บิตคอยน์ (สกุลเงินดิจิตอล)
BITCOIN ทะลุ 61,000 ไปแล้ว เฝ้าติดตามดูเหมือนว่าราคา Bitcoin นั้นจะพุ่งทะลุระดับ 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน อ้างอิงข้อมูลจากเว็บเทรด Bitstamp การพุ่งขึ้นของราคาในวันนี้ ทำให้เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกอยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียงแค่ 7% เท่านั้นจากระดับ 64,804 ดอลลาร์ ของเมื่อวันที่ 14 เมษายน ในขณะเดียวกันมูลค่าตลาดของ Bitcoin ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ การพุ่งขึ้นของราคาล่าสุดนี้เกิดขึ้น หลังจากสื่อข่าวระดับ Bloomberg ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีท่าทีต่อต้านกองทุน Bitcoin ETF Future และนั้นหมายความว่ากองทุน Bitcoin ETF แบบ Future ตัวแรกน่าจะเปิดให้เริ่มมีการซื้อขายกันภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าราคานั้นจะพุ่งทำลายจุดสูงสุดเป็นประวัตการณ์ที่เคยทำไว้เมื่อเดือนเมษายนได้หรือไม่ แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้ราคา Bitcoin ของเว็บกระดานเทรดเหรียญคริปโตในไทยพุ่งทะลุ 2 ล้านบาทไปแล้ว
BINANCE:BTCUSDT
บิตคอยน์ร่วงบิตคอยน์ร่วงกว่า 600 ดอลล์ หลังซีอีโอเจพีมอร์แกนระบุบิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ราคาบิตคอยน์ร่วงกว่า 600 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ หลังจากนายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส กล่าวว่า "บิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า"
นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนได้แสดงความเห็นในการประชุมของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เมื่อวานนี้ว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า บิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า ผมไม่ต้องการเป็นกระบอกเสียงให้กับบิตคอยน์ และผมไม่สนใจที่ตัวเองคิดต่างจากคนอื่น"
การแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่า นายไดมอนยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อบิทคอยน์ โดยก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวในการประชุม "Delivering Alpha " ซึ่งจัดโดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สกุลเงินบิตคอยน์เป็นเรื่องของการหลอกลวง ไม่ใช่เรื่องจริง และท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องปิดฉากลง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า เจพีมอร์แกนซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ได้จัดตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้าในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
นายไดมอนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ลูกค้าของผมล้วนเป็นผู้ที่มีวัยวุฒิ หากพวกเขาต้องการเข้าซื้อบิตคอยน์ ซึ่งเราไม่สามารถคุ้มครองได้ แต่เราสามารถช่วยให้พวกเขาซื้อขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะทำได้"
การวิเคราะห์ของราคา
ราคาบิทคอยน์ยังคงทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในรอบวันมีการปรับตัวขึ้น +0.20% และอาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นประเด็นนี้อาจจะส่งผลทำให้มีการขยับตัวสูงขึ้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 57,870 แนวต้านที่สองก็คือ 59,450 บาทแนวต้านสุดท้ายก็คือ 60,900
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 56,210 แนวรับที่สองก็คือ 54,740 แนวรับสุดท้ายก็คือ 53,920
Bitcoin ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวล EvergrandeBitcion ปรับตัวลงต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลวิกฤติ Evergrande
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง 16.23% ซึ่งมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลของวิกฤติ Evergrande ซึ่งมีการปรับตัวลงไปพร้อมกันกับดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวร่วงลงและดูเหมือนว่าอาจจะมีการย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าสกุลเงินบิทคอยน์อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นแต่ต้องจับตาดูว่าในส่วนของวิกฤติ Evergrande ที่จำเป็นจะต้องจับตาดูการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนนี้จะมีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ชี้นำคลิปโตครินทร์ซี่และสกุลเงินบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องจึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
โดยสกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง -2.07% ในรอบวันและอาจจะมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามถ้ามีการเกิดวิกฤติในครั้งนี้และอาจจะเป็นวิกฤติในระยะสั้นนั้นอาจจะมีการปรับตัวย่อตัวลงอีกครั้งจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงโดยเฉพาะการทะลุผ่าน 42,390 ลงมาแล้วแนวรับที่สองก็คือ 41,674 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 40,510
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 43,490 แนวต้านที่สองก็คือ 45,060 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 45,070
BTC พักตัวระยะสั้นสกุลเงินบิทคอยน์ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นตามสกุลเงินคลิปโต
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หลังจากที่สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างหนักโดยปัจจัยหลักยังคงมีความกังวลของ เชื่อไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลอย่างมากส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดและทำให้ ตลาดคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามตลาดคลิปโตโดยเฉพาะปัจจัยที่อาจจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาอีกต่อเนื่องอาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการฟื้นตัวขึ้นแต่อย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาได้หรือไม่ดังนั้นจับตาดูมาตรการต่างๆในสหรัฐอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกันดังนั้นในการปรับตัวร่วงลงในหลายวันที่ผ่านมาอาจจะส่งผลทำให้มีแรงหนุนทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นอย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าในการหนุนขึ้นในครั้งนี้อาจจะส่งผลทำให้มีความผันผวนในระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 46,490 ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 47,180 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 47,880
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 45,070 แนวรับที่สองก็คือ 44,580 แนวรับสุดท้ายก็คือ 44,010
Stablecoin อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
บริษัทสกุลเงินดิจิทัล Circle อ้างว่าเหรียญ Stablecoin หรือ USD Coin ได้รับการสนับสนุน 1:1 ด้วยดอลลาร์จริงในบัญชีธนาคาร
ในเดือนกรกฎาคม มีการเปิดเผยว่าสิ่งนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป โดย Circle เปิดเผยใน “คำรับรอง” จากผู้ตรวจสอบบัญชี Grant Thornton ว่าเงินสดคิดเป็นกว่า 60% ของทุนสำรองของ USD Coin อีก 40% ได้รับการสนับสนุนจากตราสารหนี้และพันธบัตรรูปแบบต่างๆ
เงินสำรองของ Stablecoin มีความสำคัญอย่างไร สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ คือความจริงที่ว่าพวกเขากำลังผูกติดอยู่กับสกุลเงินที่มีอยู่เช่นดอลลาร์สหรัฐหรือยูโร จุดมุ่งหมายคือการหลีกเลี่ยงความผันผวนที่มักพบใน bitcoin และ cryptocurrencies ที่สำคัญอื่น ๆ
Circle กล่าวว่ากำลังเปลี่ยนแปลงการสำรองของ USD Coin อีกครั้งด้วยเงินสดและพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรากฐานของ Stablecoin
การคาดหวังในครั้งนี้?
Centre ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งโดย Circle และบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต Coinbase ซึ่งพัฒนาเหรียญ stablecoin เปิดเผยการเปลี่ยนแปลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“โดยคำนึงถึงความรู้สึกของชุมชน ความมุ่งมั่นของเราต่อความไว้วางใจและความโปร่งใส และแนวกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป Circle ด้วยการสนับสนุนของ Center และ Coinbase ได้ประกาศว่าขณะนี้จะถือสำรอง USDC ทั้งหมดเป็นเงินสดและคลังของสหรัฐฯ ในระยะเวลาอันสั้น” ศูนย์ กล่าวในโพสต์บล็อก “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วและจะแสดงให้เห็นในการรับรองในอนาคตโดย Grant Thornton”
การวิเคราะห์ของราคา
ในส่วนของสกุลเงินดิจิตอลมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทั้งในฝั่งของปัจจัยในส่วนที่กล่าวมาข้างต้นประกอบกับในส่วนของอาจจะมีการเข้าซื้อของบริษัทอื่นของสกุลเงินดิจิตอลส่งผลทำให้สกุลเงินดิจิตอลทั้งหมดมีการฟื้นตัวขึ้นประกอบกับสกุลเงินบิทคอยน์มีการฟื้นตัวขึ้น โดยในรอบวันมีการฟื้นตัวขึ้น +0.88% อยู่ในระดับประมาณ 49,700 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งบิดคอยจับตาดูว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการฟื้นตัวขึ้นทะลุ 49,720 ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 50,430 และแนวต้านสุดท้ายก็คือ 51,270
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 49,260 แนวรับที่สองก็คือ 48,280 แนวรับสุดท้ายก็คือ 47,800






















