว่าคาด ราคาทองคำอาจร่วงแรงลงสู่ช่วง 3,300–3,310 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้น
ในเชิงเทคนิค เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันเป็นระดับสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หากหลุดต่ำกว่านี้อาจเปิดทางให้ราคาลดลงแรงกว่าเดิม
รูปแบบและแนวโน้ม
กราฟกำลังแสดงทิศทางการฟื้นตัวในรูปแบบสามเหลี่ยมบีบตัว (Converging Triangle) โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้น (แนวรับ) และเส้นแนวโน้มขาลง (แนวต้าน) กำลังบีบเข้าหากัน
สถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่ราคาจะทะลุเส้นแนวโน้มขาลงขึ้นไปเหนือโซน 3,400 และอาจกลับมาทดสอบ (retest) ก่อนปรับตัวขึ้นต่อไปยังบริเวณ 3,450–3,470
RSI อยู่ที่ประมาณ 41–51 บ่งบอกว่าตลาดกำลังฟื้นตัวจากโซนขายมากเกินไป (Oversold) แต่ยังไม่เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไป (Overbought) → จึงยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ
แผนการเทรด
แผนขาขึ้น (แผนหลัก)
เงื่อนไข: ราคายืนเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้น + ปิดแท่งเหนือ 3,375 และโดยเฉพาะการทะลุโซน 3,400
เป้าหมาย: 3,425 → 3,450 → ต่อไป 3,470
จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): ใต้ 3,345 (ปิดแท่ง 4H)
แผนขาลง (แผนสำรอง)
หากราคาทะลุลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้น (~3,345) และ EMA89 มีโอกาสที่จะกลับไปทดสอบโซนแนวรับแข็งแกร่งที่ 3,260–3,280
บริเวณนี้จะเป็นจุด Buy limit ระยะยาว หากมีสัญญาณกลับตัวเกิดขึ้น
สรุป
ขณะนี้ตลาดอยู่ใน “จุดตัดสินใจ” ใกล้เส้นแนวโน้มขาลง หากทะลุขึ้นได้สำเร็จ มีโอกาสสูงที่จะเกิดคลื่นขาขึ้นไปถึง 3,450–3,470 แต่หากหลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้น ก็อาจเปิดทางให้ราคาลงต่อไปยังแนวรับลึกกว่าเดิม
BTC/USD Daily Analysis 11/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 119,675.45
✅ TP1 (Take Profit 1): 117,111.95
✅ TP2 (Take Profit 2): 117,085.12
🛑 SL (Stop Loss): 121,045.19
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และหลุดแนวรับสำคัญลงมา
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
📊 RSI: 71.91% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และมีแนวโน้มที่จะลดลง และเกิด drivergent
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 121,045.19 (SL), 119,675.45 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 117,111.95 (TP1), 117,085.12 (TP2)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทดสอบแนวต้านและมีสัญญาณการกลับตัวลง โดยมี RSI ที่อยู่ในโซน Overbought เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAU/USD Daily Analysis 11/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำกำลังเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 3,374.72
✅ TP1 (Take Profit 1): 3,356.51
✅ TP2 (Take Profit 2): 3,356.51
🛑 SL (Stop Loss): 3,397.10
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาทองคำได้ทำราคาสูงสุดและมีการกลับตัวลงจากแนวต้านที่แข็งแกร่ง
เส้น EMA 20 (สีส้ม) และ EMA 50 (สีเหลือง) กำลังจะตัดลง ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
ราคาปิดของแท่งเทียนล่าสุดปิดต่ำกว่า EMA ทั้งสอง
✨ Fibonacci: เป้าหมายคือ 168
📊 RSI: 48.39% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,397.10 (SL), 3,374.72 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 3,356.51 (TP)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญและแสดงสัญญาณการกลับตัวลง โดยมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA และ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
CPI report or RBA meeting outcome will affect pricesภาพรวมแนวโน้ม
แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น: ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น พร้อมรูปแบบสามเหลี่ยม (Triangle pattern) กำลังก่อตัว แรงซื้อยังได้รับการสนับสนุนจากเส้นแนวโน้มและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณต่อเนื่องขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด การปรับฐานระยะสั้น ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหากแรงซื้อกลับมา
ระดับแนวรับสำคัญ
3,275 ดอลลาร์/ออนซ์: เป็นแนวรับสำคัญในสัปดาห์นี้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงใกล้ระดับนี้ก่อนจะดีดกลับ
3,365 – 3,368 ดอลลาร์/ออนซ์: เป็นแนวรับใกล้เคียง (อยู่ในโซนที่มีการรวมตัวของราคา) อาจเป็นจุดซื้อที่น่าสนใจหากราคาปรับฐาน
ระดับแนวต้านสำคัญ
3,400 ดอลลาร์/ออนซ์: แนวต้านจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง มักทำให้ราคาย่อตัวเมื่อทดสอบระดับนี้
3,435 – 3,450 ดอลลาร์/ออนซ์: แนวต้านเชิงกลยุทธ์ หากทะลุผ่านไปได้ อาจเปิดทางให้ราคาพุ่งขึ้นแรง
3,475 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,825 ดอลลาร์/ออนซ์: ในกรณีที่แรงซื้อรุนแรงต่อเนื่อง ราคาสามารถขึ้นไปแตะระดับนี้ได้
สถานการณ์ตลาดสัปดาห์นี้
สถานการณ์ จากระดับปัจจุบัน (ประมาณ 3,390)
ขาขึ้น หากราคายืนเหนือ 3,275–3,365 และทะลุ 3,400 แนวโน้มมีโอกาสไปต่อสู่ 3,435–3,475
ขาลง หากหลุด 3,275 อาจร่วงลงไปทดสอบบริเวณ 3,105 หรือ ต่ำกว่า
สรุปสั้นๆ
แนวโน้มระยะยาว: ขาขึ้น – ยืนยันด้วยรูปแบบสามเหลี่ยมและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
แนวรับสำคัญ: 3,275 และ 3,365–3,368
แนวต้านสำคัญ: 3,400 และ 3,435–3,475
ข้อควรระวัง: หากทะลุ 3,400 อาจมีแรงซื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหลุดแนวรับอาจเกิดการปรับฐานลึก
คุณ có muốn mình làm thêm เวอร์ชันพร้อมคำศัพท์การเทรดทองในภาษาไทย เพื่อใช้ใน báo cáo phân tích không?
Bạn đã nói:
thay đổi lại văn của bài phân tích này
ChatGPT đã nói:
โอเค เดี๋ยวผมจะเขียนบทวิเคราะห์ XAU/USD สัปดาห์นี้ (11–15 สิงหาคม 2025) ในภาษาไทยให้ใหม่ ใช้โครงสร้างกระชับ อ่านง่าย แต่ยังคงมีข้อมูลแนวรับ–แนวต้านครบถ้วน
ภาพรวมตลาด
ราคาทองคำ (XAU/USD) ยังคงเคลื่อนไหวใน แนวโน้มขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากเส้นค่าเฉลี่ยและเส้นแนวโน้มหลัก สัปดาห์นี้มีโอกาสเห็นการพักตัวเล็กน้อยก่อนเดินหน้าขึ้นต่อ หากแรงซื้อกลับมาชัดเจน
แนวรับสำคัญ
3,275 ดอลลาร์/ออนซ์ – เป็นแนวรับหลัก หากราคาย่อลงมาถึงบริเวณนี้ มีโอกาสเกิดแรงซื้อกลับ
3,365 – 3,368 ดอลลาร์/ออนซ์ – แนวรับระยะสั้นในโซนสะสมราคา เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อเกิดการปรับฐาน
แนวต้านสำคัญ
3,400 ดอลลาร์/ออนซ์ – แนวต้านจิตวิทยา หากผ่านได้ชัดเจน จะเพิ่มความมั่นใจให้ฝั่งซื้อ
3,435 – 3,450 ดอลลาร์/ออนซ์ – แนวต้านหลักของสัปดาห์ ถ้าทะลุขึ้นไปมีโอกาสขยับสู่
3,475 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,825 ดอลลาร์/ออนซ์ – เป้าหมายถัดไปในกรณีที่แนวโน้มขาขึ้นยังแข็งแรง
มุมมองการเคลื่อนไหวสัปดาห์นี้
ขาขึ้น – ยืนเหนือ 3,275–3,365 และทะลุ 3,400 ได้อย่างมั่นคง มีสิทธิ์ขึ้นต่อไปที่ 3,435–3,475
ขาลง – หากราคาหลุด 3,275 แนวโน้มอาจอ่อนตัวลงไปทดสอบ 3,105 หรือระดับต่ำกว่า
สรุป
แนวโน้มหลัก: ขาขึ้น
โซนรับจับตา: 3,275 และ 3,365–3,368
โซนต้านจับตา: 3,400 และ 3,435–3,475
นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 3,400 เพื่อดูว่าราคาจะสามารถทะลุไปได้หรือจะถูกกดให้ย่อลง
"เน้นที่จุดสนับสนุนหลักและแอนติเจน"ภาพรวมแนวโน้ม
แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น: ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น พร้อมรูปแบบสามเหลี่ยม (Triangle pattern) กำลังก่อตัว แรงซื้อยังได้รับการสนับสนุนจากเส้นแนวโน้มและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณต่อเนื่องขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด การปรับฐานระยะสั้น ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหากแรงซื้อกลับมา
