📈📉USDCAD การวิเคราะห์ประจำวัน 29/9/2021 by TraderTan📈📉ข่าวต่างประเทศ 📣📣
-- นางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเสตต์ กล่าวโจมตีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยกล่าวว่านายพาวเวลเป็นบุคคลอันตรายที่บ่อนทำลายระบบธนาคารสหรัฐ และตนจะขัดขวางมิให้นายพาวเวลได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเฟดอีกสมัยหนึ่ง
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อสภาคองเกรสวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของอียู รวมถึงข้อมูลจากสหรัฐอย่างยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
Cr. ryt9
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
1.28426 แนวต้าน
1.27047 แนวต้าน
1.27047 แนวรับ
1.24312 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬💬
RSI เป็นกลาง
ราคาได้มีการลงมาทดสอบแนว 1.26005 ซึ่งเป็นแนวที่นัยยะสำคัญ หลัวจากนั้นราคาก็ได้มีแรงซื้อกลับเข้ามาดันขึ้นไปทดสอบแนว 1.27047 นั้นทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะสร้าง กรอบราคา Sideway เกิดขึ้น
หากราคาสามารถที่จะหลดุแนว 1.26005 ได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะลงต่อไปทดสอบแนว 1.25079 และอาจลงไปถึงแนว 1.24312
แต่ถ้าราคามีแรงซ้อกลับเข้ามา ผลัดดันราคาขึ้นไปปิดเหนือแนว 1.27047 ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นต่อไปทดสอบแนว 1.28426
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
หากราคาลงไปทะลุและปิดใต้แนว 1.26005 รอราคากลับมาทดสอบแนว 1.26005 รอให้เกิดสัญญาณลงต่อ (Price Action) ให้หาจังหวะในการเข้า ขาย Sell
โดนกำหนดเป้าหมายราคาอยู่ที่แนว 1.25079✅
และแนว 1.24312 ✅✅
และตั้งตัดขาดทุนอยู่ที่แนว 1.27094❗❗
💢💢 ปล. เมือราคาถึงแนว 1.25079 เลือนเส้น Stoploss ลงมาตำแหน่งที่เปิด เพื่อป้องกันการขาด
หากราคาขึ้นไปทะลุและปิดเหนือแนว 1.27047 รอราคากลับมาทดสอบแนว 1.27047 รอให้เกิดสัญญาณขึ้นต่อ (Price Action) ให้หาจังหวะในการเข้า ซื้อ Buy
โดนกำหนดเป้าหมายราคา
ปิดกำไรที่แนว 1.28426 ✅✅
ตัดขาดทุนอยู่ที่แนว 1.26005❗❗
💢💢 ปล. เมือราคาถึงแนว 1.27646 เลือนเส้น Stoploss -ขึ้นมาตำแหน่งที่เปิด เพื่อป้องกันการขาดทุน
💢💢นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ไอเดียชุมชน
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกหลังร่วงหนักเมื่อวันศุกร์
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกอีกครั้งหลังร่วงหนักช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้น โดยปัจจัยมาจากความวิตกเกี่ยวกับการที่จีนทำการกวาดล้างธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน ทำให้เกิดแรงกระตุ้นนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากเหตุดังกล่าว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดบวกเพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.11% โดยปิดที่ระดับ 1,751.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำระยะนี้นั้นถือว่ายังผันผวนในแดนลบ หากทองคำยังไม่สามารถปรับฐานสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้นั้น แนวโน้มยังคงเห็นทิศทางขาลงแม้ในระยะสั้นอาจเห็นการปรับฐานขึ้นเป็นช่วงๆ แถวๆ แนวต้าน 1,760, 1775, 1,786 และ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากพิจารณาดูในกรอบเวลาใหญ่นั้นเราจะเห็นได้ว่าการปรับขึ้นของทางคำนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวไกลเพื่อให้เป็นการปรับขึ้นที่สมบูรณ์เราประเมินแนวต้านระยะกลางไว้ที่ 1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากผ่านแนวต้านนี้ได้นั้นละเราถึงจะมองว่าทองคำเริ่มมีนัำหนักกลับมาทางฝั่งขาขึ้นอีกครั้ง สำหรับการปรับขึ้นเป็นช่วงระยะสั้นนั้น ยังไม่ใช่เป็นการปรับขึ้นแต่เป็นช่วงการปรับฐานราคาเสียมากกว่า โดยหากวันนี้ทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือ 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเห็นการปรับตัวต่ำได้อีกครั้ง ทั้งนี้วันนี้หากตลาดหุ้นเปิดรับความเสี่ยงได้ ดอลลาร์อาจถูกเทขายออกมาจากการเข้าซื้อก่อนหน้า ทำให้มีโอกาสที่ดอลลาร์จะปรับตัวต่ำได้เช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นแรงหนุนตลาดทองคำได้อีกวันหนึ่งในวันนี้ ฉะนั้นแนวต้านที่ควรให้ความสนใจคือ 1,762 และ 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากผ่านแนวดังกล่าวก็มีโอกาสที่ทองคำจะปรบตัวสูงขึ้นในระยะสั้นอีกวันหนึ่ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1,745-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถตรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,762-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว พิจารณาปิดทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณ 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขยับสูงกว่า 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1768 / 1776 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1752 / 1746 / 1738
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ซื้อเพิ่มที่ 0.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,750.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 993.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 10
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -8.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
สิ่งที่ยากที่สุด ในการเทรดตามระบบ Trend Following 10 ข้อสิ่งที่ยากที่สุด ในการเทรดตามระบบ Trend Following 10 ข้อ
======================
* จากการที่ผมพยายามเทรด Bitcoin โดยใช้ระบบ Trend Following เช่น Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) หรือเอาง่ายๆ แค่ EMA Cross ในระดับ Daily
* พบว่า สิ่งที่ยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่สุด ในการเทรด ตามระบบ ก็คือ การ "ทำตามระบบให้ได้" ของเราเองนี่แหละครับ
* พิมพ์แล้วก็เหมือนจะย้อนแย้ง เรามาดูตัวอย่างสถานการณ์จริงกันดีกว่าครับ
---------------------
1) ระบบแดงมานาน และเพิ่งเขียวแรกในรอบหลายเดือน
---------------------
* ข้อนี้จะเป็นจุดตายของมือใหม่ที่ไม่ได้ติดตามตลาดทุกวันครับ เพราะ ถ้าระบบแดงมานาน หมายความว่า ตลาดช่วงนั้นๆ "น่าเบื่อ" มากๆ คือมีแต่ซึมๆ ทรงๆ เหี่ยวๆ สื่อต่างๆ ก็ไม่พูดถึง เพื่อนๆ รอบตัวก็ไม่มีใครเล่น เพราะมันไม่ได้ตัง
* แต่จริงๆ แล้ว ข้อนี้ เป็นข้อที่สำคัญมาก ที่จะทำให้เรา "ได้ตังก้อนใหญ่" กันง่ายๆ เลยครับ เพราะ ส่วนใหญ่ มันมักจะมีโอกาสสูงที่ ระบบเขียวรอบนี้ อาจจะเป็นการ "กลับตัวใหญ่" ของกราฟ และเริ่มเทรนขาขึ้นรอบใหม่เลยก็ได้
-- วิธีแก้ --
* ดังนั้น ถ้าเราเห็นเหรียญ เห็นหุ้นตัวไหน ระบบแดงมานาน ก็อย่าไปรังเกียจมันครับ จับมันใส่เข้า watchlist ใน traindingview แล้วก็นั่งกดดูมันทุกวัน วันละครั้ง พอวันไหนมันเริ่มเขียว ก็ให้รอจนมันปิดแท่งก่อน เพื่อ confirm สัญญาณ ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยซื้อตอนเปิดแท่งถัดไปครับ
---------------------
2) ระบบทำเขียวหลอกบ่อย บ่อยจนหลอน และพอเขียวอีกทีก็ไม่กล้าเข้า
---------------------
* เคสนี้จะเป็นกับสินทรัพย์ที่อยู่ระหว่างช่วง sideway down คือ เป็นขาลง ที่ไม่ได้ลงแบบโหดๆ แต่เป็นการลงแบบเนิบๆ ช้าๆ ห่วยๆ กากๆ
* ถ้าให้ยกตัวอย่างก็จะเป็นเคสของ Bitcoin ช่วงปี 2018 ทั้งปีครับ ช่วงนั้น ใครที่ใช้ระบบ Trend Following ไม่ว่าระบบไหน จะต้องเจอสัญญาณหลอกกันตลอดทั้งปี เขียวที่ยอด แดงที่ก้น เสมอ
* เจอครั้งสองครั้งแรก ก็อาจจะยังพอทำใจ แต่พอเริ่มเจอครั้งที่สาม ที่สี่ ที่ห้า อันนี้ก็จะเริ่มถอดใจแล้วครับ เพราะ ถ้าใครไม่ยอมทำ Position Sizing ดีๆ วางความเสี่ยงต่อการเทรดดีๆ เจอ consecutive losses แบบนี้ พอร์ตพังแน่นอน
* และส่วนใหญ่ ... เมื่อไหร่ที่เราเริ่มถอดใจ...เมื่อนั้นแหละ มันคือสัญญาณขึ้นจริง 5555
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้สามารถแก้ได้ ด้วยการที่เราต้องกำหนด Risk per Trade ไม่ให้มากจนเกินไป โดย ถ้าใช้ตามหลักการที่กูรูหุ้น หรือเทรดเดอร์ระดับ Market Wizard ชอบแนะนำกัน ก็คือ 2% Risk per trade ครับ .. หมายความว่า ใน 1 ครั้งที่ระบบเราเขียว เราจะวางความเสี่ยง ให้เราเสียตัง -2% ของพอร์ต ถ้ามันเป็นเขียวหลอก ไม่ไปต่อ และย่อลงมาชน Stop Loss ของเราครับ
* การใช้ 2% Risk per trade หมายความว่า ใน worse case scenario เราสามารถเจอ consecutive losses ประมาณ 5-6 ครั้ง พอร์ตเราก็จะขาดทุนเพียงแค่ -10% ถึง -12% เท่านั้นเองครับ ซึ่ง การขาดทุนระดับนี้ ถ้าเทรนมา สามารถได้คืนได้อย่างง่ายดายครับ
---------------------
3) ระบบเพิ่งแดงมาได้ไม่นาน และกราฟเริ่มเด้งกลับแรง แต่ยังไม่ confirm เขียว
---------------------
* เคสนี้ประมาณว่า เราเพิ่ง Take Profit/Cutloss ไปตามระบบแดงขาย แต่พอเรานั่งเฉยๆ รอให้กราฟมันถล่ม เพราะระบบแดงแล้วนี่ .. มันกลับลากกลับเฉยเลย แถมลากไปสูงกว่าจุดที่เราเพิ่ง TP/SL ออกไปซะด้วยสิ...แต่การลากกลับของมัน ก็ยังไม่ทำให้ระบบเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวได้
* การเคลื่อนตัวของราคาแบบนี้ ทำให้เราคิดว่า "โห รู้งี้ ไม่คัทก็ดีหรอก เพราะสุดท้าย มันก็กลับมา คัทไปแล้วก็เสียจังหวะหมด"
* และถ้าเราไปอยู่ในเฟส หรือห้องแชท ก็จะมีคนที่ไปช้อนซื้อตอนที่ระบบแดง ราคารูดหนัก มาอวดกำไรโชว์ว่า เห็นมะ ที่ช้อนตะกี้ มีกำไรแล้ว .. ยิ่งทำให้เราเกิดอาการ อิจฉาริษยา อยากได้ อยากมี อย่างเขาบ้าง รวมถึง เริ่มมีความสงสัยในระบบเทรดที่เราใช้อยู่ ว่า จริงๆ แล้วมันเวิร์คหรือเปล่าเนี้ย?
* สุดท้าย พอคิดมากเข้าๆ ก็จะนำพาไปสู่การ "มือลั่น" นั่นก็คือการเข้าซื้อ โดยไม่รอสัญญาณ confirm ระบบเขียวครับ ( แหกระบบนั่นเอง )
* ซึ่ง อาการเหล่านี้จะไม่เกิดเลย ถ้าระบบมันแดง แล้วมันลงต่อไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ใครไปยิ่งช้อนก็ยิ่งพัง .. ถ้ามันลงต่อ เราก็จะได้แต่รำพึงกับตัวเองว่า "ดีแล้วที่ทำตามระบบ"
-- วิธีแก้ --
* เคสแบบนี้ ต้องให้เราทำใจร่มๆ แล้วท่องไว้เสมอครับว่า "เดี๋ยวถ้ามันเขียวใหม่ ก็เข้าใหม่ แค่นั้นแหละ อย่าไปคิดมาก"
* และให้พยายามเปิดเคสเก่าๆ ย้อนหลัง หรือเปิดดูเทรดไดอารี่ ของเราเอง ที่เคยรีบไปเข้า ตอนระบบยังไม่เขียว แล้วมันลงต่อแรงจนขาดทุน แล้วก็หยิบมาเตือนสติตัวเองบ่อยๆ ว่า "เห็นไหม ไม่ทำตามระบบ สุดท้าย ก็เสียตังฟรี"
* ส่วน เรื่องคนที่อวดกำไร ถ้ามันทำให้การตัดสินใจ หรืออารมณ์ของเราขุ่นมัว วิธีแก้ง่ายๆ ก็คือ เอาตัวเราเอง ออกมาจากคนเหล่านั้นซะครับ จบ 555
---------------------
4) เข้าไปแล้วตอนระบบเขียว แต่ก็เจอเขียวหลอก ทำให้รู้สึกว่า ระบบมันห่วย
---------------------
* เคสนี้ก็เป็นอีกเคสที่สุดแสนจะคลาสสิค โดยเฉพาะคนที่เพิ่งใช้ระบบ หรือทำตามระบบใหม่ๆ จะเจอกันมาก
* เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่า ระบบเขียวแล้ว มันจะต้องวิ่งต่อไปเลย ... ซึ่ง... ไม่จริงเลยครับ
* ถ้าไปดูข้อมูลผล Backtest ก็จะพบว่า win rate ของระบบ Trend Following มีโอกาสถูกแค่ประมาณ 40% เท่านั้นเองครับ ( แถมน้อยกว่านี้อีก ในบางสินทรัพย์ และ บางอันก็ใช้ระบบนี้ไม่ได้อีกนะ )
* นั่นก็หมายความว่า ทุกครั้งที่ระบบ "เขียว" เราจะมีโอกาส "เกินครึ่ง" ที่ มันจะเป็น "เขียวหลอก"
* แต่ถ้ามันเป็น "เขียวจริง" เทรนมันก็จะวิ่งสร้างกำไรให้เราไปได้อีกไกลครับ
-- วิธีแก้ --
* วิธีแก้เคสนี้ก็จะเหมือนกับเคสข้อ 2 นั่นก็คือ ต้องวาง Risk per Trade ให้เหมาะสม ไม่ให้เราขาดทุนหนัก ตอนที่เราเจอเขียวหลอก
* เอาจริงๆ ปัญหาของเคสนี้อีกเรื่องก็คือ การเข้าด้วย Position Size ที่ใหญ่จนเกินไป เพราะยังไม่มีความเข้าใจเรื่องการทำ Risk per trade + position size พอเห็นระบบเขียวทีก็กด all-in กันไป บางคนร้ายกว่านั้น ก็ไป all-in ตามด้วยอัด leverage อีก พอเจอเขียวหลอก ก็พอร์ตพังเกินเยียวยา
* ดังนั้น แก้ได้ง่ายๆ นิดเดียว คือ วาง Position Size ด้วยขนาด Risk ที่เหมาะสม และยอมรับว่า เรามีโอกาสเจอ "เขียวหลอก" ติดๆ กันไปหลายครั้ง แต่ ต้องเชื่อมั่นว่า เมื่อมันเขียวจริง เทรนมา เราจะมีกำไรมา cover loss เล็กๆ น้อยๆ ที่เสียไปได้จนหมด ครับ
---------------------
5) เข้าไปแล้วตอนระบบเขียว แต่พอมันเริ่มย่อต่ำกว่าจุดที่เข้าไว้ ก็เริ่มหลอน หลอนมากๆ ก็ไปคัท
---------------------
* เคสนี้ผมก็เจอบ่อยอีกเช่นกัน จริงๆ ปัญหานี้ หลักๆ ก็คงเกิดขึ้นมาจากการไม่เข้าใจในระบบดีพอ และไปเข้าด้วย Position ที่มีขนาดใหญ่มากๆ เช่น all-in ตอนระบบเขียว หรือไปใช้ leverage เยอะๆ
* พอมันเริ่มย่อ เข้ามาต่ำกว่าจุดเข้า แต่ยังไม่ถึงจุด Stop Loss ก็จะทน loss ตรงนั้นไม่ค่อยจะได้ และสุดท้าย พอมันย่ำมากๆ ก็มือลั่น กดขายออกไป โดยไม่รอให้มันชน SL หรือระบบแดงก่อน
* พอขายเสร็จ ก็ตามคาด ครับ ราคาก็วิ่งต่อไปอีกไกล ทำให้ เราตกรถ จะเข้าอีกทีก็ไม่กล้าแล้ว เพราะกลัวโดนมันหลอกอีก .. มัวรอไปรอมา สุดท้ายก็ไม่กล้า และไปกล้าอีกทีตอนที่ราคาวิ่งไปถึงจุดพีคแล้วนั่นเอง 555
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้ จะแก้ได้ จะต้องห้ามเข้าแบบ all-in จัดหนักจัดเต็ม เพราะ มันจะทำให้เราทนแกว่งได้ ตอนที่กราฟอาจจะยังพักตัว อยู่ในช่วงแรกๆ
* วิธีแก้ ก็เหมือนข้ออื่นๆ น่ะแหละ นั่นก็คือ ต้องเข้าด้วยความเสี่ยงที่ไม่เยอะจนเกินไป ถ้าจะให้ดีก็เน้นแค่ 2% Risk per trade
* เพราะถ้าเราเข้าด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ตอนมันย่อ เราก็จะไม่รู้สึกหลอน พอไม่หลอน เราก็ทนย่อได้ พอทนย่อได้ มันย่อเสร็จ แล้วมันวิ่งต่อ เราก็รันเทรนกันไปยาวๆ ครับ
---------------------
6) รันเทรนระบบเขียว มีกำไร แต่นอนไม่หลับทุกวัน อยากขายเหลือเกิน
---------------------
* นี่ก็เป็นเคสสุดคลาสสิค เช่นกัน เป็นกันมากสำหรับมือใหม่ เพราะ พอมีกำไร ตามสัญชาติญาณของมนุษย์พื้นฐาน เราก็จะไม่อยากเสียกำไรก้อนนี้ไป ทำให้ คันมือ สุดๆๆ และถ้าใจไม่แข็งพอ ก็จะไปขายเก็บกำไรออกมาทั้งหมด โดยระบบยังไม่แดง ยังไม่มีสัญญาณขาย
* และพอขายออกไปทั้งหมดแล้ว ทีนี้ ยุ่งเลย เพราะ ถ้ามันไปต่อขึ้นมา เราก็ได้แต่นั่งตกรถ มองตาปริบๆ จะเข้าใหม่ก็ไม่กล้าเข้า เพราะกลัวมันย่อ กลัวดอย .. แต่จะไม่เข้าเลยก็กลัวตกรถ
* มัวแต่ลังเลไปๆ มาๆ สุดท้าย ก็จะไปเข้าที่ยอดอยู่ดี ตอนสื่อต่างๆ เริ่มลงเริ่มเชียร์ และเพื่อนๆ เราเริ่มอวดกำไรครับ 5555
-- วิธีแก้ --
* วิธีแก้เคสนี้ มันก็แอบ Tricky และยากพอสมควร โดยจาก ปสก ที่ผมรันเทรนมา ก็ขอเสนอวิธีแก้ดังนี้ครับ
** 6.1) ทยอยขายออกไปเรื่อยๆ ตามเป้า key fibo : สำหรับวิธีนี้ เราต้องลากพวก fibo projection เพื่อหาเป้าให้เป็นกันก่อน และพอราคามันวิ่งมาถึงเป้าที่เราต้องการ ก็ค่อยๆ ทยอยขายออกไปครับ แต่อย่าขายหมด ให้เหลือไม้ปลายนวมติดมือไว้ด้วย เพื่อไว้เตรียมออกตอนระบบแดง.. วิธีนี้ ข้อดีคือ เราจะสามารถลดความเสี่ยงของการถือได้เยอะเลย แต่ มันก็มีข้อเสียคือ มันจะทำให้เราได้กำไรไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นเองครับ
** 6.2) อย่าไปดูมันเยอะ ให้หาอย่างอื่นทำไป หรือแยกพอร์ตให้เราดูวันละครั้งพอ เพราะยิ่งดูเยอะ เรายิ่งหลอน พอยิ่งหลอน ก็จะมีโอกาสมือลั่นมากขึ้นครับ นั่งทับมือ ทนรวย เอาไว้ครับ 555
---------------------
7) รันเทรนมานาน กำไรเยอะมาก พอระบบแดงแล้วก็ไม่อยากขาย เพราะเสียดาย กลัวว่ามันจะไปต่อ
---------------------
* เคสนี้ จะเป็นเคสกลับกันกับเคสก่อนหน้า 555 โดยจะเป็นกับคนที่มือเก๋าๆ และรันเทรนกันมานานพอสมควร และมีกำไรหลาย x ไปแล้ว
* โดย พอเราเริ่มมีกำไรเยอะ เราจะโลภต่อ และคิดว่า "ถือมาขนาดนี้แล้ว ถ้ามาขายตอนนี้ แล้วมันไปต่ออีก โห เสียดายแย่เลย ระบบแดงแล้ว ไม่ขายดีกว่า ไหนๆ ทุนเราก็ต่ำขนาดนี้แล้ว"
* เคสนี้ พอเราเจอแดงหลอก ( แดงแล้วกลับมาเขียวใหม่ ) มันก็จะยิ่งฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหายนะ ฝังเข้าไปในจิตใจเราอีก ว่า "เห็นมั้ย ดีนะ ที่ไม่ขาย ไปต่ออีกไกลเล้ยยย รวยๆๆ"
* และ คนที่ตกในข้อนี้ พอไปเจอ "แดงจริง" ลงจริงจัง ก็จะเจอสภาพการคืนกำไร จนหมดครับ เพราะ พอเขาไม่ออกตอนแดงแรก ทีนี้ เขาก็จะไม่มีจุด "เก็บกำไร" อื่นๆ อยู่ในแผน เพราะเขาไม่เคยมอง downside risk ละ มองแต่ upside gain
* พอคืนกำไรหมด จนเหลือเท่าทุน ทีนี้ก็จะเข้าโหมดว่า "ไม่เป็นไรน่า ถือๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็กลับไปเองแหละ ก่อนหน้านี้มันยังกลับไปเลย"
* พออยู่มาจนถึงจุดนี้ นอกจากคืนกำไรแล้ว ก็จะกลายเป็นขาดทุนหนักไปด้วยนั่นเองครับ 5555
-- วิธีแก้ --
* ง่ายนิดเดียว ระบบแดงก็ขายสิครับ อย่าไปคิดไรมาก! ถ้ามันแดงหลอก เขียวเราก็เข้าใหม่ แค่นั้นเอง
---------------------
8) ตกรถ ระบบเขียวมานานแล้ว แต่รอไม่เป็น แล้วก็ไปเข้าที่ยอด
---------------------
* เคสนี้ เป็นได้ทั้งมือใหม่ และมือเก่า หรือคนที่ขายหมูออกไปหมดแล้ว หรือคนที่กลัวมากๆ มองลงมาตลอด ว่ามันขึ้นไม่จริงหร๊อก .. สุดท้าย พอสื่อลงเยอะๆ เพื่อนอวดกำไรมากๆ ก็ไปเข้าที่ยอดดอย
* พอเข้าเสร็จ ราคาก็อาจจะไปต่ออีกสักพัก แต่สุดท้าย มันก็จะจบรอบ และรูดหนัก ในท้ายที่สุด
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้แก้ง่ายครับ ถ้าเราตกรถ เราก็ตกรถ แค่นั้นแหละ อย่าไปไล่ราคา ให้นั่งดูเฉยๆ ไป และนั่งคิดว่า ทำไม รอบที่ผ่านมา เราถึงตกรถนะ และ จะทำยังไง ไม่ให้ตกรถอีกในรอบหน้า
* ถ้าเราวางแผนให้เรียบร้อยได้ และรอให้เป็น เดี๋ยวท้ายที่สุด ระบบมันก็จะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง เองแหละครับ และนั่นแหละ คือจุดที่คุณจะได้ใช้การวิเคราะห์ปัญหา ที่คุณทำมาตะกี้ เพื่อหาจังหวะเข้าใหม่ ตอนเขียวแรกนั่นเอง
---------------------
9) ระบบแดง แต่ไปคิดว่า มันน่าจะย่อแล้วไปต่อ ก็เลยไปย่อซื้อย่อซื้อ กัน
---------------------
* จริงๆ เคสนี้มันก็ไม่เชิงเกี่ยวกับการทำตามระบบเท่าไหร่ จะให้พูด ก็คงหมายถึงแมงเม่าที่ดูเทรนกันไม่เป็นมากกว่า 555
* โดยมือใหม่ ส่วนใหญ่ จะเป็นอารมณ์ต่อเนื่องมาจากข้อ 8 คือ ตกรถ เทรนขาขึ้นรอบใหญ่ แต่ เขาเห็นเหรียญ เห็นหุ้นตัวนี้ละ
* สิ่งที่เขาจะทำกัน ก็คือ การ "รอย่อ แล้วค่อยซื้อ" เพราะคิดว่า "เดี๋ยวมันก็คงจะไปต่อเรื่อยๆ เหมือนที่กูรูเขาว่าไว้"
* แต่ปัญหาของการ "ย่อซื้อ" ของมือใหม่ มันมีจุดอ่อนสำคัญมากคือ.. ปกติแล้ว กราฟ มันจะมีสองรูปแบบคือ
(1) ย่อ แล้วไปต่อ : เคสนี้จะเกิดในเทรนขาขึ้น ส่วนใหญ่ จะเป็นตอนที่ระบบยังเขียวอยู่
(2) ย่อแล้ว ย่ออีก ก็ไม่ขึ้นซะที : เคสนี้ มักจะเกิดในเทรนขาลง ตอนที่มันจบรอบไปแล้ว และระบบแดง
* พอไปใช้ท่า ย่อซื้อ กลายเป็นว่า พอเทรนมันเปลี่ยน เป็นขาลงแล้ว ยิ่งย่อ ยิ่งซื้อ ก็ยิ่งขาดทุน นั่นเอง
-- วิธีแก้ --
* ง่ายนิดเดียวครับ ถ้าระบบแดง ก็อย่าไปใช้วิธีย่อซื้อ นั่งกันเฉยๆ รอระบบเขียวกันไปครับ
---------------------
10) ระบบแดง แล้วคิดว่าจะต้องลง "แน่ๆ" แล้วก็ไป Short จัดหนักจัดเต็ม
---------------------
* เคสนี้ก็เป็นอีกเคสที่สุดแสนจะคลาสสิค โดยจะเป็นกับมือใหม่ที่พอมีความรู้มากขึ้นละ เริ่มค้นพบว่า ในการเทรด นั้น เราสามารถ "Short" เพื่อหากำไรตอนขาลงได้อีกด้วย
* ทีนี้ พอได้วิชามาแล้ว ก็ร้อนวิชาละ ต้องลองจัด...เฮ้ย ระบบแดงแล้วนี่นา มันต้องลง "แน่ๆ" แล้วล่ะ ไม่ได้แล้ว แบบนี้ จัดเลย short 20x all-in รวยแน่นอน
* กลายเป็นว่า ตอนแรก มันก็อาจจะลงจริงนะ เก็บกำไรได้ทีสองที เริ่มดีใจ ..เข้าโหมดไล่ราคา ไม่ได้ละรอบนี้ กูรูบอกลงไปไร้ค่าแน่ วิกฤติการเงินโลกมาแน่นอน เพราะร้อดชายบอกผมมา
* จัดเลย Short แนวรับ จัดหนักจัดเต็ม snowball กับกำไรที่ได้มาก่อนหน้า รอบนี้ รวยแน่ๆ
* ... สุดท้าย เจอแท่งสวนขึ้นมาแรงๆ หนึ่งดอก ล้างพอร์ต หมดตัว หายหมด ทั้งทุน และกำไร 5555 จบข่าว
-- วิธีแก้ --
* อย่าไป short เลยครับ นั่งถือเงินสดเฉยๆ ดีกว่า
* เพราะ การถือเงินสด เอาจริงๆ มันก็คือการ short 1x แล้วนะ ยกตัวอย่างเช่น เงิน 2 ล้าน ตอนที่ยอด 60k อาจจะซื้อได้แค่ 1 BTC แต่พอ BTC ลงไปเหลือ 30k เราจะซื้อ BTC ได้ถึง 2 BTC แล้วนะครับ .. เห็นไหมว่า 1 BTC = 2 BTC เฉยเลยนะ 5555
---------------------
สรุป
---------------------
* ระบบ Trend Following มันเป็นเพียงแค่ส่วนนึงในการเทรดตามระบบเท่านั้นนะครับ ซึ่ง หลายๆ คนก็อาจจะไม่ชอบวิธีนี้ และอาจจะมีวิธีหาตังจากตลาด วิธีอื่น ที่เหมาะสมกับตัวเองก็ได้
* แต่สิ่งที่ผมต้องการสื่อในบทความนี้ หลักๆ ก็ อยากจะแชร์ สิ่งที่ผมเจอมากะตัว หรือเห็นมือใหม่คนอื่นๆ ทำ หลังจากพยายามใช้ระบบนี้ มาตลอดช่วงหลายปี
* บางอย่าง อาจจะถูก อาจจะผิด อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่คุณเชื่ออยู่ ถืออยู่ และอ่านแล้วอาจจะหงุดหงิด ก็ขอให้ทำใจร่มๆ แล้วก็ปล่อยผ่านไปนะ 555
* ส่วนใครอ่านแล้วโดนใจ เฮ้ย นี่มันตัวฉันเลยนี่หว่า ก็ลองเอาไปปรับแก้กันดู เพราะจริงๆ แล้ว การเทรด เนื้อแท้แล้ว จริงๆ มันคือการเรียนรู้ และปรับปรุงตัวเอง ในทุกๆ วัน
* ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนที่ กำลังอยู่ระหว่างการเรียนรู้ นะครับ
สัญญาณเทรด DE30 เทคนิค Demand Supply ที่น่าสนใจวันที่ 23-09-2021สัญญาณเทรด DE30 ที่มีหลายปัจจัย Confluence กัน
- Supply Zone DBD TF H1
- SBR แนวต้าน R1,2 TF H1
- Supply Zone อยู่ใกล้กับ Fibo 61.8
- Price Pattern Rising Wedge
*** Awesome Oscillator ยังไม่เกิด Divergence ***
สรุป รอ Sell เมื่อราคาเข้า Zone แต่ต้องรอ Awesome Oscillator เกิด Divergence เพื่อ Confirm ก่อนเข้าเทรด
แต่ถ้าราคาลงก่อนไม่ถึง Zone ให้รอจังหวะราคาขึ้นมา Retest แล้วค่อย Sell
ถ้าราคา Action อย่างไร เด๋วจะอัพเดทแผนให้นะครับ
ผมรอเทรดอยู่เหมือนกัน
Korn Trade For Live
ทำกำไรแล้วใช้ชีวิต
สมการความสำเรํจในการเทรด
Technical 10%
Money Management 10%
Mindset 80%
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
SCB โดด รับดีล "ร่วมทุน CP ลุยหุ้นเทคโลก" (โอกาสคือการย่อ Buy)SCB ราคาเปิดโดดขึ้นรุนแรง รับดีล "ร่วมทุน CP ลุยหุ้นเทคโลก" เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ SCB สู่ SCBX ไม่ใช่แค่หุ้นธนาคารอีกต่อไป แต่มุ่งสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค...หมายความว่า SCB เกิด Fundamental Change ธุรกิจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ **มีโอกาสก่อเกิดเวฟใหญ่ในลูกถัดไป
เปิดโดดรุ่นแรง เพราะฉะนั้นการย่อตัวคือโอกาส ทะยอยแบ่งเก็บมองเป้าหมายไกล 100%fibo. หรือ 161.8%fibo (ในแบบ Log Scale) :)
BTCUSD : ระบบ Trend Following ทั้งสามระบบ มีสัญญาณ "ขาย" 21/9/21นั่งรอระบบสุดท้ายอย่าง Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) แดง มาหลายวัน ถึงจะเขียนบทสรุปอันนี้ได้ 555
สรุปก็คือว่า ระบบแดงทั้งสามระบบแล้วจ้า เรามีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดหมีกันอีกแล้ว
-----------
ระบบ Break High ( แดง )
-----------
Entry : 42200 ( 31/7/2021 )
Exit : 45000 ( 14/9/2021 )
Profit : 6.59%
-----------
ระบบ ATR ( แดง )
-----------
Entry : 33700 ( 24/7/2021 )
Exit : 46800 ( 8/9/2021 )
Profit : 38.70%
-----------
ระบบ Action Zone ( แดง )
-----------
Entry : 39380 ( 28/7/2021 )
Exit : 42870 ( 21/9/2021 )
Profit : 9.05%
* นอกจากนั้น ก็มี indicator อื่นๆ มาแจมด้วย เช่น
- ราคาปิดแท่งใต้ EMA 120 Daily = แนวโน้มขาลงใหญ่
- โครงสร้างกราฟทำ Lower High + Lower Low = แนวโน้มขาลง
- โครงสร้างกราฟใหญ่มากๆ ทำ Lower High ( วัดจากยอด 64k และ ยอด 52k ) ซึ่งก็เหลือแต่การทำ Lower low หลุด 30k ในภาพใหญ่ ก็จะ confirm trend ขาลงใหญ่ครับ
------------
สรุป
------------
* จากบทเรียนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรอบสามเดือนที่แล้ว ที่กราฟก็มาทรงคล้ายแบบนี้ และก็มีหลายๆ คนที่ดื้อ ไม่ยอมออกตอนระบบแดงแรก ตอนที่ผมเตือนลงใน trandingview นี้ ตอนเดือน 5/2021
* สุดท้าย ก็ต้องไปนั่งเครียด ติดดอย นอนไม่หลับ กันทุกวัน ในช่วงเดือน 5-6-7 ที่ผ่านมา
* รอบนี้ ระบบก็แดงทั้งหมด อีกแล้ว.. คุณก็ต้องถามตัวเองว่า .. คุณได้เรียนรู้อะไรจากการดอย เพราะไม่ยอมลงมือ take action ใดๆ ในรอบที่แล้วหรือไม่? เพราะ ถ้าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย และยังไปยึดติดกับแนวคิดว่า "ไม่ขายไม่ขาดทุน" --- "ปิดจอไว้ก่อน เดี๋ยวมันก็กลับมา" ... แล้ว... ถ้ามันไม่กลับมาล่ะ? คุณจะต้องเจอความเครียด สะสมทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน เหมือนรอบที่แล้ว อีกครั้งนะ? คุณรับไหวหรือป่าว?
* ถ้ารับไม่ไหว ก็ไปจัดการชีวิตให้เรียบร้อยซะตั้งแต่วันนี้ครับ การเทรด มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่คุณจะเข้ามาแล้วจะรวยออกไปได้ง่ายๆ นะครับ บอกไว้ก่อน 555
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 21 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้ปรับบวก 12.4 ดอลลาร์ เหตุตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นปวนยักษใหญ่อสังหาฯ ของจีนผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ปั่นป่วนหนัก จนทำให้ปิดลบกันทุกกระดาน นักลงทุนแห่หนีตายเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุจากการที่มีรายงานเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ของจีน ทำให้ทองคำกลับมาบวกได้อีกครั้งสวนกระแสที่บอกว่าทองคำจะปรับตัวต่ำจากการปรับลดวงเงิน QE ของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมระหว่าง 21-22 กันยายนนี้
ตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) สัญญาส่งมองเดือนธ.ค. ปิดบวก 12.4 ดอลลาร์หรือ 0.71% ปิดที่ระดับ 1,763.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำกลับมาอยู่ในช่วงผันผวนอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าทองคำจะเจอสภาวะกดดันจากการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในช่วงสองสามวันนี้ แต่เมื่อวานนี้ทองคำต้องเจอกับภาวะผันผวนอีกรอบตลอดทั้งวัน เมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ผิดนัดการชำระหนี้ จึงสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้มีการเข้าซื้อทองคำเข้ามาอีกรอบเพื่อเป็นหลักประกันความเชื่อในฐานะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ตลาดหุ้นเอเซียวันนี้ก็เปิดแดนลบกันหมด แต่ในส่วนของเซี่ยงไฮ้คอมฯ วันนี้ปิดทำการ 1 วันเนื่องจากเป็นวันหยุดของประเทศจีนในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ปัญหาสภาพคล่องของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วภูมิภาค ถือเป็นประเด็นร้อนที่เข้ามากลบกระแสของการปรับลดวงเงิน QE ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้เอเวอร์แกรนด์ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับวาบริษัทฯ กำลังเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามนัดหมายที่กำหนด ในขณะที่หนี้ของเอเวอร์แกรนด์มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลข GDP ของจีน
เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. 2567
หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว ทางบริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ ทางบริษัทจะต้องทำการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
วันนี้ตลาดทองคำอาจมีความผันผวนบ้าง แต่วันนี้ตลาดการเงินจีนปิดทำการ 1 วัน ทำให้ประเด็นของจีนได้ลดแรงบางส่วนออกไปได้บ้าง สำหรับวันนี้เราได้ประเมินการเข้าหาจุดซื้อขายในกรอบ ซึ่งก็พอมีระยะความคุ้มค่าต่อความเสี่ยง แต่ในกราฟนั้นเราจะวางกลยุทธรองรับสำหรับสถานการณ์รายงานการประชุมของเฟดที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน นี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,769 ขึ้นไปได้นั้น ก็อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจากการเข้าซื้อทองคำไว้เมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนอาจเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกรอบ เราอาจอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน ทั้งนี้หากจะเข้าทำการเสี่ยงขายก็ให้รอราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อมาในบริเวณแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้รอซื้อทองคำคืนในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำการเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปิดต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: เมื่อราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,775-1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นสูงกว่า 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1769 / 1783 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1731 / 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,754.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,001.66 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -0.06 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
TU 14/9/2564TU เป็นเพียงแค่แนวทาง ไม่ได้แนะนำการลงทุน
โดยทั่วไปแล้ว Corrective Wave จะมีโครงสร้างเป็น 3 คลื่นย่อย ประกอบด้วย คลื่น A, B, C และ Corrective Wave นี้ สามารถทำให้เข้าใจผิดได้ โดยในส่วนรายละเอียดของ Corrective Wave จะอธิบายในภายหลัง แต่วัตถุประสงค์หลัก ก็คือ Corrective Wave จะมีเพียง คลื่นย่อย 3 คลื่น เท่านั้น
or กับนิวนอมอลหลังจากการล็อคดาวน์ ไปสี่รอบ ร้านในห้างถูกปิด และคนเริ่มมีความกังวล จะเห็นได้ว่ามีร้านต่างๆ เริ่มมาออนไลน์ และอยู่นอกห้างกันมากขึ้น และที่เห็นชัดคือมาในปั่มน้ำมัน ซึ่งในอนาคตหลายๆอย่าง เหมือนจะเร่งระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น ปั้มน่าจะเหมือนเป็นห้างขนาดย่อมๆ มีที่ชาร์จไฟ ทานอาหาร พักผ่อน ระหว่างรอรถ
เมื่อมาดูกราฟ มีการพักเป็นเวลานานตอนนี้ออกจากแนวกด และผ่านการขึ้น xd ปันผลแล้ว ทำให้เกิดทรง ยกโลขึ้น หากมองหุ้นตัวใหญ่ๆ น่าวิ่งต่อยาวๆ
คัทแรกที่ 28.5 ทิ้งหมดหากหลุด 27.25
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดกระทิงของ คริปโตฯ ปี 2021จดๆ เอาไว้กันลืม เอาไว้อ่านเองในอนาคต เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ และบทเรียน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างนะครับ
-----------------------------------------
1) จงเชื่อในระบบ Trend Following ที่เราได้ Backtest + Forward Test มาแล้ว และทำตามระบบไปอย่างมีวินัย
-----------------------------------------
- เนื่องจากผมเอง โดนตลาดคริปโต สับขาหลอกมาตลอด ตั้งแต่ปี 2018 ยัน 2019 ยัน 2020
- โดย ระบบ Trend Following ที่ผมใช้สามตัว คือ MACD ตัดศูนย์ ( Action Zone ) , ATR Channel ( ATR Trailing Stop ) และ Break Previous High มักจะเป็นเขียว แล้วก็เปลี่ยนเป็นแดง หลังจากเทรนเกิดขึ้นไม่นานเสมอ
- โดย ช่วงที่เทรนมานานที่สุด ก็กินเวลาแค่ ประมาณ 3-4 เดือน เท่านั้น นั่นก็คือ ช่วง Apr 2019 - July 2019
- สิ่งเหล่านี้ ทำให้ perception ของผม ต่อการรันเทรนของคริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญใดๆ นั่นก็คือ จะพยายาม หาจังหวะ Take Profit ออกมาอยู่เรื่อยๆ .. โดย ไม่ว่าจะใช้ fibo projection หรือใดๆ ก็ตามแต่ .. เพราะ มีความ "กลัว" ว่า ตลาดจะกลับตัว ทำให้กำไรที่ได้ หายไปหมด
- แต่กลายเป็นว่า รอบกระทิง ช่วง Oct 2020 ลากยาวไปถึง May 2021 ของคริปโตฯ นั้น กินเวลายาวนานถึง 7 เดือน! ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ทยอย Take Profit ออกไปตลอดทาง ทำให้ กำไรที่ได้ ก็ไม่ได้เป็นเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ( แต่ก็นะ กำไรก็คือกำไร 55 )
- โดยเฉพาะที่ผ่านมา มีการปั๊ม Altcoins กันอย่างสนุกสนาน แต่เนื่องจากผมมี Bias ส่วนตัวต่อ Altcoins ทำให้ ตกรถไปโดยปริยาย ก็เลยนำไปสู่บทเรียนข้อ 2 ว่า...
-----------------------------------------
2) อย่าไปรังเกียจ Altcoin อะไรมาก แหย่ๆ มันไว้บ้าง เวลามันวิ่งแรงจะได้ไม่ตกรถ
-----------------------------------------
- เอาจริงๆ รอบขาขึ้นต้นปี ผมก็ไม่ได้รังเกียจ Altcoins ซะทีเดียวนะ เพราะก็มีไปเข้า ZMT lock ไว้ตามเพื่อนแนะนำบ้าง ซึ่ง ไอ้การ Lock ZMT นี่แหละ มันเลยทำให้เราสามารถถือ Altcoins นิ่งๆ โดยไม่ใจสั่นได้ ..เพราะสั่นไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 555
- แต่ ก็พลาดโอกาสทำกำไรไปหลายตัวอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น LUNA เอย หรือพวกเหรียญ DeFi สารพัด ที่ปั๊มกันแบบว่า กาวสุดๆ 555
- รอบนี้ ผมก็เลยไม่พลาดละ โดยผมได้ทำการแบ่งเงินส่วนที่เป็น "พอร์ต Altcoins" ออกมาต่างหากเลย เป็นก้อนเล็กๆ 10% ของพอร์ตหลัก และ ก็เอาก้อนนี้ ไปเข้าซื้อ alt ด้วยแบบ spot เท่านั้น ( ไม่เล่น future ) เพื่อที่จะสามารถทนการแกว่งได้ โดยมองว่า ถ้าเหรียญพวกนี้ ลงเต็มที่ -80% เราก็จะขาดทุนเต็มที่แค่ -8% ของพอร์ตหลักเท่านั้นเอง ยังรับได้อยู่ครับ
- โดยตอนนี้ ก็ได้ อานิสงค์จากเหรียญพี่แซม นั่นก็คือ SOL และ FTT ทำให้พอร์ตนี้โตขึ้นเรื่อยๆ ในความเสี่ยงที่เรารับได้นั่นเอง
-----------------------------------------
3) ระบบเขียวก็เข้าไป อย่าไปกลัวไรมาก ถ้ากลัว ก็จำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่เรารับได้ จบ!
-----------------------------------------
- ตอนระบบเขียวแรก ช่วงปลายเดือน July 2021 ผมเองก็เขียนบทความเรื่องนี้ แชร์ลงใน Tradingview ว่า ระบบเขียวแล้วน้า ควรเข้าแล้วน้า... แต่เท่าที่ไปแชร์ตามที่ต่างๆ ก็พบว่า หลายๆ คน ส่วนใหญ่ ไม่สนใจ และพอถามว่าทำไม ก็มีคำตอบง่ายๆ ว่า "กลัวมันหลอกอีก"
- สำหรับมือใหม่ น่าเห็นใจตรงที่ว่า หลายๆ คน ไม่เข้าใจว่า การเทรดอ่ะ มันสามารถ "เข้าแค่บางส่วน เพื่อคุมความเสี่ยง ให้เท่ากับที่เราต้องการ ผ่านการคำนวณ Position Size ได้นะ"
- หลายๆ คน ยังไปคิดว่า ถ้าเขียวแล้ว มีเงิน 100% ก็ต้องใส่ 100% เลย อะไรแบบนั้น ( ผมก็เคยเป็นนะ เลยเข้าใจ 555 )
- ทำให้ หลายๆ คนแหยง ที่จะกดซื้อ เมื่อระบบมีสัญญาณเขียวแรก นั่นเอง...
- แต่ถ้าใครสามารถคำนวณ Position Size ตามความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ ผมบอกเลยว่า คุณจะตัดปัญหาเรื่องความกลัวการโดนเขียวหลอก ออกไปได้เลย เช่น
--- กลัวมากๆ ก็ใช้ความเสี่ยงมาตรฐาน 2% Risk per Trade
--- มีกำไรเยอะจากรอบที่แล้ว แต่ยังกลัวอยู่เหมือนกัน ก็ขยับขึ้นมาหน่อย อาจจะใช้ได้ถึง 4-6% Risk per Trade
--- รอบที่แล้ว รวยจัด รอบนี้ อยากเสี่ยงมากหน่อย เพราะมองว่าลงมาเยอะแล้ว ก็อาจจะใช้ได้สูงสุดถึง 10% Risk per trade ( แต่ไม่ค่อยแนะนำครับ ส่วนตัวผมว่าสัก 5-6% ก็เต็มที่ละ )
- คุณทำวิธีนี้ได้ คุณจะ "กล้า" เข้า ตอนเขียวแรก และ จะสามารถ "ทนถือได้อย่างนิ่งๆ" ได้ จนกว่าระบบจะแดง หรือ ชน stop loss ที่เราได้ตั้งไว้ตอนก่อนกดซื้อครับ
-----------------------------------------
4) เทรนขาขึ้นระดับ TF Daily TF Weekly ก็อย่าไป short สวนเทรนโดยไม่จำเป็น ...โอกาสเสียตังฟรี สูง
-----------------------------------------
- สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าบางคน จะชอบติดนิสัยทำตามตำราที่สอนๆ กันมา นั่นก็คือ กะจะทำกำไรได้ทุกคลื่น ไม่ว่าจะเป็น การขึ้น ( Long ) หรือการย่อ ( short ) ยิ่งพวกสาย short นี่ไม่รู้เป็นไร เห็น divergence แล้วรีบบบบ ไปกด short กันเลยกะว่าลงแน่ 5555
- ซึ่งผมบอกเลยว่า ถ้าท่านไม่เก๋าเกมจริงๆ ตัดสินใจเองไม่ได้ ยังต้องคอยมาตั้งกระทู้ถามคนอื่นในห้อง ว่า ดอย short หนักมาก ทำไงดี .. ผมก็ขอแนะนำว่า อย่าไปเล่นสองขาเลยครับ เล่นแค่ฝั่ง long (ซื้อ) ฝั่งเดียวให้รอดก่อน
- กำไรของ short อะ มันน้อย นิดเดียว ส่วนความเสี่ยง มันไม่จำกัด ถ้าอยากได้ตังจากช่วงขาขึ้น ก็แค่รอให้มันย่อ แล้วค่อยหาจังหวะเปิด long แค่นั้นเองครับ ง่ายๆ
- ส่วนถ้ามันยังไม่ย่อ ก็ไม่ต้องทำไร ถ้าตกรถแล้วก็นั่งเฉยๆ รอให้เป็น แค่นั้นเอง
- ผมเทรดคริปโตฯ มาตั้งแต่ปี 2017 นี่ก็จะครบปีที่ 5 ละ ผมเห็นคนที่ short ช่วงขาขึ้น แล้วไปถัวสู้ ไม่ยอมคัท พอร์ตระเบิด หมดตัว กันไปไม่รู้กี่คนละ ... ก็ขอออกมาเตือนกันไว้ ณ ที่นี้นะครับ ว่า ถ้าไม่อยากเสียตังฟรี ก็อย่าทำเล้ย.... ย่อซื้อ ตอนขาขึ้น = ez money กว่าเยอะครับ
-----------------------------------------
5) "คนอวดกำไรลงเฟส" คือสัญญาณให้เรา "หยุดมือ" และ "เฝ้าระวังการกลับตัว" ที่ยังใช้ได้อยู่เสมอ
-----------------------------------------
- ใครจำช่วงตลาดขาขึ้น ตอนต้นๆ ปี 2021 นี้ได้ ก็น่าจะคุ้นกันดีว่า ช่วงพีคๆ แถวๆ Apr-May 2021 ในเฟสบุค มีแต่เพื่อนๆ หรือคนรอบข้างของเรา อวดกำไรจากคริปโตกันเต็มไปโม้ดดด
- บางคน ร้อยวันพันปี ไม่เคยพูดเรื่องคริปโตฯ อยู่ๆ มาเปิดคอร์สสอน DeFi กันซะงั้น 555 ทุกคนเป็นเซียนกันไปหมด มีกูรูหน้าใหม่เกิดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด
- ซึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เห็นการกลับตัว/ปรับฐานของตลาด ( correction ) ในช่วงเดือน May - Jul 2021
- การกลับตัวรอบนั้น ก็ทำให้ กูรูที่เกิดขึ้นมาช่วงตลาดดีๆ หายเงียบ กันไปหลายคน บางคนก็เลิกอัพเดทเพจกันไปเลย .. บางคนก็ดอยหนัก แต่ก็ยังออกมาอัพเดทด้วยสปิริทอยู่
- หลายๆ คนที่ไปเล่น ฟิวเจอร์ ก็หมดตัวกันถ้วนหน้า
- ซึ่ง ถ้าเรามาคิดดีๆ แล้ว... สำหรับคนที่ทำตามระบบ เราก็รันเทรนกันมาตั้งแต่ช่วง Oct 2020 ออกตอนไหนก็กำไร
- แต่.. มันจะไม่กำไร ถ้า ในช่วงที่ตลาดดีๆ เรา "นั่งเฉยๆไม่เป็น" และไป FOMO กู้หนี้ยืมสิน มาเข้าเหรียญเพิ่มในช่วงตลาด top + คนอวดกำไรนั่นเองครับ
- ดังนั้น รอบหน้านี้ ถ้ามีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ...เราก็อย่าไปเผลอใจ ไล่ราคา ณ ยอดดอย กันอีกนะคร้าบ
-----------------------------------------
6) เตือนไปก็เท่านั้น มีแต่คนด่าฟรี ตอนตลาดลงจริงๆ ก็ไม่ใช่จะมีคนคิดถึง .. นั่งเฉยๆ ดีกว่า
-----------------------------------------
- อันนี้เป็นบทเรียน ของตัวผมเอง เพราะ ตอนที่ตลาดดีๆ การไปเตือนคนเพราะความหวังดี จากประสบการณ์ที่เราเจอมา ... แต่สุดท้าย ก็โดนแคปไปด่า
- ผมก็เลยมานั่งคิดนอนคิด แล้วก็ยูเรก้า ว่า เออ มันก็เป็นธรรมชาติอ่ะนะ เพราะถ้าคนที่ไม่เคยเจ๊งจากตลาด เตือนเท่าไหร่ เขาก็ไม่เก็ตอ่ะ
- มันเหมือนไปบอกเด็กไม่กี่ขวบว่า น้ำร้อน มันร้อนนะ ไฟ มันร้อนนะ อย่าไปจับ เดี๋ยวมือพอง ...เด็กมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก มันก็ต้องเอามือไปจับซักที ให้มือพองก่อน ถึงจะรู้ว่า เออ ไฟมันร้อนจริงๆ นะ
- เทรดเดอร์มือใหม่ ก็เหมือนกัน ก็ต้องปล่อยให้เขาไปเจอการขาดทุนหนัก หมดตัวก่อน สักรอบนึง เขาก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เออ ตลาดมันไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เขาเคยคิดไว้นะ ไม่เหมือนอย่างที่กูรูบอกไว้นะ
- ซึ่ง ถ้าเขามีความพยายามจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เขาก็จะไปนั่งอ่านหนังสือต่างๆ ดูวีดีโอสอนเทรดต่างๆ ที่สอนโดยคนที่รอดจากตลาดมาได้ จริงๆ และสุดท้าย เขาก็จะกลายเป็นเทรดเดอร์ ที่สามารถอยู่รอดในตลาดได้เอง
- ดังนั้น ผมเองก็เลยต้องปรับแก้ตัวเองกันไปเช่นกัน นั่นก็คือ ปล่อยวาง และ ช่างหัวมัน รวมถึงไม่ไปวอร์ หรือกล่าวถึงคนอื่นด้วย 555 เพราะแต่ละคน เขาก็มี FC ของเขาเอง มีมุมมองต่อตลาดของเขาเอง เราไม่ถูกใจก็ block ทิ้งไปจะได้ไม่ต้องไปรับรู้ว่าเขาคิดอะไรพูดอะไร ...ก็แค่นั้นเอง 5555
------------
สรุป
------------
เอาเท่านี้ก่อนละกัน นึกไม่ค่อยจะออกละ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ ก็หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน ไม่มากก็น้อย
ใครพลาด ก็อย่าลืม มองปัญหา และ หาทางแก้ให้ได้ ด้วยตัวเองกันนะครับ
ผมบอกเลยว่า การเทรดเนี่ย มันคือการปรับ mindset ของเราเองให้มันถูกต้อง และ ทำยังไงก็ได้ ให้รอดได้ในทุกสภาวะตลาด
ถ้าคุณรอดไปสัก 1 cycle หรือ 2 cycle เดี๋ยวกำไร มันจะมาเองครับ
คนส่วนใหญ่ ได้กำไรเยอะ ตอนตลาดดีๆ แต่ก็มาหมดตัวหรือเจ๊งยับ ตอนตลาดปรับฐานลึก กันทั้งนั้นครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
kubthbลงทุนใน morningmoonvillage
white paper ได้ระบุว่า
ความสามารถในการทำกำไรในปัจจุบัน " 236 % " ต่อปี
- APR หมายถึงฟาร์มแห่งนี้ให้ดอกเบี้ยเป็นกำไรในอัตรา 236 % ต่อปี
*** Convert APR to APY
236 % APR compounding weekly is 905 APY
- APY คืออัตราผลตอบแทนรายปี ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เมื่อคุณรวมดอกเบี้ยทบต้นแล้ว คิดเป็น ประมาณ 900 % ต่อปี
*** CAUTION! There is a risk of investment in stems, which related to price of stem that can b
The Elliott Wave Basic Pattern EURAUD H1 และแผนการเทรดEURAUD H1
มีลักษณะคล้าย รูปแบบปฐมบทของ Elliott Wave หรือ The Basic Pattern
กล่าวง่าย ๆ คือ สวิงขึ้นแล้ว สวิงย่อ เก็งการเกิดคลื่น 1 - 2 --->3 ได้
ในรายละเอียดของ 1-2 จะมี 8 คลื่น คือ (1)-(2)-(3)-(4)-(5) แล้วย่อเป็น (a)-(b)-(c)
ภาพที่เห็นตอนนี้ (a)-(b)-(c) มีโอกาสเป็นคลื่นปรับชนิด Zigzag
โดยมีคลื่นย่อยเป็น
(a) : Impulse Wave ประกอบด้วย 5 คลื่นย่อย
(b) : Expanded Flat ประกอบด้วย 3 คลื่นย่อย
(c) : กำลังก่อตัวอยู่ เดาว่าเป็น Ending Diagonal ประกอบด้วย 5 คลื่นย่อย
.
เรามาดูต่อกันที่ Ending Diagonal สิ่งที่บังคับคือ คลื่น 4 ต้องมีระดับทับซ้อนกับคลื่น 1
และเมื่อลากเส้นแนวโน้มบนล่างจะสอบเข้าหากัน ขณะนี้มองว่ากำลังเริ่มคลื่น 4 ย่อย
ของ Ending Diagonal
.
การวางแผนเทรด Long
เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดครบ
1. เกิด The Basic Pattern ข้างต้น Ending Diagonal ลงครบ 5 คลื่น
2. การย่อเกิน 61.8% หรือ 78.6% ที่ระดับราคาราว 1.6000
3. การ Long แบบที่ 1 เล่นการจบ Ending Diagonal เมื่อราคาเบรคคลื่น 4 ย่อยของ Diagonal ขึ้นไปได้
4. การ Long แบบที่ 2 เล่นการจบ Zigzag เมื่อราคาเบรคระดับคลื่น B ย่อยของ Zigzag ขึ้นไปได้
.
แผนทั้งหมดล้มเลิก
1. หากการย่อลงเกิน 90% ไม่เล่นแล้ว แสดงว่ามีโอกาสกลับตัวลงไปเลย ย่อแล้วยวบ
2. คลื่น (c) ไม่เป็น Diagonal
XAUUAD D1 เอาใจคนถือ Sell หน่อย รอดูวันศุกร์ Non farm ประกาศตัวเลขออกมาดี USD ขึ้น ทองอาจจะมีโอกาสดิ่ง แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้าจะดิ่งได้ ทองไม่ควรจะผ่านแนวต้าน 1833-1834 หรือผ่านได้ก็ยืนเหนือไม่ได้ ใดๆ ตอนนี้ราคาทะลุออกนอกกรอบสามเหลี่ยมไปแล้ว ระวังไว้นิดนะครับ เทรนขึ้นยังคงมีแรงอยู่ และราคาวิ่งอยู่ใน BUY ZONE อาจมีย่อลงมาเมื่อถึงแนวต้าน 1818-1820 จะแค่ย่อ หรือดิ่งเลย ต้องติดตามต่อไป
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณและศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนครับ
วิเคราะห์ทองคำเช้าว้นจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564ทองคำเช้าวันจันทร์ยังปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดอลลาร์กับบอนด์กอดคอสวนทาง
เช้าวันจันทร์ตลาดทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 24.3 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 1,819.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นราว 2% สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเช้าวันนี้ยังมีการปรับตัวขึ้นสูง หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินราคาทองคำยังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,830 (Fibo 161.8%) หากราคาทองผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้นก็จะส่งผลให้แรงซื้ออาจเข้ามาหนุนตลาดให้ทองกลับเป็นบวกได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ แต่ก็ให้ระมัดระวังด้วยเนื่องจากสัปดาห์นี้มีรายงานตัวเลขสำคัญเช่น NFP ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้อาจสร้างแรงผันผวนต่อทองคำได้เช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” จากบริเวณดังกล่าว เป้าหมายปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านไปได้ให้ชะลอการปิดบางส่วนไปก่อน ประะเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
Support : 1818 / 1809 / 1800
Resistance : 1830 / 1842 / 1851
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
GBPUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 30/8/2021 by TraderTanแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
1.36946 แนวต้าน
1.36540 แนวต้าน
1.35881 แนวรับ
1.35407 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬💬
RSI เป็นเทรนขาขึ้นชัดเจน
หลังจากที่ราคาลงมาทดสอบแนว 1.35966 ก็ได้มีแนวแรงซื้อกลับเข้ามา ผลักดันราคากลับชึ้นไปทดสอบแนว 1.37688 หลังจากนั้นราคาก็ได้มีการลงมาพักราคาเพื่อปรับฐาน ที่แนว 1.36850 หลังจากนั้นราคาก็ได้มีการผลักดันราคากลับขึ้นทดสอบแนว 1.376688 ซึ่งเป็นแนวเดียวกับเทรนไลน์ หากราคาสามารถขึ้นไปปิดเหนือนแนว 1.37688 และเทรนไลน์ได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นต่อไปทดสอบแนว 1.38817 และอาจขึ้นไปทดสอบแนว 1.39786
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
หากราคาขึ้นไปทะลุและปิดเหนือแนว 1.37688 และเทรนไลน์ ได้ ให้หาจังหวะในการเข้า ซื้อ Buy
โดนกำหนดเป้าหมายราคา
1. ปิดกำไรที่แนว 1.38817 ✅
2.ถือยาวและไปปิดกำไรที่แนว 1.39777✅✅
ตัดขาดทุนอยู่ที่แนว 1.36681🚫🚫
ปล. เมือราคาถึงแนว 1.38271 เลือนเส้น Stoploss -ขึ้นมาตำแหน่งที่เปิด เพื่อป้องกันการขาดทุน
💢💢นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
AUDUSD 4H - Short Trade ตราบเท่าที่ราคาอยู่ใต้เส้น EMA 20#การวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลายกรอบเวลา
Monthly : ราคาปรับตัวขึ้นจาก Remove Supply Zone เมื่อต้นปี 2020 แถบสีขาว
Weekly: ราคา Retrace กลับขึ้นจาก Weekly Demand Zone โดยสัปดาห์ก่อนหน้าเกิด Bearish Strong Move จากโซนราคา 0.73500
Daily: ราคาถูกกดภายใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน สีดำ และ 480 วัน สีแดง
4 Hourly: เคลื่อนที่อยู่บริเวณซัพพลายโซน
🔖พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดเดิมอีกครั้ง
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview
ETHราคากำลังทำแพทเทิร์น Gartley ซึ่งตรงบริเวณจุด D นั้นมี PA : 3D พอดี อาจจะเกิดการกลับตัวได้ และตอนนี้ RSI เกิดสัญญาณ Divergence แล้วด้วย
แต่ถ้าราคายังคงปรับตัวลงต่อ แถวบริเวณฟิโบรีเทส 88.6 จะตรงกับ QML และ C Point Cypher พอดี ก้อาจจะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ และแถวบริเวณตรงนั้นยังตรงกับแพทเทิร์น ABCD + C Point 5-0 Pattern ด้วย