BTC-D
Bitcoin ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวล EvergrandeBitcion ปรับตัวลงต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลวิกฤติ Evergrande
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง 16.23% ซึ่งมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลของวิกฤติ Evergrande ซึ่งมีการปรับตัวลงไปพร้อมกันกับดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวร่วงลงและดูเหมือนว่าอาจจะมีการย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าสกุลเงินบิทคอยน์อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นแต่ต้องจับตาดูว่าในส่วนของวิกฤติ Evergrande ที่จำเป็นจะต้องจับตาดูการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนนี้จะมีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ชี้นำคลิปโตครินทร์ซี่และสกุลเงินบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องจึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
โดยสกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง -2.07% ในรอบวันและอาจจะมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามถ้ามีการเกิดวิกฤติในครั้งนี้และอาจจะเป็นวิกฤติในระยะสั้นนั้นอาจจะมีการปรับตัวย่อตัวลงอีกครั้งจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงโดยเฉพาะการทะลุผ่าน 42,390 ลงมาแล้วแนวรับที่สองก็คือ 41,674 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 40,510
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 43,490 แนวต้านที่สองก็คือ 45,060 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 45,070
BTC พักตัวระยะสั้นสกุลเงินบิทคอยน์ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นตามสกุลเงินคลิปโต
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หลังจากที่สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างหนักโดยปัจจัยหลักยังคงมีความกังวลของ เชื่อไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลอย่างมากส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดและทำให้ ตลาดคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามตลาดคลิปโตโดยเฉพาะปัจจัยที่อาจจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาอีกต่อเนื่องอาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการฟื้นตัวขึ้นแต่อย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาได้หรือไม่ดังนั้นจับตาดูมาตรการต่างๆในสหรัฐอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกันดังนั้นในการปรับตัวร่วงลงในหลายวันที่ผ่านมาอาจจะส่งผลทำให้มีแรงหนุนทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นอย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าในการหนุนขึ้นในครั้งนี้อาจจะส่งผลทำให้มีความผันผวนในระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 46,490 ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 47,180 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 47,880
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 45,070 แนวรับที่สองก็คือ 44,580 แนวรับสุดท้ายก็คือ 44,010
แนวโน้ม ของ btc กำลังเลือกทางนักวิเคราะห์และสื่อธุรกิจเริ่มจับตาแนวโน้มของ Bitcoin ที่อาจจะหมดแรงลง กลายสภาพจากจากตลาดกระทิงกลายเป็นตลาดหมี
เริ่มจากสำนักข่าว Bloomberg ที่รายงานว่าจนถึงกางสัปดาห์นี้ Bitcoin ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความสับสนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาวะที่ยังไม่สามารถอธิบายได้และตอนนี้นักลงทุนต่างก็จับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของมันที่มีความผันผวน
ก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ของ JPMorgan Chase & Co. นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าวว่าสองสามครั้งที่ผ่านมาพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของราคาใน Bitcoin ในเชิงลบ แต่ผู้ซื้อกลับมากอบกู้สถานการณ์ทันเวลาเพื่อป้องกันการตกต่ำที่ลึกลงไป แต่คราวนี้พวกเขากลับกังวล เพราะหาก Bitcoin ไม่สามารถกลับมาสูงกว่า 60,000 ดอลลาร์ในไม่ช้าสัญญาณ โมเมนตัมจะพังทลายลง
ด้าน Michael Purves จาก Tallbacken Capital Advisors ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวกับรูปแบบการซื้อขายของ Bitcoin พบว่าจุดสูงสุดล่าสุดของ Bitcoin ไม่ได้อิงกับดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (Relative strength index - คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแผนภูมิจุดแข็งหรือจุดอ่อนในปัจจุบันและในอดีตของหุ้นหรือตลาดโดยพิจารณาจากราคาปิดของช่วงเวลาการซื้อขายล่าสุด) และเหนือสิ่งอื่นใดและโมเมนตัมที่พุ่งสูงของมันกำลังจางหายไป
เว็บไซต์ของ Fortune ก็ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันโดยตั้งคำถามว่าตอนนี้ตลาดกระทิงของ Bitcoin สิ้นสุดลงแล้วหรือยังหลังจากพุ่งขึ้นมาถึง 700% นับตั้งแต่เดือนเมษายปีที่แล้ว? คำตอบก็คือ "อาจจะเป็นอย่างนั้น" David Z. Morris นักเขียนของ Fortune ให้เหตุผลว่า Bitcoin เป็นจำพวกหุ้นยุคการระบาดใหญ่ หรือ pandemic stock
ตัวอย่างของ pandemic stock เช่น Netflix ซึ่งเพิ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปรากฎว่ามีลูกค้าใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 3.98 ล้านคนหลุกจากเป้าคาดการณ์ 6.29 ล้านคนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นอกจากนี้ยังมี Zoom ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นลดลง 45% จากระดับสูงสุดตลอดกาลถึงปลายปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้บูมในช่วงการระบาดใหญ่เพระาเป้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการล็อคดาวน์หรือติดอยู่กับบ้าน และตอนนี้ถึงช่วงขาลงของพวกมัน
ไฟฟ้าถูกสุดๆ การขุดคริปโตจึงเป็นความหวังทำเงินของชาวเวเนซุเอลา
จับตา Solana คริปโตที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้
David Z. Morris ชี้ว่า Bitcoin ก็เข้าข่ายธุรกิจที่บูทในช่วงการระบาดใหญ่ เพราะมีหลักฐานวาชาวอเมริกันใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปซื้อ Bitcoin และนักลงทุนยังเข้ามาเล่นคริปโตเพราะติดอยู่กับล็อคดาวน์และเป็นการลงทุนมาแบบมาราธอนเพ 24 ชั่วโมงต่อวัน
Scott Minerd ซีไอโอของบริษัท Guggenheim ยังได้เตือนถึง“การปรับฐานครั้งใหญ่” ของ Bitcoin ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยอ้างว่า Bitcoin นั้น “มีฟองมาก” และเขาคาดการณ์ว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลจะลดลง 50%
เขาบอกกับ CNBC ว่า Bitcoin ไปไกลเกินไปเร็วเกินไป “ผมคิดว่าเราสามารถดึง Bitcoin กลับมาที่ 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ซึ่งจะลดลง 50% แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Bitcoin คือเราเคยเห็นการลดลงประเภทนี้มาก่อน”
อย่างไรก็ตาม Minerd ตั้งข้อสังเกตว่าเขาคิดว่าการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของ “วิวัฒนาการตามปกติของตลาดกระทิงในระยะยาว”
BTC มีโอกาศเบรค Trend Line เพื่อปรับตัวลงBTC ใน 4 วันที่ผ่านมา แท่ง Day ปิดแท่งลบติดต่อกันทั้ง 4 วัน วันนี้เข้าวันที่ 5 มีโอกาศเบรค Trend Line ปรับตัวลงระดับ 42000-41500 usd. เพื่อปิดแท่งแดงอีกวัน ได้เช่นกัน *แต่ถ้าไม่หลุดแนว Trend Line จะปรับตัวขึ้นที่ 46000-46600 usd **โปรดเทรดด้วยความระมัดระวัง**
BTC ปรับฐาน
ระยะ
หากไม่หลุดดีมานโซนแถว 42600 ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
แต่หากหลุดลงมาก็อาจจะปรับฐาน แถว 41000
=============================================================================================
*** ระบบเทรด demand supplyเป็นแค่การหาโซนที่ได้เปรียบในการเข้าออเดอร์ ส่วนการหจังหวะเข้าออเดอร์ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ของแต่ละคน***
*** บทวิเคราะห์เป็นแค่ไอเดียส่วนตัวนะครับ อาจถูกหรือผิดมีความเป็นไปได้ทั้งสอง โปรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลก่อนการลงทุนด้วยครับ
=============================================================================================
BTCUSD : Price on Key Levelจากบทวิเคราะห์ก่อนหน้าราคามีการฟอร์มตัวทำ motive ชุดใหม่ขึ้นมาตามที่มองเอาไว้
จากสถานะคลื่นปัจจุบัน สามารถเป็นได้ 2 แบบคือ
1. ย่อตัวทำคลื่น 4 เพื่อขึ้นคลื่น 5 (คอนเฟิร์มขาขึ้น)
2. กำลังจะฟอร์มตัวเป็นขาลง เพราะชุด motive ที่ขึ้นมาเป็นเพียงคลื่นย่อยของ Flat ใน wave b ที่กำลังฟอร์มตัวขาลงต่อ
คาดการณ์ว่าถ้าราคาเบรคไฮ 44000 ลงมาได้อย่างน้อยก็ถือเป็นการคอนเฟิร์มขาลงได้ระดับนึง
BTC เบรค High เดิม สร้าง New High BTC เบรค High เดิม สร้าง New High จากแนวต้านจะเป็นแนวรับทันที ที่ระดับ 46500 - 46700 usd ในเบื้องต้นมองขึ้น ย่อมาที่แนวรับก่อนค่อยขึ้น หรืออาจจะวิ่งขึ้นเลย เพื่อไปแนวต้าน 49800-50000 usd
*แต่ถ้ายืนแนว 46500 usd ไม่ได้จะหลุดลงมาที่แนวรับถัดไปที่ 44000 usd หรือจะเปลี่ยนเทรนด์รออัพเดทต่อไป
BTC GO!! 😱😱😱ใน TF Week ของราคา BTC
ทะลุแนว 39020.00 แล้ว (แนวสีขาว) 😍😍
ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นแนวที่มีสถานะเป็น "แนวต้านสำคัญ"
ใน TF Week มาตลอด 😍
มีโอกาสที่จะวิ่งขึ้นต่อไปหาแนว 40,500 (แนวสีฟ้า) 😍
ซึ่งเป็นแนวเงื่อนไขสำคัญ
และ ถ้าหากทะลุแนว 40,500 ไปได้ 😍
ก็อาจจะแปลว่า
มีโอกาสที่ราคาจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นของอีกครั้ง 😍
มาดูกันครับ อีกหนึ่งช่วงสำคัญของ BTC 😍
จะได้เฮอีกครั้งแล้วหรือเปล่า 😍
#นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน
กรุณาศึกษาก่อนให้ดี นำไปลงนะครับ 😍
#MarkNarathip
Stable Coins จำเป็นต้องมีกฎระเบียบPowell กล่าวว่า Stable Coins จำเป็นต้องมีกฎระเบียบเพื่อปกป้องสาธารณะของสหรัฐอเมริกา
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหรียญที่มีเสถียรภาพ และพวกเขาต้องการกฎระเบียบเพื่อความปลอดภัย
Powell บอกกับคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาเมื่อวันพุธว่าเหรียญที่มีเสถียรภาพนั้นคล้ายกับกองทุนตลาดเงินหรือเงินฝากธนาคาร “แต่ไม่มีข้อบังคับ”
“เรามีประเพณีในประเทศนี้ที่เงินของประชาชนถูกเก็บไว้ในสิ่งที่ควรจะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมาก เรามีกรอบการกำกับดูแลที่รัดกุมเกี่ยวกับเงินฝากธนาคาร เช่น กองทุนตลาดเงิน นั่นไม่มีอยู่จริงสำหรับเหรียญที่มีเสถียรภาพ” เขากล่าวในระหว่างการให้การเป็นพยานครึ่งปีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ
จากปัจจัยนี้ส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโต มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสกุลเงินบิทคอยน์ ซึ่งในรอบวันมีการปรับตัวลงถึง -4.58% อยู่ในระดับต่ำกว่า 32,000 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์ ดังนั้นปัจจัยนี้อาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงทะลุ 31,228 ลงมาได้แนวรับที่สองก็คือ 30,257 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 29,222
แต่ถ้ามีการขยับตัวขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 31,860 แนวต้านที่สองก็คือ 32,100 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 32,509
ปัจจัยเสี่ยงของสกุลเงินบิทคอยน์ในระยะสั้น : ยังคงต้องติดตามปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกับการจำกัดของสกุลเงินดิจิตอลซึ่งต้องจับตาดูทั้งในส่วนของหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานของเอกชนที่ยังคงจำเป็นจะต้องให้ความเชื่อมั่นกับสกุลเงินดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง