วิเคราะห์ทองคำที่ 21.02.2022
1.Break Even 10 Year มีการปรับตัวลงเป็นการกดดันทองในระยะสั้น ( หากยังลดลงเรื่อยๆ อาจทำให้ทองขึ้นได้ไม่มากเช่นกัน ในทางกลับกันจะทำให้เฟดไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน กดดันทองคำระยะสั้นแต่หนุนทองระยะยาวว่าซ่าน )
2.กองทุน SPDR เข้าซื้อเมื่อวันที่ 18.02.22 จำนวน 4.65 ตัน ส่งผลให้ทองคำมีการดีดขึ้นในช่วงเวลานั้น
3.Forward Inflation 5 Year มีการปรับตัวลงเป็นการกดดันทองในระยะสั้น ( หากยังลดลงเรื่อยๆ อาจทำให้ทองขึ้นได้ไม่มากเช่นกัน ในทางกลับกันจะทำให้เฟดไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน กดดันทองคำระยะสั้นแต่หนุนทองระยะยาวว่าซ่าน )
4.CBOE GOLD ETF VOLATILITY INDEX ( GVZCLS ) ค่าความผันผวนทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ( หนุนทองคำ )
5.หุ้นเหมืองทองคำ HUI ได้ปรับตัวสูงขึ้นและมีการพักตัวเล็กน้อย ( หนุนทองคำ )
6.ดันชีดาวน์โจสน์ DJI ปรับตัวลงแสดงถึงการหวั่นกลัวของนักลงทุนในตลาดอุสาหกรรม ยังมีความกังวลในเรื่องของภูมิรัฐฯ ( สงคราม ) และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ( กดดันทองคำ )
7. Realyield 10y ยังมีการพักตัวอยู่ที่ 0.483 ส่งผลให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทองคำ )
8.US10Y ยังพักตัวอยู่ที่ 1.927 ส่งผลให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทองคำ )
9.ISHARES TIPS BOND ETF ( TIP Chart ) พธบ.ตราสารหนี้ มีการปรับขึ้น ( หนุนทอง )
10. ดัชนีดอลลาร์ ยังมีการผันผวนต่อเนื่องในทิศทางขาลง จากสภาวะภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม ( หนุนทอง )
11.แร่โลหะ ปรับตัวลงเล็กน้อย หลังจากมีข่าวที่ ปธด.สหรัฐจะเดินทางไปเจรจากับปูติน ผู้นำรัสเซีย ( กดดันทอง )
12.อัตราส่วนทองคำและเงิน ปรับตัวขึ้น ( หนุนทองคำ )
13.มีการอัดฉัดงบดุลเพิ่มเติม เป็น 8911033.00 ล้านดอลลาห์ จากเดิม 8878009.00 ล้านดอลลาห์ ส่งผลให้ทองคำลงได้ไม่มาก ( หนุนทองคำ )
14.การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ cme group ที่บอกว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมีนานี้ ถึง 82.8% และขึ้นดอกเบี้ย 0.5-0.75% มีโอกาสเพียงแค่ 17.2% ( หนุนทองคำ )
สรุปได้ว่า ทองคำอาจลงได้ไม่มาจากหลายๆปัจจัยทั้งเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐฯ สงคราม แต่อย่างไรก็ดีหากสงครามจบอาจลงมาแถวแนวต้านที่ผมได้ให้ในชาร์ต อ้างอิงตามฟิโบ ขอบคุณครับ
2.กองทุน SPDR เข้าซื้อเมื่อวันที่ 18.02.22 จำนวน 4.65 ตัน ส่งผลให้ทองคำมีการดีดขึ้นในช่วงเวลานั้น
3.Forward Inflation 5 Year มีการปรับตัวลงเป็นการกดดันทองในระยะสั้น ( หากยังลดลงเรื่อยๆ อาจทำให้ทองขึ้นได้ไม่มากเช่นกัน ในทางกลับกันจะทำให้เฟดไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน กดดันทองคำระยะสั้นแต่หนุนทองระยะยาวว่าซ่าน )
4.CBOE GOLD ETF VOLATILITY INDEX ( GVZCLS ) ค่าความผันผวนทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ( หนุนทองคำ )
5.หุ้นเหมืองทองคำ HUI ได้ปรับตัวสูงขึ้นและมีการพักตัวเล็กน้อย ( หนุนทองคำ )
6.ดันชีดาวน์โจสน์ DJI ปรับตัวลงแสดงถึงการหวั่นกลัวของนักลงทุนในตลาดอุสาหกรรม ยังมีความกังวลในเรื่องของภูมิรัฐฯ ( สงคราม ) และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ( กดดันทองคำ )
7. Realyield 10y ยังมีการพักตัวอยู่ที่ 0.483 ส่งผลให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทองคำ )
8.US10Y ยังพักตัวอยู่ที่ 1.927 ส่งผลให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทองคำ )
9.ISHARES TIPS BOND ETF ( TIP Chart ) พธบ.ตราสารหนี้ มีการปรับขึ้น ( หนุนทอง )
10. ดัชนีดอลลาร์ ยังมีการผันผวนต่อเนื่องในทิศทางขาลง จากสภาวะภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม ( หนุนทอง )
11.แร่โลหะ ปรับตัวลงเล็กน้อย หลังจากมีข่าวที่ ปธด.สหรัฐจะเดินทางไปเจรจากับปูติน ผู้นำรัสเซีย ( กดดันทอง )
12.อัตราส่วนทองคำและเงิน ปรับตัวขึ้น ( หนุนทองคำ )
13.มีการอัดฉัดงบดุลเพิ่มเติม เป็น 8911033.00 ล้านดอลลาห์ จากเดิม 8878009.00 ล้านดอลลาห์ ส่งผลให้ทองคำลงได้ไม่มาก ( หนุนทองคำ )
14.การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ cme group ที่บอกว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมีนานี้ ถึง 82.8% และขึ้นดอกเบี้ย 0.5-0.75% มีโอกาสเพียงแค่ 17.2% ( หนุนทองคำ )
สรุปได้ว่า ทองคำอาจลงได้ไม่มาจากหลายๆปัจจัยทั้งเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐฯ สงคราม แต่อย่างไรก็ดีหากสงครามจบอาจลงมาแถวแนวต้านที่ผมได้ให้ในชาร์ต อ้างอิงตามฟิโบ ขอบคุณครับ