รวมข้อผิดพลาดต่างๆ ที่ผมเจอมา ตลอดปี 2019รวมข้อผิดพลาดต่างๆ ที่ผมเจอมา จากการเทรด ทั้งคริปโต และ Forex สรุปมาเป็น note ทิ้งไว้ ย้ำเตือนตัวเอง และ ให้คนอื่นได้ศึกษากันนะครับ
หลายๆ เรื่องอาจจะต้องมีการพาดพิงออกไปกระทบคนโน้นคนนี้บ้าง ถ้าทำให้ใครไม่ค่อยพอใจ ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
1) การ Overtrade อาจจะทำกำไรได้เยอะ ในช่วงแรก แต่พอเราชะล่าใจ..มักจะลงเอยด้วยความหายนะ
2) ช่วง Sideway ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปก่อน หรือเทรดให้น้อยลง เพราะสัญญาณหลอกเยอะมาก
3) ห้ามเทรดเอาคืน ( Revenge Trade ) เพราะมันคือหนทางสู่ความหายนะ
4) บอทใดๆ ก็ตาม มันจะมีช่วงทำกำไรได้ง่ายๆ และช่วงที่เปิดไปก็เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้ง ต้องระวังให้ดี
5) กลยุทธ Bot หรือ EA แบบ Martingale ยังไงก็ตาย เพราะเงินเราไม่ได้มีแบบเป็นอนันต์
6) ก่อนใช้กลยุทธใดๆ ก็ตาม อย่างน้อย ควรเขียน Backtest ดูซะก่อน ว่าทำกำไรได้จริงๆ ( ถ้าเขียนไม่ได้ก็ควรนั่ง Backtest มือ แบบไม่ Bias )
7) อีโก้ และการพยายามที่จะเอาชนะตลาด ว่าตลาดจะเป็นไปอย่างที่เราคิด คือหนทาง สู่หายนะ
8) บางที การนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะได้กำไรกว่าไปพยายามจะเทรดหาตังทุกวัน
9) มือใหม่ มักจะไม่ค่อยกล้าซื้อตอนตลาดเงียบๆ และมักจะไปกล้าซื้อกันตอนราคาขึ้นไปแล้วสูงๆ เสมอ
10) คิดถึงเรื่อง ความเสี่ยง ก่อนเสมอ ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องกำไร
11) อยู่รอดให้ได้ก่อน อย่างน้อยสักปี หรือสองปี เพื่อเรียนรู้ตลาด แล้วค่อยทำกำไร
12) ดอยได้ไม่ผิด ถ้าเรารู้ว่า ความเสี่ยงเราอยู่ตรงไหน แค่ไหน และจุดที่เราจะยอมแพ้ ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราคิด อยู่ตรงไหน
13) ถ้าเราไม่แน่ใจในทิศทาง ก็ไม่ต้องเทรดก็ได้ นั่งดูข้างสนามก่อนก็ได้ บางทีการไปรีบเข้าๆ ออกๆ ในจุดที่ไม่ค่อยจะสวย ก็เหมือนเราโยนหัวก้อย
14) อย่าเอาเงินเยอะๆ มาเล่น เพราะยิ่งเงินเยอะ เวลาเราผิดทาง แล้วมันจะเจ็บหนัก โดยเฉพาะมือใหม่ ให้เริ่มด้วยเงินน้อยๆ สั่งสมประสบการณ์ไปก่อน ถ้าเก่งแล้วค่อยเพิ่มเงิน
15) ห้าม All-in ถ้ายังไม่รู้ว่าเราเสี่ยงแค่ไหน
16) ถ้ารู้ว่าผิดทาง ต้องคัท อย่าเสียดาย อย่าดื้อ เพราะถ้าปล่อยไหล บางทีแทนที่เราจะได้คัทนิดเดียว กลับต้องคัทแบบเจ็บหนัก
17) เหรียญซิ่ง ขึ้นลงวันละเป็น 10-20% เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพราะอย่าลืมว่า ถ้ามันขึ้น +20-30% ต่อวันได้ มันก็ลง -20-30% ต่อวันได้เช่นกัน ( ถ้าจะเสี่ยง ต้องแบ่งเงินมาเสี่ยงดีๆ )
18) การ hodl เหรียญผิด แล้วหวังลมๆ แล้งๆ ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้งน้ำ .. ถ้าจะเชื่อแบบนั้น ก็ต้องมองว่า เงินก้อนนี้คือเงินที่เราเอาไปโยนทิ้งน้ำ เพื่อพิสูจน์ความเชื่อบางอย่างของเรา(หรือของกูรูที่เชียร์) ให้ตีว่ามันหายไปแล้ว ตั้งแต่เราไปซื้อเหรียญนี้
19) Money Management สำคัญกว่าสัญญาณเข้าออกเยอะ
20) อย่าพยายามเล่น Timeframe เล็ก ถ้าคุณดูกราฟเองไม่เป็น ( เช่นตามกูรูห้อง VIP ) เพราะ กว่าคุณจะเข้าจะออก กูรูเขาก็อาจจะทำกำไร และออกไปเรียบร้อยแล้วจ้า
21) พื้นฐานการเทรด สำคัญมากๆ อย่างน้อยก็ต้องดูกราฟเป็น และคำนวณ Risk เป็น อย่าเพิ่งใจร้อน ต้องค่อยเป็นค่อยไป
22) มือใหม่ ยังไงต้องเสียตังในช่วงแรกๆ อยู่แล้ว แต่เราต้องให้เงินที่เราเสียไปนั้น ให้ประสบการณ์กับเรามาให้ได้ เพราะจะได้ไม่ผิดซ้ำที่จุดเดิมอีก
23) อย่าพยายามฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ มาก จนสับสน ให้รับฟัง แล้วมาประมวลผลด้วยตัวเอง แล้วตัดสินใจด้วยตัวเองเท่านั้น
24) อย่าไปเชื่อกูรูที่อวดตัวเลขมาก เพราะกว่าเขาจะผ่านมาถึงจุดนั้นได้ เขาผ่านอะไรมาเยอะมากๆ ประสบการณ์เรากับเขาไม่เท่ากัน ... อย่าไปพยายามเล่นให้ได้อย่างเขา... ให้เล่นใน speed ที่เราพอใจ และเรียนรู้แนวคิดของเขากันไป
25) การนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย เพื่อรอจังหวะที่ดีนั้น บางที มันยากมากๆๆๆๆๆ ที่สุด
26) ต้องแยกให้ออก ระหว่างพอร์ตที่ใช้ลงทุน และพอร์ตเล่นพนัน เพราะการพนัน ก็จะมีโอกาสหมดตัวเสมอ
27) คนที่มาเทรดอะไรก็ตาม ส่วนใหญ่ 90% มักจะแพ้ และสูญเสียเงินไปจนหมด ใน 3 เดือนแรก จะมีแค่คน 10% เท่านั้นที่พอจะอยู่รอดได้และพอมีกำไร ( ก็คือเงินของคนที่เจ๊งน่ะแหละ )
28) จะเข้ามาลงทุน หรือเทรด ก็ควรทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานให้เข้าใจซะก่อน ให้เวลากับมัน ศึกษาหาความรู้ก่อนเยอะๆ อย่าเป็นคนขี้เกียจและมักง่าย ความรู้ฟรีในอินเตอร์เน็ตมีเยอะแยะ
29) ถ้าอยากลองเล่น future หรือ margin ให้ลองด้วยเงินน้อยๆ ก่อน เพื่อทำความเข้าใจระบบ ไม่ต้องรีบ รวย เพราะคุณต้องเจ๊งก่อนแน่นอน .. เจ๊งด้วยเงินน้อยๆ ย่อมดีกว่า
การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
แนวทางการลงทุนใน BTC แบบระยะยาว และไม่ต้องดูกราฟหลายๆ คนกลัวกันมาก ว่า BTC ลงแล้ว จะดอยหนัก
ผมเลยทำแนวรับ ตามแนว fibo
อ้างราคา bx ให้เลย
เพื่อให้เป็น guideline สำหรับมือใหม่
ได้วางแผนรับมือกันครับ
==============
ตัวอย่าง ทุน 100,000 บาท
ให้คิดว่า เงินหล่นหายไปแล้ว เหลือ 0
แบ่ง 5 ไม้ ไม้ละ 20,000 บาท
ไม้ 1 : 295000 ได้ = 0.0677 BTC
ไม้ 2 : 250000 ได้ = 0.08 BTC
ไม้ 3 : 205000 ได้ = 0.0975 BTC
ไม้ 4 : 175000 ได้ = 0.1142 BTC
ไม้ 5 : 142000 ได้ = 0.1408 BTC
ถ้าได้ครบ 5 ไม้ จะได้มาทั้งหมด = 0.5 BTC
โดยราคาต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 200,000 บาท ต่อ 1 BTC
=============
กรณีขึ้นต่อ ไปทำเวฟ 3
=============
การย่อถึงไม้ 5 คือจุดสุดท้ายที่ควรหยุด เพราะจะย่อลงมาถึง 78.6-88.7 fibo ตามทฤษฏีเวฟ
โดยถ้าลงมาถึงตรงนี้ จะมี potential ที่จะดีดไปทดสอบ High เดิม แถวๆ 673000 ได้ ( เป้าของเวฟ 3 )
ถ้าต้นทุนเรา 200,000 ต่อ BTC ดังนั้น เราจะมีกำไร = 236% ( 673000*0.5 = 336500 )
==============
กรณี fail หลุด low เดิม 3200 ( 104500 )
==============
ในเคสที่ ไม้ 5 ก็เอาไม่อยู่ ก็จะเป็นการไปทดสอบ low เดิม ที่ 3200 ( 104500 )
ณ จุดนั้น เราจะยอมโดด หรือจะไปขุดเงินมาถัวเพิ่มก็ได้ แล้วแต่เรา
โดยถ้าถัว จุดที่น่าสนใจจะเข้าก็คือ 104500 และ 79000 ตามลำดับ
กรณีเพิ่มทุนอีก 40,000 บาท เพื่อถัว
กลายเป็นต้นทุนทั้งหมด 140,000 บาท
ในเคสนี้ เราจะได้ต้นทุนเท่ากับ
ไม้ 6 : 104500 ได้ = 0.1913 BTC
ไม้ 7 : 79000 ได้ = 0.2531 BTC
รวมทั้งหมด = 0.9444 BTC
ในราคาทุน = 148000 บาท ต่อ 1 BTC
ในกรณีนี้ เราก็สามารถลุ้น High ใกล้ๆ เดิมได้เหมือนกัน หรือจะมองเป็นภาพยาวๆ เลยก็ได้
พูดง่ายๆ คือ ถ้ามันขึ้นไปจริง ยังไง โอกาสที่เราจะได้กำไรก็สูงมากๆ เอาแค่ทดสอบ High เดิม ที่ 430000 เราก็ได้กำไรตั้ง 266000 บาทแล้ว
==========
สรุป
==========
อย่าไปกลัวมากจนเกินไป ไม่มีใครซื้อที่จุดต่ำสุดได้พอดีหรอก
ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องกราฟ หรือไม่อยากคิดมาก การแบ่งโซนแล้วเข้าซื้อไปตามแต่ละจุดสำคัญๆ ก็เป็นอะไรที่ง่ายดี
แต่ถ้าคุณจะใช้วิธีนี้ สิ่งสำคัญ ที่คุณต้องปรับ mindset ให้ได้ ก็คือ นี่คือการลงทุน "ระยะยาว" ไม่ใช่การเล่นสั้น หากำไรรายวัน
การขึ้น หรือลง ของ BTC ต่อจากนี้ มันอาจจะใช้เวลาเป็นปีๆ ก่อนจะไปต่อก็ได้ ไม่มีใครรู้
หรือแย่กว่านั้น มันก็อาจจะไร้ค่าไปเลยก็ยังได้..
สิ่งสำคัญก็คือ การที่เราเอาเงินที่เราคิดว่า "เสียได้" มาซื้อสะสม เท่านั้น .. อย่าไปเที่ยวเอาเงินร้อน หรือเงินกู้ มาเล่น เด็ดขาดครับ
หลักการบริหารเงินลงทุน (Money Management) สำหรับผู้เริ่มต้นสวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำการบริหารเงินลงทุนด้วยระบบ T-L-S Trend-Level-Signal
จากประสบการณ์ของผม ได้พบว่ามี Trader หลายๆคนที่มีปัญหาการลากพอร์ทให้ติดลบ ตรงข้ามกับคำพูดที่ว่า
"Let's the profit run, cut the losers lose"
กลายเป็น
"Let's the losers run, cut the profit lose"
หลักการลงทุนในตลาดทั่วๆไป เรามักจะได้ยินคำว่า "ในการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทั้งหมด"
แต่ในความเป็นจริง เรากลับได้ยินคำว่า "จงคำนวณว่าเงินในพอร์ทของเรา ใช้ maximum lot size ได้เท่าไร"
Standard lot จริงๆคือ 100,000 USD ต่อ 1.00 Lot
หากคุณลงทุนตามหลักการ นั่นหมายความว่าในการเข้าออเดอร์เทรดแต่ละครั้ง จุด stop loss ของคุณต้องห่างไม่เกิน 200 จุดสำหรับการลงทุน 1 standard lot
เมื่อคุณมีเงินไม่ถึง 100K USD คุณต้องถามตัวเองว่า
ในการเทรดครั้งนี้ "ฉันอยากเสี่ยงจำนวนเงินเท่าไร คิดเป็นกี่%ของพอร์ท"
"จุด Target point ของฉัน ให้ Risk:Reward ratio เท่าไร"
*โดยทั่วไป Risk:Reward ratio ขั้นต่ำ ควรจะเป็น 1:3 เป็นอย่างน้อย หมายความว่า หากคุณมี SL 200 จุด TP คุณต้องอย่างน้อย 600 จุด
เห็นมั้ยครับ การใช้หลัก common sense ที่ถามตัวเองว่า การลงทุนครั้งนี้ อยากเสียเงินเท่าไร จะนำไปสู่การ manage เงินที่สำคัญคือ
"จะใช้ Lot เท่าไรดี?
การจะตอบคำถามนี้ได้นั้น
1. เราจะ "ซื้อ" หรือ "ขาย"
เรากำลังเล่น "go with the trend" หรือเล่น "counter trend" เรากำลังตามเทร็นด์ใน Time frame ใหญ่ หรือสวนเทร็นด์
2. เราต้องรู้ก่อนว่าจุด stop loss เราอยู่ตรงไหน จุด target point เราอยู่ตรงไหน
การที่จะรู้ได้นั้น เราต้องรู้ว่า key level ที่ราคาของ asset ที่เราลงทุนจะกลับตัวที่จุดไหน โดยการหาจุดเหล่านี้มีหลายวิธี ไม่ว่าจะลาก Trend line, ใช้ Fibonacci, หรือนับ Elliot wave
3. เราต้องรอ "สัญญาณ" ตรงนี้สำคัญมากๆ ครับ ท่องไว้เลย "ไม่มีสัญญาณฉันจะไม่เข้า"
Level ทั้งหลายที่เราหาได้จากเครื่องมือต่างๆ ไม่มีใครบอกได้ว่าถูกหรือผิด สิ่งที่่จะบอกได้ว่าถูกหรือผิด คือ สัญญาณการกลับตัว
สัญญาณการกลับตัวสามารถหาได้จากเครื่องมือหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น indicator เช่น RSI divergence หรือ candlestick เช่น Pin bar หรือ reversal pattern เช่น Head and shoulder, diamond top and bottom etc.
แต่สัญญาณทั้งหมดนี้จะเชื่อไม่ได้เลย หากไม่ได้เกิดบน "key level" ข้อนี้สำคัญมาก หากไม่ถึง key level ไม่ต้องมองหา divergence ครับ ไม่มีประโยชน์
สัญญาณที่จะให้จุด stop loss ของเรามีตั้งแต่ candle 1 แท่ง เช่น Pin bar หรือสัญญาณแบบกลุ่ม เช่น reversal pattern
ตัวอย่าง
1. เมื่อเกิด Pin bar บนแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ โดยมีขนาดของแท่ง candle 200 จุด นั่นหมายความว่า หากคุณโชคดีพบสัญญาณการกลับตัวตอนกำลังเกิดพอดี คุณจะได้ตำแหน่ง stop loss ที่ 200
2. Pattern เช่น Head and shoulder จะมีจุด stop loss ตามทฤษฎี ซึ่งอยู่นอกเหนือscope ของโพสนี้ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
เมื่อคุณได้
1. Trend จะซื้อหรือขาย
2. Level ราคามาถึงเลเวลที่คุณวิเคราะห์แล้ว
3. เกิดสัญญาณกลับตัวแล้ว
ถึงจุดนี้ ถามตัวเองตามนี้ครับ
"คุณอยากเสียเงินเท่าไรหากคุณวิเคราะห์ผิด"
"จุด Target ของคุณคือเท่าไร คุ้มเสี่ยงมั้ย R:R เป็นเท่าไร"
คำนวณ Lot size จากจุด SL ครับ ถามตัวเองบ่อยๆ "อยากเสียเงินเท่าไรหากวิเคราะห์ผิด"
เรามาดูตัวอย่างกันครับ
GBP/USD major forex pair ผมคำนวณหา key level ด้วยวิธี Fibonacci แล้วพบว่าแนวต้าน/รับที่แข็งแกร่งคือ 1.302
เมื่อราคาได้ทะลุลงมาใต้ 1.302 มันจะกลับไปเทส เพราะฉะนั้น Trend คือ ขาย
จากภาพจะเห็นได้ว่า เมื่อราคาเข้าใกล้ 1.302 ได้มีการส่ง "signal" ในรูปแบบของ Pin bar อันเล็กๆ ที่มีความยาวประมาณ 170 จุด
นี่คือ SL ครับ 170 จุด
แนว target ที่ผมคำนวณได้มี 2 จุดคือแนว Fibonacci ขนาดกลางบริเวณ 1.292-1.290 และแนว Fibonacci ขนาดใหญ่ ที่ 1.286-7
หมายความว่า Pin bar signal ที่เกิดขึ้นบน Key level 1.302 มี SL 170 จุด โดยมี
Target แรกที่ 1.292 (1000 จุด) และ
Target ที่ 2 ที่ 1.287 (1500 จุด)
SL ผม 170 จุด นั่นหมายความว่าการเทรดนี้ R:R อยู่ที่ 1:5 หรือ 1:7
สำหรับผม คุ้มเสี่ยงครับ
ถ้าคุณมีเงิน 100k usd คุณเล่น 1 lot เสี่ยงเงิน 170 usd (0.17% ของพอร์ท) แรกกับโอกาสกำไร 1000 usd (1%)
"คุณยอมเสี่ยงมั้ย?"
มาดูกันต่อครับ
ราคาได้มาทำการหยุดพักที่แนว Fibo เล็กๆที่ 1.292 ก่อนที่จะลงไปต่อที่แนวใหญ่ที่ผมคิดไว้ คือ 1.286-7
หากคุณเข้าเทรดครั้งนี้ คุณจะกำไรไปแล้ว 1-1.5% ด้วยการเสี่ยงเงิน 0.17%
หลังจากนั้นราคาได้ทำการส่ง "สัญญาณ" กลับตัว ในรูปของ Bullish diver อันเล็กๆ (ผมเทรด MT4, บนมือถือผม มีสัญญาณ Bullish Pinbar อันใหญ่เกิดขึ้นที่ 4 hr ครับ)
พร้อมทั้งทำ Bullish engulfing pattern
เมื่อพิจาณาจากสัญญาณแล้ว ผมมีจุด SL ตรงนี้ 1-200 จุด หากผมคำนวณ target ด้วยวิธีต่างๆ แล้ว R:R มากกว่า 1:3 ผมก็จะเข้าเทรดครับ
จะเห็นว่า หากเราทำการบ้าน หา key level มาดี
เราเฝ้า "รอ" สัญญาณบน key level
เราทำการบ้านวิเคราะห์ trend มาอย่างดี
เราจะได้ตำแหน่งเข้าที่ดี มี R:R เหมาะสม
"ไม่มี" คำว่าลาก แล้วเราจะไม่เครียด ไม่ต้องเพิ่มไม้โดยไม่จำเป็น
เพราะการที่ปล่อยให้เกิดการ "ลาก" แสดงว่าคุณไม่ได้ทำการบ้าน ไม่มี level ในใจ ไม่มีจุดเข้าจุดออกก่อนซื้อขาย
อยากดอย แนะนำไปดอยหุ้นครับ อย่ามาดอย Forex
Trend-Level-Signal และ Target คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับ Money management ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากคุณใช้หลักการ Money management นี้ การออก order ของคุณจะลดลง และกำไรจะเพิ่มขึ้น
แต่คนที่จะไม่แฮปปี้คือ Broker หรือ Introducing broker ของคุณครับ
เพราะว่าหลักการหาเงินของคนพวกนี้คือ
ทุกๆ order ที่คุณทำการวาง คนเหล่านี้จะได้ commission ครับ
เช่น คุณวาง order 1.0 lot introducing broker คุณจะได้เงินไปทันที 1 usd ครับ
หากคุณใช้หลักการบริหารเงินแบบที่ผมพูดมา คุณคิดว่าเดือนนึง คุณจะเหลือ order กี่ครั้ง
คนพวกนี้จะได้เงินจากคุณมากน้อยแค่ไหน ทำไม copy trade หรือการ clone หรือ bot ทั้งหลายจึงออก order ให้ถี่ๆ
คุณกำลัง "ถูกสูบเงิน" ครับ
การจะอยู่รอดได้ต้องหาความรู้ และเท่าทันผู้ไม่หวังดีทั้งหลายในตลาดครับ
ผมโดนมาหมดแล้ว อย่าทำพลาดแบบผมครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ของแถมก่อนจบโพสท์นี้ครับ
ทำไมคุณถึงไม่ควรติด "ดอย"
เรามักจะได้ยินคำว่า "คนรวยจะไม่ขายหุ้น เค้าจะซื้อหุ้นเพราะเค้าวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นนั้นมาดี ไม่มีวันล้ม เค้าจะเป็นเจ้าของบริษัท กินเงินปันผล เมื่อหุ้นลง เค้าก็จะซื้อเพิ่ม"
สำหรับผม ผมจะถามกลับว่า "ตกลงรวยแล้วเลยมาลงทุน" หรือว่า "มาลงทุนเพราะอยากรวย"
เอาดีๆครับ มันคนละเรื่องกัน
คนรวยที่ฉลาดเค้าก็จะไม่ Buy and Hold หรอกครับ มีงานวิจัยตีพิมพ์ออกมาเยอะนะครับ ว่าการวิเคราะห์ตลาด ซื้อขายด้วยการวิเคราะห์ Sector rotation สามารถเอาชนะวิธี Buy and hold ได้ 3-5 เท่า
การที่คุณยังไม่รวย แล้วมาลงทุน แปลว่า คุณอยากรวย
หากคุณไม่มี stop loss ไม่ทำการบ้าน ไม่หาเลเวล สิ่งที่จะเกิดคือ
"เงินจม"
สิ่งเหล่านี้คือ "Opportunity cost" มันคือค่าเสียโอกาส แทนที่จะเอาเงินไปวางไว้ในจุดที่มันงอกเงย กลับต้องมาลุ้นว่าเมื่อไรราคาสินทรัพย์จะกลับมาจุดเท่าทุน
ทำไมที่ปรึกษาทางการเงินของคุณถึงบอกว่า ให้ซื้อหุ้นทุกเดือน ถัวๆเฉลี่ยๆ เป็นการออม
ไม่ใช่เลยครับ
เค้าได้ค่า commission จากการซื้อขายทุกๆเดือนของคุณครับ
ถ้าเจอ Financial advisor ไหนแนะนำแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนครับ เค้าแคร์แค่เม็ดเงินที่เข้ากระเป็นเค้าเท่านั้นแหละครับ
ถ้าอยากรู้ว่า Financial advisor ที่แนะนำให้ซื้อหุ้นทุกเดือนมีความสามารถแค่ไหน ให้ถามว่า
"มีวุฒิ CMT มั้ยครับ" ถ้าไม่มี แนะนำให้ฟังหูไว้หูครับ
Happy Trading/Investing ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมได้ทำวิดีโอแนะนำการใช้ Fibonacci คร่าวๆไว้ตามนี้ครับ ในอนาคตอาจมีการอัพเดทได้ หากไม่อยากพลาดรบกวนกดติดตามครับ
Fibonacci part 1
Fibonacci part 2
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Trend ด้วย Elliot และ Fibonacci
XAUUSD อาจกลับเข้าสู่ Trend ขาลง ใน TF 1 Day นั้นราคาทองคำได้พักตัวถึง แนวต้านฟีโบนัชชีที่ 50.0 ซึ่งแสดงถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิด Lower Low ใหม่ ถึง 50 % ดังนั้นจึงตั้ง TP ที่ Low เดิมเพื่อให้มั่นใจว่าราคาควรที่จะถึงจุดนั้น ส่วน SL นั้นตั้งไว้ที่แนวต้านฟีโบนัชชีที่ 61.8 ซึ่งถ้าราคาทองคำขึ้นมากกว่านี้แสดงถึง Trend ขาลงนั้น ไม่แข็งแรงพอ อาจจะเกิด Trend ขาขึ้นที่สร้าง Higher High ใหม่ได้ ประกอบกับ Stochastic Oscillator ที่มีค่าน้อยกว่า 10 นั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า อาจจะเกิด Lower Low ใหม่ได้
TDEX Grid Idea การศึกษา- การ Short ควรใช้กำไรมาเป็นมาร์จิ้น และมีความเสี่ยงสูงกว่าด้าน Long ในระยะยาว หากสินค้ามีรูปแบบของการสะสมมูลค่า และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามเวลา (มูลค่าของเงิน เทียบกับมูลค่ารวมตลาดหุ้น) ตลาดหุ้นจะมีการเติมบริษัทใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่าเข้ามาแทน ทำให้โดยพื้นฐานจะเป็นแนวโน้มขึ้นในระยะไกล
- Position เป็นรูปแบบการหวังผลระยะยาว แต่สามารถนำมาผสมกับกริดได้ โดยตำแหน่งเดียวกันยิงสอง order
- แบคเทสได้ด้วย Excel โดยเขียนสูตรคำนวณทุนที่จะวางบนเส้นกริด
Grid Position Buy
ตัวอย่างการคำนวณ Back test Grid *หากยังไม่คิด spread swap commission Fee
ที่ราคา 10 บาท Position 1 : วางทุน 500 บาท 2 order หมายถึงได้สินค้า 500/10 = 50 unit / order
หากราคาไป 11 บาท ปิด 1 order กำไรคือ ส่วนต่างราคา * จำนวน unit คือ 1*50 = 50 บาท
หากราคาไป 9 บาท และใช้ CS วาง SL จริงที่ 0 order นี้จะไม่ทำงานต่อ แต่เปิด Position 2 แทน
ที่ราคา 9 บาท Position 2 : วางทุน 500 บาท 2 order หมายถึงได้สินค้า 500/9 = 55.55 unit / order
หากราคาไป 10 บาท ปิด 1 order กำไรคือ ส่วนต่างราคา * จำนวน unit คือ 1*55.55 = 55.55 บาท
ทุนสุทธิกรณีวางแบบดังกล่าว เฉพาะกริดคือ 500*จำนวนกริด
หากวางขอบเขตการเล่นถึง 0 จะมี 10 Grid หรือใช้ทุน 5000 บาท
ดังนั้น CF ระหว่างกริดจะประมาณ 10% +
ส่วนถ้าวางทุนอีกส่วนขนาดเท่ากันในเส้นเดียวกันแต่ถือแบบ Position snowball อัตราส่วนผลตอบแทนจะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่รองรับกรณีราคาพ้นเขต War zone ไปต่อ
*การออกแบบแผนโดยวางแผนจากราคาทั้งกระดาน เป็นความรู้ที่คุณต้านนำมาเผยแพร่ ซึ่งการออกแบบแผนการเล่นจะต่างกันไปตามมุมมองกับไอเดียของบุคคล
บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 24 - 31 ธันวาคม 2561ช่วงนี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายของปี เลยรวบเป็นอันเดียวกันครับ
และก็ไม่ค่อยได้เทรดเท่าไหร่ มีแต่เก็บตกตัวเก่าๆ
คือ
ทนถือ ทองต่อไป Buy เลื่อน sl ไป เพราะเรากินกำไรออกมาก่อนแล้ว ที่เหลือก็ไม่ต้องเดือดร้อนอะไร
ส่วน USDMXN ตัวนี้ไม่ค่อยทำอะไรมาก ก็ชน TP เพียงแต่ต้องอดทนรอ
ส่วน AUDJPY ตัวนี้ ตัดขาดทุนไปเลย เนื่องจาก ตัวนี้ผิดแผนตั้งแต่ครั้งแรก แล้วไม่ได้ติดตาม จึงต้องยอมรับ จริงๆ จะแก้แผนการเทรดนี้ได้
แต่มองว่า เสียเวลา มีกำไรจากส่วนอื่นๆค่อนข้างเยอะมาก ก็ปิดไปดีกว่า
ส่วน USDCAD ก็ถือยาวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทำไรมาก
มีเปิดตัวใหม่ที่ ถือยาว อีกตัวคือ AUDNZD
ในไอเดีย ทุกตัวที่เหลืออยู่ คือกำไรทุกตัวและถือยาว ดังนั้น เพื่อจะได้ไม่สับสน ผมจะหยุดการอัพเดทตัวเก่าๆของปี 2018
และไปบันทึกส่วนตัวแทน
ส่วนของปีใหม่ 2019 ก็จะเป็นไอเดีย เฉพาะชุดใหม่ไปเลยครับ
^ ^
8-11 AUDJPY Buy Close -500 จริงๆตัวนี้ ราคากำลังเด้งขึ้นมา แต่ไม่อยากเสียเวลาเลยตัดขาดทุน เพราะได้กำไรจากตัวอื่นๆ เช่นทองมาเยอะ เลยปิดตัวนี้ดีกว่าครับ จะได้เริ่มใหม่
3-12 XAUUSD Buy Open 510 ตัวนี้ ชน TP2 และไปต่อ ราคาเริ่มลงแต่เราทำกำไรออกไปบ้างแล้ว ถือต่อที่ be
4-12 USDMXN Sell Close 8652 TP
12-12 EURAUD Buy Open 445 ทดสอบระบบ indicator ราคาเริ่มลง มีการปิดไปก่อนหน้าที่ TP1
13-12 USDCAD Buy Open 275 ทดสอบระบบ indicator
21-12 XAUUSD Buy Close 0 ตัวนี้ต้นทุนแพงไป ปิดไปก่อนที่ be
21-12 XAUUSD Buy Open 193
21-12 XAUUSD Buy Open 247
22-12 EURUSD Buy Open 71 ปิดก่อน ไปครึ่งนึงที่ 60 pips
24-12 EURNZD Buy Close 102.7 TP
การศึกษา บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 17 - 21 ธันวาคม 2561อาทิตย์นี้ปิดตัว CADJPY ที่วางแผนมาข้ามเดือน ปิดตามเป้า แต่ต้องอดทนมากกับตัวนี้
ส่วนทองมีลูกเล่นเยอะ ทำให้เขวและพลาดกำไรไปเยอะ
ส่วนGBPNZD ตอนแรกมองสั้นๆ โดน ติดลบไป 100+ pips แต่อดทนถือไว้และกลับมาบวกได้
ในระยะยาวมองตัวนี้ว่า น่าจะถือได้ยาวในการ Short
**** ส่วนตัวอื่นๆ ในเวปภาคอังกฤษไม่ได้มาวิเคราะห์ในนี้ครับ
8-Nov AUDJPY Buy Open -470 ตัวนี้ถือนานมาก และไม่ได้ออก
19-Nov GBPCHF Sell close 253 ชน TP 2 ลงมา ถือต่อ
21-Nov CADJPY Sell close 313 ทะลุทุก TP ตัวนี้อดทนรอ เกินเป้าปิดที่ 82.0
29-Nov CADJPY Sell close 285.9 TP th.tradingview.com
8-Dec CADJPY Sell close 200 ไม้สอง TP th.tradingview.com
3-Dec XAUUSD Buy Open 256 ตัวนี้ ชน TP2 และไปต่อ ราคาเริ่มลงแต่เราทำกำไรออกไปบ้างแล้ว ถือต่อที่ be
4-Dec USDMXN Sell Open 5125 ถือต่อไป แต่เอากำไรออก 1/3 และเลื่อน sl to be เพราะราคาเริ่มแปลก
10-Dec USDJPY Sell close -14 ทดสอบระบบSL
10-Dec USDJPY Sell close -87 ทดสอบระบบSL
10-Dec AUDCHF Sell close 106.4 TP
12-Dec EURAUD Buy Open 419 ทดสอบระบบ indicator ราคาเริ่มลง มีการปิดไปก่อนหน้าที่ TP1
13-Dec USDCAD Buy Open 237 ทดสอบระบบ indicator
17-Dec XAUUSD Buy Close 95.3 TP
18-Dec EURUSD Buy Close 66.7 TP1
19-Dec CHFJPY Buy Close -15 sl
19-Dec CHFJPY Sell Close 37.7 TP เป็นการแก้เกมที่มองกราฟผิดโดน sl ครั้งแรก
20-Dec XAUUSD Buy Close 106.7 ทำกำไรน้อยไปเพราะ มองเกมผิดคิดว่าจะมองsell ต่อ
20-Dec GBPNZD Sell Close 0 ตัวนี้ drawdrown สูงมากติดลบไป100 และกลับมาได้
20-Dec XAUUSD Sell Close -82 ไม้สอง วาง sl พลาดตอนทองย่อตัวผิดพลาด
20-Dec XAUUSD Sell Close -115 ไม้แรก วาง sl พลาดตอนทองย่อตัวผิดพลาด
21-Dec XAUUSD Sell Close 0 กะเล่นทองตอนย่อตัว แต่รีบเลื่อน sl เกินไปแลยโดนกิน sl ที่ be
22-Dec XAUUSD Buy Open -38.2
22-Dec XAUUSD Buy Open -15.2
22-Dec XAUUSD Buy Open 16
บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 10 - 14 ธันวาคม 2561อาทิตย์นี้ ไม่่ค่อยได้โพส เนื่องจากค่อนข้างยุ่งหลายเรื่อง อีกทั้งกำลังเขียน code อยู่ มีเทรดขายทองเพิ่มอยู่บ้าง แต่ลงไม่ทันจึงไม่ได้มาบันทึก
ภาพรวม ผมทดลองระบบบ Stoploss ให้กว้างขึ้น ระบบที่ทดสอบยังใช้งานได้แย่มาก จุดเข้าก็แย่ ต้องปรับปรุงต่อ
ส่วนที่เทรดน้อยเพราะมี ตัวที่ถือข้ามอาทิตย์อยู่หลายตัวระยะยาว
คือ พวก CADJPY GBPCHF ส่วนตัว AUDJPY ลืมตามปล่อยไหลไป เลยยังไม่ได้แก้ไม้ จะเริ่มจัีดการอาทิตย์หน้าครับ
บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 3 - 11 ธันวาคม 2561อาทิตย์นี้เทรดค่อนข้างดี โดยเฉพาะกับพวก Swing trade กับพวก run trend
ที่น่าจับตามองคือ CADJPY ตัวนี้ รอนานและคุ้มค่ามาก
ส่วนทองมันมีระยะวัดใจ ช่วงหลัง NFP ก็ตัดสินใจได้โอเค
*** อาทิตย์นี้มีทดลองเทรดระบบใหม่ ยังไม่ค่อยดี SL ไปหลายตัว ต้องไปปรับอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าทำ
*** มีไอเดียเทรดอีกอัน NZDCAD ที่โพสใน ภาษาอังกฤษ จังหวะเข้าดีมาก
และอีกอัน AUDCHF ฟอร์ม Broadenng Top แล้ว fail กรณีศึกษาที่น่าจับตา
----------------------------------------------------------------------------------
Date Pairs Trade Status pips Links
8-11 AUDJPY Buy Open -170.8 ตัวนี้ถือนานมาก ราคาสวิงขึ้นลงบวกลบ อาจต้องปรับมุมมองอีรอบ ?
18-11 CADCHF Sell Close 206.3 ตัวนี้ จะจังหวะเข้าดี และจังหวะเข้ารอบสองดี ในการเทรดในกรอบ
19-11 GBPCHF Sell Open 219 219 pips ใกล้ TP2 เก็บกำไรออกครึ่งนึง
21-11 CADJPY Sell Open 63 ตัวนี้ย่อตัวสวยลงไปเกือบชน TP2 ถือต่อเอาออกครึ่ง
26-11 CADCHF Sell Close 56 ตัวนี้เข้ารอบสอง ชน TP1 แล้วไปปิดที่ BE
28-11 USDJPY Sell Close 84.4 Hit TP
29-11 CADJPY Sell Open 200 Long term ปิดไปครึ่งนึงและถือต่อ th.tradingview.com
29-11 XAUUSD Sell Close 124 ปิดกำไรบางส่วนที่ 1217 ตัวขายปิดกำไรไปและราคามาตัด Buy ต่อได้ปิดกำไรไปอีก 64
8-12 CADJPY Sell Open 50 มีเข้าจังหวะสอง ที่ 85 th.tradingview.com
2-12 EURNZD Sell Close 111 แบ่งกำไรออกไป 111 pips และราคาพุ่งมาปิด BE
3-12 XAUUSD Buy Open 198 ตัวนี้ ชน TP2 และไปต่อ
3-12 USDJPY Sell Close 46.5 ชน TP2
4-12 USDMXN Sell Open 1940 ตัวเลขpipsสูง ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆก็ประมาณ 194 pips ราคาเหวี่ยงมาก เกือบชน SL
6-12 AUDCHF Sell Close -10 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด
6-12 AUDCHF Buy Close 15 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด ขึ้นไปกำไรและลงมาตัด BE
6-12 EURNZD Sell Close -50.9 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด ชน SL
6-12 XAUUSD Sell Close -30 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด ชน SL
6-12 XAUUSD Sell Close -18 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด ชน SL ไม้สอง
6-12 EURUSD Sell Close 40 ทดลองเปลี่ยนสไตล์การเทรด ปิดเทรดเอง เทรนเปลี่ยน
6-12 USDCHF Sell Open 40 สไตล์เดิม
8-12 XAUUSD Buy Open 37 อันนี้เข้าไม้สอง จากการเทรดหลัง NFP
8-12 NZDJPY Sell Open 17.8 ทดลอง Corelation
บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 26-30 พฤศจิกายน 2561"Plan yr Trade and Trade yr Plan"
อาทิตย์นี้กำไรน้อย แต่ก็ขาดทุนน้อยเช่นกัน เพราะข่าวเยอะไม่มีเวลาจัดการมาก เสี่ยงเกินไปที่จะถือยาวในบางตัว
ส่วนใหญ่ได้จากไม้หนัก พวกเล่นสั้น
8-11 AUDJPY Buy Open 10 Long term หลังดูว่าจะโดน double top มั้ยแต่อาการดีขึ้น
15-11 NZDJPY Sell Close 0 กำไรไป 77 ไม่ได้แบ่งกำไรออก ราคาเลยไหลลงมาตัด BE
18-11 CADCHF Sell Open 86 กำไร 127 และลดลงมาเหลือ 86
19-11 GBPCHF Sell Open 88 ชน TP1 102 pips และลดลงมาเหลือ 88
21-11 AUDNZD Buy Close 7 ปิดก่อนเพราะไม่ผ่านด่านสำคัญหลายครั้ง
21-11 CADJPY Sell Open -13 ขาดทุนที่ sell limit ส่วนตัวกำไรซื้อที่หลัง ไม่บันทึก
26-11 CADCHF Sell Open 56 ชน TP1 ปิดบางส่วนเลื่อน SL ไป BE
26-11 AUDCHF Sell Close 20 กำไร 20 ราคาไม่ไป แผนเปลี่ยนเลยปิดก่อน
26-11 GBPUSD Buy Close 44.6 ชน TP1 44.6 เล่นสั้นตามแผนไวมาก
28-11 USDJPY Sell Open 55 เกือบชน TP 80 pips แต่ราคากลับขึ้นจึงปิดบางส่วนและถือรอต่อ ปิดกำไรที่ + 77 pips
29-11 CADJPY Sell Open 10 Long term th.tradingview.com
29-11 XAUUSD buy Close 30 เล่นสั้น ปิดกำไรบางส่วนและราคาลงมาตัดจุด BE
29-11 XAUUSD Sell Open 60 ปิดกำไรบางส่วนที่ 1217 และถือต่อไม่ได้เลื่อน SL
การศึกษา บันทึกประวัติการเทรด ประจำสัปดาห์ 19-23 พฤศจิกายน 2561Date Pairs Trade Status pips Links
8-11 AUDJPY Buy Open -100 Long term มีการปรับมุมมองใหม่
14-11 XAUUSD Buy Close 200 กำไรปิดบางส่วนที่ 80 , 175 pips
15-11 NZDJPY Sell Open 77
18-11 NZDCAD Buy Close 100 กำไรปิดบางส่วนที่ 100 pips และลงมาตัดจุด BE
18-11 AUDCAD Buy Close 60 กำไรปิดบางส่วนที่ 60 pips และลงมาตัดจุด BE
18-11 CADCHF Sell Open 49 กำไร 127 และลดลงมาเหลือ 49
19-11 GBPCHF Sell Open 50 ชน TP1 102 pips และลดลงมาเหลือ 50
19-11 XAUUSD Buy Close 75.9 hit TP1
19-11 XAGUSD Buy Close -3 ปิดการเทรดเอง เพราะรูปแบบไม่สวย
20-11 AUDUSD Buy Close -26 hit SL
20-11 GBPCAD Sell Close 0 กำไร 40 pips แต่ราคาผันผวนขึ้นมาชน BE
20-11 EURUSD Buy Close -23 hit SL
20-11 EURUSD Buy Close -15 hit SL เข้าไปรอบสอง เจอ SL
20-11 GBPJPY Buy Close -20 hit SL
20-11 GBPJPY Sell Close 0 No Active
21-11 AUDNZD Buy Open 26 long Term
21-11 CADJPY Sell Open 10 ไม้นึงกำไร 18 อีกไม้ ขาดทุน -8 ราคาเกือบชน SL
22-11 XAUUSD Sell Close 46 Hit TP1 และปิดเองเนื่องจากไม่ได้มีเวลาตาม
23-11 GBPJPY Sell Close 41.3 Hit TP
จังหวะขายเล่นรอบกลางด้วย Bollinger Bandsปัญหาของเทรดเดอร์ไม่ใช่ตอนซื้อ แต่คือเวลาขายที่แหละ จะขายตรงไหนดี
ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีหลายสูตรหลายวิธี วันนี้ขอแนะนำจังหวะขายสำหรับเล่นรอบกลาง
เปิด TF week แล้วขายออกจากสถานะเมื่อราคาขึ้นไปแตะเส้นบนของ Bollinger Bands
ถามว่าแม่นไหม จะหมูไหม ก็มีบ้างแต่ถ้าเข้ามาจากไม้แรก ก็อิ่มกำไรพอดีคำครับ
บางทีเขาก็พักอีกหลายสัปดาห์เป็นโอกาสในการนำเงินไปเล่นรอบอื่นครับ
Disclaimer :
ไอเดียนี้เป็นการศึกษาส่วนบุคคล
ไม่ใช่การแนะนำการลงทุน
ไม่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใด ๆ
ข้าพเจ้าไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในทุกกรณี
บันทึกราคาหุ้น TESLA : สงบศึก SECTesla Inc. ยังคงเป็นหุ้นที่ ราคาเล่นกับ sentiment ได้อย่างรุนแรงและต่อเนื่องตลอดปี โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากับ story ใหญ่เริ่มจากการทวิตของ Elon Musk กรณีจะนำบริษัทออกนอกตลาด พร้อมแสดงความมั่นใจว่ามีทุนสนับสนุน ประกาศราคาเป้าหมาย $420 สร้างกระแสเรียกแรงซื้อลากราคาหุ้นขึ้นไปได้ถึง $388 ในระดับ all time high
แต่หลังจากนั้นสัปดาห์ต่อมาเมื่อ ดีลกับทางซาอุล้ม เงินไม่มาตามแผน ราคาหุ้นก็ปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ $300 ตามาด้วย story การไปดูดกัญชาผสมยาสูบออกอากาศกลางรายการ ซึ่งตอนนั้นราคาหุ้นปรับลดลง -9.0% ล่าสุด SEC แจ้งดำเนินคดีกับ elon musk จนกลายเป็นประเด็นใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฉุดราคาร่วงลงไป -14% ในวันเดียว
เมื่อวานข่าวออกเป็นทางการ Musk บรรลุข้อตกลงประนีประนอม คดีความกับ SEC โดยเขายอมจ่ายค่าปรับ 20 ล้านดอลลาร์พร้อมกับลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท โดยไม่กลับเข้ารับตำแหน่งประธานเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี แต่ elon musk ยังคงรับตำแหน่ง CEO ผู้บริหารบริษัทต่อไป นอกจากนี้ SEC ยังมีเงื่อนไขให้แต่ตั้งกรรมการอิสระ 2 รายเพื่อนั่งในบอร์ดกรรมการบริหารบริษัท เพื่อตรวจสอบการทำงานของ Tesla Inc.
ราคาหุ้นเปิดตลาดวันจันทร์ที่ผ่านมาดีดทันทีราคาหุ้นวิ่งไปต่อปิดวันที่ $310.70 เพิ่ม +17.35% รับ story ที่เกิด นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดรับรู้ข่าวดี พร้อมมีแรงซื้อไล่กลับเข้ามาลุ้นการเก็งกำไร ตัวเลขผลประกอบการช่วงปลายปีต่อ
ปล. เรียกว่า TSLA น่าจะเป็นหุ้นที่มีความผันผวน และเล่นกับ sentiment อันดับต้นของตลาดอเมริกาเลยทีเดียว
ราคาน้ำมันWTIบันทึกราคาน้ำมัน
............
ราคาน้ำมัน WTI ยังคงอยู่ช่วงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากช่วงต้นเดือน กย. ประเด็น sentiment หลักเป็นเรื่องความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ที่ดูเหมือนสหรัฐในยุคของ Trump ออกมากดดันอย่างหนัก นวค.มองว่าการคว่ำบาตรอาจจะทำให้ตัวเลขปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้หายจากตลาดโลก ราวๆ 1.5 million barrels ต่อวัน ปัจจุบันอิหร่านเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 4 ของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์น้ำมันบางโบรกเกอร์มองไปยาว ถึงว่าปีนี้อาจจะได้เห็น น้ำมันขาขึ้น กลับไประดับ $100 ในช่วงต้นปี 2019 ถ้าสถานการณ์ประเด็นอิหร่านหาทางออกไม่ได้ ยืดยาวออกไปบวกกับ OPEC อาจจะไม่สามารถหากำลังผลิตน้ำมันมาทดแทน ในส่วนของอิหร่าน
ด้านพฤติกรรมราคา ปี 2018 ถือเป็นปีที่ดีของเทรดเดอร์ เพราะราคาวิ่งจาก low แถว $58 เดือน กพ. ก่อนไปทดสอบ High รอบหลายปี ที่ 74 ช่วงเดือน กค. แล้วพักตัวลง ล่าสุดเดือนกันยายน แนว $74 กำลังถูกทดสอบอีกรอบ บนภาวะ Sentimental ที่สนับสนุนเชิงบวก ราคาวิ่ง +14.0% ในรอบ 46 วันจากจุดพักตัวก่อนหน้า ตรงนี้ทำให้ปลายปี น่าจะเป็นอีกช่วงที่น่าติดตาม ว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับไปโซนด้านบนได้หรือไม่
ข่าว
www.bloomberg.com
บันทึกราคาหุ้นอสังหาวันนี้หุ้นอสังหากลุ่มสร้างที่อยู่ ราคาปรับตัวลงค่อนข้างแรง บน negative sentiment จากข่าวความกังวลเรื่องการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย ของธนาคารพานิชย์ ที่มีการหารือเรื่องนี้กับทางธปท.
ปัจจุบันรอดูแนวโน้มการออกมาตรการของภาครัฐ นวค.มองว่าถ้ามีมาตรการออกมาคุม พร้อมเข้มงวดในการปล่อยกู้ และให้สินเชื่อจริง ความร้อนแรงของตลาดอาจจะลดลง และมีน่าจะมีผลกระทบในส่วนลูกค้ากลุ่มกลาง ถึงล่าง ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย กู้ธนาคารผ่านยาก
ราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่ประเภทนี้ เช่น SPALI, LPN , SIRI ANAN, PSH ต่างปรับตัวลดลง มากกว่าดัชนี SET50 พร้อมแรงขายมาหนาต่อเนื่องตลอดวัน
อ้างอิงจาก
www.tnamcot.com
WORK กับสัญญานที่ดีถ้าใครได้ฟัง "จิบกาแฟ ส่องหุ้น" ของวันอาทิตย์ที่ 16 กย. โค้ชได้พูดถึง WORK ไว้ว่า มี Volume เข้า อย่างผิดปกติ ในวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ในการวิเคราะห์เชิง Volume นั่นหมายถึง มีคนที่ยินดีรับซื้อที่ราคาแถวนั้น 36-38.50 ไม่อั้น จากกราฟอัพเดทถึงวันอังคารที่ 18 กย. จะเห็นว่า ราคาดีดขึ้นมาปิดที่ 40.50 และมี Volume เข้าอย่างสวยงาม แม้ว่า Ichimoku ยังไม่มี Buy Signal ให้เข้า แต่ด้วย Volume ที่เข้าขนาดนี้ ใครมีของคงยิ้มกันถ้วนหน้า ส่วนใครไม่มีของ ก็ลองแช่งดูครับ เผื่อว่า มันจะถอยมารับ โดยมีข้อแม้ว่า การถอย ต้องมี Volume น้อยๆ และยืนแนวรับใดๆ ได้สักแนว แบบนี้ละ โอกาสไปจริงสูง แต่ก็ต้องไม่ลืมนะครับ 36 หลุดไปนี่สาหัส
ลองติดตามกันดูครับ ทั้ง Work และ รายการ จิบกาแฟ ส่องหุ้น วันอาทิตย์ กับโค้ชพี่ป๊อบ ที่หน้าเพจ "โค้ชพี่ป๊อบ" นะครับ
การเทรดระยะยาว กับการเฝ้าติดหน้าจอไม่ได้ช่วยอะไรการเฝ้าดูราคาตลอดทั้งวันไม่ได้ช่วยให้เราทำงานได้ดี ในตลาดที่มีความผันผวนสูงแบบนี่ แต่มันอาจส่งผลที่มีความเสี่ยงสูงในการเทรดที่ไม่เป็นไปตามแผนการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งนำมาสู่การขาดทุนอย่างต่อเนื่อง บางครั้งในขนาดที่เรากำลังมองดูเหรียญที่เรากำลังสนใจอยู่นั้น ราคากำลังวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและมันทำให้เราต้องการซื้อ ให้ไปดูกราฟรายสัปดาห์ก่อนว่าสิ่งๆนั้นกำลังอยู่ในช่วงการปรับฐาน หรือว่ามันเลยจุดที่จะเข้าซื้อไปแล้ว ถ้ามันวิ่งขึ้นมากเกินไปแล้วก็อย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า สิ่งที่สำคัญกว่าการซื้อของได้ในราคาถูก คือการขายมันได้ก่อนที่ราคามันจะตกลงไป เราไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อในราคาที่ถูกที่สุด แต่เราจะต้องขายแล้วได้กำไร ดังนั้นผมจะบอกว่าสิ่งที่สำคัญกว่าการทำ Double Bottom ของกราฟ คือการทำ Double Top และ Divergence "ซื้อให้ช้าแต่ขายให้เร็ว"