THAIบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
..................
ธุรกิจให้บริการด้านการบินพาณิชย์แบบครบวงจรทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
....................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 19.3💥
💥D/E = 3.41 💥
💥P/E = -2.20💥
💥EPS = 0.43 💥
💥P/BV = 6.21 💥
📘 ดังนั้นเจ้าของถือหุ้นตัวนี้ในเชิงมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ ประมาณ 2.38 บาทต่อหุ้น
😎อ้างอิงวันที่ 10/9/68😎หลังตลาดปิด
....................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
ไอเดียชุมชน
มุมมองทองคำประจำวันที่ 10 / 9 / 68🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำประจำวันที่ 10 / 9 / 68
โครงสร้างทางเทคนิคทางบายยังดูได้เปรียบอยู่นะครับ
ปัจจุบันราคาย่อตัวตามเทคนิค ยังเน้นย่อบายไว้ก่อนนะครับ
💥 หากมีข้อสงสัย หรือ คำถามเพิ่มเติม ส่งคอมเม้นไว้ หรือ กล่องข้อความได้นะครับ
🔥 อาจจะไม่ได้อัพเดทใน TradingView ทุกวันนะครับ รบกวนฝากกดติดตามไว้ด้วยนะครับ
BTC/USD Daily Analysis 9/9/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
* ราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
* ตลาดคริปโตยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุนจาก Bitcoin Spot ETFs และสัญญาณการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้น
* ความผันผวนของราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Reuters (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าชื้อ(Entry Price): $111,202.50$
✅ TP1 (Take Profit 1): $111,567.89$
✅ TP2 (Take Profit 2): $112,224.13$
🛑 SL (Stop Loss): $110,520.17$
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีแรงซื้อกลับเข้ามานั้นทำให้ราคาลงทดสอบโซนที่นัยยะ ลุ้นในการยกฐานขึ้นต่อตามโครงสร้างราคา
✨
📊 RSI: 44.73% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) และมีแนวโน้มที่จะลดลง
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: $112,020.17$ (SL), $111,752.50$ (ราคาเข้า)
แนวรับ: $111,267.89$ (TP1), $111,224.13$ (TP2)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าขายเมื่อราคาทะลุแนวรับสำคัญและมีสัญญาณ Death Cross ของ EMA พร้อมกับ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อทำกำไรจากการปรับฐานของราคา
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD วีดีโอวางแผนเทรดทองคำวันที่ 10 ก.ย. 2568🟡 วิเคราะห์กราฟทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2568
📊 ภาพรวมตลาด
🚀 ราคาทองคำทำ All-Time High $3,675 ก่อนเจอแรงขายทำกำไร → ปิดที่ $3,626
📊 นักลงทุนยังคงเก็งกำไรจากความคาดหวังว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.
💵 ค่าเงินบาทแข็งวานนี้แตะ 31.57 บาท/ดอลลาร์ → เช้านี้อ่อนเล็กน้อยที่ 31.73 บาท/ดอลลาร์
🏷️ ราคาทองคำไทยขึ้นสูงสุด 54,700 บาท → ปรับลงเหลือ 54,600 บาท
💲 ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย → 97.76 จุด (จาก 97.38 จุด)
1️⃣ Trend (แนวโน้ม)
📈 ราคายังแกว่ง Sideway แคบ ๆ หลังจากดีดแรงก่อนหน้า
📊 RSI = 57 → อยู่กลาง ๆ ยังไม่ Overbought / Oversold
2️⃣ Structure (โครงสร้างราคา)
🔻 หลังทำ High แถว ๆ 3,665 → ราคาอ่อนแรงลงมา
🔄 ตอนนี้กำลังรีบาวด์ แต่ยังไม่ชัดว่าจะกลับไปทำ High ใหม่ได้หรือไม่
3️⃣ Zone (โซนสำคัญ)
🟥 Resistance: 3,655 – 3,660
🟩 Support 1: 3,638 – 3,640
🟩 Support 2: 3,630 – 3,632
4️⃣ Signal (สัญญาณเข้า)
🟢 Buy Plan: ถ้ายืนเหนือ 3,638 ได้ → มีลุ้นดีดไปเทส 3,655
🔴 Sell Plan: ถ้าหลุด 3,638 → อาจย่อลงต่อไป 3,630
5️⃣ Risk (การบริหารความเสี่ยง)
⚠️ Buy SL: ใต้ 3,638 (TP → 3,655)
⚠️ Sell SL: เหนือ 3,655 (TP → 3,630)
📊 สรุป: ตอนนี้ TF 5 นาทีอยู่ในช่วงพักฐาน 😴
➡️ หากยืนเหนือ 3,638 ได้ → มีโอกาสดีดขึ้นเทส 3,655 🚀
➡️ หากหลุด 3,638 → มีโอกาสย่อลงไป 3,630 🔻
ทองคำพักฐานใกล้จุดสูงสุด ดอลลาร์ฟื้นกดดันขาขึ้นราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะดอลลาร์ฟื้นตัวและบรรยากาศการลงทุนเป็นบวกกดดัน
* ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวหลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ก่อน
* การฟื้นตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก กดดันไม่ให้ราคาทองปรับขึ้นต่อ
* การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดดอกเบี้ย มีแนวโน้มจำกัดการแข็งค่าของดอลลาร์ และช่วยหนุนทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนดอกเบี้ย
ราคาทองคำ (XAU/USD) เข้าสู่ช่วงการปรับฐานในทิศทางขาขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ใหม่ โดยเคลื่อนไหวในกรอบต่ำกว่าระดับ 3,600 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อวันศุกร์ การดีดตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม อันเป็นผลมาจากตัวเลขการจ้างงานรายเดือนที่น่าผิดหวัง กลายเป็นแรงกดดันสำคัญต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ บรรยากาศเชิงบวกในตลาดหุ้นโดยรวมยังช่วยจำกัดความต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำ
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตลาดคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะผ่อนคลายนโยบายอย่างเชิงรุกจากตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอกว่าคาด อีกทั้งธนาคารกลางหลายแห่งยังคงเข้าซื้อทองคำสุทธิ แม้ในระดับราคาปัจจุบัน ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำต่อไป แต่สัญญาณภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อาจทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์นี้
---
## สรุปสถานการณ์ตลาด: กระทิงทองคำพักตัว ท่ามกลางการฟื้นตัวเล็กน้อยของดอลลาร์และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง
รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐเมื่อวันศุกร์เผยว่า เศรษฐกิจเพิ่มการจ้างงานเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์อย่างมาก อีกทั้งการทบทวนตัวเลขย้อนหลังพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐสูญเสียงาน 13,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลง
รายละเอียดเพิ่มเติมระบุว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% จาก 4.2% ในเดือนกรกฎาคม ตามที่ตลาดคาด ขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานขยับขึ้นเป็น 62.3% จาก 62.2% นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงรายปีลดลงมาอยู่ที่ 3.7% ในเดือนสิงหาคม จาก 3.9% ในเดือนก่อนหน้า
นักลงทุนตอบสนองอย่างรวดเร็ว และกำลังคำนวณโอกาสที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนกันยายน อีกทั้งตลาดยังมองว่ามีโอกาสสูงที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งช่วยดันราคาทองคำขึ้นไปแตะ 3,600 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันศุกร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ในทิศทางบวก ฟื้นตัวบางส่วนจากการร่วงลงหลังตัวเลข NFP ไปแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ขณะที่บรรยากาศการลงทุนที่สดใสกลายเป็นแรงกดดันต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนกำลังจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาปัจจัยขับเคลื่อนใหม่
---
## ทองคำจำเป็นต้องปรับฐานก่อนขึ้นต่อ ท่ามกลางสัญญาณ RSI อยู่ในเขตซื้อมากเกินไป
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่เหนือระดับ 70 อย่างชัดเจนบนกราฟรายวัน สะท้อนภาวะซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าควรรอการปรับฐานระยะสั้นหรือการย่อตัวเล็กน้อย ก่อนที่นักลงทุนฝั่งกระทิง (XAU/USD Bulls) จะเข้ามาเสริมแรงเพื่อขยายโมเมนตัมขาขึ้นต่อ
อย่างไรก็ตาม การย่อตัวใด ๆ มีแนวโน้มดึงดูดแรงซื้อใหม่บริเวณ 3,545 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยจำกัด downside ไว้แถว 3,510–3,500 ดอลลาร์ หากหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ราคาทองจะถอยไปยังบริเวณ 3,440 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมของกรอบการซื้อขาย และจะทำหน้าที่เป็นฐานรองรับระยะสั้นที่แข็งแกร่ง
MACD Quadrant – จับตา 10 หุ้นใหญ่สหรัฐฯMACD Quadrant Matrix เพื่อจัดกลุ่มหุ้นใหญ่ (US Majors) ออกเป็น 4 Quadrants ตามพลังขาขึ้น/ขาลง
🔹 Q1 (Strong Uptrend) → หุ้นที่ MACD และ Momentum อยู่ในโซนแข็งแรง เช่น GOOGL, AAPL, TSLA → สะท้อนว่ากำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
🔸 Q2 (Uptrend Pausing) → หุ้นที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแต่เริ่มชะลอ เช่น META → อาจต้องรอจังหวะยืนยันแนวโน้ม
🔻 Q3 (Downtrend Pausing) → หุ้นที่เพิ่งหลุดลงมา อาจกำลังพักตัว
🔴 Q4 (Full Downtrend) → หุ้นที่ MACD ติดลบชัดเจน เช่น MSFT, NVDA → ควรระวังแรงขายต่อเนื่อง
สรุป: ตอนนี้หุ้นเทคใหญ่ส่วนหนึ่งยังยืนใน Q1 (เป็นแรงหนุนตลาด) แต่ต้องจับตาหุ้นที่หลุดไป Q4 อย่าง MSFT, NVDA ว่าจะเป็นการปรับฐานชั่วคราวหรือการกลับตัวระยะกลาง
ยูโรเสริมสร้างแม้จะเป็นรัฐบาลฝรั่งเศสยุบ เงินยูโรจะผลักดันความคิดฟุ้งซ่านหลายเดือนและยืดไปยังเป้าหมายคว่ำต่อไปที่ 1.1769(27 กรกฎา
ตัวชี้วัดโมเมนตัมยังสนับสนุนการย้าย เปอร์เซนต์รายการสั่งซื้อ ค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรด
ราคายังมีการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นด้วยค่าเฉลี่ย 20 ชั่วโมงทำหน้าที่เป็นแนวรับแบบไดนามิกที่มีศักยภาพตั้งแต่การฝ่าวงล้อมในวันที่ 7 กันยายน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในฐานะนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสฟรังซัวส์เบย์รูและรัฐบาลชนกลุ่มน้อยเป็นศูนย์กลางของเขาถูกขับไล่ในการออกเสียงลงคะแนนความเชื่อมั่นในสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศสในวันจันทร์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยูโรโซนหลังจากที่เยอรมนี
EURUSD Daily Analysis 9/9/2025 by TraderTanTrading note: EURUSD
China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้แข็งค่าขึ้น 0.0021 หยวน แตะที่ระดับ 7.1008 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดอินเตอร์แบงก์จะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน
BUY : 1.17729
TP : 1.18186
SL : 1.17444
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ราคายังคงสวิงขึ้นลงในกรอบไซด์เวย์เดิมอีกครั้ง โดยมีรอบการปรับตัวขึ้นเรื่อยๆจากการยืนเหนือเส้น EMAท้งสามเส้น จึงทำการเข้า BUYโดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ระบบเทรดที่เหมาะกับพนักงานประจำ: สร้างพอร์ตให้เติบโตได้ แม้ไม่มีในยุคที่การลงทุนในตลาดหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมอย่างสูง 💻 หลายคนสนใจที่จะเข้ามาเป็นนักลงทุน แต่สำหรับ พนักงานประจำ 🧑💼 ที่มีตารางงานแน่นเอี้ยด การหาเวลามานั่งเฝ้าจอเพื่อเทรดแบบรายวันอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ❌ แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้เราสามารถลงทุนและสร้างผลตอบแทนได้ โดยไม่ต้องทิ้งงานประจำ?
คำตอบคือการเลือกใช้ ระบบเทรดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของพนักงานประจำ ซึ่งเน้นการลงทุนระยะยาวและใช้กลยุทธ์ที่ไม่ต้องใช้เวลาติดตามตลาดตลอดเวลาครับ ⏰
1. การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) 💰
DCA คือการทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่ากันอย่างสม่ำเสมอในทุกงวด เช่น ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน 🗓️ โดยไม่สนใจว่าราคา ณ ตอนนั้นจะสูงหรือต่ำ กลยุทธ์นี้เหมาะกับพนักงานประจำที่สุด เพราะไม่ต้องใช้เวลาวิเคราะห์ตลาดมากนัก
