ตลาดหลักทรัพย์ไทย
แรงซื้อไร้ทิศทาง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลุ่มนำตลาดเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,612.59 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 7/6 ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้นักลงทุนจะมีมุมมองในทางบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังรัฐบาลเร่งการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดอาจลดปริมาณเงินที่ใช้ซื้อพันธบัตร
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,593 – 1,602 จุด กรณีที่ช่องว่างดังกล่าวเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด เส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและมีวามลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น เส้น MMA2 ทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,578 – 1,564 จุด สะท้อนถึงดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,622 – 1,632 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,593 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
แรงซื้อไร้ทิศทาง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลุ่มนำตลาดเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,612.59 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 7/6 ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้นักลงทุนจะมีมุมมองในทางบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังรัฐบาลเร่งการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดอาจลดปริมาณเงินที่ใช้ซื้อพันธบัตร
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,593 – 1,602 จุด กรณีที่ช่องว่างดังกล่าวเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด เส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและมีวามลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น เส้น MMA2 ทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,578 – 1,564 จุด สะท้อนถึงดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,622 – 1,632 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,593 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity