การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
"GBP/JPY พุ่งแรง! ทะลุ 196.00 ก่อนเผยตัวเลข CPI สหราชอาณาจักร"**GBP/JPY พุ่งทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 แตะจุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ก่อนการเปิดเผยตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักร**
📈 *GBP/JPY ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการขาย JPY ที่กลับมาอีกครั้ง*
🌍 *ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของ BoJ กดดันค่าเงินเยน (JPY)*
💡 *การวิเคราะห์ทางเทคนิคแนะนำให้ระมัดระวังสำหรับนักลงทุนฝั่งซื้อ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร*
คู่เงิน **GBP/JPY** ยังคงแรง rebound จากระดับ 193.60-193.55 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และยังคงเพิ่มแรงดึงดูดเชิงบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันพุธ การฟื้นตัวนี้ส่งผลให้ราคาสปอตทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 ในช่วงตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายใหม่ในฝั่งเงินเยน (JPY) 😲📊
💬 *คำแถลงจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ* อีกทั้ง *ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ)* กดดันค่าเงินเยนที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 😅✨ ในขณะเดียวกัน *ความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ* และชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ส่งผลให้เงินปอนด์ (GBP) ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม 💷💪
🔍 *อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงตลาด FX เพื่อหนุนค่าเงินเยน รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจทำให้นักลงทุนฝั่งขาย JPY ยับยั้งการลงเดิมพันที่รุนแรง* นักลงทุนยังอาจเลือกที่จะรอข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคล่าสุดของสหราชอาณาจักรก่อนตัดสินใจวางเดิมพันเชิงทิศทางอย่างจริงจัง 🎯📉
**มุมมองทางเทคนิค**
จากมุมมองทางเทคนิค คู่เงิน **GBP/JPY** แสดงความแข็งแกร่งที่ระดับต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA) ในวันอังคารที่ผ่านมา และแรงซื้อที่เกิดขึ้นตามมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนฝั่งซื้อ ✨📈 นอกจากนี้ เครื่องมือ Oscillators ในกราฟรายวันเริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำ แต่ยังไม่ยืนยันแนวโน้มเชิงบวก 📊
- หากราคาสามารถทะลุระดับ **197.00** ได้สำเร็จ อาจเผชิญแรงต้านสำคัญที่โซน **197.70-197.80**
- การซื้อที่ตามมาทะลุระดับ **198.00** อาจเป็นการเปิดทางสำหรับกำไรระยะสั้นเพิ่มเติม 🚀💹
ในทางกลับกัน ระดับ **196.00** ดูเหมือนจะเป็นแนวรับสำคัญทันที ซึ่งหากหลุดไป ราคาคู่อาจลดลงไปที่แนวรับ **195.40-195.35** และต่ำกว่าระดับ **195.00** ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเส้น SMA 200 วัน การหลุดระดับนี้อาจดึงราคากลับไปยังจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้าใกล้โซน **193.60-193.55** โดยมีแนวรับระหว่างทางใกล้ระดับ **194.00** 🎯📉
#GBPJPY #คู่เงิน #เงินเยน #เงินปอนด์ #CPI #วิเคราะห์กราฟ #ตลาดการเงิน #เทรดเดอร์
XAUUSDปัจจัยส่งราคาแรงมากนะครับ ตอนนี้เริ่มทำกรอบชัดเจนแแล้วเป็นอัพเทรนแชลแนลโดยมีแนวฐานราคาใหม่ที่ 2620 แปลว่าเค้าไม่ควรหลุดหากจะไหลขึ้นต่อเรื่อยๆ ใครมีไม้รันมาก็ให้ใช้จุดนี้เป็นจุดกันทุนใหม่ได้เลย โดยแผนหลังจากนี้จะเป็นการหลุด Swing Low เล็กแล้วดึงกลับก็ค่อย Buy ไม่ต้องรอ Demand เหมือนเดิมเพราะการวิ่งแบบนี้จะไม่มาที่ Demand นะครับแค่กวาด SL แล้วขึ้นต่อเรื่อยๆ ให้ระวังเวลาราคาเข้าใกล้กรอบบนให้รอเค้าย่อค่อยหาจังหวะเทรดใหม่
เทคนิคคอล
-Hidden Base จุดนี้มองว่าย่อได้ลึกสุดนะครับและไม่ควรหลุดด้วย
-Demand H4 เป็นแนวฐานราคาใหม่หรือโครงสร้างราคาขาขึ้นใน H1 และ H4
-Swing Low ที่มีเส้นขีดให้มองเป็นจุด Liquidity รอเค้ากวาดจุดพวกนี้แล้วดึงกลับเพื่อพิจารณาเข้าออเดอร์
EP07:จาก Adaptive.Simple/Simple สู่ Quantitative Strategy ต่อไปการพัฒนา Quantitative Strategy บน TradingView เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ตัวเลขและสถิติมาช่วยในการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การคำนวณผลตอบแทน ความเสี่ยง หรือการวิเคราะห์เชิงปริมาณผ่าน Pine Script ซึ่งเป็นภาษาสำหรับเขียนโค้ดที่ TradingView ใช้ โดยสามารถทำได้ดังนี้:
1. เริ่มต้นเขียน Quantitative Strategy บน Pine Script Strategy
2. เพิ่มการคำนวณเชิง Quantitative
- Sharpe Ratio : ใช้วัดผลตอบแทนต่อความเสี่ยง
- Drawdown : เพื่อดูช่วงขาดทุนสูงสุดของกลยุทธ์
- Optimization : ปรับค่าพารามิเตอร์ให้เหมาะสมที่สุด
3. ทดสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ใช้ Strategy Tester บน TradingView เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ เช่น:
- Profit Factor
- Win Rate
- Net Profit
ทดสอบบนข้อมูลย้อนหลัง (Backtest) และทดลองปรับค่าต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับตลาด
4. ใช้ข้อมูล Quantitative ที่ลึกขึ้น สำหรับการวิเคราะห์ Quantitative ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น สามารถนำข้อมูลจากภายนอก เช่น Python หรือ R มาช่วยวิเคราะห์เชิงลึก แล้วกลับมาใช้ Pine Script เพื่อประมวลผลบนกราฟได้
ดังนั้นบทต่อไปจากการขิงความง่ายๆจะเป็นการขิงความยากครับ 55555 ขิงเกิ้น...
1. องค์ประกอบของระบบ Quantitative
1.1 Data Collection
ใช้ Pine Script ดึงข้อมูลราคา เช่น Open, High, Low, Close (OHLC) หรือข้อมูล Volume
คำนวณตัวชี้วัดเชิงลึก เช่น ATR, RSI, หรือ Beta ของหุ้น (สินทรัพย์นั้นๆ)
1.2 Quantitative Indicators
ใช้ตัวชี้วัดทางสถิติ เช่น:
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
- ความผันผวน (Volatility)
- การแจกแจงความถี่ (Probability Distribution)
1.3 Risk Management
วางระบบจัดการความเสี่ยง เช่น:
- กำหนด Risk per Trade
- การตั้ง Stop Loss และ Take Profit
- วัด Maximum Drawdown
1.4 Performance Metrics
สร้างตัวชี้วัดเพื่อประเมินผล เช่น:
- Sharpe Ratio
- Sortino Ratio
- Calmar Ratio
2. ตัวอย่างระบบ Quantitative เชิงลึก
2.1 โครงสร้างพื้นฐาน
เริ่มต้นด้วยโค้ดระบบที่รวมเอาส่วนประกอบทั้งหมด:
3. การวิเคราะห์และขยายระบบ
3.1 Multi-Timeframe Analysis
รวมข้อมูลจากหลาย Timeframe เช่น การใช้ข้อมูล Daily ควบคู่กับ 1 Hour เพื่อเพิ่มความแม่นยำ:
3.2 Machine Learning Integration
นำผลลัพธ์ของ Pine Script ส่งออกไปยัง Python ผ่าน Webhook หรือ API เพื่อปรับปรุงโมเดลด้วย Machine Learning เช่น Decision Trees หรือ Neural Networks
3.3 Portfolio Optimization
สร้างระบบที่สามารถจัดการพอร์ตการลงทุนแบบ Dynamic โดยใช้หลักการ Quantitative เช่น Markowitz Portfolio Theory หรือ Risk Parity
4. การจัดการ Backtesting เชิงลึก
ใช้ Strategy Tester ของ TradingView เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์
วัดผลบนข้อมูลหลายช่วงเวลา (Walk-Forward Analysis)
ใช้ Monte Carlo Simulation เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของกลยุทธ์
5. สร้างอินดิเคเตอร์เฉพาะตัว (Custom Indicators)
**"EUR/USD ใกล้โซนวิกฤต ลุ้นทะลุแนวต้านหรือดิ่งลงต่อ"**### **การวิเคราะห์ EUR/USD อย่างละเอียดและรอบด้าน**
---
### **1. การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement และแนวโน้มระยะยาว**
- **โซนสำคัญ (Key Levels)**:
- แนวรับ: **1.01475 (Fibonacci 0.786)** และ **1.04515 (Fibonacci 0.618)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มดีดกลับจากแรงซื้อ (Demand Zone) หากราคาลงมาทดสอบ.
- แนวต้าน: **1.06803 (Fibonacci 0.382)** และ **1.08465 (Fibonacci 0.236)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มเผชิญแรงขาย (Supply Zone) หากราคาฟื้นตัวขึ้น.
- **การตีความ**:
- หากราคาทะลุแนวต้านที่ 1.06803 อาจพุ่งต่อเนื่องไปยังโซน 1.08465.
- หากราคาหลุดแนวรับ 1.05982 อาจปรับตัวลงไปยังระดับ 1.04515 หรือ 1.02478.
---
### **2. การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยเส้น EMA**
- **EMA 20/50/100/200**:
- EMA 200 อยู่ด้านบนของกราฟ บ่งบอกว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาลงที่ชัดเจน.
- ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า EMA 20 และ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่หมด.
- **กลยุทธ์**:
- หากราคายืนเหนือ EMA 20 ได้อีกครั้ง อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในระยะสั้น.
- หากราคายังอยู่ต่ำกว่า EMA 50 ให้พิจารณาตามแนวโน้มขาลงต่อไป.
---
### **3. การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาด (RSI และ MACD)**
- **RSI (Relative Strength Index)**:
- RSI อยู่ที่ **35.85** ใกล้โซน Oversold แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง.
- หาก RSI ลงไปต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณ Oversold ที่ชัดเจน และอาจเกิดการดีดกลับของราคา.
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**:
- เส้น MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal Line และอยู่ในแดนลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังเด่นชัด.
- หากเกิด Bullish Divergence (MACD เริ่มกลับขึ้นขณะที่ราคายังลง) จะเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือ.
---
### **4. การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)**
#### **Descending Triangle**:
- **ลักษณะของกราฟ**:
- ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (Descending Triangle) โดยมีแนวรับที่ 1.05982 และแนวต้านลาดลง.
- รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณของการ Breakout ขาลง หากราคาหลุดแนวรับ.
- **โอกาส**:
- หากราคาหลุดแนวรับที่ 1.05982 อาจปรับตัวลงต่อไปยังเป้าหมายที่ 1.04515 หรือ 1.02478.
- หากราคาทะลุแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม อาจฟื้นตัวขึ้นสู่ 1.08465.
#### **Descending Channel**:
- ราคากำลังเคลื่อนที่ใน **Descending Channel**:
- ขอบล่างของ Channel ใกล้ 1.04515 อาจเป็นจุดดีดกลับ (Rebound Zone).
- ขอบบนของ Channel ใกล้ 1.08700 เป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา.
---
### **5. การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
- **Bearish Engulfing**:
- รูปแบบแท่งเทียนขาลงที่กลืนแท่งก่อนหน้า (Bearish Engulfing) บ่งบอกถึงแรงขายเด่นชัดในแนวต้าน.
- **Doji Candlestick**:
- การเกิด Doji ในโซนสำคัญ เช่น Fibonacci 0.618 อาจสะท้อนการลังเลของตลาดและการพักฐาน.
---
### **6. Harmonic Patterns**
- **Gartley Pattern**:
- หากราคาย่อตัวลงไปที่โซน 1.04515 (Fibonacci 78.6%) และเด้งกลับ จะยืนยันการสร้าง Bullish Gartley Pattern.
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.04515 และแตะ 1.02478 (Fibonacci 88.6%) โอกาสเด้งกลับมีสูง.
---
### **7. การวิเคราะห์โซนอุปสงค์-อุปทาน (Supply and Demand Zones)**
- **Demand Zones**:
- โซน 1.04515 และ 1.02478 เป็นจุดที่ราคามีโอกาสเด้งกลับจากแรงซื้อ.
- **Supply Zones**:
- โซน 1.08773 เป็นพื้นที่ที่แรงขายมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หากราคาฟื้นตัวขึ้นมา.
---
### **สรุปแผนการเทรด**
1. **กลยุทธ์ขาลง (Bearish Strategy)**:
- หากราคาหลุดแนว 1.05982:
- Short ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.04515.
- ติดตาม RSI และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง.
2. **กลยุทธ์ขาขึ้น (Bullish Strategy)**:
- หากราคายืนเหนือ 1.06803:
- Buy ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.08465.
- ใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคอนเฟิร์ม.
3. **เฝ้าดูพฤติกรรมราคา**:
- หากราคาลงมาทดสอบโซน Demand (1.04515 หรือ 1.02478) พร้อมเกิด Bullish Candlestick เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ให้มองหาจังหวะเข้าซื้อ.
4. **การบริหารความเสี่ยง**:
- ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า Demand Zone สำหรับการตั้งสถานะซื้อ และเหนือ Supply Zone สำหรับการตั้งสถานะขาย.
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวัง.
---
**หมายเหตุ**: ควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับแผนการเทรดให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน. 📊📈📉
ETH My outlook 16/11/2024ETHUSDT เเชร์มุมมอง
เหรียญ ETH เป็นเหรียณหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเหรียญ ผู้นำ altcoin upside ค่องค้างเยอะ เเล้วเนื่องจากราคาเป็นขาลงมาสักพักจนเริ่มมีการกลับตัวเริ่มให้เห็นโครงสร้างที่เริ่มเปลี่ยน หลังจากเป็น bear trendมาระยะเวลาหนึ่ง จนตอนนี้ในภาพเทคนิคคอลตามฉบับ smc ราคาได้เบรคเปลี่ยนโครงสร้างขาลงจรึงเป็นเหรียญที่ค่อนค้างน่าสนใจเนื่องจากตามเทคนิคกราฟ
ก่อนหน้านี้ กราฟได้สะสมกำลังรูปเเบบ Symmetrical Triangles
รูปแบบราคาที่บีบตัวเข้าหากัน จุดสูงสุดจะต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และจุดต่ำสุดจะยกตัวสูงขึ้นเช่นกัน หากเราตีแนวรับ-แนวต้านก็จะเห็นได้ว่าราคากำลังทำทรงรูปสามเหลี่ยมบีบเข้าหากัน
เเล้วได้เกิดการเบรคเทรนขาลงพุ่งทะลุ 2800 usd ซึ่งเป็นเเนวต้านสำคัญ เเล้วได้ขึ้นไปถึง 3300 usd +- เเล้วเกิดติดต้านย่อย ภาพ 4H เกิดรูปเเบบกราฟ Head and shoulders
Head and Shoulders เป็นสัญญาณที่บอกว่าตลาดมีแนวโน้มจะกลับตัวเป็นขาลง โดยมีจุดสูงสุด 3 จุด โดยจุดสูงสุดที่ 2 (Head) จะมีความสูงที่สุด มีลักษณะคล้ายหัวคนและมีไหล่สองข้าง
ตอนนี้ผมมองว่าเขาอาจจะปรับฐานพักตัว มี โอกาศลงไปเทศทดสอบเเนวที่เบรค 2800 usd ซึ่งเป็นเเนวต้านที่เบรคเเล้วราคาได้ทิ้งรูปเเบบ Rally Base Rally (RBR) ไว้เเถว 2800 usd +- ซึ่งเป็นจุดน่าสนใจเเต่ห้ามปิดหลุด
ณ ปัจุบันราคาผมมองว่าติดเเนวรับย่อยอยู่ของภาพ 4H เเถวที่ราคา 3000 usd ถ้าหากราคาไม่ได้ลงไปทดสอบเเล้วกลับตัวที่เเถวนี้ ราคาอาจจะยังอยากทดสอบเเนวต้านย่อยเเถว 3300 usd - 3500 usd อีกครั้ง ซึ่งถ้าทะลุก็เจอกันน 3900 usd - 4000 usd ได้เลย ซึ่งภาพ day ยังไม่เกิด Divergence ขัดเเย้งเลยมีเเต่ Convergence คือ การที่แนวโน้มราคาและอินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเเค่มองว่าย่อพักตัวเพื่อไปต่อยาวๆครับบ
ไม่ได้เเนะนำให้ซื้อขายตามเเต่อย่างใดทุกกรณีนะครับ
XAUUSDหลังจากรอดูอาการเมื่อวานหนึ่งวันได้ขอสรุปว่าพอเห็นอะไรเพิ่มมาบ้างแล้วนะครับ หลังราคาหลุด 2600 มาซึ่งเป็นแนวที่ไม่ควรหลุดหากน้องทองแค่จะปรับฐานระยะสั้นแล้วขึ้นต่อ ตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วนะครับผมมองว่านี้เป็นการพักตัวรอบใหญ่เลยละโดยมองว่าลงได้ถึง 2500 หรือแถวๆ 2470 เลยทีเดียว แต่ตอนนี้เค้ามาถึงช่วงปลายๆเทรนแล้วจะไม่ได้ลงแรงเหมือนที่ผ่านมา ผมก็จะเปลี่ยนวิธีเทรดอีกรอบตามกราฟนะครับโดยรอบนี้จะรอตามโซนที่ทำไว้ให้ในแผน รอการกวาด SL และเข้าออเดอร์ในโซนนะครับ
**ขอให้เป็นวันที่ดีครับ**
EP04:BTC Adaptive trading ideas to Indicators Very easy Simple.ชิลล์ๆครับ
ว้าวๆ...
ความเห็นวิเคราะห์
รอบเป็นขาขึ้นครับวิเคราะห์เป็นอย่างอื่นไม่ได้ส่วนไทม์เฟร์มเล็กๆก็ผันผวนขึ้นลงเป็นปกติเมื่อรอบหลักเป็นขาขึ้นในไทม์เฟร์มสูงๆถ้าไม่หลุดรอบเราก็ยังคงมองเป็นขาขึ้นหากการหลุดรอบได้หลุดมาตั้งแตาไทร์มเเล็กๆมาหาไทร์มเฟร์ใหญ่แบบไม่หบุดหลุดรอบล่ะก็ เราถึงจะมองว่าเป็นการเปลี่ยนรอบเป็นขาไซต์เวยหรือขาลงนั้นเอง
XAUUSDอ่อนแรงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้บอกว่าจะขึ้นนะครับสำหรับน้องทอง สรุปว่า Fibo 38.20% เอาอยู่นะครับแต่ก็ไม่เสียโครงสร้างขาลงใน H1 เลย ใครที่ได้ตามแผนเมื่อวานก็แบ่งปิดทำกำไรแล้วถือกันหน้าทุนไว้ก่อนนะครับสำหรับสายรันเทรน ส่วนใครที่ไม่มีไม้แล้วมาฟังมุมมองของผมวันนี้กัน
เทคนิคคอล
เพื่อนๆจะเห็นกรอบขาวที่ผมทำไว้ให้ในตอนนี้ กรอบนี้จะเป็นการพักตัวของราคานะให้รอดูว่าหลุดลงฝั่งไหนโดยมี 2 แบบคือ
1.หลุดลงข้างล่าง หากเป็นเช่นนั้นผมจะมองที่กรอบราคา 2580-2590 ว่าเป็นการกวาด SL เพื่อขึ้นรึป่าวแปลว่าระยะช่วงราคาพวกนี้เค้าขึ้นตรงไหนก็ได้แค่ไม่เกินเลข Fibo ที่ 2579
2.ไม่ได้ทำ SW UP ยืนกรอบขาวแล้วขึ้นไปเลยจะมองเป็นเสียโครงสร้างขาลงให้เราเริ่มย่อ Buy ตามเทคนิคของเพื่อนๆได้แบบปลอดภัยขึ้น(คนที่ได้ไม้ในแผนเมื่อวานจึงควรถือเพราะ RR มันคุ้มหากราคาไม่ลงมาแล้ว)
**ขอให้เป็นวันที่ดีครับ**
ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา📌ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา
เพราะในตัวของ Candlestick H1
คายังไม่ทำลายโครงสร้าง -Bullish engulfing
ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้นได้ทอง
ต้องลงปิดต่ำกว่า 2587 (จุดยอมขา BUY)
TP มุ่งหวัง 2615/2619/2627
( ระรังข่าวนอกตาราง )
📌 มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์ สรุปข่าวทองคำและแนวรับแนวต้านวันที่ 13/11/2024
1. ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ: วันนี้ต้องติดตามตัวเลข Core CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศเวลา 20:30 น. ตัวเลขนี้สำคัญเพราะเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ Fed ใช้ตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงิน หากตัวเลขสูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
2. แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:
• แนวรับสำคัญ: $2,589 - $2,604
• แนวต้านสำคัญ: $2,615 - $2,627
3. มุมมองกราฟเทคนิค (TF M30): กราฟแสดงการกลับตัวของราคา (Rebound) ในกรอบเวลาราย 30 นาที และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2,627 หากสามารถทะลุแนวต้านแรกได้ แต่หากไม่สามารถขึ้นได้ อาจกลับมาทดสอบแนวรับที่ $2,589
4. กลยุทธ์การเทรด: หากกราฟสามารถทะลุแนวต้าน $2,615 ได้ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมาย $2,627 แต่ถ้าหลุดแนวรับ $2,604 อาจพิจารณาทำคำสั่งขาย (Sell) โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ $2,589
🏦นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำในขณะนี้มีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับแนวต้านที่ $2,531 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม มีการสังเกตเห็นรูปแบบเทคนิคที่อาจเกิด “double-top” บนกราฟราคาทองคำ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาในกรณีที่มีการดีดตัวขึ้นไปสูงแล้วตกลงมา ดังนั้น นักลงทุนควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังการประกาศ CPI ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของ FED ในเรื่องนโยบายการเงินในอนาคต
สรุปคือ แนวโน้มระยะสั้นของทองคำดูจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ย แต่อาจเผชิญแรงต้านในช่วงราคาสูง ขณะที่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  .
📌ฉะนั้นแล้ววันนี้ให้ติดตามข่าวสองทุ่มครึ่งให้ดีตัวชี้วัดทิศทางทองคำ
XAUUSDเมื่อวานนี้ราคาร่วงลงมากว่า 7500 จุด วันนี้จะเป็นวันแรกในการทำแผนของผมที่ต้องใช้กราฟ D1 คือลงแรงจริงมองไม่เห็นกราฟทางซ้าย อย่างที่บอกไปในแผนเมื่อวานถ้าเค้าไม่กลับตัวในโซน แล้วลงมาเยอะเค้าจะใจดีแปลกๆ หวังว่าจะมองออกแล้วไม่ไล่ราคากันนะครับ มาดูมุมมองผมวันนี้กันดีกว่า
-วันนี้ผมมีโซน Monitor Buy หนึ่งโซนนะครับคือช่วงราคา 2590-2600 ซึ่งเป็นจุดที่มี Fibo เลขสำคัญทับซ้อนกันหลายตัว เลยมองว่าโซนนี้มีนัยยะสำคัญอยู่นะ ตอนนี้โครงสร้างเป็นขาลงใน TF H1-H4 แปลว่าเรากำลังสวนเทรดใช้ความเสี่ยงที่รับได้และไม่ไล่ราคานะครับเทรดแค่ในโซน
-อีกโซนคือ Demand Day ตรงนี้ก็แข็งแรงมากเช่นกันหากราคาลงมาถึงโซนนี้ได้จริงผมจะทำแผนแยกให้ใน H1 นะครับ
**ใครรอได้จะยิ่งได้เปรียบตลาด ผมพูดเสมอ รอ.. นะครับ ขอให้เป็นวันที่ดี **
ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง!ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง! 📉💰
* ทองคำลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 📅
การปรับตัวลงของทองคำยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ โดยราคากำลังแตะระดับที่น่าสนใจอยู่ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมที่ $2,604 กำลังถูกจับตามองในกราฟรายวัน โดยราคาลงต่ำกว่า $2,600 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ช่วงหลังเลือกตั้งนี้ดูเหมือนจะเอื้ออำนวยให้สินทรัพย์อื่นมากกว่าทองคำเสียอีก 🗳️📊
ในภาพรวมแล้ว ผมยังคงเชื่อมั่นในทองคำ 🌟 และยอมรับการปรับฐานล่าสุดนี้อย่างเต็มใจ การขึ้นของราคาทองคำในปีนี้อาจเรียกได้ว่ามีแต่ขึ้นฝ่ายเดียว ดังนั้นการปรับตัวลงในช่วงนี้อาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดในระยะยาวครับ 📈💪
ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยหากราคาต่ำกว่า $2,600 อย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณให้ทองคำทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (เส้นสีแดง) ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ $2,538 📉 การที่ทองคำไม่เคยลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายวันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วนั้นสะท้อนถึงแรงขาขึ้นที่เราได้เห็นมาตลอดปีนี้ 🔥💹
นั่นจะเป็นแนวรับแรกที่นักลงทุนอาจเริ่มเข้ามาซื้อในจังหวะที่ราคาลดลง แต่หากแนวนี้ไม่สามารถยืนได้ ราคาทองคำอาจมุ่งไปยังเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (เส้นสีน้ำเงิน) ที่อยู่ใกล้ $2,400 ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญที่นักลงทุนอาจพิจารณาเข้ามาซื้อเพิ่มครับ 💙🛑 #ราคาทองคำ #ตลาดทอง #การลงทุนทองคำ #วิเคราะห์ทองคำ #ทองคำ #เศรษฐกิจ
Candlestick H1 ปิด -Bullish engulfing ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้น📌ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา
เพราะในตัวของ Candlestick H1 ปิด -Bullish engulfing
ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้นได้ทอง
ต้องขึ้นไปลงปิดต่ำกว่า 2605 (จุดยอมขา BUY)
TP มุ่งหวัง 2627/2640/2654
( ระรังข่าวนอกตาราง )
📊มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์ สรุปข่าวทองคำประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2024
📌แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
🍀จากการวิเคราะห์กราฟ:
• แนวรับสำคัญ: อยู่ที่บริเวณ 2,605 และ 2,640
• แนวต้านสำคัญ: อยู่ที่บริเวณ 2,654 และ 2,678
📌ราคาทองคำในกราฟ H1 มีสัญญาณ Bullish Engulfing ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ หากราคายืนเหนือระดับแนวรับ 2,610 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2,640 - 2,654
🏦ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้
1. GBP (14:00): ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยในช่วง 3 เดือน ซึ่งอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของ GBP และอาจกระทบค่าเงิน USD ทางอ้อม
2. EUR (17:00): ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจยูโรโซน
3. USD (22:00): การกล่าวสุนทรพจน์โดยสมาชิก FOMC นาย Waller ซึ่งอาจให้ข้อมูลแนวทางการเงินในอนาคต อาจสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำ
ผลกระทบต่อราคาทองคำ
• ข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปและการกล่าวสุนทรพจน์ของ Waller อาจกระทบต่อทิศทางค่าเงิน USD หากเกิดการผันผวนใน USD ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหรือลงตามทิศทางของความเชื่อมั่นตลาด
การติดตามแนวรับและแนวต้านพร้อมกับข่าวสำคัญสามารถช่วยให้วางกลยุทธ์การเทรดได้
XAUUSDจากบทความที่ทำไว้ให้ในวันเสาร์ตอนนี้เข้าโซนแล้วนะครับให้พิจารณาเข้า Buy ในวันนี้เพราะยังคงมองว่าเป็นการย่อเพื่อขึ้นโดยเงื่อนไขต้องไม่หลุด 2643 แต่จุดเข้า Buy ที่สมเหตุสมผลจะอยู่ที่เลข Fibo 61.8%-78.6% ที่ทำไว้ให้ตามภาพ ย่อลึกไปก็มองว่าไม่สวยนะครับมันจะใจดีแปลกๆ รายละเอียดที่เหลือให้ย้อนไปดูบทความเจาะโครงสร้างทองคำ H4 ของเมื่อวันเสาร์ที่ทำไว้ให้นะครับ
ขอให้เป็นวันที่ดีครับ
• นักวิเคราะห์มองว่าในระยะสั้น ราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวสูงตาม📌แนวรับแนวต้านสำคัญ
✅แนวรับ: $2,681 และ $2,641
✅แนวต้าน: $2,696, $2,725 และ $2,748
ติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพราะมีผลต่อราคาทอง
📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์และกองทุน
วันนี้ 08/11/2024 ตลาดทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยข่าวสำคัญหลายด้านที่ต้องจับตามอง:
1. ข้อมูลการจ้างงานและอัตราว่างงานของแคนาดา เวลา 20:30 น. โดยข้อมูลการจ้างงานที่สูงขึ้นหรือการลดลงของอัตราว่างงานอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการปรับตัว ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลต่อทองคำ
2. ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (UoM Consumer Sentiment) เวลา 22:00 น. ข้อมูลนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ตลาดเฝ้ารอ เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นสูงอาจบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากความเชื่อมั่นลดลง อาจส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุน
3. FOMC Statement และ Press Conference โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีการประชุม FOMC และการแถลงข่าวจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีการยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และเน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต ทำให้ตลาดยังไม่แน่ชัดถึงทิศทางดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ทองคำยังคงอยู่ในโซนที่มีแรงซื้อเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
มุมมองนักวิเคราะห์
• นักวิเคราะห์มองว่าในระยะสั้น ราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวสูงตามปัจจัยข่าวเศรษฐกิจ โดยมีแนวรับสำคัญที่ $2,681 และแนวต้านที่ $2,748 ตามภาพกราฟ ซึ่งการเคลื่อนไหวของดัชนีเงินเฟ้อและข้อมูลแรงงานจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการตัดสินใจของนักลงทุนในระยะนี้
• การแถลงการณ์จาก Fed แสดงถึงความไม่แน่ชัดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ทองคำยังคงได้แรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าว แต่ควรระวังในกรณีที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด เนื่องจากจะส่งผลให้ทองคำมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลง
🍀ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบนี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศในวันนี้ แล้ววันนี้เป็นวันศุกร์อาจจะเป็นศุกร์หรรษาก็ได้ระวังกราฟให้ดีขึ้นลงได้สุดในช่วงจังหวะเวลานี้เทรดยังไงให้มีจุดดอมที่ชัดเจนอย่าปล่อยลากอันตราย
XAUUSDเมื่อคืนนี้ Federal Funds Rate ได้ประกาศออกมาแล้วโดยมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25 นะครับ ตอนนี้ก็จะมีปัจจัยบวกต่อทองคำเพิ่มเข้ามาอีกหลังเทลงมาแรงจากการเลือกตั้งนักวิเคราะห์มองว่าหลังจากทรัมป์ได้ขึ้นตำแหน่งอาจมีมโยบายเกี่ยวกับสงครามการค้ากับจีนเข้ามาอีกซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับทองคำเช่นกัน
เทคนิคคอล
-หากมีแรงซื้อเยอะราคาจะย่อมาที่ Fibo 38.20% แล้วขึ้นได้เลยนะครับย่อน้อยไปไกลอย่าได้สวน โซนนี้ระยะแค่ประมาณ 400 จุด ใช้ PA กลับตัว M5 ในโซนหรือตั้ง Buy Limit ตามเลข Fibo ก็ได้ครับ
-กับอีกอย่างคือเค้าย่อลึกอันนี้ต้องดูให้ดีว่าย่อเพื่อลงต่อหรือย่อเพื่อทดสอบแนวรับแล้วขึ้นต่อ โซนนี้ระยะอยู่ที่ 1700 จุดกันเลยทีเดียวให้มองหา PA กลับตัวใน TF M15 ถึง H1 จะได้ไม่โดนหลอกนะครับ
-และอย่างสุดท้าย ยืนโครงสร้าง H1 คือไม่หลุด 2687 แล้วขึ้นต่อเลยอันนี้ผมจะไม่ทำอะไรนะครับเพราะอีกหนึ่งเทคนิคของผมคือต้องกวาด SL ก่อนเสมอถึงจะเข้าไม้
*วันนี้ศุกร์หรรษานะครับเทรดอยู่ในแผนกันให้ได้ ขอให้เป็นวันที่ดีครับ*
XAUUSDทองคำเทลงหนักมากปัจจัยหลักๆมาจากการเลือกตั้งของอเมริกานะครับที่ทำให้ตลาดผันผวนบวกกับทางเทคนิคคอลที่เป็นการจบรอบขึ้นเพื่อปรับฐานแต่มีข่าวช่วยดันทำให้การเคลื่อนที่ของราคาไปได้เร็วกว่าปกติ
เทคนิคคอล
ตอนนี้ราคามาอยู่แถวๆบริเวณ Demand Day ซึ่งเป็นแนวรับที่แข็งแรงมากๆจุดหนึ่ง นับจากวันนี้จะเป็นแผนหาจุดเข้าซื้อนะครับ ไม่ Sell แถวนี้แล้วเพราะเค้าจะขึ้นตอนไหนก็ได้ แต่เวลาลงหลุด Low ก็จะเด้งขึ้นได้เรื่อยๆโดยแนวสุดท้ายคือ Support & Demand โซนนี้จะลงไปได้ผมมองว่าต้องมีปัจจัยภายนอกมากระทบหรือข่าวนอกตารางนั้นแหละถึงจะหลุดลงไป หากเป็นเทคนิคคอลปกติเค้าต้องเด้งที่ Demand Day ก่อนนะครับ
**ใครอ่านแผนเมื่อคืนก็คงจะได้ไม้กันมาแล้วนะครับ ของให้เป็นวันที่ดีครับ**
แนวรับและแนวต้านสำคัญ •แนวรับ: 2681.27 และ 2637.08 •แนวต้าน2748📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของกองทุนและนักวิเคราะห์
จากกราฟทองคำและข่าวสาร วันนี้ (07/11/2024)
📊มีข่าวสำคัญที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะข่าวจากสหราชอาณาจักร (ข่าวGBP19:30น.) ในเรื่องรายงานนโยบายการเงินและการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเงิน GBP และอาจสร้างความผันผวนในตลาดทองคำ เนื่องจากความเกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
📌ข่าว USD เวลา 20:30 น. จะมีรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (USD) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
มุมมองนักวิเคราะห์และกองทุน
1. แนวโน้มขาลงระยะสั้น: จากกราฟ 4 ชั่วโมง (4H) แสดงการปรับตัวลงของราคาทองคำ โดยราคาอยู่ใต้แนวรับ Fibonacci 0.5 (ที่ระดับ 2694.32) ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาลงระยะสั้น หากราคายังคงลงต่อไป อาจมองแนวรับถัดไปที่ Fibonacci 0.618 (ที่ 2706.35) และ 0.786 (ที่ 2725.06) เป็นจุดที่นักลงทุนจับตา
2. ผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 223K จาก 216K ในครั้งก่อน หากออกมาตามคาด อาจส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า และเป็นปัจจัยบวกสำหรับราคาทองคำในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ตลาดอาจมองเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ
3. กลยุทธ์การลงทุน: กองทุนและนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้มีความผันผวนสูง การเข้าเทรดอาจต้องรอการยืนยันจากแนวรับที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ระดับ 2681.27 หรือ 2637.08 หากราคาหลุดระดับเหล่านี้ มีโอกาสที่ทองคำจะปรับลงต่อ ขณะที่จุดแนวต้านสำคัญยังคงอยู่ที่ 2748.89 ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้จุดนี้เป็นสัญญาณสำหรับการขาย
📌สรุป
สถานการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ขณะนี้ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนสูง เนื่องจากนักลงทุนยังคงต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงของความไม่แน่นอนทางการเมือง การเลือกตั้งที่สูสีหรือมีผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนสามารถทำให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนหันเข้าหาทองคำเพื่อลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตนเอง โดยเฉพาะหากมีการท้าทายหรือมีข้อพิพาทเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำอาจสูงขึ้นในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันเชื่อว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงในระยะถัดไปและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ชนะการเลือกตั้งดำเนินนโยบายที่กระตุ้นเงินเฟ้อ เช่น การปรับเพิ่มภาษีหรือข้อจำกัดการค้า ก็อาจเพิ่มความไม่แน่นอนและทำให้ทองคำยังคงมีความน่าสนใจต่อไปในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  .