EUR/USD พบกับแนวต้าน: ทำนายการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเรียนคุณเทรดเดอร์
ขณะนี้กราฟ EUR/USD แสดงแนวโน้มราคาที่เป็นบวก โดยราคาซื้อขายอยู่ต่ำกว่าบริเวณแนวต้านหลักเล็กน้อย บริเวณนี้ประมาณ 1.11800 ถึง 1.12200 อาจมีอุปทานจำนวนมาก โดยที่เทรดเดอร์สามารถมองหาโอกาสในการทำกำไรหรือเปิดตำแหน่งขาย
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA (34) และ EMA (89) ยังแสดงแนวรับที่ชัดเจนต่ำกว่าราคาปัจจุบัน โดยที่ EMA 34 อยู่เหนือ EMA 89 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกระตุ้นการซื้อที่แข็งแกร่งขึ้นและการสนับสนุนตลาดสำหรับเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์
ขณะนี้พื้นที่แนวรับหลักอยู่ที่ระดับต่ำกว่าจากประมาณ 1.1100 ถึง 1.1120 หากราคาทะลุต่ำกว่าบริเวณนี้ ก็อาจทำให้โมเมนตัมขาขึ้นในปัจจุบันอ่อนลง และเปลี่ยนเส้นทางความสนใจของตลาดไปยังเป้าหมายราคาที่ต่ำลง
โดยรวมแล้ว ตลาดมีการมองโลกในแง่ดีเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะติดตามระดับแนวต้านและแนวรับเหล่านี้อย่างใกล้ชิดในช่วงการซื้อขายที่กำลังจะมาถึง เพื่อกำหนดทิศทางถัดไปของ EUR/USD
รูปแบบชาร์ต
สุดสัปดาห์ที่มั่นคง: ทองคำเตรียมที่จะทะลุทะลวงในสัปดาห์หน้า?กราฟปัจจุบันแสดงการซื้อขายทองคำใกล้ระดับแนวต้านหลักโดยมีแนวโน้มขาขึ้นที่มั่นคง เมื่อปิดเซสชั่นสุดสัปดาห์นี้ ตลาดไม่มีความผันผวนกะทันหันมากนัก ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพภายหลังการตัดสินใจของเฟดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุด เสถียรภาพนี้อาจคงอยู่ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากตลาดยังคงประเมินผลกระทบระยะยาวของมาตรการนโยบายการเงินและการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาค
ด้วยราคาปัจจุบันใกล้ 2,589 ดอลลาร์ ทองคำมีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวต้านที่ 2,599 ดอลลาร์ และหากประสบความสำเร็จ ก็มีแนวโน้มจะขึ้นต่อไป โปรดให้ความสนใจกับช่วงการซื้อขายช่วงเช้าของสัปดาห์หน้า หากทองคำยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งไว้ได้ และไม่มีสัญญาณลบจากตลาด เป้าหมายถัดไปอาจเป็น 2,650 USD
Gold Market Outlook【20 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook【20 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำฟื้นตัวหลังเฟดเริ่มรอบลดดอกเบี้ยลึกกว่าเดิม 🏦📉
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงครึ่งจุด ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพียงไม่กี่เซนต์จากเพดานสำคัญที่ $2,600 ในเซสชั่นก่อนหน้า 📈🌟
ราคาทองคำสปอตทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $2,599.92 เมื่อวันพุธ หลังจากเฟดปรับลดช่วงอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 basis points สู่ระดับ 4.75-5% ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของนักเทรดก่อนการประกาศ 💸🎯
นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจะลดลงอีกครึ่งจุดเปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ ลดลงหนึ่งจุดเปอร์เซ็นต์เต็มในปีหน้า และลดลงครึ่งจุดเปอร์เซ็นต์ในปี 2569 📅📉
การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ควบคู่กับการซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งของธนาคารกลางและความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ ได้ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่หลายครั้งในปีนี้ 🌍💰
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ทองคำยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ 🔒📊
📈 สรุปภาพทางเทคนิคราคาทองคำวันนี้
ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในลักษณะพักตัวหลังจากปรับตัวกลับขึ้นมารออยู่เหนือโซนแนวต้านได้อีกครั้ง ทำให้กลยุทธ์การซื้อขายในวันนี้จำเป็นต้องกลับมาเก็งกำไรระยะสั้นตามแนวรับแนวต้านรายวันเช่นเคย #โชคดีมีกำไรทุกท่านครับ 🍀💰
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
💰 ทองคำ XAUUSD
สถานะ: Neutral
🔼 แนวต้าน 3: $2,605
🔼 แนวต้าน 2: $2,600
🔼 แนวต้าน 1: $2,592
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,584
🔽 แนวรับ 2: $2,576
🔽 แนวรับ 3: $2,563
✍️ เรียบเรียงโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
2024 09 19 GOLD GOLD GOLDวิเคราะห์:
- แนวโน้ม : กราฟแสดงถึงแนวโน้มที่ชัดเจนว่าเป็นขาขึ้น โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง และมีการทำ Higher Highs และ Higher Lows.
- ระดับราคา: ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ $2,586 USD ซึ่งเป็นโซนที่อาจจะมีการทดสอบและกลับตัว.
แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
- แนวต้านแรก: 2,586 USD หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 2,600 USD.
- แนวรับ: อยู่ที่ประมาณ 2,500 USD ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง.
Indicators:
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว.
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้.
แผนการเทรด:
- ถ้าต้องการ Buy: รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ 2,586 USD อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ 2,600-2,620 USD และตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ 2,550 USD.
- ถ้าต้องการ Sell: หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,586 USD และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ 2,500-2,520 USD และตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน 2,590 USD.
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ.
BTCUSD : ระบบ CloseAboveEMA120D มีสัญญาณ"ซื้อ" 19/9/2024อธิบาย : ระบบ CloseAbove EMA120 D คือระบบที่จำลองการปิดแท่งเหนือ EMA18 W ให้มาอยู่ใน TF Daily เพื่อที่จะตัดสินใจได้เร็วขึ้น
สำหรับระบบนี้ ผมจะเก็บไว้มอง Trend ใหญ่เท่านั้น เพื่อตัดสินใจในด้าน position sizing หรือเพิ่ม-ลดความเสี่ยง แต่ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ในการ take action ซื้อหรือขายนะครับ เพราะมันจะช้าเกินไปมากๆ ถ้าจะใช้ซื้อขายให้ใช้ระบบอื่นๆ ที่เร็วกว่านี้จะดีกว่าครับ
โดยเมื่อไหร่ที่ราคาวิ่งอยู่เหนือเส้นแนวโน้ม EMA120 Daily = เทรนใหญ่มีโอกาสเป็นขาขึ้น
เมื่อไหร่ที่ราคาวิ่งอยู่ใต้เส้นแนวโน้มนี้ = เทรนใหญ่มีโอกาสเป็นขาลง
ส่วนเมื่อไหร่ที่ตลาด sideway เราก็จะเจอการแทงขึ้นแทงลงไปๆ มาๆ แบบช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานั่นเอง 5555
BTC CloseAboveEMA120D = เขียว ( 19/9/2024 )
------------------
Entry : 61760+-
SL : 56400 (-8.6%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-???) ATR = ?%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(19Sep-???) EMA120DCross = ?%
Sum = 21.56% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ซื้อ" 19/9/2024อธิบาย : ระบบ Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ คือระบบที่ใช้หลักการดูเส้น MACD ว่า เส้นนี้จะตัดกับเส้นศูนย์เมื่อไหร่ โดย ถ้าตัดขึ้นก็จะเป็นสัญญาณซื้อ ถ้าตัดลงก็จะเป็นสัญญาณขาย ถือเป็นระบบ Trend Following ที่ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีเทรนจ๋าๆ เช่น BTC
แต่ระบบนี้ก็จะมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดเช่นกัน คือ ในช่วงตลาด sideway ออกข้างเราอาจจะเจอ false sig ทำให้ต้องคืนกำไร คืนทุน กันบ่อยๆ ได้ หรือบางทีถ้าตลาดมีการทุบแรงๆ ก็อาจจะทำให้เจอการคืนกำไรหมดเช่นกัน เพราะระบบจะต้องรอ confirm ของเส้น MACD ก่อน ถึงจะยอมขาย ตอนขึ้น บางทีทำให้มันถือได้นาน ถือได้ทน รันเทรนได้นาน แต่ถ้าลงแรงก็จบกัน 555
ความเห็นของรอบนี้ : มาพบกันอีกแล้ว สำหรับสัญญาณซื้อรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของปีนี้ 555 หลายๆ คนที่มาเทรดตามระบบนี้ ก็น่าจะเจอ false sig ช่วงกลางปีไปจนหลอน ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะส่วนใหญ่ที่มาลองใช้ ก็มักจะมาลองหลังจากที่ระบบเห็นกำไรเยอะ + ตลาดพีคไปแล้ว สื่อลงไปแล้ว กันทั้งนั้น ทำให้มือใหม่ก็ต้องโดนรับน้อง กันเป็นเรื่องปกติครับ
ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า การทำตามระบบ Trend Following นี้ ( หรือไม่ว่าระบบไหนๆ ก็ตามแต่ ) position sizing สำคัญมาก เราจะต้องวางความเสี่ยงที่เหมาะสม และคำนวณ positoin size ให้ถูกกับความเสี่ยงที่เรารับได้เสมอ ถ้าคิดอะไรไม่ออก ผมก็คงแนะนำให้ใช้ความเสี่ยงที่ 10% ต่อไม้ ต่อระบบ เช่น ระบบนี้ เขียว มีเงิน 100 บาท ก็ซื้อแค่ 10 บาทพอ อย่าโลภ
เพราะถ้าคุณโลภ หรือขี้เกียจเรียนรู้ ขี้เกียจแบ่งไม้ เวลาที่เจอ false sig รัวๆ เหมือนกลางปีที่ผ่านมา คุณก็จะขาดทุนหนักจนท้อไปซะก่อน และพอท้อ เลิกทำตามระบบไปเมื่อไหร่... หลังจากนั้น มันก็มักจะไปจริงกันซะด้วยสิ 555
BTC Action Zone = เขียว ( 19/9/2024 )
------------------
Entry : 61760+-
SL : 56400 (-8.6%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-???) ATR = ?%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(19Sep-???) EMA120DCross = ?%
Sum = 21.56% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
เฝ้าระวังตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณหัวคลื่น 17-20 ก.ย.เฝ้าระวัง ตลาดหุ้นไทย จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณหัวคลื่นในกรอบ 1427.29-1458.71 ช่วง 17-20 กันยายน 2567
19 กันยายน 2567 เมื่อ เทคนิคอล คือ คณิตศาสตร์ หลักการเดียวกับ การพยากรณ์อากาศ ที่ใช้คาดการณ์ด้วย "การคำนวณไปข้างหน้า"
ไม่ได้มีไว้อ่านถอยหลัง อย่างที่เห็นกันอยู่ปัจจุบัน ทำให้คนส่วนใหญ่ มองว่าเทคนิคอลเป็นเรื่องตลก นั่งขีดเส้น เอาเส้นตัดกัน
ขอ ยกตัวอย่างการใช้งาน ด้วยหลักการคำนวณไปข้างหน้า ดังนี้
เหตุการณ์ปัจจุบัน กรมอุตุฯ เตือนคนไทย 19-20 ก.ย. เตรียมรับมือ "พายุดีเปรสชัน ฝนจะตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน! แน่นอนมันอาจจะไม่เกิด แต่ต้องคาดการณ์ไปข้างหน้า เพื่อเตรียมรับมือ
หากฝนตก น้ำท่วมฉับพลันไปแล้ว มาเตือนย้อนหลัง เราคงก่นด่า กรมอุตุฯ ถูกไหมครับ
ทีนี้ในตลาดหุ้น เทคนิคอล ก็ใช้หลักการเดียวกัน ผมขอยกตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Time & Price เราจะอ่านได้ว่า
ตลาดหุ้นไทย จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณหัวคลื่นในกรอบ 1427.29-1458.71 ดูภาพประกอบ ที่มาคือกรอบ Fibonacci Extension 127.2%-161.8%
และเป็นโซนหัวคลื่น ที่โมเมนตัมพีค
โมเมนตัมพีค บอกเราถึงบรรยากาศมวลชน Bullish ตลาดมาก แต่ซื้อจนหมดแรงซื้อ จะตามมาด้วยการพักตัว หรือ กลับตัวเป็นลง
ต่อไป การวิเคราะห์ตลาด ขึ้น หรือ ลง นอกจากกรอบราคา เราต้องมีกรอบเวลา ไม่สามารถพูดเรื่อยเปื่อย ว่า ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง หรือ พูดแต่วิกฤติ ทุกวัน สามเวลาหลังอาหาร หรือ ตลาดจะไป 2000 จุด อยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากหมอดู
กลับมาเข้าเรื่อง ตลาดหุ้นไทยจะเจอโซนหัวคลื่น ตาม Fibonacci Time ช่วง 17-20 ก.ย.67 ดูภาพประกอบ มาจาก แนวร่วมเวลาที่ 23.6%
ถ้าคุณคิดว่าคำเตือนของกรมอุตุฯ อาจไม่ถูก 100% แต่มีประโยชน์
การอ่านว่า ตลาดหุ้นไทย เคลื่อนตัวมาทำหัวคลื่น ช่วง 17-20 กันยายน 2567 บริเวณ1447.29-1458.71 แล้วอาจพักตัว ก็น่าจะมีประโยชน์เช่นกัน
แม้มิอาจยืนยันได้ว่า มันจะเกิดขึ้น 100%
Gold Market Outlook【19 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook【19 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำชะลอตัวหลังทำสถิติสูงสุดใหม่ เหตุเฟดลดดอกเบี้ย 🏦📉
🪙 ราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ ตามมาด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลง 0.5% 📊💸
🇺🇸 เฟดเริ่มต้นผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และคาดว่าจะทยอยปรับลดต่อเนื่อง 🔻💡
🔮 ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของเฟดจะลดลงอีก 0.5% ภายในสิ้นปีนี้ และอีก 1% เต็มในปี 2568 💸📅
💡 อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงนั้น จะช่วยลดต้นทุนในการถือครองทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทน อีกทั้งยังกดดันค่าเงินดอลลาร์ ทำให้ทองถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น 🪙📉
💱 หลังจากเฟดลดดอกเบี้ย ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.5% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กรกฎาคม 2566 เมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง 📊🔻
📈 ด้านเทคนิค ราคาทองคำระยะสั้นปรากฏสัญญาณลบ โดยให้จับตาที่แนวรับสำคัญบริเวณ $2,543 หากราคายืนเหนือแนวรับนี้ได้ จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่หากหลุดลงมา ควรปรับแผนมองไปที่การขายลงแทน #โชคดีมีกำไรทุกท่านครับ 🍀💰
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
💰 ทองคำ XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish
🔼 แนวต้าน 3: $2,580
🔼 แนวต้าน 2: $2,574
🔼 แนวต้าน 1: $2,565
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,543*
🔽 แนวรับ 2: $2,535
🔽 แนวรับ 3: $2,528
✍️ เรียบเรียงโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
2024 09 18 GOLD GOLD GOLDวิเคราะห์: GOLD GOLD GOLD
1. แนวโน้ม
- ราคามีการเคลื่อนไหวแบบผันผวนในช่วงต้นกราฟ จากนั้นเริ่มมีการตั้งตัวและเคลื่อนไหวในรูปแบบของช่วงเวลาที่เสถียรมากขึ้น
- มีการเคลื่อนไหวลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเข้าใกล้ช่วงปัจจุบันของกราฟ ซึ่งแสดงถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
2. แนวรับและแนวต้าน
- แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับประมาณ **2,575 USD** ซึ่งราคาทองมีการทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านไปได้
- แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองคือระดับ **2,555 USD** ถ้าราคาหลุดแนวรับนี้ลงไป อาจมีการลดลงต่อเนื่อง
3. วิเคราะห์เทคนิค
- **MACD: แสดงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม โดยปัจจุบันมีการตัดเส้นสัญญาณลงอย่างชัดเจนซึ่งบ่งบอกถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
- **RSI: อยู่ที่ระดับปานกลาง เกือบถึงโซน Oversold ซึ่งอาจแสดงถึงโอกาสในการฟื้นตัวหากไม่หลุดแนวรับสำคัญ
### การวางแผนการเทรด:
1. ถ้าต้องการซื้อ Buy :
