📣📣 BTC ในมุมมอง Demand Supply ขึ้นหรือลง ?? 🟩🟥🚀🚀 26-9-2021สำหรับ BTC ในมุมมอง Demand Supply ปัจจัยทางเทคนิค Confluence มีอะไรบ้าง??
1 Main Trend Line และ Sup Trend Line ใน TF H4 และ D1 เป็นลงขา
การเล่นฝั่ง Sell จะได้เปรียบ
2 เกิด Supply Zone DBD TF H4 ส่งราคาไปทำ Low
3 มี SBR 1 ชุด (ซึ่งอันนี้ไม่แข็งแรงเท่าไร)
4 Supply Zone ที่อยู่ใกล้ Fibo 61.8
5 Supply Zone อยู่ใกล้ QML
สรุป ในมุมมอง Multi-Factor ที่มีปัจจัยทางเทคนิค Confluence กัน
BTC ขึ้นเพื่อลงต่อ ใน TF H4 และ D1 เป็นขาลง รอเด้ง Sell ได้เปรียบกว่า
ราคาตามกรอบ SUPPLY ZONE ที่ให้ไว้
เพื่อนๆ มีมุมอย่างไรเรียกเปลี่ยนกันได้
หรือเพื่อนๆ คนไหนได้กำไรหรือไอเดียในการเทรดเพิ่ม
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ
Korn Trade For Live
ทำกำไรแล้วใช้ชีวิต
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
Btc!
Bitcoin ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวล EvergrandeBitcion ปรับตัวลงต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลวิกฤติ Evergrande
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง 16.23% ซึ่งมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลของวิกฤติ Evergrande ซึ่งมีการปรับตัวลงไปพร้อมกันกับดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวร่วงลงและดูเหมือนว่าอาจจะมีการย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าสกุลเงินบิทคอยน์อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นแต่ต้องจับตาดูว่าในส่วนของวิกฤติ Evergrande ที่จำเป็นจะต้องจับตาดูการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนนี้จะมีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ชี้นำคลิปโตครินทร์ซี่และสกุลเงินบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องจึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
โดยสกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง -2.07% ในรอบวันและอาจจะมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามถ้ามีการเกิดวิกฤติในครั้งนี้และอาจจะเป็นวิกฤติในระยะสั้นนั้นอาจจะมีการปรับตัวย่อตัวลงอีกครั้งจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงโดยเฉพาะการทะลุผ่าน 42,390 ลงมาแล้วแนวรับที่สองก็คือ 41,674 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 40,510
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 43,490 แนวต้านที่สองก็คือ 45,060 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 45,070
BTC พักตัวระยะสั้นสกุลเงินบิทคอยน์ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นตามสกุลเงินคลิปโต
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หลังจากที่สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างหนักโดยปัจจัยหลักยังคงมีความกังวลของ เชื่อไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลอย่างมากส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดและทำให้ ตลาดคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามตลาดคลิปโตโดยเฉพาะปัจจัยที่อาจจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาอีกต่อเนื่องอาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการฟื้นตัวขึ้นแต่อย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาได้หรือไม่ดังนั้นจับตาดูมาตรการต่างๆในสหรัฐอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกันดังนั้นในการปรับตัวร่วงลงในหลายวันที่ผ่านมาอาจจะส่งผลทำให้มีแรงหนุนทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นอย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าในการหนุนขึ้นในครั้งนี้อาจจะส่งผลทำให้มีความผันผวนในระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 46,490 ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 47,180 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 47,880
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 45,070 แนวรับที่สองก็คือ 44,580 แนวรับสุดท้ายก็คือ 44,010
แนวโน้ม ของ btc กำลังเลือกทางนักวิเคราะห์และสื่อธุรกิจเริ่มจับตาแนวโน้มของ Bitcoin ที่อาจจะหมดแรงลง กลายสภาพจากจากตลาดกระทิงกลายเป็นตลาดหมี
เริ่มจากสำนักข่าว Bloomberg ที่รายงานว่าจนถึงกางสัปดาห์นี้ Bitcoin ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความสับสนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาวะที่ยังไม่สามารถอธิบายได้และตอนนี้นักลงทุนต่างก็จับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของมันที่มีความผันผวน
ก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ของ JPMorgan Chase & Co. นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าวว่าสองสามครั้งที่ผ่านมาพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของราคาใน Bitcoin ในเชิงลบ แต่ผู้ซื้อกลับมากอบกู้สถานการณ์ทันเวลาเพื่อป้องกันการตกต่ำที่ลึกลงไป แต่คราวนี้พวกเขากลับกังวล เพราะหาก Bitcoin ไม่สามารถกลับมาสูงกว่า 60,000 ดอลลาร์ในไม่ช้าสัญญาณ โมเมนตัมจะพังทลายลง
ด้าน Michael Purves จาก Tallbacken Capital Advisors ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวกับรูปแบบการซื้อขายของ Bitcoin พบว่าจุดสูงสุดล่าสุดของ Bitcoin ไม่ได้อิงกับดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (Relative strength index - คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแผนภูมิจุดแข็งหรือจุดอ่อนในปัจจุบันและในอดีตของหุ้นหรือตลาดโดยพิจารณาจากราคาปิดของช่วงเวลาการซื้อขายล่าสุด) และเหนือสิ่งอื่นใดและโมเมนตัมที่พุ่งสูงของมันกำลังจางหายไป
เว็บไซต์ของ Fortune ก็ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันโดยตั้งคำถามว่าตอนนี้ตลาดกระทิงของ Bitcoin สิ้นสุดลงแล้วหรือยังหลังจากพุ่งขึ้นมาถึง 700% นับตั้งแต่เดือนเมษายปีที่แล้ว? คำตอบก็คือ "อาจจะเป็นอย่างนั้น" David Z. Morris นักเขียนของ Fortune ให้เหตุผลว่า Bitcoin เป็นจำพวกหุ้นยุคการระบาดใหญ่ หรือ pandemic stock
ตัวอย่างของ pandemic stock เช่น Netflix ซึ่งเพิ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปรากฎว่ามีลูกค้าใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 3.98 ล้านคนหลุกจากเป้าคาดการณ์ 6.29 ล้านคนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นอกจากนี้ยังมี Zoom ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นลดลง 45% จากระดับสูงสุดตลอดกาลถึงปลายปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้บูมในช่วงการระบาดใหญ่เพระาเป้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการล็อคดาวน์หรือติดอยู่กับบ้าน และตอนนี้ถึงช่วงขาลงของพวกมัน
ไฟฟ้าถูกสุดๆ การขุดคริปโตจึงเป็นความหวังทำเงินของชาวเวเนซุเอลา
จับตา Solana คริปโตที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้
David Z. Morris ชี้ว่า Bitcoin ก็เข้าข่ายธุรกิจที่บูทในช่วงการระบาดใหญ่ เพราะมีหลักฐานวาชาวอเมริกันใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปซื้อ Bitcoin และนักลงทุนยังเข้ามาเล่นคริปโตเพราะติดอยู่กับล็อคดาวน์และเป็นการลงทุนมาแบบมาราธอนเพ 24 ชั่วโมงต่อวัน
Scott Minerd ซีไอโอของบริษัท Guggenheim ยังได้เตือนถึง“การปรับฐานครั้งใหญ่” ของ Bitcoin ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยอ้างว่า Bitcoin นั้น “มีฟองมาก” และเขาคาดการณ์ว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลจะลดลง 50%
เขาบอกกับ CNBC ว่า Bitcoin ไปไกลเกินไปเร็วเกินไป “ผมคิดว่าเราสามารถดึง Bitcoin กลับมาที่ 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ซึ่งจะลดลง 50% แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Bitcoin คือเราเคยเห็นการลดลงประเภทนี้มาก่อน”
อย่างไรก็ตาม Minerd ตั้งข้อสังเกตว่าเขาคิดว่าการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของ “วิวัฒนาการตามปกติของตลาดกระทิงในระยะยาว”
BTC มีโอกาศเบรค Trend Line เพื่อปรับตัวลงBTC ใน 4 วันที่ผ่านมา แท่ง Day ปิดแท่งลบติดต่อกันทั้ง 4 วัน วันนี้เข้าวันที่ 5 มีโอกาศเบรค Trend Line ปรับตัวลงระดับ 42000-41500 usd. เพื่อปิดแท่งแดงอีกวัน ได้เช่นกัน *แต่ถ้าไม่หลุดแนว Trend Line จะปรับตัวขึ้นที่ 46000-46600 usd **โปรดเทรดด้วยความระมัดระวัง**
BTC ปรับฐาน
ระยะ
หากไม่หลุดดีมานโซนแถว 42600 ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
แต่หากหลุดลงมาก็อาจจะปรับฐาน แถว 41000
=============================================================================================
*** ระบบเทรด demand supplyเป็นแค่การหาโซนที่ได้เปรียบในการเข้าออเดอร์ ส่วนการหจังหวะเข้าออเดอร์ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ของแต่ละคน***
*** บทวิเคราะห์เป็นแค่ไอเดียส่วนตัวนะครับ อาจถูกหรือผิดมีความเป็นไปได้ทั้งสอง โปรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลก่อนการลงทุนด้วยครับ
=============================================================================================
BTCUSD : Price on Key Levelจากบทวิเคราะห์ก่อนหน้าราคามีการฟอร์มตัวทำ motive ชุดใหม่ขึ้นมาตามที่มองเอาไว้
จากสถานะคลื่นปัจจุบัน สามารถเป็นได้ 2 แบบคือ
1. ย่อตัวทำคลื่น 4 เพื่อขึ้นคลื่น 5 (คอนเฟิร์มขาขึ้น)
2. กำลังจะฟอร์มตัวเป็นขาลง เพราะชุด motive ที่ขึ้นมาเป็นเพียงคลื่นย่อยของ Flat ใน wave b ที่กำลังฟอร์มตัวขาลงต่อ
คาดการณ์ว่าถ้าราคาเบรคไฮ 44000 ลงมาได้อย่างน้อยก็ถือเป็นการคอนเฟิร์มขาลงได้ระดับนึง
BTC เบรค High เดิม สร้าง New High BTC เบรค High เดิม สร้าง New High จากแนวต้านจะเป็นแนวรับทันที ที่ระดับ 46500 - 46700 usd ในเบื้องต้นมองขึ้น ย่อมาที่แนวรับก่อนค่อยขึ้น หรืออาจจะวิ่งขึ้นเลย เพื่อไปแนวต้าน 49800-50000 usd
*แต่ถ้ายืนแนว 46500 usd ไม่ได้จะหลุดลงมาที่แนวรับถัดไปที่ 44000 usd หรือจะเปลี่ยนเทรนด์รออัพเดทต่อไป
BTC GO!! 😱😱😱ใน TF Week ของราคา BTC
ทะลุแนว 39020.00 แล้ว (แนวสีขาว) 😍😍
ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นแนวที่มีสถานะเป็น "แนวต้านสำคัญ"
ใน TF Week มาตลอด 😍
มีโอกาสที่จะวิ่งขึ้นต่อไปหาแนว 40,500 (แนวสีฟ้า) 😍
ซึ่งเป็นแนวเงื่อนไขสำคัญ
และ ถ้าหากทะลุแนว 40,500 ไปได้ 😍
ก็อาจจะแปลว่า
มีโอกาสที่ราคาจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นของอีกครั้ง 😍
มาดูกันครับ อีกหนึ่งช่วงสำคัญของ BTC 😍
จะได้เฮอีกครั้งแล้วหรือเปล่า 😍
#นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน
กรุณาศึกษาก่อนให้ดี นำไปลงนะครับ 😍
#MarkNarathip
Stable Coins จำเป็นต้องมีกฎระเบียบPowell กล่าวว่า Stable Coins จำเป็นต้องมีกฎระเบียบเพื่อปกป้องสาธารณะของสหรัฐอเมริกา
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหรียญที่มีเสถียรภาพ และพวกเขาต้องการกฎระเบียบเพื่อความปลอดภัย
Powell บอกกับคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาเมื่อวันพุธว่าเหรียญที่มีเสถียรภาพนั้นคล้ายกับกองทุนตลาดเงินหรือเงินฝากธนาคาร “แต่ไม่มีข้อบังคับ”
“เรามีประเพณีในประเทศนี้ที่เงินของประชาชนถูกเก็บไว้ในสิ่งที่ควรจะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมาก เรามีกรอบการกำกับดูแลที่รัดกุมเกี่ยวกับเงินฝากธนาคาร เช่น กองทุนตลาดเงิน นั่นไม่มีอยู่จริงสำหรับเหรียญที่มีเสถียรภาพ” เขากล่าวในระหว่างการให้การเป็นพยานครึ่งปีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ
จากปัจจัยนี้ส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโต มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสกุลเงินบิทคอยน์ ซึ่งในรอบวันมีการปรับตัวลงถึง -4.58% อยู่ในระดับต่ำกว่า 32,000 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์ ดังนั้นปัจจัยนี้อาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงทะลุ 31,228 ลงมาได้แนวรับที่สองก็คือ 30,257 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 29,222
แต่ถ้ามีการขยับตัวขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 31,860 แนวต้านที่สองก็คือ 32,100 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 32,509
ปัจจัยเสี่ยงของสกุลเงินบิทคอยน์ในระยะสั้น : ยังคงต้องติดตามปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกับการจำกัดของสกุลเงินดิจิตอลซึ่งต้องจับตาดูทั้งในส่วนของหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานของเอกชนที่ยังคงจำเป็นจะต้องให้ความเชื่อมั่นกับสกุลเงินดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง