ผมขอบคุณคุณพิชัยนะครับ ที่ทำให้ผมเห็นความจริง

วันที่ set ลงไป 1000 กว่าจุด ด้วยประสบการณ์ผิวเผินกับการทำโบรกมา 3 ปี
ก็เลยบอกแม่เล่นๆว่า แม่ซื้อหุ้นไหม แม่ผมก็เงียบ เพราะแม่ผมเล่นไม่เป็น
ทันใดนั้น ป้าผม ที่แกไม่เคยแม้แต่เล่นหรือดูหุ้นมาก่อน แกพูดว่า
"เธออย่าไปซื้อหุ้นนะ หุ้นตก ไม่ดี"
ผมก็คิดในใจว่า ทำไมแกรู้วะ
และก็เชื่อมโยงกับทฤษฎีผลประโยชน์กับคุณพิชัย

หลายๆครั้งในชีวิตที่ผมได้รับประสบการณ์ กลัวสุด กับ กล้าสุด
1. ทองคำ 2000 USD ที่มีแต่ความกล้า และบอกว่าจะไป 3000 USD
2. บิทคอย 2 mb แล้วบอกว่าจะไป 5 mb
3. บิทคอย 1 mb แล้วบอกว่าจะลงไป 600k
4. ตอน set invested h&S ตอนปี 2014-2015 ผมก็มีความไม่มั่นใจว่ามันจะขึ้นได้ไหม แล้วมันก็ขึ้น
5. ตอนที่ KTC ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็กลัวว่า มันจะสูง และมันก็ขึ้นต่อ
6. น้ำมันตอนติดลบ ต่ำกว่า 0 USD ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผมนั่งกินข้าวอยู่ 6 โมงเย็น
ไม่อยากเชื่อตาตัวเองว่าในชีวิตนี้ จะได้เห็นอะไรแบบนี้ ถือเป็นบุญ และวาสนาที่ได้เจอโอกาส
สร้างความมั่นคั่งแบบทันทีทันใด แต่ด้วยความกลัว ก็ไม่ได้ซื้อ
7. ตอนที่ทองคำ 1000 กว่า จนมีข่าวราคาต่ำกว่าหน้าเหมือง
ทุกคนก็มีแต่ความกลัว รวมทั้งผมด้วย สุดท้ายมันก็ตรงข้าม
8. ตอนที่น้ำมันลงมาไม้แรกตรง 100 เหรียญ และจะลงต่อ
ทุกคนรวมทั้งผม ก็ไม่มั่นใจว่า มันจะลงไหม จะเด้งไหม
และมันก็เป็นอาหารชั้นดีสำหรับการลงอย่างยั่งยืน คือ มีความหวังว่ามันจะเด้ง
9. ตอนที่ร.9 สวรรคต ผมก็ดูหุ้นอยู่ ตอนนั้นทำงานอยู่ ทรู ราคาลงไป 1300 กว่ามั้ง ถ้าจำไม่ผิด
ทุกคนเศร้ามาก และไม่กี่วัน ราคาก็กลับมา ในสถานการณ์ที่ทุกคนกลัว

จงจำไว้ให้ดีนี่คือสุดที่ผมค้นพบ
ตอนขึ้นที่ดีที่สุดคือ ท่ามกลางความกลัว (กลัวว่าจะลง กลัวว่าขึ้นเยอะแล้ว) และความไม่มั่นใจ
เมื่อความมั่นใจเข้ามา ความกล้า+โลภเพิ่มขึ้น มันมักจะไม่ขึ้นแล้ว
และเมื่อเรามีเหตุผลมาอธิบายกับการขึ้นได้ ย่อมทำให้การขึ้น ไม่ไปไกล

ตอนลงที่ดีที่สุดคือ ท่ามกลางความหวังว่ามันจะขึ้น และมีความหวังอยู่เสมอ
เมื่อความกลัวเข้ามาแทน มันกล้าซื้อ ไม่นานนักมันก็จะหยุดลง
และเมื่อเรามีเหตุผลมาอธิบายกับการลงได้ ย่อมทำให้การลง ไม่ไปไกลเช่นกัน

"อาหารชั้นดีของการขึ้น/ลง อย่างยั่งยืน คือ ความไม่มั่นใจ"
"เงินเป็นสิ่งมีค่า จงจำไว้เสมอ ว่าเงินไม่ได้หาง่าย"