S50U25 09/07/25 เคลือนที่แบบ Pannants รอเลือกทางเบรคD : ob LH SW 677.8-797
- Brdi. 739 ไม่เบรค= ค้าง os เมื่อมี สญ.
240 : ob LH SW กรอบเดียว D
- Brdi. เดียวกับ D
120 60 30 : จากกรอบ D 240 677.8-797
- ob HL test high จะผ่าน 726.6 ?
- sw-U 696-726.6
15 : รอบ ob os of 60 120
- จากขึ้น 00 สะบัด 710.6-726.1
- ob will os test 710.6
.
กรณีขึ้น 
- D 240 60 15 : ob เบรค 726-727
กรณีลง
- 15 หลุด 710.6 จะมีหัวลง fibo
- พา 60 120 test 696
- ถ้า 60 หลุด 696 จะมีหัวลง fibo
- พา 240 D test 677.8
ไอเดียชุมชน
BTC/USD Daily Analysis 9/7/2025 by TraderTan
📰  ข่าวต่างประเทศ 
Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากการลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs และการมองโลกในแง่ดีของนักลงทุนสถาบัน
ตลาดคริปโตกำลังจับตาการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล
การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและโปรเจกต์ใหม่ๆ ในระบบนิเวศของ Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว
cr. Cointelegraph, CoinDesk, CryptoSlate (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
 ➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 108,956.58
✅ TP1 (Take Profit 1): 111,457.43
✅ TP2 (Take Profit 2): 111,517.74
🛑 SL (Stop Loss): 108,134.98 
💡  เหตุผลในการเข้าเทรด: 
ราคามีการเบรกแนวต้านเดิมขึ้นไปและกำลังพักตัวอยู่เหนือแนวรับใหม่
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคาปิดของแท่งเทียนล่าสุดยังคงยืนอยู่เหนือ EMA ทั้งสองเส้น
มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน Fibonacci Extension ที่ 1.272 (111,477.91) และ 1.618 (112,421.65)
 ✨  Fibonacci:  มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน Fibonacci Extension ที่ 1.272 (111,477.91) และ 1.618 (112,421.65)
📊  RSI:  56.45% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นได้
🧱  แนวรับแนวต้านสำคัญ: 
แนวต้าน: 111,517.74 (TP2), 111,477.91 (Fibonacci Extension 1.272), 112,421.65 (Fibonacci Extension 1.618)
แนวรับ: 108,134.98 (SL), 108,956.58 (ราคาเข้า) 
🧠  ประสบการณ์: 
การเข้าซื้อเมื่อราคายืนยันการ Breakout และพักตัวเหนือแนวรับใหม่ โดยมีสัญญาณ Golden Cross ของ EMA และ RSI ที่มีพื้นที่ให้วิ่งขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้มขาขึ้น
⚠️  ข้อควรระวัง: 
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
แผนเทรด Sell ทองคำ (XAUUSD) – อัปเดต 9 ก.ค. 2025 #TRADERJ📊 แผนเทรด Sell ทองคำ (XAUUSD) – อัปเดต 9 ก.ค. 2025
📍 เทรนด์หลักยังเป็น "ขาลง" โดยราคาเคลื่อนในกรอบ Channel
📍 แนวต้านสำคัญ: 3309 / 3316 / 3323 (โซน OB + Fibo 0.5–0.618)
📍 แนวรับเป้าหมาย: 3287 / 3279 / 3264
🔻 Sell Plan A – โซน Fibo + OB + แนวบนกรอบ Channel
✅ หากราคาเด้งขึ้นมายังโซน:
3309–3323 = (Fibo 0.5–0.618 + OB + แนวต้านกรอบบน)
เงื่อนไข:
เกิดแท่งกลับตัว (Bearish Engulf / Pin Bar / Rejection)
Volume ลดลง หรือ RSI เกิด Divergence
🎯 TP1: 3295
🎯 TP2: 3280
🎯 TP3: 3264 (แนวล่าง Channel)
🛡 SL: เหนือแนว 3335
🔻 Sell Plan B – รอหลุดแนวรับ + Retest แล้วค่อยเข้า
ถ้าราคา หลุดแนวรับ Buy Zone 3295 และทะลุโซนแนวรับ 3301–3290
✅ ให้รอ Retest ขึ้นกลับมา แล้ว Sell บริเวณ 3295–3300
🎯 TP: 3280 / 3279
🛡 SL: เหนือ 3309
—
📌 สรุป:
กลยุทธ์เทรดวันนี้ยังเน้นตามโครงสร้าง ขาลง
ใช้หลัก Demand / Supply + OB + Fibonacci + Price Action
เทรดตามรายใหญ่ ไม่ใช่ตามใจตัวเอง
—
📣 คำเตือน:
โพสต์นี้จัดทำเพื่อแบ่งปันแนวคิดการวางแผนเทรด ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนโปรดบริหารความเสี่ยงและตัดสินใจด้วยตนเอง
—
📲 ใครชอบแผนนี้ แชร์ให้เพื่อนในกลุ่มเทรดเดอร์เลยครับ
ถอดรหัสคลื่น CPALL - WXY แนวรับคลื่น Y โครงสร้างคลื่น W–X–Y ของ CPALL มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะเมื่อคลื่น X มีลักษณะซับซ้อนและใช้เวลานานกว่าปกติ flat หรือ combination ที่ลากยาว
การปรับตัวลงในคลื่น Y ดูเหมือนจะใกล้จบ ราคายังไม่สามารถยืนเหนือฟิโบนันชี 78.6% ของความยาวของ คลื่น W ได้ แต่โครงสร้างนี้อาจสะท้อนการปรับฐานที่ใกล้สิ้นสุดแล้วที่เป้าหมายฟิโบนันชี 100% ของคลื่น W ที่ราคา 37.+ บาท 
โครงสร้างคลื่น แบบ W–X–Y กราฟรายสัปดาห์
คลื่น W คลื่นชุดแรกของการปรับฐาน
โครงสร้าง Flat ABC ลักษณะเป็นการปรับตัวลงอย่างรุนแรง 
คลื่น X คลื่นการปรับฐานชุดที่สองเชื่อมระหว่าง W และ Y ที่มีความซับซ้อน 
โครงสร้าง เป็นไปได้ว่าจะเป็น combination (flat + triangle)
ใช้ระยะเวลานาน มีการทับซ้อนของคลื่น และไม่มีการเบรกขึ้นที่ชัดเจน สอดคล้องกับลักษณะของคลื่น X ที่ซับซ้อน Volume ไม่เด่นชัด บ่งบอกว่าอาจเป็นการกระจายของแทนการสะสม
คลื่น Y คลื่นปรับฐานชุดที่สาม ยังไม่มีสัญญาณเบรคกลับตัวระยะกลาง
โครงสร้าง อาจเป็น double zigzag หรือ flat ที่ซับซ้อน
RSI และ MACD ยังอ่อนแรงอยู่ในโซน oversold สนับสนุนว่าอาจยังอยู่ในช่วง correction ขา C ของ คลื่น Y
การปรับฐานคลื่น 4 ที่ลงมาลึกแบบ bull flag จะตามมาด้วยคลื่นขาขึ้นคลื่น 5 แบบขยายของขยายที่น่าสนใจมากในรูปแบบ Terminal Impulse Extended Wave 5 ที่คลื่น 4 มีลักษณะซับซ้อนและใช้เวลานาน 
ข้อสังเกตุจากนี้ไป อาจเกิด Throw-under หลุดแนวรับเดิมกรอบล่างฟิโบนันชี 100% สนับสนุนด้วยสัญญาณ RSI bullish divergence ในกราฟสัปดาห์ ก่อนกลับตัวแรงไปคลื่น 5
Invalidation Level: หลุดราคาโซน คลื่น 2 หรือ B ที่ 30-32 บาท
Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร📘 Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร 
           👉👉ถ้าคุณชื่นชอบการเทรดกราฟเปล่าเพราะอินดิเคเตอร์มันเยอะจนลายตา แวะมาอ่านบทความนี้ก่อน เพราะมันมีดีกว่าที่เห็นกราฟเปลือยๆเปล่าๆมาก อยากรู้แล้วสินะว่ามันดียังไง มาครับ ตามมาอ่านกันได้เลย👈👈
 🔍 Naked Trading คืออะไร? 
                    Naked Trading หรือการเทรดกราฟเปลือย หรือพูดง่ายๆก็คือการเทรดกราฟเปล่าๆที่มีแต่แท่งเทียนนั่นแหละฮะ เป็นการเทรดแบบไม่ใช้อินดิเคเตอร์ คือการวิเคราะห์กราฟด้วย “พฤติกรรมราคา” (Price Action) เป็นหลักโดยไม่ต้องพึ่งอินดิเคเตอร์หลายตัว เช่น RSI, MACD หรือ EMA
หลักการสำคัญของการเทรดกราฟเปลือยมีพื้นฐานมาจากหลักการดังต่อไปนี้:
                        - Price action analysis  โดยการเน้นที่การเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์
                        - เน้นความเรียบง่ายและความชัดเจน ลดปัญหาการคิดเยอะ อินดี้ยิ่งเยออะยิ่งคิดไปไกล 
                        - ใช้สัญชาตญาณช่วย อันนี้สำคัญ ต้องเทรดในตลาดมานานพอสมควรประสบการณ์ช่วยให้เราเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น
                        - Price Movement การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา รวมไปถึง Market Mood ในการอ่านอารมณ์ในตลาด การเทรดแบบนี้มักไม่มีสูตรตายตัวนะฮะ
 ✅ จุดเด่นคือ “ความเรียบง่าย” แต่ทรงพลัง 
            ❌ ไม่มีเส้นมากมายมาบังกราฟ
            ✅ เข้าใจพฤติกรรมตลาดจากสิ่งที่ราคา “พูด” ด้วยตัวเอง
 💡 ทำไมมือใหม่ควรเรียนรู้ Naked Trading? 
            1. เข้าใจโครงสร้างของราคาแบบแท้จริง
            2. ไม่พึ่งอินดิเคเตอร์ lagging
            3. เข้าออเดอร์และหาจังหวะทำกำไรได้ง่ายและเร็วขึ้นจากราคาจริง
            4. ฝึกสมาธิ ความมีวินัย และการอ่านตลาดอย่างแท้จริง
            5. ใช้ได้กับทุกตลาดและ Timeframe
 🔑 หลักการพื้นฐานของ Naked Trading 
 1. โครงสร้างตลาด (Market Structure) 
                - ดูว่าเป็นขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway
                - Higher High (HH), Higher Low (HL) → ขาขึ้น
                - Lower High (LH), Lower Low (LL) → ขาลง
 2. แนวรับแนวต้าน (Support / Resistance) 
                - จุดที่ราคากลับตัวบ่อย ๆ
                - ใช้สำหรับดูว่า “ควรซื้อ/ขาย” บริเวณใด
 3. พฤติกรรมแท่งเทียน (Candlestick Behavior) 
                - หาสัญญาณกลับตัว เช่น  Pin Bar , Engulfing ,  Inside Bar
 4. โซนสำคัญ (Key Zones) 
                ใช้บริเวณที่ราคาแสดงความลังเล (consolidation)   หรือบริเวณที่เกิด Breakout แล้วกลับมาทดสอบ (retest)
 🛠 วิธีสร้างระบบ Naked Trading สำหรับมือใหม่ 
                ✅ Step 1: TF  แนะนำ H1 หรือ H4 สำหรับเริ่มต้น  หรือ Daily สำหรับคนไม่ชอบเทรดบ่อย
                ✅ Step 2: สร้างแนวรับแนวต้าน  ใช้จุด High/Low ที่ราคาแตะบ่อย ๆ  วาดโซน ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นเดียว
            ✅ Step 3: รอแท่งเทียนส่งสัญญาณ  เช่น Pin Bar ที่แนวรับ → Buy  หรือ Engulfing บริเวณแนวต้าน → Sell
            ✅ Step 4: วางแผน Risk-Based Entry    ตั้ง SL ใต้/เหนือโซน , ตั้ง TP ตาม RR 1:2 ขึ้นไป
 ❗️ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่ 
1. การวาดและสร้างแนวรับแนวต้านมั่ว ให้เริ่มฝึกจาก Timeframe ใหญ่ก่อนเป็นหลักเช่น  H4 / Daily
2. เมื่อเห็นสัญญาณแล้ว อย่าใจร้อนรีบเข้า ต้องรอให้ราคาปิดแท่งจบก่อนทุกครั้ง
3. การตั้ง SLควรต้องมีทุกครั้ง และคิดเป็น % ความเสี่ยงของพอร์ตเสมอ
4. ไม่เทรดบ่อยเกิน	เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณการเข้าออเดอร์ถี่ๆ
 🎓สรุปส่งท้าย 
                   คือการ ฝึกเข้าใจตลาดจาก ราคาเพียงอย่างเดียว ไม่พึ่งสิ่งเสริม แต่เน้นการวิเคราะห์ที่ เรียบง่ายและมีเหตุผลเหมาะกับเทรดเดอร์สายวินัย สายเข้าใจ ไม่ใช่สายลุ้น  หากคุณอยากเข้าใจตลาดจริง ๆ  คุณต้องรื้ออินดิเคเตอร์ออก แล้วเริ่มมองราคาจริงด้วยแท่งเทียน
แนวโน้ม XAUUSD รายสัปดาห์ (07/07 – 11/07): ทองคำได้แรงหนุนจากข่าแนวโน้ม XAUUSD รายสัปดาห์ (07/07 – 11/07): ทองคำได้แรงหนุนจากข่าวการเมืองสหรัฐ
📰 สรุปภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค
สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยข่าวการเมืองร้อนแรงในสหรัฐฯ เมื่อ Elon Musk ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ “American Party” เพื่อท้าทายระบบสองพรรคเดิม ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นความไม่แน่นอนและส่งผลดีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ข้อมูลเศรษฐกิจจากสัปดาห์ก่อนยังไม่แข็งแรงพอจะกดดันทอง และตลาดก็ซบเซาช่วงวันหยุดสหรัฐ
📉 วิเคราะห์ทางเทคนิค – แผนเดิมยังคงไว้
ทองคำยังคงอยู่ในโครงสร้างขาขึ้น และคำสั่งซื้อจากต้นสัปดาห์ (3331) ขณะนี้ได้กำไรมากกว่า 60 จุดแล้ว
ยังไม่มีสัญญาณกลับตัวชัดเจน แผนเทรดยังคงใช้ได้ในสัปดาห์นี้
🎯 แผนการเทรด
✅ BUY THE DIP (ตามเทรนด์หลัก)
Entry 1: 3329 – 3331 (ถืออยู่)
Entry 2: 3319 – 3321 | SL: 3315 | TP: 3328 – 3338 – 3350
⚠️ SELL SCALPING (ระยะสั้น)
Entry 1: 3352 – 3354 | SL: 3358 | TP: 3342 – 3330
Entry 2: 3365 – 3367 | SL: 3371 | TP: 3355 – 3342 – 3338
📌 สรุป
สัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยการเมืองและภาวะตลาดหลังวันหยุด
เน้น Buy ตามเทรนด์หลักและติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณแนวรับแนวต้านให้ดี
III กราฟ DAY เริ่มโผล่พ้นน้ำ ถ้าชอบเอาใส่กระเป๋าน้อย ๆ วิเคราะห์หุ้น III (บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน))
III เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยแบ่งธุรกิจออกเป็นหลายส่วน ได้แก่:
ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight): ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Freight Forwarder) ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงบริการคลังสินค้าในสนามบิน
ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก (Sea and In-Land Freight): ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก
ธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management): ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร
ธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย: บริการขนส่งและจัดการคลังสินค้าเฉพาะทาง
บริการอื่น ๆ: รวมถึงบริการด้านการจัดการต่างๆ
III มีจุดแข็งในการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีความเชี่ยวชาญและครอบคลุมหลายด้าน โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์สำหรับสินค้าเฉพาะทาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
ผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน (อิงข้อมูล ณ 28-29 มิถุนายน 2568 และข้อมูล Q1/2568)
ราคาหุ้น: ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2568 ราคาปิดอยู่ที่ประมาณ 4.70 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap): ประมาณ 3,699.51 ล้านบาท
อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio): ประมาณ 8.12 - 8.33 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ ต่ำ และน่าสนใจสำหรับหุ้นในกลุ่มโลจิสติกส์
อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV Ratio): ประมาณ 0.88 - 0.91 เท่า ซึ่ง ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี บ่งชี้ว่าราคาตลาดซื้อขายถูกกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัท
กำไรต่อหุ้น (EPS) Q1/2568: 0.14 บาทต่อหุ้น (ข้อมูล Settrade) หรือ 0.1389 บาทต่อหุ้น (ข้อมูล InfoQuest)
รายได้รวม (Q1/2568): 531.35 - 536.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% YoY (แต่ลดลง 26.3% QoQ)
กำไรสุทธิ (Q1/2568): 108.6 ล้านบาท ลดลง 6.4% YoY (แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิจะเติบโต 5.4%)
สาเหตุหลักที่กำไรสุทธิลดลง YoY: แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 22.8% เนื่องจากมีการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญในปีก่อนหน้า (Q1/2567) และธุรกิจขนส่งทางอากาศแผ่วลง
ปัจจัยหนุน: กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์มีการเติบโตของรายได้
อัตรากำไรขั้นต้น (Q1/2568): 19.06 - 19.1%
อัตรากำไรสุทธิ (Q1/2568): 20.24%
ROA (Return on Assets): 10.11%
ROE (Return on Equity): 11.04%
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio): 0.19 เท่า ซึ่งถือว่า ต่ำมาก สะท้อนถึง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield): ประมาณ 7.12% (ข้อมูล ณ 26 มิ.ย. 2568) ซึ่งถือว่า สูงมาก และเป็นจุดเด่นสำคัญของหุ้นนี้
นโยบายเงินปันผล: มีการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยมีวันขึ้นเครื่องหมาย XD เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2568
จุดเด่นและโอกาสทางธุรกิจ
Valuation น่าสนใจ: P/E Ratio และ P/BV Ratio ที่ต่ำกว่า 10 เท่า และต่ำกว่า 1 เท่า ตามลำดับ บ่งชี้ว่าหุ้นมีราคาที่ ถูกกว่ามูลค่าพื้นฐาน อย่างมีนัยสำคัญ
อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง: Dividend Yield ที่สูงกว่า 7% ทำให้ III เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นกระแสเงินสดจากเงินปันผล
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง: ด้วย D/E Ratio ที่ต่ำมากเพียง 0.19 เท่า ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการขยายการลงทุนและรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ
ธุรกิจโลจิสติกส์ที่หลากหลายและครบวงจร: การมีบริการที่ครอบคลุมหลายด้าน ช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการเติบโตจากอุตสาหกรรมต่างๆ
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก: หากเศรษฐกิจโลกและปริมาณการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัว จะส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจโลจิสติกส์ของ III
โครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock): บริษัทอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินสูงสุดไม่เกิน 125 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหารในมูลค่าของบริษัท และอาจช่วยหนุนราคาหุ้นในอนาคต
ความเสี่ยงที่ควรพิจารณา
ผลประกอบการ Q1/2568 ที่ลดลง YoY: แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธิที่ลดลง 6.4% YoY เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรเฝ้าระวัง โดยเฉพาะจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและการที่ธุรกิจขนส่งทางอากาศแผ่วลง
ความผันผวนของค่าระวางขนส่งสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยน: ธุรกิจโลจิสติกส์ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความผันผวนของค่าระวางขนส่งทั่วโลก และการที่บริษัทมีการดำเนินงานระหว่างประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก: หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หรือเกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้าระหว่างประเทศและความต้องการบริการโลจิสติกส์
การแข่งขันในอุตสาหกรรม: แม้ III จะมีจุดแข็ง แต่ธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค/ธุรกิจ: การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หรือการหันไปพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
สรุปและคำแนะนำสำหรับ III
III เป็นหุ้นที่มี ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะฐานะการเงินที่มั่นคงและ Valuation ที่น่าสนใจ รวมถึงการจ่ายเงินปันผลที่สูง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญสำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่าและกระแสเงินสด
คำแนะนำ:
สำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่าและปันผล: III เป็นหุ้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วย P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่า 1 เท่า และ Dividend Yield ที่สูงกว่า 7% ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นอาจมีราคาที่ถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง
สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการฟื้นตัว: แม้กำไร Q1/2568 จะลดลงเล็กน้อย แต่หากบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนและฟื้นการเติบโตในธุรกิจหลักได้ III ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ควรติดตามอย่างใกล้ชิด:
ผลประกอบการในไตรมาสถัดไป: เพื่อดูว่าบริษัทสามารถกลับมาเติบโตของกำไรได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด
แนวโน้มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์: โดยเฉพาะปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและอัตราค่าระวาง
ความคืบหน้าของโครงการซื้อหุ้นคืน: ว่าสามารถดำเนินการได้ตามแผนและส่งผลบวกต่อราคาหุ้นหรือไม่
การขยายบริการใหม่ๆ: โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
โดยรวมแล้ว III เป็นหุ้นที่มี พื้นฐานดีและราคาที่น่าดึงดูดใจ เหมาะสำหรับการพิจารณาลงทุนในระยะกลางถึงยาว โดยเน้นการเก็บเงินปันผล และรอการฟื้นตัวของกำไรจากภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกครับ
แผนเทรดทอง XAUUSD (H1) – รอสัญญาณจากการย่อ / เทสต์โซน  #TRADERJ📉 แผนเทรดทอง XAUUSD (H1) – รอสัญญาณจากการย่อ / เทสต์โซน
📌 จากการวิเคราะห์ล่าสุด:
ราคาหลุดโครงสร้างสำคัญลงมาแรง พร้อมแรงเทขายชัดเจน 📉
ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วง "พักฐาน" รอแรงใหม่เพื่อเทสต์กลับเข้าโซน Supply
📍 โซนรอเข้า: 3,338 – 3,344
🎯 TP แรก: 3,319
🎯 TP สอง: 3,290
⛔ SL: เหนือ 3,347
📌 เงื่อนไขการเข้า:
✅ รอราคา "ย่อตัว" กลับขึ้นมาเทสต์โซน
✅ มีแท่งกลับตัว หรือ Divergence บน M15/M5
❌ ไม่ไล่ราคา เพราะเสี่ยงโดนลากก่อนกลับตัว
💡 นี่คือเทรดแบบรอจังหวะ ไม่ใช่ไล่ความรู้สึก
เทรดเดอร์เก่งๆ คือคนที่ “รอเป็น” ⏳
#XAUUSD #ทองคำ #SMC #แผนเทรดทอง
SMC GOLD 2/7/25240 มองเทียบ2กราฟ กราฟนึง Cho อักกราฟ เป็นการกวาด LQ
60 ราคาขึ้นไปทำลาย Supply ได้ demand ที่สามารถทำลายได้ ที่น่าสนใจคือ 3309
15 เป้นขาขึ้น Cho bos ถ้าจะBuy มี2กรณี 
 1. รอราคาBosออกไปอีกรอบ ก่อนแล้วค่อยหาDemandเพื่อBuyตามโครงสร้าง
 2.ตอนนี่อยู่ในช่วง Pullback ของ M15 ซึ่งจะไปตรงกับการ Pullbackของ H1ที่ได้ทำการ Cho ไป
แผนเทรด
โฟกัส Buy ที่ Demand 3309 ดูการเสียทรงของ LTF
แผนSell ถ้าราคาสามารถ เบรค 3329 ลงไปได้ จะเป็นการ Cho ในขา Pullback ของ M15 
หา Supply เพื่อ Sell ตามโครงสร้าง TP Lowของโครงสร้างย่อย
XAUUSD วีดีโอวางแผนเทรดทองคำวันที่ 2 ก.ค. 2568🟡 วิเคราะห์กราฟทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 2 ก.ค. 2568
🌐 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญ
• ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง ต่ำกว่า 97 จุด (ล่าสุด 96.68) สนับสนุนราคาทอง
• ค่าเงินบาทแข็งค่า ทรงตัวที่ 32.46 บาท/$ → ทำให้ราคาทองไทยปรับขึ้นช้ากว่า
• SPDR ขายทองเพิ่ม 4.3 ตัน เหลือถือครอง 948.23 ตัน (ยังไม่มีผลกดดันชัดเจน)
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด เช่น ISM PMI และ JOLTS ออกมาดีเกินคาด
• ⚠️ ความเสี่ยง & ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• สงครามการค้า: สหรัฐยังไม่ขยายเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
• ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์:
• อิสราเอล – ฮามาส ใกล้เจรจาหยุดยิง 60 วัน
• รัสเซีย – ยูเครน ยังดำเนินต่อเนื่อง
• ADP Non-Farm ของวันนี้อาจส่งผลต่อตลาด (คาดว่าจะสูงขึ้น)
🛠️ แผนเทรดวันนี้
📈 หาจังหวะ BUY เมื่อราคาไม่หลุด 3,300-3,320
และเกิดสัญญาณกลับตัว (Reversal Candle)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,350 - 3,360
🛑 จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3,295
📉 หาจังหวะ SELL เมื่อราคาชน 3,350 - 3,360
แล้วเกิดแรงขายชัดเจน (Pin bar / Bearish Engulfing)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,310 - 3,300
🛑 จุดตัดขาดทุน: 3,365
⚠️ คำแนะนำจากโค้ช
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
XAUUSD 30/06/25 ระยะกลางดีด test 3350.5 ไม่เบรค sw เลือกทางก่อนD : os 61.8 HL 
240 : os 200 
60 : ob 50 สะบัด 3244.4-3350.4
- แกว่งเลือกทางในกรอบ
15 : os 38.2 
- กรอบ 3244.4-3296.8
.
กรณีขึ้น
- เบรค 3296.8 tf 15 พา 60 ob test 3350.4
- ลงไม่หลุด 3244.4 ฟอร์ม HL HH เบรคบนขึ้นได้
.
กรณีลง 
- หลุด 3277.4 ลง test 3244.4
- หลุด 3244.4 ลงต่อ 
- ไม่เบรค 3296.8 ฟอร์ม LL LH หลุดล่าง
วิเคราะห์คลื่น Elliott –  XAUUSD ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
บนกราฟ H1 เราสังเกตเห็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ ซิกแซกคู่ WXY (สีแดง) และในขณะนี้ คลื่น Y ดูเหมือนกำลังพัฒนาเป็น โครงสร้าง abc สีเขียว
ภายในโครงสร้าง abc นี้:
- คลื่น a เริ่มต้นด้วยรูปแบบ สามเหลี่ยมเริ่มต้น (leading diagonal) แบบ 5 คลื่น
- คลื่น b เป็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ abc ปกติ (สีดำ)
- คลื่น c แสดงให้เห็นโครงสร้าง ห้าคลื่นแบบเร่ง อย่างชัดเจน โดยราคามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและลาดชัน
ประเด็นสำคัญตอนนี้คือ เราต้องพิจารณาว่า:
- ราคานั้น จบคลื่น 5 สีดำแล้วหรือไม่, หรือ
- เพียงแค่ จบคลื่น 3 สีดำ ในคลื่น c สีเขียวเท่านั้น
👉 ถ้าการเคลื่อนไหวปัจจุบันคือคลื่น 3 สีดำ เราจะคาดหวังว่าจะเกิด คลื่น 4 (ปรับฐาน) ตามด้วยการลดลงอีกหนึ่งช่วงเพื่อ จบคลื่น 5 ซึ่งในกรณีนี้ คลื่น 5 จะได้รับการยืนยันเมื่อราคาทะลุระดับ 3255 ลงมา โดยมี เป้าหมายที่เป็นไปได้ 2 โซน สำหรับคลื่น 5 ได้แก่:
- โซนที่ 1: 3247
- โซนที่ 2: 3224
👉 ถ้าคลื่น 5 จบลงแล้ว การดีดตัวขึ้นไปที่ 3283 อาจเป็น คลื่น 1 ของแนวโน้มขาขึ้นใหม่ ส่วนการย่อตัวลงต่อไปจะเป็น คลื่น 2 โดยมีโซนเป้าหมายที่คาดไว้ระหว่าง 3266 – 3261
⚡ วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมอยู่ในโซน Oversold (ขายมากเกินไป) ซึ่งบ่งบอกถึง แนวโน้มขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า สนับสนุนแนวคิดว่าคลื่น c สีเขียวในคลื่น Y สีแดง กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังแสดง สัญญาณกลับตัวขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการดีดตัวรอบนี้อาจยังคงดำเนินต่อไป ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าจบคลื่น 3 หรือ 5 แล้ว
🧭 แผนการเทรด
📍 BUY ZONE 1
จุดเข้า: 3264 – 3261
จุดตัดขาดทุน (SL): 3254
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
📍 BUY ZONE 2
จุดเข้า: 3247 – 3244
จุดตัดขาดทุน (SL): 3237
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
⚠️ ข้อควรระวังสำคัญ
แผนการเทรดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า คลื่น 3 หรือคลื่น 5 ได้สิ้นสุดแล้ว ดังนั้น หากในช่วงตลาดเอเชีย ราคายังไม่แตะโซน 3264 – 3261 แต่กลับดีดขึ้นทะลุ 3283 โดยไม่สามารถปิดเหนือระดับ 3297 ได้ และจากนั้นร่วงลงต่ำกว่า 3283 เราควร หลีกเลี่ยงการเข้า BUY ที่โซน 3264 – 3261
ในกรณีนี้ ควรรอจังหวะเข้าซื้อที่โซน 3247 – 3244 แทน
BTCUSD Daily Analysis 28/6/2025 by TraderTan
📰  ข่าวต่างประเทศ 
Bitcoin (BTC) ยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในตลาด โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยมหภาคและ sentiment ของนักลงทุน
ข่าวเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบของสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา Bitcoin รวมถึงกระแสการยอมรับจากองค์กรต่างๆ
นักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ยังคงจับตาโอกาสในการเข้าสะสม Bitcoin โดยพิจารณาจากแนวโน้มระยะยาวและมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล
สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มแสดงความสนใจและเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาในอนาคต
cr. Cointelegraph, CoinDesk (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
 ➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): 107,259.09
✅ TP (Take Profit): 109,694.25
🛑 SL (Stop Loss): 106,454.57 
💡  เหตุผลในการเข้าเทรด: 
ราคาได้มีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ (rebound) และเริ่มมีสัญญาณของการกลับตัวขึ้น
จึงเป็นจังหวะในการพิจารณาเข้าซื้อ ณ ราคาเข้า
 ✨  Fibonacci:  กำหนดราคาเป้าหมาย (TP) ที่ Fibonacci 1.618% ซึ่งเป็นระดับที่สำคัญและควรจับตา
📊  RSI:  53.21% (เป็นกลาง)
🧱  แนวรับแนวต้านสำคัญ: 
แนวต้าน: 109,719.36 (โดยประมาณ), 109,694.25 (TP), 108,400.78 (โดยประมาณ), 107,259.09 (ราคาเข้า)
แนวรับ: 107,031.76 (โดยประมาณ), 106,454.57 (SL), 106,353.69 (โดยประมาณ), 105,759.12 (โดยประมาณ) 
🧠  ประสบการณ์: 
การเทรดแบบ Rebound หรือการดีดตัวกลับของราคามักเกิดขึ้นเมื่อราคาได้เคลื่อนที่
ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วและกลับมาทดสอบแนวรับหรือแนวต้านอีกครั้ง
เพื่อยืนยันแนวโน้มก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิม
⚠️  ข้อควรระวัง: 
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD วีดีโอวางแผนเทรดทองคำวันที่ 30 มิ.ย. 2568🟡 วิเคราะห์กราฟทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 2568
💵ทองคําภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะSideways ในกรอบกว้าง หลังจากที่มีการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล โดยยังไม่มีความชัดเจนในด้านเจรจาและระดับความเสียหายเท่าไรนัก แต่คาดว่าน่าจะเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่ายทั้งอิสราเอลและอิหร่าน
🌍 วิเคราะห์สถานการณ์พื้นฐาน
🌐 สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์
▷มีความพยายาม "หยุดยิงชั่วคราว" ระหว่าง อิหร่านกับอิสราเอล
▷แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีผลในระยะยาวหรือไม่
▷ตลาดยัง “ระวัง” ไม่ตอบรับเชิงบวกต่อทองคำทันที
💵 ดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ
▷ตัวเลข GDP ไตรมาสล่าสุด: -0.5% ดีกว่าคาด (-0.2%)
▷ตัวเลข Unemployment Claims: แย่ลงเล็กน้อย
▷ตัวเลข Durable Goods / Pending Home Sales: เพิ่มขึ้นกว่าคาด
➡️ โดยรวม: เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว → กดดันทองคำให้ทรงตัว
💵 ค่าเงิน & ดอกเบี้ย
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 97.26 จุด (ต่ำสุดในรอบ 3 ปี)
แต่ทองไม่สามารถพุ่งขึ้นได้ชัดเจน แสดงว่า "แรงซื้อยังไม่แข็งแรง"
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย → อยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์
🛠️ แผนเทรดวันนี้
📈 หาจังหวะ BUY เมื่อราคาไม่หลุด 3,240-3,250
และเกิดสัญญาณกลับตัว (Reversal Candle)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,385 - 3,300
🛑 จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3,235
📉 หาจังหวะ SELL เมื่อราคาชน 3,300 - 3,320
แล้วเกิดแรงขายชัดเจน (Pin bar / Bearish Engulfing)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,245 - 3,250
🛑 จุดตัดขาดทุน: 3,325
⚠️ คำแนะนำจากโค้ช
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
แรงขายสุดสัปดาห์แข็งแกร่ง หลุดทะลุต่ำกว่า 3,300ราคาทองคำ (XAU/USD)  ตกอยู่ภายใต้แรงขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้านี้ โดยลดลงต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวลดลงในวันก่อนหน้า โลหะมีค่านี้กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่เห็นในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนกำลังรอการประกาศดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ คาดว่าดัชนีเงินเฟ้อที่สำคัญนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจส่งผลต่อแนวโน้มระยะสั้นของโลหะสีเหลืองที่ไม่ให้ผลตอบแทน
 ⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว : 
แรงขายในช่วงปลายสัปดาห์ทำให้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ โดยยังคงมีแรงขายอยู่ และลดลงในวันนี้
.............
✨ บทวิเคราะห์ราคาทองคำ XAU/USD 27 มิ.ย. 2025 ✨
 1. ทิศทางหลัก (Medium-Term)  
📉 ราคายังเคลื่อนตัว ใต้เส้นแนวโน้มขาลง (หลุดจากโซน 3,460)
ภาพรวมยังเป็น ขาลง พร้อมแนวต้านหลักที่ 3,335–3,350
 2. แนวรับ–แนวต้านสำคัญ  
แนวต้าน 1: 3,335 (เส้นแนวโน้ม + โซน Supply สั้น)
แนวต้าน 2: 3,380–3,400 (โซน Supply หลัก)
แนวรับ 1: 3,285–3,278 (โซน Demand แรก)
แนวรับ 2: 3,262–3,250 (โซน Demand ถัดไป)
แนวรับล่างสุด: 3,230–3,220 (หากเบรกโซนบนต่ำลง)
 3. สัญญาณทางเทคนิค  
📊 RSI ~45 (ต่ำกว่า 50 → Bearish Momentum ยังเด่น)
🔄 พบ Bullish Divergence เล็กน้อย แต่ไม่ผ่านแนวต้าน ทำให้สัญญาณอ่อนตัว
 4. กรอบการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ (Scenario)  
.ดีดขึ้นทดสอบ 3,321–3,335
.หากไม่ผ่าน (ยืนต่ำกว่าแนวขาลง) → เปิด Short
เป้าระยะสั้น: 3,278–3,285
หากหลุดต่อ → เป้าถัดไป 3,262–3,250 และอาจย่อลึกถึง 3,230–3,220
ในกรณีทะลุ 3,335 เตือนรีเทสต์โซน 3,380–3,400
📝 สรุป (Summary) 
Bias: Bearish
กลยุทธ์: รอจังหวะดีดขึ้นบริเวณ 3,321–3,335 → Short
Stop Loss: เหนือ 3,350
Take Profit: รอบแรก 3,278–3,285, รอบสอง 3,262–3,250
ขอให้เทรดปลอดภัย และบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัดครับ! 🚀
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
XAUUSD วีดีโอวางแผนเทรดทองคำวันที่ 27 มิ.ย. 2568🟡 วิเคราะห์กราฟทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 27 มิ.ย. 2568
💵ทองคําภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะSideways ในกรอบกว้าง หลังจากที่มีการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล โดยยังไม่มีความชัดเจนในด้านเจรจาและระดับความเสียหายเท่าไรนัก แต่คาดว่าน่าจะเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่ายทั้งอิสราเอลและอิหร่าน
🔍 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญ
✳️ ข่าวภูมิรัฐศาสตร์
▷ มีข่าวการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวระหว่าง อิสราเอล – อิหร่าน
▷ ยังไม่มีความคืบหน้าแน่ชัด แต่คาดว่า โรงงานนิวเคลียร์อิหร่านได้รับความเสียหาย
💵 ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ
▷ ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง → อยู่ที่ 97.26 จุด (ต่ำสุดในรอบ 3 ปี)
▷ ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวดีขึ้นเกินคาด เช่น:
▷ Durable Goods Orders, GDP Price Index, Pending Home Sales
🪙 กองทุน SPDR
▷ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครองเมื่อวานนี้
▷ ปัจจุบันถือทองอยู่ที่ 953.39 ตัน
▷ เดือนมิถุนายนซื้อสุทธิ 23.19 ตัน
▷ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 80.87 ตัน
🛠️ แผนเทรดวันนี้
📈 หาจังหวะ BUY เมื่อราคาไม่หลุด 3,270-3,280
และเกิดสัญญาณกลับตัว (Reversal Candle)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,310 - 3,320
🛑 จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3,265
📉 หาจังหวะ SELL เมื่อราคาชน 3,320 - 3,330
แล้วเกิดแรงขายชัดเจน (Pin bar / Bearish Engulfing)
🎯 เป้าหมายทำกำไร: 3,270 - 3,280
🛑 จุดตัดขาดทุน: 3,335
⚠️ คำแนะนำจากโค้ช
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
การวิเคราะห์ วันที่ 26/6/2568 buy Pannaการวิเคราะห์ วันที่ 26/6/2568 buy Panna
ราคามีการ ทะลุเส้นเทรนด์ไลน์ (Trendline) ลงมาอย่างชัดเจน โดยลงมายังบริเวณราคา 3310.09 ซึ่งถือเป็นสัญญาณเบื้องต้นของแรงขายที่มีน้ำหนักมากขึ้น
แนวโน้มราคาและระดับ Fibonacci Retracement
หากราคามีการ ย่อตัวกลับขึ้นไปที่ระดับ Fibonacci 61.8% (จากการวัดรอบล่าสุดของแนวโน้มขาลง) ให้จับตาบริเวณดังกล่าวเป็นพิเศษ เนื่องจาก:
Fibonacci 61.8% เป็นระดับที่ถือว่าเป็น “Golden Ratio” ซึ่งมักมีแรงขายกลับลงมาหากแนวโน้มยังเป็นขาลงอยู่
หากราคากลับไปทดสอบ 61.8% แล้ว ไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ พร้อมกับมีแท่งเทียนกลับตัว (เช่น Bearish Engulfing หรือ Shooting Star) อาจถือเป็น โอกาสในการเข้าเปิดสถานะขาย (Sell Position) ได้
EUR/USD พุ่งใกล้ 1.1700 ก่อนประกาศ GDP สหรัฐฯEUR/USD ดึงดูดแรงซื้อบางส่วนใกล้ระดับ 1.1700 ก่อนการประกาศ GDP ของสหรัฐฯ
คู่สกุลเงิน EUR/USD ยังคงปรับตัวขึ้นแตะใกล้ระดับ 1.1690 ในช่วงการซื้อขายของเอเชียในวันพฤหัสบดี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในอนาคต อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกของสหรัฐฯ ฉบับสุดท้าย จะได้รับความสนใจอย่างมากในวันพฤหัสบดีนี้
ภาพรวมทางเทคนิคของ EUR/USD
เป้าหมายถัดไปของแนวโน้มขาขึ้นสำหรับ EUR/USD อยู่ที่จุดสูงสุดของปี 2025 ที่ระดับ 1.1641 (24 มิถุนายน) ตามด้วยจุดสูงสุดของเดือนตุลาคม 2021 ที่ระดับ 1.1692 (28 ตุลาคม) และระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1.1700
ในทางกลับกัน แนวรับชั่วคราวอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายในช่วง 55 วัน (SMA) ที่ระดับ 1.1370 โดยมีแนวรับเพิ่มเติมที่จุดต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 1.1210 (29 พฤษภาคม) และฐานของเดือนพฤษภาคมที่ 1.1064 (12 พฤษภาคม) ทั้งหมดก่อนถึงระดับ 1.1000
ตัวชี้วัดโมเมนตัมให้สัญญาณเอื้อต่อยูโร โดยดัชนี Relative Strength Index (RSI) เพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 67 บ่งชี้ถึงศักยภาพของแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่ดัชนี Average Directional Index (ADX) ซึ่งอยู่เหนือระดับ 23 แสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มในระดับปานกลาง
ภาพรวมพื้นฐาน
ยูโร (EUR) ยังคงรักษาท่าทีเชิงบวกเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ได้อย่างมั่นคงในวันพุธ ทำให้ EUR/USD ปิดบวกเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน และเข้าใกล้จุดสูงสุดของปีนี้ที่บริเวณ 1.1640
แรงส่งของแนวโน้มขาขึ้นในคู่สกุลเงินนี้ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายลง รวมถึงถ้อยแถลงอย่างระมัดระวังของประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ ในการให้การต่อสภาคองเกรสครั้งที่สอง
ภูมิรัฐศาสตร์และการค้าเป็นหัวใจสำคัญ
การปรับตัวขึ้นของคู่เงินดูเหมือนจะได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นเชิงบวกเกี่ยวกับการประกาศหยุดยิงล่าสุดในตะวันออกกลาง ซึ่งได้รับการไกล่เกลี่ยโดยประธานาธิบดีทรัมป์
แม้ข้อตกลงจะดูเปราะบาง แต่ดูเหมือนว่าจะเพียงพอที่จะกระตุ้นกระแสเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งในที่สุดก็มีส่วนผลักดันให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าในช่วงหลัง
ในด้านการค้า นักลงทุนมีความระมัดระวังขณะจับตากำหนดเส้นตายวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับการระงับการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป (EU) ก็เดินหน้าผลักดันข้อตกลงการค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่การเจรจากับกรุงลอนดอน
ความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่าง Fed กับ ECB ยังคงอยู่
ในการประชุมนโยบายเดือนมิถุนายน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คงกรอบเป้าหมายดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25–4.50% แต่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการว่างงานและเงินเฟ้อ เพื่อสะท้อนแรงกดดันจากภาษี เจ้าหน้าที่ของ Fed มีความเห็นแตกต่างกัน โดยการคาดการณ์แบบ median dot plot แสดงให้เห็นถึงการปรับลดดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบาย 2 รายคาดว่ามีการลดเพียงครั้งเดียวในปี 2025 อีก 7 รายไม่คาดว่ามีการลดเลย และอีก 8 รายคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสิ้นสุดปีที่ระดับ 3.75%–4.00%
ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ Fed ประธาน Jerome Powell ได้แจ้งต่อสมาชิกรัฐสภาว่า อัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจเริ่มส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ Fed จะต้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ภายใต้การตั้งคำถามจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนฯ เกี่ยวกับการตัดสินใจของ Fed ที่ไม่ลดดอกเบี้ยตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ร้องขอ นาย Powell ได้ชี้แจงว่าเขาและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ใน Fed คาดว่าเงินเฟ้อจะเริ่มเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และชี้ว่าธนาคารกลางยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการลดต้นทุนการกู้ยืมในระยะสั้น
ตรงกันข้าม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Deposit Facility Rate) ลงเหลือ 2.00% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธาน ECB นาง Christine Lagarde ได้แสดงท่าทีระมัดระวัง โดยเตือนว่าการผ่อนคลายเพิ่มเติมจะต้องขึ้นอยู่กับการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญของปัจจัยภายนอก
 วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 24 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
จากกราฟ H1 ในช่วงตลาดเอเชียวันนี้:
ราคาลงมาต่ำกว่าระดับแนวรับก่อนหน้า ที่บริเวณ 3341 ซึ่งยืนยันว่า การปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใหม่
มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือการฟอร์มตัวของ คลื่น X ในโครงสร้างการปรับฐานแบบ WXY ที่ใหญ่กว่า
เนื่องจากโครงสร้างการปรับฐานในตอนนี้ ค่อนข้างซับซ้อน จึงยากต่อการวิเคราะห์เป้าหมายคลื่นที่แน่นอน
🔻 โครงสร้างของคลื่น Y:
ขณะนี้ราคากำลังฟอร์ม คลื่นขาลงแบบ 5 คลื่น โดยอยู่ใน คลื่นที่ 4
โซนเป้าหมายของคลื่น 4: 3357 – 3363 → เป็น โซนสำหรับเปิด SELL
เมื่อคลื่น 4 สิ้นสุด คาดว่าราคาจะลงต่อใน คลื่นที่ 5 ไปยังโซนเป้าหมายที่ 3327 – 3324 → เป็น โซนสำหรับเปิด BUY
หลังจากคลื่น 5 จบลง คาดว่าจะมีการดีดกลับระยะสั้น โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ 3363 – 3376 (เป้าหมายทำกำไรของฝั่ง BUY)
⚡ การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมเริ่มส่งสัญญาณกลับตัวขึ้น → คาดว่าราคาจะฟื้นตัวขึ้น ประมาณ 5–8 แท่งเทียนรายวัน (D1) หลังจบคลื่นที่ 5
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังลดลง และอาจเข้าสู่เขต Oversold ภายใน 1–2 แท่ง H4 → สนับสนุนการจบคลื่น 5
กรอบเวลา H1: โมเมนตัมกำลังเพิ่มขึ้น และใกล้เข้าสู่เขต Overbought → มีโอกาสจบคลื่นที่ 4 ภายใน 1–2 แท่ง H1 ข้างหน้า
📌 แผนการเทรด
🔹 SELL ZONE: 3363 – 3365
TP1: 3342
TP2: 3330
🔹 BUY ZONE: 3327 – 3324
SL: 3317
TP1: 3342
TP2: 3363
TP3: 3376
❗ หมายเหตุสำคัญ:
หากราคาวิ่งเข้าสู่โซนนี้ด้วยแท่งเทียน Mazuboru (แท่งเทียนยาวไม่มีไส้) และมีความผันผวนรุนแรง อย่าเพิ่งเข้าออเดอร์ทันที
รอดูแท่งเทียนปิดก่อน หากโซนถูกทะลุ ให้จับตาแนวรับถัดไปที่ 3313 เพื่อพิจารณาแผนการเทรดใหม่
ทองคำร่วงลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญ ยังคงมีขายต่อไปในทางเทคนิค เมื่อวานนี้ ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญที่ 3,300 และราคาโดยรวมผันผวนลง ตลาดสหรัฐฯ เร่งปรับตัวลดลงไปที่ 3,295 ราคาปิดของกราฟรายวันสูญเสียค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MA10/7 วันอีกครั้ง ราคาเคลื่อนตัวในแนวกลางและล่างของ Bollinger Band และตัวบ่งชี้ RSI ทะลุแกนกลาง 50 ระบบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของกราฟระยะสั้น 4 ชั่วโมงเปิดในทิศทางขาลง และราคาผันผวนลงตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MA10 วัน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันเคลื่อนตัวลงมาที่ 3,339 และตัวบ่งชี้ RSI วิ่งต่ำกว่าแกนกลาง และ Bollinger Band เปิดในทิศทางขาลง แนวคิดหลักของการซื้อขายในวันนี้คือการขายที่ระดับแนวต้านการรีบาวด์! 
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงอย่างช้า ๆ และร่วงลงไปทั้งหมด 100 ดอลลาร์ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทิศทางของตลาดชัดเจนมาก ก่อนที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นอย่างแรง การรีบาวด์ใดๆ ก็ตามจะทำให้มีโอกาสขายชอร์ต!
แนวโน้มตลาดเอเชียในวันนี้ไม่ได้ตกลงไปต่ำกว่าจุดต่ำใหม่เหมือนเช่นก่อน แต่อยู่ในช่วงการฟื้นตัว ซึ่งการฟื้นตัวนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง! เพราะหลังฟื้นตัวยังมีพื้นที่ให้ลงได้อีก! ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 1 ชั่วโมงของทองคำยังคงจัดวางในรูปแบบขาลง หลังจากทองคำร่วงลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ 3,340 เมื่อวานนี้ ทองคำยังไม่สามารถดีดตัวกลับได้ ในระยะสั้น 3,340 กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดสถานะซื้อและขาย และเกิดการกดสถานะในระยะสั้น หากทองคำทะลุผ่านและทรงตัวที่ 3,340 อีกครั้ง ทองคำอาจเริ่มผันผวนอีกครั้ง ก่อนที่จะทะลุ 3,340 ทองคำจะยังคงอ่อนแอและอยู่ในแนวโน้มขาลง จุดสำคัญ:
แนวรับแรก: 3315, แนวรับที่สอง: 3303, แนวรับที่สาม: 3290
แนวต้านแรก: 3340, แนวต้านที่สอง: 3355, แนวต้านที่สาม: 3373
แนวคิดการดำเนินการ:
ซื้อ: 3300-3303, SL: 3292, TP: 3320-3330;
ขาย: 3352-3355, SL: 3364, TP: 3330-3320;
หากต้องการแชร์เพิ่มเติม ให้คลิกที่อวาตาร์ของฉันเพื่อดู
ปัจจัยสงครามตะวันออกกลาง - ยังเป็นตัวสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่ง🔜คาดการณ์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568 
ราคาทองคำทรงตัวในวันศุกร์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 3,369 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะร่วงลง 1.90% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกำลังพิจารณาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะไม่ดำเนินการทางทหารกับอิหร่านในทันที และเลือกใช้วิธีการทางการทูตแทน
แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลงจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยง แต่แรงกดดันเพิ่มเติมต่อทองคำก็เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรที่ดำเนินการโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก การที่ทรัมป์ยับยั้งชั่งใจอิหร่านทำให้เกิดกระแสความเสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดนี้
 
💬ความคิดเห็นส่วนตัว: 
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น ราคาทองคำยังคงรอโอกาสฟื้นตัวเหนือ 3,400 ในช่วงต้นสัปดาห์
 🕯 ในทางเทคนิค: 
 ตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568 
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4  จะระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังนี้:
 แนวต้าน:  3,395 ดอลลาร์ (3,410 ดอลลาร์) 3,452 ดอลลาร์
 แนวรับ:  3,302 ดอลลาร์ (3,275 ดอลลาร์) 3,252 ดอลลาร์
 ข้อจำกัด:  การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
 หมายเหตุ:  ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
GOOG, 4H  Ending Diagonal / Rising Wedge 📉 วิเคราะห์กราฟเทคนิคอล (GOOG, 4H)
🔍 โครงสร้างราคา:
ราคาเคลื่อนตัวในลักษณะ Ending Diagonal / Rising Wedge และดูเหมือนจะ หลุดแนวรับของคลื่น v
ปัจจุบันราคา หลุดเส้น และชนเส้นล่างของ channel ขาขึ้น → เสี่ยงจะ breakdown
หากหลุดแนวรับนี้จริง → มีโอกาสลงมาทดสอบ แนวรับถัดไป ~161 / 149
🧭 กลยุทธ์การเทรด / การลงทุน
สำหรับนักเทรด:
รอทดสอบแนวรับ 161.30 → หากเกิด bullish pattern เช่น bullish engulfing ค่อยเข้า long
หากหลุด 161 แบบมี volume → ไปทดสอบ 149.05 ได้
SL แนะนำ = ต่ำกว่าแนวรับหลักที่เข้า 2–3%
สำหรับนักลงทุน:
สามารถทยอยสะสมได้ช่วง 149–161 หากลงทุนระยะกลางถึงยาว
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนส่วนบุคคลแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
4. ผลตอบแทนในอดีตที่ผ่านมา ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องเข้าใจหลักและวิธีการเงื่อนไขการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงที่ได้รับก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง (“Past performance is not a guarantee of future returns. Investing involves risks. Investors should thoroughly understand the principles, methods, conditions of investment, expected returns, and associated risks before making any investment decision.“)






