ข้อดี :
ลดความเสี่ยงจากการซื้อที่จุดสูงสุด: การซื้อกระจายหลายๆ ครั้งจะช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนให้ใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยในระยะยาว 📉
สร้างวินัยในการออมและการลงทุน: การลงทุนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เงินทุนของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง 🌱
ประหยัดเวลา : ไม่ต้องเฝ้าดูราคา ไม่ต้องจับจังหวะเข้าซื้อ เหมาะกับคนที่ยุ่งตลอดเวลา 🏃♂️
เหมาะสำหรับ : การลงทุนในกองทุนรวม, กองทุน ETF, หรือหุ้นพื้นฐานดีที่เรามั่นใจในระยะยาว 💎
2. ระบบเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following System) 📊
ระบบนี้จะเน้นการเข้าซื้อและถือครองเมื่อเห็นว่าสินทรัพย์นั้นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น (Uptrend) 🚀 และจะขายออกเมื่อสัญญาณเปลี่ยนเป็นขาลง (Downtrend) 📉 การลงทุนแบบนี้ไม่ต้องซื้อขายบ่อยๆ แต่จะใช้สัญญาณทางเทคนิคในการตัดสินใจ
การประยุกต์ใช้สำหรับพนักงานประจำ:
ใช้กรอบเวลารายสัปดาห์หรือรายเดือน: แทนที่จะใช้กราฟรายวันหรือรายชั่วโมง ให้เปลี่ยนมาดูกราฟที่มีกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้น ทำให้เราไม่ต้องเช็กบ่อยๆ แค่อาทิตย์ละครั้งก็พอแล้ว 🗓️
ใช้เครื่องมือที่เรียบง่าย: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ถ้าเส้นราคาตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย ก็เป็นสัญญาณซื้อ หรือถ้าตัดลงมาก็เป็นสัญญาณขาย 🟢🔴
3. การลงทุนแบบคุณค่า (Value Investing) 🧐
กลยุทธ์นี้เน้นการค้นหาหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีกำไรสม่ำเสมอ แต่ราคาในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น เมื่อเจอแล้วก็จะเข้าซื้อและถือยาวไปจนกว่าราคาจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง 💼
ทำไมถึงเหมาะกับพนักงานประจำ:
เน้นการวิเคราะห์บริษัท ไม่ใช่การเก็งกำไร: การวิเคราะห์งบการเงินหรือโมเดลธุรกิจสามารถทำได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 📚 ไม่ต้องใช้เวลาในวันทำงาน
ไม่ต้องเฝ้าจอ: การลงทุนแบบนี้เป็นการถือครองระยะยาวเป็นปีๆ ทำให้ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ 🧘♀️
ข้อควรจำก่อนเริ่มต้น 💡
จัดสรรเงินลงทุน: ใช้เงินเย็นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 🧊
ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน: ไม่ว่าจะใช้ระบบเทรดไหน การทำความเข้าใจสินทรัพย์ที่เราจะลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด 📚
อย่าเชื่อคนอื่นทั้งหมด: สัญญาณซื้อ-ขายที่คนอื่นให้มาอาจไม่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของเราเสมอไป จงลงทุนในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจและมั่นใจเท่านั้น 💪
การเป็นพนักงานประจำไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเลยครับ เพียงแค่เราต้องเลือก "ระบบเทรดที่เหมาะสมกับตัวเรา" และสร้างวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายแล้ว พอร์ตการลงทุนของเราก็จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงครับ 🌳
มุมมองทองคำกราฟ 4H – ซื้อเมื่อย่อตัว หรือขายสั้นเมื่อร่วง?ทองคำบนกราฟ 4 ชั่วโมงกำลังแกว่งตัวสะสมกำลังต่ำกว่าโซน 3,600 หลังจากขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โครงสร้างราคาปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าราคากำลังพักตัวใกล้ระดับพรีเมียม โดยมีสภาพคล่องก่อตัวทั้งเหนือระดับ 3,600 และต่ำกว่า 3,530 บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการกวาดสภาพคล่องก่อนการขยายตัวครั้งใหญ่ถัดไป
📌 โครงสร้างหลักและโซนสภาพคล่อง (4H):
🔼 โซนซื้อ 3,572 – 3,574 (SL 3,565): โซนอุปสงค์ใหม่ที่อยู่ในโซนราคาส่วนลดในกรอบย่อย เหมาะสำหรับการต่อเนื่องของขาขึ้น
🔽 โซนขายสั้น (Scalp) 3,530 – 3,526 (SL 3,537): โซนอุปทานระยะสั้น/โซน Pivot เหมาะกับการเก็งกำไรสั้นถ้าราคาถูกปฏิเสธ
📍 แม่เหล็กสภาพคล่อง 3,603 – 3,605: โซน Imbalance ด้านบนที่มีแนวโน้มจะถูกปิดช่องว่าง
📊 ไอเดียการเทรด (ตามสถานการณ์):
🔺 แผนซื้อ – การตอบสนองจากโซนอุปสงค์
จุดเข้า: 3,572 – 3,574
Stop Loss: 3,565
เป้ากำไร (TP):
TP1: 3,585
TP2: 3,595
TP3: 3,605
👉 โซนอุปสงค์ที่สอดคล้องกับโฟลว์ออเดอร์ขาขึ้น รอดูการกวาดสภาพคล่องและแรงรีเจกต์เพื่อกลับเข้าสู่แนวโน้มหลัก
🔻 แผนขายสั้น (Scalp) – การตอบสนองระยะสั้น
จุดเข้า: 3,530 – 3,528
Stop Loss: 3,537
เป้ากำไร (TP):
TP1: 3,520
TP2: 3,510
TP3: 3,500
👉 โซนอุปทานและ Pivot ระดับอินทราเดย์ เหมาะสำหรับการทำกำไรระยะสั้นสวนแนวโน้ม โดยเน้นเก็บสภาพคล่องฝั่งขาลง
🔑 หมายเหตุเชิงกลยุทธ์
มุมมองโดยรวมยังคงเป็น ขาขึ้น แต่สามารถเปิดชอร์ตระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรได้ เซ็ตอัปที่สะอาดที่สุดคือการซื้อจากโซน 3,572–3,574 เพื่อเดินหน้าต่อสู่ 3,600+ ทั้งนี้ Smart Money อาจกวาดสภาพคล่องแถว 3,530 ก่อนกลับตัวขึ้นไป
ตอนนี้เราอยู่ในฟองสบู่ AI หรือเปล่า?🔎 ภาพรวมแนวโน้ม (Elliott Wave Analysis)
กราฟนับคลื่นครบ 5 คลื่นแล้ว (Impulse Wave 1–5)
ตอนนี้อยู่ในช่วงจบคลื่นที่ 5 และเริ่มมีสัญญาณพักตัว/ปรับฐาน
หลังจบคลื่น 5 ปกติจะเข้าสู่ Corrective Wave A–B–C
📉 แนวรับ–แนวต้านสำคัญ (Fibonacci Retracement)
38.2% ≈ 115.60 → แนวรับแรก (พักตัวเบาๆ)
50.0% ≈ 94.07 → แนวรับกลาง
61.8% ≈ 72.53 → TARGET correction หลัก ⭐
78.6% ≈ 41.87 → แนวรับสุดท้าย หากลงแรง
⚠️ จุด Invalidation
หากราคากลับขึ้นไปยืนเหนือ 185.27 ได้ชัดเจน → การนับคลื่นนี้อาจผิด และมีโอกาสทำ New High ต่อ
📊 Volume & Indicator
Volume ช่วงปลายคลื่น 5 เริ่มลดลง 📉
MACD มีสัญญาณ Divergence ขาลง ⚠️ ยืนยันการพักตัว
📝 แนวทางการเล่น
สายลงทุน (Investor) 🏦 → รอสะสมในโซน 94 – 72 USD (Fibo 50–61.8%)
สายเทรด (Trader) ⚡ → มอง Wave C Correction มีโอกาสลงต่อ 115 → 94 → 72
185.27 ยังต้องเฝ้าระวังการดีดกลับขึ้นไปทำ High ใหม่
✅ บทสรุป
NVDA มีสัญญาณจบคลื่น 5 แล้ว กำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐาน Correction
Target Correction หลักอยู่ที่ 72 – 94 USD
กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือ “รอเข้าซื้อในโซนล่าง” มากกว่าการไล่ราคา
หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้เพื่อการศึกษา ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดใช้วิจารณญาณ 🙏
07-09-2068 / วิเคราะห์กราฟ BTCUSD (H1) ด้วยเทคนิค Z-13 Protocol วิเคราะห์กราฟ BTCUSD (H1) ด้วยเทคนิค Z-13 Protocol
07-09-2068
🔎 ภาพรวมของกราฟ
กราฟเป็น Timeframe 1H (BTC/USD – Bitstamp)
มีการวางแผนเทรดแบบ Short (Sell) โดยมี
จุดเข้า (Entry): ประมาณโซน 110,600–111,200
SL (Stop Loss): เหนือ 111,200
TP (Take Profit): ลึกลงมาประมาณ 107,400
Risk/Reward = ค่อนข้างสูง (มากกว่า 1:5)
การจับคู่ SnD + ICT (Z-13 Protocol)
1.SnD (Supply & Demand)
เห็นชัดว่ามี Supply Zone อยู่บริเวณ 111,000–111,200 (กรอบสีแดงด้านบน)
โซนนี้เกิดจากการ Break Structure ลงมาแรง → เป็นฐาน Supply ที่ใช้ตั้ง SL
2.ICT Concept
-Asian Range ถูกทำเครื่องหมายแล้ว (กรอบแคบในช่วงกลางคืน) → มักใช้เป็นจุดดึงราคา
-London Killzone & 3AM → ราคา Break ขึ้นไป Test แล้ว Reject
-New York Open (NYO) → มีการดันขึ้นเล็กน้อยแล้วเกิด Shift in Market Structure (SMS) ลงมา → ยืนยัน Bias ขาลง
3.Z-13 การผสานกัน
-ใช้ Supply Zone (SnD) เป็นตัวอ้างอิงสำหรับจุดเข้า
-ใช้ ICT Killzones (Asia → London → NY) เพื่อจับจังหวะ Confirm
-พอราคาเข้ามา Test Supply และ Reject → เข้าขายพร้อม SL ชัดเจน
-TP เลือกวัดจาก Liquidity Pool / Demand Zone ด้านล่าง (Low ก่อนหน้า) → อยู่ที่ 107,400
🎯 แผนเทรด (ตาม Z-13)
-Bias หลัก: ขาลง
-Entry: โซน Supply 110,800–111,200
-Stop Loss: เหนือ 111,200 (กัน Fake Break)
-Take Profit: 107,400 (ตาม Liquidity Target)
-Risk/Reward: ประมาณ 1:5 – 1:6 (ถือว่าคุ้มค่า)
⚠️ สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง
1.หากราคากลับขึ้นไปยืนเหนือ 111,200 ได้อย่างมั่นคง → Setup ขาลงนี้จะ Fail
2.อาจมีการรีเทสต์หลายครั้งในโซน Supply ก่อนลงจริง
3.ต้องดู Volume/Order Flow ประกอบ → ถ้ามีแรงซื้อหนาแน่นเกินไป ให้เลี่ยงการเข้า
✅ สรุป: ตาม Z-13 Protocol การเทรดนี้คือการใช้ Supply Zone (SnD) + ICT Killzones & Market Structure Shift เพื่อเข้า Short โดยมีจุดเข้าแคบ แต่เป้าหมายลึก → ถือเป็น Setup ที่แข็งแรงใน Bias ขาลง
ฝึกอ่านกราฟหาจุดเข้าให้คมที่สุดได้ทดลองศึกษาIchimoku Cloud ดูครับ มองทีแรกตาลายเลย........แต่พอถามAIไปพยายามทำความเข้าใจเออ...มันก็พอเข้าใจอยู่นะ
ข้อมูลภาพรวมโดย AI
การใช้งาน Ichimoku Cloud สรุปได้คือ ใช้หาแนวโน้ม, สัญญาณซื้อ-ขาย, และหาแนวรับ-แนวต้าน โดยมีหลักการดังนี้:
แนวโน้ม:
ขาขึ้น: ราคาอยู่เหนือเมฆ, เมฆมีสีเขียว (Senkou A อยู่เหนือ Senkou B)
ขาลง: ราคาอยู่ใต้เมฆ, เมฆมีสีแดง (Senkou A อยู่ใต้ Senkou B)
สัญญาณซื้อ-ขาย:
สัญญาณซื้อ: Tenkan-sen ตัดขึ้นเหนือ Kijun-sen และราคาอยู่เหนือเมฆ
สัญญาณขาย: Tenkan-sen ตัดลงต่ำกว่า Kijun-sen และราคาอยู่ใต้เมฆ
แนวรับ-แนวต้าน:
เมฆ (Cloud) ใช้เป็นแนวรับและแนวต้าน
เส้น Tenkan-sen และ Kijun-sen ก็ใช้เป็นแนวรับ-แนวต้านได้เช่นกัน
การยืนยัน:
สัญญาณจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านเมฆ และการดูทิศทางของ Chikou Span ที่ตัดผ่านกราฟก็ช่วยยืนยันแนวโน้มได้
สรุปหลัก: เทรดเดอร์ใช้การตัดกันของเส้น Tenkan-sen และ Kijun-sen ร่วมกับการดูตำแหน่งราคาเทียบกับเมฆ เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อหรือขาย
สรุป ส่วนตัวขอไว้พอรู้พอเข้าใจแต่คงไม่ใช้งาน ถนัดกราฟเปล่ามากกว่า นานาจิตตังนะครับใครถนัดแบบไหนก็ใช้แบบนั้นครับไม่ต้องดราม่านะครับ
สุดท้ายเพิ่งอ่านทำความเข้าใจวันนี้วันแรก(เมื่อครึ่งชม.มานี่เองนะ)ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
แผนทองคำ วันที่ 5 กันยายน (XAUUSD) หลังจากเมื่อวาน ทองคำได้มีการย่อพักตัวของ TF 1H แล้วตามเงื่อนไข
วันนี้เรามีมุมมองทองคำให้ 2 แบบ นะครับ
- ในทางขาขึ้นเราจะมองให้กราฟ TF 1H ลงมา OS 1 รอบ หรือจะ ลากเลื้อยขึ้นต่อโดย มีเป้าแนวต้าน 3582 และ 3613 ส่วนเป้าไกลแนวต้าน 3634 และ 3726 โดยภายในวันถ้ามีการย่อลงมา หลุด 3511 ก็อาจจะเป็นการเอา 4H ลง OS 1 รอบ แต่ต่อให้หลุด 3511 ยังไม่ได้หมายความว่า ทองคำดูไม่ดี แนวรับสำคัญยังคงไว้ที่ 3470 นะครับ
- ในทางขาย่อพัก เราจะรอ SELL ในจุดที่ได้เปรียบ หวังให้เกิดการย่อใน TF 4H 1 รอบ OS
โดยเราจะรอในราคาที่สูง ตามแนวต้านแรก 3582 แนวนี้ถ้าชนแล้วยืนไม่ได้มีโอกาสย่อพักตัว หรือ ถ้าราคาไม่ผ่าน 3578 ก็มีโอกาสย่อได้
** ราคาทองคำอยู่ในที่สูงแล้ว เทรดด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ อาจจะ ย่อแรงได้ หรือพุ่งแรง ก็ได้ มีสติการนะครับ **
BITCOIN – ทะลุแนวรับที่ 116,500 USDTราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 111,100 USDT หลังจากทะลุผ่านกรอบแนวโน้มขาลงระยะยาว การทะลุผ่านนี้ช่วยให้ราคาฟื้นตัวในระยะสั้น และปัจจุบันยืนเหนือเส้น EMA สำคัญ
ดัชนี DXY อ่อนตัวลง หนุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ BTC ยืนเหนือ 110,000 ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง Fibonacci Extension แสดงให้เห็นโซนราคาถัดไปที่ 116,500 USDT (ระดับ Fibonacci 1.618)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบันยังคงทรงตัว เนื่องจาก BTC ยังคงยืนเหนือเส้นแนวโน้มแนวรับและ EMA ในระยะสั้น อาจมีการดีดตัวกลับที่ระดับ 110,500 – 111,000 ซึ่งหลังจากนั้นโมเมนตัมขาขึ้นน่าจะผลักดันราคาให้เข้าใกล้โซนเป้าหมายที่ 116,500
👉 คุณคิดว่าราคา BTC จะพุ่งไปถึง 120,000 ทันทีหลังจากแตะ 116,500 หรือไม่?
อัตราต่อรองตัดเฟดตี 97%ก่อนรายงานงานของวันศุกร์อัตราต่อรองตัดเฟดตี 97%ก่อนรายงานงานของวันศุกร์
ตลาดกำลังรอวันศุกร์รายงานงานของสหรัฐเงื่อนงำซึ่งหนักอาจมีอิทธิพลต่อการย้ายต่อไปขอ
เทรดเดอร์ต้องการผลลัพธ์ที่สนับสนุนกรณีสำหรับการลดอัตราแต่ไม่ได้เพิ่มความกลัวของเศ รายงานการจ้างงานส่วนตัวพบว่า 54,000 งานใหม่ในเดือนสิงหาคม หุ้นย้ายที่สูงขึ้นในข่าวเป็นวอลล์สตรีทเห็นจำนวนเป็นอ่อนแอพอสำหรับเฟดจะปรับลดอัตรา
ขณะนี้มีโอกาส 97%เฟดจะลดอัตราเมื่อมันตรงกับในสองสัปดาห์
BTC/USD Daily Analysis 5/9/2025 by TraderTan
📰 ข่าวต่างประเทศ
* ราคา Bitcoin ยังคงได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและกระแสเงินลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
* ตลาดคริปโตกำลังจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin
* การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมใหม่ๆ บนบล็อกเชน Bitcoin ยังคงเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวที่หนุนราคา
cr. Cointelegraph, CoinDesk, Bloomberg (และแหล่งข่าวอื่นๆ)
Trading Note (BUY)
➡️ เข้าซื้อ (Entry Price): $111,728.37$
✅ TP1 (Take Profit 1): $114,712.09$
🛑 SL (Stop Loss): $110,519.32$
💡 เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีการปรับตัวขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาลง
เส้น EMA 20 (สีส้ม) กำลังจะตัดขึ้นเหนือ EMA 50 (สีเหลือง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
ราคายืนเหนือ EMA ทั้งสามเส้น (รวมถึง EMA 200) บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่
✨ Fibonacci: ้เป้ามหายในการเข้า คือ 1.68
📊 RSI: 51.71% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคายังไม่อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
🧱 แนวรับแนวต้านสำคัญ:
แนวต้าน: $114,712.09$ (TP)
แนวรับ: $110,519.32$ (SL), $111,728.37$ (ราคาเข้า)
🧠 ประสบการณ์:
การเข้าซื้อเมื่อราคา Breakout เหนือแนวโน้มขาลงและยืนยันด้วยสัญญาณ Golden Cross ของ EMA เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าเทรดตามแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
❗นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉะนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ฉันควรซื้อทองคำต่อไปไหม?หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 วัน เมื่อวานนี้ราคาทองคำกลับถูกเทขาย โดยร่วงลงสู่จุดต่ำสุดที่ 3,510 จุด ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นไปที่ประมาณ 3,560 จุด ในทางเทคนิคแล้ว รูปแบบการปิดตลาดนี้มักเป็นรูปแบบการเปลี่ยนผ่านภายในแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากราคายังคงอยู่ในช่องทางขาขึ้น นอกจากนี้ รูปแบบ Double Top หรือ Head-and-Shoulders Top ยังไม่ปรากฏและคงตัว
กราฟรายวันปรับตัวลดลงสู่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วันที่ 3,511 จุดเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะแตะจุดต่ำสุดและดีดตัวขึ้น ตลาดกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในตลาดยุโรปและอเมริกา โดยดีดตัวขึ้นไปที่ประมาณ 3,559 จุด ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันและ 7 วันยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเคลื่อนตัวไปที่ 3,504 จุด และ 3,467 จุด ตามลำดับ ตัวบ่งชี้ RSI ยังคงสูงกว่า 70
ในกราฟระยะสั้น 4 ชั่วโมง ราคาทองคำซื้อขายอยู่ในกรอบ Bollinger Band ระดับกลางบน โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวมาบรรจบกัน และ Bollinger Band รายชั่วโมงปิดตัวลง สำหรับข้อมูลข่าว แนะนำให้จับตาข้อมูล NFP ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะเป็นขาลงเล็กน้อย แต่อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น 4.3% ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับทองคำ กลยุทธ์หลักสำหรับการซื้อขายระหว่างวันคือการมุ่งเน้นไปที่ความผันผวนในวงกว้าง โดยเน้นการซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลง!
ประเด็นสำคัญ:
แนวรับแรก: 3536, แนวรับที่สอง: 3523, แนวรับที่สาม: 3510
แนวต้านแรก: 3562, แนวต้านที่สอง: 3576, แนวต้านที่สาม: 3590
กลยุทธ์การซื้อขาย:
ซื้อ: 3535-3538, SL: 3527, ราคาเป้าหมาย: 3560-3570
ขาย: 3577-3580, SL: 3588, ราคาเป้าหมาย: 3560-3550
ราคาทองคำ (XAU/USD) กำลังอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ขณะนี้เคลื่อนไวิเคราะห์ XAU/USD (กราฟ 4H)
1. แนวโน้มโดยรวม
ราคาทองคำ (XAU/USD) กำลังอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ขณะนี้เคลื่อนไหวบริเวณ 3,495 หลังจากทะลุระดับ Fibonacci สำคัญได้
กราฟแสดงรูปแบบ W (double bottom กลับด้าน) บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ผลักดันราคาให้สูงขึ้น
2. ระดับ Fibonacci สำคัญ
0.786 (3,431): ราคาได้ทะลุขึ้นและยืนได้ แสดงถึงแรงขาขึ้นระยะสั้น
1.0 (3,512): โซนแนวต้านสำคัญ ปัจจุบันราคากำลังทดสอบ (ลูกศรสีน้ำเงินบ่งชี้ความเป็นไปได้ที่จะย่อตัว)
0.618 (3,368) และ 0.5 (3,323): เป็นแนวรับสำคัญหากเกิดการย่อตัว
3. RSI (Relative Strength Index)
RSI อยู่ที่ประมาณ 79 แสดงภาวะ ซื้อมากเกินไป (overbought) → มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปรับฐานในระยะสั้น
ในอดีต เมื่อ RSI > 75 มักจะมีการย่อตัวตามมา
4. แผนการเทรด
กรณีที่ 1 – การย่อตัวระยะสั้น (คาดการณ์หลัก):
หากราคาถูกปฏิเสธที่บริเวณ 3,495 – 3,512 มีโอกาสย่อลงไปที่ 3,431 หรือ 3,368
👉 จุดเปิด Short: แถว 3,495 – 3,510
👉 เป้าหมาย: 3,431 → 3,368 → 3,323
👉 Stoploss: เหนือ 3,520
กรณีที่ 2 – ขาขึ้นต่อเนื่อง (ถ้าทะลุได้):
หากราคาทะลุ 3,512 พร้อมปริมาณการซื้อขายสูง ขาขึ้นอาจต่อเนื่อง
👉 เป้าหมายถัดไป: 3,550 – 3,580
📌 สรุป: ขณะนี้ XAU/USD กำลังทดสอบแนวต้านสำคัญ และ RSI อยู่ในโซนซื้อมากเกินไป → มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดการ ย่อตัวระยะสั้น ก่อนที่จะขึ้นต่อได้
EURUSD Daily Analysis 1/9/2025 by TraderTanTrading note: EURUSD
สถาบันการเงินทั่วโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้น่าจะผ่านจุดต่ำสุดในสิ้นปีนี้ และคาดว่ากลับมาขยายตัวในอัตรา 1.8% ในปี 2569
ผลสำรวจสถาบันการเงินทั่วโลกโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า อัตราการเติบโตเฉลี่ยของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2569 จากการคาดการณ์ของ 41 สถาบันทั้งในและต่างประเทศอยู่ที่ 1.8% ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากตัวเลข 0.9% ที่ธนาคารกลางเกาหลี (BOK) คาดไว้สำหรับปีนี้
SELL : 1.17080
TP : 1.16591
SL : 1.17367
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ราคาเริ่มสวิงขึ้นไปทดสอบกรอบแนวต้านเดิมในกรอบไซด์เวย์กว้างอีกครั้ง โดยคาดหวังการกลับตัวลงในรอบสวิงถัดไป จึงทำการเข้าSELL โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ทองคำจะกลับไปที่ระดับ 3400 หรือไม่?บริบทของตลาด
ราคาทองคำแสดงการ Break of Structure แบบขาขึ้นหลายครั้ง ยืนยันกระแสการไหลของคำสั่งซื้อระยะสั้นในฝั่งขาขึ้น
โซนอุปทานบริเวณ 3449 – 3451 อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาเนื่องจากสภาพคล่อง
Fair Value Gap ระหว่าง 3360 – 3310 ยังคงเปิดอยู่ และอาจดึงราคาลงมาก่อนการเคลื่อนไหวขาขึ้นต่อไป
ระดับสำคัญ
โซนอุปทาน: 3449 – 3451
โซนซื้อ 1: 3396 – 3400 (SL: 3390)
โซนซื้อ 2: 3310 – 3315 (SL: 3303)
FVG โซน: 3360 – 3310
สถานการณ์การเทรด
แผนหลัก (ฝั่งซื้อ)
จุดเข้า: 3396 – 3400
Stop Loss: 3390
เป้าหมาย: 3449 – 3460 (เก็บสภาพคล่อง)
แผนสำรอง (ซื้อเมื่อดึงลึก)
จุดเข้า: 3310 – 3315
Stop Loss: 3303
เป้าหมาย: 3396 – 3449
การขายสวนเทรนด์ (Counter-trend)
จุดเข้า: 3449 – 3451 หากมีสัญญาณปฏิเสธราคา
Stop Loss: เหนือ 3458
เป้าหมาย: โซน Demand ที่ 3400
สรุป
มุมมองหลักยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีโซนซื้อที่สำคัญ 2 ระดับ: 3400 สำหรับการย่อเล็กน้อย และ 3310 สำหรับการดึงลึกเพื่อเก็บสภาพคล่อง ส่วนการขายจากโซนอุปทานควรพิจารณาเฉพาะเป็นการเทรดสวนเทรนด์ระยะสั้นเท่านั้น






