- คอยสังเกตการกลับตัวที่แนวรับ **2,555 USD** หากราคาสามารถรีบาวด์ได้จากจุดนี้อย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรใกล้แนวต้านที่ **2,575 USD** และตั้ง Stop Loss ไม่เกิน **2,550 USD**
2. ถ้าต้องการขาย Sell :
- หากราคาหลุดแนวรับ **2,555 USD** ควรพิจารณาเปิดสถานะขาย เนื่องจากอาจมีการลดลงต่อเนื่อง
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,540 USD** หรือต่ำกว่า และตั้ง Stop Loss ในระดับที่ไม่เกิน **2,560 USD**
### สรุป:
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่มี ควรมีการตั้ง Stop Loss อย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนที่สูง และติดตามการเปลี่ยนแปลง
Gold Market Outlook 【18 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook 【18 กันยายน 2567】💰🔍
ทองร่วงรับดอลลาร์แข็ง-ตลาดจับตาประชุมเฟดคืนนี้
ราคาทองคำร่วงลงเมื่อวันอังคาร หลังจากที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้า เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวแข็งค่าขึ้น ในขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจมีการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 📉💸
จุดสนใจของตลาดการเงินในขณะนี้อยู่ที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะจบลงในวันพุธนี้ ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 63% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 basis points เทียบกับ 34% ในสัปดาห์ที่แล้ว ตามเครื่องมือ CME FedWatch 📊🏦
ตลาดการเงินได้ตีราคาไว้แล้วว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดตั้งแต่ปี 2563 🎯💡
โกลด์แมน แซคส์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เห็นด้วยกับแนวโน้มราคาทองคำที่อาจปรับลดลงระยะสั้น หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในวันพุธ และยังคงยืนยันคำแนะนำการลงทุนซื้อทองคำระยะยาว รวมถึงราคาเป้าหมายที่ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในต้นปี 2568 🥇📈
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองทองคำที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทน 💸✨
นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิดในเดือนสิงหาคม บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งตลอดไตรมาสที่สาม ซึ่งกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 📝🏪
ในด้านเทคนิค ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงตามที่ได้เตือนไว้ก่อนหน้านี้ โดยช่วงต้นตลาดราคาอาจย่อกลับไปทดสอบแนวรับเดิมอีกครั้ง และควรจับตาการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบที่รอปัจจัยบวกเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาประกาศอัตราดอกเบี้ย อาจมีแรงเทขายกลับลงมา แนวทางการเทรดในวันนี้คือรอจังหวะขาย ใน TF ระยะสั้น ขอให้โชคดีและทำกำไรได้ทุกท่าน 🤞💪
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:15)
💰 ทองคำ XAUUSD
สถานะ: ค่อนข้างบวก
🔼 แนวต้าน 3: $2,588
🔼 แนวต้าน 2: $2,579
🔼 แนวต้าน 1: $2,574
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,566
🔽 แนวรับ 2: $2,561
🔽 แนวรับ 3: $2,546
✍️ เขียนโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
มุมมองทองคำ 18-09-67มุมมองทองคำ 18-09-67
ตัวเลขยอดค้าปลีกออกมาลดลงกว่าครั้งที่แล้ว และสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น เป็นบวกกับราคาทองคำ
แต่ราคาขึ้นได้ไม่มาก อาจจะเพราะนักลงทุนกำลังรอการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย
ที่คาดฯว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% อยู่นะครับ ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาก่อน
เพื่อรอความชัดเจนของเฟดอีกทีนะครับ
ในทางเทคนิคเองในการย่อของราคาทองคำเอง ณ ตอนนี้มองได้ว่าจะเป็นการย่อลงมาเพื่อทำโลที่สูงขึ้นนั้นเอง
ซึ่งมีช่วงให้ย่อตัวลงได้มากพอสมควรเลยนะครับ ซึ่งในทางเทคนิคสามารถย่อได้ถึง 2530 ได้ด้วยซ้ำนะครับ
แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือ ถ้าราคาไม่ทำไฮใหม่อาจจะได้เห็นการย่อเพื่อพักฐานราคาได้นะครับ
ปล. เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่มต่ออีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
2024 09 17 GOLD GOLD GOLD พูดเหมือนเดิม แนวทางเดิมทุกวัน แนวรับ แนวต้าน ผ่านแนวรับได้ ผ่านแนวต้านได้ มันจะไปต่อ เมื่อมีสัญญาณการกลับตัว มันจะกลับตัว ตั้ง SL ด้วย เพื่อให้มันจบเป็นครั้งๆไป ถ้าไม่ถูกจะได้แก้ใหม่ครั้งหน้า
### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด:**
- การเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบที่ผันผวนมาก ซึ่งมีการเคลื่อนตัวขึ้นและลงอย่างรุนแรงในช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนในตลาดและความผันผวนที่สูง
- มีการกลับตัวลงอย่างรวดเร็วหลังจากทดสอบแนวต้านที่ระดับประมาณ **2,575 USD**
2. **แนวรับและแนวต้าน :**
- แนวต้านที่ **2,575 USD** ซึ่งกราฟมีการทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านไปได้
- แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ **2,550 USD** หากราคาลงมาทดสอบและไม่หลุดลงไปได้ อาจเป็นจุดสนใจในการเข้าซื้อ
3. **(Indicators):**
- **MACD (Histogram):** แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในโมเมนตัม มีสัญญาณของการตัดกันระหว่างเส้น MACD และสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทาง
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในระดับกลางๆ ระดับประมาณ 50 ยังไม่เข้าข่าย Overbought หรือ Oversold
### แผนการเทรด:
1. **ถ้าอยากจะ Buy:**
- รอสัญญาณการกลับตัวที่แนวรับ **2,550 USD** หากมีการปฏิเสธราคาลงอย่างชัดเจน พร้อมกับสัญญาณบวกจากเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น แท่งเทียนที่เป็น Bullish Pin Bar หรือ Engulfing Pattern
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,575 USD** และตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่ **2,540 USD**
2. **ถ้าอยากจะ Sell:**
- หากราคาทดสอบแนวต้านที่ **2,575 USD** แล้วไม่สามารถผ่านไปได้ พิจารณาเปิดสถานะขายเมื่อมีสัญญาณการกลับตัว
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับ **2,550 USD** และตั้ง Stop Loss ข้างต้นแนวต้านที่ **2,580 USD**
### สรุป:
จากการวิเคราะห์ ราคาทองคำมีความผันผวนและแสดงถึงความไม่แน่นอน ควรใช้กลยุทธ์ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เน้นการตั้ง Stop Loss และการเข้าตำแหน่งที่มีโอกาสความสำเร็จสูง ติดตามข่าวสารและสภาพตลาดใกล้ชิดเพื่อปรับแผนการเทรดตามสถานการณ์ตลาดล่าสุด.
17 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.6917 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.69 ในรอบปี 2566-2567 เราอ่านอย่างไร?
ตัวเลขฟีโบนัชชี เป็นตัวเลขอนุกรมหรือลำดับที่เรียงกัน และเรียงกันอย่างมีแบบแผน ค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า Leonardo Pisano หรือรู้จักกันกว้างขวางในนามว่า Fibonacci
Fibonacci Retracement คือ หนึ่งในประเภทของ Fibonacci Indicator ที่สามารถหาจุดพักตัวของราคา จุดกลับตัวของราคา จุดทำกำไร (Take Profit) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ถูกใช้ในการวิเคราะห์กราฟ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ด้วยการระบุ Price Level ล่วงหน้า ยิ่งนักลงทุนที่ต้องใช้แนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการกลับตัว (Breakout)
โดย Fibonacci จะเป็นการการใช้ Price Level อ้างอิงระดับราคาย้อนหลัง
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีนักลงทุนจำนวนมากที่ใช้อัตราส่วนทองคำ ในการคำนวณแนวรับและแนวต้าน เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน
ตัวอย่าง ตัวเลข Fibonacci
ตัวเลข Fibonacci ที่ได้มาคือ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233…. ไม่มีสิ้นสุด
โดยมีรายละเอียดการคำนวณดังนี้
1, 1, 2 (เกิดจาก 1+1)
3 (เกิดจาก 2+1)
5 (เกิดจาก 2+3)
8 (เกิดจาก 3+5)
13 (เกิดจาก 5+8)
21 (เกิดจาก 8+13)
34 (เกิดจาก 13+21)
55 (เกิดจาก 21+34)
89 (เกิดจาก 34+55)
144 (เกิดจาก 55+89)
233 (เกิดจาก 89+144)
นอกจากนี้ ตัวเลข Fibonacci ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เพราะ เลข Fibonacci ตัวหลัง มีค่าออกมาใกล้เคียงกับ 0.618 เสมอ เช่น 144/233 = 0.618
ซึ่งผลลัพธ์จากคุณสมบัติข้างต้นของตัวเลข Fibonacci คือ 0.618, 1.618, 0.382 และ 2.618 ถือเป็นสัดส่วนธรรมชาติ และ 0.618 และ 1.618 คือ สัดส่วนที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด หรือที่เรียกกันว่า อัตราส่วนทองคำ
วิธีดูตัวเลข Fibonacci Level ที่ช่วยให้นักลงทุนพิจารณาสำหรับการลงทุน
0 = 0.0%
0.146 = 14.6%
0.236 = 23.6%
0.382 = 38.2%
0.5 = 50.0%
0.618 = 61.8%
0.786 = 78.6%
0.886 = 88.6%
1 = 100.0%
1.272 = 127.2%
1.618 = 161.8%
2.618 = 261.8%
4.236 = 423.6%
กลยุทธ์สำคัญของการพักราคา
และการใช้ เลข Fibonacci Retracement จะมีค่า Fibonacci ที่สำคัญอยู่ 3 โซน ได้แก่
โซนเริ่มต้นเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 14.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 23.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
โซนที่สองของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
กรณีขึ้นมาก่อนแล้วพักตัว ให้ไล่เรียง 61.8,50 และ 38.2 หากเป็นแนวโน้มลงมาก่อนให้ไล่เรียง 38.2,50 และ 61.8
ค่า Fibonacci คือ 61.8 = จุดพักตัวที่ 1 ราคามักจะมีการพักตัวบริเวณนี้
ค่า Fibonacci คือ 50.0 = จุดพักตัวที่ 2 ในกรณีที่ราคาหลัดจุดพักตัวที่ 1 ลงมาได้
ค่า Fibonacci คือ 38.2 = จุดพักตัวที่ 3 หากราคามีแนวโน้มที่แข็งแรงจะไม่สามารถลงมาถึงจุดที่ 3 ได้ แต่ถ้าหากสามารถลงมาถึงจุดนี้ได้ หมายความว่า ราคามีโอกาสกลับตัวสูง
ในทำนองเดียวกัน ในแนวโน้มลงมาก่อน เมื่อราคากลับขึ้นมาปิดเหนือแนว 38.2% ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ก็จะอ่านได้ว่ามีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางจากลงไปเป็นขึ้นได้ต่อเนื่อง
โซนที่สามของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 78.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 88.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมือ Fibonacci ในการวิเคราะห์ทิศทางของกราฟราคา โดยหลักการแนวรับ-แนวต้าน และ Golden Ratio ซึ่งประเภทของ Fibonacci ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นการวัดรอบการแกว่งตัวของราคาเพื่อหาจุดกลับตัวของรอบ ซึ่งสามารถใช้จับจังหวะในการซื้อขาย และยิ่งถ้าไปใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่นอย่างเช่น การดู Elliott Wave, Harmonic Pattern และ TD SEQUENTIAL ก็จะยิ่งทวีความมีประสิทธิภาพในการลงทุนขึ้นไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้วผู้ลงทุนจะเลือกลงทุนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้อง คิด วิเคราะห์ แล้วเตรียมรับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ
Gold Market Outlook 【17 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook 【17 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำทรงตัวที่โซน All time high รับแรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ยยกใหญ่ 📈💸
ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในการประชุมนโยบายสัปดาห์นี้ 📉💰
ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.4% ส่งผลให้ทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ มากขึ้น 🌍💵
จุดสนใจหลักของสัปดาห์นี้คือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธ นักเทรดคาดว่ามีโอกาส 61% ที่จะมีการปรับลดลง 50 basis points ตามเครื่องมือ CME FedWatch 📉🔍
ด้านความพยายามล่าสุดต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งมักจะเป็นบวกต่อทองคำ 🗳️😨 ซึ่งเอฟบีไอระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน ตกเป็นเป้าการลอบสังหารครั้งที่สองเมื่อวันอาทิตย์ 🎯😱
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเฟื่องฟูในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นลดความน่าสนใจในการถือทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน 🤔💭
ในส่วนของปัจจัยทางเทคนิคราคาทองคำวันนี้มีโอกาสได้เห็นการเคลื่อนไหวในวงจำกัดเนื่องจากใกล้ถึงช่วงประกาศอัตราดอกเบี้ยเข้ามาทุกทีอย่างไรเสียช่วงต้นตลาดวันนี้จำเป็นต้อง Wait&See ไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนในภายหลัง ไม่ควรเสี่ยงระวังจะได้ไม่คุ้มเสียเอา 💡🙏
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:45)
ทองคำ XAUUSD
สถานะ : Bullish 📈
แนวต้าน 3: $2,592
แนวต้าน 2: $2,588
แนวต้าน 1: $2,583
——————————
แนวรับ 1: $2,578
แนวรับ 2: $2,576
แนวรับ 3: $2,570
✍️ เขียนโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
2024 09 16 GOLD GOLD GOLD### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):**
- จากกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง มีการทำ Higher High และ Higher Low
- ระดับราคาที่กราฟแสดงตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ **2,586 USD** ซึ่งเป็นโซนที่น่าจะมีการทดสอบการเบรคหรือกลับตัว
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- แนวต้านแรกคือ **2,586 USD** หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ **2,600 USD** และมากกว่านั้น
- แนวรับอยู่ที่ประมาณ **2,500 USD** ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่มีการอ่อนแรงลงบ้าง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้
### การวางแผนการเทรด:
1. **ถ้าคุณต้องการซื้อ Buy:**
- รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ **2,586 USD** อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,600-2,620 USD**
- ตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ **2,550 USD** เพื่อจัดการความเสี่ยง
2. **ถ้าคุณต้องการขาย Sell:**
- หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ **2,586 USD** และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ **2,500-2,520 USD**
- ตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน **2,590 USD** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