วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ทองคำปรับบวกก่อนรายงานเงินเฟ้อถูกเปิดเผยช่วงคืนวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ราคา 1,812.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1800 ได้อีกครั้ง โดยการปรับขึ้นมาครั้งนี้ก็มีปัจจัยเดิมๆ ที่เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และส่วนหนึ่งก็มาจากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง ขณะที่นักลงทุนก็ยังคงเฝ้าติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ที่จะรายงานในช่วงค่ำของวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจากการติดตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ในเดือนกรกฎาคม ทั่วไปรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวลดลง 8.7% จากเดือนมิถุนายนที่ 9.1% ส่วนดัชดีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน CPI ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานของเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 6.1% จากเดือนมิถุนายนที่ระดับ 5.9% ทั้งนี้หากตัวเลข CPI ซึ่งสะท้อนถึงตัวเลขเงินเฟ้อของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากออกมาลดน้อยลงตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่สังเกตุจากราคาพลังงาน (น้ำมัน) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้การตัดสินใจของเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงินอาจมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้าสัปดาห์ก่อนหน้าตัวเลขแรงงานออกมาดีเกินคาดทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรง ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อนั้นจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของดัชนีดอลลาร์ และการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีได้เช่นกัน
ประเมินทางเทคนิคทองคำระยะสั้นวันนี้ทองคำกลับมาช่วงปรับฐานราคาอีกครั้งหลังปรับตัวเข้าโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป) ทางเทคนิคประเมินว่าหากราคาทองคำยังมีแรงซื้อหนุนสนับสนุนไว้ แนวรับทองคำช่วง 1787-1778 จะเป็นช่วงที่ควรรอเข้าซื้อทองคำอีกครั้ง หากราคาทองคำไม่หลุดต่ำไปจากแนวรับดังกล่าว ซึ่งทองคำยังคงรักษาระดับได้ดีส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงในเดือนกรกฏาคมนี้ ทำให้มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้เหนือ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรวางแผนโอกาสการเข้าซื้อทองคำสะสมช่วงแนวรับสำคัญๆ สำหรับแนวต้านวันนี้จะอยู่ที่ช่วง 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาขายออกบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำหากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจราณาขายออกบริเวณแนวต้าน 1800-1810 หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ก็ให้พิจารณาชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1817-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1808 / 1814
-------------------------------------------
Support : 1787 / 1778 / 1772
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Fibonaccianalysis
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 สัญญาณจากเฟดบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่ยังรุนแรงหนุนทองคำกลับมายืนบวกอีกครั้ง
ตลาดทองคำเช้ามืดวันนี้ปิดตลาดบวกพุ่ง 19 ดอลลาร์ หลังเฟดประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยคงมีเป้าหมายหลักคือการเข้าควบคุมระดับภาวะเงินเฟ้อ โดยเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือ เฟด ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคม 2565 ก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้า โดยทางเฟดได้ออกมาระบุว่าสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิดและสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมและการจ้างงานของสหรัฐในระยะนี้ ทั้งยังคงเป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น เป็นเหตุให้เป็นปัจจัยถ่วงความเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้
การปรับขึ้นของดอกเบี้ยครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปตามนักวิเคราะห์บางส่วนว่าเฟดอาจปรับขึ้นทีเดียว 0.50% จึงให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนรุนแรงในช่วงที่มีการออกรายงานดังกล่าว โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดที่ระดับ 98.404 ลดลง -0.610 หรือ -0.62% เมื่อเทียบกับเงินตราสกุลหลักในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
ในส่วนของสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ยังไม่มีท่าผลการเจรจาที่จะยุติสงครามดังกล่าวได้ในเวลานี้ โดยรัสเซียยังคงโจมตีทางการทหารและพลเรือนของยูเครนอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับขึ้น 19 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,928.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังกลับมายืนอยู่ในกรอบแนวต้านซึ่งเป็นแนวรับเดิมบริเวณ 1927-1939 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังสามารถผ่านแนวดัวกล่าวขึ้นไปได้นั้น อาจจะเห็นทองคำปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1950 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้ในระดับ 1940 ดอลลาร์ต่อออนซ์เราอาจเห็นช่วงปรับฐานราคาระยะสั้นในบริเวณดังกล่าวได้ จึงควรติดตามจังหวะที่ราคาทองคำปรับฐานจาการเข้าทำกำไรระยะสั้นนั้น หากราคายังไม่หลุดแนวรับ 1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้จะเป็นจังหวะที่เราจะสามารถเข้าทำกำไรโดยเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อได้อีกครั้ง
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70 (Overbought) ส่วน SMA20 ก็ยังระดับสูงและเริ่มเข้าสู่แดนบวกอีกครั้ง
เส้น SMA200 เริ่มปรับลดระดับลงเล็กน้อย ตามแรงซื้อที่ปรับตัวลดลงก่อนหน้า
เส้น SMA 50 ปรับลดระดับการปรับตัวลง และเริ่มทรงตัวในแนวระนาบ หลังแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1939-1948 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1923-1915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1948 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาทรงตัวเหนือบริเวณ 1923-1915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรแนวต้านบริเวณ 1939-1948 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1915 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1974 / 2020 / 2048
-------------------------------------------
Support : 1900 / 19877 / 1854
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1939 / 1948 / 1958
-------------------------------------------
Support : 1926 / 1907 / 1887
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่มทองคำ 8.70 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,070.53 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1926.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 11
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +43.54 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำปรับปิดบวกต่อเนื่องได้เป็นวันที่ 3
ตลาดทองคำยังคงสามารถปิดบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แม้ในระหว่างวันอาจมีช่วงการทำกำไรสลับออกมาก็ตาม แต่ก็ยังคงมีแรงซื้อเข้าสนับสนุนตลาดทองคำจนสามารถผ่านระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อคืนนี้มีรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค. โดยทาง ADP ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม และถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวออกมาย่ำแย่ สวนทางกับการวิเคราะห์ที่คาดกว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และในส่วนของภาคบริการนั้นการจ้างงาานก็ลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ขณะที่ภาคการผลิตจ้างงงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักลดลง 0.40% แต่ะที่ระดับ 95.99 เมื่อคืนนี้
และอีกส่วนสำคัญที่ดอลลาร์กำลังโดนกดดันจากตลาดการลงทุนก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าของเฟดหลายคนส่งสัญญาณออกมาว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้วันนี้นักลงทุนจับตาการประชุม BoE และ ECB โดยนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่เงินเฟ้อของอังกฤษได้พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทางฝั่งของ ECB คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ เพิ่มเติม
สำหรับวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
19:00 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (0.50%)
19:45 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรป (0.00%)
20:30 น. จำนวนคนยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (245,000 คน)
20:30 น. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ ECB
22:00 น. ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบัน ISM (ม.ค.) (59.5)
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ภาพรวมทองคำยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอยู่ขณะนี้ ถ้าพิจารณาในกรอบรายวัน หากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับไปบริเวณ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง สำหรับกรอบรายชั่วโมงทองคำเช้านี้ยังแกว่งตัวเหนือระดับ 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สนับสนุนแรงบวกเข้าซื้อทองคำขณะนี้ โดยหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือระดับ 1815-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำกรอบรายชั่วโมงจะขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA200) ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแน้วต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมากันอีกรอบ ซึ่งจะประเมินแนวรับที่ระดับ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 60 และมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบระดับ 70 ส่วนเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวขึ้นในแดนบวก
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1810-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1817-1826 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.45 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,016.59 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,806.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +2.33 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
USDJPY น่าจะได้เวลากลับตัวลงแล้วTrading Journal#5
แผนและมุมมองเทรด USDJPY
ราคากลับขึ้นมาที่High ในอดีตเมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นจุดที่มีนัยสำคัญสูง
และชนกับแนวต้านฟิโบ Extention ท่ีสำคัญ + RSI Divergence 1h
แผนคือ รอให้ราคาเกิดการคอนเฟิร์มการกลับเทรนในไทม์เฟรม 1h/30m แล้วจึงเข้าเซลตาม
(ในตัวอย่างคือ รอให้ราคาทำรูปแบบ QM แล้วเข้าเซลบริเวณไหล่ขวาของแพทเทิน)
ถ้าจุดนี้เกิดการกลับตัวจริง น่าจะเป็นจุดต้นเทรนด์ กินคำใหญ่ได้ยาว และมี SL ที่สั้น (RR ได้เปรียบสูง)
**หากไม่มีสัญญาณยืนยัน ไม่ควรเข้าเทรด เพราะราคายังดูมีแรงมากพอที่จะไปต่อได้อีก
GBPUSD รอจังหวะเข้าเซลตามเทรนด์Trading Journal#3 GBPUSD รอให้ราคาขึ้นมาทดสอบ Supply Zone ที่บริเวณ 1.36835 แล้วจึงเข้าSell ตามเทรนด์หลัก
โดยบริเวณดังกล่าวจะตรงกับ การพักตัวที่ฟิโบ 38.2 พอดี
ระหว่างนี้ ราคามีการทำสัญญาณกลับตัวขึ้น ( Rejection + Divergence ) สามารถหาจังหวะ Buy Aggressive เพื่อคาดหวังว่าราคาจะขึ้นไปทดสอบที่บริเวณด้านบนได้เช่นกัน (อย่าลืม MM ดีๆนะครับ เพราะ สวนเทรนด์และยังไม่มีสัญญาณคอนเฟิร์มการกลับเทรนด์ใดๆ)
การเทรดที่ดีไม่ใช่การเทรดที่หวังจะชนะทุกไม้ ไม่ใช่การเทรดที่นั่งปั่นRRสูงๆ แต่เป็นการเทรดที่ทำตามแผนและมีวินัยแบบ 100% ตามแผนที่วางไว้
**บันทึกบทวิเคราะห์นี้ไม่ใช่สัญญาณ ไม่ใช่คำแนะนำหรือชี้ชวนแต่อย่างใด แต่เป็นการแบ่งปันมุมมองและแนวคิดในการเทรดส่วนตัวครับ**
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564ตลาดทองคำปิดลบ 8.8 ดอลลาร์ จากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยและการแพร่ระบาดโควิดระรอก 4
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,861.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำได้รับแรงกดดันหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความอ่อนไหวจากเหตุของเงินเฟ้อที่ขยายไปหลายแห่งทั่วโลกและ ความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนกังวลต่อเรื่องดังกล่าว แต่ก็ได้รับการผ่อนคลายลงได้บ้างเมื่อ BoE ออกมายืนยันว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับ 2% ได้ และเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นเป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น ความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BoE จึงผ่อนคลายลงไปได้บ้างเวลานี้ ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด19 ระลอก 4 นี้ก็รุนแรงกว่าที่ผ่านมา ยอดติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันยังพุ่ง อีกประเด็นสุดท้ายคือการคาดการณ์ของผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ทั่วโลกมีความเชื่อว่า BTC จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 75000$ ภายในเวลาปีหน้า ทำให้ทองคำถูกจำกัดขนาดการลงทุนออกไปสู่ BTC
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทองคำเช้านี้ฟื้นตัวในกรอบแนวรับระยะสั้นระหว่าง 1860-1862 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้จะมีการปรับฐานลงบ้างแต่แรงซื้อในตลาดยังคงหนุนราคาทองคำอยู่ โดยหากราคาทองคำยังปรับตัวเหนือระดับ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แรงซื้อดูจะได้เปรียบกว่าฝั่งขาย จึงควรเน้นการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวในบริเวณแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ ส่วนแนวต้านสำคัญก็จะอยู่ที่บริเวณ 1868-1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวนี้ขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทำกำไรออกมาอีกรอบ ประเมินแนวรับระยะสั้นที่ 1860-1862 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับระดับจิตวิทยาที่ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวขึ้นจากโซนการขายเหนือระดับ 50 เล็กน้อย แต่ก็ยังจำกัดแรงซื้ออยู่ จึงควรรอความชัดเจนเหนือระดับ 50 ก่อนถึงจะเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ในส่วนของ SMA20 ยังเคลื่อนไหวในแดนลบบน True RSI
เส้น SMA200 เคลื่อนตัวเข้าใกล้ราคาทองคำมากขึ้น คาดการว่าจะมีการทดสอบเส้น SMA200 ในบริเวณ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
long Position : หากราคายังไม่หลุด 1855-1862 ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1868-1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1855 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1868-1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1850-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1868 / 1877 / 1894
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1826/ 1813
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,867.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 976.87 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 5
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -5.27 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คเมื่อคืนปิดลบ 12.5 ดอลลาร์หลังรายงานตัวเลขดีเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 12.5 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,854.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำตลาดนิวยอร์คปิดลบอีกวันหนึ่งหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีเกินคาด นักลงทุนยังเทขายทองคำออกมาเมื่อรายงานยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% โดยมาจากการที่น้ำมันพุ่งขึ้นรวมถึงยอดขายรถยนต์ในรอบ 6 เดือน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงระดับภาวะเงินเฟ้อส่วนหนึ่ง จึงทำให้หลังรายงานออกมาก็ยังมีนักลงทุนเข้าเปิดซื้อเนื่องจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงขายที่มาจากการทำกำไรช่วงปรับขึ้นระหว่างวันออกมาได้ ทำให้ทองคำปรับร่วงลงมาตามทิศทางของราคาอีกครั้ง ไม่วิ่งสวนกระแสอย่างที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่รายงาน CPI
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
วันนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นสูงกว่าแนวต้านบริเวณ 1857-1852 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง โดยเป้าหมายราคาทองคำประเมินที่ระดับ 1845 และ 1836 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI สูญเสียแรงซื้อในกรอบรายชั่วโมงทำให้เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 และยังไม่มีแรงซื้อเข้าหนุนให้กลับไปเหนือระดับดังกล่าว สะท้อนภาวะตลาดมีแรงขายมากกว่า ส่วน SMA20 นั้นแรงลาดชันฝั่งขายสูงกว่าฝั่งซื้อ หากหลุดระดับ 40 ลงไปได้นั้น ให้มองโอกาสเข้าสะสมการขายทำกำไรระยะสั้น ตามแนวรับสำคัญๆ
เส้น SMA200 เคลื่อนตัวเข้าใกล้ราคาทองคำมากขึ้น มีโอกาสที่จะมีการทดสอบได้ที่บริเวณ 1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เฝ้าสังเกตที่บริเวณดังกล่าวว่าจะสามารถ Break out ราคาลงไปได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ให้รอจังหวะ Trowback กลับเข้าหาเส้นรอบสองแล้วค่อยมองการขายซ้ำเมื่อราคากลับทางเดิม อย่าเปิดคำสั่งทันทีที่มีการ Breakout แต่หากสามารถทรงตัวเหนือได้นั้นก็มองหาจังหวะ BUY ได้ต่อ เพียงแต่ให้เน้นระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวสูงมาถึงระดับหนึ่งเป็นเวลาต่อเนื่องกว่าสัปดาห์แล้วอาจมีการทำกำไรออกมาสลับการขึ้นลงของราคาตลอดเวลา
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคายังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับ 1857 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดลงไปได้ให้เลื่อนไปพิจารณาที่ 1836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1861 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำไม่หลุดต่ำกว่า 1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณ 1861 ดอลลาร์ต่อออนซ หากหลุดขึ้นไปได้เลื่อนพิจารณาปิดกำไรที่ระดับ 1869-1864 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1857 / 1864 / 1876
-------------------------------------------
Support : 1845 / 1836/ 1825
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,861.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 975.99 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -6.15 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564ทองคำยังปิดบวกต่อเนื่องเงินเฟ้อยังหนุนแรงซื้อไม่หยุด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ระดับ 1,863.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2564
ทองคำปิดบวกต่อเนื่องมากว่า 6 วันแล้วเหตุจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทำให้นักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจที่อาจซบเซาในเร็วๆ นี้ทำให้เข้าซื้อทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยตัวหนึ่งแม้จะไม่มีผลตอบแทนที่มากนัก แต่ก็เป็นหลักประกันยามที่เงินขาดสภาพคล่องได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ยังคงอ่อนไหวไม่ว่าจะเรื่องของจีนเอง หรือเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นก็ยังไม่มีความแน่นอนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้เลย ทองคำจึงยังเป็นทางเลือกการลงทุนในระยะสั้นในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี แม้ระบบการเงินส่วนหนึ่งจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ใหม่อย่างกลุ่มของ Cryptocurrency ก็ตามแต่ แต่ทองคำก็ยังไม่เสื่อมนิยมในเวลานี้แน่นอน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
เช้านี้ทองคำยังปรับตัวต่ำหลังที่เมื่อวานปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งแม้จะไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1868.42 ได้ก็ตามแต่ (FXCM) แต่ก็ยังเป็นสัญญาณดีว่าแรงซื้อยังเข้าหนุนราคาทองคำอยู่ เช้านี้หากราคายังสามารถเหนือระดับ 1848-1855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถผ่าน 1868-1863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้น้ั้นก็มีโอกาสจะมีการเทขายทองคำออกมาทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน ประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1840-1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำวันนี้อาจมีการเคลื่อนไหวในลักษณะออกข้าง (sideway) กรอบระหว่าง 1863-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI สะท้อนแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่องหลังเมื่อวานไม่สามารถทำ High ใหม่ได้ แต่ก็ยังต่ำกว่า 50 เล็กน้อย คาดกว่าเส้นจะวิ่งไปพักปรับฐานกันได้ที่บริเวณ 40-30 ในวันนี้ สำหรับเส้น SMA20 วันนั้นมีปรับตัวโน้มลงเล็กน้อย สะท้อนแรงซื้อเริ่มน้อยลง วันนี้จึงควรรอจังหวะ Buy ใหม่เมื่อราคาสามารถปรับฐานได้ที่แนวรับใด แนวรับหนึ่งก่อน
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง เริ่มขยับปรับเข้าหาราคาทองคำแต่ยังมีระยะห่างมากพอที่จะลุ้นให้เล่น BUY ได้อยู่
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position :หากราคาทองคำยังไม่หลุด 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นลงทุนระยะสั้น เนื่องจากคาดว่าราคาจะออกข้างตลอดทั้งวัน พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้านเดิมที่ 1863-1868 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1863 / 1877 / 1914
-------------------------------------------
Support : 1832 / 1818/ 1804
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : เข้าซื้อเพิ่ม 0.58 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,861.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 975.99 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 4
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -6.15 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564ทองคำปิดตลาดขยับปิดบวก 16.80 ดอลลาร์หลังตัวเลขเงินเฟ้อพุ่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ระดับ 2,038.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังเปิดบวกติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันต่อเนื่อง นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอีกรอบหลังกระทรวงแรงงานของสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 6.2%
ทำไมหลายที่เมื่อคืนบอกว่าให้ Sell ทองคำ แต่ผมบอกให้ Buy ตั้งใจจะเล่าตั้งแต่เมื่อคืนแต่เอามาเล่าตรงนี้ดีกว่า เรื่องการเข้า order นั้นมันอยู่ที่เหตุผล หลายคนไปโฟกัสว่าเงินเฟ้อพุ่งเฟดต้องขยับปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นแน่นอน แล้วดอลลาร์จะกลับมาแข็ง หรือบอนด์จะกลับพุ่งขึ้นอีกรอบ ทั้งหมดก็เป็นจริงครับเมื่อคืนทั้งหมดขยับขึ้นบวกหมด โดยหลักแล้วที่ฝืนทฤษฏีคงมีทองคำนั่นละที่พางงกันหลายสำนักในเมืองไทย เทรดพอร์ตแตกกันหลายคน อยากให้แยกออกอย่างนี้ครับ ความกลัวของตลาดกับหลักทฤษฏีความน่าจะเป็น โดยหลักแบบนี้เหตุการเมื่อคืนย่อมส่งผลกับดอลลาร์และบอนด์ ซึ่งเป็นคู่กัดกับทองคำ แต่เมื่อคืนทองคำกลับขึ้นมาได้อีกตัวหนึ่งทำให้ผิดคาดกันไป แต่ถ้าเราไม่ต้องหาเหตุผลอะไรลึกๆ ทางเทคนิคแค่เอาความรู้สึกของนิสัยคนเกี่ยวกับความกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นละกำลังจะเป็นทางออกของคำตอบในการเลือกเทรด ผมไม่พูดถึงตำราหรืออะไรจะมาเป็นเหตุผล เนื่องจากความกลัวของตลาดเวลานี้มีหลายด้าน ทั้งสิ่งที่เฟดออกมาเตือนเรื่องเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงไปทั่วโลก ทั้งเรื่องของเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานไม่หยุด และความกังวลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยเพราะเรื่องนี้ขยับปรับเมื่อไหร่ดอลลาร์จะแข็งขึ้นเพราะให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยได้ดีกว่าทองคำ ก็ไม่เป็นเรื่องแปลก ทีนี้เรื่องความกลัวนั่นละที่ทำให้ทองคำปรับขึ้นสวนกระแสบทเรียนที่สอนท่องจำให้นักเทรดแบบนกแก้วนกขุนทอง บางครั้งก็ต้องคิดนอกกรอบเนื้อหาเสียบ้าง เราจะได้มองเห็นอะไรที่มันขยับนิดขยับหน่อยมาเป็นโอกาสนในการสร้างผลกำไรให้ตัวเองครับ ความกลัวมันเกิดเพราะแม้เงินเฟ้อจะพุ่งและความคาดหวังว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยมันเชื่อกันมานานข้ามปีแล้วครับ แล้วมันมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้นหรือปล่าว เฟดก็ออกมาปฏิเสธทุกรอบว่าไม่มีการเร่งปรับดอกเบี้ยเวลานี้แม้เงินเฟ้อจะสูง แล้วจะไปกลัวทำไมละเรื่องนี้เวลานี้ เหตุการณ์มันยังไม่เกิด แต่ความกลัวกับสิ่งตรงหน้าไม่ว่าจะเรื่องจีน ไม่ว่าเศรษฐกิจที่กำลังจะส่อเค้ารางค์การถดถอยหากปล่อยให้ข้าวของราคาแพงเช่นนี้ น้ำมันก็พุ่งไปอย่างไม่ทันคาดคิด ความกลัวเหล่านี้ต่างหากที่พาให้เงินมันวิ่งเข้าหาทองคำ ยิ่งตอกย้ำด้วยเงินเฟ้อที่ออกมาก็ไม่แปลกที่ความกลัวเหล่านี้จะถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง เลยเป็นผลของการขยับทองคำเมื่อคืน ฉีกกฏที่ท่องจำกันมาจนทำให้ขาดทุนกันไปหลายคน ผมเขียนให้ Buy เป้าหมายที่ 1850 กูรูบางคนมาอ่านหาว่าผมมั่ว ก็สุดแท้แต่ท่านเหล่านั้นจะว่าไปครับ ผมเชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทฤษฏีเป็นเพียงแผนที่ให้เราวางแผนการเดินทางเท่านั้นครับ
สำหรับรายงานตัวเลขเมื่อคืนสรุปดังนี้นะครับ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เทียบรายปี ตัวเลข 6.2% ในเดือนต.ค. สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 5.9%
ดัชนี CPI ตัวเลข 0.9% ในเดือนต.ค. เทียบรายเดือน สูงกว่าวิเคราะห์ที่ระดับ 0.6%
ดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ตัวเลข 0.6% ในเดือนต.ค. เทียบรายเดือน สูงกว่าวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% และ 6.2% เทียบรายปี สูงกว่าวิเคราะห์ 4.0%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
เช้านี้ทองคำขยับปรับฐานต่ำอีกครั้งหลังพุ่งขึ้นทำ High ที่ระดับ 1868.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำยังขยับเหนือระดับ 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้นั้นก็มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1863 ได้อีกรอบหนึ่ง แต่หากเป็นเช่นนั้นให้นักลงทุนพึงระมัดระวังการเทขายทำกำไรออกมาอย่างหนักหากราคาทองคำยังไม่สามารถทำ High ใหม่ได้ ประเมินแนวรับระยะสั้นในกรอบระหว่าง 1832-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจเป็นแนวรับระหว่างวันของวันนี้ ซึ่งเป็นแนวรอซื้อคืนทองคำได้อีกระดับหนึ่ง
===========
Indicator
===========
True RSI (14) ปรับฐานลงจาก Overbought แต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 50 อยู่ ในส่วนของ SMA20 วันยังปรับตัวขึ้นด้านบนแม้เส้นจะออกมาทางแนวระนาบบ้างแล้ว แต่แรงซื้อยังสะท้อนในจังหวะนี้อยู่บ้าง ทำให้ทองคำยังประคองตัวเหนือระดับ 1840 ได้
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง เริ่มขยับปรับเข้าหาราคาทองคำแต่ยังมีระยะห่างมากพอที่จะลุ้นให้เล่น BUY ได้อยู่
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position :หากราคาทองคำยังไม่หลุด 1840 -1832 อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1855-1863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1863 / 1877 / 1914
-------------------------------------------
Support : 1832 / 1818/ 1804
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,791.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 975.41 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -6.73 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564ทองคำนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อย 2.8 ดอลลาร์ เหตุดอลลาร์และบอนด์ร่วง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,830.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังเปิดบวกติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับหนุนขึ้นมาได้จากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กลับมาอีกครั้งทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดทองคำ ซึ่งวันนี้จะมีรายงานตัวเลขเกี่ยวกับเงินเฟ้อ (CPI) ที่ต้องเฝ้าจับตามองกัน สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นมีรายงานตัวเลขสำคัญของกระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของการใช้จ่ายในฝั่งผู้ผลิต ตัวเลขปรับขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. เทียบรายเดือนจากก่อนหน้าเดือนก.ย.ตัวเลขอยู่ที่ 0.5% ซึ่งออกมาตรงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในส่วนของดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน(Core PPI) เทียบรายเดือนตัวเลขปรับขึ้นเป็น 0.4% ในเดือนต.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.5% แต่สูงกว่าตัวเลขเดือนก.ย.ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขดังกล่าวส่งสะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลต่อระบบเศรษฐกิจที่อาจจะถดถอยจากการปรับพุ่งของเงินเฟ้อดังกล่าว วันนี้ยังต้องเฝ้าตัวเลขสำคัญดังนี้
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI)(YoY)(Oct.) forecast 4.3%
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI)(MoM)(Oct.) forecast 0.4%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)(MoM)(Oct.) forecast 0.6%
จำนวนผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก forecast 265,000
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้คาดว่าตลอดทั้งวันก็ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอผลรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐในค่ำคืนนี้ โดยหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 1822-1818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะทำ High ใหม่เหนือระดับ 1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังประเมินเป้าหมายที่ระดับ 1834-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ก็ต้องเฝ้าดูตัวเลขเงินเฟ้อวันนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน โดยตัวเลขหากเงินเฟ้อพุ่งเกินคาดการณ์ก็อาจส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต เป็นเหตุให้ทองคำมีแรงหนุนเข้ามาและอาจวิ่งถึงระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากเงินเฟ้อลดลงก็จะทำให้ทองคำอาจมีโอกาสโดนปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
===========
Indicator
===========
True RSI (14) ยังปรับฐานเส้นเหนือระดับ 50 รับแรงซื้อที่ยังหนุนตลาดทองคำ ส่วนเส้น SMA20 อ่อนตัวลงระดับ 60 แต่ยังไม่ชันมากนักสะท้อนแรงซื้อที่ยังหนุนตลาดอยู่
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ปรับตัวลงต่ำจากระดับราคาและมีระยะห่างพอสมควร จึงควรระมัดระวังการปรับฐานขนาดใหญ่อีกรอบ
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position :หากราคาทองคำปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับระยะสั้น 1822-1818 และทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1834-1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรออกไปก่อนประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1840-1848 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากทองคำปรับต่ำกว่า 1818 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1832 / 1841 / 1855
-------------------------------------------
Support : 1818 / 1804/ 1795
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,791.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 975.41 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -6.73 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
TFEX 17/8/63 TF60 ชนต้านกรอบเทรนไลน์TFEX 17/8/63 TF60 ชนต้านกรอบเทรนไลน์
ตราบใดไม่มีไฮใหม่ ก้ต้องมีนิวโล
เป็นเรื่องธรรมชาติของกราฟ ผู้ชนะคือคนที่ทนรอได้
เมื่อเปิดเช้ามาไม่สามารถยืน857.5 เตรียมทำใจ เทส846.9 ยืนได้มีเด้งนึงรอบ
เมื่อหลุดได้เจอ840
ดังนี้
แนวทางที่1 เช้าเปิดโดดก็รอ shortแถวแนวต้าน ไปได้ไม่เกิน865.5 ไปเบรก875.5ก็ยอม
แนวทางที่2 เช้ามาเปิดหลุด846.9 สามารถเก้งกำไร Shortตามไปปิดที่ราคา842.2 และ840 ได้เลย
แนวทางที่3 เมือราคาหลุด840 เมื่อไร่ก็ว่าแผนเข้าไม้เพื่อไปปิดตามราคา 830 และ824 สามารถลงไปได้ไกลถึง798.5
แต่หากราคาหลุด 840เมื่อไหร่ให้หันไปดูsetด้วยว่าต้องหลุด1300แล้วล่ะ
จะเห็นว่า กราฟตอนนี้มอง short ได้เปรียบกว่า Long ในแนวต้านสำคัญเมื่อราคามาถึงแนวที่กล่าวไว้
แผนเดิมๆเพิ่มเติมรายละเอียด
เทรดอย่าbias คิดว่ากราฟจะเป็นไปตามทฤษฎี
เพราะมันเป็นศาสตร์และศิลป์
จินตภาพสำคัญกว่าความคิด
รู้งี้ ทำไปแบบนี้ไปนานแล้ว