สูตรแห่งผลตอบแทนในตลาด Forex: Return = Cash + Beta + Alphaในโลกของการเทรด Forex ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและไม่แน่นอน การเข้าใจว่าผลตอบแทนของเรามาจากอะไรคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน สูตรนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่มันคือแนวคิดที่ช่วยให้เราตระหนักถึงองค์ประกอบที่ขับเคลื่อนกำไรของเราในระยะยาว
💵 Cash
คือกระแสเงินสด หรือดอกเบี้ยพื้นฐานที่นักลงทุนสามารถได้รับ แม้ไม่ทำอะไรเลย เช่น การถือเงินสดในบัญชีเทรดที่มีดอกเบี้ย หรือการถือสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนคงที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ให้ความมั่นคงกับพอร์ตการลงทุน
📊 Beta
คือผลตอบแทนที่มาจากการเคลื่อนไหวตามตลาดหรือแนวโน้มใหญ่ของคู่เงิน หากตลาดเป็นขาขึ้นและคุณเปิด Buy ตามเทรนด์ นี่คือการเก็บผลตอบแทนจากกระแสหลัก ซึ่งไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ซับซ้อน แต่ต้องอาศัยวินัยและความเข้าใจในเทรนด์ของตลาด
🚀 Alpha
คือผลตอบแทนส่วนเกินที่เกิดจากความสามารถเฉพาะตัวของเทรดเดอร์ เช่น การวิเคราะห์เชิงลึก, การเข้าออเดอร์ในจุดที่แม่นยำ, การบริหารความเสี่ยงแบบมืออาชีพ หรือกลยุทธ์เฉพาะที่สร้างความได้เปรียบเหนือคนอื่น Alpha เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการรักษา แต่มีคุณค่ามากที่สุด
🧘♂️ ความมั่นคงทางอารมณ์
จะเผยผลลัพธ์ออกมาในที่สุด การเทรดไม่ใช่แค่เรื่องกลยุทธ์ แต่คือเกมระยะยาวที่ต้องใช้จิตใจที่มั่นคง ความผันผวนในตลาดจะทดสอบอารมณ์ของคุณ และเฉพาะผู้ที่มีวินัยและความนิ่งเท่านั้นที่จะสามารถรักษา Alpha ได้ในระยะยาว
🧭 แนวทางการใช้งาน:
🟢 ผู้เริ่มต้นควรโฟกัสที่การบริหาร Cash และการตามเทรนด์ (Beta) ให้ดีเป็นลำดับแรก ก่อนจะพัฒนาเทคนิคเฉพาะเพื่อสร้าง Alpha
📝 ใช้การจดบันทึกผลการเทรด เพื่อแยกแยะว่าผลตอบแทนแต่ละส่วนมาจาก Cash, Beta หรือ Alpha
⚖️ พอร์ตควรถูกออกแบบให้มีสัดส่วนของแต่ละองค์ประกอบเหมาะสมตามสไตล์การเทรด เช่น เทรดเดอร์ระยะยาวอาจให้ความสำคัญกับ Beta มากกว่า Alpha
🤖 พิจารณาใช้ EA หรือระบบอัตโนมัติเพื่อเก็บผลตอบแทนจาก Beta อย่างมีวินัย และใช้เวลาศึกษาเพื่อเพิ่ม Alpha อย่างเป็นระบบ
📌 สรุป:
❗ อย่ามองแค่กำไร ให้มองที่คุณภาพของการเทรด
⚙️ พอร์ตที่ดีควรมีความสมดุลทั้ง Cash, Beta และ Alpha
🧠 การพัฒนาอารมณ์และ Mindset สำคัญเท่า ๆ กับกลยุทธ์ทางเทคนิค
ภาพประกอบ
การวิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 9 กรกฎาคม 2025
🔻 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลังเข้าใกล้เขต Oversold และอาจมีการกลับตัวขึ้นในวันนี้หรือพรุ่งนี้
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมอยู่ในเขต Oversold แล้ว และเส้นทั้งสองเริ่มบีบเข้าหากัน แสดงให้เห็นว่าแรงขายกำลังอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
ระดับราคา 3318 (โซนซื้อเดิม) ไม่สามารถรับแรงขายได้ แม้จะมีการดีดตัวขึ้นประมาณ 100 จุด ก่อนจะลดลงอีกครั้ง
ขณะนี้ราคากำลังเข้าใกล้ ขอบล่างของรูปสามเหลี่ยมแบบบีบตัว (contracting triangle) ซึ่งเป็นรูปแบบการปรับฐานแบบ abcde
ตามโครงสร้างคลื่น:
คลื่น d สีม่วงดูเหมือนว่าจะจบลงแล้ว
ตอนนี้ราคากำลังอยู่ในคลื่น e ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะจบที่บริเวณ 3279 ใกล้กับแนวรับล่างของสามเหลี่ยม
หากรูปแบบนี้ถูกต้อง คาดว่าเมื่อคลื่น e จบลงแล้ว ราคาจะทะลุขอบบนของสามเหลี่ยมและพุ่งขึ้นอย่างแรง
อย่างไรก็ตาม การเกิดรูปสามเหลี่ยมในช่วงปรับฐานแบบนี้อาจเป็นสัญญาณว่า แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวใกล้จะสิ้นสุด
📌 แผนการเทรด
เนื่องจากรูปแบบสามเหลี่ยมมีลักษณะคลื่นซับซ้อนแบบ 3 คลื่น ความเสี่ยงจึงค่อนข้างสูง:
ควรลดขนาดล็อตในการเข้าเทรด หรือ
รอให้เกิดการ เบรกขึ้นจากสามเหลี่ยม อย่างชัดเจนก่อนค่อยเข้าเทรด
แผนการเทรดแนะนำ:
✅ โซนซื้อ (Buy Zone): 3280 – 3277
❌ จุดตัดขาดทุน (SL): 3270
🎯 จุดทำกำไร (TP):
TP1: 3309
TP2: 3342
TP3: 3390
การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD – 8 มิถุนายน 2025🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott กรอบเวลา: H4
ขณะนี้ราคามีลักษณะซ้อนทับกัน โดยเกิดรูปแบบคลื่นแก้ไขแบบ abc หลายชุด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวน ฉันจึงเปลี่ยนไปใช้การวิเคราะห์ในกรอบเวลา H4 เพื่อให้มองภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ระดับราคา 3500 ที่เริ่มต้นการปรับฐานจนถึงปัจจุบัน พบว่าราคาเคลื่อนไหวในรูปแบบคลื่น abc ที่ซ้อนทับกัน แทนที่จะเป็นคลื่นพุ่งแรงตามแนวโน้ม นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ราคากำลังสร้าง รูปแบบสามเหลี่ยมแก้ไข abcde (สีเขียว) ตามที่แสดงในแผนภูมิ
ปัจจุบันราคาอาจอยู่ใน คลื่น d (สีเขียว) ซึ่งมีโครงสร้างภายในแบบ wxy (สีแดง)
การซื้อขายภายในรูปแบบสามเหลี่ยมนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากรูปแบบคลื่นแก้ไขมักจะสลับซับซ้อน และตอนนี้ราคาก็กำลังถูกบีบให้อยู่ใน โซนสภาพคล่องตาม Volume Profile ดังนั้น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือรอให้รูปแบบ abcde สมบูรณ์ก่อนจะตัดสินใจ
📉 โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: ตัวชี้วัดโมเมนตัมเริ่มแสดงสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง → มีแนวโน้มที่ราคาจะไซด์เวย์หรืออ่อนตัวลงในสัปดาห์นี้ (ปลายสามเหลี่ยมมักเกิดการบีบตัวของราคา จึงไม่มีแนวโน้มชัดเจน)
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมก็แสดงสัญญาณกลับตัวเช่นกัน และมีแท่งเทียนแดงขนาดใหญ่ออกมา ดังนั้นจึงควร ให้ความสำคัญกับฝั่งขายในระยะสั้น จนกว่าโมเมนตัม H4 จะเข้าสู่เขต oversold
🎯 เป้าหมายราคา
ด้วยความที่เป็นโครงสร้างคลื่น abc ที่ซ้อนกัน การระบุเป้าหมายของคลื่นจึงทำได้ยาก ดังนั้นฉันใช้ Volume Profile เพื่อระบุระดับสำคัญแทน:
แนวต้าน 3342: เป็นขอบของโซนสภาพคล่องสูง-ต่ำ → เป็น โซนที่เหมาะสำหรับ Sell โดยมีโมเมนตัมจาก D1 และ H4 สนับสนุน
แนวรับ 3294: เป็นขอบล่างของโซนสภาพคล่องสูง → เป็น โซนที่เหมาะสำหรับ Buy และอาจเป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น X (สีแดง)
🧭 แผนการเทรด
🔻 โซน Sell:
จุดเข้า: 3340 – 3342
SL: 3350
TP1: 3320
TP2: 3300
🔺 โซน Buy:
จุดเข้า: 3295 – 3293
SL: 3285
TP1: 3312
TP2: 3342
TP3: 3390
📌 ความคิดเห็นส่วนตัว:
ในช่วงนี้ ฉันจะเลือก รอดูจนกว่ารูปแบบสามเหลี่ยม abcde จะเสร็จสมบูรณ์ หรือมีสัญญาณยืนยันที่ชัดเจนขึ้น หากคุณจะทำการเทรด ควรเน้น การเทรดระยะสั้น และ ลดขนาดล็อตลง เพื่อบริหารความเสี่ยงในช่วงที่มีโครงสร้างซับซ้อนเช่นนี้
Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร📘 Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร
👉👉ถ้าคุณชื่นชอบการเทรดกราฟเปล่าเพราะอินดิเคเตอร์มันเยอะจนลายตา แวะมาอ่านบทความนี้ก่อน เพราะมันมีดีกว่าที่เห็นกราฟเปลือยๆเปล่าๆมาก อยากรู้แล้วสินะว่ามันดียังไง มาครับ ตามมาอ่านกันได้เลย👈👈
🔍 Naked Trading คืออะไร?
