Supreecha1980

SET index ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดการณ์วิเคราะห์แนวโน้ม

เพิ่มขึ้น
SET:SET   ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แนวโน้ม SET Index ปิดบวกได้เล็กน้อย แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาขึ้นได้อยู่ ขณะที่แนวโน้มระยะกลางยังไม่สวย เพราะก่อนหน้าลงมายาวจาก 1,750 จุด โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด แนวโน้มค่าเงินบาทเทียบ USD แข็งค่าต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 แนวโน้มจึงเป็นด้านแข็งค่าชัดเจน การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ต่างชาติกลับมาซื้อหลายวันติดกัน เพิ่มความหวังให้ชาวเราได้มากขึ้น แต่ก็ต้องตามดู ที่สหรัฐฯกำลังสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลในการค้ากับจีน ได้ประกาศใช้ชุดภาษีศุลกากรต่างๆ เมื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับการค้าสหรัฐฯกับจีนเราสามารถพูดได้ว่ามีจุดที่ถูกต้อง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่าการลดลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นเกิดจากอัตราภาษีศุลกากร แต่ตัวเลขที่แท้จริงกลับออกมาตรงกันข้าม นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่สงครามการค้าได้ขยายตัวขึ้น และมีข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "การคว่ำบาตรอิหร่าน" และประเด็นตะวันออกกลาง การเพิ่มงบประมาณในปี 2019 สำหรับกระทรวงกลาโหมเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์โลกอาจเพิ่มขึ้น หากยังคงไว้ซึ่งกลยุทธ์ของเขาอย่างมั่นคง เราอาจมีปีที่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมันอาจนำไปสู่การสูญเสียในปริมาณมหาศาลของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด และเนื่องจากความต้องการใช้สินค้าที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นจะทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น ว่าจะมาจริงจังแค่ไหน หลังจากก่อนหน้า ไล่ขายมาตลอดทั้งปี 2561 แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ พุ่งทะลุระดับ $62 และเป็นการบวกต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แนวโน้มพลิกกลับเป็นขาขึ้น Snapshot ปีนี้คาดว่าน้ำมันจะกลับมามีความสมดุลหลังจากที่ OPEC ประกาศจำกัดการผลิตใหม่เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมแต่ทว่าการสนับสนุนนี้ดูเหมือนจะเปราะบาง ข้อตกลงที่ทำโดยผู้ส่งออกน้ำมันจะได้รับการตรวจสอบในเดือนเมษายน สหรัฐฯจะพิจารณาทบทวนข้อยกเว้นที่ให้กับแปดประเทศเพื่อดำเนินการนำเข้าน้ำมันอิหร่านต่อไปในเวลาเดียวกัน แสดงความปราถนาอย่างชัดเจนที่จะรักษาราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำถึง $80 สำหรับ Brent และ $70 สำหรับ WTI ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพดานราคาสำหรับเขา อเมริกาเองกำลังสูบน้ำมันจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะผลิตมากขึ้นในปี 2019 ในขณะเดียวกันความต้องการน้ำมันที่มากมายในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาอาจลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผลของอุปทานส่วนเกินคือการพยามรักษาราคาน้ำมันดิบภายใต้แรงกดดันด้านลบแม้ว่าการลดลงของราคาจะมีความราบรื่นด้วยความจริงที่ว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาลดลง สรุปแล้วช่วงราคาน้ำมันดิบ Brent ที่เราคาดการณ์ไว้ในปี 2019 จะเป็น $70 - $50 ต่อบาร์เรลการคาดการณ์เหล่านี้ อย่าลืมว่าเราพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดด้วย ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นอาจไม่สูงแต่ แต่หากมันเกิดขึ้นจริงมันจะส่งผลให้ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลง -4.7% จากสิ้นเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงกดดันหลักจากปัจจัยลบจากต่างประเทศ ได้แก่ พัฒนาการด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ราคาน้ำมันดิบตกต่ำ และการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ FED ส่วนปัจจัยภายในที่กดดันตลาดคือ การขึ้นดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) SET Index ปรับตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนไปทดสอบแนวต้านที่ 1,680 จุด จากข่าวการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีน ที่ประกาศสงบศึกการค้า 90 วันนับจากต้นเดือนธันวาคม 2561 ส่งผลให้เส้นตายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2562 และในช่วงตลอดเดือนธันวาคม ก็มีพัฒนาการเชิงบวก โดยเฉพาะจากทางฝั่งจีน ที่มีการส่งสัญญาณลดภาษีนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ และจะมีการนำเข้าถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากสหรัฐอีกครั้ง

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