US30 ยังคงมีโอกาสร่วงลงระยะสั้นอีกครั้ง 16/08/2023US30 หรือเรียกว่าดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังคงมีโอกาสร่วงลงระยะสั้นหลังจากที่ตลาดเริ่มมีความกังวลถึงเรื่องอสังหาริมทรัพย์จากจีนที่อาจจะก่อให้เกิดถึงความผันผวนของธนาคาร ของสหรัฐ
โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวผันผวนและร่วงลงในหลายวันที่ผ่านมาถึงแม้ว่าวันนี้มีการฟื้นตัวขึ้นบ้างเล็กน้อยเพียงแค่ +0.02% เท่านั้นโดยอาจจะมีสิทธิ์ในการปรับตัวร่วงลงอีกครั้งในการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกา
ถ้ามีการฟื้นตัวขึ้นไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 35,100 ขึ้นไปได้คุณเปิดสถานะขายในตำแหน่งระหว่าง 35,100 ลงมายัง 35,020 เป็นสถานะที่ควรเปิดตำแหน่งสถานะขายราคามีการปรับตัวร่วงลงทะลุแนวรับที่ 34,886 ลงมาได้ควรทำกำไรในแนวรับที่ 34,637 ละ 34,400 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ควรทำกำไรอย่างมากเป็นตำแหน่งสุดท้าย
แต่ถ้ามีการปรับตัวสูงขึ้นตำแหน่งที่ควรตัดขาดทุนสองตำแหน่งสุดท้ายก็คือ 35,100 และ 35,177 เป็นตำแหน่งที่คนตัดขาดทุน
ติดตามการประกาศตัวเลขสำคัญคือการประกาศยอดขายบ้านและติดตามการประกาศรายงานใบอนุญาตการก่อสร้างของสหรัฐที่จะมีการประกาศในช่วงเวลา 19:30 น. ในวันนี้
Dowjones
DJIUSD ยังคงโดนกดดันจากอัตราดอกเบี้ย 29/06/2023DJIUSD หรือเรียกว่าดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยแต่ในระดับอันมีการปรับตัวย่อตัวลง -0.12% จากการที่มีการส่งสัญญาณในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
ในเมื่อวานที่ผ่านมาประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้มีการส่งสัญญาณในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้รวมทั้งสะท้อนภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่งส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่ในระดับชั่วโมงมีการฟื้นตัวขึ้นเพียง +0.02% แต่ในหลายวันที่ผ่านมาเริ่มมีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดดังนั้นถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้น ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 33,975 ขึ้นไปได้ควรเปิดสถานะขายในเชิงระยะสั้นระหว่าง 33,894 ไปยัง 33,975 เป็นโซนที่เปิดสถานะขายได้ในระยะสั้น แล้วถ้ามีการปรับตัวร่วงลงตำแหน่งที่ควรทำกำไรตำแหน่งแรกก็คือ 33,663 เป็นตำแหน่งที่หนึ่งและตำแหน่งที่สอง 33,478
แต่ถ้ามีการฟื้นตัวขึ้นตำแหน่งที่ควรตัดขาดทุนสองตำแหน่งสุดท้ายก็คือ 33,945 และ 34,068
ยังคงต้องเฝ้าจับตาดูการประกาศตัวเลขสำคัญสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นทั้งการประกาศอัตราเงินเฟ้อหรือทั้งการประกาศดัชนีจีดีพีของสหรัฐอเมริกาในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในหลายวันที่ผ่านมาเริ่มสามารถยืนเหนือ 33,500 จุด โดยปัจจัยในการคลายความกังวลของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง
และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นก็คือทางด้านของการประกาศอัตราการว่างานของสหรัฐอเมริกาที่มีการประกาศออกมา 3.5% สถานภาพให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจยังคงมีทิศทางที่ยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ส่งผลทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นในหลายวันที่ผ่านมาโดยถ้าสามารถยืนเหนือตำแหน่ง 33,700 ขึ้นไปได้อาจจะไปถึงตำแหน่งสุดท้ายที่ 34,310
ต้องติดตามการประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาซึ่งถ้ามีการกดดันทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์นั้นอาจจะหลุดต่ำไปมากกว่าในระดับ 33,200 เป็นตำแหน่งที่หนึ่ง
และตำแหน่งที่สองอาจจะไปถึง 32,800 และตำแหน่งสุดท้ายก็คือ 32,500 เปลี่ยนตำแหน่งที่ควรที่ต้องจับตาดูอย่างมาก
ดาวโจนส์ร่วง 600 จุด จากวิกฤตรัสเซียและยูเครนดาวโจนส์ร่วง 600 จุด หลังความขัดแย้งยูเครน-รัสเซียทวีความรุนแรง ราคาน้ำมันพุ่ง
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หุ้นสหรัฐร่วงลงในวันอังคารซึ่งเป็นวันแรกของเดือนมีนาคม เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น และนักลงทุนยังคงติดตามการต่อสู้ระหว่างรัสเซียและยูเครน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 601 จุดหรือ 1.8% S&P 500 ลดลง 1.5% และ Nasdaq Composite ลดลง 1.3%
สต็อกที่ลดลงเกิดขึ้นเนื่องจากกล้องดาวเทียมจับภาพขบวนยานพาหนะทางทหารของรัสเซียที่เห็นได้ชัดระหว่างทางไปยัง Kyiv เมืองหลวงของยูเครน
การรุกรานอย่างต่อเนื่องของรัสเซียทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate พุ่งขึ้น 8% เมื่อวันอังคาร โดยทะลุระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
“หุ้นส่วนใหญ่มีไว้สำหรับขาย และการเคลื่อนไหวของราคานั้นแย่กว่าที่ดัชนีพาดหัวทำให้ดูเหมือน ... ความไม่แน่นอนของรัสเซีย/ยูเครนยังคงเป็นประเด็นหลัก และยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอสำหรับหุ้นที่จะรู้สึกสบายตัว” Adam Crisafulli ของ Vital Knowledge กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า
ราคาข้าวสาลีก็พุ่งขึ้นเช่นกันในวันอังคาร การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มความกลัวเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
การคาดหวังในครั้งนี้?
หุ้นทางการเงินเป็นกลุ่มที่ขาดทุนมากที่สุดในวันนี้ โดย Bank of America ร่วง 3.6%, Wells Fargo ลดลง 5% และ Charles Schwab ร่วงลงมากกว่า 6% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำกว่าอาจทำให้ผลกำไรของธนาคารลดลง ในขณะที่ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกและการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ผู้ค้าบางรายกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของตลาดสินเชื่อ
แม้ว่าธนาคารในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะเปิดรับบริษัทรัสเซียโดยตรงเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าการคว่ำบาตรระบบการเงินของรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อธนาคารในยุโรปอย่างไร และในทางกลับกัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหุ้นของ CFRA Ken Leon กล่าวในหัวข้อ "Squawk Box"
“มันเป็นความสัมพันธ์ด้านการธนาคารตัวแทนผ่านยุโรป ที่ดำเนินกิจกรรมการกู้ยืมเล็กน้อย — ธนาคารอิตาลี, ธนาคารฝรั่งเศส, ออสเตรีย — กับรัสเซีย” ลีออนกล่าว
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีความผันผวนระยะสั้น จึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 32,982 แนวรับที่สองก็คือ 32,551 แนวรับสุดท้ายก็คือ 33,223
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 33,430 แนวต้านที่สองก็คือ 33,780 บาทแนวต้านสุดท้ายก็คือ 34,045
Bitcoin, Gold, Dow Jones, Nasdaq, SET ระบบแดงหมด = "ถือเงินสด" เนื่องจากระบบ Trend Following ที่ผมใช้ track กลยุทธ ต่างๆ ในห้อง VIP ตอนนี้ "แดง" หมด
ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ใดๆ .. ซึ่งดูแล้วก็น่ากลัวจริงๆ ครับ
ลองมาดูว่า เป็นไงกันบ้าง
Bitcoin
-----------
* แดงหมดทั้งสามระบบ
* รวมถึง Altcoins อื่นๆ ก็แดงหมดด้วยเช่นกัน
Gold
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
SET
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
Dow Jones
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
Nasdaq
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
S&P500
----------
* แดงทั้งหมดทั้งสามระบบ
สำหรับคนที่ถือหุ้นถือ Bitcoin ถือทองเยอะเกินไป ก็อาจจะต้องลดความเสี่ยงโดยการออกมาถือเงินสดบ้าง
เพราะเราไม่รู้อนาคตเลยว่า มันจะลงไปลึกถึงแค่ไหนนั่นเองครับ
อัพเดต DJI Index ปรับฐานเท่าไร ? ที่ดูไว้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมอัพเดต DJI Index ปรับฐานเท่าไร ? ที่ดูไว้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม
Terminal Impulsion (3-3-3-3-3) This is the crisis.The greatest crisis in the history of mankind.
ถ้าตำราของ Robert Prechter ก็จะเรียกว่า Ending Diagonal แต่ก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเท่าไร ถ้าของอีกค่ายจะอธิบายค่อยข้างละเอียดว่ามากกกกกกก
วิเคราะห์แบบเต็ม
www.facebook.com
อัพเดต NASDAQ ที่เคยดูไว้เมื่อ 28 กันยายน 2018อัพเดต NASDAQ ที่เคยดูไว้เมื่อ 28 กันยายน 2018
จอร์จ ดับเบิลยู บุช สร้างหนี้ไป 10 ล้านทริลเลียน โอบามา มาจาก 10 ไปเป็น 20
ตอนนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเลขหนี้อยู่ที่ 22 ล้านล้านดอลลาร์
แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตเร็วกว่าที่เคยเป็น แต่ตัวเลขโตจากการสร้างหนี้
เฟดต้องสร้างหนี้3 ดอลลาร์เพื่อจะให้เศรษฐกิจ โต 1 ดอลลาร์ การขาดดุลงบประมาณก็เพิ่มขึ้นอีก 17%
เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 สุดท้ายธนาคารกลางสหรัฐ ก็ต้องลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0 และทำ QE
เพื่อที่จะใช้ดอกเบี้ยจากหนี้ 22 ล้านทริลเลียน
การที่เฟดจากสร้างหนี้ได้ต้องมีฐานภาษีจากคนอเมริกามาหนุนหลังซึ่งตอนนี้ก็เต็มซิลลิงหมดแล้ว
ซึ่งถ้าก่อหนี้เพิ่มอเมริกาจะไม่มีภาษีพอจะมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้ที่ก่อก้อนใหม่
และการสร้างเดฟ คอมเพล็กซ์จากบริษัทในตลาดหุ้น ที่ได้เงินดอลลาร์ง่ายๆจากเฟดไปขอกู้มาลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก
ไปสร้างบริษัทลูกในประเทศนั้นๆและก็ขอกู้ในประเทศที่ตัวเองไปลงทุนอีก กระแสเงินสดในบริษํทก็เกิดจากการขอกู้แล้วใส่เข้าเป็นไปทุน
แล้วก็เอาหุ้นนั้นแหละเข้าไปเป็นหลักประกันการขอกู้ ยิ่งหุ้นขึ้นหลักประกันก็เพิ่มมากขึ้นก็กู้ได้มากขึ้น ถ้าเกิดตลาดเกิดการปรับตัวลงมาต่ำกว่าหลักประกัน
จะเกิดการเรียกเงินสดเข้ามาเติม ในอัตรามหาศาล และธนาคารจะเกิดหนี้ที่เรียกเก็บไม่ได้ จะเกิดผลกระทบสถาบันการเงินทั่วโลก
กระทบตลาดตราสารหนี้ ตลาดหุ้นจึงเกิดการประคองไม่ให้ลง ทำอย่างไรไม่ให้ลงก็ต้องลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0 หรือ ติดลบ และ พิมพ์เงินมาเติม
แต่เงินก็จะล้นและเสื่อมค่าเพราะมันเยอะเกินไป
DJI Mid-termดาวโจนส์ปรับตัวอยู่ในกรอบ 26696 - 25222 จุด โดยการปรับตัวลงมาราคายังอยู่ที่บริเวณแนวรับของกรอบ Sideway ล่าสุดก่อนปิดสัปดาห์มีการปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยจะการปรับตัวลงของ Dollar index
นอกจากนี้การปรับตัวลงมา ยังทำให้เกิด Hidden Bullish Divergecne ซึ่งบ่งบอกถึงความอ่อนแรงของการปรับตัวลง ซึ่งบ่งบอกว่าในสัปดาห์หน้า ราคาอาจจะมีการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบ Sideway ได้อีกครั้ง