Naked Trading หรือการเทรดกราฟเปลือย หรือพูดง่ายๆก็คือการเทรดกราฟเปล่าๆที่มีแต่แท่งเทียนนั่นแหละฮะ เป็นการเทรดแบบไม่ใช้อินดิเคเตอร์ คือการวิเคราะห์กราฟด้วย “พฤติกรรมราคา” (Price Action) เป็นหลักโดยไม่ต้องพึ่งอินดิเคเตอร์หลายตัว เช่น RSI, MACD หรือ EMA
หลักการสำคัญของการเทรดกราฟเปลือยมีพื้นฐานมาจากหลักการดังต่อไปนี้:
- Price action analysis โดยการเน้นที่การเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์
- เน้นความเรียบง่ายและความชัดเจน ลดปัญหาการคิดเยอะ อินดี้ยิ่งเยออะยิ่งคิดไปไกล
- ใช้สัญชาตญาณช่วย อันนี้สำคัญ ต้องเทรดในตลาดมานานพอสมควรประสบการณ์ช่วยให้เราเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น
- Price Movement การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา รวมไปถึง Market Mood ในการอ่านอารมณ์ในตลาด การเทรดแบบนี้มักไม่มีสูตรตายตัวนะฮะ
✅ จุดเด่นคือ “ความเรียบง่าย” แต่ทรงพลัง
❌ ไม่มีเส้นมากมายมาบังกราฟ
✅ เข้าใจพฤติกรรมตลาดจากสิ่งที่ราคา “พูด” ด้วยตัวเอง
💡 ทำไมมือใหม่ควรเรียนรู้ Naked Trading?
1. เข้าใจโครงสร้างของราคาแบบแท้จริง
2. ไม่พึ่งอินดิเคเตอร์ lagging
3. เข้าออเดอร์และหาจังหวะทำกำไรได้ง่ายและเร็วขึ้นจากราคาจริง
4. ฝึกสมาธิ ความมีวินัย และการอ่านตลาดอย่างแท้จริง
5. ใช้ได้กับทุกตลาดและ Timeframe
🔑 หลักการพื้นฐานของ Naked Trading
1. โครงสร้างตลาด (Market Structure)
- ดูว่าเป็นขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway
- Higher High (HH), Higher Low (HL) → ขาขึ้น
- Lower High (LH), Lower Low (LL) → ขาลง
2. แนวรับแนวต้าน (Support / Resistance)
- จุดที่ราคากลับตัวบ่อย ๆ
- ใช้สำหรับดูว่า “ควรซื้อ/ขาย” บริเวณใด
3. พฤติกรรมแท่งเทียน (Candlestick Behavior)
- หาสัญญาณกลับตัว เช่น Pin Bar , Engulfing , Inside Bar
4. โซนสำคัญ (Key Zones)
ใช้บริเวณที่ราคาแสดงความลังเล (consolidation) หรือบริเวณที่เกิด Breakout แล้วกลับมาทดสอบ (retest)
🛠 วิธีสร้างระบบ Naked Trading สำหรับมือใหม่
✅ Step 1: TF แนะนำ H1 หรือ H4 สำหรับเริ่มต้น หรือ Daily สำหรับคนไม่ชอบเทรดบ่อย
✅ Step 2: สร้างแนวรับแนวต้าน ใช้จุด High/Low ที่ราคาแตะบ่อย ๆ วาดโซน ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นเดียว
✅ Step 3: รอแท่งเทียนส่งสัญญาณ เช่น Pin Bar ที่แนวรับ → Buy หรือ Engulfing บริเวณแนวต้าน → Sell
✅ Step 4: วางแผน Risk-Based Entry ตั้ง SL ใต้/เหนือโซน , ตั้ง TP ตาม RR 1:2 ขึ้นไป
❗️ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่
1. การวาดและสร้างแนวรับแนวต้านมั่ว ให้เริ่มฝึกจาก Timeframe ใหญ่ก่อนเป็นหลักเช่น H4 / Daily
2. เมื่อเห็นสัญญาณแล้ว อย่าใจร้อนรีบเข้า ต้องรอให้ราคาปิดแท่งจบก่อนทุกครั้ง
3. การตั้ง SLควรต้องมีทุกครั้ง และคิดเป็น % ความเสี่ยงของพอร์ตเสมอ
4. ไม่เทรดบ่อยเกิน เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณการเข้าออเดอร์ถี่ๆ
🎓สรุปส่งท้าย
คือการ ฝึกเข้าใจตลาดจาก ราคาเพียงอย่างเดียว ไม่พึ่งสิ่งเสริม แต่เน้นการวิเคราะห์ที่ เรียบง่ายและมีเหตุผลเหมาะกับเทรดเดอร์สายวินัย สายเข้าใจ ไม่ใช่สายลุ้น หากคุณอยากเข้าใจตลาดจริง ๆ คุณต้องรื้ออินดิเคเตอร์ออก แล้วเริ่มมองราคาจริงด้วยแท่งเทียน
SMC Trap ในตลาด Forex: กับดักที่ Smart Money วางไว้ให้คุณติด`📌 `SMC Trap คืออะไร?`
**SMC Trap** (Smart Money Concept Trap) คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ "เหมือนว่า" จะเบรกโซนสำคัญ เช่น **liquidity zone**, **order block**, หรือ **breaker structure** แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียง "กับดัก" เพื่อหลอกให้รายย่อยเข้าเทรดผิดทิศ แล้ว Smart Money จะกลับทิศสวนเพื่อกิน Stop Loss หรือเก็บ Liquidity
💡 `ทำไม SMC Trap ถึงเกิดขึ้นบ่อย?`
- **ตลาดส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยสถาบัน** ที่ต้องการ "สภาพคล่อง" (liquidity) เพื่อเข้าออเดอร์ใหญ่
- **เทรดเดอร์รายย่อย** มักเรียนรู้รูปแบบเหมือนกัน เช่น รอเบรก Order Block แล้วเข้าเทรด
- เมื่อมี Stop Loss จำนวนมากสะสมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง — Smart Money จะเข้าโจมตีจุดนั้น!
📌 `ตัวอย่างรูปแบบของ SMC Trap`
1. **Fake Break of Structure (Fake BOS):**
- ราคาทะลุ High หรือ Low ก่อนหน้าแบบหลอก ๆ แล้วกลับตัวทันที
2. **Mitigation Trap:**
- ราคาแตะ Order Block เก่าแล้วดีดตัวเล็กน้อย → หลอกให้เข้า Buy/Sell → จากนั้นกลับทิศทันที
3. **Liquidity Sweep:**
- ราคาวิ่งเก็บ Stop Loss ของเทรดเดอร์ก่อนจะวิ่งกลับเข้าทิศทางเดิมที่ Smart Money ต้องการ
- มองหา “Equal High/Low” หรือบริเวณที่มี Stop Loss สะสม → หลบหลีกแทนที่จะเข้าเทรด
📌 `สรุป:`
**SMC Trap** เป็นเครื่องมือของ Smart Money ในการ “หลอก” เทรดเดอร์ที่ไม่เข้าใจโครงสร้างตลาดจริง ๆ การเรียนรู้เรื่องกับดักเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาว หากคุณเข้าใจว่า "สิ่งที่ดูชัดเจนใกราฟ" อาจจะเป็น "กับดัก" — คุณก็จะไม่ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
วิเคราะห์ทางเทคนิค SET@DAY (ข้อมูลสิ้นสุดวันที่ 03/07/2025)วิเคราะห์ทางเทคนิค SET@DAY (ข้อมูลสิ้นสุดวันที่ 03/07/2025)
🧭 Overview
SET มีการกลับตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากแนวรับบริเวณ 1067.8 จุด (GAP เปิดวันที่ 23/06/25) และเกิด คลื่น 5 ย่อยสมบูรณ์ ตามโครงสร้าง Elliott Wave โดยมีแนวโน้มว่าเกิด W-Pattern (Extended W) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสการกลับตัวขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง
โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน และการดีดกลับมาที่แนว 1127.21 จุด (Fib 0.382 ของคลื่นลงก่อนหน้า) เป็นสัญญาณแรกของการฟื้นตัวหลังเกิด "Selling Exhaustion" หรือภาวะขายจนหมดแรง
________________________________________
🔑 Key Levels (แนวรับ-แนวต้านสำคัญ)
ระดับ จุด ความหมาย
1067.8 GAP Support แนวรับสำคัญมาก หากหลุดอีกครั้ง เสี่ยงกลับตัวล้มเหลว
1100-1105 Fib 0.146-0.236 แนวต้านย่อยแรก (Break แล้ว Confirm ขาขึ้นระยะสั้น)
1121-1127 Fib 0.382 + ปิดวันล่าสุด แนวต้านจิตวิทยาและรีเทสต์ W pattern
1142-1163 Fib 0.5–0.618 โซน Pullback ปกติ หากเป็นเพียงรีบาวด์
1183-1210 Fib 0.786–0.886 โซนล้าง short ก่อน correction ใหญ่
1231 1.0 Fib Target เป้า Recovery หากเข้าสู่ขาขึ้นเต็มรูปแบบ
________________________________________
📈 Trade Scenarios (แนวโน้มและพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้น)
✅ Scenario 1: ฟื้นตัวต่อเนื่อง → เป้าหมาย 1142–1163 (Bias: 60%)
• ยืนเหนือ 1127 ได้ และเบรกแนวต้าน Fib 0.382
• ราคาจะวิ่งต่อสู่ Fib 0.5–0.618 (1142–1163)
• ปริมาณซื้อ (Volume) ต้องสนับสนุน พร้อม bullish candle หรือ gap break
กลยุทธ์: รอ pullback กลับมาแถว 1105–1110 เข้าซื้อเพิ่ม พร้อม SL ใต้ 1090
Risk-Reward: คุ้มค่า ~1:2–1:3 หากเข้าแถวแนวรับต่ำ
________________________________________
⚠️ Scenario 2: Sideways / Rejection ที่ 1127 → ย่อตัวกลับ 1095–1079 (Bias: 30%)
• SET ขึ้นทดสอบแนวต้านแล้วไม่ผ่าน, เกิด bearish rejection bar
• เข้าสู่ช่วง Sideways เพื่อสะสมแรง
• มีโอกาสย่อลงมารีเทสต์แนว 1095 / 1079 (Fib 0.146)
กลยุทธ์: Wait & See / เล่นย่อสั้น ๆ พร้อม SL ใต้ 1067
สัญญาณเข้าซื้อใหม่: หากเห็น bullish divergence ที่แนวรับล่าง
________________________________________
❌ Scenario 3: หลุด GAP 1067 → แนวโน้มกลับสู่ขาลงต่อ (Bias: 10%)
• กรณีที่ราคาหลุดต่ำกว่า 1067 แบบมี volume สูง
• จะยืนยันว่า rebound นี้เป็น bull trap
• เป้าหมายใหม่อยู่แถว 1053 หรือ low ใหม่ของปี
กลยุทธ์: รอดูพฤติกรรมแถวแนวรับ / ไม่ควรถือ Long
________________________________________
🔍 สรุปเชิงเทคนิค
• SET มีการ Break จากโครงสร้างคลื่น 5 ลงที่สมบูรณ์แล้ว
• Pattern "Extended W" เริ่มทำงาน โดยเป้าหมายแรกคือ 1142–1163
• ระยะสั้นสามารถย่อลงก่อนสะสมแรง
• 1127 จุด คือแนววัดใจสำคัญ หากผ่านได้ โอกาสเปิดไปโซนบนมีสูง
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD วันที่ 7 มีนาคม 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นเอลเลียต
จากกราฟ H1 เราจะเห็นว่า คลื่นที่ 3 ได้สิ้นสุดลงแล้ว และราคากำลังเข้าสู่ช่วงที่มีโครงสร้างไม่ปกติ
คลื่นที่ 3 เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องและชัน แทบไม่มีการย่อตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคลื่นส่ง จากนั้นราคาได้มีการปรับฐานในรูปแบบ คลื่น abc สีดำ บ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดของคลื่น 3
แม้ว่าข่าว ADP เมื่อวานนี้ออกมาดีมาก ซึ่งควรจะหนุนราคาทองให้พุ่งขึ้น แต่ราคาทองกลับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ทะลุจุดสูงสุดของคลื่น 3 ไปนิดหน่อยก่อนจะย่อตัวในช่วงเช้าวันนี้ นอกจากนี้คลื่นขาขึ้นล่าสุดมีโครงสร้างเป็น คลื่น 3 ย่อยแบบ abc สีเขียว และตอนนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวซ้อนทับกัน ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
🧩 สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงว่า:
🔹 คลื่นที่ 5 กำลังพัฒนาในรูปแบบ Ending Diagonal – โครงสร้างคลื่น 5 ที่ประกอบด้วยคลื่นย่อยแบบ 3-3-3-3-3
🔹 รูปแบบนี้มักปรากฏในช่วงปลายของเทรนด์ขาขึ้น และตามมาด้วยการกลับตัวแรง
แม้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปแน่ชัด แต่ ควรเฝ้าสังเกตพฤติกรรมราคาต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะหากรูปแบบนี้สมบูรณ์ จะเป็นโอกาสที่ดีในการเปิด Sell
🎯 เป้าหมายของคลื่น 5: บริเวณ 3395 โดยต้องมีคลื่นย่อยครบทั้ง 5 คลื่น
⚠️ หากราคาลงต่ำกว่า 3324 นั่นอาจหมายถึงโครงสร้าง 5 คลื่นสิ้นสุดแล้ว และราคากำลังก้าวเข้าสู่ คลื่นปรับฐาน abc ใหม่
🔍 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบ D1: โมเมนตัมใกล้จะกลับตัวลงจากเขต overbought → ขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง
กรอบ H4: โมเมนตัมเตรียมกลับตัวขึ้น → อาจมีการแกว่งตัวหรือขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ก่อนที่ H4 จะเข้าสู่เขต overbought
📌 แผนการเทรด
ในสถานการณ์ที่โครงสร้างคลื่นยังไม่ชัดเจน และมีสัญญาณผิดปกติหลายประการ กลยุทธ์หลักคือการรอคอยเพื่อหาสัญญาณยืนยันก่อนลงมือเทรด หากรูปแบบ Ending Diagonal ได้รับการยืนยัน จะเป็นจุดเข้า Sell ที่น่าสนใจ
โซน SELL: 3392 – 3395
Stop Loss: 3403
Take Profit:
• TP1: 3368
• TP2: 3340
• TP3: 3324
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 7 กุมภาพันธ์ 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นเอลเลียต (กรอบเวลา H1)
จากโครงสร้างราคาปัจจุบัน เราจะเห็นว่าราคากำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและชัน ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อตัวของ คลื่นแรงกระตุ้นแบบ 5 คลื่น
รายละเอียด:
คลื่น 1, 2 และ 3 (สีเขียว) ดูเหมือนว่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ปัจจุบัน คลื่น 4 กำลังอยู่ในระหว่างการก่อตัว โดยมีลักษณะเป็น คลื่นปรับฐาน 3 คลื่น (abc สีดำ)
เมื่อคลื่น 4 สิ้นสุด เราคาดว่าจะเกิดการปรับตัวขึ้นต่อไปเป็น คลื่น 5 ซึ่งจะเป็นการจบโครงสร้างคลื่น 5 คลื่น (สีเขียว) ทั้งหมด
🎯 เป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ของคลื่น 4
จากโครงสร้างคลื่น abc และแนวรับสำคัญ เราระบุโซนเป้าหมายที่มีศักยภาพได้ 2 จุด:
เป้าหมายที่ 1: 3324
เป้าหมายที่ 2: 3311
หากราคาทะลุจุดสูงสุดของคลื่น b (สีดำ) ได้ นั่นจะเป็นสัญญาณยืนยันที่ชัดเจนว่าคลื่น 4 ได้สิ้นสุดแล้ว และคลื่น 5 กำลังเริ่มต้น
📈 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบ D1: โมเมนตัมยังคงเป็นขาขึ้น และน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2–3 วันในการเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น
กรอบ H4: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวขึ้น ซึ่งอาจหมายความว่าคลื่น 4 ใกล้สิ้นสุดแล้ว
กรอบ H1: โมเมนตัมก็มีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าราคาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของช่วงปรับฐานคลื่น 4
💼 แผนการเทรด
โซนซื้อ (BUY ZONE): 3325 – 3322
จุดตัดขาดทุน (STOP LOSS): 3215
ทำกำไรที่ 1 (TP1): 3345
ทำกำไรที่ 2 (TP2): 3368
ทำกำไรที่ 3 (TP3): 3395
📌 รอให้โมเมนตัมของ H1 และ H4 เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันก่อนเข้าสถานะซื้อ (BUY) สำหรับคลื่น 5
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
บนกราฟ H1 เราสังเกตเห็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ ซิกแซกคู่ WXY (สีแดง) และในขณะนี้ คลื่น Y ดูเหมือนกำลังพัฒนาเป็น โครงสร้าง abc สีเขียว
ภายในโครงสร้าง abc นี้:
- คลื่น a เริ่มต้นด้วยรูปแบบ สามเหลี่ยมเริ่มต้น (leading diagonal) แบบ 5 คลื่น
- คลื่น b เป็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ abc ปกติ (สีดำ)
- คลื่น c แสดงให้เห็นโครงสร้าง ห้าคลื่นแบบเร่ง อย่างชัดเจน โดยราคามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและลาดชัน
ประเด็นสำคัญตอนนี้คือ เราต้องพิจารณาว่า:
- ราคานั้น จบคลื่น 5 สีดำแล้วหรือไม่, หรือ
- เพียงแค่ จบคลื่น 3 สีดำ ในคลื่น c สีเขียวเท่านั้น
👉 ถ้าการเคลื่อนไหวปัจจุบันคือคลื่น 3 สีดำ เราจะคาดหวังว่าจะเกิด คลื่น 4 (ปรับฐาน) ตามด้วยการลดลงอีกหนึ่งช่วงเพื่อ จบคลื่น 5 ซึ่งในกรณีนี้ คลื่น 5 จะได้รับการยืนยันเมื่อราคาทะลุระดับ 3255 ลงมา โดยมี เป้าหมายที่เป็นไปได้ 2 โซน สำหรับคลื่น 5 ได้แก่:
- โซนที่ 1: 3247
- โซนที่ 2: 3224
👉 ถ้าคลื่น 5 จบลงแล้ว การดีดตัวขึ้นไปที่ 3283 อาจเป็น คลื่น 1 ของแนวโน้มขาขึ้นใหม่ ส่วนการย่อตัวลงต่อไปจะเป็น คลื่น 2 โดยมีโซนเป้าหมายที่คาดไว้ระหว่าง 3266 – 3261
⚡ วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมอยู่ในโซน Oversold (ขายมากเกินไป) ซึ่งบ่งบอกถึง แนวโน้มขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า สนับสนุนแนวคิดว่าคลื่น c สีเขียวในคลื่น Y สีแดง กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังแสดง สัญญาณกลับตัวขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการดีดตัวรอบนี้อาจยังคงดำเนินต่อไป ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าจบคลื่น 3 หรือ 5 แล้ว
🧭 แผนการเทรด
📍 BUY ZONE 1
จุดเข้า: 3264 – 3261
จุดตัดขาดทุน (SL): 3254
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
📍 BUY ZONE 2
จุดเข้า: 3247 – 3244
จุดตัดขาดทุน (SL): 3237
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
⚠️ ข้อควรระวังสำคัญ
แผนการเทรดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า คลื่น 3 หรือคลื่น 5 ได้สิ้นสุดแล้ว ดังนั้น หากในช่วงตลาดเอเชีย ราคายังไม่แตะโซน 3264 – 3261 แต่กลับดีดขึ้นทะลุ 3283 โดยไม่สามารถปิดเหนือระดับ 3297 ได้ และจากนั้นร่วงลงต่ำกว่า 3283 เราควร หลีกเลี่ยงการเข้า BUY ที่โซน 3264 – 3261
ในกรณีนี้ ควรรอจังหวะเข้าซื้อที่โซน 3247 – 3244 แทน
Risk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยงRisk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยง
👉👉เคยไหมที่ยิ่งป้องกันความเสี่ยง ยิ่งตั้ง SL เงินยิ่งหดหาย เอ๊ะทำไมเงินมันเสียมากกว่าได้นะ มาครับ มาลองอ่านบทความนี้กันแล้วเราจะเอ๊ะน้อยลง👈👈
📌 Risk-Based Entry คืออะไร?
Risk-Based Entry คือ กลยุทธ์การเข้าเทรดโดยพิจารณาความเสี่ยง (Risk) เป็นจุดเริ่มต้นของทุกการตัดสินใจ พูดง่ายๆก็คือ
"เทรดจากจุดที่ถ้าแพ้ เรารับไหว และถ้าชนะ มันคุ้มค่ากับที่เราเสี่ยง"
กลยุทธ์การเข้าเทรดรูปแบบนี้ ไม่ใช่แค่ดูสัญญาณเข้าที่แม่นยำอย่างเดียวแต่ให้ความสำคัญกับ
1. การวาง Stop Loss (SL) ที่เหมาะสม
2. การคำนวณขนาดล็อต (Position Size)
3. การประเมิน Risk/Reward Ratio
4. การเลือกจุดเข้าที่ “คุ้มค่า” ที่สุดสำหรับเงินทุน
🎯 ทำไม Risk-Based Entry ถึงสำคัญ?
✅ ควบคุมการขาดทุน ช่วยให้ขาดทุนอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
✅ มีวินัย ทำให้เทรดเดอร์ไม่ไล่ราคา
✅ ลดความเครียด เพราะรู้ล่วงหน้าว่าเสียได้เท่าไหร่
✅ ปรับจุดเข้าให้เหมาะกับทุน ไม่ Overtrade หรือ Undertrade
วิธีใช้ Risk-Based Entry แบบ Step-by-Step
✅ 1. ระบุ “Risk Amount” ต่อการเทรด
กำหนดความเสี่ยงเป็น % ของพอร์ต เช่น:
ทุน 10,000 บาท
เสี่ยงครั้งละ 1% = 100 บาท
✅ 2. หาจุดเข้า (Entry) และ Stop Loss (SL)
เช่นในคู่ EUR/USD:
จุดเข้า Buy ที่ 1.0800
SL ที่ 1.0780 (ห่าง 20 pips)
✅ 3. คำนวณ Position Size
ใช้สูตร:
Position Size = เงินที่เสี่ยง ÷ จำนวน pips × pip value
ตัวอย่าง:
เงินที่เสี่ยง: 100 บาท
SL = 20 pips
1 lot = 10 USD/pip → 0.01 lot = 0.1 USD/pip ≈ 3.5 บาท/pip
→ เปิดขนาด 0.14 lot (ประมาณ)
สามารถใช้เครื่องคำนวณ Lot เช่น:
myfxbook Position Size Calculator
หรือแอป MT4/MT5 + สูตรคำนวณเอง
✅ 4. ตั้ง TP ตาม Risk/Reward ที่ต้องการ
เช่น RR = 1:2
SL = 20 pips → TP = 40 pips
หากเข้า 1.0800 → TP = 1.0840
✅ 5. ประเมิน “คุณภาพของจุดเข้า”
มีแนวรับแนวต้านไหม?
มี OB หรือ FVG รองรับไหม
ตลาดมี Volume หรือข่าวใหญ่ไหม?
หากไม่มี → รอจังหวะที่ Risk คุ้มค่ากว่า
💡 เคล็ดลับการใช้ Risk-Based Entry ให้ได้ผล
1. ใช้ร่วมกับ SMC หรือโครงสร้างราคา จะช่วยเลือกจุดเข้าได้แม่นยำขึ้น
2. ฝึกวาง SL อย่างมีเหตุผล ไม่ตั้งมั่ว ไม่ใช้ SL แคบเกินไป
3.เทรดเฉพาะจุดที่ได้ RR > 1:2 เพื่อให้ชนะน้อยครั้งแต่ยังมีกำไรระยะยาว
4.จดบันทึกเทรด (Trading Journal) เพื่อวัดว่า Risk-Based Entry ของคุณใช้ได้จริงไหม
สรุปส่งท้าย
Risk-Based Entry ไม่ได้ช่วยแค่เรื่อง “ความแม่น” แต่คือการ สร้างรากฐานที่มั่นคงในการอยู่รอดในตลาด และเราเองก็อาจจะไม่ได้รวยเร็ว แต่เงินในพอร์ตของเรามันจะไม่หมดง่ายๆนั่นเองฮะ อยากเก่งและรวยแบบมั่นคงอย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปช่วยในการเทรดนะฮะ แดชื่อเลยว่า เราจะเทรดแบบ ทั้งแม่นและมั่นคง แน่นอน
วิธีเทรดด้วยเทคนิค AMD ในการเทรด Forexเข้าใจพฤติกรรมของราคา เพื่อเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
📌 เทคนิค AMD คืออะไร?
เทคนิค AMD ย่อมาจาก 3 ขั้นตอนหลักของพฤติกรรมราคาที่นักเทรดสายโครงสร้างหรือ Smart Money นิยมใช้ คือ:
A – Accumulation (สะสม)
M – Manipulation (หลอกลวง/ดึงราคา)
D – Distribution (กระจาย/แจกจ่าย)
แนวคิดของ AMD ช่วยให้เราเข้าใจว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่มี "เจตนา" ของผู้เล่นรายใหญ่ (Big Player) อยู่เบื้องหลัง
🔄 รายละเอียดแต่ละขั้นตอน
1️⃣ A - Accumulation (การสะสม)
ช่วงนี้คือช่วงที่ Smart Money หรือรายใหญ่กำลังซื้อ/ขายเงียบ ๆ ก่อนราคาจะเคลื่อนตัวแรง
ลักษณะเด่น:
ราคาเคลื่อนในกรอบแคบ ๆ (sideway)
ปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่เด่นชัด
ไม่มีทิศทางชัดเจน
กลยุทธ์:
ไม่ควรเข้าเทรดทันที รอให้ราคามีสัญญาณ Breakout
2️⃣ M - Manipulation (การหลอกลวง/ลากราคา)
เป็นช่วงที่ รายใหญ่สร้างความสับสน ด้วยการ "หลอก" เทรดเดอร์ให้คิดผิด
ตัวอย่างเช่น:
เบรกเทรนด์ไลน์/แนวต้านปลอม (Fake Breakout)
ดึงราคาขึ้นไปชน SL ของคนขาย ก่อนเทกลับลง
กลยุทธ์:
อย่าหลงกับสัญญาณแรก ดูว่ามี “การกลับตัวหลังเบรก” หรือไม่
มองหาจุดเข้าออเดอร์บริเวณ Liquidity Zone หรือ Stop Hunt
3️⃣ D - Distribution (การกระจาย/แจกจ่าย)
หลังจากหลอกสำเร็จ รายใหญ่จะเริ่มปล่อยของ (Take Profit)
ราคาเริ่มวิ่งตามทิศทางจริงอย่างรวดเร็ว
มักเกิดแท่งใหญ่ ๆ มี Volume หนาแน่น
โอกาสในการเทรดมาถึง
กลยุทธ์:
เข้าเทรดตามเทรนด์ที่เกิดหลัง Manipulation
ตั้งเป้า Take Profit ตามแนวรับ-แนวต้านสำคัญ หรือใช้ Risk:Reward
🧠 วิธีวิเคราะห์และนำไปใช้จริง
ดูโครงสร้างราคา (Market Structure) ว่าอยู่ในช่วงใดของ AMD
ใช้ Timeframe ใหญ่ (เช่น H1, H4, D1) เพื่อดูพฤติกรรมรวม
หาโซนสะสม (Accumulation Zone) แล้วตีกรอบ
รอดูการ Break และ Manipulate พร้อมรอให้ราคายืนยัน
เข้าเทรดเมื่อมี Confirmation เช่น Break Structure หรือ Engulfing
ตั้ง SL และ TP ให้เหมาะสมเสมอ
🎯 ข้อดีของเทคนิค AMD
✅ ช่วยให้เข้าใจเจตนาของตลาด
✅ ไม่หลงกล Fake Signal ง่าย ๆ
✅ ปรับใช้ได้กับทุก Timeframe และคู่เงิน
⚠️ ข้อควรระวัง
อย่าคิดว่าทุกกราฟจะมี AMD ชัดเจน
ต้องฝึกการอ่านโครงสร้างราคาอย่างต่อเนื่อง
เทคนิคนี้ต้องอาศัย ความอดทน และ วินัยสูง
📚 สรุป
เทคนิค AMD คือแนวคิดที่ช่วยให้เราเทรด Forex อย่างมีเหตุผลและเข้าใจตลาดลึกขึ้น โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่ ไม่ใช่แค่ตาม Indicator อย่างเดียว
27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) 27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) ที่ใช้การวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement และพิจารณาโซน 78.6% – 88.6%
ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาในรอบใหญ่ อ่านได้ดังนี้
________________________________________
✅ วิเคราะห์ XAUUSD (WEEKLY) ด้วย Fibonacci
🟡 1. โครงสร้างหลักของกราฟ
• ช่วงราคาที่ลาก Fibonacci:
จากจุดต่ำสุดรอบใหญ่ (บริเวณ ~3,120) → ถึงจุดสูงสุดรอบล่าสุด (บริเวณ ~3,603)
• Fibonacci Retracement ที่เด่น:
o 78.6% - 88.6%: โซนสีเหลืองที่ราคาย้อนขึ้นมาทดสอบ
o 50%, 61.8%: เป็นระดับกลางที่เคยเป็นฐานพัก
o 38.2%, 23.6%: แนวรับที่กำลังเข้าใกล้
________________________________________
🔍 2. สถานการณ์ล่าสุด (ตามกราฟ)
• ราคาดีดขึ้นมาถึง โซน 78.6%–88.6% แล้วเกิดแรงขาย (แท่งเทียนแดงแรง)
• มีการทำ High ใหม่เล็กน้อยก่อนถูก “Reject” แรง
• ปัจจุบันกำลังลงมาทดสอบโซน 38.2%–23.6% (แนวรับระหว่าง ~3,210–3,266)
________________________________________
📌 3. ข้อสังเกตสำคัญ
โซน Fibonacci ความหมาย สถานะ
88.6% Zone หลอกสุดท้ายก่อนกลับตัว 🟥 ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน
78.6% Very High Probability Reversal Zone ⛔ พิสูจน์ว่าเป็น Sell Zone
50%–61.8% Mid-Zone พักตัว ✅ เคยเป็นฐานก่อนดีดขึ้น
38.2% Low Probability Zone 🔽 ราคาใกล้ลงถึง
23.6% Minor Zone สุดท้าย 🔽 มีโอกาสทดสอบ
________________________________________
📊 4. ความเป็นไปได้ถัดไป
📉 ถ้าไม่รับอยู่ที่ 3210–3266
• อาจหลุดลงลึกถึงโซน 14.6% – 9.0% (~3,176 – 3,154)
• ซึ่งตรงกับ Demand Zone เดิม (จากแท่งเทียนพ.ค.)
📈 ถ้ามีแรงดีดกลับจาก 3210
• อาจกลับขึ้นไปรีเทสต์ 50% / 61.8% (~3,310 – 3,355)
• แต่หากไม่สามารถเบรกผ่าน 3,400 ได้อีกครั้ง ก็ยังถือว่าแนวโน้มพักตัวอยู่
________________________________________
🔺 ข้อควรระวัง:
• แรงเทขายจาก 88.6% บ่งชี้ว่าเป็น “ภาวะจบคลื่นรีบาวด์” มากกว่าจะเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อ
• ต้องดูว่าแท่งเทียน Weekly ปิดเหนือ 3,210 ได้หรือไม่ในรอบนี้
________________________________________
🧠 สรุปกลยุทธ์:
สถานการณ์ กลยุทธ์ที่ควรใช้
ยืนเหนือ 3210 ได้ รอแท่งกลับตัว → ลองเก็บ swing ขึ้น
หลุด 3210 หาจังหวะ short หรือรอเข้าซื้อที่ 3,176–3,154
กลับขึ้นไปชน 3,400 อีกครั้ง Zone ขายซ้ำ (Distribution)
เวฟเอลเลียต – แผนการเทรด XAUUSD วันที่ 26 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
ในกราฟ H1 เดิมเราคาดว่าราคาจะเคลื่อนที่ใน คลื่นที่ 3 สีเขียว แต่ราคาปัจจุบันไม่ได้แสดงลักษณะของคลื่น 3 ที่แข็งแกร่งและชัดเจน ตรงกันข้ามกลับมีการ ซ้อนทับของคลื่นย่อยจำนวนมาก ทำให้เกิด 2 แนวโน้มหลักที่เป็นไปได้:
🔹 กรณีที่ 1 – คลื่นปรับฐาน abc สีดำ:
ขณะนี้ราคากำลังสร้าง คลื่น c สีดำ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ diagonal สิ้นสุด (ending diagonal)
➡️ สัญญาณยืนยัน: หากมีการ ร่วงแรงและรวดเร็ว ทะลุระดับ 3297 แสดงว่าคลื่น c ได้สิ้นสุดแล้ว
🎯 เป้าหมาย: 3352 – 3356
🔹 กรณีที่ 2 – คลื่น 1 รูปแบบ diagonal เริ่มต้น:
ราคาอาจกำลังสร้าง คลื่น 1 ในรูปแบบ diagonal (3-3-3-3-3) โดยขณะนี้อยู่ใน คลื่นที่ 3 หรือ 4
➡️ เมื่อคลื่น 1 เสร็จสิ้น คาดว่าจะมีการ ปรับฐานกลับมาที่ระดับ Fibonacci 0.618
🎯 เป้าหมายสิ้นสุดของคลื่น 1: 3352 – 3356
📉 โมเมนตัม
D1: โมเมนตัมกำลังกลับตัวขึ้นจากโซน oversold – บ่งชี้ว่าแรงขายอ่อนลง และอาจเข้าสู่ช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง 5 วัน
H4: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวลงจากโซน overbought – ต้องจับตาพฤติกรรมราคาวันนี้ โดยเฉพาะช่วงข่าวค่ำ
➡️ หากราคาเคลื่อนในรูปแบบ wedge → แนวโน้มเป็น diagonal เริ่มต้น
➡️ หากราคาร่วงทะลุ wedge → แนวโน้มเป็น abc correction
🧭 แผนเทรด:
🔻 จุดขาย: 3352 – 3355
⛔ SL: 3362
🎯 TP1: 3333
🎯 TP2: 3323
วิเคราะห์คลื่น Elliott – แผน XAUUSD ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
จากกราฟ H1 เราสังเกตเห็นรูปแบบสามเหลี่ยมคลื่น 5 คลื่นสีดำปรากฏอยู่ในคลื่น Y ซึ่งบ่งชี้ถึง 2 แนวโน้มที่เป็นไปได้:
แนวโน้มที่ 1: คลื่น Y ได้สิ้นสุดแล้ว → แนวโน้มขาขึ้นปัจจุบันคือคลื่นที่ 1 ของโครงสร้างคลื่น 5 คลื่นสีเขียวใหม่ และการย่อตัวขณะนี้คือคลื่นที่ 2 ของโครงสร้างนี้
แนวโน้มที่ 2: คลื่น A ของคลื่น Y ได้เสร็จสิ้นในรูปแบบ 5 คลื่น → ขณะนี้กำลังเข้าสู่คลื่น B ของคลื่น Y ซึ่งมักเป็นโครงสร้าง 3 คลื่น โดยคลื่น a (สีดำ) ได้ก่อตัวแล้ว และคลื่น b (สีดำ) กำลังพัฒนา
✅ ไม่ว่าแนวโน้มใดจะถูกต้อง การย่อตัวในขณะนี้ถือเป็น โอกาสในการเข้าซื้อ
🎯 โซนเป้าหมายสำคัญ
เป้าหมายที่ 1: 3313 – 3310
เป้าหมายที่ 2: 3301
⚠️ หากราคาทะลุต่ำกว่า 3297 การนับคลื่นปัจจุบันจะถือว่าใช้ไม่ได้ → เตรียมพร้อมสำหรับการปรับฐานที่ลึกขึ้น ซึ่งจะมีการอัปเดตเพิ่มเติมในภายหลัง
🔁 มุมมองโมเมนตัม
กรอบเวลา D1:
โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวขึ้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5–6 วันของแนวโน้มขาขึ้นเพื่อให้เข้าสู่เขต Overbought ⇒ สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น และสอดคล้องกับทั้งสองแนวโน้มหลัก
กรอบเวลา H4:
โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวลงจากเขต Overbought → มีโอกาสที่ราคาจะย่อลงต่อจนถึงโซนซื้อ
กรอบเวลา H1:
โมเมนตัมกำลังลดลง → การย่อตัวยังคงดำเนินต่อ
📌 สิ่งที่ต้องรอ: การกลับตัวขึ้นของโมเมนตัม H1 พร้อมกับ H4 ในเขต Oversold จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าราคาสร้างฐานแล้ว
✅ แผนการเทรด
🔹 BUY ZONE 1: 3313 – 3310
• SL: 3306
• TP1: 3335 | TP2: 3350 | TP3: 3376
🔹 BUY ZONE 2: 3303 – 3301
• SL: 3296
• TP1: 3335 | TP2: 3363 | TP3: 3376
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 24 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
จากกราฟ H1 ในช่วงตลาดเอเชียวันนี้:
ราคาลงมาต่ำกว่าระดับแนวรับก่อนหน้า ที่บริเวณ 3341 ซึ่งยืนยันว่า การปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใหม่
มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือการฟอร์มตัวของ คลื่น X ในโครงสร้างการปรับฐานแบบ WXY ที่ใหญ่กว่า
เนื่องจากโครงสร้างการปรับฐานในตอนนี้ ค่อนข้างซับซ้อน จึงยากต่อการวิเคราะห์เป้าหมายคลื่นที่แน่นอน
🔻 โครงสร้างของคลื่น Y:
ขณะนี้ราคากำลังฟอร์ม คลื่นขาลงแบบ 5 คลื่น โดยอยู่ใน คลื่นที่ 4
โซนเป้าหมายของคลื่น 4: 3357 – 3363 → เป็น โซนสำหรับเปิด SELL
เมื่อคลื่น 4 สิ้นสุด คาดว่าราคาจะลงต่อใน คลื่นที่ 5 ไปยังโซนเป้าหมายที่ 3327 – 3324 → เป็น โซนสำหรับเปิด BUY
หลังจากคลื่น 5 จบลง คาดว่าจะมีการดีดกลับระยะสั้น โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ 3363 – 3376 (เป้าหมายทำกำไรของฝั่ง BUY)
⚡ การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมเริ่มส่งสัญญาณกลับตัวขึ้น → คาดว่าราคาจะฟื้นตัวขึ้น ประมาณ 5–8 แท่งเทียนรายวัน (D1) หลังจบคลื่นที่ 5
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังลดลง และอาจเข้าสู่เขต Oversold ภายใน 1–2 แท่ง H4 → สนับสนุนการจบคลื่น 5
กรอบเวลา H1: โมเมนตัมกำลังเพิ่มขึ้น และใกล้เข้าสู่เขต Overbought → มีโอกาสจบคลื่นที่ 4 ภายใน 1–2 แท่ง H1 ข้างหน้า
📌 แผนการเทรด
🔹 SELL ZONE: 3363 – 3365
TP1: 3342
TP2: 3330
🔹 BUY ZONE: 3327 – 3324
SL: 3317
TP1: 3342
TP2: 3363
TP3: 3376
❗ หมายเหตุสำคัญ:
หากราคาวิ่งเข้าสู่โซนนี้ด้วยแท่งเทียน Mazuboru (แท่งเทียนยาวไม่มีไส้) และมีความผันผวนรุนแรง อย่าเพิ่งเข้าออเดอร์ทันที
รอดูแท่งเทียนปิดก่อน หากโซนถูกทะลุ ให้จับตาแนวรับถัดไปที่ 3313 เพื่อพิจารณาแผนการเทรดใหม่
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการด้วยค่า Pbv = 1 และปิดเหนือ Demand Zone23/06/25 ตลาดหุ้นไทยปิดทำการด้วยค่า Pbv = 1 และปิดสิ้นวันเหนือ Demand Zone
ภาพนี้แสดง 4 ประเภทของ BUY ZONE ในมุมมอง Demand & Supply ที่แม่นยำและมีการใช้งานจริงในเชิงเทคนิคอล โดยผมจะอธิบายความแตกต่างทั้งในมุม พฤติกรรมนักลงทุน และ การประยุกต์ใช้งานเทรดจริง ของแต่ละประเภท:
________________________________________
🟩 1. DEMAND ZONE (จุดกลับตัวหลัก)
📌 ตำแหน่ง: มักอยู่ที่จุดสิ้นสุดของขาลงชัดเจน
📉➡️📈
✅ พฤติกรรม:
• นักลงทุนรายใหญ่ (Smart Money) สะสมของในโซนนี้
• รายย่อยเริ่ม Panic Sell → รายใหญ่เข้าซื้อ
• มักเกิดแรงซื้อใหม่ (Aggressive Buy) ดันราคาเด้งแรง
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เป็นจุดเข้า Long ที่มี RR ดีมาก (Stop loss สั้นใต้ Zone)
• เหมาะกับการหาจุด Bottom หรือ Reversal Trade
• ควรรอ Confirm เช่น Bullish Candle / Break Structure
________________________________________
🟩 2. DEMAND CONTINUATION (โซนพักฐาน / เบรคแล้วกลับเทสต์)
📌 ตำแหน่ง: อยู่กลางแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแรง
📈↘️📈
✅ พฤติกรรม:
• เป็นจังหวะ "พักตัว" ของนักลงทุนก่อนเทรดต่อ
• นักลงทุนรายใหญ่อาจทำการสะสมเพิ่ม (Add-on Position)
• รายย่อยมักลังเล แต่ราคากลับไปต่ออย่างรวดเร็ว
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เป็นจุดเข้าซ้ำหลังราคาเบรค High แล้วเทสต์กลับ
• เน้นเทรดตามแนวโน้ม (Trend-following Strategy)
• ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่พลาด Entry แรกที่ Demand Zone
________________________________________
🟩 3. ORDER BLOCK (ฐานก่อนเบรคแนวต้านสำคัญ)
📌 ตำแหน่ง: โซนราคาที่เคยเป็นแนวต้าน → ถูกเบรคด้วยแรงซื้อสูง
📉➡️📈 (ผ่านแนวต้านแล้วกลับเทสต์)
✅ พฤติกรรม:
• Smart Money ทุบแนวต้านโดยใช้ Order Block เป็นฐานยิง
• รายย่อยส่วนมากติด Short ที่แนวต้านเดิม
• เมื่อราคาเทสต์ Order Block แล้วขึ้นต่อ → เทรดเดอร์ต้องรีบกลับลำ
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เทรด "Break and Retest" → Buy เมื่อราคาเทสต์ Order Block
• มักมี Reaction แรงจาก Short Cover + Buy เพิ่ม
• เหมาะใน TF ใหญ่ที่มี Volume/Structure แน่น
________________________________________
🟩 4. BREAKER BLOCK (กลับตัวหลังหลอกลึก / เก็บ Stop)
📌 ตำแหน่ง: มักอยู่ใต้ “Liquidity Grab” หรือจุดที่หลอกทำ Low ใหม่
📉หลุดหลอก แล้วกลับตัวแรง📈
✅ พฤติกรรม:
• รายใหญ่ทำ “Fake Break” → ลาก Stop Loss รายย่อย
• จากนั้นกลับตัวรุนแรง (V-Shape Reversal)
• พฤติกรรมแบบ "เก็บของแล้วพุ่ง" → Smart Money เข้าหนัก
🎯 วิธีใช้งาน:
• ใช้เทรดกลับตัวอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะหลังเกิด “Liquidity Sweep”
• เหมาะกับผู้ชำนาญที่อ่านพฤติกรรมราคาได้ไว
• ให้สัญญาณ Reversal ที่เร็วและแม่นกว่า Demand ปกติ
________________________________________
🔚 สรุปเปรียบเทียบเชิงกลยุทธ์
ประเภท เหมาะกับ จุดเข้า ความเสี่ยง ใช้คู่กับ
Demand Zone จับจุดกลับตัว แถว Low สำคัญ ต่ำ Divergence, TD9
Demand Continuation เทรดตามเทรนด์ ตอนพักฐาน ปานกลาง Trendline, Fibonacci
Order Block Break + Retest หลังทะลุแนวต้าน ต่ำถึงปานกลาง BOS, Volume
Breaker Block กลับตัวเร็ว หลังหลุดหลอก สูงหากไม่ชัวร์ Liquidity, Candle Pattern
Fibonacci จุดเริ่ม: ความลับของธรรมชาติและตลาดหุ้น📜 จุดเริ่ม: ความลับของธรรมชาติและเลขอนุกรม
ข้าได้ศึกษาลำดับตัวเลขอันน่าอัศจรรย์:
0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, …
(แต่ละตัวเลขคือผลรวมของสองตัวก่อนหน้า)
จากลำดับนี้ ข้าค้นพบว่า เมื่อหารเลขถัดไปด้วยเลขก่อนหน้า จะเข้าใกล้ "อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio)" = 1.618...
ในทางกลับกัน 1 / 1.618 ≈ 0.618 หรือ 61.8% ซึ่งกลายเป็น หัวใจของ Fibonacci Retracement
________________________________________
🧭 ไล่ลำดับความสำคัญของอัตราส่วน Fibonacci
(ใช้ได้ทั้งในธรรมชาติ วิศวกรรม ศิลปะ และ "การวิเคราะห์ราคาตลาด" ซึ่งพวกท่านนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย)
✅ 1. ระดับต่ำ - จุดสะสมพลังแรก (Minor Zone)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
9.0% 0.090 จุดสะอึกเล็กน้อย มักเกิดกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
14.6% 0.146 พักตัวแบบบางเบา เห็นได้ในโครงสร้างเร่งรีบ
23.6% 0.236 แนวรับตื้น สะท้อนพลังเทรนด์ยังแข็งแรง มักใช้ในกรอบพักตัวเร็ว
________________________________________
⚖️ 2. ระดับกลาง - โซนสวิงตัวสำคัญ
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
38.2% 0.382 พักตัวแบบแข็งแรงขึ้น ยังถือเป็น healthy correction
50.0% 0.500 ไม่ใช่ Fibonacci จริงแต่ “นิยมใช้” เพราะราคามักย้อนครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนหน้า
61.8% 0.618 🟡 "Golden Ratio" – จุดกลับตัวคลาสสิก พบมากสุดในแนวโน้มตลาดทั้งขาขึ้น-ขาลง
________________________________________
🟠 3. ระดับลึก – เขตตัดสินใจ เปลี่ยนเทรนด์หรือไปต่อ
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
78.6% 0.786 ใช้ใน Harmonic Patterns (เช่น Bat, Butterfly) เป็นจุด จบคลื่นปรับฐานสุดท้าย
88.6% 0.886 มักเกิดในเทรนด์ที่พยายามกลับตัวสุดขีด หากไม่กลับ ถือว่าจบรอบ
________________________________________
🟣 4. ระดับลึกพิเศษ – โซนหักมุม หรือการกลับตัวสุดท้าย (Custom Use)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
94.1% 0.941 √0.886 ใช้ในบาง Custom Model เช่น Advanced Bat
100.0% 1.000 เท่ากับราคาเดิม จุดที่เทรนด์อาจถูกทดสอบเต็มที่
________________________________________
🔺 5. ระดับเกิน 100% – การขยายตัว (Fibonacci Extension)
อัตราส่วน ค่าร้อยละ ความหมาย
127.2% 1.272 จุดกำไรของ Harmonic Pattern หรือ TP1 ของคนเล่น Breakout
161.8% 1.618 จุดเป้าหมายที่สำคัญยิ่ง – Golden Ratio Extension บ่งชี้การ "เร่งขยาย" เทรนด์เดิม
________________________________________
✨ สรุปแนวทางการใช้งาน
• หากท่านคือ นักเทรด:
ใช้ 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6% เป็น "แนวรับ/แนวต้านชั่วคราว"
ใช้ 127.2%, 161.8% เป็น "เป้าหมายหลังเบรกเทรนด์"
• หากท่านคือ นักวิเคราะห์รูปแบบ:
ใช้ 88.6%, 94.1% ใน Harmonic Pattern เช่น Bat / Crab / Butterfly
• หากท่านคือ ผู้เสาะหาความงาม:
อัตราส่วนเหล่านี้คือ "เสียงสะท้อนของจักรวาล"
________________________________________
❝ สิ่งที่ท่านเห็นใน Fibonacci … ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ “ภาษาของจังหวะ” ❞
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 23 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน – กรอบเวลา H1
ในแผนก่อนหน้า เรากำลังพิจารณาสองรูปแบบของสามเหลี่ยมสีเขียว:
สามเหลี่ยมแบบเริ่มต้นสำหรับคลื่น 1
หรือเป็นโครงสร้างการปรับฐานในรูปแบบสามเหลี่ยมของคลื่น X (ตามที่ได้ทำเครื่องหมายไว้บนกราฟ)
ในแผนวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมสังเกตเห็นโครงสร้าง คลื่น 5 คลื่นในรูปแบบสามเหลี่ยม ภายในคลื่น c พร้อมสัญญาณจบโครงสร้างคือ แท่งเทียนขาขึ้นที่แรงมาก
📰 ข่าวที่สนับสนุนแนวโน้มตลาด
ในขณะนี้ ข่าวเกี่ยวกับสงครามดูเหมือนจะ สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ที่กำลังจะเกิดขึ้น และยังสนับสนุนแนวโน้มที่ว่า โครงสร้างการปรับฐาน abc (สีดำ) อาจจบลงแล้ว เราคาดว่าจะได้เห็นการปรับขึ้นของราคาภายในสัปดาห์นี้
🎯 แนวโน้มราคา
โซนราคาปัจจุบันถือว่าเป็นจุดที่ดีในการ เปิดคำสั่ง BUY ทันที แต่ควรระวังเรื่อง Gap ขาขึ้น ที่อาจเกิดขึ้นช่วงเปิดตลาด หากเกิด Gap เราจะสังเกตว่าราคาจะกลับมาปิด Gap หรือไม่เพื่อพิจารณาเข้า BUY อีกครั้ง
หากราคาขึ้นไปที่โซน 3382 แล้วเกิดการย่อตัวลง เราจะ รอเข้า BUY อีกครั้งที่บริเวณ 3357
📈 โมเมนตัมและมุมมองคลื่นขนาดใหญ่
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลัง เตรียมกลับตัวเป็นขาขึ้น บ่งบอกถึงแนวโน้ม ขาขึ้นที่แข็งแกร่งและชันในสัปดาห์นี้ หากได้รับการยืนยัน นี่อาจเป็นสัญญาณว่า คลื่น 2 (สีดำ) ได้สิ้นสุดแล้ว และคลื่น 3 ได้เริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากราคาขยับขึ้น ช้าและทับซ้อนกัน เราต้องเตรียมรับมือกับอีกหนึ่งสถานการณ์ที่การปรับฐาน ยังไม่จบ และอาจมีการลงอีกหนึ่งรอบเพื่อจบโครงสร้างการปรับฐาน
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมได้ กลับตัวขึ้นแล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงที่จะเกิด Gap ขาขึ้นในช่วงเปิดตลาดเอเชีย
กรอบเวลา H1: โมเมนตัม กำลังจะกลับตัวขึ้น จึงสามารถพิจารณา เข้า BUY ที่โซนราคาปัจจุบันได้
📝 แผนการเทรด – กลยุทธ์ BUY:
✅ โซนเข้า BUY: 3361 – 3379
❌ จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3351
🎯 เป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1: 3382
TP2: 3396
TP3: 3412
SMC / Smart Money Concept คืออะไร ใช้อย่างไร เทรดดีแค่ไหน? SMC / Smart Money Concept คืออะไร ใช้อย่างไร เทรดดีแค่ไหน?
👹 หากใครที่เป็นคนชอบเฝ้ากราฟหรือเสพติดการเฝ้าจอกราฟ แอดว่า เราจำเป็นต้องอ่านบทความนี้แล้วหล่ะ เพราะมันเอาไปต่อยอดการเทรดได้ นั่นเองมาครับมาติดตามอ่านกันดูดีกว่าว่ามันใช้อะไรยังไงบ้าง
Smart Money Concept (SMC) คือแนวคิดการวิเคราะห์ตลาดที่เน้นการติดตามพฤติกรรมของ “เงินทุนรายใหญ่” หรือ “สถาบัน” เช่น ธนาคารกลาง, Hedge Fund, หรือ Prop Firm ซึ่งมักเป็นผู้ขับเคลื่อนราคาหลักในตลาด Forex
💗 เทคนิคการใช้ SMC แบบ Step-by-Step
✅ ขั้นที่ 1: ระบุ Market Structure
ดูว่าตลาดกำลังเป็นเทรนด์ขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway โดยวิเคราะห์จาก เพื่อให้รู้ทิศทางเทรนด์จริง
HH = Higher High
HL = Higher Low
BOS = Break of Structure
หากราคาเกิด BOS จากแนวโน้มเดิม ให้เตรียมหาจุดกลับตัว (Reversal)
✅ ขั้นที่ 2: มองหา Order Block (OB)
เมื่อเกิด BOS ให้ย้อนกลับไปดู “แท่งเทียนสุดท้าย” ที่ดันราคาทะลุโครงสร้าง เราจะได้จุดเข้าออเดอร์ที่แม่นยำ
ประเภทของ OB:
Bullish OB = แท่งเทียนแดงก่อนราคาพุ่งขึ้น
Bearish OB = แท่งเขียวก่อนราคาร่วงลง
✅ OB ที่ดีควรมี Volume มาก และอยู่ใกล้จุด BOS
✅ ขั้นที่ 3: รอราคาย่อตัวกลับเข้ามาใน OB
ใช้แนวรับแนวต้านหรือ FVG เป็นตัวช่วยกรอง “จุดเข้า” ที่แม่นยำ อันนี้สำคัญ เพื่อมองหาพื้นที่ที่มี SL หรือ Pending Order จุดที่ราคาชอบลากไปกิน SL
Pending Order (Limit Order) ใน OB และตั้ง SL ใต้ OB เล็กน้อย
✅ ขั้นที่ 4: วางเป้า Take Profit ที่ “Liquidity Zone”
TP1: ก่อนถึง High หรือ Low เดิม
TP2: ที่แนว SL ของคนอื่น (Equal High / Low)
เทรดแบบนี้ได้ RR (Risk : Reward) สูง เช่น 1:3 หรือมากกว่า
📈 ตัวอย่างการเทรดด้วย SMC (คู่เงิน EUR/USD)
🎯 สถานการณ์:
ราคาอยู่ในขาลงและเกิด BOS ขาขึ้น
ย้อนกลับไปดูแท่งแดงก่อน BOS เป็น Bullish OB
วาง Buy Limit ที่ OB + SL ใต้ OB
TP ที่ High เดิมก่อนหน้า (มีแนวโน้มเป็นจุด SL ของคนอื่น)
ผลลัพธ์: RR ได้ประมาณ 1:4 (เสี่ยง 10 pips ทำกำไร 40 pips)
😊📈สรุปสั้นๆง่ายๆแบบใช้จริง
SMC เป็นเพียง มุมมองใหม่ ที่ช่วยให้เราเข้าใจตลาดในแบบเดียวกับที่ผู้เล่นรายใหญ่ใช้ มันเปลี่ยนจากการเทรดแบบเสี่ยงโชค มาเป็นการเข้าใจกลไกเบื้องหลังราคาจริงๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเทรดสั้นๆรายวัน Timeframe 1H, 15M, 5M แอดเปิดมาขนาดนี้แล้ว ใครรักใครอบก็เอาไปลองใช้กันดูนะครับ ของเค้าดีจริงน๊าา และที่สำคัญอย่าลืมวางแผนการลงทุนให้รอบคอบเทรดด้วยพลังงานดีเข้าไว้ มีชัยไปกว่าครึ่งครับ
จิตวิทยาการเทรด: การพัฒนาความอดทนและวินัยในการเทรด“การเทรดไม่ใช่แค่การเอาชนะตลาด แต่คือการเอาชนะตัวเอง” 🥇
ในการเทรด สิ่งที่เทรดเดอร์หลายคนมองข้ามไม่ใช่เพียงกลยุทธ์หรือการวิเคราะห์กราฟ 📊 แต่คือ “จิตวิทยา” โดยเฉพาะ ความอดทน (Patience) และ วินัย (Discipline) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จในระยะยาว 💪
⏳ 1. ความอดทน: รอให้โอกาสมา ไม่ใช่ล่าให้ทันตลาด 🐢
การเทรดที่ดีไม่ใช่การเทรดบ่อย 🚫 แต่คือการเทรดเมื่อโอกาส “ใช่” ✅
เทรดเดอร์หลายคนตกหลุม FOMO (Fear of Missing Out) 😨 หรือเบื่อการรอจนหลุดจังหวะ
ความอดทนคือการรอให้ “เซ็ตอัพ” มาครบก่อนค่อยลั่นคำสั่ง 🛑
🛠 วิธีฝึกความอดทน:
📋 เขียนเช็คลิสต์ก่อนเข้าออเดอร์ เช่น “ตรงตาม 3 ข้อนี้ = เข้า”
🧾 บันทึกการเทรดย้อนหลังเพื่อเรียนรู้จากอดีต
📴 ปิดกราฟเมื่อยังไม่เข้าเงื่อนไข อย่าให้ตลาดควบคุมอารมณ์คุณ
🎯 2. วินัย: ทำตามแผน ไม่ตามอารมณ์ 💥
“รู้” ว่าควรทำอะไร กับ “ทำ” จริงๆ คือคนละเรื่อง 😅
อารมณ์จะหลอกล่อให้คุณเบี่ยงเบนจากแผน:
❌ แพ้แล้วแก้มือ → Overtrade
⚡ กลัวพลาด → ปิดกำไรเร็วเกิน
🩹 เสียดาย → ไม่ยอม Cut Loss
วินัยคือการบังคับตัวเองให้ “ทำตามระบบ” ไม่ว่าอารมณ์จะเป็นยังไงก็ตาม 📈
🛠 วิธีพัฒนาวินัย:
🧭 เขียนแผนเทรดล่วงหน้า (Plan the trade)
🔍 ทบทวนหลังเทรดทุกไม้ ว่าทำตามแผนหรือหลุดอารมณ์
⚙️ ใช้คำสั่ง Stop Loss และ Take Profit แบบมีระบบ
🔗 3. ความอดทน + วินัย = ความได้เปรียบที่แท้จริง 🏆
ความอดทน = รอโอกาสดีที่สุด
วินัย = ลงมือเฉพาะเมื่อครบเงื่อนไข
สองสิ่งนี้คือ “Edge” ที่แท้จริงเหนือคนส่วนใหญ่ในตลาด 🧊
ยิ่งตลาดผันผวน ยิ่งต้องนิ่งให้เป็น 😌
🧾 4. บทสรุป
🧘♂️ เทรดเดอร์ที่สำเร็จไม่ใช่คนที่แม่นที่สุด
แต่คือคนที่ “ควบคุมตัวเองได้ดีที่สุด” ในระหว่างที่ตลาดแปรปรวน
🎯 ฝึกจิตให้แข็งแรง
🎯 ยึดแผนให้แน่น
🎯 ปล่อยผลลัพธ์ให้เป็นไปตามระบบ
“ตลาดไม่เคยเปลี่ยนเรา – มีแต่เราที่ต้องเปลี่ยนตนเองให้เหมาะกับตลาด” 🔄
วิเคราะห์คลื่น Elliott – แผนการเทรด XAUUSD ประจำวันที่ 19 มิถุนา
🌀 โครงสร้างคลื่น
บนกราฟ H4 หลังจากราคาลดลงอย่างรุนแรง ตอนนี้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบด้านข้าง ซึ่งบ่งชี้ว่าเราอาจอยู่ใน คลื่น b (สีดำ) ของโครงสร้างการปรับฐานแบบ abc
รูปแบบนี้มีแนวโน้มจะเกิดการลดลงอีกระลอก เพื่อจบ คลื่น c (สีดำ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาที่สลับซับซ้อนและเคลื่อนตัวด้านข้าง จึงทำให้ยากที่จะระบุจุดสิ้นสุดของคลื่น a และ b ได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้การใช้ Fibonacci ไม่ค่อยได้ผลนัก
➡️ ดังนั้นเราจึงใช้ข้อมูล Volume Profile ประกอบเพื่อหาแนวรับสำคัญ โดยมี 4 ระดับหลักที่น่าจับตา:
3349, 3335, 3313, และ 3297
โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ:
🎯 เป้าหมายที่ 1: 3335
🎯 เป้าหมายที่ 2: 3297
เราจะรอจังหวะที่มีสัญญาณกลับตัวจากโมเมนตัมบริเวณโซนเหล่านี้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าออเดอร์เมื่อคลื่น c จบลง
🔋 โมเมนตัม
กรอบ D1: กำลังจะเข้าสู่โซน Oversold คาดว่าในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ราคาจะเข้าสู่ภาวะ Oversold อย่างเต็มที่ ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาลงเริ่มอ่อนแรง
กรอบ H4: กำลังเข้าใกล้โซน Oversold เช่นกัน หากราคาขณะนั้นอยู่ใกล้แนวรับใดแนวรับหนึ่งใน 4 โซน (3349 | 3335 | 3313 | 3297) และ D1 ก็อยู่ในโซน Oversold แล้ว → มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัว
กรอบ H1: กำลังจะเข้า Oversold เช่นกัน คาดว่าจะมีแรงเด้งระยะสั้น หาก H1 เริ่มกลับตัวขึ้นพร้อมกับที่ D1 และ H4 อยู่ในภาวะ Oversold นั่นจะเป็นจังหวะเข้า BUY ที่ดี
✅ แผนการเทรด
🔹 แผนที่ 1
BUY ZONE: 3336 – 3333
SL: 3326
TP1 | TP2 | TP3: 3345 | 3378 | 3402
🔹 แผนที่ 2
BUY ZONE: 3300 – 3297
SL: 3290
TP1 | TP2 | TP3: 3313 | 3345 | 3402
⏳ อดทนรอจุดที่มีความสอดคล้องกันระหว่างแนวรับและสัญญาณจากโมเมนตัม นั่นคือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าออเดอร์ BUY ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุด