#Elliottwave กฎ และ แนวทางการนับคลื่น Diagonal Triangle Diagonal Triangle
Diagonal Triangle(สามเหลี่ยมมุมทแยง) จัดเป็นหนึ่งในรูปแบบคลื่น Motive wave แต่ไม่ใช่ Impulse wave เนื่องจากคลื่นลูกที่สี่ของ Diagonal มีจุดสิ้นสุดภายในคลื่นลูกที่หนึ่ง รูปแบบ Diagonal นั้นมีตำแหน่งการเกิดขึ้นของรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงมักจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเทรนของแนวโน้มใหญ่ และช่วงปลาย ของการสิ้นสุดของแนวโน้ม ทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ในคลื่น A ของ Zigzag และ C ของ Corrective wave
Diagonal Triangle แบ่งได้ 2 ประเภทตามของตำแหน่งที่ ปรากฏ ของคลื่น ได้แก่ Leading Diagonal และ Ending Diagonal
Rules
diagonal แบ่งออกเป็นห้าคลื่นเสมอ
ending diagonal จะปรากฏเป็นคลื่น 5 ของแรงกระตุ้นหรือคลื่น C ของ zigzag หรือ flat.
leading diagonal จะปรากฏเป็นคลื่น 1 ของแรงกระตุ้นหรือคลื่น A ของซิกแซกเสมอ
คลื่น 1, 2, 3, 4 และ 5 ของ ending diagonal, และคลื่นที่ 2 และ 4 ของ leading diagonal, แบ่งออกเป็นซิกแซกเสมอ
คลื่น 2 ไม่เคยไปไกลกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น 1
คลื่น 3 มักจะไปไกลกว่าจุดสิ้นสุดของคลื่น 1
คลื่น 4 ไม่เคยเคลื่อนที่เกินจุดสิ้นสุดของคลื่น 2
คลื่น 4 จะสิ้นสุดภายในอาณาเขตราคาของคลื่น 1 เสมอ*
จาก เส้นที่เชื่อมปลายคลื่น 2 และ 4 จะบรรจบกันเข้าหา (ใน contracting ) หรือแยกจาก (ใน expandingจะขยายออก) เส้นที่เชื่อมต่อปลายคลื่นที่ 1 และ 3
ใน leading diagonal,คลื่น 5 จะสิ้นสุดหลังสิ้นสุดคลื่น 3 เสมอ
ใน contracting คลื่น 3 จะสั้นกว่าคลื่น 1 เสมอ คลื่น 4 สั้นกว่าคลื่น 2 เสมอ และคลื่น 5 สั้นกว่าคลื่น 3 เสมอ
ใน expanding คลื่น 3 มักจะยาวกว่าคลื่น 1 เสมอ คลื่น 4 มักจะยาวกว่าคลื่น 2 เสมอ และคลื่น 5 มักจะยาวกว่าคลื่น 3 เสมอ
ใน expanding คลื่น 5 จะสิ้นสุดหลังจากสิ้นสุดคลื่น 3 เสมอ
Guidelines
คลื่นที่ 2 และ 4 แต่ละคลื่นมักจะย้อนกลับ .618 ถึง .786 ของคลื่นก่อนหน้า
คลื่นที่ 1, 3 และ 5 ของ leading diagonal มักจะแบ่งออกเป็นซิกแซก แต่บางครั้งก็ดูเหมือนจะเป็น impulses.
ภายใน impulse ถ้าคลื่น 1 เป็น diagonal คลื่น 3 มีแนวโน้มที่จะขยายออกไป
ภายใน impulse คลื่น 5 ไม่น่าจะเป็น diagonal หากคลื่น 3ไม่ขยาย
ใน contracting คลื่น 5 มักจะสิ้นสุดหลังจุดสิ้นสุดคลื่น 3 (บ้างครังอาจเกิดความล้มเหลวในการทำเช่นนั้นเรียกว่า truncation )
ใน contracting คลื่น 5 มักจะสิ้นสุดที่หรือเกินเส้นที่เชื่อมปลายคลื่นที่ 1 และ 3 เล็กน้อย (การสิ้นสุดเหนือเส้นนั้นเรียกว่าการ throw-over)
ใน expanding คลื่น 5 มักจะจบลงเล็กน้อยก่อนถึงเส้นที่เชื่อมปลายคลื่นที่ 1 และ 3
ไอเดียชุมชน
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน BizModel และกราฟ pt.2
- ธุรกิจ Costco เป็นห้างขายส่งคล้ายๆ Makro ของเรา แต่มีสินค้าไซส์ยัก และอาหารราคาถูก
- กำไรแบบ Recurring Income ของบริษัทผ่าน Membership Fees เป็น Keyman ในการที่ทำให้บริาัทเติบโตไปพร้อมกับยอดขาย
- การที่ราคาหุ้นขึ้นเกิดจากหลัก Twin Engine คือ PE ขยายตัวจากความคาดหวังดีจากตลาด และ กำไรสุทธิที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
- ราคาหุ้นจะมีค่าเป็นเท่าไรเกิดจากสมการ Price = PE * EPS
(Twin Engine คือหลักการที่ PE ขยายตัว และ EPS เติบโตนั่นเอง)
- ปัจจุบัน Costco มีรายได้จาก Membership ที่ราวๆ 4 billions เทียบเท่ากับหุ้นที่ราคา 9 เหรียญ หากเราถือหุ้นที่ราคา 9 เหรียญจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ได้ ก็นับว่าคุณได้สินทรัพย์ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 9% มาครองเลย
=================================
ถ้านึกถึงห้างขายส่งบ้านเราต้อง MAKRO แต่ถ้านึกถึงห้างขายส่งระดับโลก COSTCO คือบริษัทที่เป็นเบอร์ 1 ด้านนี้เลยครับ
COSTCO เป็นห้างค้าส่งสัญชาติสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1986 และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นมานานกว่าครึ่งชีวิตของคนหนึ่งคนเลย
และมักถูกพูดถึงบ่อยๆ ในหนังสือการลงทุนหลายเล่ม เพราะนี่คือหนึ่งในหุ้นที่มีธุรกิจใช้ได้ ผลกำไรเติบโต ราคาหุ้นจึงสะท้อนมูลค่าที่ซ่อนอยู่นี้ด้วยราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนอื่น ผมขออธิบายก่อนนะครับ ว่า Costco นอกจากธุรกิจจะเป็นธุรกิจห้างค้าหลีกแล้ว รายได้อีกส่วนที่เป็นตัวช่วย Costco มาหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้บริษัทยังอยู่ยั่งยืนได้ นั่นคือรายได้จาก membership fee ครับ
โดยบัตร Member นี้เอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสินค้าภายในห้าง ส่วนรถปั๊ม ประกัน ตั๋วเครื่องบิน เสื้อถ้า รถยนต์ อาหารและยา และอื่นๆๆ อีกมากที่อาจกล่าวไม่ถึง
ตรงส่วนนี้เราอาจพิจารณาได้ว่าบัตรเมมเบอร์ของ Costco นั้นมี Networking Effect ที่แข็งแกร่งมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสเกลการถ้าปลีกของเครือ Costco อยู่แล้ว ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าระดับประเทศ (ที่มีขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของโลก) จนสามารถเจรจาของส่วนลดเพื่อมาจุนเจือชาว Member ได้
โดยสัดส่วน Membership Fee นี้เปรียบได้กับกระแสเงินสดที่ทาง Costco ได้มาไม่ต่างจาก Subscription รายปีเลยครับ โดยแต่ละปี Costco เองมีรายได้จากตรงนี้เติบโตกว่า 9% CAGR ต่อเนื่องกันกว่า 30 ปี
=====================================================
เทียบตั้งแต่ปี 1993
CostCo มี Membership Revenue อยู่ที่ 309 ล้านเหรียญ
และปี 2022 ล่าสุดมีรายได้ส่วนนี้กว่า 4,224 ล้านเหรียญทีเดียว]
โดยปัจจุบัน ณ ราคา 502 เหรียญนี้ Cosco มี Market Cap ที่ 222 Billion
หากท่านใดมีหุ้น Costco ที่ Market Cap 4 billions หรือที่ราคา 9 เหรียญ ท่านอาจได้กระแสเงินสดฟรีๆ จากมูลค่า รายได้ส่วนของ Membership เปล่าๆ (เป็นอีกหนึ่งมุมมองของการถือยาวครับ)
=====================================================
สิ่งที่ช่วยผลักดันให้ราคาของ Costco ไปได้ไกล ส่วนหนึ่งมาจากรายได้จากร้านค้าปลีกที่เติบโตตลอดเวลาตาม GDP ของประเทศนั้นๆ
และ Business Model ของ Costco เองก็เป็นธุรกิจกิน Spread Margin แคบๆ จากการซื้อมาขายไป และเพิ่มลูกลเ่นให้กับสินค้าตัวเองผ่านการออกแบบ "ผลิตภัณฑ์ไซส์ยักษ์" ที่นอกจากประหยัดแล้วยังน่าตื่นตาตื่นใจด้วย
ยังไม่นับว่า Costco เองมีเชนร้านอาหารราคาย่อมเยาว์ถึงขนาดที่ชักจูงให้คนมาทานอาหารในราคาไม่กี่เหรียญ และไม่ขึ้นราคามากว่าทศวรรษอีกด้วย
ทั้งนี้แล้วการที่สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภคลูกค้านั้นทำให้มีผู้สมัครสมาชิกกับ Costco เพิ่มขึ้นตลอดทุกๆ ที โดยอัตราส่วนของรายได้จาก Membership Fees ต่อด้วย Operating Income นั้นสูงกว่า 50% ทีเดียวครับ กล่าวคือลำพังแค่รายได้จากค่าสมาชิกก็ทำให้ประเมินกำไรคร่าวๆ ของ Costco ได้แล้ว....และนี่แหละที่ทำให้นายตลาดชอบใจอย่างมาก
โดยคุณสมบัติจากการประเมินกำไรขาดทุนได้ง่ายแล้ว การที่บริษัทมีการบริหารงานจนทำให้นะดับ Net Margin ดีได้ยิ่งขึ้นๆ พร้อมด้วยการบริหารโดยมี ROIC ในระดับ 1x% ยิ่งขึ้นไป จะทำให้นายตลาด "มอบตัวคูณ" ให้บริษัทนี้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
โดยราคาหุ้นเองถูกผลักดันด้วย 2 ปัจจัย นั่นคือ Price = PE * EPS
หากบริษัทบริหารจัดการได้ดี ธุรกิจดำเนินไดีดี ตัว EPS จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น
ส่วนตัว PE หากบริษัทนั้นมีโมเดลที่แข็งแกร่ง มี Moat ที่สมบูรณ์ รายได้เติบโต (กอปรกับการมีค่า Bond Yield ที่ต่ำ) บริษัทนั้นก็จะเทรดที่ค่า PE ที่สูงยิ่งขึ้น
หลักการนี้คือหลักการ Twin Engine ที่ทำให้หุ้นนั้นสามารถกลายเป็นหุ้นเด้งได้นั่นเองครับ
ซึ่ง CostCo เองนับว่าเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน โดยได้ลมส่งจากรายได้ที่โตขึ้นจากการขยายสาขาและ GDP ที่โต กับโมเดลธุรกิจที่ดึงดูดลูกค้าโดยเฉพาะ Membership ทำให้ Costco มีกำไรเติบโตตลอด
จากนั้นนายตลาดก็เริ่มเห็นแววในบริษัทนี้ เลยให้ PE หรือแม้กระทั่ง P/S ที่สูงมากยิ่งขึ้น ทำให้ตัวนี้เข้าหุ้นเด้งตามตำรา Twin Engine ในที่สุด
====================================================
หลักการหาจังหวะซื้อขาย หากใช้ Fundamental อาจใช้เส้น Asset Line ในการจับจังหวะเข้าซื้ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้ตลาดชอบแน่ๆ พื้นฐานบริษัทไม่เปลี่ยน รายได้และกำไรมีโอกาสโตได้ อย่างน้อยก็เชิงอนุกรม
ต่อมาคือการซื้อโดยใช้ PE Forward ผ่านเส้น Value Line อันเป็นแนวรับแนวต้านทางพื้นฐาน หากราคามาลงสู่แนวรับนี้ และประกอบกับกราฟทำทรง VCP Cup with Handle พร้อมทั้งมี Risk to Reward ที่ท่ารับไหวก็อาจพิจารณาซื้อได้
ไม่สายเกินไป หากซื้อหุ้นนี้ที่ Market Cap 1xx,xxx Milliion เพราะว่าเขาอาจไปได้ไกลกว่านั้นได้
(พร้อมดูโมเมนตัมจากยอดขายและผลการดำเนินงาน รวมถึงดูกระแสจากผู้บริโภคด้วย ว่าบริษัทยังคงส่งมอบคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นดั่งเดิมไหม)
====================================================
สามารถอ่านไอเดียการลงทุนอื่นๆ ได้นะครับจากหน้า Profile ของผม
EURUSD วันที่ 26 Oct 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 26 Oct 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
📢วางแผนเทรด GBPUSD ด้วย Advance QM Demand Supply 27 ตุลาคม 2565GBPUSD ราคาใน TF Day ปัจจุบันเป็นเทรนขาขึ้น และเกิด pattern SNRC1 ให้เราเข้าเล่น BUY ได้
และมีการคาดการณ์ของราคาที่จจะเกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบ เพื่อใช้ในกาารตัดสินในการเล่นครับ
*** SL ที่เหมาะสมคือโครงสร้างชุด confirm
Trade Setup SNRC1 H4 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend UP Day, H4
2 Demand Zone
3 TB
4 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 26/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผย
ข้อมูลที่อ่อนแอ
ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 13% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอ
ตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 15.6% โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ
ร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. โดยได้รับ
ผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยว
กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แนวรับ 1650
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวรับ 1615
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline
จากกราฟ ราคาเริ่มทำสัญญาณการกลับตัวไต่ขึ้นเรื่อยๆ จากกรอบTF ใหญ่ซึ่งทำให้
ขาขึ้นกลับมามีลุ้นอีกครั้ง โดยเริ่มจะกลับขึ้นไปหากรอบไซด์เวย์บนเดิม แนะนำให้เล่น
ตามกรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยยึดกรอบไซด์เวย์เดิมเป็นหลักไปก่อน เน้นเก็บกำไรระยะสั้นๆ และให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตาม
แนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1674 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1641 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
#Elliottwave #Triangle(3-3-3-3-3) #อีสานเทรดเดอร์การแก้ไขรูปแบบสามเหลี่ยม(Triangle) จะสะท้อนถึงความสมดุลของแรงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง โดยปกติ
จะเกี่ยวข้องกับการลดลงของปริมาณซื้อขายและความผันผวน รูปแบบสามเหลี่ยมประกอบด้วยคลื่นที่ทับซ้อนกัน 5 คลื่น
แบ่งย่อยเป็น 3-3-3-3-3 และติดป้ายกำกับด้วยตัวอักษร A-B-C-D-E สามเหลี่ยมถูกกำหนดโดยการลากเส้นเชื่อมต่อระหว่่าง
A และ C , B และ D โดยที่คลื่น E สามารถเกินเส้น A - C ได้ คลื่น C ไม่เกินจุดเริ่มต้นของ คลื่น A และ คลื่น E ไม่เกินจดเริ่มต้นของคลื่น B
สามเหลี่ยมมี 2 ประเภท คือ Contracting และ Expending แต่โดยส่วนใหญ่หากคลื่น B ยาวกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A และการย้อนกลับของคลื่น E จะอยู่ที่ปลายคลื่นคลื่นก่อนหน้าเราจะเรียกว่า Running Triangle
แม้ว่าบางครั้งคลื่นลูกที่ 2 ใน Impulse จะเป็น สามเหลี่ยม แต่ สามเหลี่ยมมักจะเกิดกับคลื่นลูกที่ 4 มากกว่า หรือ คลื่น B
ใน ABC หรือ คลื่่นสุดท้าย Y,Z ใน Combined หากคลื่นที่เกิดตามหลัง Triangle ยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติให้ระวังการยืดเยื้อแะลยาวนานของคลื่นชุดนั้น
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 25/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (24 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้น
ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวรับ 1615
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline
จากกราฟ ราคาเริ่มทำสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากกรอบTF ใหญ่ซึ่งทำให้ขาขึ้น
กลับมามีลุ้นอีกครั้ง โดยมีกรอบไซด์เวย์เริ่มขยายกว้างมากขึ้นจากกรอบราคาเดิม
แนะนำให้เล่นตามกรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยยึดกรอบไซด์เวย์
เดิมเป็นหลักไปก่อน เน้นเก็บกำไรระยะสั้นๆ และให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน
เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1660 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1621 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
US30 Analysis for 25-Oct-2022
FX:US30
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อน เพราะเมื่อราคา pull-back ลงไปสู่ HVN 31402.60 ปรากฏว่าเราเจอ stonger buyers กลับเข้ามา active เอาราคา breakout ออกจาก 3 day balance area ซึ่งเมื่อวานพอราคากลับลงมาเทส balance breakout area เราก็เห็น buyers กลับเข้ามา defense อีกครั้ง
เพราะฉะนั้น short-term bias = Neutral-Bullish และ Weekly ตอนนี้กลายเป็น One time framing up แล้ว
ตราบใดที่ราคายัง hold อยู่เหนือ balance breakout area (Initial Support) = buyers control market มีโอกาสสูงที่ราคาจะ expand ขึ้นไปได้อีก โดย Resistance Zone ด่านสำคัญรออยู่ที่ 32621.47-32701.88 ส่วนจะขึ้นไปถึงที่นั่นได้หรือคงต้องมีวันต่อวัน
แต่ขณะที่ตราบใดที่ราคา hold อยู่เหนือ Initial Support การ short มีความเสี่ยงมากกว่าการเทรด long side
📹 กดดู Video 👇 ที่ Logo Youtube ด้านล่าง จะทำให้เข้าใจ Market Context ได้ดีขึ้นครับ
Short-term: NEUTRAL-BULLISH ▲
Ends: 30879.45
WEEKLY: ONE TIME FRAMING UP ▲
Ends: 30879.45
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน CANSLIM และ VCP pt.1แก่นแท้จากหุ้นเด้งตัวนี้
-การย่อระดับ 1x% เป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆ นับเป็นเรื่องที่ปกติ
การย่อลงมาแบบหลักๆ อยู่ที่ราว 3x%
-จุดซื้อที่ทรงประสิทธิภาพจะมาจากจุดที่แข็งกว่าตลาด
หรือ Relative Strength มากกว่า 0
-การย่อลงต่อละครั้งหากไม่หลุดราคาเฉลี่ยนับว่าสามารถรันเทรนด์ต่อได้
-การที่ราคาหุ้นตกหนักๆ โดยหลัก มี 3 ปัจจัย (ซึ่งการตกนี้ไม่ต่ำกว่า 50%)
1. การลงจากเศรษฐกิจเอง เช่น COVID-19 , Subprime
2. การลงจากอุตสาหกรรม เช่น รอบสินค้าโภคภัณฑ์ , การออกกฎบัตรบางอย่างจากภาครัฐที่ทำให้ราคาไม่ไปไหน
3. การลงจากตัวบริษัทเอง เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ปราการและคูคลองเริ่มเสื่อมสลาย (แบบนี้อันตรายที่สุด)
.
-การลงจากตัวเศรษฐกิจ หากบริษัทแข็งแกร่งจากการมีปราการและคูคลองแข็งแกร่ง ตลาดย่อมรับรู้ อย่างน้อยก็จากผลประกอบการที่หากไม่ลดลง และรายงานจากฝ่ายบริหารแจ้งออกมาไม่มีรอยฟกช้ำจากเศรษฐกิจ นายตลาดก็ตอบรับอย่างสดใส
-การลงจากอุตสาหกรรม ราคาหุ้นอาจจะไม่ขึ้นมาในทันที อาจต้องให้เวลากับเขา ในการปรับทัพรวมพลสู้ศึก ในเชิงรูปธรรม อาจขยายตลาดไปที่อื่น, คุยกับ Supplier เพื่อปรับราคาให้มี Margin ที่ดีขึ้น และคงคุณภาพสินค้า
หรือในกรณีที่สดใสที่สุด คือรอเมฆหมอกแห่งความโชคร้ายให้ผ่านไปเลย
-การลงจากตัวบริษัทเอง ยากที่สุดในการพิจารณา ต้องติดตามกระบวนการบริหารบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูคุณภาพในสินค้าและบริการ
แก่นแท้คือดูว่า Core Value ที่เขมอบให้แก่ลูกค้าและสังคม
กับการทำกำไร ยังพอไปทางเดียวกันได้ไหม
-สิ่งที่ต้องการสื่อคือหุ้นหลายเด้งมักมีการลงแรงๆ เสมอ ไม่ว่าจากตัวเขาเอง ตัวอุตสาหกรรม หรือจากเศรษฐกิจ แก่นแท้คือการถือให้ยาวและมองให้ขาดว่าบริษัทจะผ่านไปได้ไหม เป็นสำคัญ
-การฟอร์มตัวแบบ Cup with Handle จากที่ดูมักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 bars week หรือราว 200 วัน ก่อนพุ่งขึ้นไป
การรันเทรนด์เพื่อให้ได้กำไรเด้ง อาจต้องอาศัยเวลา
เราควรมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง มีรายได้หลายทางเพียงพอที่จะคลายกังวลกับการลงทุนในบริษัทนี้ได้
เราอาจใช้อรรถประโยชน์จาก Stock Option ช่วยได้ หากหุ้นนั้นมีบริการ Short Call หรือ Short Put เพื่อหากระแสเงินสดจากช่วง Sideway หากินกับ Volatile
(อาจจะซับซ้อน แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้นะครับ)
-จุดกลับตัวของกราฟ บางทีอาจใช้รูปแบบแท่งเทียนพิจารณาได้
เช่นรูปแบบ Hammer ที่ทำหางยาวมาก เสมือนการปฏิเสธการลงของราคา
-จุดกลับตัวอาจใช้ Relative Strength ช่วยได้
หากราคาหุ้นแข็งกว่าตลาด เราอาจเริ่มกลับมามองหุ้นนี้ได้ครับ
@Kunnaphatz รูปแบบ Flat ประเภทต่างๆFlat = 3-3-5
1. Normal B มี 3 ประเภท คือ
1.1 Common Flat
1.2 Elongated Flat
1.3 C-Failure Flat
.
2. Strong B มี 3 ประเภทคือ
2.1 Irregular Flat
2.2 Irregular Failure Flat
2.3 Running Flat
.
3. Weak B มี 3 ประเภท คือ
3.1 B-Failure C=A
3.2 B-Failure C>A
3.3 Double Failure
GBPJPY วันที่ 20 Oct 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 20 Oct 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
GOLD (XAUUSD) 20/10/2022ทองคำวันนี้แนะนำเทรดฝั่ง BUY ครับ
ถึงแม้กราฟในหลายไทม์เฟรมจะอยู่ในเทรนด์ขาลง แต่ราคาปัจจุบันได้ลงมาบริเวณ Demand Zone ในไทม์เฟรม H4 จึงทำให้วันนี้มองว่าทองคำมีโอกาสกลับตัวขึ้นไปอย่างน้อยบริเวณเส้นเทรนด์ไลน์ด้านบน
ดังนั้นวันนี้แนะนำหาโอกาสเทรดฝั่ง BUY จะได้เปรียบกว่าครับ
Today's gold recommends trading on the BUY side.
Although many timeframe charts are in a downtrend. But the current price has come down in the Demand Zone area in the H4 timeframe, so today we see that gold has a chance to reverse at least around the top trendline.
Therefore, today I recommend you to find an opportunity to trade on the BUY side to have an advantage.
BTCUSD : ระวัง! เตรียมเลือกทางเร็วๆ นี้ ลองดูจากปี 2018 ได้..เอาพฤติกรรมราคาของ Bitcoin ในปี 2018 มาให้ลองศึกษากันครับ
โดยปี 2018 คือตลาดหมีที่โหดร้ายยิ่งกว่าตอนนี้เยอะ โดยเฉพาะหลังจากวันที่มันถล่มหลุด 6k แล้วลงไปถึง 3k .. ณ ตอนนั้น ตลาดสิ้นหวังกันถึงขีดสุดครับ ผมเองก็สิ้นหวังเหมือนกัน แถมขาดทุนยับๆ ด้วย
มาลองเทียบกันดูนะครับ
#June
- 2018 ราคาลงมาย่ำ bottom 6k เอาจริงๆ ก็ตั้งแต่ ก.พ. 2018 นะ แต่ การลงมาย่ำแล้วอยู่แถวนี้เลยก็คือตอน ช่วงหลังเดือน June 2018 เป็นต้นมา
- 2022 ซึ่งก็คล้ายกันกับในปีนี้ นั่นก็คือ ราคาหลุดแนวรับ 30k ลงมา แล้วไหลยาวลงมาถึง 17700 แล้วเด้งกลับ หลังจากนั้นก็มีการย่ำทดสอบแนวรับโซนนี้หลายครั้งมากเช่นกัน
#July-#Sep
- 2018 ในสองเดือนนี้ จะเห็นได้ว่า หลังจากนั้น ราคามีการเด้งกลับแรง แล้วก็ลงมาย่ำฐานอีกรอบ แล้วหลังจากนั้นก็เด้งใหม่อีกที
- 2022 ซึ่ง ถ้าเทียบกันกับในปีนี้ก็วิ่งเหมือนกันอีก โดยแต่ละรอบก็คือการประกาศเลข CPI นั่นเองครับ ( ตอน 2018 ผมยังไม่ได้ดูข้อมูลหลายด้าน ก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเด้ง )
#Oct
- 2018 เดือนนี้เป็นเดือนที่ตลาดออกข้างกันไปนิ่งๆ แทบจะที่สุด แต่ระหว่างทางก็มีการ "สะบัด" ขึ้นลง แรงๆ อยู่เรื่อยๆ เช่นกันครับ โดยช่วงนี้ ณ ตอนนั้น ผมจำได้ว่า ผมยังคึกๆ จะเทรดอยู่ และใช้ leverage หนักมาก เพราะราคามันแกว่งน้อย ก็เลยต้องอัดหนัก เพื่อที่จะได้กำไรไวๆ
- 2022 เดือนนี้ตลาดก็ออกข้างไปนิ่งๆ ไม่มีทะลุกรอบบนล่างของ ATR เลยเช่นกัน คล้ายกับปี 2018 และ หลายๆ คนที่ไปพยายามเล่นช่วงนี้ก็จะเจอ whipsaw loss เมาหมัดกันไป เหมือนผมสมัยก่อนเด๊ะ 55
#Nov
- 2018 เดือนแห่งหายนะครับ ตอนนั้นทุกคนมองเหมือนกันหมดว่า "6k เอาอยู่ เพราะมันคือทุนขุด ไม่ลงไปต่ำกว่านี้หรอก" ผมก็เคยมองแบบนั้นนะ แต่พอมันหลุด มันก็หลุด และมันลงเละยับเลยด้วย ตอนนั้น sentiment ตลาดแย่มาก ทุกคนมองลงกันหมด ไม่มีใครมองขึ้นเลยแม้แต่คนเดียว ใครไปสวน รีบรับมีด ก็เละ ยับ สุดท้าย ถึงไปหยุดที่ 3200 ทำเอาหลายๆ คนหมดตัว
- 2022 รอดูว่ากราฟจะเฉลยมาอย่างไรนะครับ แต่ทรงออกข้าง นิ่งๆ แบบนี้ ผมบอกเลย ถ้ามันทะลุทางไหน คุณต้องหนีให้ทัน เพราะมันมีโอกาสสูงมากๆ ที่มันจะวิ่งไปต่อทางที่มันเลือกอีกไกลครับ ใครไปสวน ก็จะมาหมดตัวกันในจังหวะนี้แหละ
#ส่งท้าย
แวะมาฝากมุมมองกันไว้ จากคนที่เคยเจ๊งบ๊ง หมดตัว มาแล้ว 2018 มาเตือนด้วยความหวังดี ไม่ได้มีเจตนามาขัดลาภพวกท่านแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากให้ใครต้องมาหมดตัวเหมือนผมสมัยก่อนแค่นั้นเองครับ
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 18/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (17 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่า
ของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนี
ภาคการผลิต (Empire State Index) ร่วงลงสู่ระดับ -9.1 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -5.0 จากระดับ -1.5 ในเดือนก.ย.
แนวรับ 1650
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เริ่มมีสัญญาณกลับตัวขึ้น อาจเป็นเพียงขาขึ้นระยะสั้นๆ
Trendline
จากกราฟ เทรนหลักยังคงเป็นขาลงอยู่ แต่ราคาเริ่มหลุดกรอบเส้นเทรนไลน์ขาลง
เพื่อกลับเข้าไปในกรอบโซนไซด์เวย์ ขาขึ้นเริ่มมีลุ้นในระยะสั้นๆ ให้รอสัญญาณการ
เลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1660 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1649 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1641 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTC เริ่มปรับตัวร่วงลงอีกครั้งสกุลเงินดิจิตอลรวมถึงบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดโดยที่การปรับตัวร่วงลงในครั้งนี้เกิดจากทางด้านของดัชนี Nasdaq มีการปรับตัวร่วงลงทางด้านของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดังนั้นจากการกดดันที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่มีโอกาสสูงที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% นั้นเป็นแรงกดดันทำให้สกุลเงินดิจิตอลมีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกัน
ต้องติดตามว่าในการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกาจะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหรือไม่สำหรับฝั่งของหุ้นกลุ่มดิจิตอล
จับตากรอบแนวรับที่ 19,269 และ แนวรับที่สองก็คือ 18,971
ติดตามความเสี่ยงในวันนี้ว่าจะมีโอกาสปรับตัวอย่างไรโดยเฉพาะในช่วงของการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกากว่านี้
การฝึกวิเคราะห์ เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้แม่นยำยิ่งขึ้นการฝึกวิเคราะห์ เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้แม่นยำยิ่งขึ้น
หลักการและเหตุผลอ้างอิง
-M W D1 H4 แนวโน้มขาลง แท่งเทียนปัจจุบันเป็นแท่งขา
(แท่งลง)
-H4 หารับต้านสำคัญที่ใกล้ที่สุด
-รอแท่งเทียนเฉลยว่าจะไปทิศทางไหน
-การบอกทิศทางจะต้อง เกิดแท่งปิดคาบเส้น และ
แท่งคอนเฟิร์มปิดสีเดียวกับแท่งปิด
-ตอนนี้ภาพรวมใหญ่มอง sell
ควรรอกราฟวิ่งชนต้านสำคัญที่ใกล้ที่สุดก่อนแล้วsell
ห้ามเทรดตามแท่งลงมาอาจมีสิทธิโดนลากได้
-จุดslควรเป็นจุดต้านสำคัญที่เราตีเอาไว้อย่างน้อย
เผื่อไปสักสามแนวต้าน
-จุด TP มีสองแบบคือจบเร็วก็เก็บกำไรน้อยกว่าsl
แต่จบเร็วกว่าไม่ต้องลุ้นนาน
-อีกแบบคือตั้งtpเท่ากับslหรือมากกว่าslไม่เกิน1.5เท่า
SHIBA/USDการวิเคราะห์ประจำวัน 9/10/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
เจ้ามือช้อนซื้อเหรียญ Shiba Inu กว่า 100,000 ล้าน SHIB หลังจากที่มีการเปิดตัวเกม Shiba Eternity
เมื่อไม่นานมานี้ทาง Etherscan ได้ตรวจพบการทำธุรกรรมโดยได้มีการโอนย้ายเหรียญมีมอย่างเจ้า Shiba Inu (SHIB) ในจำนวนที่มากกว่า 100,000 ล้าน SHIB
โดยที่เจ้ามือรายนี้ได้ซื้อเหรียญ SHIB บนเว็บเทรด centralized และโอนเหรียญไปเก็บที่ wallet ส่วนตัวซึ่งเจ้ามือรายนี้ตัดสินใจเข้าซื้อ SHIB หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวเกม Shiba Eternity ที่ทุกคนต่างให้การรอคอยกันมาเนิ่นนาน
🙏Cr. siamblockchain By Kasamsak Wongsanin
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
0.00001219 แนวต้าน
0.00001165 แนวต้าน
0.00001084 แนวรับ
0.00001037 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI กำลังลงไปทดสอบแนว 30
หลังจากที่ราคาขึ้นมาทดสอบแนว 0.00001219 หลังจากนั้นราคาได้มีพักราคา sideway หากราคาสามารถเบรคแนว 0.00001084 ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะลงต่อไปทดสอบแนวถัดไป 0.00001037 และแนว 0.0000996
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
รอให้ราคาเบรคแนว 0.00001084 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 0.00001084 เก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 0.00001037 หรือแนว 0.0000996 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 0.00001133
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 5/10/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
นักวิเคราะห์ชื่อดังฟันธง ! ตลาดหุ้นและ Bitcoin จะเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์
นาย Alessio Rastani นักวิเคราะห์ คริปโตเคอเรนซี่ที่มีชื่อเสียงให้ ได้แบ่งปันมุมมองของเขาที่มีต่อ Crypto ตลาดหุ้น และตลาด Forex ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
โดยนาย Alessio Rastani ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าตลาดจะถดถอยในระยะสั้นหรือระยะยาว
🙏Cr.siamblockchain By Sureeporn Detthongchan
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
20618.32 แนวต้าน
20378.68 แนวต้าน
20051.56 แนวรับ
19872.06 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI หักหัวลง
ราคาได้มีแรงซื้อ และ ผลักดันราคาขึ้นไปทดสอบแนวกรอบพักราคา 20378.68 ซึ่งเป็นแนวที่นัยยะสำคัญ และมีสัญญาณในการกลับตัว นั้นทำให้ราคามีโอกาสลงทดสอบแนว 20000.00 และแนว 19872.06
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 20378.68 เก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 200051.56หรือแนว 19872.06 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 20531.31
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
เเผนเทรด GALAUSDT Sellบทวิเคราะห์ Cryptocurrency
คู่เงิน GALAUSDT Sell
TF : H4
-Trend Line
-Pattern
TF : H4 จุดเข้าซื้อ
- Sell 0.0400
- SL 0.0414
- TP0.0358
ผลตอบเเทนคุ้มเสี่ยง
- RR / 1/3.5
เสี่ยงเเต่ล่ะเทรด
-1%
เทคนิคที่ใช้เทรด คาดหวัง RR ตั้งเเต่
RR 1:2 - RR 1:10
เทคนิคคอลระบบเทรด
- Price Action
Youtube
-Hack Trader
*ขอมูลที่นำเสนอข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น
[CaseStudy หาหุ้นลงทุน] การเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพเหนือกาลเวลาสวัสดีครับ สำหรับหลักการในวันนี้ผมอยากมานำเสนอการหาหุ้นที่เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่อาจเป็นปันผลให้เราประดับพอร์ตในการกระจายความเสี่ยง และหาโอกาสท่ามกลางตลาดลงกันนะครับ
และปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ตลาดขาลงและเป็นช่วงที่ลงทนเพื่อ Runtrend ก็นับว่าลำบากพอสมควร
ผมเลยใช้เวลานี้ไปกับการศึกษาขุดหาบริษัทดีๆ ที่ตอนนี้อาจมีตำหนิบ้าง แต่อาจกลับมาได้อาจจะดีกว่าก็ได้ครับ เป็นการใช้เวลาให้เหมาะสมอีกด้วย
โดยผมจะมีการอ้างอิงหนังสือที่ผมได้ตกตะกอนได้หลักๆ คือ 2 เล่มนี้ครับ นั่นคือเล่ม One Up on Wall Street กับ Warren Buffett Ways
โดยหลักการที่ผมอยากถ่ายทอดจะเป็นเรื่องของ
1) การหาบริษัทจากสิ่งรอบตัว การดูสิ่งแวดล้อมว่าเทรนด์อะไรที่มีอนาคต ซึ่งได้มาจากเล่ม One Up on Wall Street ของคุณปีเตอร์ ลินซ์ ครับ
2) การคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพแบบเล่ม Warren Buffett Ways รวมถึงหยิบหลักการเรื่องของปราการและคูคลองมาใช้ในการเลือก
โดยหลักการนี้ผมจะมาพูดในวีดีโอนี้กันครับ และขอมาแนะนำหุ้นหมวดหนึ่งที่มี Moat ที่อยากจะนำเสนอไม่มีในไทยได้รู้จักด้วยครับ เผื่อเป็นโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในต่างประเทศครับผม
ท้ายสุดนี้มี Key Takeaway ที่ผมตกตะกอนได้เกี่ยวกับบริษัทที่ตลาดมองว่ามีคุณภาพ ซึ่งมีหลักๆ ประมาณ 7 ข้อ ดังนี้ครับ
1)เป็นบริษัทมี Profit Margin สูง
2)บริษัทมี Free Cash Flow ตลอด
3)นอกจากมี Free Cash Flow สูงแล้ว มีการลง Capex ในระดับไม่มากนัก (อาจจะไม่เกิน 35% ของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน)
4)บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมีอัตราที่สูง
5)พึงระลึกไว้ ว่าหุ้นปันผลดีๆ คือบริษัทที่มี Recurring Income อย่างสม่ำเสมอ
5.5) และจำดีมากหาก Income ส่วนนี้เพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่าอัตราการเพิ่มของ GDP กับ Inflation
6)จากข้อที่ 5 Recurring Income ล้วนมาจากการมี Recurring Revenue ที่มีศักยภาพ กล่าวคือสินค้าหรือการบริการของบริษัทต้องเป็นที่ต้องการตลอด และอาจมีเพิ่มขึ้นบ้าง
7)จากข้อที่ 6 Recurring Revenue จะดีมากที่สุดหากว่าไม่มีคู่แข่งหรือสินค้าสับเปลี่ยนมาตัดกำลัง คงดีไม่น้อยหากเราซื้อหุ้นที่ดูผูกขาด แต่ก็สามารถวางตัวให้ไม่มีข้อครหาได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารแล้วครับ ว่าวางตัวและดำเนินนโยบายสร้างภาพลักษณ์อย่างไร
สำหรับสิ่งที่ผมตกตะกอนและอยากฝากฝังทุกคนไว้ก็มีเพียงเท่านี้ หวังว่าวีดีโอและเนื้อหานี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากทุกคนชอบผมก็ดีใจและฝากร้ investing ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะครับ ที่นี่เราจะรวมหนังสือที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลนักลงทุนไว้ในที่เดียว เพื่อเสริมศักยภาพสังคมการลงทนต่อๆ ไปครับ
โชคดีรักษาสุขภาพ Stay Healthy Stay Wealthy ครับผม
AH , TF DAY (17/06/2021)พิจารณาจาก technical
- กราฟทำทรง ขึ้น พัก ทะลุ มาหลายชุดคลื่นอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจุบันราคาอยู่ในโซนการพักตัว บริเวณ 61.8% ของฟิโบ
- แนวต้าน 26.6 / 31 บาท ตามลำดับ
- แนวรับ 22.5 / 19.7 บาท ตามลำดับ
พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน
- บริษัทเคยทำกำไรได้เป็นปกติ ก่อนจะนำเงินไปลงทุนขยายสาขาและทำให้บริษัทขาดทุนใน Q4 2019
- Q1 2021 รายได้ออกมาดีโดยมี EPS ที่ 1.15 เท่า
- หากดู EPS ในอดีต บริษัททำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ค่ากลางไว้ที่ 0.6 ต่อไตรมาส
- PE ที่ตลาดเคยให้คุณค่าในอดีต ตลาดเคยให้ค่า (แบบกดราคา) ไว้ที่ประมาณ 8 เท่า
- PE กลุ่มยานยนต์ปัจจุบันตลาดให้มูลค่าประมาณ (แบบกดต่ำสุดๆ) 10 เท่า
ดังนั้น
- เมื่อพิจารณาจาก EPS ที่เป็นค่ากลาง 0.6 x 3 ไตรมาสที่เหลือ = 1.8 + ไตรมาส 1 ที่ทำได้ 1.15 = EPS 2.95
- 2.95 x 8 = 23.6 บาท
- 2.95 x 10 = 29.5 บาท (faie value แบบกดสุดๆ)
สรุป
- พยายามสะสม ตามกรอบจากการพิจารณาทั้งทางด้าน เทคนิคอล และ ปัจจัยพื้นฐาน
- Risk to reward Ratio 1:2 (หรือ Reward มากกว่าหากตลาดให้มูลค่าหรือมาจากคนที่ไล่ซื้อตอนเบรคไฮ)
- Downsize -15% Upsize 30% +
แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,60026 กันยายน 2022, 05:58 น
• ราคาทองคำปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1638.90 ดอลลาร์
• PMI ของ S&P ทั่วโลกที่เปิดเผยในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้จุดชนวนให้เกิดความกลัวต่อภาวะถดถอยของนักลงทุน ซึ่งเพิ่มความอยากอาหารสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปลอดภัยมากขึ้น
• การวิเคราะห์ราคาทองคำ: พักต่ำกว่า $1,638 เพื่อส่ง XAU/USD ไปที่ $1600
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งหลังถูกกดดันจากความเสี่ยงและไหลเข้าหาดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษใหม่ โดยรวมแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุสองประการที่ทำให้กลุ่มโลหะมีค่าร่วงลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโลหะสีเหลือง ในขณะที่เขียน XAU/USD ซื้อขายที่ $1643.50 ต่อทรอยออนซ์
หุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อวอลล์สตรีทปิดตัวลงโดยขาดทุนหนักระหว่าง 1.62% ถึง 1.80% ในวันศุกร์ อัตราบันทึกย่อมาตรฐานอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ หวนกลับจากการให้ผลตอบแทน 3.829% และถูกกำหนดให้สิ้นสุดสัปดาห์ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 3.70% ในบันทึกเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (TIPS) ได้ให้น้ำหนักกับโลหะที่ไม่มีผลตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดที่ 1.33%
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงทำระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 112.990 เพิ่มขึ้น 1.55% หลังจากแตะระดับสูงสุด YTD ที่ 113.228
การตัดสินใจของเฟดในวันพุธ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และเปิดประตูให้เพิ่มขึ้นอีก 120 bps ทำให้เกิดความกลัวว่าสหรัฐฯ จะถดถอย มาตรการกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลกชุดหนึ่งเปิดเผยในระหว่างวันคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในเขตยูโรและสหราชอาณาจักร ในกรณีของสหรัฐอเมริกา S&P Global PMI ดีขึ้น แม้ว่าการอ่านค่าบริการและคอมโพสิตจะยังคงอยู่ในเขตเศรษฐกิจถดถอย
แหล่งข่าวที่อ้างโดยรอยเตอร์ให้ความเห็นว่า “ทองคำและโลหะกึ่งการลงทุนอื่นๆ เช่น เงินและแพลตตินั่ม มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจนกว่าตลาดจะถึงจุดต่ำสุด”
นอกจากนี้ XAU/USD เริ่มซื้อขายที่บริเวณ $1670 และไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรายวันที่ $1675.93 ต่อมา ราคาโลหะสีเหลืองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของ YTD ที่ 1638.90 ดอลลาร์
การวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAU/USD): แนวโน้มทางเทคนิค
ลิ่มที่ตกลงมาซึ่งปรากฏในกราฟรายวัน XAU/USD ถูกยกเลิกเมื่อราคาสปอตร่วงลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้มด้านล่าง น่าสังเกตว่าแม้ว่า RSI จะส่งสัญญาณว่าทองคำมีการขายมากเกินไป แต่แนวโน้มขาลงของโลหะสีเหลืองยังคงไม่บุบสลาย ดังนั้นแนวรับครั้งแรกของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับต่ำสุดของ YTYD ที่ $1638.90 เมื่อเคลียร์แล้ว แนวรับถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา $1,600 ตามด้วยจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมปี 2020 ที่ $1451.41