Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นเสี่ยง
แรงซื้อที่มีเข้ามาช่วงปลายตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,364.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.68 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว ระยะกลางดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (18/11) ตลาดปรับตัวลดลงหลังดัชนีดีดตัวขึ้นสร้างจุดสูงใหม่ ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence กดดันให้เกิดแรงขายออกมา ส่งผลให้ดัชนีระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง ดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,365 จุด และมีช่องว่างขาลงที่ 1,382 – 1,396 จุด เป็นแนวต้านร่วม ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,426 จุด, 100% FP = 1,612 จุด และ 161.8% FP = 1,911 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,321 จุด ก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,374 – 1,386 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,353 – 1,341 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,321 – 1,310 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ไอเดียชุมชน
GOLD, (XAUUSD) TF : 30#XAUUSD : TF 30
.
XAU/USD (ทองคำ) : เมื่อวานยอมรับครับว่า โดน SL ไม้ Sell ตอนวางแผนเสร็จยังมีกำไรอยู่ดีๆ สักพักราคาก็วิ่งขึ้นไม่หยุด เลยทำให้ต้องยอมคัททิ้งไปแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังดีที่ได้คืนจากการเปิด Sell ที่แนวต้านด้านบน สุดท้ายกราฟทองคำเข้าสู่สถานะ Side way ไปโดยปริยาย เสมือนว่า ไม่มีการลงเกิดขึ้นมาก่อน 😅😅
.
ตอนนี้กราฟทองคำเรายังคงมองว่าเป็นการ Side way เพื่อรออะไรบางอย่าง เมื่อเราไปเปิดตาราง COT ดูก็พบว่า Managed Money หรือ non-commercial ได้ทำการปิดสถานะ Long บางส่วน และเริ่มทยอยซื้อ Short ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ซึ่งถ้ามองว่าในระยะยาวโอกาสที่ทองคำจะลงนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงเมื่อวิเคราะห์จาก Price Pattern ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้
.
ถึงแม้ทองคำจะลงด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ยังคงสามารถทำกำไรไปกับ movement ของ XAUUSD ได้ตลอดเวลา
.
ผู้เล่นที่ได้เปรียบตอนนี้จะเป็นผู้เล่นฝั่ง : Sell
.
#เทรดอย่างมีสติแผนต้องชัดถ้าไม่ชัดถอยออกมาก่อน
GOLD - 2 Scenario and narratives
ทองคำ ตอนนี้อยู่ใน sideway ขาลงระยะสั้น(?)
ปัจจัยด้านพื้นฐานมี 2 scenario และ 2 narratives
1. Bullish ต่อทอง- หากวัคซีนไม่ได้ผลหรือมีข้อจำกัดใดๆ COVID ยังอยู่ มีโอกาส lockdown ทำให้ต้องมี stimulus package ออกมา เงินอาจจะเฟ้อ หุ้นจะร่วง และทองจะขึ้น
กรณีนี้ ลักษณะของกราฟคาดว่าจะเป็นแบบนี้
คือจะเหลือขาขึ้นไปแถว 22xx อีก1 ครั้ง โดนก่อนจะไป ควรย่อลงอีกครั้งนึง มาแถว 1780 +-20
โดยไม่ควรละเมิดเส้นสีน้ำเงินที่ และห้ามละเมิดเส้นสีเหลือง
2. Bearish ต่อทอง - หากมี Vaccine = โอกาสที่จะจัดการ COVID ได้ และ no lockdown อาจจะทำให้ไม่จำเป็นต้องมี stimulus package จากรัฐบาล
กรณีนี้ หุ้นจะขึ้น และทอง อาจจะลง
ภาพอาจจะออกมาเป็นแบบนี้ และตอนนี้เราอาจจะกำลังต้องย่อลงไปลึก อาจแถว 1300 หรือต่ำกว่าสำหรับกรณีนี้
โดยที่ กราฟทั้งหมดอาจเป็น expanded flat
ใน timeframe ย่อยลงมา
ราคาลงมาลักษณะ 3 wave มาตลอด ซึ่งยังตัดสินไม่ได้ว่าจะเกิด กรณีที่ 1 หรือ 2 โดยที่ zone สีเหลือ 1780-1700 จะเป็นโซนที่ต้องคอยจับตา
แผนการเทรด หากราคาลงมาแถว 1780-50 แล้วหยุด ควรจะ "ซื้อ" เพื่อลุ้นกับ scene bullish ว่ายังเหลือขาขึ้นไปถึง 22xx
แล้วหากกราฟทำท่าไม่ดี ค่อยออก
หรือถ้าลงมารวดเดียวทะลุ 1700 เลย จะนึกถึง bearish scene มากขึ้น
สำหรับตอนนี้ หากราคาไม่ทะลุ ยอด 1900 ในวงกลม
เชื่อว่าจะลงมา
แต่หากทะลุขึ้นไป เดี๋ยวดูอีกครั้งครับ
เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?
ไม่มีกราฟไหนขึ้นไปได้อย่างเดียว ยังไงก็ต้องมีการย่อ พักฐาน หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่าการ "Correction"
ทีนี้ Bitcoin เอง ผมว่า ก็น่าจะใกล้เกิดการพักฐานอยู่รอมร่อแล้วล่ะ แต่ปัญหาคือ มันจะไปพักเมื่อไหร่ ที่ราคาไหน ก็ไม่มีใครรู้หรอก
รู้แต่เพียงว่า แถวๆ นี้ เราต้องระวังตัวกัน และอย่าประมาทไปตามกระแส FOMO เด็ดขาด เพราะ ถ้าเราประมาท + overtrade + ไล่ราคา
เวลามันพักฐานลึกๆ ที คุณก็หมดตัว ได้ง่ายๆ แบบไม่ทันตั้งตัวได้เลย
อ่ะ ทีนี้ เราลองมาดูกันว่า ในอดีต ที่ผ่านมา ในช่วง "ขาขึ้น" Bitcoin เคยย่อลงไปแรงสุดเท่าไหร่
โดยผมจะค่อยๆ ไล่ไปทีละจุด ที่ผมเห็นเป็นการย่อแบบ เห็นในกราฟชัดๆ ล่ะกันนะครับ
เริ่มจากล่าสุด ไปไกลที่สุด
ส.ค. - ก.ย. 2020 Correction
-----------------
High : 12476
Low : 9800
ย่อประมาณ -21%
มิ.ย. - ก.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10433
Low : 8800
ย่อประมาณ -15%
Covid Dump : มี.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10481
Low : 3866
ย่อประมาณ -64%
มิ.ย.-ธ.ค. 2019 Correction ยาว 6 เดือน หลังจากขึ้นรอบใหญ่ + Max Fomo
-----------------
High : 13893
Low : 6429
ย่อประมาณ -53%
พ.ค.-มิ.ย. 2019 Flash Correction มีสองรอบ
-----------------
High : 8391
Low : 6179
ย่อประมาณ -26%
-----------------
High : 9079
Low : 7446
ย่อประมาณ -18%
ปี 2018 ผมไม่นับ เพราะมันเป็น downtrend
--------------
2016-2017 Bull run
--------------
ธ.ค. 2017 -- 20k Flash Crash
-----------------
High : 19667
Low : 11132
ย่อประมาณ -43%
พ.ย. 2017 : พักฐานขำๆ
-----------------
High : 7888
Low : 5538
ย่อประมาณ -30%
ก.ย. 2017 : ลงเพราะข่าวจีน
-----------------
High : 4982
Low : 2972
ย่อประมาณ -40%
มิ.ย. 2017 : พักฐานยาว
----------------
High : 2989
Low : 1828
ย่อประมาณ -40%
มี.ค. 2017 : พักอีกละ
----------------
High : 1300
Low : 891
ย่อประมาณ -30%
ม.ค. 2017
----------------
High : 1140
Low : 751
ย่อประมาณ -34%
ก.ค.-ส.ค. 2016
----------------
รอบนี้มีย่อสองรอบ รอบละประมาณ -30%
พ.ย. 15- ม.ค. 16
------------------
มีย่อสองรอบ รอบละ -40% กับ -25%
---------------
สรุป
---------------
* สรุปได้ว่า ทุกการขึ้นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดกระทิงแบบไหน BTC ก็มักจะมีการย่อประมาณ -20% ถึง -40% แล้วก็ไปต่อ ( ยกเว้นจะจบรอบขาขึ้นและเปลี่ยนเป็นขาลง )
* ดังนั้น คนที่เล่นแบบ Leverage ก็ไม่ควรเล่นเกิน 2x เพราะว่า การย่อที่แรงที่สุด คือประมาณ -40% แต่.. เราก็อาจจะเจอเหตุการณ์ black swan ย่อลึกก็อาจจะเป็นได้ ( เล่น 2x เจอ -40% ก็ -80% ไปแล้ว นั่งไม่ติดหรอก ) สรุปได้ว่า ก็ไม่ควรเล่นแบบ leverage ด้วยเงินก้อนใหญ่อยู่ดี 555 ควรเล่นแบบ Spot เท่านั้น เพราะจะทนการแกว่งได้
* คนที่ Take Profit ออกมานั่งข้างสนามถือเงินสดแล้ว ให้วางแผน ช้อนซื้อ แถวๆ โซน -20% ถึง -40% เป็นต้นไป โอกาสที่จะได้ของราคาถูกก็มีสูง ( อาจจะแบ่งไม้ไว้ช้อน กี่% ของพอร์ตก็ว่าไป )
* รอบนี้ ตอนเขียน ราคาอยู่ประมาณ 16700 ดังนั้น จุดที่น่าสนใจจะมีดังนี้
-20% = 13,360 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-25% = 12,525 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-30% = 11,690
-35% = 10,855
-40% = 10,200 * แนวรับสุดท้าย ที่คิดว่า ยังไงก็คงไม่หลุดลงไปจากนี้อีกแล้วล่ะ
-45% = 9,185
ถ้าราคาวิ่งไปต่อ ก็ค่อยไปคำนวณใหม่
* ก็ลองวางแผนกันดูนะครับ สิ่งที่สำคัญ ในการเทรดก็คือ อย่าประมาท และอย่าไปไล่ราคา รวมถึงการตั้งสติ ควบคุมความโลภ และกำหนดแผนขึ้นมาให้ได้ ระหว่างที่ทุกคนกำลัง FOMO กันอยู่
* รอบนี้ ผมเฉยๆ เพราะผมก็ไม่ได้มือว่างหมด ผมก็ยังมีของติดไม้ติดมือไว้อยู่ด้วย ราคาขึ้นต่อ ผมก็สบายๆ ยังไงพอร์ตก็โตขึ้น แต่ถ้ามันลง ผมก็มีเงินสด ไว้รอเข้าเพิ่มได้ ในจุดที่ได้เปรียบ ครับ
SIRI ทำ double bottom ในรอบใหญ่กลุ่มอสังหา Q3 หลายตัวกำไรไม่ได้แย่อย่างที่คิด และ P/BV บางตัวในกลุ่มอยู่แถว 0.3 ซึ่งใกล้จุดต่ำสุดของวัฏจักรแต่ละรอบ รอบนึงกินเวลา 5-10 ปี หลังโควิดกลุ่มนี้มีโอกาสฟื้นตัวแรง จากการที่ประเทศไทยจัดการโควิดได้ดีทำให้ต่างประเทศสนใจซื้ออสังหาในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเดือนนี้อาจจะเป็นเดือนที่ผ่านจุดต่ำสุดของรอบใหญ่ก็เป็นได้ บวกกับปันผลที่มากกว่า 10% ทำให้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่าเข้าลงทุน โดยที่ราคาไม่ควรจะกลับตัวมาทำจุดต่ำสุดใหม่อีกแล้ว ซึ่งกลุ่มอสังหาเป็นกลุ่มที่น่าเข้าลงทุนมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวตามแรงขายระยะสั้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดสูงปิดต่ำตามแรงขายที่มีออกมา เนื่องจากเกิดภาวะซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดปิดที่ 1,351.06 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.84 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 6 วัน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (16/11) ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ตลาดขานรับข่าวบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ แถลงถึงผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ในเฟสที่ 3 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,365 จุด ก่อนจะปรับตัวลงปิดต่ำที่ 1,351 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงหลุดแนวรับที่ 1,352 จุด สัญญาณลบในเขตซื้อมากเกินและแนวโน้มการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,327 จุด โดยมีช่องว่าง (Gap) ขาขึ้นอยู่ที่ 1,285 – 1,330 จุด ทำหน้าที่เป็นแนวรับ ดัชนีตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) ที่ 1,187 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3) ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
ตามหลักการคลื่นเอลเลียต คลื่น 3) จะยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น 1)
หมายเหตุ 61.8% FP = 1,426 จุด, 100% FP = 1,612 จุด และ 161.8% FP = 1,911 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,321 จุด ก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,360 – 1,371 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,341 – 1,330 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,321 – 1,310 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
GOLD, (XAUUSD) TF : 30#XAUUSD : TF 30
.
XAU/USD (ทองคำ) : จากแพทเทิ้ลที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ทองคำ ยังอยู่ภายใต้ Down trend ที่ชัดเจน และล่าสุดราคาทองคำได้ Break Out ออกจาก Pennant Bearish Pattern เรียบร้อย รวมไปถึง TF H1 มีสัญญาณ Hidden Bearish Divergence ซึ่งนั้นหมายความว่าตอนนี้ทองคำพร้อมจะลงต่อตลอดเวลา
.
ใครที่จะหาจุดดัก Buy เราแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้ไปก่อน จนกว่าราคาจะกลับขึ้นมายืนเหนือ Mode ได้อีกครั้ง ผู้เล่นฝั่ง Buy ถึงจะได้เปรียบ
.
ผู้เล่นที่ได้เปรียบตอนนี้จะเป็นผู้เล่นฝั่ง : Sell
.
#เทรดอย่างมีสติแผนต้องชัดถ้าไม่ชัดถอยออกมาก่อน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐานเพื่อสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,285.88 จุด เพิ่มขึ้น 25.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.78 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ จะเป็นการซื้อเพื่อกลับมาลงทุนหรือทำ Cover short สัญญาณทางเทคนิคัลบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายเพื่อสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
ดาวโจนส์ประจำวันจันทร์ (9/11) ดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 834 จุด ขานรับความก้าวหน้าของการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดกระโดดขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) ที่ 1,265 – 1,281 จุด ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแนวรับเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,289 จุด และมีแนวต้าน 50.0% Fibonacci Retracement เป็นแนวต้านถัดไปอยู่ที่1,321 จุด ดัชนีตลาดมีสัญญาณเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเนื่องจากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,270 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher Low)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) และมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับเมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,270 จุด ก่อนที่จะปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3),5 ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,295 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายเพื่อปรับฐานก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,295 – 1,305 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,273 – 1,260 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ และซื้อเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,265 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา BTC แกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 14,351 – 15,968 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Evening Star ในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ราคาระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง โดยมีกรอบบนช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 13,610 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 15,537 – 15,762 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 15,055 – 14,829 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 15,537 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 15,302 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 15,537 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 14,829 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 15,055 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 14,829 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
GBPUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 6/11/2020 by TraderTanดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้จะไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส โดยพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งจะขัดขวางไม่ให้นโยบายปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายโจ ไบเดน ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
-- นักลงทุนยังคงรอดูผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของสหรัฐ โดยขณะนี้ นายไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 เสียง นำหน้าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งได้คะแนน 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งล่าสุดในวุฒิสภาบ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น เพราะอาจทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายไบเดนไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งจะทำให้บริษัทจดทะเบียนยังคงได้รับประโยชน์จากนโยบายลดอัตราภาษีของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า เขาจะยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีการตรวจสอบผลการนับคะแนนในทุกรัฐที่นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะ เนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าการโกงเลือกตั้งดังกล่าวได้เกิดขึ้นในรัฐใด และไม่ได้ยกตัวอย่างการทุจริตที่เกิดขึ้น
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%
นการประชุมครั้งนี้ เฟดยังประกาศว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน รวมทั้งใช้เครื่องมืออื่นตามที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยหลังประกาศมติอัตราดอกเบี้ยว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องมีนโยบายทางการคลังและการเงินรองรับมากกว่านี้ และเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นหากมีนโยบายการคลังรองรับมากกว่านี้
นอกจากนี้ ประธานเฟดยังเตือนว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพบอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งด้วย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (9,802,374) รองลงมาคืออินเดีย (8,364,086), บราซิล (5,590,941), รัสเซีย (1,712,858), ฝรั่งเศส (1,543,321), สเปน (1,356,798), อาร์เจนตินา (1,205,928), โคลอมเบีย (1,108,084) และสหราชอาณาจักร (1,099,059)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (239,842) ตามมาด้วยบราซิล (161,170), อินเดีย (124,354), เม็กซิโก (93,228) และสหราชอาณาจักร (47,742)
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
1.31488 แนวต้าน
1.31189 แนวต้าน
1.30758 แนวรับ
1.28871 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI กำลังเป็นเทรนขาขึ้น แต่เกิด Divergence
ราคามีการเข้าซื้อจำนวนมหาศาล จากข่าว การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ทำให้ราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1.31488
หลังจากนั้นเริ่มการเทขายกลับขึ้นมาก และมีโอกาสที่จะลงมาพักราคาที่แนว 1.30758
ทางเลือกในการลงทุน
รอให้ราคาทะลุและปิดใต้แนว 1.31189 และ กรอบสีเหลือง หลังจากนั้นเข้าขาย โดยกำหนดเป้าหมายอยูที่แนว 1.30758 เป็นเป้าหมายแรก
วิเคราะห์ทองคำ GOLD ภาพรวมระยะยาว กลยุทธ์การลงทุน มาวิเคราะห์แนวโน้มทองคำกันต่อหลังจาก ในวันพฤหัสบดีราคาปรับตัวขึ้นไป 50$ จาก 1900 ไปจนถึง 1950 ทำให้ใน TF Day ปิดเป็น Bullish ที่แข็งแรง ราคาได้สร้าง Demand Zone ขึ้นมา ที่โซน 1882-1910 และยังมีแนวรับเกิดขึ้นอีกที่โซน 1920-30 หลังจากนี้หลายคนคงสงสัยว่าราคาทองเปลี่ยนเป็นขาขึ้นหรือยัง เพราะก่อนหน้าใช้เวลาในการ Sideway ในกรอบ 1850 - 1930 ค่อนข้างนานพอสมควร ตอนนี้ราคาได้ BreakOut 1930 ขึ้นไปได้แล้ว และมีแรงส่งจาก Bullish ทำให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป ซึ่งแนวต้านนั้นอยู่ที่ 1950 ซึ่งขึ้นมาทดสอบแล้วและยังไม่ผ่าน แนวต้านถัดไปคือ 1960-70 และ 2000-2015 ตามลำดับ และมี Supply Zone 2035-2072 และมี Sub 2035-2050
.
ในมุมมองเทคนิคคอล ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มใหญ่(Daily) เพราะภาพรวมยังคงเป็น UpTrend ส่วนมุมมองในWeekly ยังคง Sideway ในกรอบ 200$ คือ 1850-2050
.
กลยุทธ์การเทรด
สำหรับลงทุนระยะยาว รอเข้า L ที่ Demand Zone ขายทำกำไรที่ Supply Zone
สำหรับระยะสั้น-กลาง รอย่อเพื่อเข้า L หรือ ชนต้าน S
#การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ
[CPALL] หุ้นโคตร Defensive ณ ราคาดัชนี 1200 จุด ดีไหม มาดููกันสำหรับ CPALL ผมมองว่าตอนนี้หุ้นตัวนี้เริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจไม่เลวเลย
จากการที่ธุรกิจของเขานั้น ล้อตามตัว C ในสมการของ GDP (GDP = "C" +I+G+X-M)
ซึ่งตัว C ที่ว่าก็คือกำลังซื้อของผู้บริโภคนั่นเองครับ กล่างคือ หากว่ากำลังซื้อของคนกลับมาหุ้นตัวนี้ก็อาจได้รับอานิสงฆ์นั้นก็เป็นได้เลย
สำหรับหุ้นตัวนี้ที่อาจมีการเติบโตอื่นๆ เข้ามา จากการมีฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่เลวเลยที่เราจะมาลองทำการบ้านสำหรับตัวนี้ดูกันครับ รายละเอียดเป็นอย่างไร มารับชมกันครับ
PS. รายละเอียดนอกคลิป สำหรับ CPALL หุ้นตัวนี้ มี ROE หรืออัตราการทำกำไรต่อผู้ถือหุ้นอยู่ที่ราวๆ 20%++ ซึ่งนับว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ ROE ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีค่าอยู่ที่ราวๆ 9-11% เท่านั้น แล้วแต่ราคาน้ำมัน (ว่ากันมาตรง ตลาดบ้านเราพึ่งพิงอุตสาหกรรมเก่า อย่างน้ำมันมาก ถึงมากเลยครับ)
ซึ่งการมีระดับ ROE เท่านี้ เราเลยไม่แปลกใจเลยที่เขาให้มูลค่าเทรดที่ Market Cap. เหนือกว่า Asset ของบริษัทเสียอีก เราอาจมองได้ว่า หุ้นตัวนี้ถูกหวังกับการเติบโตในอนาคตก็ไม่ผิดเลยครับ
ซึ่งตรงส่วนนี้เราอาจจะเอาจุดที่ Market Cap <= Total Asset เป็นจุด Stop Loss คงอาจจะดูโหดร้ายไป (คนไม่เห็นอนาคต หมดฝันแล้ว)
ดังนั้นแล้วตรงส่วนนี้ท่านอาจจะใช้จุดซื้อแบบ Technical ในการเข้าซื้อก็ได้ครับ แล้วก็เอาไปบอกลูกหลานท่านว่าท่านเป็นเจ้าของ 7-11 คงคูลไม่น้อยเลย ฮาา
ปล. ทั้งหมดก็มีราวๆ นี้นะครับ หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะมาแจ้งครับ ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้านที่ 1,237 จุด
นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มนำตลาด เพื่อดักข่าวผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯในวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,221.33 จุด เพิ่มขึ้น 19.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวกและเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,260 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (3/11) ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 554 จุด นักลงทุนคาดว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ชัดเจน จะทำให้ประเทศผ่านพ้นความวุ่นวายไปได้ ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดกระโดดขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) ที่ 1,202 – 1,210 จุด ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick ปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,212 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลที่กลับมาเป็นบวกและเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาลง ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,223 จุด และมีกรอบบนของช่องแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,243 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,260 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2) และมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับเมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,260 จุด ก่อนที่จะปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3),5 ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก และสัญญาณ RSI เกิดเป็น Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาลง ซื้อที่มีเข้ามาหนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,231 – 1,241 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,210 – 1,200 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
TFEX-S50Z20: Trend Channel DefinitionTrend Layer Define:
+ Minor Trend: ภาพระยะสั้นเป็นการ rebound ยืนยันด้วยการเปิด gap เป็นทิศทางขึ้น
- Intermediate Trend: ภาพระยะกลาง ยังอยู่ในกรอบการลง Channel ส้ม
Plan1: Short term เทรด Long Rebound ระยะสั้น
Stop ที่ ปิด gap
Target กรอบ channel บน
Plan2: Long term เทรด Long ระยะกลาง รอสัญญาณจาก Double Stoch.
Stop และ confirm ตามจุด Check Point ของ Wave
Target แนวต้านย่อย (เส้นฟ้า) ตามลำดับ
*** update อีกทีเมื่อเห็นสัญญาณ Double Stoch.
SUPER ระยะยาวยังคงเป็น UpTrend SUPER หุ้นบริษัทนี้ยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ค่อนข้างดี จากการวิเคราะห์ทางเทิคนิค ราคา BreakOut Trendline ใน Weekly แล้ว ราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านเดิมได้ ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปทำ Newhigh ใหม่ โดยแนวรับจะมีอยู่ที่ 0.75 - 0.82 ส่วนแนวโน้มระยะยาวมีโอกาสไปถึง 1.40-1.50
***บทวิเคราะห์นี้เพียวเทคนิคผู้ลงทุนในตลาดหุ้นควรศึกษาปัจจัยพื้นฐานมาประกอบด้วย
Gold ฝั่ง Short ได้เปรียบ แต่มีข้อควรระวัง XAUUSD ปรับตัวลงมาแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลุดแนวรับสำคัญ ๆ 1910, 1895 ทำจุดต่ำสุดที่ 1859
แม้หน้า Short จะได้เปรียบ แต่ต้องรอจังหวะบ้าง มีข้อควรระวังอยู่บางประการตามการวิเคราะห์ดังนี้
Elliott Wave
ปรับคลื่น 4 ต่อเนื่อง เป็น 3 คลื่น W-X-Y ภายใน Y ควรมี 3 คลื่น เช่นเป็น Zigzag ตอนนี้ทื้งลงมาอาจเป็นคลื่น Impulse ชุดแรกของ ZZ
ส่วนการนับทางเลือกหากมองว่าจบคลื่น 4 แล้ว ขึ้นเป็น 1 ตอนนี้พัก 2 กำลังขึ้น 3 ของ 5 โดยทางเลือกนี้จะถูกต้องก็ต่อเมื่อราคาปรับขึ้นเหนือ 1933$
Price Action
ราคาทำ Lower High เรื่อย ๆ โดยมีเส้นแนวโน้มกดอยู่ ผู้หาจังหวะ Short ควรรอให้ราคาขึ้นไปสัมผัสเส้นแนวโน้มนี้ จะทำให้สถานะมี Reward to Risk Ratio สูง
อย่างไรก็ตามแท่งเทียน D1 ของวันพฤหัสและศุกร์ทำรูปแบบ Bullish Engulfing อาจทำให้เกิดการรีบาวน์ได้ในระยะสั้น
สำหรับผู้เล่นฝั่ง Long รอเบรคเส้นแนวโน้มนี้แล้วย่อลงมาได้เช่นเดียวกัน
Commitments of Traders
รายใหญ่ยังคงถือสถานะ Long futures ทองคำอยู่ถึง 149,140 สัญญา และ Short เพียง 47,265 สัญญา ยังแสดงให้ถึงมุมมองบวกต่อราคาทองคำในระยะกลาง-ยาว
ข้อสังเกตุ มีการปิดสถานะ Short ถึง 11,278 สัญญาระหว่างวันที่ 20-27 ต.ค. อาจเป็นการขายทำกำไรในฝั่งขา Short ของรายใหญ่
ข่าว
ข่าวสำคัญคือการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่อังคาร-พุธนี้่ โปรดระวังความผันผวนที่รุนแรงและเตรียมพร้อมเสมอในการปรับตัวตามสถานการณ์
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,848 เหรียญ หากราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวขึ้น ราคาทองคำไม่ควรปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,848 เหรียญ ราคาทองคำจะยืนยันทิศทางการปรับตัวขึ้นเมื่อราคาทองคำสามารถยืนปิดเหนือ 1,933 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,891 – 1,907 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,860 – 1,848 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,889 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,907 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,860 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,860 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,848 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,889 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
🏅 GOLD ทองคำ รอตามซ้ำเครื่องบินขนทอง เป้าหมายระยะกลาง 1820$ #การวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลายกรอบเวลา
กรอบเวลารายเดือน: ภายหลังการเบรคซัพพลายโซนสำคัญบริเวณ 1800$ มาได้ในเดือนกรกฎาคม ปัจจุบันกำลังปรับตัวย่อลง ภาพใหญ่เป็นเทรนด์ขึ้นเป้าหมายตามแนวโน้มและลักษณะการเคลื่อนที่ อยู่ที่ราคา 2450$
กรอบเวลารายสัปดาห์: เคลื่อนที่เป็นเทรนด์ลง มีซัพพลายโซนรายสัปดาห์ (1975$ - 2075$) เป็นโซนสำคัญ ราคากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเบรคค่าเฉลี่ย 20 สัปดาห์
กรอบเวลารายวัน: เคลื่อนที่ภายใต้ Descending Channel ในลักษณะของ Corrective Move โดยมีจุดเริ่มต้นของ Impulsive Strong Move อยู่ที่ดีมานด์โซนรายวัน (1820$ - 1790$) มีแนวโน้มกลับไปทดสอบดีมานด์โซนอีกครั้งในอนาคต
กรอบเวลาราย 4 ชั่วโมง: อ้างอิงไอเดียล่าสุด (คลิกที่รูปด้านล่าง) 👇 เครื่องบินขนทองได้ตกสู่โซนราคาเป้าหมาย 1860$ ปัจจุบันปรับตัวขึ้นทดสอบเส้นแนวต้าน (1890$ - 1900$) คาดการณ์ราคาอาจเคลื่อนที่ในรูปแบบ Bearish Pennant ซึ่งเป็น Bearish Price Pattern ราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่ดีมานด์โซน (1860$ - 1845$) อีกครั้ง
กรอบเวลาราย 1 ชั่วโมง: ราคามีแนวต้านค่าเฉลี่ย 120 ชั่วโมงเป็นเส้นกด พร้อมระดับแนวต้าน 1890$
🔖 พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว ในระยะกลางราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่บริเวณโซนราคา 1820$ หรือดีมานด์โซนรายวัน (1820$ - 1790$) อีกครั้ง
#แนวทางการเทรด เมื่อราคาปรับตัวเข้าสู่ซัพพลายโซน 4 ชั่วโมง (1904$ - 1912$) ให้พิจารณา Short โดยมีเป้าหมายการทำกำไรจุดแรก 1862$ และจุดที่สอง 1820$ แนวทางการเทรดที่สองให้สังเกตุพฤติกรรมราคาที่กระทำต่อเส้นแนวต้าน 1890$ ซึ่งอาจเป็นแนวสำคัญในการ Short Trade ได้
ไอเดียการเทรดนี้จะใช้ไม่ได้ จากผลกระทบของปัจจัยพื้นฐาน การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน ที่อาจลบล้างวิเคราะห์ทางเทคนิคได้
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview