Risk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยงRisk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยง
👉👉เคยไหมที่ยิ่งป้องกันความเสี่ยง ยิ่งตั้ง SL เงินยิ่งหดหาย เอ๊ะทำไมเงินมันเสียมากกว่าได้นะ มาครับ มาลองอ่านบทความนี้กันแล้วเราจะเอ๊ะน้อยลง👈👈
📌 Risk-Based Entry คืออะไร?
Risk-Based Entry คือ กลยุทธ์การเข้าเทรดโดยพิจารณาความเสี่ยง (Risk) เป็นจุดเริ่มต้นของทุกการตัดสินใจ พูดง่ายๆก็คือ
"เทรดจากจุดที่ถ้าแพ้ เรารับไหว และถ้าชนะ มันคุ้มค่ากับที่เราเสี่ยง"
กลยุทธ์การเข้าเทรดรูปแบบนี้ ไม่ใช่แค่ดูสัญญาณเข้าที่แม่นยำอย่างเดียวแต่ให้ความสำคัญกับ
1. การวาง Stop Loss (SL) ที่เหมาะสม
2. การคำนวณขนาดล็อต (Position Size)
3. การประเมิน Risk/Reward Ratio
4. การเลือกจุดเข้าที่ “คุ้มค่า” ที่สุดสำหรับเงินทุน
🎯 ทำไม Risk-Based Entry ถึงสำคัญ?
✅ ควบคุมการขาดทุน ช่วยให้ขาดทุนอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
✅ มีวินัย ทำให้เทรดเดอร์ไม่ไล่ราคา
✅ ลดความเครียด เพราะรู้ล่วงหน้าว่าเสียได้เท่าไหร่
✅ ปรับจุดเข้าให้เหมาะกับทุน ไม่ Overtrade หรือ Undertrade
วิธีใช้ Risk-Based Entry แบบ Step-by-Step
✅ 1. ระบุ “Risk Amount” ต่อการเทรด
กำหนดความเสี่ยงเป็น % ของพอร์ต เช่น:
ทุน 10,000 บาท
เสี่ยงครั้งละ 1% = 100 บาท
✅ 2. หาจุดเข้า (Entry) และ Stop Loss (SL)
เช่นในคู่ EUR/USD:
จุดเข้า Buy ที่ 1.0800
SL ที่ 1.0780 (ห่าง 20 pips)
✅ 3. คำนวณ Position Size
ใช้สูตร:
Position Size = เงินที่เสี่ยง ÷ จำนวน pips × pip value
ตัวอย่าง:
เงินที่เสี่ยง: 100 บาท
SL = 20 pips
1 lot = 10 USD/pip → 0.01 lot = 0.1 USD/pip ≈ 3.5 บาท/pip
→ เปิดขนาด 0.14 lot (ประมาณ)
สามารถใช้เครื่องคำนวณ Lot เช่น:
myfxbook Position Size Calculator
หรือแอป MT4/MT5 + สูตรคำนวณเอง
✅ 4. ตั้ง TP ตาม Risk/Reward ที่ต้องการ
เช่น RR = 1:2
SL = 20 pips → TP = 40 pips
หากเข้า 1.0800 → TP = 1.0840
✅ 5. ประเมิน “คุณภาพของจุดเข้า”
มีแนวรับแนวต้านไหม?
มี OB หรือ FVG รองรับไหม
ตลาดมี Volume หรือข่าวใหญ่ไหม?
หากไม่มี → รอจังหวะที่ Risk คุ้มค่ากว่า
💡 เคล็ดลับการใช้ Risk-Based Entry ให้ได้ผล
1. ใช้ร่วมกับ SMC หรือโครงสร้างราคา จะช่วยเลือกจุดเข้าได้แม่นยำขึ้น
2. ฝึกวาง SL อย่างมีเหตุผล ไม่ตั้งมั่ว ไม่ใช้ SL แคบเกินไป
3.เทรดเฉพาะจุดที่ได้ RR > 1:2 เพื่อให้ชนะน้อยครั้งแต่ยังมีกำไรระยะยาว
4.จดบันทึกเทรด (Trading Journal) เพื่อวัดว่า Risk-Based Entry ของคุณใช้ได้จริงไหม
สรุปส่งท้าย
Risk-Based Entry ไม่ได้ช่วยแค่เรื่อง “ความแม่น” แต่คือการ สร้างรากฐานที่มั่นคงในการอยู่รอดในตลาด และเราเองก็อาจจะไม่ได้รวยเร็ว แต่เงินในพอร์ตของเรามันจะไม่หมดง่ายๆนั่นเองฮะ อยากเก่งและรวยแบบมั่นคงอย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปช่วยในการเทรดนะฮะ แดชื่อเลยว่า เราจะเทรดแบบ ทั้งแม่นและมั่นคง แน่นอน
ภาพประกอบ
วิธีเทรดด้วยเทคนิค AMD ในการเทรด Forexเข้าใจพฤติกรรมของราคา เพื่อเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
📌 เทคนิค AMD คืออะไร?
เทคนิค AMD ย่อมาจาก 3 ขั้นตอนหลักของพฤติกรรมราคาที่นักเทรดสายโครงสร้างหรือ Smart Money นิยมใช้ คือ:
A – Accumulation (สะสม)
M – Manipulation (หลอกลวง/ดึงราคา)
D – Distribution (กระจาย/แจกจ่าย)
แนวคิดของ AMD ช่วยให้เราเข้าใจว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่มี "เจตนา" ของผู้เล่นรายใหญ่ (Big Player) อยู่เบื้องหลัง
🔄 รายละเอียดแต่ละขั้นตอน
1️⃣ A - Accumulation (การสะสม)
ช่วงนี้คือช่วงที่ Smart Money หรือรายใหญ่กำลังซื้อ/ขายเงียบ ๆ ก่อนราคาจะเคลื่อนตัวแรง
ลักษณะเด่น:
ราคาเคลื่อนในกรอบแคบ ๆ (sideway)
ปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่เด่นชัด
ไม่มีทิศทางชัดเจน
กลยุทธ์:
ไม่ควรเข้าเทรดทันที รอให้ราคามีสัญญาณ Breakout
2️⃣ M - Manipulation (การหลอกลวง/ลากราคา)
เป็นช่วงที่ รายใหญ่สร้างความสับสน ด้วยการ "หลอก" เทรดเดอร์ให้คิดผิด
ตัวอย่างเช่น:
เบรกเทรนด์ไลน์/แนวต้านปลอม (Fake Breakout)
ดึงราคาขึ้นไปชน SL ของคนขาย ก่อนเทกลับลง
กลยุทธ์:
อย่าหลงกับสัญญาณแรก ดูว่ามี “การกลับตัวหลังเบรก” หรือไม่
มองหาจุดเข้าออเดอร์บริเวณ Liquidity Zone หรือ Stop Hunt
3️⃣ D - Distribution (การกระจาย/แจกจ่าย)
หลังจากหลอกสำเร็จ รายใหญ่จะเริ่มปล่อยของ (Take Profit)
ราคาเริ่มวิ่งตามทิศทางจริงอย่างรวดเร็ว
มักเกิดแท่งใหญ่ ๆ มี Volume หนาแน่น
โอกาสในการเทรดมาถึง
กลยุทธ์:
เข้าเทรดตามเทรนด์ที่เกิดหลัง Manipulation
ตั้งเป้า Take Profit ตามแนวรับ-แนวต้านสำคัญ หรือใช้ Risk:Reward
🧠 วิธีวิเคราะห์และนำไปใช้จริง
ดูโครงสร้างราคา (Market Structure) ว่าอยู่ในช่วงใดของ AMD
ใช้ Timeframe ใหญ่ (เช่น H1, H4, D1) เพื่อดูพฤติกรรมรวม
หาโซนสะสม (Accumulation Zone) แล้วตีกรอบ
รอดูการ Break และ Manipulate พร้อมรอให้ราคายืนยัน
เข้าเทรดเมื่อมี Confirmation เช่น Break Structure หรือ Engulfing
ตั้ง SL และ TP ให้เหมาะสมเสมอ
🎯 ข้อดีของเทคนิค AMD
✅ ช่วยให้เข้าใจเจตนาของตลาด
✅ ไม่หลงกล Fake Signal ง่าย ๆ
✅ ปรับใช้ได้กับทุก Timeframe และคู่เงิน
⚠️ ข้อควรระวัง
อย่าคิดว่าทุกกราฟจะมี AMD ชัดเจน
ต้องฝึกการอ่านโครงสร้างราคาอย่างต่อเนื่อง
เทคนิคนี้ต้องอาศัย ความอดทน และ วินัยสูง
📚 สรุป
เทคนิค AMD คือแนวคิดที่ช่วยให้เราเทรด Forex อย่างมีเหตุผลและเข้าใจตลาดลึกขึ้น โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่ ไม่ใช่แค่ตาม Indicator อย่างเดียว
27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) 27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) ที่ใช้การวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement และพิจารณาโซน 78.6% – 88.6%
ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาในรอบใหญ่ อ่านได้ดังนี้
________________________________________
✅ วิเคราะห์ XAUUSD (WEEKLY) ด้วย Fibonacci
🟡 1. โครงสร้างหลักของกราฟ
• ช่วงราคาที่ลาก Fibonacci:
จากจุดต่ำสุดรอบใหญ่ (บริเวณ ~3,120) → ถึงจุดสูงสุดรอบล่าสุด (บริเวณ ~3,603)
• Fibonacci Retracement ที่เด่น:
o 78.6% - 88.6%: โซนสีเหลืองที่ราคาย้อนขึ้นมาทดสอบ
o 50%, 61.8%: เป็นระดับกลางที่เคยเป็นฐานพัก
o 38.2%, 23.6%: แนวรับที่กำลังเข้าใกล้
________________________________________
🔍 2. สถานการณ์ล่าสุด (ตามกราฟ)
• ราคาดีดขึ้นมาถึง โซน 78.6%–88.6% แล้วเกิดแรงขาย (แท่งเทียนแดงแรง)
• มีการทำ High ใหม่เล็กน้อยก่อนถูก “Reject” แรง
• ปัจจุบันกำลังลงมาทดสอบโซน 38.2%–23.6% (แนวรับระหว่าง ~3,210–3,266)
________________________________________
📌 3. ข้อสังเกตสำคัญ
โซน Fibonacci ความหมาย สถานะ
88.6% Zone หลอกสุดท้ายก่อนกลับตัว 🟥 ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน
78.6% Very High Probability Reversal Zone ⛔ พิสูจน์ว่าเป็น Sell Zone
50%–61.8% Mid-Zone พักตัว ✅ เคยเป็นฐานก่อนดีดขึ้น
38.2% Low Probability Zone 🔽 ราคาใกล้ลงถึง
23.6% Minor Zone สุดท้าย 🔽 มีโอกาสทดสอบ
________________________________________
📊 4. ความเป็นไปได้ถัดไป
📉 ถ้าไม่รับอยู่ที่ 3210–3266
• อาจหลุดลงลึกถึงโซน 14.6% – 9.0% (~3,176 – 3,154)
• ซึ่งตรงกับ Demand Zone เดิม (จากแท่งเทียนพ.ค.)
📈 ถ้ามีแรงดีดกลับจาก 3210
• อาจกลับขึ้นไปรีเทสต์ 50% / 61.8% (~3,310 – 3,355)
• แต่หากไม่สามารถเบรกผ่าน 3,400 ได้อีกครั้ง ก็ยังถือว่าแนวโน้มพักตัวอยู่
________________________________________
🔺 ข้อควรระวัง:
• แรงเทขายจาก 88.6% บ่งชี้ว่าเป็น “ภาวะจบคลื่นรีบาวด์” มากกว่าจะเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อ
• ต้องดูว่าแท่งเทียน Weekly ปิดเหนือ 3,210 ได้หรือไม่ในรอบนี้
________________________________________
🧠 สรุปกลยุทธ์:
สถานการณ์ กลยุทธ์ที่ควรใช้
ยืนเหนือ 3210 ได้ รอแท่งกลับตัว → ลองเก็บ swing ขึ้น
หลุด 3210 หาจังหวะ short หรือรอเข้าซื้อที่ 3,176–3,154
กลับขึ้นไปชน 3,400 อีกครั้ง Zone ขายซ้ำ (Distribution)
เวฟเอลเลียต – แผนการเทรด XAUUSD วันที่ 26 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
ในกราฟ H1 เดิมเราคาดว่าราคาจะเคลื่อนที่ใน คลื่นที่ 3 สีเขียว แต่ราคาปัจจุบันไม่ได้แสดงลักษณะของคลื่น 3 ที่แข็งแกร่งและชัดเจน ตรงกันข้ามกลับมีการ ซ้อนทับของคลื่นย่อยจำนวนมาก ทำให้เกิด 2 แนวโน้มหลักที่เป็นไปได้:
🔹 กรณีที่ 1 – คลื่นปรับฐาน abc สีดำ:
ขณะนี้ราคากำลังสร้าง คลื่น c สีดำ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ diagonal สิ้นสุด (ending diagonal)
➡️ สัญญาณยืนยัน: หากมีการ ร่วงแรงและรวดเร็ว ทะลุระดับ 3297 แสดงว่าคลื่น c ได้สิ้นสุดแล้ว
🎯 เป้าหมาย: 3352 – 3356
🔹 กรณีที่ 2 – คลื่น 1 รูปแบบ diagonal เริ่มต้น:
ราคาอาจกำลังสร้าง คลื่น 1 ในรูปแบบ diagonal (3-3-3-3-3) โดยขณะนี้อยู่ใน คลื่นที่ 3 หรือ 4
➡️ เมื่อคลื่น 1 เสร็จสิ้น คาดว่าจะมีการ ปรับฐานกลับมาที่ระดับ Fibonacci 0.618
🎯 เป้าหมายสิ้นสุดของคลื่น 1: 3352 – 3356
📉 โมเมนตัม
D1: โมเมนตัมกำลังกลับตัวขึ้นจากโซน oversold – บ่งชี้ว่าแรงขายอ่อนลง และอาจเข้าสู่ช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง 5 วัน
H4: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวลงจากโซน overbought – ต้องจับตาพฤติกรรมราคาวันนี้ โดยเฉพาะช่วงข่าวค่ำ
➡️ หากราคาเคลื่อนในรูปแบบ wedge → แนวโน้มเป็น diagonal เริ่มต้น
➡️ หากราคาร่วงทะลุ wedge → แนวโน้มเป็น abc correction
🧭 แผนเทรด:
🔻 จุดขาย: 3352 – 3355
⛔ SL: 3362
🎯 TP1: 3333
🎯 TP2: 3323
วิเคราะห์คลื่น Elliott – แผน XAUUSD ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
จากกราฟ H1 เราสังเกตเห็นรูปแบบสามเหลี่ยมคลื่น 5 คลื่นสีดำปรากฏอยู่ในคลื่น Y ซึ่งบ่งชี้ถึง 2 แนวโน้มที่เป็นไปได้:
แนวโน้มที่ 1: คลื่น Y ได้สิ้นสุดแล้ว → แนวโน้มขาขึ้นปัจจุบันคือคลื่นที่ 1 ของโครงสร้างคลื่น 5 คลื่นสีเขียวใหม่ และการย่อตัวขณะนี้คือคลื่นที่ 2 ของโครงสร้างนี้
แนวโน้มที่ 2: คลื่น A ของคลื่น Y ได้เสร็จสิ้นในรูปแบบ 5 คลื่น → ขณะนี้กำลังเข้าสู่คลื่น B ของคลื่น Y ซึ่งมักเป็นโครงสร้าง 3 คลื่น โดยคลื่น a (สีดำ) ได้ก่อตัวแล้ว และคลื่น b (สีดำ) กำลังพัฒนา
✅ ไม่ว่าแนวโน้มใดจะถูกต้อง การย่อตัวในขณะนี้ถือเป็น โอกาสในการเข้าซื้อ
🎯 โซนเป้าหมายสำคัญ
เป้าหมายที่ 1: 3313 – 3310
เป้าหมายที่ 2: 3301
⚠️ หากราคาทะลุต่ำกว่า 3297 การนับคลื่นปัจจุบันจะถือว่าใช้ไม่ได้ → เตรียมพร้อมสำหรับการปรับฐานที่ลึกขึ้น ซึ่งจะมีการอัปเดตเพิ่มเติมในภายหลัง
🔁 มุมมองโมเมนตัม
กรอบเวลา D1:
โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวขึ้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5–6 วันของแนวโน้มขาขึ้นเพื่อให้เข้าสู่เขต Overbought ⇒ สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น และสอดคล้องกับทั้งสองแนวโน้มหลัก
กรอบเวลา H4:
โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวลงจากเขต Overbought → มีโอกาสที่ราคาจะย่อลงต่อจนถึงโซนซื้อ
กรอบเวลา H1:
โมเมนตัมกำลังลดลง → การย่อตัวยังคงดำเนินต่อ
📌 สิ่งที่ต้องรอ: การกลับตัวขึ้นของโมเมนตัม H1 พร้อมกับ H4 ในเขต Oversold จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าราคาสร้างฐานแล้ว
✅ แผนการเทรด
🔹 BUY ZONE 1: 3313 – 3310
• SL: 3306
• TP1: 3335 | TP2: 3350 | TP3: 3376
🔹 BUY ZONE 2: 3303 – 3301
• SL: 3296
• TP1: 3335 | TP2: 3363 | TP3: 3376
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 24 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
จากกราฟ H1 ในช่วงตลาดเอเชียวันนี้:
ราคาลงมาต่ำกว่าระดับแนวรับก่อนหน้า ที่บริเวณ 3341 ซึ่งยืนยันว่า การปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใหม่
มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือการฟอร์มตัวของ คลื่น X ในโครงสร้างการปรับฐานแบบ WXY ที่ใหญ่กว่า
เนื่องจากโครงสร้างการปรับฐานในตอนนี้ ค่อนข้างซับซ้อน จึงยากต่อการวิเคราะห์เป้าหมายคลื่นที่แน่นอน
🔻 โครงสร้างของคลื่น Y:
ขณะนี้ราคากำลังฟอร์ม คลื่นขาลงแบบ 5 คลื่น โดยอยู่ใน คลื่นที่ 4
โซนเป้าหมายของคลื่น 4: 3357 – 3363 → เป็น โซนสำหรับเปิด SELL
เมื่อคลื่น 4 สิ้นสุด คาดว่าราคาจะลงต่อใน คลื่นที่ 5 ไปยังโซนเป้าหมายที่ 3327 – 3324 → เป็น โซนสำหรับเปิด BUY
หลังจากคลื่น 5 จบลง คาดว่าจะมีการดีดกลับระยะสั้น โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ 3363 – 3376 (เป้าหมายทำกำไรของฝั่ง BUY)
⚡ การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมเริ่มส่งสัญญาณกลับตัวขึ้น → คาดว่าราคาจะฟื้นตัวขึ้น ประมาณ 5–8 แท่งเทียนรายวัน (D1) หลังจบคลื่นที่ 5
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังลดลง และอาจเข้าสู่เขต Oversold ภายใน 1–2 แท่ง H4 → สนับสนุนการจบคลื่น 5
กรอบเวลา H1: โมเมนตัมกำลังเพิ่มขึ้น และใกล้เข้าสู่เขต Overbought → มีโอกาสจบคลื่นที่ 4 ภายใน 1–2 แท่ง H1 ข้างหน้า
📌 แผนการเทรด
🔹 SELL ZONE: 3363 – 3365
TP1: 3342
TP2: 3330
🔹 BUY ZONE: 3327 – 3324
SL: 3317
TP1: 3342
TP2: 3363
TP3: 3376
❗ หมายเหตุสำคัญ:
หากราคาวิ่งเข้าสู่โซนนี้ด้วยแท่งเทียน Mazuboru (แท่งเทียนยาวไม่มีไส้) และมีความผันผวนรุนแรง อย่าเพิ่งเข้าออเดอร์ทันที
รอดูแท่งเทียนปิดก่อน หากโซนถูกทะลุ ให้จับตาแนวรับถัดไปที่ 3313 เพื่อพิจารณาแผนการเทรดใหม่
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการด้วยค่า Pbv = 1 และปิดเหนือ Demand Zone23/06/25 ตลาดหุ้นไทยปิดทำการด้วยค่า Pbv = 1 และปิดสิ้นวันเหนือ Demand Zone
ภาพนี้แสดง 4 ประเภทของ BUY ZONE ในมุมมอง Demand & Supply ที่แม่นยำและมีการใช้งานจริงในเชิงเทคนิคอล โดยผมจะอธิบายความแตกต่างทั้งในมุม พฤติกรรมนักลงทุน และ การประยุกต์ใช้งานเทรดจริง ของแต่ละประเภท:
________________________________________
🟩 1. DEMAND ZONE (จุดกลับตัวหลัก)
📌 ตำแหน่ง: มักอยู่ที่จุดสิ้นสุดของขาลงชัดเจน
📉➡️📈
✅ พฤติกรรม:
• นักลงทุนรายใหญ่ (Smart Money) สะสมของในโซนนี้
• รายย่อยเริ่ม Panic Sell → รายใหญ่เข้าซื้อ
• มักเกิดแรงซื้อใหม่ (Aggressive Buy) ดันราคาเด้งแรง
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เป็นจุดเข้า Long ที่มี RR ดีมาก (Stop loss สั้นใต้ Zone)
• เหมาะกับการหาจุด Bottom หรือ Reversal Trade
• ควรรอ Confirm เช่น Bullish Candle / Break Structure
________________________________________
🟩 2. DEMAND CONTINUATION (โซนพักฐาน / เบรคแล้วกลับเทสต์)
📌 ตำแหน่ง: อยู่กลางแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแรง
📈↘️📈
✅ พฤติกรรม:
• เป็นจังหวะ "พักตัว" ของนักลงทุนก่อนเทรดต่อ
• นักลงทุนรายใหญ่อาจทำการสะสมเพิ่ม (Add-on Position)
• รายย่อยมักลังเล แต่ราคากลับไปต่ออย่างรวดเร็ว
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เป็นจุดเข้าซ้ำหลังราคาเบรค High แล้วเทสต์กลับ
• เน้นเทรดตามแนวโน้ม (Trend-following Strategy)
• ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่พลาด Entry แรกที่ Demand Zone
________________________________________
🟩 3. ORDER BLOCK (ฐานก่อนเบรคแนวต้านสำคัญ)
📌 ตำแหน่ง: โซนราคาที่เคยเป็นแนวต้าน → ถูกเบรคด้วยแรงซื้อสูง
📉➡️📈 (ผ่านแนวต้านแล้วกลับเทสต์)
✅ พฤติกรรม:
• Smart Money ทุบแนวต้านโดยใช้ Order Block เป็นฐานยิง
• รายย่อยส่วนมากติด Short ที่แนวต้านเดิม
• เมื่อราคาเทสต์ Order Block แล้วขึ้นต่อ → เทรดเดอร์ต้องรีบกลับลำ
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เทรด "Break and Retest" → Buy เมื่อราคาเทสต์ Order Block
• มักมี Reaction แรงจาก Short Cover + Buy เพิ่ม
• เหมาะใน TF ใหญ่ที่มี Volume/Structure แน่น
________________________________________
🟩 4. BREAKER BLOCK (กลับตัวหลังหลอกลึก / เก็บ Stop)
📌 ตำแหน่ง: มักอยู่ใต้ “Liquidity Grab” หรือจุดที่หลอกทำ Low ใหม่
📉หลุดหลอก แล้วกลับตัวแรง📈
✅ พฤติกรรม:
• รายใหญ่ทำ “Fake Break” → ลาก Stop Loss รายย่อย
• จากนั้นกลับตัวรุนแรง (V-Shape Reversal)
• พฤติกรรมแบบ "เก็บของแล้วพุ่ง" → Smart Money เข้าหนัก
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เทรดกลับตัวอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะหลังเกิด “Liquidity Sweep”
• เหมาะกับผู้ชำนาญที่อ่านพฤติกรรมราคาได้ไว
• ให้สัญญาณ Reversal ที่เร็วและแม่นกว่า Demand ปกติ
________________________________________
🔚 สรุปเปรียบเทียบเชิงกลยุทธ์
ประเภท เหมาะกับ จุดเข้า ความเสี่ยง ใช้คู่กับ
Demand Zone จับจุดกลับตัว แถว Low สำคัญ ต่ำ Divergence, TD9
Demand Continuation เทรดตามเทรนด์ ตอนพักฐาน ปานกลาง Trendline, Fibonacci
Order Block Break + Retest หลังทะลุแนวต้าน ต่ำถึงปานกลาง BOS, Volume
Breaker Block กลับตัวเร็ว หลังหลุดหลอก สูงหากไม่ชัวร์ Liquidity, Candle Pattern
Fibonacci จุดเริ่ม: ความลับของธรรมชาติและตลาดหุ้น📜 จุดเริ่ม: ความลับของธรรมชาติและเลขอนุกรม
ข้าได้ศึกษาลำดับตัวเลขอันน่าอัศจรรย์:
0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, …
(แต่ละตัวเลขคือผลรวมของสองตัวก่อนหน้า)
จากลำดับนี้ ข้าค้นพบว่า เมื่อหารเลขถัดไปด้วยเลขก่อนหน้า จะเข้าใกล้ "อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio)" = 1.618...
ในทางกลับกัน 1 / 1.618 ≈ 0.618 หรือ 61.8% ซึ่งกลายเป็น หัวใจของ Fibonacci Retracement
________________________________________
🧭 ไล่ลำดับความสำคัญของอัตราส่วน Fibonacci
(ใช้ได้ทั้งในธรรมชาติ วิศวกรรม ศิลปะ และ "การวิเคราะห์ราคาตลาด" ซึ่งพวกท่านนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย)
✅ 1. ระดับต่ำ - จุดสะสมพลังแรก (Minor Zone)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
9.0% 0.090 จุดสะอึกเล็กน้อย มักเกิดกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
14.6% 0.146 พักตัวแบบบางเบา เห็นได้ในโครงสร้างเร่งรีบ
23.6% 0.236 แนวรับตื้น สะท้อนพลังเทรนด์ยังแข็งแรง มักใช้ในกรอบพักตัวเร็ว
________________________________________
⚖️ 2. ระดับกลาง - โซนสวิงตัวสำคัญ
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
38.2% 0.382 พักตัวแบบแข็งแรงขึ้น ยังถือเป็น healthy correction
50.0% 0.500 ไม่ใช่ Fibonacci จริงแต่ “นิยมใช้” เพราะราคามักย้อนครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนหน้า
61.8% 0.618 🟡 "Golden Ratio" – จุดกลับตัวคลาสสิก พบมากสุดในแนวโน้มตลาดทั้งขาขึ้น-ขาลง
________________________________________
🟠 3. ระดับลึก – เขตตัดสินใจ เปลี่ยนเทรนด์หรือไปต่อ
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
78.6% 0.786 ใช้ใน Harmonic Patterns (เช่น Bat, Butterfly) เป็นจุด จบคลื่นปรับฐานสุดท้าย
88.6% 0.886 มักเกิดในเทรนด์ที่พยายามกลับตัวสุดขีด หากไม่กลับ ถือว่าจบรอบ
________________________________________
🟣 4. ระดับลึกพิเศษ – โซนหักมุม หรือการกลับตัวสุดท้าย (Custom Use)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
94.1% 0.941 √0.886 ใช้ในบาง Custom Model เช่น Advanced Bat
100.0% 1.000 เท่ากับราคาเดิม จุดที่เทรนด์อาจถูกทดสอบเต็มที่
________________________________________
🔺 5. ระดับเกิน 100% – การขยายตัว (Fibonacci Extension)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
127.2% 1.272 จุดกำไรของ Harmonic Pattern หรือ TP1 ของคนเล่น Breakout
161.8% 1.618 จุดเป้าหมายที่สำคัญยิ่ง – Golden Ratio Extension บ่งชี้การ "เร่งขยาย" เทรนด์เดิม
________________________________________
✨ สรุปแนวทางการใช้งาน
• หากท่านคือ นักเทรด:
ใช้ 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6% เป็น "แนวรับ/แนวต้านชั่วคราว"
ใช้ 127.2%, 161.8% เป็น "เป้าหมายหลังเบรกเทรนด์"
• หากท่านคือ นักวิเคราะห์รูปแบบ:
ใช้ 88.6%, 94.1% ใน Harmonic Pattern เช่น Bat / Crab / Butterfly
• หากท่านคือ ผู้เสาะหาความงาม:
อัตราส่วนเหล่านี้คือ "เสียงสะท้อนของจักรวาล"
________________________________________
❝ สิ่งที่ท่านเห็นใน Fibonacci … ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ “ภาษาของจังหวะ” ❞
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 23 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน – กรอบเวลา H1
ในแผนก่อนหน้า เรากำลังพิจารณาสองรูปแบบของสามเหลี่ยมสีเขียว:
สามเหลี่ยมแบบเริ่มต้นสำหรับคลื่น 1
หรือเป็นโครงสร้างการปรับฐานในรูปแบบสามเหลี่ยมของคลื่น X (ตามที่ได้ทำเครื่องหมายไว้บนกราฟ)
ในแผนวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมสังเกตเห็นโครงสร้าง คลื่น 5 คลื่นในรูปแบบสามเหลี่ยม ภายในคลื่น c พร้อมสัญญาณจบโครงสร้างคือ แท่งเทียนขาขึ้นที่แรงมาก
📰 ข่าวที่สนับสนุนแนวโน้มตลาด
ในขณะนี้ ข่าวเกี่ยวกับสงครามดูเหมือนจะ สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ที่กำลังจะเกิดขึ้น และยังสนับสนุนแนวโน้มที่ว่า โครงสร้างการปรับฐาน abc (สีดำ) อาจจบลงแล้ว เราคาดว่าจะได้เห็นการปรับขึ้นของราคาภายในสัปดาห์นี้
🎯 แนวโน้มราคา
โซนราคาปัจจุบันถือว่าเป็นจุดที่ดีในการ เปิดคำสั่ง BUY ทันที แต่ควรระวังเรื่อง Gap ขาขึ้น ที่อาจเกิดขึ้นช่วงเปิดตลาด หากเกิด Gap เราจะสังเกตว่าราคาจะกลับมาปิด Gap หรือไม่เพื่อพิจารณาเข้า BUY อีกครั้ง
หากราคาขึ้นไปที่โซน 3382 แล้วเกิดการย่อตัวลง เราจะ รอเข้า BUY อีกครั้งที่บริเวณ 3357
📈 โมเมนตัมและมุมมองคลื่นขนาดใหญ่
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลัง เตรียมกลับตัวเป็นขาขึ้น บ่งบอกถึงแนวโน้ม ขาขึ้นที่แข็งแกร่งและชันในสัปดาห์นี้ หากได้รับการยืนยัน นี่อาจเป็นสัญญาณว่า คลื่น 2 (สีดำ) ได้สิ้นสุดแล้ว และคลื่น 3 ได้เริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากราคาขยับขึ้น ช้าและทับซ้อนกัน เราต้องเตรียมรับมือกับอีกหนึ่งสถานการณ์ที่การปรับฐาน ยังไม่จบ และอาจมีการลงอีกหนึ่งรอบเพื่อจบโครงสร้างการปรับฐาน
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมได้ กลับตัวขึ้นแล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงที่จะเกิด Gap ขาขึ้นในช่วงเปิดตลาดเอเชีย
กรอบเวลา H1: โมเมนตัม กำลังจะกลับตัวขึ้น จึงสามารถพิจารณา เข้า BUY ที่โซนราคาปัจจุบันได้
📝 แผนการเทรด – กลยุทธ์ BUY:
✅ โซนเข้า BUY: 3361 – 3379
❌ จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3351
🎯 เป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1: 3382
TP2: 3396
TP3: 3412
SMC / Smart Money Concept คืออะไร ใช้อย่างไร เทรดดีแค่ไหน? SMC / Smart Money Concept คืออะไร ใช้อย่างไร เทรดดีแค่ไหน?
👹 หากใครที่เป็นคนชอบเฝ้ากราฟหรือเสพติดการเฝ้าจอกราฟ แอดว่า เราจำเป็นต้องอ่านบทความนี้แล้วหล่ะ เพราะมันเอาไปต่อยอดการเทรดได้ นั่นเองมาครับมาติดตามอ่านกันดูดีกว่าว่ามันใช้อะไรยังไงบ้าง
Smart Money Concept (SMC) คือแนวคิดการวิเคราะห์ตลาดที่เน้นการติดตามพฤติกรรมของ “เงินทุนรายใหญ่” หรือ “สถาบัน” เช่น ธนาคารกลาง, Hedge Fund, หรือ Prop Firm ซึ่งมักเป็นผู้ขับเคลื่อนราคาหลักในตลาด Forex
💗 เทคนิคการใช้ SMC แบบ Step-by-Step
✅ ขั้นที่ 1: ระบุ Market Structure
ดูว่าตลาดกำลังเป็นเทรนด์ขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway โดยวิเคราะห์จาก เพื่อให้รู้ทิศทางเทรนด์จริง
HH = Higher High
HL = Higher Low
BOS = Break of Structure
หากราคาเกิด BOS จากแนวโน้มเดิม ให้เตรียมหาจุดกลับตัว (Reversal)
✅ ขั้นที่ 2: มองหา Order Block (OB)
เมื่อเกิด BOS ให้ย้อนกลับไปดู “แท่งเทียนสุดท้าย” ที่ดันราคาทะลุโครงสร้าง เราจะได้จุดเข้าออเดอร์ที่แม่นยำ
ประเภทของ OB:
Bullish OB = แท่งเทียนแดงก่อนราคาพุ่งขึ้น
Bearish OB = แท่งเขียวก่อนราคาร่วงลง
✅ OB ที่ดีควรมี Volume มาก และอยู่ใกล้จุด BOS
✅ ขั้นที่ 3: รอราคาย่อตัวกลับเข้ามาใน OB
ใช้แนวรับแนวต้านหรือ FVG เป็นตัวช่วยกรอง “จุดเข้า” ที่แม่นยำ อันนี้สำคัญ เพื่อมองหาพื้นที่ที่มี SL หรือ Pending Order จุดที่ราคาชอบลากไปกิน SL
Pending Order (Limit Order) ใน OB และตั้ง SL ใต้ OB เล็กน้อย
✅ ขั้นที่ 4: วางเป้า Take Profit ที่ “Liquidity Zone”
TP1: ก่อนถึง High หรือ Low เดิม
TP2: ที่แนว SL ของคนอื่น (Equal High / Low)
เทรดแบบนี้ได้ RR (Risk : Reward) สูง เช่น 1:3 หรือมากกว่า
📈 ตัวอย่างการเทรดด้วย SMC (คู่เงิน EUR/USD)
🎯 สถานการณ์:
ราคาอยู่ในขาลงและเกิด BOS ขาขึ้น
ย้อนกลับไปดูแท่งแดงก่อน BOS เป็น Bullish OB
วาง Buy Limit ที่ OB + SL ใต้ OB
TP ที่ High เดิมก่อนหน้า (มีแนวโน้มเป็นจุด SL ของคนอื่น)
ผลลัพธ์: RR ได้ประมาณ 1:4 (เสี่ยง 10 pips ทำกำไร 40 pips)
😊📈สรุปสั้นๆง่ายๆแบบใช้จริง
SMC เป็นเพียง มุมมองใหม่ ที่ช่วยให้เราเข้าใจตลาดในแบบเดียวกับที่ผู้เล่นรายใหญ่ใช้ มันเปลี่ยนจากการเทรดแบบเสี่ยงโชค มาเป็นการเข้าใจกลไกเบื้องหลังราคาจริงๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเทรดสั้นๆรายวัน Timeframe 1H, 15M, 5M แอดเปิดมาขนาดนี้แล้ว ใครรักใครอบก็เอาไปลองใช้กันดูนะครับ ของเค้าดีจริงน๊าา และที่สำคัญอย่าลืมวางแผนการลงทุนให้รอบคอบเทรดด้วยพลังงานดีเข้าไว้ มีชัยไปกว่าครึ่งครับ
จิตวิทยาการเทรด: การพัฒนาความอดทนและวินัยในการเทรด“การเทรดไม่ใช่แค่การเอาชนะตลาด แต่คือการเอาชนะตัวเอง” 🥇
ในการเทรด สิ่งที่เทรดเดอร์หลายคนมองข้ามไม่ใช่เพียงกลยุทธ์หรือการวิเคราะห์กราฟ 📊 แต่คือ “จิตวิทยา” โดยเฉพาะ ความอดทน (Patience) และ วินัย (Discipline) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จในระยะยาว 💪
⏳ 1. ความอดทน: รอให้โอกาสมา ไม่ใช่ล่าให้ทันตลาด 🐢
การเทรดที่ดีไม่ใช่การเทรดบ่อย 🚫 แต่คือการเทรดเมื่อโอกาส “ใช่” ✅
เทรดเดอร์หลายคนตกหลุม FOMO (Fear of Missing Out) 😨 หรือเบื่อการรอจนหลุดจังหวะ
ความอดทนคือการรอให้ “เซ็ตอัพ” มาครบก่อนค่อยลั่นคำสั่ง 🛑
🛠 วิธีฝึกความอดทน:
📋 เขียนเช็คลิสต์ก่อนเข้าออเดอร์ เช่น “ตรงตาม 3 ข้อนี้ = เข้า”
🧾 บันทึกการเทรดย้อนหลังเพื่อเรียนรู้จากอดีต
📴 ปิดกราฟเมื่อยังไม่เข้าเงื่อนไข อย่าให้ตลาดควบคุมอารมณ์คุณ
🎯 2. วินัย: ทำตามแผน ไม่ตามอารมณ์ 💥
“รู้” ว่าควรทำอะไร กับ “ทำ” จริงๆ คือคนละเรื่อง 😅
อารมณ์จะหลอกล่อให้คุณเบี่ยงเบนจากแผน:
❌ แพ้แล้วแก้มือ → Overtrade
⚡ กลัวพลาด → ปิดกำไรเร็วเกิน
🩹 เสียดาย → ไม่ยอม Cut Loss
วินัยคือการบังคับตัวเองให้ “ทำตามระบบ” ไม่ว่าอารมณ์จะเป็นยังไงก็ตาม 📈
🛠 วิธีพัฒนาวินัย:
🧭 เขียนแผนเทรดล่วงหน้า (Plan the trade)
🔍 ทบทวนหลังเทรดทุกไม้ ว่าทำตามแผนหรือหลุดอารมณ์
⚙️ ใช้คำสั่ง Stop Loss และ Take Profit แบบมีระบบ
🔗 3. ความอดทน + วินัย = ความได้เปรียบที่แท้จริง 🏆
ความอดทน = รอโอกาสดีที่สุด
วินัย = ลงมือเฉพาะเมื่อครบเงื่อนไข
สองสิ่งนี้คือ “Edge” ที่แท้จริงเหนือคนส่วนใหญ่ในตลาด 🧊
ยิ่งตลาดผันผวน ยิ่งต้องนิ่งให้เป็น 😌
🧾 4. บทสรุป
🧘♂️ เทรดเดอร์ที่สำเร็จไม่ใช่คนที่แม่นที่สุด
แต่คือคนที่ “ควบคุมตัวเองได้ดีที่สุด” ในระหว่างที่ตลาดแปรปรวน
🎯 ฝึกจิตให้แข็งแรง
🎯 ยึดแผนให้แน่น
🎯 ปล่อยผลลัพธ์ให้เป็นไปตามระบบ
“ตลาดไม่เคยเปลี่ยนเรา – มีแต่เราที่ต้องเปลี่ยนตนเองให้เหมาะกับตลาด” 🔄
วิเคราะห์คลื่น Elliott – แผนการเทรด XAUUSD ประจำวันที่ 19 มิถุนา
🌀 โครงสร้างคลื่น
บนกราฟ H4 หลังจากราคาลดลงอย่างรุนแรง ตอนนี้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบด้านข้าง ซึ่งบ่งชี้ว่าเราอาจอยู่ใน คลื่น b (สีดำ) ของโครงสร้างการปรับฐานแบบ abc
รูปแบบนี้มีแนวโน้มจะเกิดการลดลงอีกระลอก เพื่อจบ คลื่น c (สีดำ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาที่สลับซับซ้อนและเคลื่อนตัวด้านข้าง จึงทำให้ยากที่จะระบุจุดสิ้นสุดของคลื่น a และ b ได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้การใช้ Fibonacci ไม่ค่อยได้ผลนัก
➡️ ดังนั้นเราจึงใช้ข้อมูล Volume Profile ประกอบเพื่อหาแนวรับสำคัญ โดยมี 4 ระดับหลักที่น่าจับตา:
3349, 3335, 3313, และ 3297
โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ:
🎯 เป้าหมายที่ 1: 3335
🎯 เป้าหมายที่ 2: 3297
เราจะรอจังหวะที่มีสัญญาณกลับตัวจากโมเมนตัมบริเวณโซนเหล่านี้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าออเดอร์เมื่อคลื่น c จบลง
🔋 โมเมนตัม
กรอบ D1: กำลังจะเข้าสู่โซน Oversold คาดว่าในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ราคาจะเข้าสู่ภาวะ Oversold อย่างเต็มที่ ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาลงเริ่มอ่อนแรง
กรอบ H4: กำลังเข้าใกล้โซน Oversold เช่นกัน หากราคาขณะนั้นอยู่ใกล้แนวรับใดแนวรับหนึ่งใน 4 โซน (3349 | 3335 | 3313 | 3297) และ D1 ก็อยู่ในโซน Oversold แล้ว → มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัว
กรอบ H1: กำลังจะเข้า Oversold เช่นกัน คาดว่าจะมีแรงเด้งระยะสั้น หาก H1 เริ่มกลับตัวขึ้นพร้อมกับที่ D1 และ H4 อยู่ในภาวะ Oversold นั่นจะเป็นจังหวะเข้า BUY ที่ดี
✅ แผนการเทรด
🔹 แผนที่ 1
BUY ZONE: 3336 – 3333
SL: 3326
TP1 | TP2 | TP3: 3345 | 3378 | 3402
🔹 แผนที่ 2
BUY ZONE: 3300 – 3297
SL: 3290
TP1 | TP2 | TP3: 3313 | 3345 | 3402
⏳ อดทนรอจุดที่มีความสอดคล้องกันระหว่างแนวรับและสัญญาณจากโมเมนตัม นั่นคือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าออเดอร์ BUY ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุด
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 18 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นปัจจุบันบนกรอบเวลา H4
การปรับตัวลงล่าสุดได้ทะลุระดับคลื่น 1 ที่เคยระบุไว้ก่อนหน้า ทำให้เราต้องปรับแผนการนับคลื่นใหม่อีกครั้ง หลังจากคลื่นปรับฐาน abc (สีดำ) มีรูปแบบ สามเหลี่ยม (Triangle) เริ่มก่อตัวขึ้น
ขณะนี้เรากำลังติดตาม 2 สมมติฐานหลัก ดังนี้:
🔹 กรณีที่ 1 – สามเหลี่ยมเป็นคลื่น X ของโครงสร้างปรับฐาน:
ราคากำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ abcde ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง WXY หากสมมติฐานนี้ถูกต้อง ราคามีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเพื่อสร้างคลื่น Y โดยมีเป้าหมายทะลุระดับ 3297 และอาจลึกถึง 3248
🔹 กรณีที่ 2 – สามเหลี่ยมเป็นคลื่น 1 แบบนำร่อง:
หากรูปแบบสามเหลี่ยมนี้เป็นคลื่น 1 แบบนำร่อง แสดงว่าคลื่น 1 ได้สิ้นสุดแล้ว และราคากำลังเข้าสู่คลื่น 2 โดยคลื่น 2 ควรรักษาระดับเหนือ 3248 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 3335 หรือ 3300
🎯 แนวต้านสำคัญและเป้าหมายราคา
แนวต้านหลัก: 3389 – 3402 (อิงจาก Volume Profile) – เป็นบริเวณสำคัญสำหรับหาจุดเปิดขาย (Sell)
แนวต้านระยะสั้น: 3389, 3402, 3412 – คาดหวังสัญญาณกลับตัวในบริเวณนี้
🔻 โมเมนตัม
กรอบวัน (D1): โมเมนตัมลดลง และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะ Oversold ภายใน 2 แท่งเทียน – สนับสนุนสมมติฐานสามเหลี่ยมของคลื่น 1
H4: เตรียมกลับตัวเป็นขาลง – สนับสนุนแผนการ Sell
H1: โมเมนตัมกลับตัวเป็นขาขึ้นแล้ว – อาจเกิดการดีดกลับก่อนลงต่อ
📌 แผนการเทรด
🔴 โซนขาย (Sell Zone): 3400 – 3403
• SL: 3410
• TP1: 3365
• TP2: 3335
🟢 โซนซื้อ 1 (Buy Zone 1): 3335 – 3332
• SL: 3325
• TP1: 3365
• TP2: 3402
🟢 โซนซื้อ 2 (Buy Zone 2): 3302 – 3209
• SL: 3292
• TP1: 3335
• TP2: 3365
• TP3: 3402
SET ปิดที่ 1114.49 สิ้นวัน (16 มิ.ย. 2568) ไม่ผ่าน 61.8%จากกราฟและข้อมูลล่าสุด SET ปิดที่ 1114.49 ณ สิ้นวัน (16 มิ.ย. 2568) และรีบาวด์ไม่ผ่านแนว Fibonacci 61.8% บริเวณ 1123.11 อย่างมีนัยสำคัญนั้น เราสามารถสรุปภาพรวมและความน่าจะเป็นในเชิงเทคนิคได้ดังนี้:
________________________________________
🔍 วิเคราะห์ตามหลัก “5 Steps Setup” จากภาพแรก:
✅ Step 1: Trendline
• เส้น แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง (แดงเฉียงลงในภาพ)
• ราคากลับเข้ามาในกรอบขาลงอีกครั้งหลัง break แล้ว fail
• ✅ สอดคล้องกับโอกาสที่จะกลับลง
________________________________________
✅ Step 2: S/R Zone
• โซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1123.11 (Fibo 61.8%) และ 1143.72 (Fibo 50%)
• ราคาขึ้นไม่ผ่าน 1123 และกลับตัวลง
• แสดงว่าแนวต้านมีแรงขายหนาแน่น → Resistance Confirmation
________________________________________
✅ Step 3: Fibonacci Retracement
• SET รีบาวด์จากจุดต่ำ 1056.41 กลับขึ้นมาทดสอบระดับ 0.618 = 1123.11
• ราคาวันนี้ปิดต่ำกว่าระดับนี้ → บ่งชี้ว่า Fibonacci 61.8% กลับกลายเป็นแนวต้าน
________________________________________
✅ Step 4: Candlestick Pattern
• หากพิจารณาแท่งเทียนล่าสุด:
o ปิดลบต่อเนื่องหลายวัน
o ไม่มีการเกิดแท่งกลับตัวที่ยืนยัน bullish
• นับเป็น "confirmation" ของแรงขายเมื่อไม่สามารถยืนเหนือ 1123 ได้
________________________________________
✅ Step 5: Final Result
สถานการณ์ตรงตาม Checklist ทั้ง 4 ข้อก่อนหน้า → Setup สำหรับ “Short” ได้รับการยืนยัน
• สามารถวาง Stop Loss ไว้เหนือ 1125-1130 (เหนือ Fibo 61.8%)
• Target zone: ตาม Fibonacci ถัดไปที่
o 1093.78 (Fibo 78.6%)
o 1076.32 (Fibo 88.6%)
o หรืออาจกลับไป low เดิมที่ 1056.41
________________________________________
📉 สรุปภาพรวมทางเทคนิค SET Index ณ วันที่ 16 มิ.ย. 2568:
ประเด็น วิเคราะห์
แนวโน้มหลัก ขาลง (ยังไม่เปลี่ยนแปลง)
Breakout Trendline เคย break แล้วหลุดกลับ → กลับสู่ขาลงอีกครั้ง
แนวต้านที่ล้มเหลว 1123.11 (Fibo 61.8%)
แรงขายยืนยัน Candlestick และการปิดต่ำกว่าแนวต้านอย่างชัดเจน
แนวรับถัดไป 1093.78 / 1076.32 / 1056.41
กลยุทธ์ที่เหมาะสมตอนนี้ Wait to Short หรือ ถือ Short ต่อ ถ้าเข้าแล้ว
Stop Loss ที่แนะนำ >1125
________________________________________
🧠 TIP สำหรับนักลงทุน:
• การหลุด 1123 = Bear Control Zone → ระวังการเทขายหนักอีกระลอก
• อย่าพยายาม "ถัวเฉลี่ยขาดทุน" ถ้าแนวโน้มยังไม่เปลี่ยน
• หากจะรอ Long ใหม่: ต้องมีแท่งเขียวยืนยันกลับ + ปิดเหนือ 1123/1143
________________________________________
Trading Discipline ฝึก “วินัย” ไม่ใช่แค่ “กำไร”ฝึก “วินัย” ไม่ใช่แค่ “กำไร”
👹 เพราะกำไรจะไม่มีทางยั่งยืน ถ้าไม่มีวินัยที่มั่นคง คำนี้พูดกี่ทีก็เจ็บ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเจ็บแล้วไม่ค่อยจำ วันนี้แอดเลยมาช่วยเตือนเทรดเดอร์ทุกๆท่านกันฮะ ว่าทำแบบไหนเราจะไม่เจ็บแต่จำได้ด้วย จากบทความดีๆที่นี่
👉“การเทรดที่ดี ไม่ได้เริ่มจากการหาจุดเข้า แต่เริ่มจากการควบคุมตัวเอง”
เพราะในโลกของการเทรด ทุกคนต่างมีความหวังว่า…
1. จะทำกำไรให้ได้มากที่สุด
2. จะต้องเข้าออเดอร์ให้ได้แม่นๆสวยๆ
3. หรือจะต้องมีกลยุทธ์ลับที่ยังไม่มีใครรู้มาก่อน
👉👉แต่ความจริงอันโหดร้ายก็คือ ต่อให้กลยุทธ์ดีแค่ไหน ถ้าไม่มีวินัย คุณก็พังได้อยู่ดี
🎯 วินัยคืออะไรในโลกการเทรด?
วินัยการเทรด (Trading Discipline) ไม่ใช่แค่การทำตามแผน
👉 แต่มันคือ "การควบคุมตัวเอง" แม้ในเวลาที่เทรดเสีย และอารมณ์กำลังพุ่งพล่านที่สุด หรือเทรดได้กำไรมากที่สุด
ตัวอย่างของ “วินัย” ที่แท้จริง ได้แก่
ไม่เข้าออเดอร์นอกแผน แม้จะรู้สึกว่า “ถูกทางแน่ๆ”
ยอมคัทลอสเมื่อถึงจุดที่วางไว้ โดยไม่ฝืนรอ “เผื่อเด้งกลับ”
ไม่ revenge trade ไม่เติมเงิน ไม่แก้แค้นหรือเอาคืน แม้จะเพิ่งโดนล้างพอร์ต เพราะเทรดต่อยังไงก็หมด แล้วที่สำคัญ หมดตัวแน่นอนถ้าไม่หยุด
ไม่โลภเกินไปเมื่อกำลังได้กำไร
รู้จักหยุด เมื่ออารมณ์ไม่พร้อม
📉 เพราะกำไรคือ “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “เป้าหมาย”
เทรดเดอร์หลายๆคนมักตกม้าตายและพลาดกันตรงนี้แหละ
“โฟกัสแต่ผลกำไร จนมองข้ามพฤติกรรมของตัวเอง”
คนที่หมกมุ่นกับการเอาชนะตลาด มักจะเร่งรีบ
แต่ตลาดไม่เคยรีบ ตลาดรอคนที่ “ใจเย็นและมีวินัย” เสมอ
💡 ฝึกวินัย = ฝึกการยอมรับความไม่แน่นอน
ตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่จิตใจของนักเทรดต้อง “มั่นคงพอ” ที่จะอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนนั้นได้
การมีวินัยคือ:
การยอมรับว่าเราอาจแพ้ และเตรียมรับมือได้เสมอ
การไม่ต้อง “เทรดทุกวัน” เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
การเข้าใจว่า “บางวันไม่เทรด ก็ยังชนะตลาดได้”
✍️ แนวทางฝึกวินัยแบบใช้ได้จริง
เขียนแผนก่อนเทรดทุกครั้ง
วางแผนจุดเข้า จุดออก SL/TP ให้ชัด แล้ว “ห้ามเปลี่ยน” ระหว่างทาง
จำกัดจำนวนออเดอร์ในแต่ละวัน
เช่น วันละไม่เกิน 3 ไม้ เพื่อฝึก “เลือกเทรด” ไม่ใช่ “เทรดทุกจังหวะ”
รีวิวการเทรดทุกสิ้นวัน
ถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันทำตามแผนไหม?” มากกว่าถามว่า “วันนี้กำไรเท่าไหร่?”
เทรดในบัญชีเดโมบ้างเป็นระยะ
เพื่อฝึก mindset ให้แยกตัวตนออกจากเงิน
ฝึกการ “ไม่ทำอะไร” เมื่อไม่มีสัญญาณ
ตลาดบางวันคือ “สนามซ้อมใจ” มากกว่าจะเป็นสนามหาเงิน
🧘♂️ กำไรไม่เคยชนะอารมณ์
👌 ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อย่าหวังจะควบคุมผลลัพธ์ในตลาด
👌ตลาดไม่ได้ต้องการคนที่ฉลาดที่สุด แต่มันให้รางวัลกับคนที่ “นิ่งที่สุด” มากกว่า
👌และคนที่มีวินัย คือคนที่พร้อมจะยอมขาดทุนเล็กๆ เพื่อไม่ขาดทุนใหญ่ พร้อมจะรอจังหวะดีๆ แทนที่จะพุ่งเข้าไปด้วยอารมณ์
😊📈 อย่าเอา “กำไร” เป็นเป้าหมายเดียวในการเทรด แต่ให้ “วินัย” เป็นฐานของทุกการตัดสินใจ เมื่อคุณฝึกวินัยได้ กำไรจะตามมาเอง และที่สำคัญกว่านั้น...คุณจะเป็นคนที่มั่นคงขึ้นทั้งในตลาด และในชีวิตจริงด้วย
SET สิ่งที่นายตลาดทำ คือ การสลายพลังเทของ Market Distribution13/06/25 ต้นสัปดาห์ ตลาดหุ้นไทย ลากวนหลอกตรง VWAP@1145 อยู่หลายวัน สิ่งที่นายตลาดทำ คือ การสลายพลังเทของครับ {Market Distribution Phase}
ความเดิมที่เราชวนกันหา "หัวคลื่น A" หลังจากการดีดตัวมาทดสอบ 38.2% ที่ 1231.01 เมื่อ 13 พ.ค.68
หลังจากนั้นเราจะเห็นว่า 14-15-16 ในสัปดาห์นั้นตลาดอ่อนกำลังทางขึ้นชัดเจน
ฟินฟลูเอนเซอร์ ต้องเตือนการพักตัวของตลาด ว่ามันกำลังจะลงกลับสู่แนวโน้มหลัก กรอบที่มีนัยสำคัญ คือ 61.8-88.6 นั่นก็คือ 1123.11-1093.78*-1076.32 {1093.78 = ปิด GAP}
ดังนั้นตั้งแต่ 15-16 พ.ค.68 เป็นต้นไป ไม่ควรแนะนำให้ไปซื้อหุ้นสวนตลาด เพราะมันชัดแล้วว่าตลาดลง
SET50 Futures ก็คือเทรดลงไม่ว่าจะ Put Option/Put DW/Short Futures
ซึ่งทางเพจก็ย้ำมาตลอดทาง ว่ามันลงนะไม่เทรดขึ้น ในมื่อวางแผนแบบนี้ไว้ล่วงหน้า แล้วเรามาตกใจอะไรกันไปใยให้ป่วยการ จิตตก เสียสุขภาพ เสียเวลา เปล่าประโยชน์
Market Distribution Phase เป็นช่วงสำคัญที่นักลงทุนต้องระวังให้มาก เพราะเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มส่งสัญญาณว่า “จบรอบขาขึ้น” แล้ว กำลังจะ “กลับทิศ” ไปเป็นขาลง
________________________________________
🔍 อธิบายง่ายๆ: Market Distribution Phase คืออะไร?
Distribution Phase (ระยะกระจายของ):
คือช่วงที่ “รายใหญ่” หรือ “นักลงทุนสถาบัน” เริ่ม ขายทำกำไรอย่างเงียบๆ หลังจากราคาขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า
________________________________________
📉 ลักษณะของช่วง Distribution
ลักษณะ ความหมาย
ราคาเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบ (Sideway บนยอด) แรงซื้อเริ่มหมด แรงขายเริ่มแทรกเข้ามา
ปริมาณซื้อขาย (Volume) สูงในบางแท่ง แต่ราคาไม่ไปต่อ เป็นการ “ขายของออก” จากรายใหญ่ โดยไม่ให้ราคาตก
มีแท่งเทียนกลับทิศ เช่น Shooting Star, Bearish Engulfing สัญญาณว่าแรงขายเริ่มคุมตลาด
เริ่มหลุดแนวรับสำคัญ (Support) สัญญาณว่าขาลงใกล้เริ่มแล้ว
________________________________________
💡 เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย
• ตอนสะสมของ (Accumulation) = พ่อค้าตุนสินค้า
• ตอน Public Participation = ขายของดี ลูกค้ารุมซื้อ
• ตอน Excess = สินค้าราคาสูงเกินจริง คนเริ่มตะโกน “ไปต่อ!”
• ตอน Distribution = พ่อค้าเริ่มทยอย “ขายหมดโกดัง” โดยยังทำหน้าตาเฉย ไม่ให้คนอื่นรู้
________________________________________
⚠️ แล้วนักลงทุนทั่วไปควรทำอย่างไร?
1. จับสัญญาณกลับตัวให้ทัน เช่น:
o แท่งเทียนกลับทิศ
o Volume ไม่สนับสนุนการขึ้น
o ราคาทะลุแนวรับลงมา
2. หยุดซื้อเพิ่ม
3. ทยอยขายทำกำไร / ปิดพอร์ตบางส่วน
4. ตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ
________________________________________
สรุป DR และ DW ที่อ้างอิงหุ้น BYD (1211.HK) ลงทุนผ่านตลาดไทยสรุป DR และ DW ที่อ้างอิงหุ้น BYD (1211.HK) ซึ่งสามารถลงทุนได้ผ่าน ตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2568:
________________________________________
📌 สรุป DR & DW อ้างอิงหุ้น BYD (1211.HK) ในตลาดหุ้นไทย
ประเภท ชื่อย่อ ผู้ออก จุดเด่น หมายเหตุ
DR BYDCOM80 ธนาคารกรุงไทย (KTB) ลงทุนหุ้น BYD จีนได้โดยไม่ต้องเปิดพอร์ตต่างประเทศ อ้างอิง 1 หุ้น BYD : 1,000 DR / ซื้อขายเป็นเงินบาท / มี Market Maker
DW BYDCOM28C2510A Macquarie (DW28) Call Warrant เก็งกำไรสั้น ใช้ Leverage จากราคาหุ้น BYD หมดอายุ ต.ค. 2568 / ราคาวิ่งแรง (ล่าสุด +18.9% เมื่อหุ้นแม่ +3.71%)
________________________________________
📘 รายละเอียดเพิ่มเติมแต่ละตัว
🟦 1. BYDCOM80 (DR)
รายการ รายละเอียด
ประเภท DR (Depositary Receipt)
อ้างอิง BYD Company Limited (1211.HK)
ผู้ออก ธ.กรุงไทย (KTB)
อัตราอ้างอิง 1 หุ้น BYD = 1,000 DR
สกุลเงินซื้อขาย บาท
เหมาะกับ ลงทุนกลาง-ยาว, ติดตามราคา BYD แบบไม่เปิดบัญชีต่างประเทศ
ความเสี่ยง ราคาอ้างอิง, สภาพคล่อง, ค่าเงิน THB/HKD
________________________________________
🟩 2. BYDCOM28C2510A (DW)
รายการ รายละเอียด
ประเภท Derivative Warrant (Call)
อ้างอิง BYD Company Limited (1211.HK)
ผู้ออก Macquarie (DW28)
หมดอายุ ต.ค. 2568
ประเภทสิทธิ Call Warrant (เก็งกำไรราคาขึ้น)
จุดเด่น Leverage สูง ~8-12 เท่า / เหมาะกับเก็งกำไรระยะสั้น
ความเสี่ยง Time Decay, Expiry, ความผันผวนสูง
________________________________________
🔍 สรุปเปรียบเทียบ DR vs DW
ด้าน BYDCOM80 (DR) BYDCOM28C2510A (DW)
จุดประสงค์ ลงทุนตามพื้นฐาน เก็งกำไรตามเทคนิค
อายุสัญญา ไม่มีหมดอายุ มีวันหมดอายุ (ต.ค. 68)
Leverage ไม่มี มีสูง (~8-12 เท่า)
ความผันผวน ปานกลาง สูง
การซื้อขาย SET (เงินบาท) SET (เงินบาท)
เหมาะกับ นักลงทุนทั่วไป / ระยะกลาง เทรดเดอร์สายเทคนิค / ระยะสั้น
________________________________________
✅ สรุปแนะนำการเลือก
• หากคุณต้องการถือ BYD แบบลงทุนจริง → BYDCOM80 เหมาะที่สุด
• หากคุณต้องการเก็งกำไรเร็ว ทิศทางแม่น → BYDCOM28C2510A คือทางเลือกที่น่าสนใจ
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – อัปเดตแผนกลยุทธ์การเทรด XAUUSD | 10/06
ขณะนี้ตลาดมีหลายรูปแบบของคลื่นที่มีโอกาสเกิดขึ้นใกล้เคียงกัน ดังนั้นเราจะเปลี่ยนไปดูที่กรอบเวลา H4 เพื่อลดความสับสนจากสัญญาณรบกวนระยะสั้น
🔹 โซนราคาสำคัญ
ตามที่ได้กล่าวไว้ในการอัปเดตเมื่อวานนี้ โซน 3340 ยังคงเป็นระดับสำคัญ ราคายังไม่สามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้และได้ปรับตัวลงมาที่ 3307
🔹 โมเมนตัม & Volume Profile
H4: อีกเพียงแท่งเทียนเดียว อินดิเคเตอร์โมเมนตัมก็จะเข้าสู่เขต oversold ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มอ่อนแรงลง
Volume Profile: ราคากำลังตอบสนองอย่างชัดเจนบริเวณจุดสมดุล (POC สีฟ้า) และยังไม่มีสัญญาณของการทะลุลง
🧩 สองแนวโน้มหลักที่อาจเกิดขึ้น
🔸 แนวโน้มที่ 1: คลื่นที่ 5 ยังคงปรับตัวลดลง
ราคากำลังอยู่ในโครงสร้างคลื่น 5 โดยมีเป้าหมายที่:
🎯 เป้าหมายที่ 1: 3290
🎯 เป้าหมายที่ 2: 3279
✅ เงื่อนไขยืนยัน: ราคาทะลุต่ำกว่า 3294
⚠️ หมายเหตุ: แม้จะเป็นแนวโน้มที่เห็นได้ชัด แต่ต้องระวังมากขึ้นเพราะตลาดมักสร้างกับดักในแนวโน้มที่ชัดเจนเกินไป
🔸 แนวโน้มที่ 2: การปรับฐานสิ้นสุดแล้ว – คลื่นที่ 3 ขาขึ้นกำลังเริ่มต้น
โครงสร้างคลื่นปรับฐาน ABC (สีดำ) ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
การดีดตัวขึ้นล่าสุดคือคลื่น 1 และขณะนี้ราคาอยู่ในคลื่น 2
เตรียมตัวสำหรับคลื่น 3 ขาขึ้น
✅ เงื่อนไขเบื้องต้น: ราคาต้องทะลุระดับ 3340
✅ เงื่อนไขยืนยัน: ราคาทะลุจุดยอดของคลื่น b (สีดำ)
➡️ ในแนวโน้มนี้ การตั้งคำสั่งล่วงหน้าอาจไม่เหมาะสม – ควรรอการยืนยันและอัปเดตสัญญาณแบบเรียลไทม์
📉 วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: กำลังเข้าเขต oversold – มีโอกาสสูงที่จะเกิดการดีดตัวกลับภายใน 5–7 แท่งเทียนถัดไป
กรอบเวลา H4: ใกล้ oversold เช่นกัน – มีแนวโน้มที่จะเกิดการดีดตัวขึ้นในวันนี้
🎯 แผนการเทรด
🔵 โซน BUY ที่ 1:
• Entry: 3292 – 3289
• Stop Loss: 3282
• เป้าหมายกำไร:
– TP1: 3306
– TP2: 3340
– TP3: 3375
🔵 โซน BUY ที่ 2:
• Entry: 3281 – 3279
• Stop Loss: 3271
• เป้าหมายกำไร:
– TP1: 3307
– TP2: 3340
– TP3: 3375
20 Days challenge ลงทุนกับตัวเองใน 20 วัน20 Days challenge ลงทุนกับตัวเองใน 20 วัน
👹 หลายคนอาจมองว่า “การลงทุน” คือการซื้อหุ้น ซื้อคริปโต หรือทำกำไรจากกราฟ โดย การใช้เงินต่อเงินมันจึงเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด และเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด แต่แท้จริงแล้ว...การลงทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่การลงทุนด้วยเงิน หากคุณต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีแบบสุขสบายใจ บทความนี้มีคำตอบเป็นแนวทางให้อ่านกันนะครับ
“การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือการลงทุนกับตัวเอง” และนี่คือความตั้งใจของ 20 Days Challenge ภารกิจ 20 วันที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นนักเทรดที่มีวินัยทางอารมณ์ รู้จักบริหารเงิน และใช้ชีวิตด้วยความเข้าใจมากขึ้น
🎯 เป้าหมายของ 20 Days Challenge
👉เข้าใจจิตวิทยาการเทรดอย่างลึกซึ้ง
👉พัฒนาวินัยการใช้เงินและการออม
👉สร้างนิสัยที่เสริมคุณภาพชีวิตและการตัดสินใจ
👉เสริม mindset ที่เหมาะสมกับ “การเป็นนักลงทุนในระยะยาว”
📈ภารกิจ: 20 วันกับ 20 พฤติกรรมใหม่📈
💪 Day 1 เขียนเป้าหมายการเทรดและชีวิต ตั้งเข็มทิศจิตใจให้ชัด
💪 Day 2 ติดตามอารมณ์ตัวเองหลังเทรด รู้ทันอารมณ์ ลด overtrade
💪 Day 3 ลองเทรด Paper Trade แบบไม่มีเงิน ฝึก “วินัย” ไม่ใช่แค่ “กำไร”
💪 Day 4 จัดการการใช้เงินใน 1 วัน รู้รายจ่าย = คุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
💪 Day 5 ฟังพอดแคสต์พัฒนาตัวเอง 1 ตอน เติมความรู้ให้ mindset
💪 Day 6 พักจากหน้าจอ 6 ชม. ฝึกสมาธิและการอยู่กับตัวเอง
💪 Day 7 อ่านหนังสือเกี่ยวกับพฤติกรรม เสริมความเข้าใจจิตวิทยา
💪 Day 8 วางแผนการใช้เงินใน 1 สัปดาห์ เริ่มต้น “การออมแบบมีเป้าหมาย”
💪 Day 9 เขียน Journal ความคิดหลังเข้าเทรด เข้าใจว่าอะไรผลักดันเราเทรดผิด
💪 Day 10 เดินเร็ว 30 นาที ฟื้นพลังใจ สมองปลอดโปร่งขึ้น
💪 Day 11 ตั้งกฎ “หยุดเทรดเมื่อ...” สร้างขอบเขต ลด emotional trading
💪 Day 12 ใช้จ่ายแบบ “คิดก่อนซื้อ 3 นาที” ฝึกสติและลดความฟุ่มเฟือย
💪 Day 13 ดูกราฟแต่ไม่เข้าออเดอร์ ฝึกมอง “ตลาด” ไม่ใช่แค่ “กำไร”
💪 Day 14 สรุปการใช้จ่าย 2 สัปดาห์ เพื่อให้เข้าใจนิสัยการใช้เงินของตัวเอง
💪 Day 15 ลองเทรดแค่ 1 ไม้ที่วางแผนไว้ ฝึกคุมความอยาก ลบ FOMO
💪 Day 16 ลองไม่ใช้มือถือ 2 ชั่วโมงก่อนนอน ปรับคุณภาพการพักผ่อน
💪 Day 17 เขียนสิ่งที่ขอบคุณในชีวิต 3 ข้อ สร้างมุมมองบวกต่อชีวิต
💪 Day 18 วางเป้าหมายการออม 3 เดือน เชื่อมโยง “เป้าหมายชีวิต” กับ “เงิน”
💪 Day 19 ประเมินพฤติกรรมตนเอง สะท้อนและพัฒนาแบบมีสติ
💪 Day 20 สรุปสิ่งที่เปลี่ยนแปลง + วางแผนต่อเนื่องเริ่มการเป็น “นักลงทุนตัวเอง” แบบยั่งยืน
📈จิตวิทยาการเทรดคือ “ใจ” ไม่ใช่แค่ “จอกราฟ”
หลายคนล้มเหลวในการเทรด ไม่ใช่เพราะระบบไม่ดี แต่เพราะใจไม่มั่นคง
โลภ, กลัว, คาดหวัง, ใจร้อน
20 วันนี้คือการฝึกจิตใจ:
😸 สังเกตอารมณ์
😸 ฝึกยอมรับความผิดพลาด
😸 ฝึกรอคอยโอกาส
😸 และฝึกคิดอย่างเป็นระบบ
💸 รู้จักใช้เงิน = รู้จักควบคุมชีวิต
การจัดการเงินไม่ใช่แค่เรื่องบัญชีรายรับ-รายจ่าย แต่คือการควบคุมความต้องการในใจตนเอง คนที่บริหารเงินได้ดี มักจะเป็นคนที่บริหารอารมณ์ตัวเองได้ดีด้วยเช่นกัน
👿👿👿 ถ้าอยากเทรดให้ดีขึ้น อย่ามัวแต่มองแต่กราฟ ให้หันกลับมามองตัวเองด้วย 20 Days Challenge จะไม่เปลี่ยนชีวิตคุณในทันที แต่มันจะ “เริ่มต้นการเปลี่ยน” ที่ยั่งยืนและคุ้มค่ากว่าไม่ใช่แค่เป็น “เทรดเดอร์” ที่ดีขึ้น แต่เป็น มนุษย์ที่เข้าใจตัวเองและเข้าใจชีวิตมากขึ้นด้วยเช่นกัน
👿👿👿 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะได้แนวทางในการจัดสรรในชีวิตสักนิดๆหน่อยๆมั้ยครับ ลองทำดูก็ไม่เสียหลายนะ ชอบไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที ที่สำคัญ มันทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอนเลยครับ แอดฟันธง เรามาลองทำตามกันดูดีกว่า ได้ผลดีไม่ดีอย่างไร อย่าลืมมาเล่าสู้กันฟังนะฮะ
Revenge Trading: กับดักอารมณ์ที่นักเทรดต้องระวังในโลกการเทรดที่ผันผวน การขาดทุนเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอ 😔 แต่มีกับดักหนึ่งที่อันตรายกว่า นั่นคือ Revenge Trading หรือ "การเทรดล้างแค้น"
Revenge Trading คืออะไร? 😠
มันคือการที่เราพยายาม "เอาคืน" ตลาด ทันทีหลังจากขาดทุนหนักๆ โดยมีเป้าหมายคืออยากได้เงินที่เสียไปคืนมาอย่างรวดเร็วที่สุด 💸 พฤติกรรมนี้เกิดจากอารมณ์โกรธ หงุดหงิด และไม่ยอมรับความจริง แทนที่จะทำตามแผนที่วางไว้ 📝
สัญญาณเตือนที่ควรรู้ 🚨
สังเกตตัวเองหากมีอาการเหล่านี้:
เพิ่มขนาดเทรด แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง 🚀
เทรดถี่ขึ้น และเร็วขึ้น โดยไม่วิเคราะห์ให้ดี 💨
ไม่สนใจ Stop Loss หรือการบริหารความเสี่ยง 🚫
รู้สึกโกรธ อยากเอาคืนตลาดทันที 😡
ขาดความอดทน รอจังหวะไม่ไหว ⏳
ผลเสียที่ตามมา 📉
Revenge Trading มักนำไปสู่:
ขาดทุนหนักกว่าเดิม: เพราะตัดสินใจด้วยอารมณ์ 💸
วินัยเสีย: เลิกทำตามกฎของตัวเอง ⛓️
เครียด: สุขภาพจิตแย่ลง 😓
หมดกำลังใจ: อาจเลิกเทรดไปเลย 😞
รับมืออย่างไรดี? 💡
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ:
ยอมรับความจริง: การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด 🧘♀️
หยุดพัก: ถ้าอารมณ์ไม่ดี ให้หยุดเทรดทันที ไปทำอย่างอื่น 🚶♂️
ทบทวนแผน: กลับมาดูแผนการเทรด และทำตามอย่างเคร่งครัด 📖
บริหารความเสี่ยง: กำหนดจุด Stop Loss และขนาดเทรดที่เหมาะสมเสมอ 🛡️
จำไว้ว่า การควบคุมอารมณ์เป็นหัวใจสำคัญ ในการเทรด หากคุณจัดการกับมันได้ คุณก็จะหลีกเลี่ยงความเสียหาย และมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวครับ! ✨






















