DXY ดิ่งหนัก!Dashboard ฟ้อง "Re-Distribusi" ดอลลาร์ยังอ่อนค่า !🔥 DXY ดิ่งหนัก! 📉 Dashboard ฟ้อง "Re-Distribusi" ดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง?
ใครเทรดคู่เงินหลัก (Majors) หรือทองคำ ต้องดูดอลลาร์ประกอบครับ!
ล่าสุดกราฟ DXY (ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ) ใน Timeframe 1 ชั่วโมง
ส่งสัญญาณทิ้งตัวชัดเจนจนน่าตกใจ
📊 เจาะลึกสถานะจาก Dashboard (Timeframe H1):
🛑 Phase Market: ขึ้นสถานะ "Re-Distribusi: Continue Down"
ตามระบบแปลว่าราคาวิ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสอง (MA1 < MA2) ตลาดอยู่ในช่วง "กระจายของ" หรือเทขายต่อเนื่อง แรงกดดันฝั่งขายยังคุมเกมอยู่ครับ
📉 Trend: Bearish (สีแดง)
ยืนยันแนวโน้มขาลงระยะสั้นชัดเจน สอดคล้องกับ Timeframe ย่อยอย่าง M5 และ M15 ที่แดงเถือกเหมือนกัน
⚠️ Condition: "Short Retest"
จังหวะนี้ระบบมองว่า หากมีการดีดตัวขึ้น (Retest) เป็นจังหวะที่ต้องระวังแรงตบกลับลงมาต่อ มากกว่าจะเป็นการกลับตัวจริงจัง
💡 มุมมองทางเทคนิค (Educational Purpose):
ภาพระยะสั้น (H1): โมเมนตัมเป็นของฝั่ง Short หากราคารีบาวด์ขึ้นไปชนเส้น Ribbon แล้วไม่ผ่าน มีโอกาสย่อตัวลงทำ Low ใหม่ได้ต่อ
ข้อควรระวัง (Day): สังเกตที่ Timeframe Day ขึ้นสถานะ "Accumulation-Distribusi: Don't Trade Wait Break" แปลว่าภาพใหญ่กำลังสู้กันอยู่บริเวณแนวรับสำคัญ หากไม่หลุดตรงนี้ อาจมีแรงซื้อสวนกลับมาได้ ให้ระวังความผันผวนครับ
DXY
Recap ทองคำ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568สวัสดีครับทุกคน!
ผมโค้ชเต้ย Supply & Demand ครับ
เช้าวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568
(ตามเวลาในกราฟ)
เรามาวิเคราะห์แผนเทรดทองคำ (XAUUSD)
ใน Timeframe H1 ด้วยหลักการ Supply & Demand กันครับ
มาดูกันว่า Smart Money เขาวางแผนจะเล่นกันทางไหน
📌 อัพเดท 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 (H1)
📊 ราคาทองคำปัจจุบัน (Last Close)
* ~ 4007.24
📈 โครงสร้าง Supply & Demand
* ใน Timeframe H1 ราคากำลังเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ Ascending Channel (ช่องราคาขาขึ้น) อย่างชัดเจนครับ
* ปัจจุบัน ราคาแกว่งตัวอยู่บริเวณกลาง-บน ของช่องสัญญาณนี้ และกำลังเข้าใกล้โซน Supply (แนวต้าน) ด้านบน
* ภาพรวมระยะสั้นยังเป็นการยก Low ยก High แต่ต้องระมัดระวังแรงขายเมื่อราคาเข้าใกล้โซนต้านสำคัญครับ
🛡️ เเนวรับ (Demand Zone)
* 3997.61 (แนว Pivot / กลางกรอบ)
* 3985.48 (โซน Demand ย่อย / กรอบ Channel ล่าง)
* 3974.97 (โซน Demand หลัก)
⚔️ เเนวต้าน (Supply Zone)
* 4017.93 (โซน Supply ย่อย / กรอบ Channel บน)
* 4026.49 (โซน Supply หลักชุดแรก)
* 4075.23 (โซน Supply H1/H4 ด้านบน)
🎯 โซนเข้าเทรด (Key Zones)
* โซน Sell (Supply): มองหาโอกาสที่โซน 4017.93 - 4026.49 โซนนี้มีการปฏิเสธราคาที่รุนแรงหลายครั้ง (ไส้เทียนยาว) แสดงถึงแรงขายของรายใหญ่ที่รออยู่
* โซน Buy (Demand): มองหาโอกาสที่โซน 3985.48 - 3974.97 หรือบริเวณแนวรับของกรอบ Channel ล่าง
💡 แผนการเทรด (Trading Plan)
* แผน Sell (รอตบลง):
* รอให้ราคาขึ้นไปทดสอบโซน Supply 4017.93 - 4026.49
* มองหาสัญญาณ Confirmation (เช่น Pin Bar, Engulfing) เพื่อเข้า Sell
* SL: 4030 (เหนือโซน)
* TP: 3997.61 / 3985.48
* แผน Buy (รอย่อซื้อ):
* รอให้ราคาย่อตัวลงมาทดสอบโซน Demand 3985.48 หรือแนวรับกรอบ Channel ล่าง
* มองหาสัญญาณกลับตัว (Confirmation) เพื่อเข้า Buy
* SL: 3970 (ใต้โซน)
* TP: 4007 / 4017.93
* แผน Breakout (Follow Trend):
* หากราคาสามารถ ทะลุ โซน Supply 4026.49 ขึ้นไปยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ให้รอราคาย่อกลับมาทดสอบโซนนี้ (ที่เปลี่ยนเป็นแนวรับ) แล้วค่อยพิจารณา Buy ตามขึ้นไป โดยมีเป้าหมายที่ 4075.23
📰 ข่าวสารประกอบการเทรด
* วันนี้ (จันทร์ที่ 10 พ.ย.): ตลาดเพิ่งเปิดทำการ ยังไม่มีข่าว "กล่องแดง" ที่ส่งผลกระทบโดยตรงรุนแรง
* แนวโน้มข่าว: ตลาดจะรอจับตาท่าทีของธนาคารกลาง (FED) และตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์ หากไม่มีข่าวใดๆ กราฟมักจะเคลื่อนไหวตามเทคนิค (Supply & Demand) เป็นหลัก
* ผลกระทบ: วันนี้คาดว่า ข่าวมีผลกระทบต่ำถึงปานกลาง ให้เน้นการเทรดตามโซนที่วางแผนไว้ครับ
⚠️ คำเตือนความเสี่ยง
การเทรด Forex และทองคำมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ควรเทรดด้วยความระมัดระวัง (Risk Management) และใช้เงินทุนที่ยอมรับการสูญเสียได้เท่านั้น
‼️ คำจำกัดความรับผิดชอบของกลุ่ม CT Trader
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองเท่านั้น ไม่ใช่การชี้ชวนหรือให้คำแนะนำในการลงทุน ผู้เทรดควรตัดสินใจด้วยตนเอง และรับผิดชอบต่อผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้น
ดอลลาร์สหรัฐผันผวน เฟดจ่อหั่นดอกเบี้ยท่ามกลางความไม่แน่นอน🔹 การคาดการณ์รายสัปดาห์ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ: ดินแดนแห่งความสับสน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ถูกคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐในเดือนกันยายนต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย
---
## 📅 สรุปเหตุการณ์สำคัญของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เปิดสัปดาห์ด้วยท่าทีแข็งแกร่ง แม้โมเมนตัมจะอ่อนตัวลงเมื่อเข้าสู่กลางสัปดาห์ แต่ **ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY)** ยังสามารถปิดบวกได้เล็กน้อยใกล้ระดับ **99.00 จุด** เพียงพอที่จะลบการอ่อนค่าของสัปดาห์ก่อนหน้าและรักษาการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดกลางเดือนกันยายน 2025 ได้
แรงหนุนของดอลลาร์กลับมาอีกครั้งหลังจาก **ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ–จีน** ถึงทางตัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงความคืบหน้าทางการทูต หลังจากประธานาธิบดี **โดนัลด์ ทรัมป์** ส่งสัญญาณเตรียมพบกับ **สี จิ้นผิง** ในสัปดาห์หน้า
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาความไม่แน่นอนในวอชิงตัน เนื่องจาก **ความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง (shutdown)** ที่ยืดเยื้อยังคงกดดันความเชื่อมั่นของตลาด ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย–ยูเครนยังคงอยู่ในพื้นหลัง เช่นเดียวกับการพบปะระหว่างทรัมป์–ปูตินที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
ในตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มชะลอการปรับตัวลง และขยับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ บ่งชี้ถึงการพักตัวของแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมาในช่วงเดือนก่อนหน้า
---
## 🏦 ท่าทีผ่อนคลายของเฟด (The Fed’s Dovish Tilt)
นักลงทุนเพิ่มเดิมพันว่า **เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องหลายครั้ง** หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดแสดงให้เห็นแรงกดดันด้านราคาที่ลดลงเล็กน้อยในเดือนกันยายน
ข้อมูลจาก **สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS)** ชี้ว่า **ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)** เพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) สูงกว่าระดับ 2.9% ของเดือนสิงหาคมเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ การอ่านค่าที่อ่อนลงนี้ยืนยันมุมมองว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอลง ซึ่งเปิดโอกาสให้เฟดสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้มากขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อิงอัตราดอกเบี้ยของเฟดบ่งชี้เกือบแน่นอนว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะ **ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงสู่ช่วง 3.75%–4.00%** ในการประชุมวันที่ **29 ตุลาคม**
นอกจากนี้ ตลาดยังให้โอกาสกว่า 95% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม และมีความเป็นไปได้ประมาณ 55% ที่จะมีการลดอีกครั้งในเดือนมกราคม
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่า **เฟดกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น** ขณะที่เงินเฟ้อค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมาย 2%
---
## 🏛️ วิกฤติการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4
วิกฤติ **รัฐบาลสหรัฐปิดทำการ (shutdown)** ยืดเยื้อมาจนเข้าสู่วันที่ 24 โดยยังไม่มีสัญญาณของการประนีประนอมระหว่างพรรคการเมือง ทั้งสภาคองเกรสและวุฒิสภายังอยู่ในภาวะชะงักงัน การลงมติครั้งต่อไปถูกเลื่อนออกไปถึงวันอังคาร ซึ่งหลายฝ่ายไม่คาดว่าจะได้ข้อสรุป
นี่คือ **การปิดรัฐบาลครั้งที่ยาวนานเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สหรัฐ** และหากยืดไปถึงวันที่ **5 พฤศจิกายน** จะกลายเป็นการปิดรัฐบาลที่ยาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าสถิติเดิม 35 วันในปี 2018–2019
ผลกระทบเริ่มชัดเจนมากขึ้น — **เจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายแสนคนขาดรายได้**, **บริการสาธารณะดำเนินงานอย่างจำกัด**, และ **ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเริ่มสั่นคลอน** นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าการปิดแต่ละสัปดาห์อาจทำให้ GDP ไตรมาสนั้นหดตัวลงเป็นทศนิยม และกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการจ้างงาน
เมื่อวันศุกร์ ความขัดแย้งในวุฒิสภาปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อพรรคเดโมแครตปฏิเสธข้อเสนอของรีพับลิกันที่จะจ่ายเงินเฉพาะให้ “พนักงานจำเป็น” ขณะที่รีพับลิกันก็ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ครอบคลุมพนักงานที่ถูกพักงานด้วย ผลลัพธ์คือทุกฝ่ายยังไม่ได้รับค่าจ้าง เพิ่มแรงกดดันต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีทางออก
---
## 🇺🇸–🇨🇳 ภาษีศุลกากร: ชัยชนะเชิงยุทธวิธีแต่เสี่ยงในระยะยาว
**ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์** เตรียมพบกับ **ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง** ระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
การพบกันครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดทางการค้าและรื้อฟื้นการเจรจาที่หยุดชะงักไปก่อนหน้านี้ โดยจะเป็น **การพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคม** และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019
ช่วงเวลานี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ **ข้อตกลงหยุดยิงทางการค้า (truce)** จะหมดอายุในวันที่ **10 พฤศจิกายน** หากทั้งสองฝ่ายไม่ต่ออายุ และทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายวันที่ **1 พฤศจิกายน** สำหรับการขึ้นภาษีรอบใหม่ 100%
มาตรการตอบโต้กันระหว่างสองประเทศยังดำเนินต่อไป เช่น **ค่าธรรมเนียมท่าเรือที่สูงขึ้น**, **การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีและแร่หายาก**, รวมถึง **ข้อพิพาทด้านการค้าเกษตร**
นอกเหนือจากเศรษฐกิจแล้ว ประเด็นการเจรจายังครอบคลุมถึง **ไต้หวัน**, **การลักลอบค้ายาเฟนทานิล**, และ **การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคแปซิฟิก** ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการพบปะครั้งนี้มีเดิมพันมากกว่าแค่เรื่องการค้า
ในด้านเศรษฐกิจ มาตรการภาษีอาจให้ผลทางการเมืองระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อและชะลอการเติบโต แม้บางฝ่ายในรัฐบาลทรัมป์จะมองว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนสามารถช่วยภาคส่งออกได้ แต่ **การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring)** ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือประหยัด และภาษีเพียงอย่างเดียวไม่อาจบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
---
## 💵 แนวโน้มต่อไปของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
การปิดรัฐบาลยังคงสร้าง “ภาพเศรษฐกิจที่พร่ามัว” เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายชุดถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ตลาดขาดแนวทางชัดเจนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจจริง
ดังนั้น **การประชุมคณะกรรมการ FOMC สัปดาห์หน้า** และ **การแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์** จะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตา นอกจากนี้ รายงาน **ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence)** ของ Conference Board จะเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ตลาดให้ความสนใจ
หลังการประชุม นักลงทุนจะวิเคราะห์ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างละเอียด เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับ “จุดสมดุล” ระหว่างการชะลอตัวของเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่เย็นลง และผลต่อทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
---
## 📊 มุมมองทางเทคนิค
หากการฟื้นตัวของดอลลาร์ยังต่อเนื่อง **ดัชนี DXY** มีแนวต้านถัดไปที่ระดับ **99.56 (9 ต.ค.)** ก่อนจะเจอกับแนวต้านใหญ่ที่ **100.26 (1 ส.ค.)** หากทะลุผ่านได้ อาจกลับไปทดสอบระดับสูงสุดของเดือนพฤษภาคมที่ **100.54–101.97**
ด้านแนวรับสำคัญอยู่ที่ **98.03 (17 ต.ค.)** หากหลุดระดับนี้ มีโอกาสอ่อนต่อถึง **96.21 (17 ก.ย. 2025)** และฐานเดิมในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่ **95.13** หรือแม้แต่จุดต่ำสุดของปี 2022 ที่ **94.62**
ขณะนี้ดัชนีซื้อขายอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวทั้ง 200 วัน (100.72) และ 200 สัปดาห์ (103.26) ซึ่งยังคงรักษาแนวโน้มขาลงโดยรวมไว้
อย่างไรก็ตาม **สัญญาณโมเมนตัมเริ่มเป็นบวก** โดยค่า RSI อยู่เหนือระดับ 57 แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงอยู่ ส่วนค่า ADX ที่ระดับ 19 บ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ
---
## ⚖️ บทสรุป
แนวโน้มระยะสั้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงไม่ชัดเจน แม้เฟดจะเผชิญแรงกดดันทางการเมืองลดลง แต่ตลาดยังคงเดิมพันต่อไปว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ความเสี่ยงจากภาษี การขยายตัวของหนี้ภาครัฐ ความตึงเครียดทางการค้า และการปิดรัฐบาลที่ยืดเยื้อ
แม้ดอลลาร์จะสามารถดีดกลับได้เป็นช่วง ๆ แต่ก็มักไม่สามารถรักษาแรงหนุนไว้ได้ยาวนาน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าแนวโน้มหลักเป็นขาลงต่อไป — ไม่ใช่การร่วงแรงทันที แต่เป็นการค่อย ๆ อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
DXY (Dollar)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
ดอลลาร์ร่วงหนัก! ขู่ภาษีสะเทือนตลาดโลกดอลลาร์สหรัฐขยายการสูญเสียหลังตลาดอเมริกาเหนือทำให้กำไรจากการขู่เรียกเก็บภาษีเมื่อวานนี้ลดลง 📉🇺🇸
**ภาพรวม** 🌏
เมื่อวานนี้ การขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ได้ขยายไปยังจีนและสหภาพยุโรป 🇨🇳🇪🇺 แต่ตลาดอเมริกาเหนือกลับไม่ใส่ใจในประเด็นนี้มากนัก ส่งผลให้ตลาดดูเหมือนจะยอมรับมันได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าตลาดกำลังเริ่มปรับตัวให้ชินกับคำขู่นี้ 💼📊
วันนี้ ดอลลาร์ส่วนใหญ่ยังคงอ่อนค่า ยกเว้นเยนญี่ปุ่น 🇯🇵 ซึ่งเป็นสกุลเงิน G10 เดียวที่อ่อนค่าลงในช่วงก่อนเริ่มตลาดอเมริกาเหนือ แม้จะมีความมั่นใจสูงว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ในวันศุกร์ ทางด้านสหราชอาณาจักร รายงานการขาดดุลงบประมาณในเดือนธันวาคมมากกว่าที่คาดไว้ 🇬🇧 แม้พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษจะด้อยประสิทธิภาพ แต่เงินปอนด์ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ 💷✨
สกุลเงินตลาดเกิดใหม่เกือบทั้งหมดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ยกเว้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน 🇨🇳🇭🇰🇹🇼 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่า 🪙
**ดอลลาร์สหรัฐ** 💵
ดัชนีดอลลาร์สิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วที่ 109.35 และปิดเมื่อวานนี้ใกล้ระดับ 108.00 ซึ่งเป็นการปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม การลดลงนี้ทำให้ดัชนีโมเมนตัมปรับตัวลดลง ตลาดอเมริกาเหนือดูเหมือนจะมองการเรียกเก็บภาษีเป็นเพียงกลยุทธ์การเจรจาหรือการข่มขู่มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ลดลงต่ำกว่า 108.00 และแตะระดับต่ำใหม่ที่ 107.75 ในวันนี้ ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดเมื่อต้นเดือน เป้าหมายทางเทคนิคถัดไปอยู่ที่ 107.25 ในปฏิทินเศรษฐกิจวันนี้มีดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคม โดยในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากที่เคยลดลงต่อเนื่อง
**ยูโร** 💶
ยูโรแข็งค่าขึ้นและแตะระดับสูงสุดใหม่ของเดือนใกล้ $1.0450 เมื่อวานนี้ ยูโรพบแนวรับเล็กน้อยต่ำกว่า $1.0350 และฟื้นตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในตลาดอเมริกาเหนือ หากยูโรผ่าน $1.0460 อาจส่งสัญญาณให้เคลื่อนไหวไปที่ $1.0500-35
**เงินหยวนจีน (CNY)** 🇨🇳
การอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ทำให้เจ้าหน้าที่จีนมีพื้นที่หายใจเพิ่มขึ้น ดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันจันทร์ที่ CNY7.2615 กลับขึ้นไปใกล้ CNY7.2870 ก่อนลดลงในช่วงท้ายวัน PBOC กำหนดอัตราอ้างอิงดอลลาร์เมื่อวานนี้ที่ CNY7.1703 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน และวันนี้ต่ำลงอีกเป็น CNY7.1696
**เยนญี่ปุ่น (JPY)** 🇯🇵
ดอลลาร์พบแนวรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ JPY155 และถึงแม้จะลดลงต่ำกว่า JPY154.80 เมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคงปิดเหนือระดับนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรายังคงมั่นใจสูง (~95%) ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ในปลายสัปดาห์นี้
**เงินปอนด์ (GBP)** 💷
ปอนด์เคลื่อนไหวใกล้ $1.2375 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ในขณะที่ยังไม่ได้ปิดเหนือระดับนี้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม การขาดดุลงบประมาณของสหราชอาณาจักรในเดือนธันวาคมสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 17.8 พันล้านปอนด์
**ดอลลาร์แคนาดา (CAD)** 🇨🇦
เงินเฟ้อในแคนาดาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ แต่ประเด็นสำคัญคือการขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ CAD1.4310-40 และยังคงเคลื่อนไหวในช่วงต่ำของเมื่อวาน
**ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)** 🇦🇺
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดที่ $0.6300 เป้าหมายต่อไปคือ $0.6340 ขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจค่อนข้างเบา
**เปโซเม็กซิโก (MXN)** 🇲🇽
เปโซอ่อนค่าที่สุดในบรรดาสกุลเงินตลาดเกิดใหม่เมื่อวานนี้ แต่ดอลลาร์ยังคงรักษาแนวโน้มการเพิ่มขึ้น โดยตลาดสวอปคาดการณ์การลดดอกเบี้ยประมาณ 15 bps ในการประชุมธนาคารกลางวันที่ 6 กุมภาพันธ์
**ภาพรวมตลาดอื่น ๆ** 🌍
- ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงตอบสนองเชิงลบต่อการขู่เรียกเก็บภาษี
- ตลาดอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่หก
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ 31 ตุลาคมใกล้ $2760
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวเล็กน้อยสู่ $76.40
**แฮชแท็ก**
#เศรษฐกิจโลก #ตลาดเงิน #ค่าเงิน #ภาษี #ข่าวด่วน #ลงทุน
ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวหลังความผันผวนดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวหลังความผันผวนในวันจันทร์ 💵📈
หลังจากวันจันทร์ที่สั่นคลอน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ฟื้นตัว และวันอังคารนี้คาดว่าอาจจะไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก ท่ามกลางความรู้สึกใหม่ของตลาด ดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวขึ้นและยังคงอยู่ใกล้ระดับ 103.00 🌟
ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 100 จุดภายในสิ้นปีนี้ 🏦📉
ในวันอังคาร ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) กำลังได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวที่ใกล้ระดับ 103.00 หลังจากความรู้สึกของตลาดดีขึ้น นอกจากนี้ การระมัดระวังเนื่องจากไม่มีข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยังสนับสนุนสถานะของดอลลาร์ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวันอาจถูกจำกัดโดยการวางเดิมพันดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายมากของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) 📊🌐
ตลาดมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอเนื่องจากข้อมูลที่นุ่มนวลในเดือนกรกฎาคมและดูเหมือนว่าจะกลัวภาวะถดถอย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข้อมูลเพียงจุดเดียว 💼📉
ตลาดประจำวัน: ข้อจำกัดของ USD เนื่องจากตลาดคาดการณ์การผ่อนคลายดอกเบี้ย 100 จุดภายในสิ้นปี
แม้ว่า USD จะปรับตัวขึ้น ศักยภาพของมันยังคงถูกจำกัดโดยการเดิมพันดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายของ Fed
ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน นำไปสู่การอ่อนค่าของ USD ในภายหลัง
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 100 จุดภายในสิ้นปี โดยมีโอกาสเพิ่มเติมอีก 25 จุด
มีการวางเดิมพันการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยรวมกว่า 200 จุดสำหรับปีถัดไป ยกเว้นภาวะถดถอยในสหรัฐที่ลึกซึ้ง
ตลาดกำลังรอข้อมูลใหม่เพื่อประเมินแนวโน้มการผ่อนคลายของ Fed อย่างใจจดใจจ่อ 🔍📉
ภาพรวมทางเทคนิคของ DXY: กระทิงเข้ามา แต่หมียังคงควบคุม
ในด้านเทคนิค ภาพรวมของ DXY เปลี่ยนเป็นขาลงหลังจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ลดลงอย่างรวดเร็วเข้าสู่เขตขายเกินในช่วงการซื้อขายไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวในวันอังคาร อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยังคงเป็นขาลง โดยดัชนียังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเรียบ (SMA) 20, 100 และ 200 วัน 📉🔍
แนวรับ: 102.50, 102.20, 102.00
แนวต้าน: 103.00, 103.50, 104.00
#ดอลลาร์สหรัฐ #ตลาดเงิน #การลงทุน #เศรษฐกิจ #ดัชนีDXY #อัตราดอกเบี้ย #การวิเคราะห์เทคนิค #ข่าวการเงิน #การผ่อนคลายดอกเบี้ย #ตลาดโลก
Eaw_Neowave อัพเดท DXY ที่เคยดูเอาไว้ 9 มีนาคม 2564ดอลลาร์สหรัฐ ราคาเคลื่อนที่เป็นรูปแบบ Non-standard ประเภท double ตอนนี้อยู่ในชุดที่สองดูจากการเคลื่อนไหวของราคาน่าจะเป็น Zigzag ชุดแรก Correction เป็น flat หากรูปแบบราคาทั้งสองชุดแตกต่างกันจะเรียกว่า double combination เป้าหมายราคามองเหมือนเดิมที่ดูไว้เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ดอยเดิม 120 เหรียญ การขึ้นของดอลลร์สหรัฐอาจจะกดดันให้ทองคำเป็นขาลง
สหรัฐฯ และยุโรปขยายเวลาการสงบศึกภาษีดิจิทัลถึงกลางปี 2024ในความเคลื่อนไหวที่มุ่งให้เวลามากขึ้นในการเจรจาภาษีระหว่างประเทศ สหรัฐฯ และ 5 ประเทศในยุโรปได้ตกลงที่จะขยายเวลาการสู้รบเกี่ยวกับภาษีบริการดิจิทัลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน /2567 การตัดสินใจดังกล่าวซึ่งประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นการเลื่อนเส้นตายก่อนหน้านี้ซึ่งกำหนดให้สิ้นสุดในปลายปี 2566 ออกไป
แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวซึ่งออกโดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พร้อมด้วยออสเตรีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ยืนยันการขยายเวลาของข้อตกลงในเดือนตุลาคม 2021 ข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้ห้าประเทศในยุโรปสามารถรักษาภาษีดิจิทัลของตนไว้ได้ในขณะที่ชะลอการดำเนินการจนกว่าข้อตกลงภาษีทั่วโลก "เสาหลัก 1" จะมีผลบังคับใช้ ภายใต้ระบอบการปกครองที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ประมาณ 100 แห่งอาจต้องเผชิญกับภาษีโดยพิจารณาจากสถานที่ตั้งของการดำเนินงานมากกว่าสำนักงานใหญ่
การอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อตกลง "Pillar 1" มีความซับซ้อนเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งนำไปสู่การขยายกำหนดเวลาการดำเนินการจนถึงสิ้นปี 2566 ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยพิจารณาที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อตกลงเหล่านี้ รวมถึงสินค้าจำพวกเครื่องสำอางและกระเป๋าถือ นี่เป็นการตอบสนองต่อการค้นพบ "มาตรา 301" ที่สรุปว่าภาษีบริการดิจิทัลมุ่งเป้าไปที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของอเมริกาอย่าง Meta Platforms Inc. อย่างไม่ยุติธรรม (NASDAQ: META), อัลฟาเบท อิงค์ (NASDAQ: GOOGL) Amazon.com Inc. (NASDAQ: NASDAQ:AMZN) และบริษัท Apple Inc. (NASDAQ: NASDAQ:AAPL)
การขยายเวลาล่าสุดสอดคล้องกับประกาศเดือนธันวาคมของกลุ่มประเทศ G20 และ OECD ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดทำข้อความข้อตกลง Pillar 1 ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคม โดยมีกำหนดพิธีลงนามในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ภาษาของแถลงการณ์ร่วมเดิมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นไทม์ไลน์ที่อัปเดต
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอหลังตลาดตอบรับข้อมูล PCE ของเดือนธันวาคม
* ดัชนี DXY ลดลง ไม่สามารถยืนเหนือ 200-day SMA.
* ตัวเลข PCE หลักของเดือนธันวาคมอ่อนแอ.
* ตลาดยังคงมองการเริ่มต้นของวัฏจักรผ่อนคลายของ Fed ในเดือนพฤษภาคม.
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD) กำลังดิ้นรนกับการสูญเสีย โดยมีการซื้อขายที่ 103.35 บนดัชนี DXY ตามการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ที่อ่อนแอสำหรับเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้นักลงทุนที่คาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยมีความหวังมากขึ้น
ในทำนองนี้ ความคาดหมายของตลาดบ่งชี้ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยโดย Fed ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังคงเติบโต การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ นี่คือเหตุผลที่การเดิมพันยังคงเปลี่ยนไปสู่การเริ่มต้นวัฏจักรผ่อนคลายในเดือนพฤษภาคม หากสหรัฐยังคงแสดงความแข็งแกร่งและตลาดเลื่อนความคาดหวังของการลดลง ด้านล่างจะมีข้อจำกัดสำหรับระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ดัชนี DXY ความกดดันซื้อระยะสั้นลดลงขณะที่กระทิงพยายามป้องกัน 200-day SMA
ตัวชี้วัดบนแผนภูมิรายวันสะท้อนถึงการดิ้นรนระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) แสดงถึงความลาดเอียงเชิงลบ แต่ยังคงอยู่ในดินแดนบวก ชี้ไปที่การลดลงของแรงซื้อ ดังนั้นการเปลี่ยนไปสู่ผู้ขายอาจเกิดขึ้น
ในทำนองเดียวกัน
ตัวชี้วัดการรวมกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MACD) ยังบ่งชี้ถึงการลดลงของแรงกดดันทางขึ้น เนื่องจากแถบสีเขียวบนฮิสโตแกรมเริ่มลดลง
เมื่อสังเกตตำแหน่งของดัชนีเทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMAs) เราเห็นการผสมผสานของแรงซื้อและแรงขาย DXY ที่ยังคงอยู่เหนือ 20-day SMA แสดงให้เห็นถึงความพยายามของกระทิงในการควบคุมแนวโน้มตลาดระยะสั้น แม้จะมีแรงกดดันของหมีที่ยังคงอยู่
ความจริงที่ว่าดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 100 และ 200-day SMAs อย่างไรก็ตาม ชี้ให้เห็นว่าหมีกำลังรักษาการควบคุมในบริบทที่กว้างขึ้น ผู้ขายดูเหมือนจะครองเรื่องราวในระยะยาว โดยที่กระทิงกำลังดิ้นรนเพื่อคว้าพื้นที่
ระดับการสนับสนุน: 103.30, 103.00, 102.80, 102.60 (20-day SMA).
ระดับการต้านทาน: 103.50 (200-day SMA), 103.70, 103.90.
ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นก่อนข้อมูล GDP สหรัฐฯ, เทรดใกล้ 102.40 💵ดัชนี US Dollar Index (DXY) พยายามขยายกำไรเป็นวันที่สองติดต่อกัน, เทรดเล็กน้อยเหนือ 102.40 ในเซสชั่นยุโรปวันพฤหัสบดี 📊 การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) 💪 ผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี และ 10 ปี ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.37% และ 3.86% ตามลำดับ, ตามข้อมูลล่าสุด 📈
อย่างไรก็ตาม, ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันลงเนื่องจากทัศนคติของตลาดเกี่ยวกับท่าทีเชิงคาดการณ์ลงของ Federal Reserve (Fed) ต่อเส้นทางอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2024 🕊️ หลายสมาชิกของเฟดได้ปฏิเสธการคาดการณ์เร็วเกินไปเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ 🚫 ประธานธนาคารกลาง New York John Williams ได้คัดค้านความคิดนี้โดยตรง, ขณะที่ประธานธนาคารกลาง San Francisco Mary Daly พิจารณาการคาดการณ์เกี่ยวกับท่าทีนโยบายเป็นเรื่องเร็วเกินไป 📉 Austan Goolsbee, ประธานธนาคารกลาง Chicago, แบ่งปันความเห็นที่คล้ายกัน, เตือนว่าความคาดหวังของตลาดสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกินความคาดหมายที่เป็นจริง 🚨
การฟื้นตัวในการขายบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยแล้วและการเพิ่มขึ้นอย่างมากในความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นตัวบ่งชี้ที่เป็นบวกสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ, และอาจช่วยเสริมสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐฯ 💼 การเปลี่ยนแปลงการขายบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยแล้วของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนแสดงการเพิ่มขึ้นที่น่าสังเกตเป็นรายเดือน 0.8%, ซึ่งแสดงการฟื้นตัวที่สำคัญจากการลดลงก่อนหน้านี้ที่ 4.1% 🏠 CB Consumer Confidence มีการเติบโตอย่างน่าสังเกต, ขึ้นจาก 101.0 เป็น 110.07, ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่สำคัญที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2021 📈
นักลงทุนพร้อมที่จะจับตาดูการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงเซสชั่นอเมริกาเหนือเพื่อทำความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ 🧐 ในบรรดาตัวชี้วัดที่น่าสนใจ ได้แก่ US Gross Domestic Product Annualized (Q3), Initial Jobless Claims และ Philadelphia Fed Manufacturing Survey 📅📉📈
🔍📈 ดัชนี USD อาจลดลง! เป้าหมาย 103.00, อาจต่ำกว่า! 📉🎯🔍📈 **การวิเคราะห์ราคาดัชนี USD สุดตื่นเต้น!** มีแนวโน้มว่าจะเกิดการสูญเสียเพิ่มเติม โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่ 103.00 และอาจต่ำกว่านั้น!
📉 DXY กำลังเผชิญกับการถอยหลังในการซื้อขายเป็นวันที่สามติดต่อกัน! โดยปัจจุบันซื้อขายใกล้เคียงกับแนวรับสำคัญที่ 103.00 หรือระดับต่ำสุดในระยะสามเดือน 📊
🚀 หากกระทิง (Bulls) สามารถผลักดันได้แรงขึ้น, การทะลุระดับต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ 103.17 อาจนำไปสู่การถอยหลังเพิ่มเติมในระยะสั้น! 📉 นั่นหมายถึง แนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่ 102.93 (30 สิงหาคม), และแนวรับจิตวิทยาที่ 100.00 💥
🔮 ในขณะเดียวกัน, ด้วยราคาที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้น SMA 200 วันที่ 103.61, แนวโน้มที่คาดการณ์ไว้สำหรับดัชนียังคงเป็นขาลง! 📉🧐
#การวิเคราะห์ราคา #ดัชนีUSD #DXY #แนวรับ #แนวโน้มขาลง #ตลาดการเงิน 🌟📊📉
มุมมองไอเดียเทรด fx DXY วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566มุมมองไอเดียเทรด fx DXY
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
#เนื้อหาเป็นการเเชร์มุมมองการเทรดส่วนตัวไม่ใช่การเชิญชวนลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณ
-----------------------------------------------
SIGNAL TRADE
---------------------------------------------
ระบบเทรดที่บอก
- จุดเข้าเทรด
- จุดตัดขาดทุน
- เเละจุดทำกำไร
*** (( ดูตามกราฟด้านบนได้เลยครับ ^_^ )) ***
---------------------------------------------
- ระบบเทรด ✅
คลิก ฯ 👥 : 👇⤵️⤵️⤵️
พร้อมซัพพอร์ต 24 ชม
---------------------------------------------
#gold #xauusd #trade #trade #forex #fx #TMGM #goldmantrade
ข่าวด่วน: ความกลัวในตลาดโลกคาดว่าจะโหมกระหน่ำในสัปดาห์หน้า โดยตลสำหรับตลาดโลก นักวิเคราะห์คาดว่าการเร่งรีบครั้งใหม่เข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์ พันธบัตรรัฐบาล และทองคำ ในขณะที่การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลเต็มรูปแบบกำลังจะเกิดขึ้น . .
หุ้นมีแนวโน้มจะตก ดัชนี S&P 500 ลดลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในปี 2023 ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% นับตั้งแต่ต้นปี
ราคาน้ำมันเป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่มีความผันผวนมากที่สุดของปี โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในหนึ่งวันก่อนที่จะตกลงอย่างรวดเร็วในช่วงถัดไป
ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อ้างอิงทั่วโลกแตะระดับเกือบ 94 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ผู้ค้าตระหนักในเวลาต่อมาว่าสงครามไม่มีผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะเกิดขึ้นถัดจากผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ก็ตาม . 85 ดอลลาร์ สินค้าโภคภัณฑ์และผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาส
ข่าวล่าสุด ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ปัญหาระดับกลาง ขยับสู่ระดับท้อแม้จะมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในหลายด้าน ตั้งแต่เทคโนโลยีและการค้า ไปจนถึงการเมืองและการทูต ทั้งสองสังคมยังคงส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเทคโนโลยี ขมิ้น
แม้จะมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในหลายด้าน ตั้งแต่เทคโนโลยีและการค้า ไปจนถึงการเมืองและการทูต ทั้งสองสังคมยังคงส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเทคโนโลยี ขมิ้น
ตามรายงานของ South China Morning Post แม้จะมีความตึงเครียดในระดับชาติ แต่รัฐบาลจีนก็กำลังเพิ่มปฏิสัมพันธ์อย่างแข็งขันกับรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกาเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายที่เป็นมิตรและเอกราชที่เป็นอิสระในระบบเศรษฐกิจ การเมืองอเมริกัน อากาศยังร้อนอยู่
สหรัฐฯ ต้องการหารือกับจีนเพื่อทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ความแอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าเขาจะทำงานร่วมกับหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งระหว่างฮามาสและอิสราเอลลุกลามบานปลาย
รัฐมนตรีต่างประเทศบลินเกนกล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม (เวลาสหรัฐฯ) ว่า "ฉันหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวเมื่อพวกเขาเยือนวอชิงตันในสัปดาห์นี้" "
Blinken ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 15 ประเทศช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้บานปลายท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหลังจากการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และการตอบโต้ของอิสราเอลของฉัน
วิเคราะห์ DXY (หนี้สาธารณะ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์)TVC:DXY
ค่าเงินดอลลาร์ : พูดไม่ออกเลยครับ หนี้ที่โลกนี้หมุนอยู่ ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ สหรัฐ และตอนนี้ หลายประเทสก็ผิดชำระหนี้กัน ในขณะที่เพดานหนี้ ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเกิดจากการกู้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนมุมมองของกราฟ ผมมองว่า DXY ยังขึ้นได้อีกเยอะครับ
แน่นอนว่ามันส่งผลเสียต่อสินทรัพย์หลายอย่างแน่นอน
เทรดกันอย่าง " ระมัด ระวัง "
( เงินสด ไม่สำคัญเท่า ทรัพย์สินที่นำมาขายได้ )
USD กับการประกาศเงินเฟ้อสหรัฐในช่วงเวลา 19:30 น. วันที่ 13/09/2ในวันนี้เวลา 19:30 น. จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญสหรัฐอเมริกาคือการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาเรียกว่ากรรมประกาศ Core CPI และ CPI ที่ประกาศรวมอาหารและพลังงานและไม่รวมอาหารและพลังงาน
ซึ่งจะส่งผลให้กับทิศทางของค่าเงินดอลล่าร์โดยค่าเงินดอลล่าร์อาจจะมีความผันผวนทั้งในเชิงระยะสั้นและระยะกลาง ซึ่งในรอบวันมีการปรับตัวขึ้น +0.07% เท่านั้น
ซึ่งถ้าประกาศอัตราเงินเฟ้อทั้งสองตัวออกมาสูงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะทะลุ 104.915 และอาจจะไปทะลุเป้าสูงสุดที่ 105.142
แต่ถ้าประกาศอัตราเงินเฟ้อทั้งสองตัวออกมาต่ำอาจจะทะลุ 104.260 เป็นเจ้าแรกและเจ้าที่สองก็คือ 104.042
ซึ่งถ้าประกาศเซอร์ไพรซ์ตลาดและประกาศออกมาแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้และครั้งก่อนอาจจะทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ทะลุทะลวงอย่างต่อเนื่อง
จับตาดูการประกาศในวันนี้สหรัฐ ในช่วงเวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ปฏิกิริยาของตลาดที่จะเฟด"หยุด"ฮอว์คิปฏิกิริยาของตลาดที่จะเฟด"หยุด"ฮอว์คิ
วันนี้ธนาคารกลางสหรัฐเลือกที่จะไม่ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 11,แทนที่จะเลือกที่จะประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นก่อนหน้านี้ 10. อย่างไรก็ตามเฟดประกาศว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มขึ้นสองจุดร้อยละไตรมาสที่เพิ่มขึ้นก่อ ในขณะที่คาดว่าการหยุดชั่วคราวส่วนใหญ่,ความจริงที่ว่าผู้กำหนดนโยบายเห็นอัตราที่ 5.6%ที่สิ้
การรวมกันของการหยุดชั่วคราวด้วยข้อเสนอแนะของสองมากขึ้น 25 จุดพื้นฐานการเดินป่าไ
ต่อไปนี้การตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นผลการปิดถูกผสม ดาวโจนส์ปิดมากกว่า 230 จุดลดลงในขณะที่เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กที่มีประสบการณ์กำไร 0.1%และ 0.4%ตามลำดับ นการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเท
วันเริ่มต้นด้วยบิทคอยน์กว่า 226,000 แต่ก็มีตั้งแต่ย้อนกลับไป 24 ชั่วโมงต่ำของ 225,791 นักวิเคราะห์บางคนกำลังทำนายการลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ 225,000 ตามข่าวสกุลเงินดิจิทัลล่าสุดที่ครอบงำด้วยการอภิปรายเกี่ยวกับกฎระเบียบ
ในขณะที่ราคาทองคำเริ่มปรับตัวสูงขึ้นไปสัมผัส$1959 ต่อออนซ์ในเซสชั่นแต่กำไรตัดต่อมาซื้อขายรอบ 11945
ดอลลาร์ได้ลดลงทั่วกระดานที่มีดีซีลดลง 0.32% ที่ใหญ่ที่สุดเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละหนึ่งถึง 3 สัปดาห์ที่สูง 00.6211 กำไรในยูโรและปอนด์เจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้นที่+0.39%แต่ละ
วิเคราะห์ DXY ประจำวันที่ 13/05/2023กราฟ dollar เริ่มกลับตัว เตรียมเป็นขาขึ้น
indicator หลายตัวบอกสัญญาณ divergence
แท่งปิดสัปดาห์ เขียวใหญ่เป็น bullish engulfing
รอ confirm โดยดู mace ตัดกันขึ้น และ rsi มากกว่า 50
ถ้า dollar ขึ้น ทองน่าจะลงหนัก เพราะตอนนี้ อยู่แถว แนวต้าน month ต้าน week เริ่มเห็นแท่งเทียนทิ้งไส้บ้างแล้ว
ส่วนคริปโต ลงมารอแล้ว รอดูว่าจะสุด และหยุดที่ตรงไหน
ระมัดระวังกันด้วยนะครับ






















