ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นร้อนแรง
อานิสงส์จากเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยและการเมืองในประเทศเริ่มนิ่ง หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,717 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,740 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงใหม่ หลังธนาคารกลางส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) เป็นครั้งที่สอง ดัชนีตลาดดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,715 จุด เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ความลาดชันเพิ่มขึ้นและมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการเป็นตลาดกระทิง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,766 จุด โดยมีแนวต้านระหว่างทางอยู่ที่ 1,740 จุด
ระยะสั้นดัชนีตลาดจะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง แต่จะเป็นการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดระยะกลางเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางที่ 1,664 จุด เสมือนเป็นสัญญาณยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) ที่ 1,599 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดจะเผชิญแรงขายจากภาวะซื้อมากเกิน ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะกระตุ้นแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น สำหรับนักลงทุนต้องการขายเพื่อทำกำไรเป็นรอบ ควรสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence จึงนำหุ้นออกขาย
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,723 – 1,730 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,710 – 1,700 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
คงระดับพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
ระยะสั้นร้อนแรง
อานิสงส์จากเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยและการเมืองในประเทศเริ่มนิ่ง หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,717 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,740 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงใหม่ หลังธนาคารกลางส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) เป็นครั้งที่สอง ดัชนีตลาดดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,715 จุด เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ความลาดชันเพิ่มขึ้นและมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการเป็นตลาดกระทิง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,766 จุด โดยมีแนวต้านระหว่างทางอยู่ที่ 1,740 จุด
ระยะสั้นดัชนีตลาดจะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง แต่จะเป็นการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดระยะกลางเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางที่ 1,664 จุด เสมือนเป็นสัญญาณยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) ที่ 1,599 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดจะเผชิญแรงขายจากภาวะซื้อมากเกิน ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะกระตุ้นแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น สำหรับนักลงทุนต้องการขายเพื่อทำกำไรเป็นรอบ ควรสัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergence จึงนำหุ้นออกขาย
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,723 – 1,730 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,710 – 1,700 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
คงระดับพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต