SET@QUARTERLY ซึ่งใช้วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดหุ้นไทย

37
SETQUARTERLY เป็นกราฟจากโปรแกรม TradingView ซึ่งใช้วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยโดยอิงกับ Fibonacci Retracement และ Price Action ที่ผ่านมา
________________________________________
1. เหตุการณ์สำคัญในอดีตที่ระบุในกราฟ
จากกราฟเราสามารถระบุวันที่และราคาที่สำคัญได้ดังนี้:
1. 30 ม.ค. 1998 - ดัชนีต่ำสุดที่ 204.59 จุด
o เป็นช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง (1997) ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก
o นักลงทุนต่างชาติเทขาย ทำให้ตลาดตกต่ำสุด
2. 28 ส.ค. 2007 - ดัชนีที่ 924.70 จุด
o เป็นช่วงตลาดฟื้นตัวจากวิกฤตต้มยำกุ้ง และมีการขยายตัวของเศรษฐกิจ
o ช่วงนี้เป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008
3. 30 มี.ค. 2018 - จุดสูงสุดที่ 1852.51 จุด
o เป็นช่วงที่ SET Index ทำจุดสูงสุดใหม่ในยุคหลัง
o ตลาดหุ้นได้รับแรงสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตของ GDP ไทย
4. 31 มี.ค. 2022 - ดัชนีที่ 1718.55 จุด
o ตลาดหุ้นยังคงแกว่งตัวสูงจากแรงหนุนของการลงทุนภาครัฐและฟื้นตัวจากโควิด-19
o แต่เริ่มมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอก เช่น ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจาก Fed และสงครามรัสเซีย-ยูเครน
5. 31 ม.ค. 2025 - ดัชนี 1789.16 จุด
o ปัจจุบันตลาดเริ่มมีการปรับฐานจากระดับสูง และอยู่ในช่วงที่ต้องจับตาแนวรับสำคัญ
6. แนวรับต่ำสุดล่าสุด (7 ม.ค. 2025) ที่ 1173.13 จุด
o เป็นจุดต่ำที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2025 แสดงถึงแนวรับสำคัญที่ต้องจับตา
________________________________________
2. วิเคราะห์แนว Fibonacci 61.8% ที่ 1183.85 จุด
Fibonacci Retracement 61.8% เป็นระดับที่สำคัญมาก เนื่องจากมักเป็นจุดกลับตัวของตลาด
🔹 ระดับ 1183.85 จุด เป็นแนวรับที่สำคัญมากในทางเทคนิค หากราคาปิดหลุดระดับนี้ ใน Q1/25
• อาจเกิด Bearish Breakout และมีโอกาสลงต่อเนื่อง
• แสดงถึงความอ่อนแอของตลาด และนักลงทุนอาจเริ่มตื่นตระหนก
• หากราคายืนอยู่เหนือแนวนี้ มีโอกาสที่ตลาดจะดีดกลับไปทดสอบแนวต้านที่กรณีดีมาก 1450 จุด อีกครั้ง
📌 ปัจจัยที่ต้องจับตาเมื่อราคามาถึงแนว 1183.85 จุด
• ดูวอลุ่มการซื้อขาย: ถ้าปริมาณซื้อขายต่ำ อาจเป็นสัญญาณของการร่วงต่อ
• ดูพฤติกรรมของแท่งเทียน: ถ้าเกิดแท่งเทียนกลับตัวแบบ Hammer หรือ Bullish Engulfing อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังรีบาวด์
• ดูปัจจัยพื้นฐาน: ข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น นโยบายดอกเบี้ยของ Fed หรือ สภาพเศรษฐกิจไทย จะมีผลกระทบโดยตรง
________________________________________
3. วิเคราะห์แนวโน้มตลาดเชิงลึก
🔺 กรณีตลาดเป็นขาขึ้น (Bullish Case)
• ดัชนีต้องยืนเหนือ 1220 จุด และกลับไปยืนเหนือ 1450 จุด (Fib 78.6%)
• ต้องมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ และเม็ดเงินไหลกลับเข้าตลาด
• ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ: การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลาง, แผนกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ
🔻 กรณีตลาดเป็นขาลง (Bearish Case)
• หากดัชนีหลุดแนวรับ 1183 จุด ใน Q1/25 ตลาดอาจลงต่อเนื่อง ซึ่งต้องประเมินต่อไป
• ปัจจัยเสี่ยง: การชะลอตัวของเศรษฐกิจ, ปัญหาหนี้ครัวเรือน, สงครามหรือปัจจัยภายนอกที่กระทบความเชื่อมั่น
________________________________________
🔎 สรุปแนวทางการลงทุน
✅ ถ้าตลาดยืนเหนือ 1220 จุด - อาจเป็นโอกาสซื้อสะสม โดยดูเป้าหมายที่กรณีดีมาก 1450 จุด
🚨 ถ้าหลุด 1183 จุด - ใน Q1/25 อาจต้องระวังแรงขาย เกิดการลงต่อเนื่อง

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ ข้อกำหนดการใช้งาน