ไอเดียชุมชน
[CaseStudy หาหุ้นลงทุน] การเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพเหนือกาลเวลาสวัสดีครับ สำหรับหลักการในวันนี้ผมอยากมานำเสนอการหาหุ้นที่เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่อาจเป็นปันผลให้เราประดับพอร์ตในการกระจายความเสี่ยง และหาโอกาสท่ามกลางตลาดลงกันนะครับ
และปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ตลาดขาลงและเป็นช่วงที่ลงทนเพื่อ Runtrend ก็นับว่าลำบากพอสมควร
ผมเลยใช้เวลานี้ไปกับการศึกษาขุดหาบริษัทดีๆ ที่ตอนนี้อาจมีตำหนิบ้าง แต่อาจกลับมาได้อาจจะดีกว่าก็ได้ครับ เป็นการใช้เวลาให้เหมาะสมอีกด้วย
โดยผมจะมีการอ้างอิงหนังสือที่ผมได้ตกตะกอนได้หลักๆ คือ 2 เล่มนี้ครับ นั่นคือเล่ม One Up on Wall Street กับ Warren Buffett Ways
โดยหลักการที่ผมอยากถ่ายทอดจะเป็นเรื่องของ
1) การหาบริษัทจากสิ่งรอบตัว การดูสิ่งแวดล้อมว่าเทรนด์อะไรที่มีอนาคต ซึ่งได้มาจากเล่ม One Up on Wall Street ของคุณปีเตอร์ ลินซ์ ครับ
2) การคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพแบบเล่ม Warren Buffett Ways รวมถึงหยิบหลักการเรื่องของปราการและคูคลองมาใช้ในการเลือก
โดยหลักการนี้ผมจะมาพูดในวีดีโอนี้กันครับ และขอมาแนะนำหุ้นหมวดหนึ่งที่มี Moat ที่อยากจะนำเสนอไม่มีในไทยได้รู้จักด้วยครับ เผื่อเป็นโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในต่างประเทศครับผม
ท้ายสุดนี้มี Key Takeaway ที่ผมตกตะกอนได้เกี่ยวกับบริษัทที่ตลาดมองว่ามีคุณภาพ ซึ่งมีหลักๆ ประมาณ 7 ข้อ ดังนี้ครับ
1)เป็นบริษัทมี Profit Margin สูง
2)บริษัทมี Free Cash Flow ตลอด
3)นอกจากมี Free Cash Flow สูงแล้ว มีการลง Capex ในระดับไม่มากนัก (อาจจะไม่เกิน 35% ของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน)
4)บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมีอัตราที่สูง
5)พึงระลึกไว้ ว่าหุ้นปันผลดีๆ คือบริษัทที่มี Recurring Income อย่างสม่ำเสมอ
5.5) และจำดีมากหาก Income ส่วนนี้เพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่าอัตราการเพิ่มของ GDP กับ Inflation
6)จากข้อที่ 5 Recurring Income ล้วนมาจากการมี Recurring Revenue ที่มีศักยภาพ กล่าวคือสินค้าหรือการบริการของบริษัทต้องเป็นที่ต้องการตลอด และอาจมีเพิ่มขึ้นบ้าง
7)จากข้อที่ 6 Recurring Revenue จะดีมากที่สุดหากว่าไม่มีคู่แข่งหรือสินค้าสับเปลี่ยนมาตัดกำลัง คงดีไม่น้อยหากเราซื้อหุ้นที่ดูผูกขาด แต่ก็สามารถวางตัวให้ไม่มีข้อครหาได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารแล้วครับ ว่าวางตัวและดำเนินนโยบายสร้างภาพลักษณ์อย่างไร
สำหรับสิ่งที่ผมตกตะกอนและอยากฝากฝังทุกคนไว้ก็มีเพียงเท่านี้ หวังว่าวีดีโอและเนื้อหานี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากทุกคนชอบผมก็ดีใจและฝากร้ investing ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะครับ ที่นี่เราจะรวมหนังสือที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลนักลงทุนไว้ในที่เดียว เพื่อเสริมศักยภาพสังคมการลงทนต่อๆ ไปครับ
โชคดีรักษาสุขภาพ Stay Healthy Stay Wealthy ครับผม
AH , TF DAY (17/06/2021)พิจารณาจาก technical
- กราฟทำทรง ขึ้น พัก ทะลุ มาหลายชุดคลื่นอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจุบันราคาอยู่ในโซนการพักตัว บริเวณ 61.8% ของฟิโบ
- แนวต้าน 26.6 / 31 บาท ตามลำดับ
- แนวรับ 22.5 / 19.7 บาท ตามลำดับ
พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน
- บริษัทเคยทำกำไรได้เป็นปกติ ก่อนจะนำเงินไปลงทุนขยายสาขาและทำให้บริษัทขาดทุนใน Q4 2019
- Q1 2021 รายได้ออกมาดีโดยมี EPS ที่ 1.15 เท่า
- หากดู EPS ในอดีต บริษัททำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ค่ากลางไว้ที่ 0.6 ต่อไตรมาส
- PE ที่ตลาดเคยให้คุณค่าในอดีต ตลาดเคยให้ค่า (แบบกดราคา) ไว้ที่ประมาณ 8 เท่า
- PE กลุ่มยานยนต์ปัจจุบันตลาดให้มูลค่าประมาณ (แบบกดต่ำสุดๆ) 10 เท่า
ดังนั้น
- เมื่อพิจารณาจาก EPS ที่เป็นค่ากลาง 0.6 x 3 ไตรมาสที่เหลือ = 1.8 + ไตรมาส 1 ที่ทำได้ 1.15 = EPS 2.95
- 2.95 x 8 = 23.6 บาท
- 2.95 x 10 = 29.5 บาท (faie value แบบกดสุดๆ)
สรุป
- พยายามสะสม ตามกรอบจากการพิจารณาทั้งทางด้าน เทคนิคอล และ ปัจจัยพื้นฐาน
- Risk to reward Ratio 1:2 (หรือ Reward มากกว่าหากตลาดให้มูลค่าหรือมาจากคนที่ไล่ซื้อตอนเบรคไฮ)
- Downsize -15% Upsize 30% +
แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,60026 กันยายน 2022, 05:58 น
• ราคาทองคำปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1638.90 ดอลลาร์
• PMI ของ S&P ทั่วโลกที่เปิดเผยในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้จุดชนวนให้เกิดความกลัวต่อภาวะถดถอยของนักลงทุน ซึ่งเพิ่มความอยากอาหารสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปลอดภัยมากขึ้น
• การวิเคราะห์ราคาทองคำ: พักต่ำกว่า $1,638 เพื่อส่ง XAU/USD ไปที่ $1600
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งหลังถูกกดดันจากความเสี่ยงและไหลเข้าหาดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษใหม่ โดยรวมแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุสองประการที่ทำให้กลุ่มโลหะมีค่าร่วงลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโลหะสีเหลือง ในขณะที่เขียน XAU/USD ซื้อขายที่ $1643.50 ต่อทรอยออนซ์
หุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อวอลล์สตรีทปิดตัวลงโดยขาดทุนหนักระหว่าง 1.62% ถึง 1.80% ในวันศุกร์ อัตราบันทึกย่อมาตรฐานอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ หวนกลับจากการให้ผลตอบแทน 3.829% และถูกกำหนดให้สิ้นสุดสัปดาห์ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 3.70% ในบันทึกเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (TIPS) ได้ให้น้ำหนักกับโลหะที่ไม่มีผลตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดที่ 1.33%
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงทำระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 112.990 เพิ่มขึ้น 1.55% หลังจากแตะระดับสูงสุด YTD ที่ 113.228
การตัดสินใจของเฟดในวันพุธ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และเปิดประตูให้เพิ่มขึ้นอีก 120 bps ทำให้เกิดความกลัวว่าสหรัฐฯ จะถดถอย มาตรการกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลกชุดหนึ่งเปิดเผยในระหว่างวันคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในเขตยูโรและสหราชอาณาจักร ในกรณีของสหรัฐอเมริกา S&P Global PMI ดีขึ้น แม้ว่าการอ่านค่าบริการและคอมโพสิตจะยังคงอยู่ในเขตเศรษฐกิจถดถอย
แหล่งข่าวที่อ้างโดยรอยเตอร์ให้ความเห็นว่า “ทองคำและโลหะกึ่งการลงทุนอื่นๆ เช่น เงินและแพลตตินั่ม มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจนกว่าตลาดจะถึงจุดต่ำสุด”
นอกจากนี้ XAU/USD เริ่มซื้อขายที่บริเวณ $1670 และไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรายวันที่ $1675.93 ต่อมา ราคาโลหะสีเหลืองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของ YTD ที่ 1638.90 ดอลลาร์
การวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAU/USD): แนวโน้มทางเทคนิค
ลิ่มที่ตกลงมาซึ่งปรากฏในกราฟรายวัน XAU/USD ถูกยกเลิกเมื่อราคาสปอตร่วงลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้มด้านล่าง น่าสังเกตว่าแม้ว่า RSI จะส่งสัญญาณว่าทองคำมีการขายมากเกินไป แต่แนวโน้มขาลงของโลหะสีเหลืองยังคงไม่บุบสลาย ดังนั้นแนวรับครั้งแรกของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับต่ำสุดของ YTYD ที่ $1638.90 เมื่อเคลียร์แล้ว แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,600 ตามด้วยจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมปี 2020 ที่ $1451.41
[Hybrid Study:John Neff] แก่นการลงทุนหุ้นวงจร เพือถือรันหลายเด้งสวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน วันนี้ผมจะมาขอ Tribute หลักการลงทุนของคุณ John Neff ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนในสายผสมนี้กันนะครับ
และเนื่องในโอกาสที่วันที่ 19 กันยานี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณ John Neff และคุณ John Neff เองก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง นับว่า 1 ในตำนานแห่งโลกการลงทุนของเราได้จากเราแล้วอีกหนึ่งราย แต่ว่าหลักการของคุณ John Neff จะยังคงอยู่ในจิตใจของนักลงทุนสาย Value ทุกท่าน
สำหรับผมแล้ว การระลึกถึงและ"ให้เกียรติ" หลักการของใครก็ตาม คือการใช้หลักการนั้นเป็นพื้นฐานอ้างอิงเพื่อให้หลักการนั้นเป็นที่พูดถึง และขัดเกลาให้ทันต่อโลกมากขึ้น ผมชอบหลักการของคุณ John Neff มาก จึงเป็นเหตุให้เขียนอินดิเคเตอร์ DDM ขึ้นมาด้วย
และสิ่งที่ผมได้ทำในวันนี้ก็คือการทำให้หลักการของคุณ John Neff ยังคงมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ปรับประยุกต์ใช้ในรูปแบบกราฟผ่าน Trading View ซึ่งโค้ดอินดิเคเตอร์นี้ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณ John Neff อย่างแท้จริง
หลักการลงทุนนี้ผมใช้กับการอาศัยซื้อหุ้น(โดยเฉพาะหมวดวงจร : Commodities) ในจุดที่ PE ต่ำอย่างสวนตลาด แต่หลักการที่เราจะได้มาที่ PE ต่ำนั้น ย่อมเกิดจากการปรับ ตัว E หรือ EPS จากสมมการ PE = Price / EPS , โดยผมจะ Predict ค่า EPS ผ่านตัวรายได้ในแบบที่ควรจะเป็น
และนำรายได้นั้นมาจับคุณด้วยอัตราส่วน Net Margin ในระดับ Base Case-Best Case ซึ่งค่าตัวเลขของ Net Margin นี้เราจะได้มาจากการทำ Research หุ้นในหมวด Commodities ย้อนหลังนะครับ
และจะตั้งตัวเลขพวกนี้เสมือนเป็นตุ๊กตาเฉยๆ เพื่อให้เราหาค่า EPS ให้ได้
ในการตั้งค่า Net Margin นี้ ผมจะมีการตั้งเป็นหลายค่ามากๆ และค่าที่ต่ำที่สุดก็คือ 1% มาจากสมมติฐานที่ว่าปกติหุ้น Commodities ตอนจะจบรอบราคาเขาจะลงมาแรงมากๆ จากราคาสินค้าอ้างอิงตกต่ำไม่ว่าจะเหล็ก น้ำมัน เคมี แร่ธาตุต่างๆ
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้วส่วนมากบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อกสินค้าก็ดี หรือจากรายได้จากการขายสินค้าลดลง จนแบกรับต้นทุนคงที่ไม่ได้ ทั้งหลายนี้เองจึงทำให้ตัว PE ของบริษัท “ติดลบ” หรือก็คือคำนวณไม่ได้ หรือแม้แต่ PE พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก “ร้อยเท่า” จากการที่ EPS นั้นแกร่งนั่นเอง
การที่ผมตั้ง Net Margin ที่ 1% นี้ก็เพื่อเป็น “บาร์อย่างต่ำๆ” ที่บริษัทสมควรทำได้ เมื่อเราได้ NPM ที่ 1% มาได้แล้ว เราก็จับ 1% มาคูณกับตัวเลขรายได้ครับ(ตรงส่วนนี้บางคนอาจใช้รายได้เมื่อปีที่แล้ว หรือว่ารายได้เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง แล้วแต่สไตล์แต่ละคนเลยครับ)
เมื่อนำ Revenue * NPM แล้วเราก็จะได้ “กำไรสุทธิ” จากนั้นก็นำมาหารด้วยจำนวนหุ้น ทีนี้เราก็ได้ EPS อันเป็นพระเอกของเราแล้ว
จากนั้นเราก็นำ EPS มาเพื่อที่จับคูณด้วย PE อย่างที่ควรจะเป็น โดยเคสนี้ผมจะให้ที่ PE = 6-8 ตรงส่วนนี้หากใคร Conservative มากๆ อาจใช้ที่ PE 5 ไปเลยก็ได้ โดยมีการตั้งสมมติฐานว่า “ใครกันล่ะ จะไม่อยากได้หุ้น PE 5 เท่า หรือหุ้นที่จ่ายเงินปันผลหลัก 10% ต่อปี ณ ระดับราคาฐานต่ำนี้”
ในตอนนี้เราก็ได้ราคาหุ้นแล้ว ผมก็ให้แสดงค่าเป็นเหมือนเส้นแนวรับแนวต้านที่จะอัพเดตทุกๆ ปีนะครับ จากการที่ข้อมูลการเงินจะมีอัพเดตใหม่ทุกปี ตรงเส้นแนวรับ/แนวต้าน พวกนี้เสมือนกับเป็น “แนวรับเชิงพื้นฐาน” นั่นเองครับ
หุ้นใดก็ตามที่ลงมาเทสที่เส้นนี้ และมีการทำแท่งเทียนกลับตัว หรือมีการพักตัวตรงนี้เราอาจพิจารณาเอาเขามาใส่ลิสเพื่อรอวันให้เกิด Catalyst ให้ราคาขึ้นไปกันนะครับ จากนั้นก็รับเทรนไปเรื่อยๆ
หรือหากท่านใดเป็นสายHardcore อาจนำหุ้นนั้นไปวางหลักทรัพย์ค้ำประดันในการขอบัญชี Margin มาต่อเงินอีกรอบก็แล้วแต่สไตล์ท่านเลยครับ
หวังว่าแนวทางนี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านผู้ฟังทุกคนนะครับ โชคดี รักษาสุขภาพ Stay Healthy Stay Wealthy นะครับผม
GBPJPY วันที่ 22 Sep 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 22 Sep 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
#Elliottwave #พื้นฐาน #Basicการรู้ว่าเมื่อไรที่เราผิด สำคัญกว่าการรู้ว่าเมื่อไรที่เราถูก
ในการเคลื่อนที่ของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาจะไม่เกิดการทับซ้อนกัน และจะไม่ย้อนกลับเกินจุดเริ่มต้นของคลื่นก่อนหน้าในระดับเดียวกัน ก่อให้เกิดกฎสำคัญของ Elliott wave ในการนับคลื่นที่เป็นแนวโน้มในรูปแบบ Impulse ที่ไม่สามารถละเมิดได้ หากละเมิดกฎเหล่านี้การนับคลื่นเราจะผิดทันที
1 คลื่นสองไม่สามารถย้อนกลับได้มากกว่า 100% ของคลื่นหนึ่ง
2 เทียบระหว่างคลื่นหนึ่ง คลื่นสาม คลื่นห้า คลื่นสามต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด
3 คลื่นสี่จะไม่มีจุดสิ้นสุดภายในอาณาเขตของคลื่นหนึ่ง
2022 : ปีแห่งการเชือดทั้ง Short และ Long ( 27/8/2022 )ปี 2022 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปี จนถึงตอนนี้ จากการนั่งส่อง Price Action แล้ว ผมบอกเลยว่า ตลาด โคตรจะโหดร้าย โดยเฉพาะคนที่ Overtrade หรือ ใช้ Leverage ในการเล่นคริปโต ก็จะโดนกันไปไม่น้อย
เพราะจากรูปที่ผมแปะช่องข้อความให้ดู ก็จะเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเล่นฝั่ง short หรือ ฝั่ง long สุดท้าย ถ้าคุณ "คัทไม่เป็น" คุณก็จะโดนลากจนพอร์ตแตกอยู่ดีครับ
โดยเราพอจะสรุปได้ว่า
1) คนที่เล่นฝั่ง Long
- พอร์ตแตกเพราะไปคิดว่า "น่าจะลงมาแค่นี้แหละ ไม่ลงไปมากกว่านี้แล้ว" แล้วก็ไปจัดหนักจัดเต็มหลาย x ด้วยเงินที่มีทั้งหมดกัน
- พอเริ่มติดก็ไม่ยอมแพ้ ไปถัวสู้ ไปเติมเงิน เพราะยังไปติดกับภาพจำตอนปี 2021 ที่ตลาดยังเป็นขาขึ้นว่า "แค่ย่อ เดี๋ยวก็เด้ง"
- สุดท้าย ก็โดนทุบหลุด low รัวๆ ถ้าใครถัว สุดท้ายก็จะพอร์ตแตกกันยับๆ อยู่ดีในท้ายที่สุด เพราะ มันลงมามากกว่า -50% คุณเล่น safe สุดแค่ 2x ยังไงก็ตายครับ
- ตอนนี้ ผมก็ยังเชื่อว่า หลายๆ คน ที่ยังมีเงินเติม ยังไม่ยอมแพ้ และคิดว่า 20k น่าจะ "เอาอยู่" เพราะมันเป็นยอดเก่าของปี 2017 และมโนกันไปว่า นี่คือราคาทุนขุด มันไม่ลงไปมากกว่านี้หรอก
- ปัญหาคือ ถ้ามันลงไปอีกขา ...ก็พอร์ตแตกกันอยู่ดี
2) คนที่เล่นฝั่ง Short
- เอาจริงๆ คนที่เล่นฝั่ง short จากกราฟ จะเห็นได้ว่า มีหลายๆ ช่วงที่กราฟรูดแรง น้ำตกมา คนพวกนี้ก็จะได้กำไรกันเยอะมาก
- แต่ปัญหาของฝั่ง short ก็คือ ตอนกำไรอ่ะ แม่งกำไรนิดเดียว เพราะยังไงกำไรพื้นฐานของด้าน short จะไม่มีวันเกิน -99.99% ( ถ้าใช้ leverage ก็ค่อยคูณเพิ่มกันไป )
- แต่ตอนมันลากกลับเนี่ย ฝั่ง short จะแตกกันเร็วมาก.. เพราะเวลากราฟขึ้น % มันจะขึ้นแรงกว่าตอนลงเสมอ
- ทีนี้ พวกที่เล่นฝั่ง short แล้วได้ตังกันง่ายๆ เวลาโดนลาก ก็มักจะ "ไม่ยอมแพ้" เพราะ.. ที่ผ่านมา ตอนกราฟดีด ถ้าคุณถัวสู้ สักพัก คุณจะมีโอกาสกลับมาได้กำไร ( ถ้าพอร์ตไม่แตกไปซะก่อน )
- ทำให้ หลายๆ คน เสพติดท่านี้ และ "ไม่ยอมแพ้" เวลาโดนลากกันเสมอ พอใกล้จะล้างก็เติมเงินฮีลพอร์ตไปเรื่อยๆ
- ปัญหาคือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินไว้ฮีลพอร์ตได้ตลอด สุดท้าย ก็จะมีคนที่โดนลากจนเงินหมดแล้วพอร์ตแตกอยู่เรื่อยๆ อยู่ดี..
- ยิ่งถ้าไปเล่น Cross Mode 20x กับ altcoins หลายๆ ตัว รอบล่าสุด ก็น่าจะโดนกันไปหมดตัวแน่นอน เพราะ ETH ขึ้นมาถึง +100% จาก Bottom ช่วงเดือน มิ.ย. ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเล่นกี่ x พอร์ตคุณก็จะแตกหมดอยู่ดีครับ ( ยกเว้นมีตังเติม ฮีลพอร์ต ไปเรื่อยๆ นะ 55 )
สรุปว่า
- ตลาด มันโหดร้าย มันจะไม่ปราณีใคร แถมยึดเงินคืนจากมือใหม่ไปหมดด้วย ลงๆ ให้มือใหม่สาย short ตายใจ แล้วก็ลากกลับจนแตก เสร็จแล้วก็ลงต่อ แม่งโคตรน่าเจ็บใจที่สุดแล้วล่ะ 555
- ไอ้การเล่น short เนี่ย มันไม่ง่าย โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ยังต้องเที่ยวคอยไปพึ่ง signal จากกูรูต่างๆ ซึ่งผมจะแนะนำทุกคนเสมอว่า ถ้าคุณยังไม่สามารถวางแผนเองได้ .. จงอย่าเข้ามาเล่น short เพราะสุดท้าย คุณจะเจ๊งอยู่ดี
- เอาจริงๆ Price Action ทรงแบบนี้ มันไม่ใช่ไม่เคยมีมานะ มันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2018-2019-2020-2021 แล้วครับ
- 2018 : ลากเดือนทุบเดือน ตายทั้งฝั่ง short และฝั่ง long
- 2019 ต้นปี : ลากโหดสัสจาก 3200 ไป 14000 ใครที่ short แล้วสู้ จะสู้แค่ไหนก็พอร์ตแตก
- 2019 ปลายปี : เหี่ยวๆ อยู่ดีๆ ลากกลับสองวัน +40% ใครที่ short แล้วรอดูว่าจะทำไงดี ก็พอร์ตแตกหมด
- 2020 ต้นปี : ขึ้นจาก 6500 ไป 10000 แล้วย่อลงมา 8000 สายนับเวฟบอกว่า นี่แหละเวฟ 1-2 ใหญ่ สรุปแล้วร่วงไป 3600 ก็เจ๊งกันหมด
- 2020 ปลายปี : ขึ้นจาก 10000 ไป 20000 พวกนับเวฟ ขึ้น B ลง C แน่นอน ก็เจ๊งกันหมด เพราะหลังจากนั้นขึ้นไปถึง 65000
- 2021 ต้นปี : ขึ้นเรื่อยๆ กูรูบอกว่าจะไป 100k แน่นอน ก็เลยไปจัดหนักจัดเต็มที่ยอด สรุปแล้วลงจาก 65k มาถึง 30k ก็เจ๊งกันหมด
- 2021 ปลายปี : ดีดกลับงงๆ พวก short บอกว่า ขึ้น B ลง C ลึกแน่นอน กลายเป็นว่า ดีดจาก 30k ไป 69k ใคร short ไว้ก็เจ๊งกันหมด
ถ้าให้ผมแนะนำ คุณจะรอดในตลาดนี้ได้ มีขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ข้อเองครับ
1) เลือกเล่นแค่ฝั่งมองขึ้นเท่านั้น อย่าไปเล่น short เพราะเราจะลดความเสี่ยงลงไปเลยถึง 50% ( เล่นน้อยลง = เสี่ยงน้อยลง )
2) เล่นแค่ spot และ เล่นด้วยเงินไม่ถึง 100% ของพอร์ต ( Position Sizing ที่เหมาะสม )
3) มี ระบบ Trend Following ที่ backtest แล้วระยะยาวมีกำไร แล้วทำตามมันไปเรื่อยๆ อย่างมีวินัย
4) มี Stop Loss ที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเข้าซื้อ และเมื่อชน Stop ต้องหนีอย่างไม่มีข้อต่อรอง
5) เลือกเล่นแค่เหรียญหลักๆ อย่าง BTC, ETH, BNB อย่าไปเล่น shitcoins
- เอาแค่ 5 ข้อนี้ ถ้าคุณทำได้ โอกาสที่คุณจะอยู่รอดในตลาดก็จะเยอะขึ้นมากๆ แล้วครับ ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็แล้วแต่ความตั้งใจของแต่ละคนแล้วล่ะ
EURUSD วันที่ 14 Sep 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 14 Sep 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
[Deep Value Scanner] หาหุ้นโคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลายและดักVI แสกนหาหุ้น Deep Value โคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลาย
สำหรับหลักการนี้ต้องขอขอบคุณ คุณเบนจามิน เกรแฮม ผู้เขียนตำรา Security Analysis และหนังสือ The Intelligent Investor และเป็นผู้ริเริ่มการลงทุนแบบ Value Investing แบบ Cigarette Butt ด้วยนะครับ
เทคนิคของ Deep Value กับเทคนิคหุ้นการลงทุนแบบ Cigarette Butt นี้ไม่ต่างกันมากเลย นั่นคือการซื้อหุ้นในมูลค่าที่น้อยกว่าทรัพย์สินส่วนของทุนบริษัท
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเลข 2 ตัวในการแสกนก่อนนะครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจหลักการแสกนนี้ นั่นคือ
1 . Net Debt ซึ่งมีสูตรคือ Cash – (Short Term Debt + Long Term Debt)
2. Enterprise Value มีสูตรคือ (Market Cap + Debt )- Cash
โดยทั้งสองตัวเลขนี้ หากมีค่าติดลบก็หมายความว่าผ่านเกณฑ์แล้วครับ หลักการคือเราจะซื้อบริษัท ณ “ราคา” ที่น้อยกว่าเงินสดสุทธิหักลบหนี้สินของบริษัทนั่นเองครับ
สำหรับข้อดีข้อเสียของหลักการนี้มีดังนี้ครับ
ข้อดี
- เราสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีได้
- สามารถ Unlock Value ได้ ผ่านการเข้าไปถือหุ้น แล้วใช้สิทธิโหวตกดดันให้ผู้บริหารขายทอดกิจการ เพื่อนำเงินสดมาจ่ายสู่ผู้ถือหุ้นได้
- หากมูลค่าทางบัญชีสะท้อนความเป็นจริงแล้ว เหมือนกับการที่เราซื้อหุ้นโดยมีส่วนลด มีความสมเหตุสมผลในการลงทุนในเชิงทฤษฎี
(มีหลักยึดในการลงทุนชัดเจน)
- สิ่งที่เราต้องทำ มีเพียงอย่างเดียวคือการรอให้มูลค่าปลดล็อค สายกราฟคือหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ
เช่นมีการสะสมพอสมควรแล้ว รวมถึงทำท่า Breakout อาจพิจารณาวางกลยุทธ์ได้
ข้อเสียและจุดอ่อน
- หากบัญชีมีการตกแต่งขึ้น อาจเป็นอุปสรรคได้ในการรับรู้มูลค่าที่แท้จริง
- ราคามักไม่ค่อยมีการขึ้นลงมาก หากไม่มีปัจจัยมาขับมูลค่า
เช่น การ Take Over , การขายสินทรัพย์ , การจ่ายเงินปันผลออกมา (ในกรณีที่บริษัทมีแต่เงินสดพร้อมจ่าย)
- ราคาหุ้นถูก ณ ตอนนี้ ไม่การันตีว่าจะราคาถูกตลอดไป
เช่นกรณีผู้บริหารใช้กลฉ้อฉล อย่างการนำเงินสดไปลงทุนในบริษัทอื่นๆ ซึ่งบริษัทอื่นๆ ที่ว่านี้อาจเป็น Shell Company ที่ผู้บริหารคนนั้นถือหุ้น
แล้วตั้งใจทำให้เกิดผลขาดทุน จนต้อง Whiteout ธุรกิจออกไปเกิดความสูญเสียทางบัญชีบริษัทเป็นต้น
หลักการ Supply and Demand โดย (RTM) Supply and Demand โดย Readthemarket (RTM)
เนื้องหาของ RTM เกี่ยวกับ Supply Demand นั้นเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
-การอ่านราคา (Price Reading)
-การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
-แนวรับแนวต้านหน้าตาเป็นยังไง (What do support & Resistance look like?)
-Support and Resistance Breakout
สำหรับเนื้อหาของ Price Action จะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
Past
-Supply and Demand
-Support and Resistance
-PAZ- Price Action Zones
-Caps on Price – RBD/DBR
-Flg Limits – DBD/RBR
-Fail to Return – FTR
Approach
-Compression
-3 Drive
Reaction
-Engulf
-Quasimodo
-Diamond
-The CanCan
เนื้อหาทั้งหมดแหวกทุกแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับ Price Action ที่เคยมีเผยแพร่ในอดีต และมีการนำไปใช้และประสบความสำเร็จจำนวนมาก สำหรับเนื้อหาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Quasimodo
ลองเอาศัพท์เล่านี้ ไปค้นหา ศึกษาใน Google ดูครับ
[Case Study] วิเคราะห์หุ้นทุกมิติ และสอนใช้ Relative Strength สำหรับวีดีโอนี้ผมจะมานำเสนอการใช้ Relative Strength ประยุกต์กับทรงกราฟ รวมถึงการดูปัจจัยผลักดันบริษัท รวมถึงการหาเหลี่ยมเพื่อการลงทุนนะครับ
โดยเนื้อหาในครั้งนี้ทุกท่านหากได้อ่านคำประกอบนี้ก็เพียงพอได้รับสารที่ผมต้องการสื่อในวีดีโอนี้แล้วครับผม
แต่ก่อนอื่นเรามาคุยภาษาเดียวกันก่อนนะครับ
- บริษัทที่นำเสนอนี้เป็นเพียง 1 ใน Case Study ที่น่าสนใจ
- ผมปรับราคาบริษัทเป็นหน่วย CHF เพื่อป้องกันการชี้นำราคาหุ้น
- วีดีโอนี้มี Ref ที่สำคัญราวๆ 3 แหล่งนะครับ และทาง Trading View ไม่ให้เราโพสลิงค์ไปด้านนอก ขอให้ทุกท่านโปรดวางใจ ว่าทุกอย่างที่ผมได้นำเสนอไปนี้มีเอกสารตัวเลขอ้างอิงครับ
====================================================
จากกราฟนะครับ เราจะเห็นว่าตัว Relative Strength นี้มีการหดตัวเข้าสู่ 0 อย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือเมื่อเทียบหุ้นตัวนี้กับตลาดแล้ว หุ้นตัวนี้มีความแข็งแกร่งกว่าตลาดอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ และหากมองให้ไกลกว่านั้น เราอาจตั้งคำถามได้ว่า "เป็นไปได้ไหม ที่หุ้นตัวนี้จะเป็นหุ้นที่แข็งกว่าตลาดสัดวันหนึ่ง" ซึ่งหุ้นที่แข็งกว่าตลาดนั้นก็คือหุ้นที่มีค่า RS > 1 นั่นเองครับ
จากปัจจัยจากกราฟที่แสดงให้เห็นว่าเขาทำ Sideway มาเนิ่นนาน และเริ่มมีการเปลี่ยนไป เรามาดูกันที่ปัจจัยขับเคลื่อนภายในบริษัทอันเป็นต้นสายธารของหุ้นตัวนี้กันครับ
สำหรับบริษัทที่เราพูดถึงนี้ก็คือ BAFS บริษัทผู้จำหน่ายเชื้อเพลิงให้แก่เครื่องบินนั่นเอง (และขอชี้แจงเพิ่มเติมจาก Oppday บริษัทนี้เปรียบเสมือนกับ "เด็กปั๊ม" นะครับ เขามีหน้าที่บริการบรรจุเชื้อเพลิง ดังนั้นแล้วราคาน้ำมันไม่มีผลจ่อบริษัทเลยครับ)
สิ่งที่ผมได้นำเสนอนี้มีปัจจัยผลักดันคือจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เริ่มบินสะพัดมากยิ่งขึ้น โดยหากเราได้ดูงบกำไรขาดทุนสุทธิแล้ว เราจะพบว่าตัวเลขในส่วนของ EBITDA กับค่าเสื่อมเริ่มมีการหักล้าง และเริ่มเท่าทุนแล้ว
และจากการที่ผมได้ไปฟัง Oppday ย้อนหลังก็ได้ทราบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวตอนนี้เองก็ Breakeven ต่อการทำกำไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งหลายทั้งมวลนี้ นำมาสู่ทรงกราฟครับที่จากแต่ดั้งเดิมบริษัทได้มีการทำ Sideway มากว่า 2 ขวบปี อาจมีแนวโน้มที่บริษัทจะเปลี่ยนแนวโน้มไปก็ได้ ไม่ขึ้นก็ลง
โดยจุดตัดของเทรนนี้จะอยู่ที่ราวๆ เดือนมกราคา จากการตีเส้นเทรนด์ไลน์ขากด และเทรนด์ไลด์ขาขึ้น หลังจากที่พูดถึงเรื่องปัจจัยด้านเวลาที่อัดตัวพร้อมผลักดันหุ้นแล้ว เรามาดูในมิติของมูลค่ากันบ้างดีกว่าครับ
จากเครื่องมือ 2 ตัวนั่นคือ DDM และ Double Dividend Discount Model ได้แสดงให้เราเห็นว่า แต่ก่อนเดิม "ตลาด" เคยให้มูลค่าบริษัทนี้ "มากกว่ามูลค่าสินทรัพย์ของบริษัท" ต่อเนื่องหลายปี
และในปัจจุบัน บริษัทเองกลับมีการเทรดในระดับที่ต่ำกว่าเส้นแนวต้านที่แสดงนี้เสียอีก ดังนั้นหากเราตั้งสมมติฐานว่าราคาหุ้นจะ Mean Reversion ก็เป็นไปได้
ทั้งนี้แล้วจากข้อมูลที่เรามี อาจช่วยให้พี่ๆ เพื่อนๆ ใช้ในการวางแผนการเทรดได้นะครับ ผมว่าการที่เราวิเคราะห์ได้หลากหลายมิตินี้จะช่วยให้เราลงทุนได้อย่างมั่นใจได้มากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องแลกเข้ามาที่สาหัสเช่นกัน นั่นคือ "เราไม่อาจรู้เลย ว่าเรื่องอะไรที่เรารู้นั้นเป็น NOISE" หรือ "สิ่งก่อกวนในการลงทุน" ได้ กล่าวคือหากเรารู้สิ่งใดมากแล้ว สิ่งนั้นอาจบดบังทรรศนวิสัยในระยะยาวของเราก็เป็นได้
แต่กระนั้นแล้ว เราทุกคนในหมวดของเทรดเดอร์ก็ยังโชคดีครับที่เรายังสามารถยอมแพ้ได้ หากแผนที่เราวางไว้ไม่เป็นไปตามที่วาง ผ่านการยอมรับตัวเองและ Cutloss ทิ้งไป
ทั้งหลายนี้ผมวาดหวังว่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนแก้ทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ฝากหนังสือและ investing-in-th ไว้ด้วยนะครับผม เราจะรวบรวมหนังสือที่อยู่ในจักรวาลการลงทุนไว้ให้ทุกท่านในที่เดียวเป็นร้านหนังสือเพื่อการลงทุน เพื่อการ Empowerment สังคมการลงทุนอย่างแท้จริง
ขอให้ทุกท่านโชคดี สุขภาพแข็งแรงปลอดภัยครับผม
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 13/9/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
รัฐสภาสหรัฐกล่าวว่า Bitcoin นั้นมีไว้สำหรับเลี่ยงภาษีเท่านั้น
นาย Brad Sherman หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาจากแคลิฟอร์เนียได้โจมตี Bitcoin อีกครั้ง โดยบอกว่า Bitcoin ไม่มีคุณค่าทางสังคม และบอกว่ามันใช้ได้แค่เพียงอำนวยความสะดวกในการก่ออาชญากรรม
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 10 กันยายน นาย Sherman ได้บอกว่า Bitcoin ไม่สามารถที่จะเป็นสกุลเงินในอนาคตได้ โดยระบุว่า Bitcoin ดีกว่าเงินดอลลาร์แค่เพียงช่วยการในก่ออาชญากรรม เช่น การหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนั้นเขายังบอกอีกว่า Bitcoin ไม่มีส่วนช่วยในการปรับปรุงเศรษฐกิจ
“สมมติว่ามันกลายเป็นสกุลเงิน นั้นอาจเป็นเพราะมันสามารถเอาชนะเงินดอลลาร์ในการเลี่ยงภาษีได้เท่านั้น ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงไม่มีคุณค่าทางสังคม”
🙏Cr. siamblockchain By Tharadon
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
23631.08 แนวต้าน
22425.09 แนวต้าน
20651.58แนวรับ
19500.33 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI divergent
หลังจากที่ราคาได้มีแรวซื้อเข้ามา จากสัปดารก่อน ราคาได้ขึ้นไปทดสอบแนวเทรนไลน์หลักใหญ่ และเริ่มที่จะมีสัญญาณในการกลับตัว นั้นทำให้ราคาลงมาปรับฐานที่แนว 20651.58 และอาจที่จะลงต่อไปทดสอบแนว 20000.00 อีกครั้ง
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 22425.09 เก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 20651.58 หรือแนว 19500.33 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 23276.38 และแนว 23631.08 ออเดอร์มีความเสี่ยง ควรจะ MM
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 13/9/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (12 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ ขณะที่นักลงทุน
จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้
แนวรับ 1721
แนวรับ 1705
แนวรับ 1693
แนวรับ 1671
แนวต้าน 1734
แนวต้าน 1752
แนวต้าน 1765
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
- เป็นกลาง
Trendline
จากกราฟ ราคายังคงวิ่งอยู่ในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ โดยกรอบการวิ่งมีระยะแคบลง
อาจใกล้ถึงการระเบิดของทิศทางอีกครั้ง ในเดือนนี้ ช่วงนี้ยังเน้นเล่นในกรอบไปสักระยะ
จนกว่าราคาจะเลือกทางที่ชัดเจนอีกครั้งหลังข่าวอัตราดอกเบี้ย ให้รอสัญญาณการเลือก
ทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1721 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1734 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1721 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1705 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
GBPJPY วันที่ 8 Sep 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 8 Sep 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
EUR/USD Analysis for 08-Sep-2022
FX:EURUSD Trade setup เมื่อวานคือการเทรด long-side เมื่อเห็นว่าการ breakdown มีโอกาสสูงที่จะ failed
- 📈 Long for 7 - 9R ที่ Initial Resistance เมื่อโดน break กลายเป็น support เป้าหมายหลักคือ HVN 1.00020
ดูวิดีโออธิบายเพิ่มเติมใน Youtube 👇
สำหรับวันนี้ ราคากลับเข้ามาใน balance และราคาไปถึงเป้าหมายแรกของ failed breakdown pattern แล้วที่ HVN 0.99862 รวมถึงยัง break ขึ้นมาได้ด้วย
เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปได้สูงว่าเรากำลังเทรดอยู่ใน failed breadown pattern (bullish pattern) ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะยังติดอยู่ใน 13 day balance แต่ด้วยความเข้าใจที่ว่า เป้าหมายของ failed breakdown pattern คือ ขอบบนของ balance area นั่นคือเหตุผลที่ short-term bias = Neutral-Bullish
แต่ ideally คือ ถ้าจะมีการ pull-back ลงด้านล่าง เราไม่ควรเห็นราคา pull-back ลึกเกินไปนัก อย่างมากก็ไม่ควรลงไปใต้ Initial Support 0.99381-0.99540
<--Balance Rules Apply!-->
📹 กดดู Video 👇 ที่ Logo Youtube ด้านล่าง จะทำให้เข้าใจ Market Context ได้ดีขึ้นครับ
Balance Rules
กฏโดยพื้นฐานคือ เทรดไปตามทิศทางที่ตลาด Break Out
Break Out ขึ้นข้างบน (Look above and go) - เราต้องเป็น Buyer
Break Down ลงข้างล่าง (Look below and go) - เราต้องเป็น Seller
Monitor for continuation (Acceptance) or Lack of.
Lack of continuation (Failed breakout / Look above/below and fail)
- ต้องหา Fade Setup (เทรดสวน) target คือ ขอบของ balancing area ในฝั่งตรงข้าม
Short-Term = NEUTRAL-BULLISH ►
OTFU Ended | Now back to balance | High: 1.00900 Low: 0.98638
WEEKLY: ONE TIME FRAMING DOWN ▼
Ends: 1.00790
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 8/9/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้ม
เศรษฐกิจโลกถดถอยยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ถึง
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออก
เดือนส.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 18%
เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้ความต้องการสินค้าจีนในต่างประเทศลดลง
ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนส.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 2.3%
แนวรับ 1708
แนวรับ 1693
แนวรับ 1671
แนวต้าน 1721
แนวต้าน 1730
แนวต้าน 1752
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
- เป็นขาลง
Trendline
จากกราฟราคา ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ โดยกรอบการวิ่งมีระยะในการวิ่งประมาณ 25-30$
ช่วงนี้ยังเน้นเล่นในกรอบไปสักระยะ จนกว่าราคาจะเลือกทางที่ชัดเจนอีกครั้งหลังข่าวอัตราดอกเบี้ย
ให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1693 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1721 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1721 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1694 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
[ดักรายใหญ่VI]สร้างแนวรับ/ต้านทางพื้นฐาน ด้วย PE และเงินปันผลวันนี้ผมจะมาพูดถึงที่มาของสูตรที่ได้ใช้ในอินดิเคเตอร์ใน Trading View กันนะครับ
(โดยอินดิเคเตอร์นี้ชื่อว่า DDM เพื่อแสดงแนวรับแนวต้านสำหรับสายพื้นฐานนะครับ สามารถดูสคริปสูตรได้ที่ด้านล่างคำอธิบายนี้ได้เลยครับ)
หลักๆ คือเพื่อต้องการประเมินมูลค่าหุ้นอย่างง่ายไว้ดูว่าแนวที่ควรซื้อแบบสวนกระแสอย่าง VI ควรซื้อประมาณโซนสะสมบริเวณไหนดี และใช้ประกอบการดูโซนการทำ Price Pattern ด้วย
หลักการคือเราจะใช้การกำหนดค่า PE ผ่านการตั้งค่า Dividend Payout ไว้คงที่(ที่ 40%) และปรับตัวเลข % Dividend Yield ตามที่เราต้องการ (2,3,4,6 เท่าไรก็ได้ตามที่เราอยากตั้งครับ)
ดั่งแนวรับและแนวต้าน โดยจะเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ DDM นั่นเองครับ
สูตรมูลฐานที่เราจูดคือ Dividend Yield% = DPS / Price
และจะปรับมาเป็น PE = %Dividend Payout/%dividend Yield กันนะครับ
โดยท่านสามารถฟังการอธิบายเต็มๆ ได้ผ่านทางวีดีโอนี้นะครับ และมีตัวอย่างประกอบด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยสำหรับการลงทุนโดยใช้อินดิเคเตอร์ต้นทางนะครับ
สำหรับวิธีการดักทางรายใหญ่ VI เราก็อาศัยดูเงินปันผลได้เลยครับ ว่าระดับไหนตามแบบ Price Pattern ที่จะจูงใจรายใหญ่ให้ซื้อหุ้นตัวนี้หรือตัวนั้น โดยอาจจะดูแนวโน้มเส้นแนวรับแนวต้านนี้ครั้นอดีตย้อนหลังก็ได้ครับ ว่าเขาเคยมีแนวที่แข็งๆ ตรงไหนเป็นต้นครับ
ทั้งนี้ท่านใดสนใจเกี่ยวกับการลงทุนแบบสวนกระแส สามารถหาอ่านได้ในหนังสือ ลงทุนหุ้นแบบจอห์น เนฟฟ์ ได้นะครับผม
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 27/08/2022ลุ่นแท่งปิดสัปดาห์นี้ ถ้าหลุด 20K มีแววไหลยาว โอกาสลงไปถึง 12K
side way มาหลายวัน เพื่อรอข่าว พอ FED มีทิศทางจะขึ้นดอกเบี้ยสูง ก็เลยหลุด rising wedge ด่านสำคัญไม่ควรหลุด 20K
MACD ตัดขึ้น แต่ก้ำกึ่งจะตัดลงรึป่าว ยังคลุมเครีอ เพราะปายเส้น แดง ดำเงิน ชิดกันมาก
RSI ไม่ผ่านแนวต้าน หัวปักลง ถ้า rsi สามารถ break แนวต้านได้ มีโอกาสลากราคา พลิกเป็นขึ้นได้ แต่ดูมีโอกาสน้อยไปนิดนึง
STORSI ถ้าปิด week นี้ตัดกันลง ราคามีโอกาสลงไปแต่ แนวรับสำคัญที่ 12K
** สรุป **
- ราย week แนวโน้มยังคงเป็นขาลง ถ้าหลุด 20K โอกาสลงต่อเนื่องค่อนข้างสูง
- ถ้า 20K รอบนี้รับอยู่ แสดงว่าราคาลงมาทดสอบ และแนวรับแข็งแกร่งมาก ราคามีโอกาสเด้งสู้ได้ แต่ข่าวช่วงนี้ ไม่ค่อยมีปัจจัยส่งเสริมเท่าไหร่ อาจลุ้นกันเหนื่อยหน่อย
- ช่วงนี้ราคาผันผวนตามข่าว ลงทุนด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะครับ ไม่ต้องโลภมาก เอาให้อยู่ในตลาดได้นาน ๆ น่าจะเพียงพอ
Harmonic Shark สุนทรพจน์ของท่านประธานเฟดTFEX เปิด Gap ลงรับสุนทรพจน์ของท่านประธานเฟด ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของทิศทาง ....จุดสูงสุดของทิศทางไม่ผ่านแนวต้าน บงบอกสภาวะแนวโน้มเป็น Sideway ...เลือกใช้เครื่องมือเทรดที่เหมาะกับ sideway มากที่สุดนั่นคือ Harmonic Trading
จากภาพกราฟฟอร์มตัวเป็น Bearish Harmonic Shark หรือ Cypher Pattern >> เลือกทิศทางการเทรดฝั่ง Short
Trading Plan:
Shark & Cypher Pattern บอกให้ Stop เหนือ High
Target1 = 50% Fibo.Retracement สำหรับ Shark
(61.8% Fibo.Retracement สำหรับ Cypher)
Target2 = 78.6% ถึง Zone แนวรับ
**ที่สำคัญ จำกัดความเสี่ยงด้วยความรู้ และ Money Management
มนุษย์กราฟ | Humangraphy
[Trading View Trick] วิธีแสกนหุ้นในเพลย์ลิสต์ทำยังไงดี? หลักการสามารถทำตามได้เพียงไม่เกิน 3 ขั้นตอนเลยครับ นั่นคือ
1.
หลังจากเพิ่มหุ้นไว้ในเพลย์ลิสแล้ว จากนั้นกด Shrift ค้าง + ใช้เมาส์คลิ๊กที่หุ้นตัวแรกสุด จากนั้นก็ปล่อยปุ่ม Shrift แล้วสกอลเมาส์ไปที่หุ้นตัวล่างสุด แล้วกดปุ่ม Shrift พร้อมเลือกหุ้นตัวล่างสุดครับ จะเป็นการเลือกหุ้นทั้งแผงในเพลย์ลิสเรา
2)
หลังจากกด Shrift แล้วเลือกหุ้นทุกตัวแล้ว ให้เรากดคลิ๊กขวา แล้วเพิ่มหุ้นทุกตัวเข้าไปในธงที่เราชอบเลยครับ
3)
หลังจากที่เราใส่ Flag ครบหมดแล้ว ให้เรามาที่ Stock Screener แล้วกดเลือกหุ้นที่เราปักธงไว้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถคัดกรองหุ้นที่เราต้องการได้แล้วครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับผม หากชอบใจกดถูกใจให้ผมหน่อยนะครับ
EUR/GBP นำไปสู่ข้อมูล GDPคู่ EUR/GBP ดูเหมือนจะวิ่งเข้าหาแนวต้านบนของช่องขาลงอีกครั้ง
ได้เข้าชมขอบช่องบนนี้มาแล้ว 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 บางทีอาจไปที่ 0.8503 ซึ่งบรรจบกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันก่อนที่จะเดินทางต่อไปทางใต้ แม้ว่า Supertrend Indicator อาจแนะนำว่าทั้งคู่ไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าใกล้ขอบเขตบน
อัปเดตราคา Ethereum เข้าใกล้ The Merge เข้าไปทุกทีEthereum เข้าใกล้ The Merge เข้าไปทุกที
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ Ethereum ได้เสร็จสิ้นการทดสอบอัพเกรด The Merge บน “Goerli testnet” ดังนั้นเราอาจจะไม่เห็นการชะลอการอัพเกรด “The Merge” ของ Ethereum ออกไปอีกแล้วซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 19 กันยายนราคา ETH พุ่งขึ้นมากว่า 5% อยู่ที่ประมาณ $1,950 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือนหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบบน Goerli ในขณะเดียวกันมีเหรียญคริปโตบางตัวที่อาจได้รับอินาสงส์จากการอัพเกรด The Merge และทำราคาได้ดีเหนือกว่า ETH ในเดือนที่ผ่านมา โดยเหรียญเหล่านี้จะสามารถทำราคาได้เหนือกว่า Ethereum ในเดือนกันยายนหรือไม่เดี๋ยวเราต้องมาคอยดูกัน