ระดับแนวรับสำคัญ
3,275 ดอลลาร์/ออนซ์: เป็นแนวรับสำคัญในสัปดาห์นี้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงใกล้ระดับนี้ก่อนจะดีดกลับ
3,365 – 3,368 ดอลลาร์/ออนซ์: เป็นแนวรับใกล้เคียง (อยู่ในโซนที่มีการรวมตัวของราคา) อาจเป็นจุดซื้อที่น่าสนใจหากราคาปรับฐาน
ระดับแนวต้านสำคัญ
3,400 ดอลลาร์/ออนซ์: แนวต้านจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง มักทำให้ราคาย่อตัวเมื่อทดสอบระดับนี้
3,435 – 3,450 ดอลลาร์/ออนซ์: แนวต้านเชิงกลยุทธ์ หากทะลุผ่านไปได้ อาจเปิดทางให้ราคาพุ่งขึ้นแรง
3,475 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,825 ดอลลาร์/ออนซ์: ในกรณีที่แรงซื้อรุนแรงต่อเนื่อง ราคาสามารถขึ้นไปแตะระดับนี้ได้
สถานการณ์ตลาดสัปดาห์นี้
สถานการณ์ จากระดับปัจจุบัน (ประมาณ 3,390)
ขาขึ้น หากราคายืนเหนือ 3,275–3,365 และทะลุ 3,400 แนวโน้มมีโอกาสไปต่อสู่ 3,435–3,475
ขาลง หากหลุด 3,275 อาจร่วงลงไปทดสอบบริเวณ 3,105 หรือ ต่ำกว่า
สรุปสั้นๆ
แนวโน้มระยะยาว: ขาขึ้น – ยืนยันด้วยรูปแบบสามเหลี่ยมและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
แนวรับสำคัญ: 3,275 และ 3,365–3,368
แนวต้านสำคัญ: 3,400 และ 3,435–3,475
ข้อควรระวัง: หากทะลุ 3,400 อาจมีแรงซื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหลุดแนวรับอาจเกิดการปรับฐานลึก
BTC/USD Daily Analysis 9/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 116,751.14
✅ TP1 (Take Profit 1): 118,667.53
✅ TP2 (Take Profit 2): 118,653.92
🛑 SL (Stop Loss): 116,237.32
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับ Trendline และมีการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: รอย่อ ประมาณ 50
📊 RSI: 52.37% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 118,667.53 (TP1), 118,653.92 (TP2)
แนวรับ: 116,237.32 (SL), 116,751.14 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับ Trendline และมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และราคาที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
RSI vs Stochastic: เปรียบเทียบ 2 อินดิเคเตอร์โมเมนตัมยอดนิยมของนในการเทรด Forex อินดิเคเตอร์ที่ช่วยบอกโมเมนตัมของราคา ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสองตัวที่คนพูดถึงบ่อยคือ RSI (Relative Strength Index) และ Stochastic Oscillator ทั้งสองมีความคล้ายกันในแง่ที่บอกถึงภาวะ Overbought และ Oversold แต่ในความจริงแล้ว แต่ละตัวก็มีวิธีการคำนวณ แนวคิด และการใช้งานที่แตกต่างกัน
📌 จุดเด่นของ RSI
RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่พัฒนาโดย Wilder มีหน้าที่วัดความแข็งแรงของแนวโน้ม โดยคำนวณจากอัตราส่วนของวันที่ราคาปิดเป็นบวกกับวันที่ราคาปิดเป็นลบ แล้วเปลี่ยนเป็นค่าเปอร์เซ็นต์อยู่ในช่วง 0 ถึง 100
ค่าที่นักเทรดมักใช้อ้างอิงคือ:
RSI มากกว่า 70 = ราคาน่าจะอยู่ในเขต Overbought (ซื้อมากเกินไป อาจถึงเวลาย่อตัว)
RSI น้อยกว่า 30 = อยู่ในเขต Oversold (ขายมากเกินไป อาจถึงเวลาดีดกลับ)
RSI มักใช้งานได้ดีในตลาดที่มี “แนวโน้มชัดเจน” เพราะมันช่วยบอกได้ว่าเทรนด์ยังแข็งแรงอยู่หรือกำลังจะหมดแรง
📌 จุดเด่นของ Stochastic
Stochastic Oscillator พัฒนาโดย George Lane ใช้หลักการเปรียบเทียบราคาปิดล่าสุดกับช่วงราคาสูงสุด-ต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น 14 วัน) แล้วคำนวณออกมาเป็นค่าเปอร์เซ็นต์เช่นกัน อยู่ในช่วง 0–100
ในอินดิเคเตอร์จะมีเส้น 2 เส้นคือ:
%K (เส้นหลัก)
%D (เส้นเฉลี่ยของ %K)
สัญญาณซื้อ-ขายของ Stochastic เกิดขึ้นเมื่อเส้น %K และ %D ตัดกัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในเขต Overbought (เหนือ 80) หรือ Oversold (ต่ำกว่า 20)
Stochastic เหมาะกับตลาดที่ “แกว่งในกรอบ” หรือไม่มีแนวโน้มชัดเจน เพราะมันสามารถจับจังหวะกลับตัวระยะสั้นได้ดี
🆚 เปรียบเทียบการใช้งาน
ถ้าพูดง่าย ๆ — RSI เหมาะกับการดูความแข็งแรงของแนวโน้ม, ในขณะที่ Stochastic เหมาะกับการจับจังหวะกลับตัวในช่วงที่ตลาดแกว่ง
RSI ช่วยให้เราเห็นว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นนั้นแรงแค่ไหน หาก RSI สูงเกิน 70 แต่ราคายังวิ่งขึ้นต่อได้ นั่นอาจหมายถึงแนวโน้มยังแข็งแรงอยู่
Stochastic เน้นไปที่การบอกว่า “ราคาปิดล่าสุดอยู่ตรงไหนในช่วงราคาย้อนหลัง” จึงตอบสนองไวกว่า RSI และมักจะให้สัญญาณเร็วกว่า
อีกจุดหนึ่งที่ต่างคือ สัญญาณการเข้าเทรด
RSI ใช้จุด Overbought/Oversold ร่วมกับแนวโน้มเพื่อหาจังหวะกลับตัว
ส่วน Stochastic ใช้การ "ตัดกันของเส้น %K และ %D" เป็นจุดเข้าออกหลัก
🎯 แล้วควรเลือกใช้ตัวไหนดี?
คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับ “สไตล์การเทรด” และ “สภาพตลาด”
ถ้าตลาดเป็นเทรนด์ชัดเจน RSI มักให้ผลแม่นยำกว่า
ถ้าตลาด Sideway หรือแกว่งในกรอบ Stochastic จะตอบสนองได้ดีกว่า
หลายคนเลือกที่จะใช้ ทั้งสองตัวร่วมกัน เพื่อช่วยกรองสัญญาณให้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น หาก RSI เข้าสู่โซน Overbought แล้ว Stochastic ก็ให้สัญญาณขายด้วย แสดงว่าโอกาสกลับตัวมีสูงมากขึ้น
✅ สรุป
RSI กับ Stochastic ต่างก็เป็นเครื่องมือที่มีจุดแข็งของตัวเอง ไม่มีตัวไหน “ดีกว่า” อย่างเด็ดขาด อยู่ที่ว่าเราใช้ ถูกที่ถูกเวลา หรือไม่ หากเรียนรู้วิธีใช้อย่างถูกต้อง และผสมผสานกับเครื่องมืออื่น เช่นแนวรับแนวต้านหรือแท่งเทียน จะยิ่งช่วยให้การตัดสินใจในการเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔍📊
BTC/USD Daily Analysis 8/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 116,564.30
✅ TP1 (Take Profit 1): 118,594.54
🛑 SL (Stop Loss): 115,845.24
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบ Demand Zone และมีการกลับตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญ
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือเส้น Trendline และ EMA 200 (สีแดง) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในภาพรวม
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: รอย่อ ประมาณ 50
📊 RSI: 60.03% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นได้
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 118,594.54 (TP)
แนวรับ: 115,845.24 (SL), 116,564.30 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับใน Demand Zone และมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และราคาที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ราคาทองคำคาดว่าจะผันผวนเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED)ราคาปัจจุบัน: กองทุนกำลังซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 313.12 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดก่อนหน้า (+0.00828%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวในขณะนี้
1. การเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละช่วงเวลา
การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาดผ่านระดับราคาและช่วงเวลา:
ช่วงเช้า: มักเป็นการตอบสนองต่อข่าวสารจากต่างประเทศในช่วงกลางคืน
ช่วงกลางวัน: เป็นการปรับตัวทางเทคนิค
ช่วงบ่าย: ปิดท้ายรอบการซื้อขายและตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสารใหม่
2. ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบ
อัตราดอกเบี้ย: การตัดสินใจจาก FED หรือ ECB สามารถทำให้ราคาทองคำผันผวนได้อย่างมาก
ข้อมูลเศรษฐกิจ: ข้อมูล CPI, Nonfarm Payrolls หรือ GDP ล้วนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
ตลอดสัปดาห์นี้ ราคาทองคำคาดว่าจะผันผวนเนื่องจากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลในช่วงบ่ายวันที่ 30 กรกฎาคม (เวลาวอชิงตัน) แม้ตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ยังรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับระยะเวลาและความเร็วในการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการปรับลดในเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ ของสหรัฐ เช่น อัตราเงินเฟ้อ GDP และการจ้างงาน ก็จะมีผลต่อราคาทองคำอย่างมากเช่นกัน กองทุนทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก SPDR Gold Trust คงปริมาณการถือครองทองคำไว้ในวันที่ 29 กรกฎาคม หลังจากมีการขายสุทธิเพียงเล็กน้อยในวันก่อนหน้า
การวิเคราะห์กราฟ (กรอบเวลา H1):
หลังจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ราคาทองคำในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว แต่ราคายังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นแนวโน้มขาลงยังคงมีอิทธิพล และราคามีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับที่ต่ำกว่า
แนวต้าน: 3362.8, 3383, 3433
แนวรับ: 3345, 3334
สวัสดีทุกคน
JENDA FISH
XAU/USD Daily Analysis 7/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 3,380.30
✅ TP1 (Take Profit 1): 3417.00
🛑 SL (Stop Loss): 3,367.81
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับ Trendline และแสดงสัญญาณการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคากำลังสร้างฐานและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป
RSI มีการปรับตัวขึ้นจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น
✨ Fibonacci: เป้าหมายคือ 1.618
📊 RSI: 56.27% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,391.29 (TP1), 3,390.22 (TP2)
แนวรับ: 3,357.81 (SL), 3,369.30 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับ Trendline และมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และ RSI ที่มีพื้นที่ให้วิ่งขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC/USD Daily Analysis 7/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 114,481.53
✅ TP1 (Take Profit 1): 115,394.01
✅ TP2 (Take Profit 2): 115,394.01
🛑 SL (Stop Loss): 113,674.52
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับ Trendline และมีการกลับตัวขึ้น
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: หาจังหวะในการเข้า ที่ 0.5
📊 RSI: 51.02% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 115,394.01 (TP)
แนวรับ: 113,674.52 (SL), 114,481.53 (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญและมีการกลับตัวขึ้น โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และราคาที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC/USD Daily Analysis 6/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 113,486.96
✅ TP1 (Take Profit 1): 111,883.84
✅ TP2 (Take Profit 2): 111,858.94
🛑 SL (Stop Loss): 114,888.60
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้าน Trendline และมีการหลุดแนวรับสำคัญลงมา
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดลงต่ำกว่า EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨ Fibonacci: 38.8 ในการหาจังหวะในการเข้า
📊 RSI: 45.42% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 114,888.60 (SL), 113,486.96 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 111,883.84 (TP1), 111,858.94 (TP2)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC/USD Daily Analysis 5/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 114,500.04
✅ TP1 (Take Profit 1): 112,019.46
✅ TP2 (Take Profit 2): 111,982.59
🛑 SL (Stop Loss): 115,703.18
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวลงจากแนวต้านสำคัญและหลุดแนวรับสำคัญลงมา
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังตัดลงต่ำกว่า EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
RSI มีแนวโน้มลดลงจากระดับกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไป
✨ Fibonacci: ทดสอบโซน 50
📊 RSI: 43.14% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคากำลังเข้าใกล้ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 115,703.18 (SL), 114,500.04 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 112,019.46 (TP1), 111,982.59 (TP2)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAU/USD Daily Analysis 5/8/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
ราคาทองคำกำลังเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงสะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
cr. Investing.com, FXStreet, Kitco (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (SELL)
➡️ เข้าขาย (Entry Price): 3,330.12
✅ TP1 (Take Profit 1): 3,292.00
✅ TP2 (Take Profit 2): 3,292.00
🛑 SL (Stop Loss): 3,363.30
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาทองคำได้ทำราคาสูงสุดและมีการกลับตัวลงจากแนวต้านที่แข็งแกร่ง
เส้น EMA 20 (สีส้ม) และ EMA 50 (สีเหลือง) กำลังจะตัดลง ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
ราคาปิดของแท่งเทียนล่าสุดปิดต่ำกว่า EMA ทั้งสอง
✨ Fibonacci: ไม่ปรากฏข้อมูล Fibonacci ในคำสั่งนี้
📊 RSI: 54.76% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: 3,363.30 (SL), 3,330.12 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 3,292.00 (TP)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญและแสดงสัญญาณการกลับตัวลง โดยมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA และ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
บิทคอยน์จ่อเลือกทาง! ลุ้นทะลุจุดสูงสุดหรือร่วงแรงบทวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Bitcoin โดย Purich Mahayosanan
ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะนี้ตลาดคริปโตกำลังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงบวกบางประการ แต่สิ่งที่มีนัยสำคัญยิ่งกว่าคือพฤติกรรมราคาของ Bitcoin ที่กำลังเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดชี้ขาด (Crucial Junction) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในทิศทางของราคา ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งสู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) หรือการปรับฐานลึกลงสู่บริเวณ $100,000
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคจากกราฟ Bitcoin Futures (CME)
ราคาปัจจุบันของ Bitcoin Futures อยู่ที่ 115,275 ดอลลาร์สหรัฐ โดยกำลังทดสอบแนวรับสำคัญซึ่งเคยเป็นแนวต้านมาก่อน เส้นแนวรับนี้มีบทบาทเป็นระดับเชิงจิตวิทยาที่นักลงทุนใช้เป็นจุดชี้วัดสำคัญในการตัดสินใจ
ลักษณะนี้เป็นโครงสร้างคลาสสิกในการวิเคราะห์เทคนิค ที่หากแนวรับสามารถรักษาไว้ได้ จะเป็นฐานรองรับการเคลื่อนไหวขึ้นครั้งใหม่ หากหลุดลงมาจะสร้างแรงขายขนานใหญ่ในระยะสั้น
โครงสร้าง Regression Channel และรูปแบบ Bull Flag
บนกราฟยังปรากฏช่อง Regression Channel ซึ่งแสดงขอบเขตบน-ล่างของราคาที่ชัดเจน (เขียว-แดง) ลักษณะนี้คล้ายกับ Bull Flag ซึ่งเป็นรูปแบบต่อเนื่องขาขึ้นที่พบได้บ่อยในตลาดที่ยังมีโมเมนตัมแข็งแกร่ง โดยให้สัญญาณสำคัญหลายประการ ได้แก่:
แนวโน้มชัดเจน: แสดงแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องของ Bitcoin
ขอบเขตพลวัต: ช่องราคาแสดงจุดกลับตัวที่มีเหตุผลทางเทคนิค
สัญญาณเข้า/ออก: เมื่อราคาทะลุกรอบใดกรอบหนึ่ง จะให้สัญญาณเทรดที่ใช้งานได้จริง
กรณีการทะลุแนวต้าน (Bullish Breakout)
หากราคา Bitcoin Futures สามารถทะลุขอบบนของ Regression Channel บริเวณ 116,500–117,000 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยืนยันรูปแบบ Bull Flag ซึ่งอาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่เหนือ 123,615 ดอลลาร์ โดยทันที โมเมนตัมการซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และดึงดูดเงินทุนเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว
กรณีหลุดแนวรับ (Bearish Breakdown)
ในทางกลับกัน หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับที่ฐานล่างของ Channel และแนวรับสีดำบริเวณ 113,000–114,000 ดอลลาร์ รูปแบบขาขึ้นจะถือว่าถูกทำลาย และอาจเกิดแรงขายอย่างรวดเร็ว เป้าหมายถัดไปคือแนวรับทางจิตวิทยาบริเวณ $100,000 ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่ผู้เล่นตลาดให้ความสนใจอย่างมาก
ระดับราคาสำคัญที่ต้องติดตาม
สถานะ ระดับราคา ความหมาย
ขาขึ้น (Breakout) 116,500–117,000 USD ยืนยันรูปแบบ Bull Flag
ขาลง (Breakdown) 113,000–114,000 USD ล้มเหลวของโครงสร้างขาขึ้นเดิม
มุมมองเชิงกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนคริปโต
จุดชี้ขาดทางเทคนิคนี้ไม่ใช่แค่ “ความผันผวนปกติ” แต่เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะเคลื่อนตัวแรงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นักลงทุนที่สามารถอ่านสัญญาณเหล่านี้ได้แม่นยำ จะมีความได้เปรียบอย่างชัดเจนในการวางแผนกลยุทธ์เทรด ทั้งในรูปแบบรายวันและรายสัปดาห์
แนะนำ: นักลงทุนควรเตรียมพร้อมทั้งแผนรับและแผนรุก ณ ระดับราคาที่ระบุไว้ และรอการยืนยันจากพฤติกรรมราคา (Price Action) ก่อนเข้าตำแหน่ง
ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม: Binance เปิดให้เขียน Bitcoin Options สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2025 Binance ได้ประกาศขยายบริการ "เขียนออปชัน" (Options Writing) สำหรับ Bitcoin ให้แก่ผู้ใช้งานรายย่อยทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในระบบอนุพันธ์ของตลาดคริปโต
รายละเอียดฟีเจอร์:
การเข้าถึงทั่วโลก: ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเขียน Call/Put Options ได้แล้ว
การวางหลักประกัน: ใช้ USDT ในการวางค้ำประกัน (1 สัญญา = 1 BTC)
วันหมดอายุหลากหลาย: เลือกได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายไตรมาส
ส่วนลดค่าธรรมเนียม: รับส่วนลด 20% สำหรับ Maker/Taker
การบริหารความเสี่ยง: ต้องผ่านการประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยง
ผลกระทบต่อตลาด:
บวก (Bullish):
เพิ่มสภาพคล่องของตลาด
เปิดโอกาสให้รายย่อยใช้กลยุทธ์สร้างรายได้ (เช่น Covered Calls)
เสริมความมั่นคงให้ตลาดผ่านเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
ลบ (Bearish):
อาจเกิดแรงขายจากการเปิด Short ผ่าน Put/Naked Calls
เทรดเดอร์มือใหม่เสี่ยงต่อการจัดการความเสี่ยงผิดพลาด
ราคาตลาดอาจผันผวนมากขึ้นหากมีการใช้ออปชันโดยขาดการควบคุม
ข้อสรุปเชิงกลยุทธ์
โดยโครงสร้างแล้ว การเปิดให้เขียน Options ถือเป็นความเคลื่อนไหวเชิงบวกของ Binance ที่สะท้อนถึง “ความเป็นมืออาชีพ” ของตลาดมากขึ้น และเปิดประตูให้ผู้ใช้งานทั่วไปเข้าถึงเครื่องมือการลงทุนขั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับระดับวุฒิภาวะและการบริหารความเสี่ยงของผู้ใช้ หากบริหารไม่ดี อาจส่งผลย้อนกลับและก่อให้เกิดแรงกดดันต่อราคามากกว่าที่คาดไว้
บทสรุป: ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงตัดสินใจ
ปัจจัยทางเทคนิคและโครงสร้างอนุพันธ์กำลังปรับเปลี่ยนสมดุลของตลาดอย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวครั้งถัดไปของราคา Bitcoin จะมีผลอย่างมากต่อนักลงทุนทั้งระยะสั้นและยาว
การเตรียมพร้อม ติดตามระดับราคาที่สำคัญ และรักษาวินัยในการบริหารความเสี่ยง จะเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินชัยชนะของนักลงทุนในรอบนี้






















